[Special Advertising Feature] การจับตลาดขายของก็ต้องหาจุดแข็ง และกลุ่มเป้าหมายให้ตรงจุด จึงจะขายได้คล่อง ขายได้ดี และมีลูกค้าประจำ เฉกเช่นเดียวกับการขายคอนโดฯ การสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจน ตีโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด ตัวโครงการมีคุณภาพจริง โดยเฉพาะขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อหรือลูกค้าระดับบนที่มีความพิถีพิถันในการเลือกซื้อสินค้า ยิ่งเงินในกระเป๋ามีมากเท่าไร ความพิถีพิถันก็มีมากตามไปด้วยนั้นยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ
โครงการ เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์ ( The Reserve Phahol – Pradipat) แบรนด์ระดับพรีเมี่ยมของเจ้าตลาดอสังหาฯ อย่าง พฤกษา เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ต้องคัดสรรทั้งแนวคิดโครงการ ทำเลที่เข้าออกได้สะดวก วัสดุเกรด A และโครงสร้างการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้าระดับบน ซึ่งก็ถือว่าออกตัวได้สวย เพราะยังไม่พรีเซลก็ขายห้องชุดแบบ 1 Bedroom Loft ในส่วนชั้นล่าง 8-12A ไปหมดแล้ว และเตรียมเปิดขาย 1 Bedroom Loft โซนสูง ตั้งแต่ชั้น 14-21 ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้
เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ที่โครงการได้วางเป้าไว้ได้อย่างตรงจุด ด้วยการเน้นย้ำว่า โครงการนี้จะมีความทันสมัย อยู่ในแหล่งไลฟ์สไตล์คนเมืองและมีความเป็นวัยรุ่นมากกว่าโครงการอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “The Reserve” นั่นเอง
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: โครงการ เดอะรีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์ (The Reserve Phahol – Pradipat)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ถ.ประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
เว็บไซต์: https://goo.gl/ZmtdrR
โทร: Call Center 1739
ที่ตั้งโครงการปากซอยประดิพัทธ์ 23
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2560)
พื้นที่โครงการ: 1-2-43 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม สูง 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 260 ยูนิต
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง ตุลาคม 2560
คาดแล้วเสร็จ ไม่เกินปลายปี 2562
ลิฟท์: โดยสาร 3 ตัว
บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 – 7 คิดเป็น 55% (ไม่รวมซ้อนคัน ) หากรวมซ้อนคัน คิดเป็น 65%
สิ่งอำนวยความสะดวก: โถงต้อนรับพร้อม Concierge Service, ห้องจดหมาย ,สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส ,ซาวน่า ห้องทำงาน 24 ชั่วโมง ( Co Working Space) สวนพักผ่อนบนดาดฟ้า พร้อม All Day Pantry, Open Air Cinema, Pantry Yard, Electric Car Charger, On – Demand Facility Control อุปกรณ์ Mobile Application ที่ช่วยให้ลูกบ้านใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ 24 ชั่วโมง เช่นการจองห้องใช้งานและบันทึกเวลาเข้าใช้งานได้ด้วย,Hi Speed Wireless Internet บริเวณพื้นที่ล็อบบี้และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัย:
– เข้าออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control
– CCTV รอบโครงการ
– รปภ. 24 ชั่วโมง
เงื่อนไขการชำระเงิน:
– เงินจอง: 50,000 – 80,000 บาท
หมายเหตุ: ราคาค่างวดจะแจ้งใหม่อีกครั้งหนึ่งในวันงาน Presales ในเดือนกันยายน 2560
ค่าส่วนกลาง: แบบ 1 bed และ 1 bed Plus 65 บาท /ตร.ม. (จ่ายล่วงหน้า 2 ปี)
แบบ 1 Bed Loft 75 บาท/ ตร.ม. (จ่ายล่วงหน้า 2 ปี)
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 6.5 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ยเริ่มต้น: 149,000 บาท/ตร.ม.ใช้สอย
รูปแบบห้อง
