เพอร์เฟค พาร์ค ราชพฤกษ์-ปทุมธานี หนึ่งโครงการบ้านที่น่าสนใจบนถนนราชพฤกษ์-ปทุมธานี ในรูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 199 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 39 ไร่ ออกแบบบ้านสไตล์ Resort กับบรรยากาศพักผ่อนท่ามกลางสวนและคลับเฮ้าส์หรู Modern Luxury Style ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4 ล้านบาท
HOF ย่อมาจาก Home and Office เกิดขึ้นจากความตั้งใจของสถาปนิกหนุ่มไฟแรง “สรกิจ กิจเจริญโรจน์” ที่นำประสบการณ์และทักษะการออกแบบมาเสนอทางเลือกของการอยู่อาศัยในด้านที่แตกต่างจากโครงการอื่น โดยยึดหลักความเชื่อว่า งานออกแบบที่ดีนั้นสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยได้ ดังนั้นความเป็นโฮมออฟฟิศแบบฮอฟ จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับรายละเอียดทั้งโครงสร้างสถาปัตยกรรมและการออกแบบ space ภายใน
ความน่าสนใจของ HOF นอกจากจะเน้นตอบสนองการใช้งานแล้ว ยังชูจุดเด่นเรื่องรูปแบบบ้านประหยัดพลังงาน ด้วยการออกแบบให้งานระบบต่างๆ รวมทั้งบันได อยู่ด้านข้างตึก พร้อมเปิดพื้นที่โล่ง ล้อมรอบด้วยกระจก ทำให้บ้านสามารถรับแสงธรรมชาติ และทิศทางลมได้ดี ยิ่งในช่วงหน้าหนาว ไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เฟสแรก ที่เจ้าของโครงการตั้งใจพัฒนาเพื่อมาลองตลาดแต่กลับได้รับการตอบรับที่ดีขายหมดในหนึ่งสัปดาห์ และเจ้าของโครงการก็เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิด เฟส 2 อีกจำนวน 6 หลัง ต่อทันที โดยยังคงรูปแบบโฮมออฟฟิศในสไตล์ “ฮอฟ”
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2558)
• ชื่อโครงการ: ฮอฟ สุขุมวิท 101/1 (HOF Sukhumvit 101/1)
• ผู้พัฒนาโครงการ: สถาปนิก : นายสรกิจ กิจเจริญโรจน์
• ทำเลที่ตั้ง: วชิรธรรมสาธิต 51 ซอยสุขุมวิท 101/1 ถนน สุขุมวิท แขวง บางจาก เขต พระโขนง กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการเฟส 2 : 202 ตร.ว.
รูปแบบ: โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น จำนวน 19 ยูนิต ปัจจุบันเปิดขาย เฟส2 จำนวน 6 ยูนิต (เหลืออีก 3 ยูนิตเท่านั้น)
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยกำลังสร้างครอบครัว และนักธุรกิจ SME
สถานะก่อสร้าง: โครงการอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
ที่จอดรถ: สามารถจอดได้ 4-5 คัน บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 70 % (เฟส1 และ 2)
ราคาเริ่มต้น: 7.8 ล้านบาท / ยูนิต
เว็บไซต์โครงการ: www.hof-bkk.com
รูปแบบบ้านทั้งหมด: บ้านเปล่าพร้อมงานระบบครบครัน พื้นที่ใช้สอย 310 – 317 ตร.ม. บนเนื้อที่ 28 – 36 ตร.ว.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ฮอฟ เป็นโครงการที่พัฒนาในรูปแบบ โฮม ออฟฟิศ ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปูพื้นขัดมันบริเวณโซนทำงาน อย่างชั้น 1 และชั้นลอย รองรับการปรับเปลี่ยนตามความชอบและการใช้งานจริงของแต่ละบุคคล โดยไม่ต้องงัดหรือกระเทาะพื้นให้ยุ่งยาก เพียงนำวัสดุอย่างกระเบื้องอัดยาง หรือแกรนิตโต้มาปูทับได้เลย นอกจากนี้เจ้าของโครงการยังให้ความสำคัญกับแสงและลมธรรมชาติ โดยมุ่งหวังให้เป็นบ้านประหยัดพลังงานตัวอย่าง ด้วยวิธีจัดรวมงานระบบ อย่างบันได ห้องน้ำ รวมถึงการเดินสายไฟ ท่อแอร์ ไว้ด้านข้างของตัวอาคารทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่โล่ง พร้อมติดตั้งหน้าต่างกระจกล้อมรอบ ช่วยให้ลมผ่าน ถ่ายเทอากาศได้ดี ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และที่สำคัญคือ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้นทางโครงการได้ยกพื้นชั้น 1 ให้สูงขึ้นจากระดับถนน 2 เมตร เพื่อให้อยู่เหนืองานระบบอย่าง ลานซักล้าง ถังเก็บน้ำ และแปรสภาพด้วยการทำสโลปพื้นที่บริเวณนี้ลงไปประมาณ 60 ซม.