พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หลังจากที่ได้ส่งโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ต่างๆ เข้ามาลุยตลาดในทำเลแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ไม่ว่าจะเป็น ไนท์บริดจ์ (Knightbridge) และนอตติ้งฮิลล์ (Notting Hill) ล่าสุด ค่ายออริจิ้นฯ ยังคงเชื่อในศักยภาพของทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าสายนี้ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2562 ด้วยการส่งคอนโดฯ อีกหนึ่งแบรนด์ “เคนซิงตัน” (Kensignton) โดยในคราวนี้เลือกปักหมุดในซอยพหลโยธิน 63 ห่างจากสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ 250 เมตร พัฒนาเป็นคอนโดฯ สไตล์รีสอร์ท เน้นการดีไซน์ที่มีฟังก์ชั่นครบ ในบรรยากาศร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ กับสถาปัตยกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์สไตล์อังกฤษ ที่จะเปิดพรีเซลในช่วงเดือนพฤศจิกายนน กับราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท* ที่เรียกความสนใจได้ไม่น้อยทีเดียว
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 (Kensington 63)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยพหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
เว็บไซต์: http://www.origin.co.th/3condosaphanmai1/
โทร: 092 716 7070
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ต.ค. 2559)
พื้นที่โครงการ: 1-3-31 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ 8 ชั้นจำนวน 1 อาคาร 231 ยูนิต ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิต และอาคารส่วนกลาง 1 อาคาร
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงานในย่านเกษตร สะพานใหม่ และดอนเมือง
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง ม.ค. 2560 คาดว่าจะสร้างเสร็จ Q 2 ปี 2561
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
ที่จอดรถ: รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40%
สิ่งอำนวยความสะดวก: ล็อบบี้ส่วนกลาง, ตู้จดหมาย, สวนหย่อม, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, บ้านต้นไม้
ระบบรักษาความปลอดภัย: Access Card Control, CCTV, รปภ. 24 ชม. Digital Door Lock, ลิฟท์ล็อคชั้น
เปิดขาย: เดือนตุลาคม 2559
สถานะการขาย: คิดเป็น 50%
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 30,000 – 60,000 บาท ดาวน์ 15 งวด 6,900 – 14,500 บาท บอลลูน 2 งวด 30,000 – 60,000 บาท
เงินกองทุนสะสม: 400 บาท (ชำระครั้งเดียว)
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ตร.ม. (ล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 1.49 ล้านบาท* (ห้องโปรโมชั่น) หรือ ประมาณ 65,000 บาท/ตร.ม
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ: 70,000 บาท/ตร.ม
รูปแบบห้อง
1 ห้องนอน Superior ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 23.40 ตร.ม.
1 ห้องนอน Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 25.90 – 30.70 ตร.ม.
1 ห้องนอน EXTRA ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 32.50 – 37.50 ตร.ม.
2 ห้องนอน PENTHOUSE ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 47.60 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 เป็นโครงการ คอนโดมิเนียม โลว์ไรส์ 8 ชั้นจำนวน 1 อาคาร 231 ยูนิต ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 33 ยูนิต และอาคารส่วนกลาง 1 อาคาร พื้นที่โครงการรวมกว่า 1-3-31 ไร่ ชูจุดขายใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต โดยที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากสถานีหลักสี่ ประมาณ 250 เมตร โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายเป็นคนทำงานในย่านเกษตร สะพานใหม่ และดอนเมือง ตัวอาคารเป็นรูปตัว L มีการจัดวาง สิ่งอำนวยความสะดวกไว้ตรงกลาง ตัวอาคารออกแบบโดยใช้คอนเซ็ปต์ รีสอร์ทคอนโด เน้นพื้นที่สีเขียวแทรกอยู่ทั่วโครงการ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ
ตัวอาคารใช้สีขาว-เทา ให้ความรู้สึกเรียบหรูสไตล์โมเดิร์น ส่วนพักอาศัยจะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ที่จอดจะอยู่บริเวณชั้น 1 ใต้อาคารพักอาศัยและโดยรอบโครงการโดยที่จอดรถรวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 40% ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยจะอยู่ด้านหน้าโครงการ ซึ่งเป็นอาคารที่แยกออกจากอาคารพัก โดยสิ่งอำนวยความสะดวกนี้จะประกอบไปด้วย ล็อบบี้ส่วนกลาง, ตู้จดหมาย, สวนหย่อม, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, บ้านต้นไม้ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยรอบโครงการไม่ว่าจะเป็น Access Card Control เพื่อเข้าออกโครงการ กล้อง CCTV และรปภ. ตลอด 24 ชม. กับค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม. ที่ดูสมน้ำสมเนื้อ
การวางทิศทางโครงการ
ด้านหน้าจะเป็นทางเข้าโครงการซึ่งจะอยู่ติดถนนภายในซอย ถัดไปก็เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ส่วนด้านซ้ายมือตามภาพเป็นเป็นพื้นที่ของบ้านเดี่ยวขนาด 2 ชั้น ด้านหลังของโครงการจะเป็นคลองเล็กๆ ซึ่งถัดไปก็จะเป็นบ้านเดี่ยวเช่นกัน ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นบ้านที่อยู่บริเวณซอยพหลโยธิน 63/1 ซึ่งซอยนี้เป็นซอยตัน ด้านขาวมือตามภาพจะเป็นพื้นที่ด้านหลังของโชว์รูมโตโยต้า ซึ่งก็ทำเป็นที่จอดรถ จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรสำหรับเรื่องของการบล็อกวิว ซึ่งก็ถือว่าเป็นทำเลที่มีความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว
ทิศเหนือ: ติดกับคลองสาธารณะ ฝั่งตรงข้ามคลองเป็นบ้านพักอาศัย 2 ชั้น ถัดไปเป็นบ้านพักอาศัยและอาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้นซะเป็นส่วนใหญ่จึงไม่มีตึกสูงมาบังวิว
ทิศตะวันออก:พื้นที่ด้านหลังของโชว์รูมโตโยต้า ซึ่งก็ทำเป็นที่จอดรถ จึงไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรสำหรับเรื่องของการบล็อกวิว
Master Plan
ด้านหน้าโครงการติดกับถนนภายในซอยพหลโยธิน 63 ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ การเดินรถจะวนซ้ายตามเข็มนาฬิกาเป็น One-way มีจุดรับส่งที่หน้าทางเข้า คลับเฮาส์ ถ้าต้องการจอดรถก็วนไปจอดใต้อาคาร โดยมีที่จอดแบบรวมซ้อนคันประมาณ 40 %
ชั้น 2 ของโครงการจะเป็นพื้นที่พักอาศัยโดยแต่ละชั้นจะมีประมาณ 33 ยูนิต โถงทางเดินภายในอาคารเป็น Double Corridor โดยชั้นนี้จะมีบันไดทางเข้า-ออกสวนด้านหลังโครงการเพิ่มออกมาอีกจุด เพื่อให้ผู้ที่อยู่ด้านในอาคารสามารถออกไปใช้งานสวนได้ โครงการนี้มีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวหรือคิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 116 : 1 ซึ่งถือว่าหนาแน่นไปหน่อย แต่ใครไม่รีบเดินเอาก็สบายๆ
พื้นที่ชั้น 3-8 จะเป็นที่อยู่อาศัยทั้งหมด ซึ่งจะมีแปลนเหมือนกับชั้น 2 ซึ่งตั้งแต่ชั้น 3-8 จะมีห้องแบบ 2 ห้องนอน ชั้นละ 1 ห้อง
Unit Layout
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: พื้นลามิเนตหนา 8 มม.
ผนัง: ผนังคอนกรีตสีขาวฉาบเรียบ
พื้นจรดเพดานความสูง: 2.4 เมตร
เฟอร์นิเจอร์: ชุดเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน ออกแบบเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ
เครื่องปรับอากาศ: 9,000 – 12,000 BTU (2-3 ตัว ตามขนาดของห้อง)
สุขภัณฑ์: Cristina
ชุดครัว: เตาไฟฟ้าและที่ดูดควันของ Teka
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Superior ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 23.40 ตร.ม.
