ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
อ่านต่อ ⋅ 11 พฤษภาคม 2022
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หลังจากเปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ล่าสุด โครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ติดถนนใหญ่ตึกแรกๆ บริเวณสี่แยกประชานุกูลของค่ายเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ อย่างเดอะนิช โมโน รัชวิภา” (The Niche Mono Ratchavipha) คอนโดมิเนียมไฮไรส์ ความสูง 27 ชั้น ก็ถึงกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ รับความบูมของทำเลรัชวิภา โดยมีจุดขายของทำเลอยู่ที่ความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กับทางด่วนศรีรัช (ฝั่งตรงข้ามโครงการ) อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญๆ อย่างรัชดาภิเษก วิภาวดีฯ และบริการที่เอาใจคนทำงานในเมืองกับ Shuttle Van รับ–ส่ง สถานีรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT โดยปัจจุบันโครงการปิดการขายตึก A เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ตึก B มียอดขายกว่า 80% และคาดว่าน่าจะสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้ในอนาคตอันใกล้
aaa
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 9 มี.ค. 2559)
ชื่อโครงการ: เดอะนิช โมโน รัชวิภา (The Niche Mono Ratchavipha)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA)
ที่ตั้งโครงการ: ติดถนนรัชดาภิเษก บริเวณสี่แยกประชานุกูล
โทร: 1775 กด 22
เว็บไซต์: www.sena.co.th
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 6 ไร่ 1 งาน 52 ตารางวา
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ ความสูง 27 ชั้น จำนวน 2 อาคาร อาคาร A มี 528 ยูนิต เฉลี่ยชั้นละ 22 ยูนิต อาคาร B มี 312 ยูนิต เฉลี่ยชั้นละ 13 ยูนิต รวมทั้งสิ้น 840 ยูนิต
เปิดขาย: อาคาร A ปี 2556 / อาคาร B 2558
สถานะการขาย: อาคาร A (Sold out) / อาคาร B 80%
รายละเอียดการจอง: เงินจอง 10,000 บาท เงินทำสัญญา 40,000 บาท ไม่มีงวดดาวน์
ค่าส่วนกลาง: 39 บาท/ ตร.ม./ เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่าที่จอดรถ: รถยนต์ 300 บาท/ เดือน, รถจักรยานยนต์ 50 บาท/ เดือน
เงินกองทุน: 500 บาท/ ตร.ม (ชำระครั้งเดียว)
สถานะการก่อสร้าง: สร้างเสร็จ พร้อมโอนกรรมสิทธิ์
จำนวนที่จอดรถ: 55% สิทธิ์การจอด 1 ห้อง ต่อ 1 คัน
ระบบรักษาความปลอดภัย: รปภ. ตลอด 24 ชม. , กล้อง CCTV รอบโครงการ, ระบบ Key Card เข้า-ออกอาคาร, ระบบลิฟท์ล็อคชั้น (Proxy Lift)
สิ่งอำนวยความสะดวก: จากุซซี่, สระว่ายน้ำความยาว 29 เมตร, สปา, ห้องสมุด, ฟิตเนส, สนามเด็กเล่น, รถตู้ 2 คันรับส่งตามสถานีรถไฟฟ้ารอบโครงการ และสวนสาธารณะขนาดกว่า 2 ไร่
ราคาขายเริ่มต้น: 2.3 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย/ตารางเมตร: ประมาณ 70,000-80,000 บาท
ราคาปล่อยเช่าเฉลี่ย: ประมาณ 10,000-12,000 บาท (สำหรับห้อง 30 ตร.ม.)
รูปแบบแบบห้อง: มีทั้งหมด 2 แบบ ตกแต่งแบบ Fully Fitted ประเภท 1 ห้องนอน 4 แบบ และ 2 ห้องนอน
1 ห้องนอน Type A1 – Type A4 ขนาด 30.08 – 39.57 ตร.ม.