ให้เป็นลานจอดรถที่จอดได้ถึง 4-5 คัน พร้อมสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมแม้ว่าที่ตั้งโครงการจะเป็นพื้นที่สูง ด้วยเนินหลังเต่าตรงประตูรั้วหน้าบ้าน ถือเป็นสเต็ปแรกเพื่อไม่ให้น้ำด้านนอกเข้ามาภายในบ้าน และพื้นที่รับน้ำฝนด้านบนมีบริเวณแค่ประมาณ 80เซ็นคูณ4-5เมตร พอน้ำไหลลงมาตรงสโลปก็จะเจอกับรางระบายน้ำ ซึ่งก็จะมีระบบลูกลอยไฟฟ้าที่สามารถตั้งระดับน้ำเองได้ พอถึงระดับที่ตั้งไว้ปั้มไดโว่ก็จะดูดน้ำออกเองโดยอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องน้ำท่วมได้เลย
โมเดลโครงการฮอฟ เฟสแรก สังเกตว่าหันหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ (ฝั่งถนนซอยวชิรธรรมสาธิต 51) และด้วยการออกแบบให้ล้อมรอบด้วยกระจก จึงทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้ดี
ด้านหลังของอาคาร หันไปทางตะวันตกเฉียงใต้ สำหรับเฟสแรกจะติดกับพื้นที่เปล่า และบ้านเดี่ยว2ชั้นของโครงการอื่น จะหันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือและติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ซึ่งถือว่าไม่เป็นปัญหาต่อการบล็อกวิว หรือทำให้อึดอัด
ด้านข้างของทุกอาคารจะออกแบบให้มีพื้นที่คอร์ท ซึ่งเป็นลักษณะช่องเปิดโล่ง สามารถเป็นมุมนั่งเล่น จัดปาร์ตี้บาร์บิคิว หรือแม้แต่ปลูกสวนเล็กๆ เป็นของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นยังทำหน้าที่เปรียบเสมือนทางเข้า-ออกของลม ทำให้ระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นๆ บ้านจะเย็นสบาย แบบไม่ต้องเปิดแอร์เลย
ส่วนฝั่งตรงข้ามเฟส 2 ที่ล้อมด้วยป้ายโฆษณาโครงการ จะเป็นส่วนของเฟส 3 (จำนวน 9 ยูนิต) ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างในอนาคต
จากโมเดลจะเห็นว่าด้านล่างของชั้น 1 นั้นเป็นส่วนพื้นที่จอดรถ จะสโลปพื้นลงไป 60 ซม. จากพื้นถนน จึงทำให้สามารถจอดรถได้ 4 คัน สำหรับเฟสแรก ส่วนเฟส 2 และ 3 จะสามรถจอดได้ 5 คัน เนื่องจากตัวอาคารมีความลึกเพิ่มมากขึ้น ส่วนพื้นที่ชั้น 1 จะเป็นโซนของออฟฟิศ โดยนำงานระบบทั้งหมด รวมถึงบันได ไว้ทางด้านข้างของตัวอาคาร เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น
ถัดมาเป็นชั้นลอย ยังคงเป็นโซนออฟฟิศ โดยเป็นพื้นที่ต่อเนื่องมาจากชั้น 1 ด้วยการออกแบบให้มีลักษณะ Double Space ขึ้นมาจะเป็นชั้น 2 พื้นที่ของการอยู่อาศัยาอย่างแท้จริง โดยมีคอร์ทให้สูดอากาศภายนอกทุกอาคาร
ขึ้นมาด้านบนสุดของชั้น3 เป็นส่วนของห้องนอนมาสเตอร์ ที่ออกแบบให้สามารถทำการต่อเติมพื้นที่ใช้งานเป็นห้องนอนที่ 3 ได้ในอนาคต
หลังจากได้ดูโมเดลโครงการฮอฟมาแล้ว มาชมตัวอาคารจริงจะเห็นว่าสวยไม่แพ้โมเดล โดยออกแบบให้ตัวอาคารเป็นสีโทนอบอุ่น อย่างสีเทา พร้อมเพิ่มระแนงสีน้ำตาลด้านหน้า เพื่อบังบันไดทางขึ้น ทำให้ดูสบายตาเมื่อมองมาจากด้านนอก
ทางโครงการได้ติดตั้งถังเก็บน้ำขนาด 2,000 ลิตรและปั๊มน้ำ ยี้ห้อจากเดนมาร์ก Grundfos ซึ่งมีข้อดีเรื่องเสียงเบา และการรับประกันคุณภาพการใช้งานที่ยาวนานถึง 10 ปี
รีวิวภายในบ้าน
พื้น: พื้นขัดมัน บริเวณส่วนของออฟฟิศ (ชั้น 1 และชั้นลอย) และลามิเนตหนา 8 มม. บนพื้นที่พักอาศัย (ชั้น 2 และ 3)