มุมมองภายในห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Superior ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 23.40 ตร.ม. โครงการให้แบบ Fully Furnised ที่ Built-in และจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เรียบร้อย
ผนังครัวของจริงจะเป็นปูนธรรมดา แนะนำให้หากระเบื้องหรือกระจกเงามาติด เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น ด้านบนบิวท์อินเป็นที่เก็บของมาให้
ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหินธรรมชาติ พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจาน พร้อมเตาและที่ดูดควัน ของ Teka ที่ที่เก็บของ ลิ้นชัก ที่วางไมโครเวฟ และที่วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
ถัดมาจะเป็นในส่วนของห้องนั่งเล่น ซ้ายมือจะเป็นโซฟา ส่วนขวามือจะเป็นชั้นวางทีวี
ภายในห้องนอนจะมีเตียงขนาด 5 ฟุต และ ตู้เสื้อผ้า มาให้ ส่วน ชั้นวางของกับโต๊ะทำงานเป็นไอเดียการตกแต่ไม่ได้มีมาให้ แต่ที่น่าสนใจคือมีระเบียงส่วนตัวอีกด้วย
พื้นที่โต๊ะทำงาน กับพื้นที่ระเบียงมีขนาดเท่าๆ กันเหมือนกับการแบ่งพื้นที่กันคนล่ะครึ่งนั่นเอง มีการยกลอยคอมเพรสเซอร์เเอร์ เพื่อให้มีพื้นที่ด้านล่าง
มุมมองภายในห้องจากบริเวณห้องนอน โดยห้องนี้มีราคาเริ่มต้องที่ 1.49* เป็นห้องโปรโมชั่น และเป็นห้องเปล่าๆ ไม่มีอะไรให้เลยนะครับ
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 25.90 – 30.70 ตร.ม.
ประตู HDF สำเร็จรูปสีขาว ไม่มีตาแมว ติดตั้ง Digital Doorlock มาให้ พร้อมมือจับก้านโยกไว้เปิดเข้า-ออก สามารถเปิดได้ด้วยการแตะ Keycard และกดรหัส
เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ด้านซ้ายมือเป็นชั้นวางทีวีติดกับห้องน้ำ ถัดไปเป็นห้องนอนและครัวแบบปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียง ฝ้าเพดานห้องนี้สูง 2.4 เมตร
ฝั่งขวาของห้องจะเป็นโซฟาขนาด 2 ที่นั่งส่วนผนังห้องจริงจะเป็นสีขาวฉาบเรียบ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นชั้นวางทีวีแบบบิวท์อินลอยตัว พร้อมตู้เก็บของที่บิวท์อินเป็นแนวตั้งเท่าความสูงของห้อง
ฝั่งขวามีของห้องถัดจากโซฟายาว ก็จะเป็นส่วนของโต๊ะทานอาหาร ส่วนผนังห้องจริงจะเป็นสีขาวฉาบเรียบ โดยผนังหน้าส่วนนี้กว้างประมาณ 3.2 เมตร ไฟห้องเป็นแบบดาวน์ไลท์
ภายในห้องครัวขนาดประมาณ 2.5 x 1.5 เมตร ทางโครงการ บิวท์อินชุดครัวมาให้แบบนี้เลย ส่วนเคาน์เตอร์ครัวที่เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างมีหน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน
มีการยกขอบประตูประมาณ 10 ซม. เพื่อกันน้ำและฝุ่นจากบริเวณระเบียง ห้องครัวปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 เซ็นติเมตร
ถัดไปจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน ซึ่งโครงการ บิวท์อิน โต๊ะแบบลอยตัวมาให้ เราสามารถใช้มุมนี้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือมุมทำงานโดยบิวท์อิน ส่วนชั้นวางของด้านบนไม่มีมาให้เราสามารถบิวท์อินเพิ่มแบบห้องตัวอย่างได้
ห้องจริงมีแค่บิวท์อินโต๊ะแบบลอยตัวมาให้ส่วนอื่นๆ ไม่มีมาให้เป็นผนังเรียบๆ สีขาวเท่านั้นเอง ส่วนตู้เสื้อผ้าทางโครงการมีมาให้แบบห้องตัวอย่าง
ห้องน้ำที่มีการใช้โทนสีขาว-เทา ผนังห้องน้ำปูกระเบื้อง ด้านในจัดวางพื้นที่ใช้งานเป็น 3 ส่วนคือ อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวพร้อมกระจกเงาและที่เก็บของใต้อ่าง ส่วนบานกระจกติดผนังเต็มบาน, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำที่กั้นด้วยฉากบานเลื่อน 3 ตอน
ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้าบิวท์อินมาให้ ประตูตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน มีท็อปกระจกไว้ให้เต็มบานด้านซ้ายมือ
ทางโครงการเลือกใช้เตียงขนาด 5 ฟุต แต่ฟูกไม่ได้ให้มาให้แต่เตียง ใต้เตียงมีลิ้นชักสามารถเปิดออกมาใส่ของได้ มีพื้นที่ทางเดินรอบเตียงนิดหน่อย
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน EXTRA ขนาดพื้นที่ใช้สอย ขนาด 34.8 ตร.ม.