2 ห้องนอน Type B3 – ขนาด 62.23 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
เดอะนิช โมโน รัชวิภา
เดอะนิช โมโน รัชวิภา คอนโดมิเนียมไฮไรส์ บนทำเลที่ตั้งโครงการบริเวณถนนรัชดาภิเษกตอนปลาย หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “รัชวิภา’ ที่ตั้งของโครงการทางทิศตะวันตกอยู่ติดแยกประชานุกลู ฝั่งถนนประชาชื่น ด้านหน้าโครงการหันเข้าถนนรัชดาภิเษก ทิศตะวันออกหันไปบริเวณทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) ทิศเหนือหันเป็นทางแยกพงษ์เพชร ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีโครงการไหนขึ้นมาบดบังวิวของคุณอย่างแน่นนอน จะมีก็แต่ด้านในของตัวอาคารที่หันเข้าหากันเอง แต่ด้วยความห่างระหว่างตึกไม่ต่ำกว่า 20 เมตรโดยประมาณก็น่าจะทำให้หายห่วงไปได้อีกเปราะ ซึ่งจะมีพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารบริเวณชั้น 4 ที่ประกอบไปด้วยจากุซซี่, สระว่ายน้ำความยาว 29 เมตร, สปา, ห้องสมุด, ฟิตเนส, สนามเด็กเล่น, สวนสาธารณะรวมทั้งหมดกว่า 2 ไร่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง Shuttle Van ที่มีไว้คอยรับส่งจาก MRT และ BTS ที่อยู่รอบรัศมีโครงการอีกด้วย
Master Plan
ด้านตัวอาคารตกแต่งสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบง่ายเน้นสีขาวตัดกับสีน้ำเงินเข้มทำให้ดูสุขุมและมีความโดดเด่น ด้วย ความสูง 27 ชั้นทั้ง 2 อาคาร โดยอาคาร A เริ่มก่อสร้างก่อน เป็นรูปตัว “L” หันออกไปทางทิศตะวันตก มียูนิตแต่ละชั้นเฉลี่ย 22 ยูนิต ส่วนอาคาร B เป็นรูปตัว “I”อยู่ทางทิศตะวันออก โดยจะมียูนิตแต่ละชั้นเฉลี่ย 13 ยูนิต โดยทั้ง 2 อาคารสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ในประมาณเดือนพฤษภาคม 2559 นี้ และทั้ง 2 อาคารจะมีนิติบุคคลที่บริหารแยกกันเพื่อความเป็นสัดส่วน ที่จอดรถภายในโครงการคิดเป็น 55% (เฉพาะด้านในอาคาร) สิทธิ์การจอด 1 ห้อง ต่อ 1 คัน แต่จะมีค่าที่จอด โดยรถยนต์ 300 บาท/เดือน รถจักรยานยนต์ 50 บาท/เดือน หากใครไม่อยากเสียเงินก็จอดพื้นที่รอบนอกได้เช่นกัน ส่วนเรื่องอาหารการกิน นอกจากร้านสะดวกซื้อภายในโครงการแล้ว บริเวณรอบๆ ในระยะเดินได้อาจจะเงียบเหงา หากต้องการความหลากหลายต้องขับรถออกไปหน่อย
ทิศตะวันออกของโครงการหันไปทางถนนรัชดาภิเษก
วิวของทิศตะวันออก
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ทิศเหนือหันไปทางแยกพงษ์เพชร
วิวทางทิศเหนือ
ทิศตะวันตก หันไปทางโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น
วิวทางทิศตะวันตก
ทิศตะวันตกเฉียงใต้หันเข้าหาถนนประชาชื่น
ทิศใต้หันมาทางแยกประชานุกูล
ด้านหน้าทางเข้าตัวอาคาร A
เส้นทางพิเศษที่ทางโครงการตัดจากจุดลงทางด่วนด่านประชานุกูล ฝั่งประชาชื่น
ล็อบบี้ของโครงการฝั่งตึก A
พื้นที่ส่วนกลาง ห้องรับรองแขก
ตู้จดหมายอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่รับรองแขก
ขยับไปที่ชั้น 4 เป็นชั้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ประกอบไปด้วย จากุซซี่, สระว่ายน้ำความยาว 29 เมตร
มีศาลานั่งเล่นพักผ่อนกลางแจ้ง
อาคารฟิตเนสชั้นล่าง ห้องนั่งเล่นและห้องสมุดบริเวณชั้นบนของพื้นที่ส่วนกลางบริเวณระหว่างทั้ง 2 อาคาร
ห้องฟิตเนสพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน
ชั้น 2 เป็นห้องสมุด ห้องนั่งเล่น
อีกทั้งยังมีห้องประชุม หากลูกบ้านต้องการทำกิจกรรมต่างๆ
ภาพจากมุมสูงของสระว่ายน้ำ ทำให้เห็นความกว้างระหว่างตึกไม่ต่ำกว่า 20 เมตร
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
Unit Plan
แปลนห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน Type A1 – ขนาด 30.08 ตร.ม.