หน้ากว้าง: 6.3 เมตร
ประตูรั้ว: รางเลื่อน 3 ตอน สามารถติดตั้งระบบเปิด-ปิด ประตูอัตโนมัติได้ เนื่องจากเป็นรุ่นที่รองรับระบบอัตโนมัติ
ระบบไฟ: Down light และระบบสวิทช์ไฟสองทาง
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Mogen,Grohe และ American Standard
พื้นที่ชั้น1 มีความสูงจากพื้นถึงเพดานประมาณ 2.5 เมตร และในส่วน Double Space 5.5 เมตร พร้อมล้อมรอบด้วยหน้าต่างบานเปิด
บันได ห้องน้ำ และในส่วน Double Space 5.5 เมตร อยู่ด้านข้างของตัวอาคาร โดยติดตั้งสวิตซ์ไฟไว้บริเวณนี้ด้วย เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน
บันได ถูกปูด้วยพื้นลามิเนตดังรูป โดยมีความหนา 27 มม. และลูกตั้งหนา 20 มม. พร้อมติดตั้งหลอดไฟ ฟลูออเรสเซนต์ บริเวณราวบันได โดย สวิตซ์ไฟสำหรับบันไดจะเป็นระบบสองทางให้อีกด้วย
เมื่อเดินขึ้นมาชั้นลอย สิ่งแรกที่พบคือห้องน้ำ ซึ่งออกแบบให้อยู่ด้านข้างเช่นเคย โดยสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ส่วนสายชำระจะเป็นของ Grohe โดยมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน สำหรับห้องน้ำชั้นนี้จะไม่มีส่วนอาบน้ำให้เนื่องจากเป็นโซนออฟฟิศ
พื้นที่ชั้นลอย จะต่อเนื่องจากชั้น 1 ด้วยการออกแบบให้มี Double Space สูง 5.5 เมตร ทำให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการใช้งาน
ระบบไฟเป็นแบบ Down Light ดังรูป ซึ่งได้รับการออกแบบคำนวณความสว่างให้มีความเหมาะสมสำหรับการเข้าใช้งานจริงแล้ว โดยวิศวกรและทีมออกแบบแสงสว่าง สังเกตว่าจะไม่มีท่อแอร์เกะกะสายตา เนื่องจากทางโครงการได้เดินระบบท่อน้ำยา น้ำทิ้งไว้ให้ด้านหลังอาคารแล้ว เพียงผู้อยู่อาศัยซื้อแอร์มาติด พร้อมใช้งานได้เลย
ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นโซนของพักอาศัย เพราะฉะนั้นห้องน้ำจะมีส่วนอาบน้ำเพิ่มเข้ามา และแบ่งส่วนเปียก-แห้ง โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดยังคงเหมือนชั้นลอย
ชักโครกจาก American standard ส่วนสายชำระจาก Grohe ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความคงทนและรับประกันตลอดอายุการใช้งาน
มุมอาบน้ำ ทางโครงการได้เดินท่อระบบน้ำร้อน ท่อระบบเครื่องทำน้ำอุ่นให้แล้ว เพียงซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งได้เลย ที่โครงการให้เป็นของ Grohe ซึ่งมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งานเช่นกัน
เดินเข้ามาด้านในจะเป็นโซนนั่งเล่น ซึ่งสามารถกั้นเป็นห้องนอนสองได้ โดยหากแจ้งความประสงค์ล่วงหน้า ทางโครงการจะดำเนินการให้
นับว่าเป็นข้อดีของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ ที่มีการติดตั้งปลั๊กไฟ ที่ต่อทีวี รวมถึงสาย LAN ให้ทุกชั้น และเพียงพอต่อการใช้งาน
มุมคอร์ท ไฮไลท์ของโครงการ จะออกแบบให้สามารถเชื่อมต่อได้ทุกส่วนของชั้นนี้ โดยติดตั้งประตูบานเลื่อน พร้อมกระจกสีเขียว ช่วยตัดแสง และทำให้บ้านเย็น
ในชั้นนี้สามารถออกแบบเป็นครัวเปิด ตามไอเดียจากทางโครงการ ได้ดังรูป เพราะโครงการมีการเตรียมงานระบบต่างๆ เช่น ท่อ Hood ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง และปลี๊กไฟต่างๆไว้ให้หมดแล้วที่บริเวณนี้
มุมนี้ทางโครงการออกแบบเป็นห้องรับประทานอาหาร ที่มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 7 เมตร ซึ่งทางโครงการมีการออกแบบโครงสร้างไว้เผื่อการต่อเติมพื้นที่ใช้งานเป็นห้องนอนที่สามได้ในอนาคต
โดยได้ออกแบบให้มีคานรองรับการต่อเติมแล้วเรียบร้อย ซึ่งโคมไฟและไฟหลืบที่เห็นในรูป ทางโครงการให้มาด้วย
