รีวิวโครงการ: เจ ซิตี้ สุขุมวิท – แพรกษา (J City Sukhumvit - Phraeksa)

โครงการ เจ ซิตี้ สุขุมวิท – แพรกษา (J City Sukhumvit – Phraeksa) เป็นหนึ่งใน 4 โครงการบนอาณาจักรของ JSP City สุขุมวิท – แพรกษา ที่มีพื้นที่มากกว่า 170 ไร่ โดยโครงการ เจ ซิตี้ สุขุมวิท – แพรกษา (J City Sukhumvit – Phraeksa) จะตั้งอยู่ด้านในสุดของพื้นที่

การเข้าออกโครงการใช้ถนนเมนหลักภายใน JPS Cityที่กว้างกว่า 16 ม. และถนนภายในโครงการมีความกว้างที่ 12 ม. ส่วนถนนภายในซอยยูนิตต่างๆ จะกว้างที่ 9 ม. ซึ่งยังเป็นความกว้างที่สามารถจอดรถหน้าบ้านโดยยังสามารถขับรถเข้าออกภายในซอยได้

ภายในโครงการมีพื้นที่สวยสวยสไตล์อังกฤษตามภาพ

ยูนิตเฉลี่ยในซอยมากสุดอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 15 ยูนิต รวมทั้งสองฝั่งในซอยยูนิต

ภายในรั้วโครงการ เจ ซิตี้ สุขุมวิท – แพรกษา ไม่มีส่วนกลางที่เป็นคลับเฮ้าส์อยู่ในพื้นที่โครงการ แต่จะมีคลับเฮ้าส์อยู่ด้านนอกรั้วบนอาณาจักร JSP ตั้งอยู่ใกล้กับรั้วโครงการ เจ ซิตี้ สุขุมวิท – แพรกษาเลย โดยลูกบ้านจำเป็นต้องสมัครสมาชิกเพื่อใช้ส่วนกลางรวมของทั้ง 4 โครงการนี้ ซึ่งภายในคลับเฮาส์ประกอบไปด้วย

พื้นที่ส่วนกลางสำหรับนั่งเล่นหรือพักผ่อนในคลับเฮ้าส์ชั่นล่าง

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ตั้งอยู่กลางแจ้ง มีความลึกเท่ากันตลอดแนวที่ 1.2 ม.

ส่วนชั้นบนจะเป็นพื้นที่ของฟิตเนสในอนาคต

จากมุมหน้าต่างของฟิตเนสด้านนี้ สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและโครงการ J City สุขุมวิท แพรกษา

เรื่องดีไซน์ของตัวบ้านจะเป็นดีไซน์แบบเดียวกันหมดในรูปแบบสถาปัตยกรรมของบ้านแบบอังกฤษ ตัวบ้านจะเป็นสีโทนอ่อน เน้นวัสดุช่องบานประตูหน้าต่างให้มีกริดสีขาวตัดเส้นกับบานกระจกให้อารมณ์เหมือนแบบบ้านในยุโรป

ระบบไฟฟ้าในโครงการยังเป็นคงการติดตั้งเสาไฟบนดิน ตั้งอยู่นอกรั้วบ้านมีระยะห่างจากตัวบ้านพอสมควร ดังนั้นหน้าบ้านของทุกยูนิตจะมีเสาไฟฟ้าและสายไฟเชื่อมต่อเข้าตัวบ้านตามภาพเลย

ส่วนสเป็คบ้านทั้งหมดจะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นโครงสร้าง Pre Cast หน้ากว้างกว่า 5.7 ม. ซึ่งโดยปกติจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่โครงการเลือกที่จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้ใหญ่ขึ้นโดยลดทอนให้บ้านสามารถจอดรถได้คันเดียว