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องห้องนั่งเล่นด้านซ้ายมือเป็นโซฟาที่ให้มาพร้อมห้อง ขวามือเป็นชั้นวางทีวีบิวท์อินเป็นแนวยาวเท่าขนาดผนังห้องน้ำแบบลอยตัว พร้อมแอร์ 1 ตัวบริเวณนี้
ตัวโซฟาไม่ระบุสีและยี่ห้อมาให้ ถัดไปเป็นที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งของจริงจะไม่ได้ให้มาเป็นที่ว่าง
ครัวกว้างประมาณ 1.5 เมตร บิวท์อินตามแบบมาตรฐานของโครงการ เหมือนกันทุกห้อง ต่างกันบ้างเล็กน้อยในเรื่องขนาด ซึ่งที่วางตู้เย็นก็สามารถวางขนาด 9 คิวได้สบายๆ
ระเบียงกว้าง 0.75 x 2 เมตร มีการยกของประตู ประตูเป็นบานเลื่อน 2 ตอน บานใหญ่ทำให้รับเเสงเข้าห้องทำให้ห้องสว่าง
ห้องนอนที่ใช้ประตูกระจกบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ที่มีข้อดีคือช่วยให้เวลาเราเปิดประตูจะได้ช่องเปิดกว้างกว่าแบบสองตอน สามารถเดินเข้า-ออกสบายๆเพราะมีพื้นที่ว่างเยอะ
ผนังข้างเตียงติดตั้งหน้าต่างบาน 6 บานแบบฟิก 4บาน ขนาบด้วยบานกระทุ้ง 2 บาน ทำให้ลมและแสงถ่ายเทเข้าห้องได้ดี
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
วงเวียนหลักสี่ – สะพานใหม่ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในทำเลฮอตเวลานี้ต้องยกให้ทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” ที่มีมูลค่ากว่า 26,464 ล้านบาท โดยตั้งแต่โครงการนี้มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะเริ่มลงทุนก่อสร้างแน่นอน ก็ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นทางนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดทั้งยังจะมาช่วยให้การคมนาคมที่ติดขัดในย่านนี้ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ประกอบกับที่ดินในช่วงพหลโยธินตอนกลาง (ม.เกษตร-วัดพระศรี) ที่ดินส่วนใหญ่มันจะเป็นสถานที่ราชการ ทำให้ไม่สามารถนำมาพัฒนาได้ ส่งผลให้ทำเลหลังจากวงเวียนบางเขน หรือช่วงวงเวียนหลักสี่ จนถึงสะพานใหม่เป็นทำเลทองของการพัฒนาที่อยู่อาศัย เห็นได้จากราคาที่ดินที่ปรับตัวขึ้นกว่า 30% ทำให้ที่ดินติดแนวรถไฟฟ้าในย่านนี้เหยียบตารางเมตรละแสนไปแล้ว แต่เชื่อว่ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จย่านนี้ก็จะปรับตัวขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
พิกัดที่ตั้งโครงการ 13.884586, 100.600757
ที่ตั้งโครงการ เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 ตั้งอยู่ภายในซอยพหลโยธิน 63 เข้ามาจากปากซอยประมาณ 100 เมตร ซึ่งหน้าปากซอยจะเป็นโชว์รูมโตโยต้า ภายในซอยจะเป็นถนน 2 เลนสวนกัน สิ่งปลูกสร้างภายในซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ และที่ดินเปล่า ซอยนี้เป็นเหมือนซอยสำหรับอยู่อาศัย ภายในซอยสามารถทะลุไปยังซอยพหลโยธิน 65 แยก 2 ได้ ถ้าหากอยากซื้อของต้องออกมายังบริเวณปากซอยพหลโยธิน 61 จากตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้า ประมาณ 250 เมตร และระหวา่งทางนั้น มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-eleven และ ร้านขายอาหารอยู่ด้วยเช่นกัน โดยสถานีหลักสี่ จะสร้างเสร็จปี พ.ศ. 2562ซึ่งโครงการนี้จะสร้างเสร็จก่อนรถไฟฟ้าเปิดให้บริการอย่างแน่นอน
