รีวิวโครงการ: เจ วิลล่า วงแหวน-บางใหญ่ (J Villa Wongwaen-Bangyai)

โครงการ เจ วิลล่า วงแหวน-บางใหญ่ (J Villa Wongwaen-Bangyai) ถูกออกแบบมาในคอนเซปต์ French House บ้านสไตล์ฝรั่งเศสที่เน้นไปที่ความเรียบหรู ลายเส้นต่างๆ และมูดโทนของสีบ้านนำไอเดียจากประตูชัยอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวลในกรุงปารีสมาเป็นไอเดียในการตกแต่งภายนอก และอัดฟังก์ชันภายในให้กับบ้านแฝดที่เป็นบ้านขนาดเริ่มต้นถึง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมขนาดบ้านที่ทำออกมาให้เต็มพื้นที่แบบไม่ต้องต่อเติมภายนอก โครงการจึงเลือกใช้ระบบ Pre-Cast ให้การสร้างบ้านทุกหลัง ถึงแม้จะเป็นข้อเสียของคนที่อยากต่อเติมบ้าน แต่ก็ถือเป็นข้อดีของบ้านแฝดในราคา 3.79 ล้านบาทที่ได้พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านกว่า 140 ตร.ม.หรือเกือบเทียบเท่าบ้านเดี่ยวเลย

ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศใต้ ส่วนด้านหลังรั้วโครงการ เจ วิลล่า วงแหวน-บางใหญ่ (J Villa Wongwaen-Bangyai) จะติดอยู่กับพื้นที่ของผู้พัฒนาที่ในอนาคตจะเป็นโครงการ J City โดยแบ่งแยกโครงการและส่วนกลางกันอย่างชัดเจน ดังนั้นทางด้านทิศตะวันตกของโครงการจึงเป็นเส้นทางภาระจำยอมเข้าไปสู่โครงการ J City ด้านใน ส่วนทางทิศตะวันออกยังเป้นพื้นที่เปล่ารอการพัฒนา บรรยากาศรอบๆ ค่อนข้างเงียบสงบ

ผังโครงการแบบบ้านแฝด De Nice พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 138 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน

คลับเฮาส์และสวนสาธารณะ

บ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ French House แต่วัสดุหลักๆ ของบ้านยังคงเป็นโครงสร้าง Pre-Cast การต่อเติมภายนอกอาจจะค่อนข้างลำบากการทุบ ฝัง ต่อเติมต่างๆ อาจมีผลกระทบต่อตัวโครงสร้าง แต่สำหรับภายในพื้นที่จะเปิดโล่งไม่มีเสาบ้านตั้งอยู่ในบ้านการต่อเติมสามารถทำได้โดยไม่ต้องทุบติดตั้งผนังเบากั้นส่วนห้องต่างๆ ได้อย่างไม่ลำบาก ส่วนวัสดุภายในบ้านส่วนโครงการเลือกใช้วัสดุที่ให้ความหรูหราและทำความสะอาดง่าย อาทิ กระเบื้องชั้นล่างที่ใช้แกรนิตโต้แผ่นใหญ่รอยต่อน้อย กระจกเขียวตัดแสงที่ใช้วงกบอลูมิเนียมเป็นสีเบจที่ไม่ค่อยได้พบเห็นตามโครงการบ้านทั่วไป ซึ่งช่วยให้บ้านดูหรูขึ้นจากเดิมเยอะพอสมควร ส่วนที่ชั้นสองพื้นจะเป็นไม้ลามิเนตและผนังของบ้านทั้งหมดจะเป็นพื้นสีขาวฉาบเรียบ ส่วนสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ทุกห้อง

เนื่องจากบ้านเดี่ยวมีผู้สนใจเยอะมากและทำการปิดขายไปตั้งแต่วันเปิดตัว บ้านที่นำมารีวิวในวันนี้เป็นบ้านแฝด De Nice ที่มีรูปแบบไม่ได้แตกต่างจากบ้านเดี่ยวเลยเพียงแต่มีพื้นที่ใช้สอยต่างกันเพียงไม่เกิน 20 ตารางเมตรเท่านั้นจากการวางโครงสร้างบ้านเกือบเต็มพื้นที่ ภายนอกบ้านมีประตูทางเข้าหลักที่เป็นบานเลื่อน และบานประตูวัสดุไม้อัดคุณภาพสูงที่ลานจอดรถ วงกบบานประตูหน้าต่างเป็นสีแชมเปญตัดกับสีบ้านที่เป็นสีเบจ งานตกแต่งภายนอกทำออกมาค่อนข้างหรูหราแต่ใช้วัสดุเกรดมาตรฐานทั่วไป