แบบบ้านทั้งโครงการมีเพียงแบบเดียว Layout ตัวบ้านชั้นล่างเป็นรูปตัว L เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านแบบตอนลึก โดยเหลือพื้นที่ให้จอดรถเพียงคันเดียว ดังนั้นภายในชั้นล่างจึงสามารถจัดสรรปันส่วนพื้นที่ได้อย่างลงตัวและจัดฟังก์ชันของบ้านในสไตล์ครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คนได้สบาย จากห้องนอนภายในบ้านที่มีด้วยกันถึง 4 ห้อง โดยราคาของบ้านแต่ละหลังอาจมีส่วนต่างเรื่องราคาเล็กน้อย โดยจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับทำเล ตำแหน่งที่ตั้ง พื้นที่ดิน และพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้าน ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไม่มากนัก จากรูปแบบบ้านที่มีเพียงแบบเดียว

แบบบ้านของโครงการ J City สุขุมวิท – แพรกษา โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Pre-Cast ไม่สามารถต่อเติมได้ โครงสร้างบ้านรับประกัน 5 ปี งานสถาปัตย์ 1 ปี ส่วนอุปกรณ์ภายในบ้าน อาทิ ลูกบิด หลอดไฟ ก็อกน้ำ ประตู พื้น ผนัง หลังคา โครงการรับประกันให้ 3 เดือน

ประตูหน้าบ้านเป็นโครงเหล็กบานพับ 4 ตอน มีความสูงไม่มากอยู่ที่ 1.10 ม. ส่วนด้านในจะเป็นลานจอดรถที่เป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบสามารถจอดรถได้หนึ่งคัน

บ้านที่นำมารีวิวเป็นบ้านตัวอย่างแปลงมุมจึงมีพื้นที่บริเวณด้านข้างบ้านกว่า 1 ม. ดีไซน์ภายนอกเน้นสีขาวกับลวดลายของเส้นกริดที่ตัดกันเป็นตารางทั้งบานประตูและหน้าต่าง รวมไปถึงสวนสไตล์อังกฤษที่โครงการจัดแต่งให้เป็นตัวอย่างด้วยการวางบล็อคกระเบื้องสลับฟันปลากับพื้นหญ้า ส่วนรั้วบ้านจะมีความสูงอยู่ที่ 1.3 ม. มีลวดลายเหมือนภาพตัวอย่าง

ทางเข้าบ้านและบานหน้าต่างรอบบ้านเป็นบานเลื่อนโครงอลูมิเนียม Power Cost ลายตารางสีขาวพร้อมกระจกเขียวตัดแสงหน้า 5 มม. วงกบทั้งหมดเป็น PVC ด้านหน้าบ้านมีเฉลียงยื่นออกมากว่า 1 ม. พร้อมตัวบ้านที่ยกสูงขึ้นจากพื้นที่ 35 ซม.

ด้วยบ้านตัวอย่างที่เป็นบ้านแปลงมุมทำให้ภายในบ้านมีบานหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาสู่บ้านด้วยกันถึง 2 จุดใหญ่ๆ คือพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่น และพื้นที่บริเวณโต๊ะรับประทานอาหาร จากภาพบ้านตัวอย่างจะเห็นว่าพื้นที่ใช้สอยที่โครงการออกแบบให้เป็นแนวลึกสามารถจัดสรรห้องนั่งเล่นขนาด 4-5 คน ห้องรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง รวมไปถึงพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงานระหว่างพื้นที่ทั้งสองด้วย

ภาพตัวอย่างแบบบ้านจริงที่โครงการมอบให้จะเป็นบ้านเปล่าที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ และจุดติดตั้งแอร์ไว้ให้เรียบร้อย โดยภายในจะแบ่งเป้นพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ และห้องนอนที่ 4 ที่มีผนังกั้นสัดส่วนให้เรียบร้อย ส่วนช่องรับแสงธรรมชาติจะมีเพียง 2 มุมคือบานหน้าต่างด้านหลังบ้าน และประตูทางเข้าออกที่เป้นบานกระจกเขียวตัดแสง ภายในโปร่งโล่งผนังแบเรียบทาสีขาว พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ Nano ขนาด 60×60 พร้อมติดบัวเชิงผนัง PVC ลายไม้ โครงสร้างภายในถือว่าเก็บงานได้ดีมากกว่าบ้านทาวน์โฮมทั่วไป