1 Bedroom Loft (29.45 – 40.40 ตร.ม.) ราคา 5.9 – 8.9 ล้านบาท
1 Bedroom (28.40 – 38.95 ตร.ม.) ราคา 5.5 – 5.9 ล้านบาท
1 Bedroom Plus (47.30 – 48.70 ตร.ม.) ราคา 8.9 – 9.5 ล้านบาท
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียม สูง 25 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 260 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-2-43 ไร่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ The Age Disruption” เป็นแบรนด์ the Reserve ที่มีความทันสมัย มีความเป็นวัยรุ่นมากกว่าทำเลอื่นๆ ตอบสนองกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเองอย่างชัดเจน หยิบยกเอาลักษณะนิสัยของเสือขาวภูเขาที่มีนิสัยสันโดษ เด็ดเดี่ยว มาเป็นสัญลักษณ์และแนวคิดของโครงการด้วย
ทั้งนี้ปัจจุบันตัวโครงการอยู่ระหว่างเริ่มการก่อสร้าง โดยเป็นการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน เน้นแนวคิดการออกแบบตกแต่งสไตล์ Modern Timeless ผสมผสานวัสดุหลากหลายเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ หิน เหล็ก สเตนเลส และผ้าที่ดูเรียบหรู ร่วมสมัย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใดก็ดูไม่เชย
สำหรับห้องพักออกแบบภายใต้แนวคิด Oversize Living Space ที่ขยายพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นให้มีขนาดใหญ่กว่าโครงการโดยทั่วไป ทั้งความสูงของฝ้าเพดานและความกว้างของพื้นที่การใช้งาน เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลากับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเอนกประสงค์มากขึ้น และช่วยเสริมบรรยากาศการอยู่อาศัยให้ปลอดโปร่ง
ผังโครงการมีรายละเอียดดังนี้
Master Plan
ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับปากซอยประดิพัทธ์ 23 คือ ทางเดินเท้าสามารถเข้าออกได้บริเวณที่เชื่อมต่อกับสะพานลอยหน้าโครงการ แต่หากเป็นทางเดินรถก็เลี้ยวเข้ามาในซอยเล็กน้อย (เพราะด้านหน้าโครงการติดกับถนนใหญ่พอดี) เพื่อวนเข้ามายังพื้นที่จอดรถ
ทั้งนี้ด้านหน้าโครงการมีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนต้นสน (แนวคิดจากสนประดิพัทธ์นั่นเอง) ขนาดพื้นที่ประมาณ 400ตร.ม. รั้วโครงการสูง 3 ม. และบนรั้วก็ปลูกต้นสนสูงอีกประมาณ 3 ม. ซึ่งรวมแล้วทำให้รั้วดูสูงถึง 6 เมตร ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว
ภายในอาคาร ชั้นล่าง (Ground Floor Plan) เป็นล็อบบี้ที่นอกจากมีพนักงานต้อนรับตามปกติแล้วยังมีพนักงานพิเศษ 1 คน คอยบริการลูกบ้าน ซึ่งทำหน้าที่บริการได้แทบทุกสิ่ง อาทิ การรับหน้าที่ไปจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟให้ บริการรับฝากขายเช่าห้องชุดให้ รับส่งพัสดุให้ ซึ่งเป็นบริการที่รวมอยู่ในค่าส่วนกลางแล้ว เป็นต้น
พื้นที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1 – 7 โดยชั้น 1 ด้านหน้าโครงการเป็นที่จอดรถจักรยาน นอกจากนี้มีลิฟท์สำหรับจอดรถให้ด้วย ซึ่งลิฟท์ 1 ตัวสามารถจุรถได้ประมาณ 22 คัน
สำหรับห้องชุดพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8 – 24 โดยจะมีสวนส่วนตัวอยู่ที่ชั้น 8
Floor Plan Private Garden (สวนส่วนตัวที่ชั้น 8)
โดยแบบ 1 Bedroom Loft (จะอยู่ที่ชั้น 8 -21) มี 16 ยูนิต/ชั้น ซึ่งเป็นชั้นที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานรวม 4.40 ม. ทั้งนี้บนชั้น 8 จะมีสวนส่วนตัวให้ด้วย ซึ่งคนที่อยู่บนชั้นนี้จะมีประตูปิดกั้นทางเข้าสวนให้แบบส่วนตัว แต่หากลูกบ้านชั้นอื่นจะมาใช้บริการก็สามารถขึ้นมาได้อีกทางหนึ่งไม่สามารถเข้าไปในโซนส่วนตัวของห้องพักชั้นนี้ได้
Floor Plan ชั้น 9 – 21
แบบ 1 Bedroom (อยู่ที่ชั้น 22 – 24 ) มี 8 ยูนิต /ชั้น และแบบ 1Bedrooom Plus (อยู่ที่ชั้น 22 – 24) มี 4 ยูนิต /ชั้น ทั้ง 2 แบบนี้มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.70 ม.