ถ้าหากมาทางบริเวณปากซอยพหลโยธิน 63/1 ก็จะมีร้านเฮียอ้วน ผักบุ้งลอยฟ้า ซึ่งเป็นร้านข้าวต้มที่คนแถวนี้มานั่งทานกันในช่วงตอนเย็นๆ ทำให้หมดปัญหาถ้าหากต้องการหาอะไรกิน กลับไปในส่วนสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ นั้นจะอบู่บริเวณวงเวียนบางเขน หรือที่บางคนเรียกวงเวียนหลักสี่ ซึ่งจะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ สน.หลักสี่ นั่นเอง ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร อีกทั้งยังเป็นอินเตอร์เชนจ์ ของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ระหว่างสายสีเขียว และสีชมพู อีกด้วย
การเดินทาง
เส้นทางที่ 1 เส้นพหลโยธิน (ม.เกษตร) วิ่งไปตามถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่ ผ่านวัดพระศรีมหาธาตุ วรวิหาร ผ่านวงเวียนบางเขน ให้วิ่งตรงไป ประมาณ 700 เมตร จะถึงปากซอยพหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเข้าในซอยประมาณ 100 เมตรจะถึงที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือ ซึ่งจะอยู่บริเวณหลังโชว์รูมโตโยต้า
เส้นทางที่ 2 เส้นพหลโยธิน ฝั่งขาเข้า (สะพานใหม่) ให้วิ่งมุ่งหน้าตรงยากมายังวงเวียนบางเขน จากนั้นให้กลับรถที่บริเวณวงเวียนบางเขน จากนั้นให้วิ่งตรงไป ประมาณ 700 เมตร จะถึงปากซอยพหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเข้าในซอยประมาณ 100 เมตรจะถึงที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือ ซึ่งจะอยู่บริเวณหลังโชว์รูมโตโยต้า
เส้นทางที่ 3 เส้นแจ้งวัฒนะ ฝั่งขาเข้า (ไอที สแควร์) มุ่งหน้าสู่วงเวียนบางเขน ถึงวงเวียนบางเขนให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นให้วิ่งตรงไป ประมาณ 700 เมตร จะถึงปากซอยพหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเข้าในซอยประมาณ 100 เมตรจะถึงที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือ ซึ่งจะอยู่บริเวณหลังโชว์รูมโตโยต้า
เส้นทางที่ 4 เส้นรามอินทรา ฝั่งขาเข้า (สนามมวยลุมพินี) มุ่งหน้าสู่วงเวียนบางเขน ถึงวงเวียนบางเขนให้เลี้ยวขวา เข้าสูงเส้นพหลโยธินฝั่งขาออก จากนั้นให้วิ่งตรงไป ประมาณ 700 เมตร จะถึงปากซอยพหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปเข้าในซอยประมาณ 100 เมตรจะถึงที่ตั้งโครงการจะอยู่ฝั่งขวามือ ซึ่งจะอยู่บริเวณหลังโชว์รูมโตโยต้า
รถไฟฟ้าสายสีเขียว: ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต สถานีหลักสี่ ประมาณ 250 เมตร
รถไฟฟ้าสายสีชมพู: ช่วงแคราย – มีนบุรี สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ทางด่วน: ดอนเมืองโทลล์เวย์ และ ทางด่วนฉลองรัช
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
โลตัสหลักสี่ 900 เมตร
เซ็นทรัลรามอินทรา 2 กิโลเมตร
บิ๊กซีสะพานใหม่ 1 กิโลเมตร
ไอที สแควร์ 3.5 กิโลเมตร
เมเจอร์รัชโยธิน 7.5 กิโลเมตร
เซ็นทรัลลาดพร้าว 9 กิโลเมตร
สถานพยาบาล
โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล 1 กิโลเมตร
โรงพยาบาลวิภาวดี 7.5 กิโลเมตร
สถานศึกษา
มหาวิทยาลัยเกริก 1.5 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยศรีปทุม 4 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน 6 กิโลเมตร
โรงเรียนสาธิตเกษตรฯ 6 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร 2 กิโลเมตร
สถานที่สำคัญต่างๆ อาทิเช่น
สนามบินดอนเมือง 8 กิโลเมตร
ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ 5.5 กิโลเมตร