ประตูทางเข้า เป็นวงกบไม้ บานประตู HDF ที่ดูสวยงามมีสไตล์
พื้นที่ห้องนั่งเล่นกว่า 3.4 เมตรโดยประมาณกับความสูงของเพดานที่ไม่ต่ำว่า 2.4 เมตร ทำให้ห้องดูโปร่งมากทีเดียว
ด้านขวาของห้องเป็นชั้นวางทีวีแบบบิลท์อินแบบลอยตัว ท็อปด้วยลามิเนตสีขาวดูสวยงามสะอาดตา
โซฟาของโครงการที่แถมมากับห้องเป็นแบบ 2 ที่นั่งออกแบบมาให้เฉพาะโครงการ วางเข้ามุมนุ่มสบาย
พื้นที่ด้านหน้าจัดให้เป็นโซนรับแขกและทำกิจกรรม
การที่มีฉากกั้นห้องครัวเพื่อป้องกันกลิ่นเข้าห้องนั่งเล่น ตามสไตล์ครัวนอกซึ่งเหมาะกับคนชอบทำอาหาร
ห้องครัวจัดแบบอเนกประสงค์พร้อมโต๊ะรับประทานอาหาร
พื้นที่ครัวกว้างกว่า 2 เมตรที่ให้ความสะดวกต่อการใช้งานจริง
ชุดครัวบิลท์อิน ท็อปด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนให้ความสวยงามดูแลรักษาง่าย
ชุดครัวเป็นของโมเดิร์นฟอร์ม หรือเทียบเท่า มีทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่าง และก๊อกน้ำ
ฉากกันเป็นอลูมิเนียมดำพร้อมกระจกใสเขียวตัดแสง ช่วยเรื่องของลดความร้อนจากแสงแดดและกันเสียงได้พอสมควร
คอมเพรสเซอร์แอร์แบบแขวน พร้อมพื้นที่ซักล้างที่ระเบียง ติดตั้งระบบไฟและท่อน้ำพร้อมใช้งาน
กั้นระเบียงด้วยแนวระแนงเพื่อความสวยงาม
ในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน พร้อมฉากกั้นเอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย
ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler หรือเทียบเท่า เน้นโทนสีขาวสะอาดตา
ห้องอาบน้ำยกขอบกันน้ำ พื้นกระเบื้องเซรามิกขนาด 16×16 ซม. ผิวหยาบกันลื่น
มุมมองภายในห้องนอนดูโปร่งจากความสูงของตัวห้อง 2.5 เมตร
มีพื้นที่ด้านข้างเหลือๆ ไม่ได้แคบจนเกินไป
พื้นที่ว่างด้านปลายเตียงกว้างพอประมาณ พร้อมชั้นวางทีวีบิลท์อินแบบลอยตัว
เตียงขนาด 5 ฟุต กำลังดีสำหรับห้องขนาดนี้ ถ้าเป็น 6 ฟุต คงจะดูแน่นเกินไป
1 ห้องนอน Type A3 – ขนาด 34.60 ตร.ม.