Floor Plan ชั้น 22
Floor Plan ชั้น 23 – 24
พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 25 ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ 2 ฝั่ง คือ ด้านหนึ่งเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ แบบอ่างน้ำล้น กั้นด้วยกระจกใสรอบทิศทาง รวมถึง Skyline Lounge พื้นที่นั่งเล่นที่มองลงมาเห็นสระว่ายน้ำได้ และ Sky Fitness ห้องกระจกใสชมสระว่ายน้ำ และวิวทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่เช่นกัน
ส่วนอีกด้านหนึ่งของชั้น 25 จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่จัดไว้เป็น Co Working Space ขนาดใหญ่ที่สามารถมานั่งทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ( หากเกินเวลาเปิดปิดปกติที่กำหนดไว้ ลูกบ้านสามารถทำการเข้าใช้ห้องนี้ได้ผ่านทางสมาร์ทโฟนซึ่งเชื่อมระบบกับทางโครงการให้โดยเฉพาะ) รวมถึงมีห้องส่วนตัวที่สามารถจองล่วงหน้า เพื่อใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวได้ด้วย ซึ่งนอกจากพื้นที่นั่งทำงานแล้ว ยังมีพื้นที่ด้านหลังที่สามารถอุ่นอาหาร และซื้ออาหารว่าง เครื่องดื่มเพื่อนั่งรับประทานในนี้ได้อีกด้วย
Floor Plan ชั้น 25
นอกจากนี้บนดาดฟ้ามี Outdoor Cinema คือ สามารถนั่งดูหนังที่ฉายภาพทางโปรเจ็คเตอร์ท่ามกลางสวนสวย Rooftop Pantry และ Pantry Yard ที่สามารถจัดปาร์ตี้ ปิ้งย่างบาร์บิคิวได้แบบครบจบในตอน สามารถปรุงอาหาร ปิ้งย่าง และซักล้างอุปกรณ์ได้บนนี้ทั้งหมด
Floor Plan ชั้น Rooftop Garden
Floor Plan
อธิบายแปลนห้องแบบ One Bedroom Loft Unit โดยจุดเด่นสำคัญของห้อง loft คือการได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมาอีกประมาณ 10 ตารางเมตร โดยเสียค่าส่วนกลางแค่พื้นที่ชั้นล่างชั้นเดียว นับว่าประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ในระยะยาว ห้องเริ่มจาก A1 – เป็นห้องขนาดเริ่มต้น 28.40 ตารางเมตร แต่รวมพื้นที่ใช้สอยจริงๆ จะเป็น 37.90 ตารางเมตร ถือว่าเป็นห้อง One-Bed ที่ขนาดกำลังพอดี จุดเด่นคือ เป็นห้องที่หันไปทางทิศเหนือ ได้วิวเปิดโล่ง และได้ทิศดีไม่ร้อน ยิ่งชั้นสูงๆ วิวยิ่งสวย
ห้อง A2-A7 เป็นห้องแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง มีจุดเด่นที่หน้ากว้างประมาณ 5 เมตร ดังนั้นจะได้ระเบียงและหน้าต่างใหญ่ สามารถเชื่อมต่อกับวิวได้มาก
ห้อง A8
ห้อง A9
ห้อง A8-A9 เป็นห้องมุมขนาดเริ่มต้น คือ 34.95 ตารางเมตร หรือคิดเป็นพื้นที่ใช้สอยที่ 44.45 ตารางเมตร โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือทั้ง 2 ห้อง ได้วิวดีบรรยากาศดี ไม่ร้อน ห้องมุมเหล่านี้มีจุดเด่นที่ชั้นลอยอยู่ด้านในสุดของห้อง โดยใต้ชั้นลอยจัดไว้เป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนบนล่าง หรือทำห้องด้านหลังเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้ ส่วนห้องนอนด้านบนก็อยู่ติดหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้และเห็นวิวได้ชัดเจน
ห้อง A10 – A11 มีจุดเด่นที่เป็นห้องมุมข้างหน้าตึก มีกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ด้านของห้อง ทำให้เปิดเชื่อมต่อกับภายนอกได้มาก แถมยังระบายอากาศได้ดี ได้ลมโกรกผ่านห้องเลย แถมวิวจากห้องนี้ จะหันไปทางอารีย์ หรือเห็นเป็นวิวตึกสูง ซึ่งสวยงามมาก
ห้อง A12 เป็นห้อง Loft ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ 38.95 ตารางเมตร หรือคิดเป็นเกือบ 50 ตารางเมตรบนพื้นที่ใช้สอยจริง ซึ่งเหมาะสำหรับคนชอบห้องกว้างๆขนาดใหญ่ มีจุดเด่นเรื่องเป็นห้องมุมเช่นกัน และสามารถกั้นในส่วนของชั้นลอยเป็น 2 ห้องนอนบนล่างได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน และยังมีความกว้างของห้องแบบโล่งสบายๆ
การวางทิศทางโครงการ
แผนที่จาก Google Earth แสดงผังที่ตั้งโครงการ
ทิศเหนือ ฝั่งด้านหลังโครงการติดกับตึกแถวสูง 3 ชั้น ได้วิวฝั่งจตุจักร
ทิศใต้ ฝั่งด้านหน้าโครงการติดกับตึกแถวสูง 5 ชั้น ได้วิวฝั่งอารีย์และประดิพัทธ์
ทิศตะวันออก ติดกับซอยประดิพัทธ์ 25 และห้างเก่า สูง 7 – 8 ชั้น ได้วิวฝั่งพหลโยธิน บีทีเอส สะพานควาย