ถนนหน้าบ้านกว้างประมาณ 12 ม. รั้วโครงการสูงกว่า 3 เมตร ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง ด้วยแบบบ้านที่สามารถจอดรถได้ 2 คันกับถนนที่กว้างพอสมควร น่าจะช่วยในเรื่องความสะดวกตอนอยู่อาศัยจริงเรื่องการจอดรถหน้าบ้านตลอดจนการใช้ถนนในโครงการไปสู่ยูนิตต่างๆ ของลูกบ้าน

เข้ามาในตัวบ้านชั้นแรกสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ Layout ของมุมรับแสงในบ้านที่ประกอบด้วยบานหน้าต่างบริเวณหลังโซฟา และบริเวณโต๊ะรับประทานอาหารที่หันไปรับแสงด้านหลังบ้าน โดยอีกมุมหนึ่งข้างโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นบานประตูเลื่อนสองตอนเชื่อมต่อกับพื้นที่ด้านข้างบ้าน ซึ่งบานกระจกทั้งสามมุมนี้เป็นบานแบบ Full Height ในช่วงกลางวันเรียกได้ว่าไม่ต้องเปิดไฟเลย อีกทั้งยังช่วยกรองความร้อนได้เพราะทางโครงการเลือกใช้บานกระจกเขียวตัดแสงทุกบาน

ด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เกือบๆ เท่าบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นที่ 138 ตร.ม. นอกจากจะสามารถจัดชุดโซฟาในห้องนั่งเล่นแบบ 4-6 ที่นั่ง และมุมโต๊ะรับประทานอาหารไม่เกิน 6 คนได้แล้ว ยังเหลือพื้นที่สำหรับ Pantry ภายในบ้านทำครัวแบบไม่หนักมากหรือหากจะต่อเติมให้เป็นครัวปิดก็สามารถทำได้เพียงติดตั้งผนังเบาและบานประตูกั้นส่วน แต่อาจจะอึดอัดหน่อยเพราะพื้นที่มีจำกัด แนะนำให้ต่อเติมครัวบริเวณหลังบ้านดีกว่าหากต้องทำครัวหนักๆ

บริเวณหลังบ้านโครงการ Set Back ให้ห่างจากรั่วบ้านที่ประมาณ 2 เมตรตามกฎหมายการสร้างบ้าน แบบบ้านจริงจะไม่มีรั้วต้นไม้เหมือนในภาพทำให้พื้นที่หลังบ้านดูกว้างขึ้นสามารถต่อเติมครัวหลังบ้านขนาดใหญ่ได้สบาย โครงการได้ติดตั้งระบบน้ำ ระบบไฟไว้ให้เรียบร้อย ส่วนพื้นที่ด้านข้างบ้านที่เชื่อมต่อกับห้องรับประทานอาคารกว้างประมาณ 2 เมตรเช่นกัน โดยแบบบ้านจริงในส่วนนี้น่าจะจัดสรรพื้นที่เป็นส่วนอื่นๆ ได้ตามใจชอบเนื่องจากโครงการไม่ได้มอบสวนให้

ถัดมาจากห้องครัวเปิดภายในบ้านตัวอย่าง เป็นทางเชื่อมไปสู่ห้องนอนที่ 4 และห้องน้ำกลางที่อยู่ทางหน้าห้อง บริเวณพื้นที่ตรงที่จะมีประตูทางเข้าออกสำรองไปสู่ที่จอดรถได้ ภายในห้องน้ำกลางชั้นล่างสามารถอาบน้ำได้รองรับผู้อยู่อาศัยในชั้นนี้ ส่วนบริเวณบันไดจะเป้นทางขึ้นวนรูปตัว U ความชันอยู่ในระดับมาตรฐานทั่วไปสามารถใช้งานสะดวกทั้งผู้สูงอายุและเด็กจากชานพักที่กลางชั้นและราวจับตลอดแนวบันได