ประตูทางเข้า เป็นวงกบไม้ บานประตู HDF ไม่ต่างกันกับห้องอื่นๆ เป็นแบบมาตรฐานของโครงการ
ด้วยพื้นที่ห้องที่มีขนาดมากขึ้นทำให้การวางแปลนห้องดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น
ด้านขวา โซฟาแบบสองที่นั่งพร้อมที่วางที่ออกแบบมาสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ ชั้นวางทีวีบิลท์อินลอยตัว
ส่วนอีกมุมแยกเป็นห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว เป็นสัดส่วน
แต่โต๊ะรับประทานอาหารจะมายู่ด้านนอกแทนเพราะพื้นที่ด้านในห้องครัวอาจไม่กว้างนัก
ห้องน้ำแยกส่วนเปียกแห้ง พร้อมฉากกันและยกพื้นกันน้ำ มีการเจาะผนังไว้เพื่อวางของเหมือนห้องจริง
ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ Kohler หรือเทียบเท่า เน้นโทนสีขาวสะอาดตา
กลับมายังโซนห้องครัวเป็นแนวยาวชิดกำแพงตามรูปทรงของพื้นที่
การที่วางครัวแนวยาวก็เพื่อการจัดวางที่สะดวก เป็นรูปแบบง่ายๆ แต่ลงตัวน่าใช้งาน
คอมเพรสเซอร์แอร์แบบยกลอยพร้อมที่วางเครื่องซักผ้าแต่ด้วยพื้นที่จำกัด เครื่องที่จะมาวางต้องเป็นเครื่องแบบฝาหน้า
ชุดครัวเป็นของโมเดิร์นฟอร์ม หรือเทียบเท่า มีทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่าง และก๊อกน้ำ ท็อปด้วยกระเบื้องลานหินอ่อน
ห้องนอนดูกว้างขึ้นมากเมื่อเทียบกับห้องแรก
พื้นที่ว่างด้านปลายเตียงทำอะไรไม่ได้มากนัก มีเพียงชั้นวางของแบบลอยตัวติดตั้งที่บิวท์อินมาให้พร้อมกับห้อง
ชั้นวางทีวีบิลท์อินแบบลอยตัวเป็นแนวยาวชิดกำแพงไปเป็นที่นั่งแต่งหน้า หรือโต๊ะทำงานก็ได้
ตัวห้องนอนมีขนาดกว้างขึ้นทำให้สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบาย แต่ที่โครงการให้จะเป็นแบบ 5 ฟุต
ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ชิดกำแพงแนวนอน เพื่อเปิดทางให้เดินไปเข้าห้องน้ำจากห้องนอนได้สะดวก
ภายในห้องน้ำ ใช้วัสดุและการตกแต่งเดียวกันกับห้องแรก ต่างเพียงแค่การจัดวาง
1 ห้องนอน ขนาด 39.57 ตร.ม.
ประตูทางเข้าเป็นวงกบไม้ บานประตู HDF เช่นเดียวกับแบบอื่นๆ ตามมาตรฐานของโครงการ พร้อมด้ามจับ
พื้นที่ภายในห้องแบบนี้มีความกว้างเพิ่มมากขึ้น ทำให้ห้องดูโปร่ง สบายตา
ห้องนี้มีรูปแบบแปลนที่แตกต่างจากห้องอื่น โดยมีโซนห้องนั่งเล่นอยู่ด้านในติดกับห้องครัว
ชั้นวางทีวีก็ขยับเข้ามาด้านในเช่นกัน
โดยกลับให้โต๊ะอาหารอยู่ด้านขาวมือของทางเข้า และห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ
พื้นที่ห้องครัวถูกกั้นเป็นสัดส่วน มีความกว้างเอาใจคนชอบทำอาหาร มีบานกระจกเปิดระบายอากาศ
พื้นที่ห้องครัวมีขนาดใหญ่น่าจะยู่ที่ประมาณ 3×3 เมตร เพราะมีหน้าต่างเปิดได้ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี
พื้นที่ระเบียง ติดดั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ เดินท่อน้ำ ยกขอบกันน้ำไหลเข้าห้องครัว
ทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านซ้ายมือของทางเข้า มีไฟ Down Light เหลืองนวลช่วยให้ความรู้สึกสบายตา
ภายในห้องน้ำใช้วัสดุและการตกแต่งเดียวกัน เปลี่ยนแค่การจัดวาง มีการแบ่งส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน
ชุดสุขภัณฑ์ของ Kohler หรือเทียบเท่า สีขาวแบบเรียบง่ายแต่ใช้งานดี
ขนาดพื้นที่ภายในห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ 0.5 x 0.5 ม.
ด้วยการใช้กระจกบานใหญ่ทำให้แสงเข้าห้องได้อย่างเต็มที่ และทำให้ห้องดูสว่างมากขึ้น
พื้นที่ภายในห้องนอนกว้างประมาณ 3 เมตร ซึ่งดูแคบกว่าห้องนอน Type A3 เล็กน้อย
จากพื้นที่ว่างด้านข้างทำให้เห็นว่า สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ
เตียงที่ทางโครงการใช่เป็นแบบ 5 ฟุตทำให้มีพื้นที่เหลือๆ
พื้นที่ด้านข้างนี้เราสามารถทำเป็นโต๊ะทำงาน หรือเอาโซฟาเบดมาวางได้ตามใจชอบแล้วแต่สไตล์
ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินบานเลื่อนท็อปด้วยกระจก ท็อปด้วยกระจก
2 ห้องนอน Type B3 – ขนาด 62.23 ตร.ม.
มุมมองภายในห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 62.23 ตร.ม.