ภาพเปรียบเทียบแบบบ้านจริงและบ้านตัวอย่าง ห้องน้ำกลางจะอยู่บริเวณใต้คานบันได ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่ 4 ที่มีผนังกั้นเรียบร้อย โดยห้องนอนที่ 4 นี้จะมีพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 2.45×2.30 ม. หรือ 5.60 ตารางเมตรเท่านั้น แต่ก็สามารถจัดสรรให้เป้นห้องนอนได้ด้วยการวางเตียงเดี่ยว แถมยังสามารถวางตู้เสื้อผ้าแบบยังเหลือพื้นที่ให้แต่งตัวได้สบาย ภายในห้องนี้จะมีบานหน้าต่างที่หันไปรับแสงจากทางหลังบ้าน 1 จุดด้วย

กลับมาที่มุมรับประทานอาหารจะเห็นว่าพื้นที่ในส่วนนี้มีขนาดกว้างขวางมา โครงการให้ไอเดียจัดวางโต๊ะ 4 ที่นั่งก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบโต๊ะได้สบายๆ หากขยับโต๊ะเข้ามาทางซ้ายมือหน่อยก็จะสามารถติดตั้งเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L เข้ามุมบ้านหรือ Pantry ในส่วนนี้ได้เลย ส่วนถัดไปด้านในนั้นจะเปนบานประตูเชื่อมต่อไปสู่พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน

พื้นที่ด้านหลังบ้านเป็นพื้นซีเมนต์ปาดเรียบ โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าและระบบประปาไว้ให้เรียบร้อยสามารถต่อเติมครัวด้านหลังบ้านได้ ส่วนรั้วโครงการด้านหลังจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 1.65 ม. ทั้งนี้โครงการมอบปั้มน้ำกับถังน้ำสำรองความจุ 1,600 ลิตรให้ด้วย

พื้นที่อเนกประสงค์ชั้นล่างมีพื้นที่ใช้สอยโดยรวมอยู่ที่ 25 ตร.ม. มีตำแหน่งของบันไดอยู่บริเวณกลางบ้าน โดยโครงสร้างบันไดจะเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป ลูกตั้งเป็นไฟเบอร์ซีเมนต์สีขาว ส่วนลูกนอนปิดผิวด้วยไม้สำเร็จรูป ที่กั้นตกเป็นโครงเหล็กมีราวจับเป็นพื้นผิวไม้สำเร็จรูปเช่นกัน

พื้นชั้นสองเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ทั้งชั้น ความสูงจากพื้นชั้นสองจรดเพดานมากกว่าความสูงเพดานชั้นล่าง 10 ซม. หรืออยู่ที่ 2.7 ม. ด้านหน้าหัวบันไดเป็นตำแหน่งขอห้องน้ำกลาง ทางด้านซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งของห้องนอนที่ 2 และ 3 ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ส่วนทางหน้าบ้านจะเป็น Master Bedroom ที่ไม่มีห้องน้ำในตัว

ห้องนอนที่ 2 มีขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2.85×3.35 หรือ เกือบๆ 10 ตร.ม. จากพื้นที่รอบเตียงขนาด 3.5 ฟุตตามภาพตัวอย่างห้องนอนนี้น่าจะสามารถวางเตียงคู่ขนาด 5 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะทำงานได้เลย

ห้องนอนที่ 3 มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนที่ 2 มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ประมาณ 2.85×2.75 หรือ 7.80 ตร.ม. สามารถวางเตียงเดี่ยวพร้อมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้ หรือ จะทำให้เป็นห้องทำงานก็ย่อมได้ เพราะภายในห้องสามารถรับแสงธรรมชาติให้เข้ามาสู่ตัวห้องได้หนึ่งมุมจากทางหลังบ้าน