ทิศตะวันตก ติดกับซอยประดิพัทธ์ 23 บ้านเดี่ยว และตึกแถงสูง 3 – 4 ชั้นได้วิวฝั่งถนนพะราม 6
สิ่งอำนวยความสะดวก
Urban Forest (สวนหน้าโครงการ)
24 Hrs.Lobby with Concierge Service
Infinity Edge Pool – สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ขนาดประมาณ 8×40 ม. ลึก 1.2 ม. ปูกระเบื้องหินสีขาวกั้นด้วยกระจกใสรอบสระ ทำให้เห็นวิวฝั่งจตุจักรได้อย่างชัดเจน
Skyline Lounge – มุมทำงานบนชั้นลอยเหนือสระว่ายน้ำ ที่มีความเป็นส่วนตัวและได้บรรยากาศของวิวปลายตาของเมืองกรุงเทพมหานคร
Sky Fitness & Steam Room
24 Hrs Community Space – พื้นที่ทำงานในรูปแบบ Co – working space ที่รองรับการคิด และสร้างสรรค์งานในทุกรูปแบบ ภายใต้พื้นที่สูงโปร่งและบรรยากาศสบายๆ ทั้งแบบ indoor และ outdoor workplace ที่พร้อมด้วย All-Day Pantry ภายใน Community Space ที่ทำหน้าที่เป็นบาร์อาหารเบาและเครื่องดื่ม พร้อมไว้ด้วยอุปกรณ์สนับสนุนต่างๆ ที่ทำให้ทุกการทำงานไม่ติดขัด รวมถึงมี Adaptive Function Room – ห้องเอนกประสงค์ที่ออกแบบเป็นรูปแบบขั้นบันได สามารถใช้เป็นห้องส่วนตัวในการประชุม, Brainstorm, Lecture และชมภาพยนตร์เพื่อหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมได้
Open Air Cinema – พื้นที่ชมภาพยนตร์ outdoor ที่ดาดฟ้าโครงการ
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ไม้ลามิเนต 8 มม.
ประตูบานหลัก / มือจับประตู: ปิดผิวลามิเนตสูง 2.40 ม./ Digital Door Lock ยี่ห้อ YALE
หน้าบานตู้เสื้อผ้า กระจก Tint Mirror
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: KHOLER และ อ่างล้างหน้า ยี่ห้อ LAVENZ
ชุดครัว: Top หินQuartz , หน้าบานชุดครัว Coating Glass / ลามิเนต ,อุปกรณ์ชุดครัวยี่ห้อ MEX โดย Hood ต่อท่อระบายควันออกนอกอาคาร
ไฟส่องสว่าง: โคมไฟดาวน์ไลท์พร้อมหลอดไฟ LED
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน: 2.70 เมตร
ห้องตัวอย่าง มี 2 แบบ คือ
– แบบ 1 Bedroom Loft (29.45 – 40.40 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
เป็นห้องหลักของโครงการ ที่มีความโดดเด่นและเป็นที่นิยมในปัจจุบันมากๆ นอกจากนี้ห้องในลักษณะนี้ยังหาไม่ได้ในโครงการรอบๆโซนนี้ทั้งหมด เลยทำให้ขายไปได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่รอบ VIP Sold Out 6 ชั้น ภายในวันเดียว ห้องแบบนี้เป็นอย่างไรลองไปดูกัน
ห้องนี้เป็นลักษณะ Loft หรือห้องที่มีห้องนอนอยู่ด้านบน เป็นดีไซน์รูปแบบห้องที่คนรุ่นใหม่หลายคนชื่นชอบ เพราะแยกส่วนพื้นที่นอนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวไว้ด้านบน เหมือนมีห้องใต้หลังคา ทั้งนี้ภายในสูงจากพื้นถึงฝ้า 4.40 เมตร สูงกว่าห้องไสตล์นี้ในโครงการอื่นๆ ออกแบบให้ดูเรียบหรู ด้วยโทนสี และวัสดุโดยเฉพาะวัสดุกระจกทั้งใส และกระจกเงา เพื่อเพิ่มความหรูหราและทำให้ห้องดูกว้างขึ้น จัดวางชุดครัวไว้ให้ติดกับประตูทางเข้าห้อง ซึ่งเชื่อมต่อกับมุมรับแขก เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน หรือมีปาร์ตี้เล็กๆ ในห้องกับเพื่อนฝูง
โครงสร้างของงานบันได และฐานของเตียงนอนเป็นชิ้นเดียวกัน ถูกยกมาวางไว้ในห้อง ซึ่งใช้ราวกันตกเป็นกระจกชิ้นใหญ่เพื่อไม่ให้รู้สึกทึบตัน อีกทั้งจากพื้นห้องนอนถึงเพดานก็ไม่ได้เตี้ยจนรู้สึกหายใจไม่ออก
แต่งผนังตรงหัวเตียงด้วยกระจกเงาให้ดูสวยงาม และหลอกสายตาให้ดูมีมิติมากขึ้น อีกทั้งดีไซน์ท็อปวางของเพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้นด้วย
มุมมองจากเตียงนอน มองมายังชั้นล่างของห้อง ซึ่งจากพื้นถึงเพดานสูงถึง 4.40 ม.เลยทีเดียว ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่ง มุมรับแขกก็สุดชิวเพราะติดกับระเบียงกว้าง ทั้งนี้ใช้ประโยชน์ของผนังห้องด้วยการบิลท์อินเป็นตู้เสื้อผ้า และตู้เก็บของขนาดใหญ่ที่ทางโครงการมีให้อีกด้วย
ภายนอกระเบียง ปูพื้นกระเบื้องเซรามิก และราวกันตกวัสดุเพลทเหล็ก
ภายในห้องน้ำเรียบหรู ด้วยวัสดุชั้นดี เช่น อ่างล้างหน้าและท็อปวางของที่เป็นชิ้นเดียวกันทำจากหินสังเคราะห์จากอิตาลี รวมถึงที่วางสบู่ตรงส่วนอาบน้ำก็เป็นวัสดุนี้ด้วยเช่นกัน
– 1 Bedroom Plus (47.30 – 48.70 ตร.ม.