ด้วยความกว้างของห้องพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ทำให้ห้องนั่งเล่นโปร่งมาก
ชั้นวางทีวีแบบบิลท์อินเหมือนกับทุกห้องแต่การที่ห้องนี้มีขนาดที่กว้างกว่าทำให้ดูแปลกนิดๆ หากทำให้ชั้นวางทีวียาวเต็มพื้นที่ผนังไปเลย น่าจะดูลงตัวกว่า
พื้นที่ห้องครัวอยู่ด้านขวามือ หลังห้องนั่งเล่น จัดเรียงเป็นแนวยาวชิดกำแพง มีฉากกันกลิ่นเข้าห้องนั่งเล่น
ชุดครัวเป็นของโมเดิร์นฟอร์ม หรือเทียบเท่า มีทั้งเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่าง และก๊อกน้ำ
ประตูบานเลื่อนเป็นกระจกใสเขียวตัวแสงและเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการระบายกลิ่น
คอมเพรสเซอร์แอร์ยแขวนลอยบริเวณระเบียงเช่นกัน
มีการติดตั้งระบบไฟ และท่อน้ำสำหรับวางเครื่องซักผ้า (ฝาหน้า)
ชุดห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้ง พร้อมฉากกั้นกระจกนิรภัย
ห้องนอนเล็กอยู่ด้านหลังทีวี ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงเพราะใช้ผนังก่ออิฐฉาบเรียบทาสีช่วนในเรื่องการเก็บเสียง
ห้องนอนเล็ก ดูกว้างขึ้นจากหน้าต่างบานใหญ่สามารถเปิดปิดได้
จากขนาดเตียง 3.5 ฟุต ทำให้รู้ว่าห้องมีขนาดจำกัด เหมาะสำหรับผู้อาศัยที่เป็นเด็กเล็กหรือคนตัวเล็ก
เข้ามาให้ห้องนอนใหญ่ ทั้ง 2 ด้านเป็นตู้เสื้อผ้าและห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ เหมาะกับคนเสื้อผ้าเยอะ
สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ตามแบบมาตรฐาน ของโครงการ
เตียงขนาด 5 ฟุตแบบมาตรฐาน
ด้านหน้าเตียงยังมีการบิลท์อินชั้นวางทีวี แต่ดูจากขนาดของที่แต่งหน้าแล้ว สาวๆ คงยึดเป็นที่แต่งหน้ามากกว่าวางทีวี
บริเวณข้างเตียงเหลือพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถเอาโซฟาเบด หรือโต๊ะทำงานได้ตามใจชอบ
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
The Niche Mono Ratchavipha
ที่เราเรียกว่า “รัชวิภา” หรือ เส้นรัชดาภิเษกตอนปลาย ถือได้ตั้งอยู่บริเวณรอยระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี โดยจะสิ้นสุดเส้นรัชดาภิเษกที่แยกประชานุกูล ซึ่งเป็นแยกที่ถนนรัชดาภิเษกตัดกับถนนประชาชื่น และสามารถเชื่อมไปยังถนนกรุงเทพ-นนท์ ซึ่งเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) พาดผ่าน โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ถือได้ว่าเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ซัพพลายเกิดขึ้นในย่านนี้เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดให้บริการ แต่อีกไม่นาน ประมาณเดือนสิงหาคม 2559 นี้ก็จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการ
ซึ่งจะส่งผลให้ทำเลในแนวรถไฟฟ้าและรัศมีโดยรอบได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนใครที่ไม่อยากรอ ตอนนี้ก็สามารถใช้บริการ MRT ได้ที่สถานีบางซื่อ หรือ BTS สถานีหมอชิต เพื่อเชื่อมต่อไปยังใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งทำเลรัชวิภานี้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่กึ่งกลางและเป็นรอยต่อกับหลายที่ทำให้สามารถใช้เส้นทางได้อย่างหลายหลาย รวมถึงอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) ด่านประชานุกูลอีกด้วย ซึ่งความสะดวกสบายดังกล่าวคือไฮไลท์ของโครงการที่อยู่อาศัยในย่านนี้เลยก็ว่าได้
วิเคราะทำเลที่ตั้งโครงการ
The Niche Mono Ratchavipha