ห้องน้ำชั้นสองออกแบบ Layout ให้มีพื้นที่ใช้สอยแบบตอนลึก มีขนาดประมาณ 3.80 ตร.ม. หรือตู้โทรศัพท์วางต่อกันไม่เกิน 3 ตู้ พื้นที่อาบน้ำถูกวางไว้ด้านในสุด โครงการไม่ได้มอบบานกั้นห้องอาบน้ำให้แต่ทำธรณีกั้นน้ำไหล ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ภายในห้องน้ำเป็นของ American Standard หรือ เทียบเท่า ส่วนพื้นและผนังห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก Cotto ขนาด 30×30 ซม.

ห้องอาบน้ำกลางชั้นสองโครงการได้มีการมาร์คจุดติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งห้องน้ำชั้นล่างจะไม่ได้ติดตั้งสายไฟซ่อนผนังไว้ ส่วนฝักบัวที่ดครงการมอบให้เป็นแบบธรรมดาไม่สามารถปรับระดับน้ำได้ พื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 80 ซม. ยาวประมาณ 120 ซม. คนตัวใหญ่อาจจะไม่สบายตัวเท่าคนตัวเล็กแต่ก็ยังได้รับพื้นที่จากห้องอาบน้ำที่ไม่มีฉากกั้น

Master Bedroom มีขนาดกว้างเท่าตัวหน้าบ้านที่ 5.7 ม. มีความยาวห้องที่ 2.75 ม. รวมพื้นที่ใช้สอยประมาณ 16 ตร.ม. โดยจากภาพจะเห็นว่าภาพบ้านเปล่าและภาพบ้านตัวอย่างสามารถกั้น Partition แบ่งโซนห้องออกเป็นสองส่วนได้สบายๆ

รูปแบบของ Master Bedroom เน้นพื้นที่ใช้สอยแนวยาว ระบบไฟในห้องเป็นแบบดาวน์ไลท์ พร้อมบานหน้าต่างแบบ Full Height ที่สามารถเปิดรับลมพร้อมรับแสงธรรมชาติเข้ามาสู่ตัวห้องได้อย่างเต็มที่ ในจุดนี้จะต้องทำการติดตั้งม่านอย่างแน่นอนเพราะโครงการไม่ได้มอบม่านให้

ที่ฝั่งปลายเตียงจะเป็นพื้นที่ใช้สอยอีกหนึ่งโซนที่โครงการจัดสรรให้เป็นมุมแต่งตัวหรือมุมตู้เสื้อผ้า โดยจัดสรรให้มีฉากกั้นระหว่างห้องที่สามารถปรับฟังก์ชันการใช้งานให้เป็นได้ทั้งโต๊ะทำงาน และชั้นวางที่วี

เจาะลึกเข้ามาที่บริเวณพื้นที่แต่งตัวจะเห็นว่ายังเหลือพื้นที่ให้สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ โดยยังเหลือพื้นที่กว้างขวางสำหรับยืนแต่งตัว ถึงแม้ตัวบ้านจะไม่มีระเบียงบ้าน แต่จากภาพรวมทั้งหมดหากจัดสรรบ้านให้สวยงามโดยเน้นการตกแต่งภายนอกและภายในให้สอดคล้องกับรูปแบบบ้านก็จะทำให้บ้านสามารถพักผ่อนได้ทุกจุดแบบไม่ต้องพึ่งระเบียงบ้านเลย

วัสดุของบานประตูห้องน้ำและห้องนอนทุกจุดภายในบ้านจะเป็นบานประตูโครงสร้าง HDF ลูกบิดเป้นแบบธรรมดาสามารถล็อคมือได้จากด้านใน และไขกุญแจได้จากด้านนอกเท่านั้น