1 Bedroom Plus (47.30 – 48.70 ตร.ม.) ราคา 7.64 – 8.90 ล้านบาท
แบบห้องขนาดใหญ่ที่ขยายพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้ใหญ่ขึ้น และเหมือนได้ห้องนอนถึง 2 ห้อง เพราะมี 1 ห้องอเนกประสงค์ที่จะทำเป็นห้องนอนก็ได้ หรือจะปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นห้องทำงานก็ได้
จากประตูทางเข้าห้องก็จัดวางชุดครัวจากทางโครงการที่มีให้แบบนี้ เป็นชุดครัวที่มีตู้เก็บของทรงสูงขนาบทั้งสองข้าง ไว้สำหรับเก็บของ หน้าบานเป็นกระจกทั้งหมด เน้นการบิลท์อินติดผนัง ถือเป็นครัวใหญ่ที่ใช้งานได้จริง เตรียมปลั๊ก และซ่อนดวงไฟส่องสว่างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Hood ก็ต่อท่อดูดควันออกไปนอกโครงการให้แล้ว สำหรับเครื่องซักผ้า และตู้เย็นไม่มีให้
ด้วยความที่เน้นห้องนั่งเลนที่ใหญ่เป็นพิเศษ จึงสามารถจัดวางรับประทานอาหาร และโซฟาขนาดใหญ่ไว้ให้เป็นไอเดียได้อย่างสบาย
ระเบียงซึงเชื่อมต่อกับห้องรับแขกหรือมุมนั่งเล่น เป็นระเบียงยาว ใช้งานได้จริง ทั้งนี้ห้องรูปแบบนี้จะออกแบบให้ทุกฟังก์ชันภายในห้องจะหันหน้าไปทางระเบียงทั้งหมด เพื่อให้ได้รับลมและชมวิวได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ห้องอเนกประสงค์ที่ขายจริงจะเป็นห้องเปล่า มีขนาดกว้างพอสมควร สามารถดัดแปลงได้ตามความต้องการ จะทำเป็นห้องนอนเล็ก หรือห้องทำงาน อ่านหนังสือ ฟังเพลงก็ได้
ห้องน้ำอยู่ตรงกลางระหว่างห้องอเนกประสงค์ และห้องนอน ถือว่ากว้างพอสมควร แบ่งเป็นพื้นที่แห้งและเปียก และใช้วัสดุเช่นเดียวกันกับแบบแรก รวมถึงมีหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อระบายอากาศให้
ไอเดียการใช้พื้นที่ว่างข้างผนังให้เป็นตู้เก็บของทรงสูงถือว่า ใช้พื้นที่ให้ประโยชน์ได้ดี
ห้องนอนแม้ไม่ได้เน้นพื้นที่กว้างเท่าห้องนั่งเล่น แต่ก็ถือว่ากว้างพอสำหรับวางเตียงใหญ่ เหลือพื้นที่รอบเตียงให้เดินได้สะดวก อีกทั้งแบบห้องตัวอย่างนี้เป็นห้องหัวมุม จึงมีหน้าต่างบริเวณมุมห้องเพื่อให้รู้สึกโล่ง กว้างมากยิ่งขึ้น
ฝ้าเพดานห้องนอนที่ขายจริงไม่ได้ดรอปให้ แต่ห้องตัวอย่างทำไว้เป็นไอเดีย เราสามารถซ่อนดวงไฟ เพิ่มเพิ่มแสงสว่าง และเพื่อความสวยงามได้
ทางโครงการมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้ เป็นหน้าบานกระจก Tint Mirror (กระจกสี) ซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดกลืนความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ส่องมากระทบผิวกระจกและลดปริมาณแสงที่ผ่านกระจกด้วย ทั้งนี้ห้องนอนสามารถเปิดประตูภายในห้องไปยังห้องน้ำได้อีกด้วย
ทำเลและการเดินทาง
แผนที่โครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการในย่านประดิพัทธ์มีอาณาเขตเชื่อมต่อกับย่านอารีย์ และย่านพหลโยธิน ทั้งนี้เป็นพื้นที่ที่เงียบสงบ เดิมเป็นย่านชุมชนเก่า แต่ปัจจุบันมีกลิ่นอายวิถีชีวิตแบบเก่าที่คลาสสิกผสมผสานกับความทันสมัยของอาคารสำนักงาน คอนโดฯ และฮิปโฮเทลใหม่ๆ อยู่รายล้อม มีความคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงค่ำๆ ที่จะมีร้านค้าร้านอาหารมาเปิดบริการริมทางมากมาย ซึ่งประดิพัทธ์ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของใครหลายคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในโซนฝั่งนี้ เพราะราคาที่ดิน และราคาคอนโดฯ จะถูกว่าย่านอารีย์