ทำเลที่ตั้งของโครงการ ”เดอะนิช โมโน รัชวิภา” อยู่บริเวณแยกประชานุกูล มุ่งหน้าเข้ารัชดาภิเษก แต่ถ้าข้ามถนนไปฝั่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คในย่านนี้ ก็จะถือเป็นฝั่งของจังหวัดนนทบุรี ทำให้เรียกได้ว่าที่ตั้งของโครงการนั้นเป็นพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดนนทบุรีมีเพียงถนนคั่นกลางเท่านั้น ทั้งหมดนี้ทำให้โครงการมีจุดเด่นในเรื่องของการเดินทางที่สามารถเชื่อมได้กับถนนหลากหลายเส้นทาง อีกทั้งโครงการยังถูกรายล้อมไปด้วยรถไฟฟ้า 5 +1 สาย (รวมโครงการในอนาคต)
ได้แก่สายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ สถานีวงศ์สว่าง อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 .4 กม. (สายอนาคต), สายสีแดงสถานีจตุจักร (สายอนาคต) ประมาณ 500 ม. สายสีเขียว สถานีรัชโยธิน ประมาณ 1 .4 กม. (สายอนาคต) สายสีแดงอ่อน – สายสีม่วง (อินเตอร์เชนจ์) สถานีบางซ่อน ระยะทางประมาณ 3.5 กม. และสถานีบางซื่อ ระยะทางประมาณ 3.5 กม. ซึ่งเป็นอินเตอร์เชนจ์ของรถไฟฟ้ารวม 3 สายได้แก่ สีแดง, สีแดงอ่อน และสีน้ำเงิน (สายอนาคต) รวมถึงเชื่อมต่อสายสีน้ำเงินปัจจุบัน สถานีลาดพร้าวกับสายสีเหลืองสถานีรัชดา-ลาดพร้าวเส้นลาดพร้าวได้อีกด้วย
location
ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้กับถนนหลายสาย และใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนขั้นที่ 2 (ฝั่งรัชดาภิเษก) ประมาณ 250 เมตร (ระยะทางจากจุดลงทางด่วนมายังโครงการ) แต่ถ้าหากจากโครงการไปยังทางด่วนขาเข้าต้องไปกลับรถใต้สะพานรัชวิภา จุดขึ้นลงทางด่วนขั้นที่ 2 ประมาณ 500 เมตร (ฝั่งประชาชื่น) อีกทั้งทางโครงการได้ทำทางเชื่อมจากจุดลงทางด่วนขึ้นที่ 2 (ฝั่งประชาชื่น) เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเลี้ยวเข้ามายังโครงการได้โดยไม่ต้องไปกลับรถ ถือได้ว่าเป็นโครงการที่เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางจริงๆ และยังเชื่อมต่อกับทางด่วนได้ถึง 6 เส้นทางตามที่ทางโครงการได้ชูเป็นจุดขาย ได้แก่ ทางด่วนรังสิต – นครนายก, สาทร-สีลม-พระราม 4, พระราม 5, พระราม 2, บางนา-พัทยา-ชลบุรี และหมอชิต-ธนบุรี
MAP
การเดินทาง
เส้นทางที่ 1 จากเส้นรัชดาภิเษก (ฝั่งขาออก) มุ่งหน้าตรง ผ่านศาลอาญารัชดาภิเษก ผ่าน เอสซีบี พาร์ค ข้ามสะพานรัชวิภามุ่งตรงไปแยกประชานุกูล ชิดขวาเพื่อเตรีมยูเทิร์นก่อนถึงแยกประชานุกูล หลังจากกลับรถให้ชิดซ้ายก็จะถึงที่ตั้งโครงการ ทางเข้าโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางที่ 2 จากถนนวิภาวดีรังสิต ให้ชิดซ้ายใช้ทางคู่ขนานมุ่งตรงไป จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้ารัชวิภา มุ่งหน้าตรงไปยังแยกประชานุกูล มุ่งหน้าตรงไปไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยก วิ่งลอดใต้ทางด่วนขั้นที่ 2 ให้เริ่มชิดขวาเพื่อเตรีมยูเทิร์นก่อนถึงแยกประชานุกูล หลังจากกลับรถให้ชิดซ้ายก็จะถึงที่ตั้งโครงการ ทางเข้าโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางที่ 3 จากทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) ใช้จุดลงทางด่วนประชานูกูล (ฝั่งรัชดาภิเษก) เมื่อลงจากทางด่วนให้เลี้ยวซ้าย มุ่งไปแยกประชานุกูล แล้วชิดขวาเพื่อเตรียมกลับรถ จากนั้นให้ชิดซ้า ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ
เส้นทางที่ 4 จากทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) ใช้จุดลงทางด่วนประชานูกูล (ฝั่งประชาชื่น) ออกจากทางด่วนให้ชิดขวา จะมีทางพิเศษตัดเชื่อมเข้ามายังโครงการได้เลยโดยไม่ต้องไปยูเทิร์นให้เสียเวลา
เส้นทางที่ 5 จากแยกพงษ์เพชร (ถนนประชาชื่น) วิ่งตรงไปตามเส้นประชาชื่นเลียบไปกับคลองประปามุ่งหน้าตรงไปแยกประชานุกูล เมื่อผ่านโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ให้เริ่มชิดซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายตรงอีก 50 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งโครงการ