ภายในห้องนอนที่ 4 เป็นห้องขนาดมาตรฐาน สามารถตกแต่งให้เป็นได้ทั้งห้องนอนคู่ และห้องนอนเดี่ยว โดยจากบ้านตัวอย่างโครงการให้ไอเดียตกแต่งเป็นห้องนอนเดี่ยว วางเตียง 3.5 ฟุต ทำให้เหลือพื้นที่ภายในห้องสำหรับวางตู้ชั้น ต่างๆ ได้สบายๆ ส่วนวอลล์เปเปอร์ที่เห็นในภาพโครงการไม่ได้มอบให้ แบบบ้านจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี

โถงหน้าบันไดมีขนาดไม่กว้างมาก โครงการออกแบบ Layout ในส่วนของพื้นที่ห้องนอนต่างๆ ให้ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ โดยไม่เน้นประโยชน์ที่โถงหน้าบันไดเท่าไหร่ แต่ก็ยังเหลือพื้นที่เล็กๆ ทางด้านขวามือที่มีผนังยื่นออกมาทำมุมกับที่กั้นตกสามารถวางชั้นหนังสือหรือโซฟาเล็กๆ ได้ ส่วนตำแหน่งของห้องน้ำหลางจะอยู่ตรงกับหัวบันไดเลย ภายในมีสุขภัณฑ์ครบครัน ตกแต่งภายในเน้นโทนสีให้เข้ากับสีของบ้าน มุมอาบน้ำมีการดรอปพื้นลงจากพื้นจริงเพื่อกั้นน้ำไหล เนื่องจากโครงการไม่ได้มอบบ้านกั้นส่วนให้

ห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3 อยู่ในตำแหน่งที่หันไปทางส่วนของหลังบ้าน ห้องนอนที่ 2 มีขนาดใหญ่พอที่จะทำให้เป็นห้องนอนแบบคู่ได้ แต่ห้องนอนที่ 3 จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย หากดุจากภาพที่ Layout ของห้องนอนสีชมพูน่าจะเหมาะที่จะทำเป้นห้องทำงานหรือห้องนอนแบบเดี่ยวมากกว่า

มาที่ไฮไลท์ของตัวบ้านอย่าง Master Bedroom จากสเปคถือว่าพื้นที่ใช้สอยยังไม่ใหญ่มากนักหากเปรียบเทียบกับบ้านเดี่ยว แต่ก้ถือว่าคุ้มค่ากับการแลกมาของแบบบ้านแฝดที่มีถึง 4 ห้องนอน แถม Master Bedroom เองยังมีห้องน้ำในตัว ถึงห้องจะไม่ใหญ่มากแต่ต้องบอกว่าโครงการออกแบบพื้นที่มาให้จัดสรรฟังก์ชันของห้องนอนใหญ่ได้ครบครันทั้งพื้นที่ที่สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้ โดยยังเหลือพื้นที่รอบเตียงที่เกือบๆ 1 ม. รวมไปถึง Walk in Closet ที่มีทั้งโต๊ะเครื่องแป้งและพื้นที่ในการแต่งตัวสบายๆ ได้ 2 คนและห้องน้ำในตัวที่มีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในห้องนอนใหญ่

ส่วนสุดท้ายของห้องนอนใหญ่อย่างระเบียงห้องก็ถือเป็นไฮไลท์ของห้องเช่นกัน เนื่องจากมีขนาดใหญ่บ้าน เรียกได้ว่าพื้นที่ใช้สอยจริงอาจจะกว้างกว่าบ้านเดี่ยวตามโครงการอื่นๆ ด้วยซ้ำ จากภาพจะเห็นว่าบริเวณระเบียงสามารถจัดวางชุดโต๊ะกาแฟได้ 2-3 ที่นั่งเลยทีเดียว อีกทั้งโครงการยังออกแบบชานพักคอมเพรสเซอร์แอร์ให้อยู่คนละส่วนกับระเบียงด้วย