เมื่อขึ้นมา จะมีทางเดินไปสู่ Master Bedroom บริเวณนี้จะติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อน พร้อมระแนง และเมื่อมองลงมาจะเห็นมุมคอร์ทพอดี
ห้องน้ำ จะอยู่ด้านหน้าของห้องนอน ฝักบัวชั้นนี้ จะมีระบบน้ำร้อน น้ำเย็นในตัว ฝักบัว ที่โครงการให้เป็นของ Grohe ซึ่งมีการรับประกันตลอดอายุการใช้งานเช่นกัน
โดยทางโครงการได้เดินท่อ สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน บริเวณใต้อ่างล้างหน้า ต้องบอกว่าสถาปานิกเขาใส่ใจเรื่องการออกแบบตัวอาคารให้สอดคล้องกับการใช้งานอย่างแท้จริง ขนาดฝาท่อน้ำทิ้งในห้องยังไม่เป็นแบบตะแกรง เพื่อช่วยเรื่องกลิ่นท่อได้ดี
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลสุขุมวิทตอนปลาย
ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนจากอ่อนนุช ถึงฝั่งสมุทรปราการ ส่งผลให้พื้นที่โซนสุขุมวิทตอนปลายนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการเกิดขึ้นของโครงการที่อยู่อาศัย ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงอาคารสำนักงาน ธุรกิจ SME ที่กระจุกตัวอยู่กันอย่างหนาแน่นตั้งแต่โซนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช), 101 (ปุณณวิถี), 101/1 (วชิรธรรมสาธิต),103 (อุดมสุข) เรื่อยมาจนถึงฝั่งบางนา นอกจากนี้ การพัฒนาด้านระบบคมนาคมขนส่งที่เอื้อต่อความต้องการของคนพื้นที่ ซึ่งนอกเหนือจากเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้ว ในอนาคตอันใกล้คาดการณ์ว่าไม่เกินปี 2562 จะเกิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง โดยมีจุดเริ่มต้นจากสำโรง จากนั้นวิ่งผ่านทางทิศใต้ของถนนศรีนครินทร์ อันได้แก่ แยกศรีอุดม สวนหลวงร.9 ศรีนครินทร์ 38 ยาวไปถึงรัชดา และจะเชื่อมต่อกับสายสีส้ม รวมถึงแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ เพื่อเข้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยหากใครที่เลือกพักอาศัยตามตรอกซอกซอยในแถบสุขุมวิทตอนปลาย ต่างรู้ดีว่าสามารถทะลุถนนศรีนครินทร์ได้ และถือว่าเป็นเส้นทางที่สะดวกสบายสุดต่อการเดินทาง เพราะไม่ต้องฝ่าฝันกับการจราจรหนาแน่นบนถนนสุขุมวิท ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้มองหาบ้านหลังแรก หรือนักลงทุน จึงเริ่มเบนเข็มจับตาความเคลื่อนไหวสุขุมวิทตอนปลายอย่างมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งนักธุรกิจชาวญี่ปุ่น เพราะแม้ว่าโครงการอสังหาฯ ต่างๆ แม้จะตั้งอยู่ในทำเลชานเมือง แต่ยังให้ความรู้สึกเหมือนอยู่สุขุมวิทชั้นใน เพราะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ในขณะที่กรมธนารักษ์ได้ประเมินราคาที่ดินรอบล่าสุดของย่านนี้ให้มีราคาอยู่ที่ 60,000 – 180,000 บาท / ตร.ว. ซึ่งสูงขึ้นจากการประเมินรอบที่ผ่านมา
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างแนวเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคต รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และสถานที่แนวไลฟ์สไตล์มากมาย