เส้นทางทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่จะมายังโครงการได้ เพราะยังสามารถมาได้ทั้งจากทางถนนกรุงเทพ-นนท์ มาจากบางซื่อ ฯลฯ
รถไฟฟ้า (ปัจจุบัน)
BTS สถานีหมอชิต
MRT สถานีบางซี่อ
รถไฟฟ้า (สายอนาคต) ทั้งหมด 5+1 เส้นทาง
สายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง, สายสีแดง สถานีจตุจักร, สายสีแดงอ่อน สถานีบางซื่อ, สายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ (ซึ่งสายสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าวเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์กับสายสีเหลืองที่สถานีรัชดา-ลาดพร้าว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่รอบโครงการแต่กูถือว่าสามาเดินทาเชื่อมต่อกันได้อย่างสะดวกสบายเลยนับให้ +1), และสายสีเขียวเข้ม สถานีรัชโยธิน
ทางด่วน
เส้นหลัก: ทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) จุดขึ้นลงทางด่วนประชานูกูล ทั้งฝั่งประชาชื่น และรัชดาภิเษก
เส้นรอง: ทางด่วนรังสิต – นครนายก, สาทร-สีลม-พระราม 4, พระราม 5, พระราม 2, บางนา-พัทยา-ชลบุรี, หมอชิต-ธนบุรี
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์ทั้งกลางวัน-กลางคืนในรัศมีถนนประชาชื่นที่ใกล้กับโครงการ อย่างฝั่งตรงข้ามโครงการริมคลองประปา มีร้านบรรยากาศน่านั่งอย่างตักสุรา ประชาชื่น และล่าสุด ตลาดนัด “สยามยิปซี” ที่เปิดช่วงค่ำๆ บริเวณเลียบแนวทางรถไฟสถานีบางซ่อน แต่สินค้าจะมีมากในวันศุกร์-อาทิตย์ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งของคนรักสินค้ามือสอง สินค้าแฮนด์เมด อารมณ์คล้ายๆ ตลาดนัดรถไฟ ถ้าไปเดินช่วงที่ลมพัดเย็นๆ ช่วงหน้าหนาวจะชิลสุดๆ
ตลาดนัดสยามยิปซี ภาพ via facebook.com/Siamgypsy
นอกจากนี้ ย่านนี้ยังมีที่กินที่เที่ยว นั่งชิลให้เลือกมากอยู่เหมือนกัน คนทั่วไปก็ไปเดินเล่น ซื้อของ กินข้าวกันที่เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น หรือบิ๊กซี วงศ์สว่างเสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นร้านอาหารอร่อยๆ ก็ต้องผ่านแยกประชานุกูลไปทาง รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เช่น ร้านเจ๊ไข่ อาหารซีฟู๊ด ข้าวต้มสมพงศ์ เป็นต้น หรือจะเลี้ยวเข้าทางไปวัดเสมียนนารี แวะตลาดบองมาเช่ก็ได้ ถนนเส้นนี้มีที่กินที่เที่ยวเพียบ
ตลาดบอง มาเช ภาพ via facebook.com/bonmarche.marketpark
ศูนย์รวมความอร่อย และแหล่งวัตถุดิบชั้นดี ที่ลองมาแล้วจะติดใจ หรือเรียกง่ายๆ ก็คงจะเป็นตลาดสดไฮโซก็ได้นะ
ร้านสะดวกโยธิน ภาพ via FB สะดวกโยธิน
ส่วนร้านนั่งชิลตอนเย็นก็จะอยู่ทางถนนวงศ์สว่างละแวกเดียวกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และเส้นรัชวิภาเหมาะกับนักท่องราตรี คนที่ชอบสังสรรค์โดยเฉพาะในวันศุกร์และเสาร์ เช่น Lizm@ประชาชื่น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถข้ามสะพานรัชวิภาไปทางรัชโยธินที่มีเมเจอร์ รัชโยธิน, ร้านเสวนาพาเพลิน, ร้านสะดวกโยธินให้นั่งกินดื่ม หรือไม่ก็ขยับไปทางถนนรัชดาภิเษกและลาดพร้าวเลยเพราะมีแหล่งรวมความบันเทิงครบครัน
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
| แบบห้องชุด | ขนาด (ตร.ม.) | ราคาปล่อยเช่า (บาท/ เดือน) |
| 1 ห้องนอน | 30.08 – 30.45 | 10,000-12,000 |
| 1 ห้องนอน | 34.60 | 15,000 – 18,000 |
| 1 ห้องนอน | 39.57 | 20,000 – 25,000 |
| 2 ห้องนอน | 62.23 | 30,000 – 40,000 |
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