ทั้งนี้ที่ตั้งโครงการอยู่ตรงปากซอยประดิพัทธ์ 23 ฝั่งมุ่งหน้าไปยังแยกสะพานควาย ใกล้กับบีทีเอส สถานีสะพานควายเพียง 500 เมตร และไม่ไกลมากนักจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีกำแพงเพชร และจตุจักร
อีกทั้งใกล้กับทางด่วนศรีรัช และดอนเมืองโทลเวย์ โดยจุดขึ้นลงทางด่วนที่ใกล้โครงการประมาณ 2 กม.คือ จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งไปทางเหนือ ที่สามารถวิ่งไปบางเขนและปากเกร็ดเพื่อไปยังนนทบุรีได้ นอกจากนี้คือ จุดขึ้นทางด่วนศรีรัชมุ่งหน้าลงใต้ ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม.ที่ใช้วิ่งช่วงอนุสาวรีย์ฯ ไปเจริญราษฎร์ เพื่อเชื่อมกับทางด่วนเฉลิมมหานครได้
07 แผนที่จาก Google Map แสดงเส้นทางจากโครงการไปยังทางด่วนศรีรัช ด่านพระราม 6
ทั้งนี้สภาพการจราจรก็ถือว่าคึกคักเพราะเป็นย่านแหล่งงาน สถานที่ราชการ และแหล่งที่อยู่อาศัย ที่มีทั้งอาคารบ้านเรือน อาคารสำนักงาน ร้านค้าร้านอาหาร จำนวนมาก
ถนนประดิพัทธ์ ฝั่งด้านหน้าโครงการ
ปากซอยประดิพัทธ์ 23 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ
พื้นที่ด้านหน้าโครงการที่ติดกับสะพานลอยนี้ อนาคตคือ ทางเดินเท้าผ่านสวนสนสำหรับเข้าออกโครงการ
จากตัวโครงการเราสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพื่อเชื่อมต่อไปยังถนนพระราม 6 เพื่อไปยังถนนพระราม 4, หัวลำโพงหรือวิ่งไปบางเขนได้5 รวมถึงถนนเทิดดำริ, ถนนพระราม 5 ซึ่งเชื่อมไปยังถนนประชาชื่น ไปยังถนนรัชดาฯ และไปแจ้งวัฒนะได้ หรือจะเชื่อมกับถนนพหลโยธิน เพื่อไปยังทิศเหนือคือ ถนนวิภาวดีรังสิตได้ หรือจะไปยังทิศใต้คือไปยังอนุสาวรีย์ เชื่อมพญาไทไปฝั่งธนฯได้
นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซึ่งเชื่อมไปวิภาวดีฯ รัชดาฯ และลาดพร้าวได้ รวมถึงไปยังถนนสามเสนและลัดไปยังถนนราชวิถีเพื่อไปยังฝั่งธนบุรีได้ โดยไม่เสียเวลาให้รถติดที่อนุสาวรีย์หรือสวนสัตว์ดุสิต
ภายนอกสำนักงานขาย
ภายในสำนักงานขาย
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สำหรับสถานที่ไลฟ์สไตล์ หลักๆ แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไปใช้บริการที่คอมมูนิตี้มอลล์อย่าง La Villa อารีย์ เพราะค่อนข้างสะดวกสบายมีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารชื่อดังหลายร้าน นอกจากนี้ก็คือ Hyper Market อย่างบิ๊กซี สาขาสะพานควายให้ได้ไปใช้บริการกัน ขยับไปห้างใหญ่อีกหนึ่งห้างก็คือ เซ็นทรัล ลาดพร้าวที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม. แต่การจราจรก็อาจจะติดขัดพอสมควร แต่หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็จะสะดวกมากขึ้น ส่วนตัว La Villa อารีย์ ประมาณ 1.3 กม.
ทั้งนี้อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ด้วยความที่โครงการใกล้บีทีเอส สะพานควาย ทำให้ง่ายต่อการเดินทางเพื่อไปยังสถานที่ไลฟ์สไตล์ในย่านอื่นได้ง่าย เช่น เข้าเมืองไปทองหล่อ เอกมัย สุขุมวิท เป็นต้น หรือหากใครชอบเดินตลาดนัดก็มีทั้ง ตลาด อ.ต.ก., ตลาดนัดสวนจตุจักรและตลาดกรีน ให้ได้ไปเดินเล่นกัน ส่วนรอบๆ โครงการในช่วงเย็นๆ ก็จะคึกคักเพราะมีร้านค้าร้านอาหารข้างทางเป็นจำนวนมากให้ได้เลือกอิ่มท้องกัน
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
– La Villa อารีย์ ห่างจากโครงการ 1.3 กม.