โครงการฮอฟ โฮม ออฟฟิศ สุขุมวิท 101 /1 ตั้งอยู่ในซอยย่อยวชิรธรรมสาธิต 51 ซึ่งค่อนข้างลึกและเป็นทางตัน แต่มีข้อดีเรื่องความสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะจะเป็นสถานที่ทำงาน ควบคู่กับอยู่อาศัยอย่างแท้จริง เนื่องจากสองข้างทางส่วนใหญ่เป็นในลักษณะบ้านเดี่ยว ตรงกันข้ามกับซอยหลักอย่างสุขุมวิท 101/1 ที่มีสภาพความเป็นอยู่ในลักษณะชุมชนเมือง ที่มีตลาดสด โรงเรียน วัด คอมมูนิตี้มอลล์ และที่สำคัญโครงการอสังหาฯ อย่างหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์ รวมถึงทาวน์โฮม กระจุกตัวค่อนข้างหนาแน่น ผนวกกับถนนที่มีเพียงสองเลน ดังนั้นอาจจะประสบปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเช้าและเย็น แต่สำหรับช่วงกลางวันยังถือว่าคล่องตัวดีอยู่ ดังนั้นหากมองถึงศักยภาพทำเลของซอยนี้ จะโดดเด่นด้านคมนาคม ในการใช้เป็นทางลัดที่สามารถทะลุออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) สุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) สุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) และศรีนครินทร์ รวมถึงยังใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวสถานีปุณณวิถี (ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 101/1 ประมาณ 450 เมตร) อุดมสุข (ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 101/1 ราว 550 เมตร) อีกทั้งหากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการในอนาคต สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างสถานีศรีนครินทร์จะอยู่ห่างจากโครงการ 900 เมตร เท่านั้น
การเดินทาง
ฮอฟ สุขุมวิท 101 /1 ตั้งอยู่ในซอยวชิรธรรมสาธิต 51 (สุขุมวิท 101/1) พื้นที่ย่านพักอาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว และได้เปรียบเรื่องการเดินทาง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อถนนหลักได้หลายสาย อาทิ ถนนสุขุมวิท ศรีนครินทร์ และบางนาตราด ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว ที่วิ่งผ่านปากซอยสุขุมวิท 101 /1 พอดี แล้วเลือกใช้บริการรถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว รถกระป๊อ สนนราคาไม่เกิน 25 บาท เข้ามายังโครงการ หรือในอนาคตอันใกล้หากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการ สถานีที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด ได้แก่ สถานีศรีนครินทร์ อีกทั้งโครงการจะอยู่ตรงกลางระหว่างรถไฟฟ้าทั้งสองสาย จึงทำให้ตอบสนองรูปแบบของการเดินทางที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
– รถไฟฟ้า BTS
ภาพ via bts.co.th
ทางเลือกที่ 1 ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน มาลงสถานีอุดมสุข เลือกทางออกที่ 1 จากนั้นเดินย้อนกลับมาซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ประมาณ 550 เมตรถึงปากซอย แล้วเลือกใช้บริการรถสาธารณะ ที่มีให้เลือกหลายวิธีในการนั่งไปโครงการ ไม่ว่าจะเป็น วินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว รถกระป๊อ ซึ่งล้วนแล้วมีราคาค่าเดินทางไม่เกิน 25 บาท
ภาพ via bts.co.th
ทางเลือกที่ 2 ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนเช่นเคย มาลงสถานีปุณณวิถี เลือกทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงมาเรื่อยๆ ผ่านปิยรมย์สปอร์ตคลับ (อีกไม่กี่ปีจะถูกแปลงโฉมให้เป็น Hub แห่งใหม่ของย่านนี้) ประมาณ 400 เมตรถึงปากซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) แล้วเลือกใช้บริการรถสาธารณะ ที่มีให้เลือกหลายวิธีในการนั่งไปโครงการ ไม่ว่าจะเป็น วินมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว รถกระป๊อ ราคาค่าเดินทางไม่เกิน 25 บาท
– รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 หากเริ่มต้นมาจากฝั่งสุขุมวิทชั้นใน ให้ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท จากนั้นขับมุ่งหน้ามาทางฝั่งขาออกไปสมุทรปราการ ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านอ่อนนุช บางจาก ให้สังเกตป้ายสถานีบีทีเอสไว้ และเมื่อมาถึงสถานีปุณณวิถี ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 101/1 จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 2.5 กม. ให้สังเกตป้ายซอยวชิรธรรมสาธิต 51 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประมาณ 250 เมตร จะพบโครงการ “ฮอฟ” ตั้งอยู่บริเวณกลางซอย
หากขับมุ่งหน้ามาจากปากซอยสุขุมวิท 101/1 ประมาณ 2.5 กม. จะสังเกตเห็นป้ายซอยวชิรธรรมสาธิต 51 และโฆษณาโครงการฮอฟ อย่างชัดเจน
เมื่อเลี้ยวเข้าซอยวชิรธรรมสาธิต 51 ถนนเป็นแบบวิ่งสวนกันได้ โดยสองข้างจะเป็นบ้านอยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่
ตรงเข้ามาประมาณ 250 เมตร จะเห็นโครงการฮอฟ เฟสแรกอยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามบริษัทผลิตเวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง และหมดกังวลได้ เพราะมีการบริหารจัดการเรื่องกลิ่น ฝุ่น อย่างดี
โครงการฮอฟ เฟสแรก ในรูปแบบสถาปัตยกรรมตัวบ้านที่สวยงาม สไตล์โมเดิร์น พร้อมเอกลักษณ์ด้วยหลังคาทรงจั่ว จึงทำให้กลายเป็นที่อยู่อาศัยโดดเด่นที่สุดในย่านนี้ และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่โครงการได้รับการตอบรับที่ดีหลังจากที่เปิดตัวมา
ทางเลือกที่ 2 หากเริ่มต้นมาจากถนนศรีนครินทร์ ถ้าขับมาจากถนนบางนาตราด ให้ขึ้นสะพานข้ามแยกศรีเอี่ยม มุ่งหน้าตรงมาเรื่อยๆ ลอดอุโมงค์บริเวณสี่แยกถนนอุดมสุข ผ่านห้างสรรพสินค้าพาราไดซ์ พาร์คให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าซอยศรีนครินทร์ 42 ตรงมาตามทาง เจอแยกแรกเลี้ยวซ้าย แยกที่สองเลี้ยวขวา จากนั้นเลี้ยวซ้ายแยกที่สาม ผ่านโครงการหมู่บ้านพรไพลิน จากนั้นเลี้ยวขวาเพื่อเข้าถนนซอยสุขุมวิท 101 /1 ขับมาประมาณ 300 เมตร ป้ายซอยวชิรธรรมสาธิต 51 อยู่ขวามือ เลี้ยวเข้าซอยประมาณ 250 เมตร โครงการจะตั้งอยู่บริเวณกลางซอย
ทางเลือกที่ 3 หากเริ่มต้นมาจากถนนศรีนครินทร์ โดยมาจากทางบางนาตราดเช่นเดิม ให้ขึ้นสะพานข้ามแยกศรีเอี่ยม โดยพอเจอสี่แยกอุดมสุข เราไม่ลงอุโมงค์แต่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนอุดมสุขแทน หลังจากเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท103(ซอยอุดมสุข) ให้ตรงมาเรื่อยๆมองทางด้านขวามือจะเจอซอยอุดมสุข51 ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยอุดมสุข51(ซอยประวิทย์และเพื่อน) ตรงมาตามทางจะเจอสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายมาทางถนนซอยสุขุมวิท101/1(วชิรธรรมสาธิต) จากนั้นประมาณ300เมตร จะเจอป้ายโครงการตรงปากซอยวชิรธรรมสาธิต51ทางด้านขวามือ ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยมาประมาณ250เมตร โครงการจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ
สถานที่แนว Lifestyle
ย้อนเวลากลับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สภาพความเป็นอยู่สองข้างทางซอยสุขุมวิท 101/1 หรือเป็นที่รู้จักของคนพื้นที่ว่า
วชิรธรรมสาธิตนั้นเป็นลักษณะทุ่งหญ้า และเป็นที่ตั้งของวัดและโรงเรียน แต่เมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่เริ่มได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดสาธารณูปโภคต่างๆ ยังไม่นับรวมบนถนนเส้นเมนอย่างสุขุมวิท ที่หลังมีแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายสายสีเขียวอ่อน ซึ่งเริ่มต้นจากสถานีอ่อนนุช สิ้นสุดที่แบริ่งพาดผ่าน และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างส่วนต่อขยายไปถึงสมุทรปราการ ก็เกิดบรรดาซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่อย่าง เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ไปจนถึงคอมมูนิตี้มอลล์ อย่างปิยรมย์ แหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่ออย่าง I Berry, S&P, McDonalds และในอนาคตอันใกล้ คาดว่าไม่เกินปี 2562 ย่านนี้กำลังจะเกิดฮับแห่งการใช้ชีวิตแห่งใหม่อย่าง “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ภายใต้การพัฒนาของค่าย MQDC ที่จะเป็นแหล่งรวมสำนักงานขึ้นชื่อ ร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่แฮงค์เอาท์ต่างๆ ซึ่งนับเป็นการพลิกโฉมความคึกคักและความเจริญของพื้นที่ไปอีกขั้น
บทวิเคราะห์
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
Areeya Mandarina
โครงการพร้อมอยู่ ของบริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท 77 พื้นที่โครงการ 20 ไร่ เป็นลักษณะ ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวน 108 ยูนิต ในพื้นที่ 225 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พร้อมส่วนกลางคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำ ราคาเริ่มต้น 7 ล้านบาท
ภาพ via areeya.co.th
H Cape Biz Sector
โครงการของบริษัท แฮปปี้แลนด์ จำกัด ตั้งอยู่บนถนนอ่อนนุช-ลาดกะบัง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ พื้นที่โครงการ 9 ไร่ เป็นสไตล์โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น จำนวน 60 ยูนิต ในพื้นที่ 22 – 45 ตารางวา 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมส่วนกลาง พื้นที่จอดรถสาธารณะขนาดใหญ่ และสวน ราคาเริ่มต้น 12.9 ล้านบาท
ภาพ via hcape.com
Garden Square
โครงการของบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บนนถนนสุขุมวิท 77 ใกล้บีทีเอสสถานีอ่อนนุช พื้นที่โครงการ 4 ไร่ เป็นทาวน์โฮมสไตล์อังกฤษ 4 ชั้น จำนวน 34 ยูนิต ในพื้นที่ 25 ตารางวา 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คัน พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ราคาเริ่มต้น 11.5 ล้านบาท
ภาพ via .sansiri.com
สรุป
โครงการนี้ นับว่าเป็นโครงการที่มีแนวคิดคำนึงถึงการใช้งานและประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนพัฒนาออกมาสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยและโฮมออฟฟิศ ดังนั้นเมื่อมีโปรเจคนี้เกิดขึ้น จึงทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ประกอบการ SME อย่างมาก เนื่องจากตอบสนองไลฟ์สไตล์ และความเป็นที่อยู่อาศัยได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งยังรองรับที่จอดรถ ได้ถึง 4-5 คัน แต่ถึงกระนั้นยังมีบางคนที่กังวลว่าทำเลที่ตั้งโครงการนั้นอยู่ซอยลึก กลับกันหากมองถึงเรื่องของความเป็นส่วนตัว และรูปทรงการออกแบบตัวบ้านที่สวยงาม ทันสมัย เอื้อประโยชน์ต่อการทำงาน นั้นถือว่าตอบโจทย์ตรงกับความต้องการทั้งการทำงานและการอยู่อาศัยอยู่ไม่น้อย ยิ่งหากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเป็นความจริงขึ้นมา ศักยภาพของทำเลสุขุมวิท 101 /1 ก็จะยิ่งมีมากขึ้น เพิ่มความสะดวกต่อการเดินทาง ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเฟสแรกของโครงการ สามารถ Sold Out ได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่