แอสปาย รัชดา – วงศ์สว่าง
แอสปาย รัชดา – วงศ์สว่าง
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี, บางซื่อ, กรุงเทพ
เว็บไซต์: www.apthai.com
เนื้อที่โครงการ: 5-2-96.5 ไร่
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียม High Rise สูง 27 ชั้น จำนวน 1,232 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต ยูนิตต่อชั้น 56 ยูนิต
รูปแบบแบบห้อง: สตูดิโอ 22.5 ตารางเมตร, 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน 45 ตารางเมตร
ราคาขายเริ่มต้น: ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย/ตารางเมตร: 79,555 บาท
เมโทร สกาย ประชาชื่น
เมโทร สกาย ประชาชื่น
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF
ที่ตั้งโครงการ: ปากซอยประชาชื่น 22 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม
เว็บไซต์: www.pf.co.th
เนื้อที่โครงการ: รวมประมาณ 7-2-33 ไร่
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียม High Rise 3 อาคาร จำนวนรวม 1,356 ยูนิต อาคาร A สูง 24 ชั้น 492 ยูนิต, อาคาร B สูง 21 ชั้น 370 ยูนิต, อาคาร C สูง 24 ชั้น 494 ยูนิต
รูปแบบแบบห้อง: มี 3 แบบ คือ
- แบบ Moff Design ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 35.56 ตร.ม.
- แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 24 ตร.ม.
- แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 43 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น : 2.16 ล้านบาท/ ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม2558)
ราคาเฉลี่ย : 87,000 บาท/ ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม2558)
สรุป
สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการเดอะนิช โมโน รัชวิภา เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีจุดเด่นในเรื่องของความสะดวกในการเดินทาง ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งถนนเส้นต่างๆ ที่อยู่ล้อมรอบโครงการ และสามารถเชื่อมต่อไปยังเส้นต่างๆ รวมถึงการที่อยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) ด่านประชานุกูล ทั้งฝั่งประชาชื่นสามารถมุ่งตรงเข้ามายังโครงการได้เลย ส่วน ด่านประชานุกูล ฝั่งรัชดาภิเษกก็อยู่ห่างจากโครงการไม่กี่ร้อยเมตร นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 5 สาย สายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง, สายสีแดง สถานีจตุจักร, สายสีแดงอ่อน สถานีบางซื่อ, สายสีน้ำเงิน สถานีบางซื่อ และสายสีเขียวเข้ม สถานีรัชโยธิน ที่ทำให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย
ซึ่งสายที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสายสีแดง สถานีจตุจักร แต่คงอาจจะต้องรออีกสักพัก หรือสายที่ใกล้ความเป็นจริงขึ้นมาอีกหน่อยก็เป็นสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สถานีวงศ์สว่าง ที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้เอง ถึงแม้ว่ารถไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่พูดกล่าวมาจะเป็นสายในอนาดต แต่สายปัจจุบันที่เปิดให้บริการแล้วอย่าง MRT สถานีบางซื่อ ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 3.5 กม. น่าจะเป็นสถานีที่น่าจะถูกใช้งานมาที่สุด เพราะสามารถต่อไปยัง BTS หมอชิต เพื่อเข้าเมืองถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการเดินทาง ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็ง และเป็นจุดขายสำคัญของโครงการนี้
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