– ตลาด อ.ต.ก. ห่างจากโครงการ 1.8 กม.
– ตลาดนัดจตุจักร ห่างจากโครงการ 1.8 กม.
– Central ลาดพร้าว ห่างจากโครงการ 4.0 กม.
สถานศึกษา
– โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ห่างจากโครงการ 2 กม.
– คณะวิทย์ / ทันต ม.มหิดล ห่างจากโครงการ 4.0 กม.
– โรงเรียนวชิราวุธ ห่างจากโครงการ 4.8 กม.
สถานพยาบาล
– โรงพยาบาลวิมุตติ ห่างจากโครงการ 0.2 กม.
– โรงพยาบาลเปาโล ห่างจากโครงการ 0.5 กม.
– โรงพยาบาลพญาไท 2 ห่างจากโครงการ 2.5 กม.
– โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ห่างจากโครงการ 2.5 กม.
– โรงพยาบาลราชวิถี ห่างจากโครงการ 3.5 กม.
– โรงพยาบาลพระมงกุฎ ห่างจากโครงการ 3.5 กม.
– โรงพยาบาลรามา ห่างจากโครงการ 4.0 กม.
อื่นๆ
– ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ห่างจากโครงการ 0.3 กม.
– ธนาคารกสิกรไทย สาขาสะพานควาย ห่างจากโครงการ 1.0 กม.
– กองพันทหารราบที่ 1 ห่างจากโครงการ 2.3 กม.
– ททบ.5 ห่างจากโครงการ 2.3 กม.
– กระทรวงการคลัง/กรมธนารักษ์ ห่างจากโครงการ 2.5 กม.
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
ทำเลที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นแหล่งที่น่าอยู่อาศัย เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่รายล้อมด้วยแหล่งความเจริญ ทั้งอาคารสำนักงาน แหล่ง Hangout ร้านค้าร้านอาหารทั้งเก่าแก่ และรุ่นใหม่ มีความเจริญเติบโตที่แม้จะมีความคึกคักพลุกพล่าน แต่ก็มีทัศนียภาพที่ไม่อึดอัดอึมครึม อีกทั้งใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวสุขุมวิท สถานีสะพานควายที่เดินทางเข้าออกเมืองได้ง่ายดาย
ฉะนั้นจึงเหมาะแก่การลงทุนทั้งระยะยาว และระยะสั้น ทั้งนี้ราคาขายห้องชุดพักอาศัยเฉลี่ยต่อตารางเมตรในย่านนี้อย่างอารีย์อยู่ที่ 1.7 – 1.8 บาท ส่วนโครงการ The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์อยู่ที่ 1.49 แสนบาท ซึ่งก็ถือเป็นราคาที่ยังจับต้องได้สำหรับคนกระเป๋าหนักเมื่อเทียบกับทำเลย่านอารีย์ ซึ่งราคาในปีหน้าของอารีย์อาจขยับไปแตะ 2 .2 – 2.3 แสนบาท/ตร.ม. ก็เป็นได้ ซึ่งย่านนี้ก็ถือว่าน่าอยู่ไม่แออัดมากนัก สมน้ำสมเนื้อกับทำเลที่ตั้งโครงการ
ส่วนราคาเช่าห้องชุดพักอาศัยเฉลี่ยโดยทั่วไปอยู่ที่ 15,000 – 20,000 บาท/เดือน/ยูนิต ซึ่งก็ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
|
ชื่อโครงการ |
ยูนิต |
พื้นที่ใช้สอย (ตร.ม.) |
ราคาเฉลี่ย (ต่อตร.ม.) |
|
เดอะรีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์ (The Reserve Phahol – Pradipat) |
298 |
28.40 – 48.70 |
1.6 แสนบาท |
|
เดอะไลน์ พหล – ประดิพัทธ์ (The Line Phahol – Pradipat) |
981 |
26.25 – 111.50 |
1.5 แสนบาท |
|
ไอดีโอ พหล – จตุจักร ( Ideo Phahol – Jatujak) |
390 |
24.50 – 72 |
1.55 แสนบาท |
เดอะไลน์ พหล – ประดิพัทธ์ (The Line Phahol – Pradipat)
ชื่อโครงการ: เดอะไลน์ พหล – ประดิพัทธ์ (The Line Phahol – Pradipat)
เจ้าของโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้งทเวลฟ์ จำกัด
ผู้ร่วมพัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โอลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ตัวแทนการขาย: บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 5 ไร่
รูปแบบ : อาคารพักอาศัยสูง 46 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 981 ยูนิต มี 3 แบบคือ 1 Bedroom ขนาด 26.25 – 28 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาด 30.50 – 40.75 ตร.ม. 2 Bedroom ขนาด 51.50 – 67 ตร.ม. และ 3 Bedroom ขนาด 79 – 111.50 ตร.ม.