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจส่วนใหญ่ของเส้นสะพานใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกร้านค้า และห้างร้านทั่วไปไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ก็ถือว่าย่านนี้มีร้านอาหารอร่อยหลายร้านตลอดเส้นนี้ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของย่านสะพานใหม่ ส่วนถ้าให้ต้องการชิลล์ หรือแฮงค์เอาท์ แบบมีสไตล์หน่อยก็แนะนำให้ไปเส้นเลียบทางด่วนรามอินทรา เพราะมีทั้งไนท์มาเก็ต อย่าง ตลาดเลียบทางด่วนรามอินทรา ตลาดเหมืองแร่ (The Walk) ตลาดหัวมุม ที่กระจุกตัวกันอยู่ตลอดทั้งเส้นนี้ รวมไปถึงร้านอาหาร และที่แฮงค์เอาท์ อย่าง Parking Toys, 4dinner Bar & Restaurant, 66 Station และ Wine I Love You เป็นต้น และยังมีอีกมากมายที่เรียงรายตลอดถนนเส้นนี้
ตลาดเลียบทางด่วนรามอินทรา
ตลาดที่รวบรวมทุกไลฟ์สไตล์ไว้ในที่เดียวกันไม่ว่าคุณ คิดจะกินเล่นๆ หรือกินจริงจัง ทั้งหวาน คาว ชิมเมนูใหม่ๆ ฮิตๆ ที่นี้ก็มี เลือกช๊อป ก็มีทั้งเสื้อผ้าชายหญิง เด็ก สัตว์เลี้ยงและของใช้และอื่นๆ อีกมากมาย
ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ตลาดเก่าแก่บนพื้นที่ 35 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณสะพานใหม่ เปิดให้บริการครั้งแรกวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2498 สำหรับร้านอาหารต่างๆ จะกระจายตัวอยู่ในบริเวณตลาดรวม 3 จุดด้วยกัน ได้แก่ ศูนย์อาหาร 24 ชั่วโมง, ครัวสุวพีร์ และสะพานไม้
Parking toys pub & restaurant เป็นร้านแฮงเอาท์บรรยากาศเยี่ยม ความโดดเด่นอยู่ที่บรรดาเฟอร์นิเจอร์เก่าและของตกแต่งร้านเท่ๆ ออกดิบๆ และมีดนตรีเล่นทุกวัน ซึ่งเป็นที่เด็ดของร้านนี้เลยเพราะแต่ละวงเป็นที่รู้จักในวงการและมีฝีไม้ลายมือทีเดียว
4dinner Bar & Restaurant ร้านอาหารสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการนั่งดื่มชิลล์ๆ ที่มีแชนเดอเลียร์ขนาดใหญ่คอยส่องประกายสะดุดตา ภายในร้านแบ่งความหรูหราออกเป็น 4 โซน 4 สไตล์ ทั้งโซน Indoor และ Out door ซึ่งเหมาะคู่รัก หรือมานั่งเมามันเม้าท์ในหมู่เพื่อน ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำทางร้านจะมีดนตรีสดเพราะๆ คอยขับกล่อมลูกค้าทุกค่ำคืน
Wine I Love You ตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับคนที่ชอบการดื่มไวน์ เพราะทางร้านมีไวน์นานาชนิดตกแต่งเรียงรายไว้ในราคาที่คุณเลือกได้ แม้เริ่มต้นเบาๆ แบบพันกว่าบาทก็ดื่มด่ำกับไวน์รสนุ่มลึกได้ และเมนูอาหารรสเยี่ยมหลากเมนูที่เข้ากันได้ดี กับอาหารรสอร่อยๆ ไวสำหรับหลังเลิกงาน หรือวันว่างๆ จนอาจทำให้สุขจนลืมเวลา
66 Station ถือว่าเป็นร้านอาหารสุดชิลน้องใหม่ในย่านนี้ แต่กลับมีดีที่ตกแต่งสไตล์วินเทจสุดชิค มีให้เลือกทั้งโซนด้านนอกและด้านใน ร้านบรรยกาศเเปิดโล่ง มีเพลงฟังชิลๆ ริมสระน้ำ รสชาติอาหารถือว่าดี สมราคา พร้อมค็อกเทลให้เลือกมากมาย สลับกับวงดนตรีมาเล่นสดพร้อมพีอาร์สาวสวย ที่มาคอยบริการตลอดทั้งคืน
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
การที่โครงการดีไซน์ออกมาดูทันสมัยตามสไตล์โมเดิร์น ลักซ์ชัวรี่ ภายในห้องเน้นออกแบบห้องให้เรียบหรู ดูมีรสนิยม เพื่อเอาใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่ออกแบบมาสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความลงตัว และมีพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด อีกทั้งยังน่าสนใจด้วยทำเลที่ตั้งโครงการที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า
แบบห้องชุด | ขนาด (ตร.ม.) | ราคาปล่อยเช่า (บาท/ เดือน) |
1 ห้องนอน Superior | 23.40 | 8,000 – 9,000 |
1 ห้องนอน Deluxe | 25.90 – 30.70 | 10,000 – 12,000 |
1 ห้องนอน EXTRA | 32.50 – 37.50 | 13,000 – 17,000 |
2 ห้องนอน PENTHOUSE | 47.60 | 20,000 |
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ชื่อโครงการ | ยูนิต | พืนที่ใช้สอย | ราคาเฉลี่ย/บาท/ตร.ม. | ราคาขาย |
โมดิซ สเตชั่น | 246 | 23 – 48 ตร.ม. | 90,000 | 1.89 ล้านบาท |
โมดิซ สเตชั่น (Modiz Station)
เจ้าของโครงการ: บริษัท แอสเซท ไวซ์ จำกัด
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 1 อาคาร 8 ชั้น จำนวน 246 ยูนิต
เปิดขาย: 10 – 11 กันยายน 2559
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มสร้างปี 2560 ประมาณการก่อสร้าง: คาดว่าแล้วเสร็จปี 2561
EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม): อยู่ระหว่างดำเนินการ
ที่จอดรถ: จำนวน 78 คัน (ไม่รวมซ้อนคัน) หรือประมาณ 40%
ราคาขายเริ่มต้น: 1.89 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย/ตารางเมตร: 90,000 บาท/ ตร.ม.
รูปแบบ: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
1 ห้องนอน ขนาด 23 ตร.ม. จำนวน 108 ยูนิต
1 ห้องนอน Extra ขนาด 26 ตร.ม. 110 ยูนิต
1 ห้องนอน Plus ขนาด 30 – 36 ตร.ม. 24 ยูนิต
2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม. 4 ยูนิต
สรุป
เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 เป็นคอนโดใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวในย่านพหลโยธิน สะพานใหม่เหมาะกับคนที่ทำงานและกำลังมองหาที่อยู่อาศัย หรือบ้านหลังแรกของตัวเองในย่านนี้ ที่ไม่ใช่แค่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า แต่ยังต้องมีองค์ประกอบที่ครบครันสำหรับการอยู่อาศัยอีกด้วย ซึ่งทำเลนี้ก็สามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมีทั้งสถานที่ราชการ สถานศึกษา ตลาด ร้านสะดวกซื้อ ซูปเปอร์มาเก็ต แหล่งแฮงค์เอาท์ รวมไปถึงสถานที่ไลฟ์สไตล์ ถึงแม้จะถูกมองว่าเป็นพื้นที่รอบนอกแต่ด้วยความครบเครื่องแล้ว ก็ถือว่าเป็นอีกย่านที่สมบูรณ์ไปทุกองค์ประกอบ อีกทั้งเมื่อไหร่ที่รถไฟฟ้าสายสีเขียวสร้างเสร็จก็ยิ่งจะทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้สามารถ เข้าเมืองได้อย่างสะดวกมากขึ้นทีเดียว
ส่วนตัวของโครงการแล้วใครที่ชอบความแตกต่างโครงการนี้ก็มีห้องพักให้เลือกอย่างหลากหลายมีการจัดวางสัดส่วนอย่างลงตัวจนไม่ต้องขยับอะไรเลย ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มาก็ครบ แต่จะพอหรือเปล่าต้องดูกันอีกที อีกทั้งที่ตั้งโครงการเข้าไปในซอยนิดหน่อย แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือความสงบ ด้านงบประมาณระดับราคาเริ่ม 1.49* ซึ่งเป็นห้องโปรห้องเปล่าบอกเลยว่าถูกแต่มีแค่ห้องเดียวไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่า นั่นก็อยู่ที่ความเหมาะสมของแต่ละคน ส่วนใครที่มีกำลังผ่อนประมาณ 12,000 – 25,000 บาท/เดือน โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในย่านนี้ที่สะดุดตาทีเดียว
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