ไอดีโอ พหล – จตุจักร ( Ideo Phahol – Jatujak)
ชื่อโครงการ: ไอดีโอ พหล – จตุจักร ( Ideo Phahol – Jatujak)
เจ้าของโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) : Ananda
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. 10400
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 1-3-44.9 ไร่
รูปแบบ: อาคารพักอาศัยสูง 35 ชั้น จำนวน 390 ยูนิต มี 5 แบบคือ Studio ขนาด 24.50 – 27 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. (แบบครัวปิด) 1 Bedroom Plus ขนาด 45 – 48 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 57.50 – 72 ตร.ม.
ทั้งนี้โครงการเดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์ นั้นแม้จะมีราคาขายที่สูงกว่าโครงการอื่น หากแต่เป็นโครงการที่มีความต่างในหลายด้าน นอกเหนือจากเรื่องทำเล การเดินทางที่สะดวกสบายใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสแล้ว ก็คือ
1. จำนวนยูนิตที่น้อยกว่า ซึ่งก็เหมาะกับคนที่ต้องการที่พักอาศัยที่มีความสงบเงียบเป็นส่วนตัว
2. พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เปิดใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ถือว่ามีความทันสมัย และมีบริการที่หลากหลาย อาทิ พื้นที่จอดรถที่มีทั้งระบบปกติ และระบบ Auto ,พนักงานพิเศษคอยบริการเรื่องจิปาถะต่างๆ แทนลูกบ้านในที่ล็อบบี้โครงการ เป็นต้น
3. โครงสร้างที่ใช้การก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูนทั้งหมด และ
4. รูปแบบห้องสไตล์ LOFT ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ที่ไม่มีให้เลือกจากที่อื่น
5. วัสดุที่ใช้ก็ถือเป็นวัสดุชั้นดี เกรดพรีเมี่ยม เช่น หน้าบานชุดครัวที่เป็นกระจก หรือหน้าบานตู้เสื้อผ้าที่เป็นกระจก Tint Mirror ซึ่งโครงการทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นหน้าบานลามิเนต เป็นต้น
โครงการตั้งอยู่บนทำเลถนนประดิพัทธ์ซึ่งถือว่าเป็นโซนที่มีความผสมผสานระหว่างย่านชุมชน บ้านเรือนเก่าแก่กับความชิค ความฮิปของสถานที่ Hangout ร้านกาแฟสมัยใหม่ อีกทั้งอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียมที่เติบโตขึ้นพร้อมกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียวอีกด้วย
นับได้ว่าเป็นทำเลที่เชื่อมต่อกับอารีย์ และพหลโยธินที่มีความเจริญ และมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อาศัย และทำงานในย่านนี้อยู่มากนั้น ส่งผลให้เกิดเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ตลาดนัดซึ่งกลุ่มคนที่มาใช้บริการก็ถือว่ามีกำลังซื้อมากพอสมควรเลยทีเดียว
ทั้งนี้หากมองในแง่ของราคาคอนโดมิเนียมแล้ว ย่านประดิพัทธ์ราคาถูกกว่าย่าน อารีย์ ที่มีราคาเฉลี่ยราว 2 แสนบาท/ตร.ม. และส่วนโซนสะพานควายหรือบนเส้นประดิพัทธ์นี้ปัจจุบันมีราคาอยู่ที่ 1.6 แสนบาท/ ตร.ม. ทำให้ใครที่อยากอาศัยอยู่ในโซนละแวกนี้หันมาเลือกบนเส้นประดิพัทธ์กันมากขึ้น เพราะได้ราคาที่ถูกกว่า และยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า อีกทั้งการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถสาธารณะ อย่างรถเมล์ รถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซด์รับจ้างก็มีให้เรียกใช้บริการอยู่ไม่ขาดสาย
เหล่านี้จึงทำให้โซนประดิพัทธ์มีสีสัน และมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลา ทั้งเรื่องของอาหารการกิน แหล่งช็อปปิ้ง รวมไปถึงความคึกคักของการจราจรทั้งช่วงเช้า เที่ยง และเย็นที่ต้องเผื่อเวลารถติดกันไว้ด้วย โดยเฉพาะช่วงเย็นๆ ที่ร้านค้าร้านอาหารตามข้างทางจะผุดขึ้นทำให้สีสันยามค่ำคืนสนุกสนาน และรถราก็มีสีสันมากตามไปด้วย
สรุปโดยภาพรวมก็ถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจไม่น้อย เหมาะกับการลงทุนเพื่อซื้ออยู่อาศัยจริง และปล่อยเช่า อย่างที่บอกด้วยราคาเช่าทั่วไปย่านนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 – 20,000 บาท/เดือน/ยูนิต ฉะนั้นจึงนับได้ว่าเป็นราคาที่ไม่ขี้เหร่เลย
พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดเขาเต่า ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม สามารถสร้าง Passive Income จากการลงทุนที่โครงการการันตีผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี รวมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 15 ปี ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 50 อาคาร อาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น 6 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 10,074 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท
