ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หากพูดถึงทำเลฝั่งธนฯ ในปัจจุบัน สิ่งที่ถูกยกมาเป็นประเด็นฮอทฮิตมากที่สุดคงหนีไม่พ้นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ – ท่าพระ) โดยเฉพาะบริเวณ Interchange สถานีบางขุนนนท์ ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชั่น-ศูนย์วัฒนธรรม) สถานีบางขุนนนท์ และสามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟชานเมืองสายสีแดง (ตลิ่งชัน-ศาลายา) ได้ด้วย ซึ่งคอนโดมิเนียมที่ปักหมุดอยู่ใกล้กับสถานีบางขุนนนท์ไม่เกิน 1-2 สถานีก็เรียกได้ว่าน่าสนใจและทำยอดขายได้เกินเป้า ไม่ว่าจะเป็น โครงการไอดีโอ โมบิ จรัญ – อินเตอร์เชนจ์ ไลฟ์ ปิ่นเกล้า และ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า และกำลังมีการขยายตัวของคอนโดมิเนียมออกมาเรื่อยๆ จากศักยภาพของแนวถนนที่ตีคู่ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา และได้รับอานิสงส์ในการเชื่อมต่อไปยังสถานีบางขุนนนท์ได้ง่าย
หนึ่งในโครงการที่น่าสนใจที่เข้ามาปักหมุดต่อจากโครงการอื่นๆ และมีความสดใหม่ที่สุดในบรรดาดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังก็คือโครงการ เดอะ ทรี จรัญฯ 30 (The Tree Charan 30) ของ พฤกษา เรียลเอสเตท ที่เข้ามาสร้างความแตกต่างของที่อยู่อาศัยแนวคอนโดมิเนียม ด้วยการเลือกทำเลที่เขยิบออกจากสถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์ออกมาประมาณ 300 ม. (อยู่ในระยะที่เดินได้) แต่แลกมาด้วยความอุดมสมบูรณ์ที่ล้อมรอบไปด้วยอาหารการกิน ตลาดสด และห้างค้าปลีกใหญ่อย่างแม็คโคร รวมไปถึงเรื่องโปรดักส์โครงการที่พัฒนาคอนโดมิเนียมแนวสูงออกมาให้มีความเป็นส่วนตัวจากยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นไม่เกิน 12 ยูนิตเท่านั้น พร้อมกับส่วนกลางขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับจำนวนยูนิตทั้งหมด 305 ยูนิตได้อย่างลงตัว โดยมีห้องเริ่มต้นเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.60 ตร.ม. กับราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะทรี จรัญฯ 30 (The Tree Charan 30)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยจรัญสนิทวงศ์ 30 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์: http://thetreecondo.pruksa.com
โทร: 1739
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2559)
พื้นที่โครงการ: 1-3-79 ไร่
ลักษณะโครงการ: อาคาร A สูง 22 ชั้น จำนวนยูนิต 245 ยูนิต และอาคาร B สูง 8 ชั้น จำนวนยูนิต 60 ยูนิตพร้อมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จำนวนยูนิตรวมทั้งหมด 305 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ยูนิตที่อาคาร A
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนพื้นที่ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใหม่ย่านฝั่งธนฯ, พนักงานที่มีเงินเดือนตั้งแต่ 25,000 – 30,000 บาท
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างประมาณเดือนกันยายน 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2562
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสารอาคารละ 2 ตัว ลิฟท์เซอร์วิส 1 ตัว ตั้งอยู่ในอาคาร 22 ชั้น
ที่จอดรถ: 134 คัน คิดเป็น 43% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
สิ่งอำนวยความสะดวก:
The prime lobby
Elegant lift & Precious mailbox ชั้น 1 อาคาร A
Exclusive working space & Private meeting room ชั้น 3 อาคาร A
Hideaway garden & Garden view gym ชั้น 4 อาคาร B
Finest sky lounge ชั้น 22 อาคาร A
Crystalline Sky Pool
Sky view courtyard & Leisure sky scene
ชั้น Roof top อาคาร A
Steam Room แยกชาย หญิง ชั้น Roof top อาคาร A
Wifi สำหรับ Main Lobby
Exclusive working space
Private meeting room
Finest sky lounge
Hideaway garden
Garden view gym
Crystalline Sky Pool
กล้องวงจรปิด และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ Key Card
สิทธิ์ที่จอดรถ แบบไม่ระบุตำแหน่ง 1 คัน สำหรับ 1 ห้องนอน และ Shop , 2 คัน สำหรับ 2ห้องนอน
สถานะการขาย: ประมาณ 70 ยูนิตจาก 305 ยูนิต หรือ คิดเป็นประมาณ 23% ของโครงการ
เงื่อนไขการชำระเงิน: ห้องเริ่มต้น 1A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.6 – 23.7 ตร.ม.
จอง: 5,000 บาท
ทำสัญญา: 20,000 บาท
ดาวน์
งวดดาวน์ปกติ 19 งวด 2,900 บาท
งวดดาวน์ที่ 6, 12, 18 13,900 บาท
2 งวดสุดท้ายงวดที่ 23 – 24 30,000 บาท
อัตราผ่อนชำระ (ธนาคาร) 25 ปี สำหรับห้องเริ่มต้น 1A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.6 – 23.7 ตร.ม. : 13,498 บาท
อัตราผ่อนชำระ (ธนาคาร) 30 ปี สำหรับห้องเริ่มต้น 1A ขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.6 – 23.7 ตร.ม. : 12,561 บาท
*คำนวณอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6%
เงินกองทุนสะสม: 500 บาทต่อตารางเมตร (ชำระครั้งเดียว)
ค่าส่วนกลาง: 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ราคาเริ่มต้น: 1.99 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 98,000 บาทต่อตารางเมตร
ชมรูปแบบห้องนอนแบบ 360 องศา
1 ห้องนอนขนาดพื้นที่ใช้สอย 23.60 – 41.10 ตร.ม.
2 ห้องนอนขนาดพื้นที่ใช้สอย 43.95 – 45.85 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ เดอะ ทรี จรัญฯ 30 (The Tree Charan 30)
โครงการ The Tree จรัญฯ 30 มียูนิตรวมทั้งหมด 305 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ อาคาร A 22 ชั้น 245 ยูนิต และ 2 ยูนิตที่พักอาศัย และอาคาร B สูง 8 ชั้น 60 ยูนิต มีชั้น ใต้ดิน 2 ชั้น และอาคารจอดรถ 3 ชั้น ที่จอดรถประมาณ 134 คัน
ด้านหน้าโครงการติดอยู่กับถนนจรัญสนิทวงศ์ที่มี Line ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งผ่าน ยูนิตส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและทิศใต้
บรรยากาศรอบๆ โครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 3-4 ชั้น ดังนั้นวิวที่ได้รับจากยูนิตต่างๆ จึงจะเป็นวิวเคลียร์ทั้งหมดหากอยู่อาศัยที่ชั้นกลางๆ ขึ้นไป โดยที่ชั้นสูงๆ มองเยื้องๆ ออกไปที่ด้านหลังโครงการอาจจะมองเห็นวิวสะพานพระราม 8 และแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ดีไซน์อาคารเป็นสีเบอร์กันดี ออกแนวสีแดงๆ เลือดหมู ตัดกับสีเทาเข้ม อ่อน สร้างความโมเดิร์นและมิติให้แก่อาคาร ซึ่งถ้ารูปแบบอาคารจริงสามารถทำออกมาได้เหมือนภาพตัวอย่างดีไซน์และสีสันโครงการน่าจะดูกลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบๆ โครงการที่เป็นย่านเก่าแก่ แต่ก็มีกลิ่นอายของความสดใหม่น่าอยู่อาศัยตามยุคสมัย สีที่โครงการเลือกใช้ภายนอกถือว่าเป็นสีที่ไม่ได้สร้างความโดดเด่นมากจนเกินไป เป็นสีที่เรียบง่ายแต่ยังแฝงกลิ่นอายของความโมเดิร์นเข้าไป
ส่วนพื้นที่ของโครงการเป็นแนวลึก ด้านหน้าโครงการมีขนาดไม่กว้างมาก ผังของตัวอาคารโครงการ The Tree จรัญฯ 30 จะถูกแบ่งออกเป็น 2 อาคาร คือ อาคารสูง 22 ชั้น และอาคารสูง 8 ชั้น รวมยูนิตทั้งหมด 305 ยูนิต ตั้งอยู่ในแนวลึก และมีอาคารสูง 22 ชั้นอยู่ใกล้กับทางเข้าออก ส่วนอาคาร 8 ชั้นจะมีที่จอดรถชั้นล่างและชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น รวมเป็น 3 ชั้น ตั้งอยู่ด้านในสุดของโครงการ ซึ่งน่าจะมาจากการวางแผนให้อาคาร 8 ชั้นมีความเป็นส่วนตัวที่สุด โดยทั้ง 2 อาคารจะมียูนิตต่อชั้นมากสุดเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมากๆ สำหรับคอนโดมิเนียมไฮไรส์ ต้องบอกว่าโครงการทำออกมาได้ตอบโจทย์คนที่กำลังหาที่อยู่อาศัยฝั่งนี้มาก เพราะจากจุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัวในคอนโดมิเนียม ปัจจุบันยูนิตในตัวอาคารที่พักอาศัย 8 ชั้นก็สามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เองทั้ง 2 อาคารนี้สามารถเชื่อมต่อกันได้ที่ชั้น 4 ซึ่งอาคาร A นั้นจะมียูนิตร้านค้าอยู่ 2 ยูนิต แต่ไม่มีที่จอดรถ จะต้องมาจอดรถที่อาคาร B ที่ชั้นล่าง และชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น ภายในอาคาร B จะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัวสำหรับส่งลูกบ้านมาสู่ชั้น 4 แล้วเชื่อมต่อเข้าไปสู่อาคาร A ได้ โดยไม่ต้องผ่านล็อบบี้
ยูนิตส่วนใหญ่ภายในโครงการหันไปทางทิศเหนือ และทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่สามารถหลบแดดได้ดีที่สุด เพราะพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันออก และอ้อมใต้ไปตกที่ทิศตะวันตก แต่การที่พระอาทิตย์อ้อมใต้ไปนั้นไม่ได้หมายความว่าทิศใต้จะต้องร้อนทั้งวัน เนื่องจากทางใต้ของประเทศไทยจะมีลมมรสุมพัดเข้ามาตลอด ซึ่งก็ช่วยคลายความร้อนไปในตัวได้ระดับหนึ่ง ส่วนห้องทางเหนือถึงจะไม่ได้เจอแดดจังๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้รับแรงลมเท่าไหร่ และนี่คือข้อดีของยูนิตที่หันไปทางทิศเหนือและใต้ ในส่วนของยูนิตที่อยู่อาศัยเริ่มต้น โครงการจัดสัดส่วนยูนิตส่วนใหญ่ในอาคารเป็นห้อง 1 ห้องนอน โดยอาคารสูง 22 ชั้นจะมีห้องขนาดเริ่มต้นที่ 23.60 ตร.ม. ส่วนที่อาคาร 8 ชั้นจะมีห้องขนาดเริ่มต้นที่ 1 ห้องนอน 25 ตร.ม. ขึ้นไป ทั้งนี้ทุกยูนิตจะสามารถมองเห็นวิวรถไฟฟ้าวิ่งไปมาได้ โดยทางทิศใต้จะเห็นวิวทางฝั่งสถานีแยกไฟฉาย ส่วนยูนิตที่หันหน้าทางเหนือจะเห็นวิวของสถานีบางขุนนนท์
ภายในห้องจริงของโครงการจะเป็นห้องแบบ Fully Fitted คือได้รับเคาท์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า ที่ดูควัน ซิงค์ ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน และแอร์ ตามสัดส่วนของห้อง รวมไปถึงสุขภัณฑ์พร้อมบานกั้นห้องอาบน้ำ โดยห้องทั้งหมดที่โครงการมอบให้จะมีส่วนกั้นห้องเป็นบานเลื่อนกระจกใสวงกบ UPVC สีขาวให้ แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่ต้องการห้องที่เปิดโล่งไม่ต้องการส่วนกั้นในหนึ่งชั้นก็จะมียูนิตแบบ Open Plan ให้เลือกชั้นล่ะ 1 ยูนิตเท่านั้น
มาที่ส่วนกลางของโครงการ The Tree จรัญฯ 30 จะกระจายอยู่ทั้งอาคาร A และอาคาร B โดยอาคาร A จะประกอบไปด้วย Lobby ที่มีไฮไลท์เด่นโชว์ความหรูหราด้วยพื้นที่กว้างที่มีความสูงของห้องแบบ Double Volume ส่วนที่ชั้น 3 จะเป็นห้อง Exclusive Working Space & Private Meeting Room และชั้นบนสุดก็จะเป็น Sky Lounge, Sky Pool, Steam Room และสวนดาดฟ้าที่สามารถเทควิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร B จะเป็นพื้นที่สีเขียวของโครงการ ที่ชั้น 4 และห้อง Fitness ที่สามารถเทควิวสวนได้
Unit Layout
ห้องชุด Type 1 A เป็นห้องขนาดเริ่มต้น พื้นที่ใช้สอย 23.60 ห้องแบบนี้จะตั้งอยู่เฉพาะ ในอาคาร A เท่านั้น ในหนึ่งชั้นจะมีห้องแบบนี้เพียงหนึ่งห้อง เป็นห้องแบบครัวเปิด ส่วนห้องรูปแบบอื่นๆ จะเป็นจะเป็นห้องที่มีส่วนกั้นครัวทั้งหมด
ห้องชุดแบบ 1B3 เป็นห้องขนาด 26.45 ตารางเมตรง ห้องแบบนี้จะเป็นสัดส่วนกว่าห้องแบบแรกเพราะมีส่วนกัก ทั้งอาคาร A และอาคาร B จะมีห้องแบบนี้คละอยู่ทุกชั้น ระเบียงของห้องนี้จะอยู่เชื่อมต่อกับห้องครัว และมีห้องน้ำเชื่อมอยู่กับห้องนั่งเล่น
แบบห้อง 1C2 พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม. จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจากแบบห้อง Type 1B3 พื้นที่ใช้สอยในห้องนั่งเล่นจึงสามารถจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นบวกกับโต๊ะรับประทานอาหารได้ โดยฟังก์ชันห้องแบบนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ส่วนพักผ่อน กับ ส่วนใช้งาน ดังนั้นอีกครึ่งหนึ่งของห้องนอกจากห้องนั่งเล่นกับห้องนอน จึงเป็นในส่วนของห้องครัวปิดที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ และระเบียงที่ปรับเปลี่ยนเป็นส่วนซักล้างได้ ห้องแบบ 1C2 จึงถือเป็นห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนที่ได้รับความเป็นส่วนตัวมากที่สุดในโครงการ
ห้อง Type 2E1 เป็นห้อง 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยกว่า 42.95 ตร.ม. และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ Layout ของห้องเป็นแบบหน้ากว้า แบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน คือ Master Bedroom และห้องนอนที่ 2 โดยใน Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องน้ำกลางอีกหนึ่งห้องจะเชื่อมต่ออยู่กับพื้นที่อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดให้เป็นห้องนั่งเล่นรวมกับห้องครัวได้ โดยห้องครัวจะมีขนาดไม่ใหญ่มากเป็นครัวปิดที่เชื่อมอยู่กับระเบียงที่มีระบบประปาและไฟฟ้าติดตั้งให้ สามารถใช้งานเป็นส่วนซักล้างได้ จากแปลนห้องจะเห็นว่าโครงการเน้นพื้นที่ใช้สอยในการใช้งานมากกว่าในส่วนอื่นๆ ของห้อง ระเบียงของห้องทุกห้องจึงไม่ค่อยมีรูปแบบที่เชื่อมต่อกับห้องนอนเลย แต่จะไปอยู่บริเวณห้องครัวปิด เน้นการใช้งานมากกว่าการชมวิว
การวางทิศทางโครงการ เดอะ ทรี จรัญฯ 30 (The Tree Charan 30)
ทิศใต้: เป็นฝั่งของยูนิตที่หันอออกไปทางถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนเพชรเกษมเป็นวิวแนวราบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น แต่ปัจจุบันพื้นที่ข้างเคียงด้านข้างมีการดำเนินการก่อสร้างอาคารสูงประมาณ 5 ชั้น อยู่ ยูนิตที่ชั้น 4-5 บางส่วนอาจจะถูกบล็อควิวในจุดนี้ แต่ด้วย Set Back ของอาคารที่ห่างจากรั้วโครงการถึง 3 ม. ถึงแม้จะถูกบล็อควิว แต่ก็ไม่ได้ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในห้องอึดอัดอย่างแน่นอน
ทิศเหนือ: ทิศนี้เป็นยูนิตที่หันไปทางฝั่ง Makro จรัญฯ เป็นวิวแนวราบ ติดกับรั้วโครงการจะเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 4 ชั้น หากอยู่ชั้นสูงๆ มองออกไปจะเห็นวิวตึกสูงของโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณสถานี Interchange บางขุนนนท์
ทิศตะวันตก: ทิศตะวันตกของโครงการติดอยู่กับถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตลาดบางขุนศรี วิวด้านนี้จะเป็น Sky Line ยูนิตที่อยู่อาศัยของอาคาร A สามารถเทควิวรถไฟฟ้าวิ่งผ่านไปมาได้ ส่วนเรื่องยูนิตที่อยู่ใกล้ดับด้านหน้าโครงการที่ติดแนวรถไฟฟ้า ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องเสียง เพราะจากปากทางเข้า Set Back ของตัวอาคารเข้ามาลึกจากด้านหน้าพอสมควร
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
The prime lobby
Exclusive working space & Private meeting room ชั้น 3 อาคาร A พร้อม Elegant lift & Precious mailbox ชั้น 1 อาคาร A และ Wifi สำหรับ Main Lobby
Hideaway garden Garden view gym ชั้น 4 อาคาร B
Finest sky lounge ชั้น 22 อาคาร A
Crystalline Sky Pool
Sky view courtyard & Leisure sky scene ชั้น Roof top อาคาร A
Exclusive working space
Private meeting room
Steam Room แยกชาย หญิง ชั้น Roof top อาคาร A
กล้องวงจรปิด และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมระบบ Key Card
สิทธิ์ที่จอดรถ แบบไม่ระบุตำแหน่ง 1 คัน สำหรับ 1 ห้องนอน และ Shop , 2 คัน สำหรับ 2ห้องนอน
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: ไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
ผนัง: ผนังฉาบเรียบทาสี
พื้นจรดเพดานความสูง: ห้องนั่งเล่น 2.65 ม., ห้องนอน 2.50 ม., ห้องครัว 2.4 ม.
เฟอร์นิเจอร์: ตู้เสื้อผ้า Built – in
เครื่องปรับอากาศ: Daikin รุ่น Inverter ประหยัดไฟแบบแขวนผนัง (มอบให้ตามจำนวนสัดส่วนของขนาดห้อง)
สุขภัณฑ์: สุขภัณฑ์ทั้งหมดเป็นของ Kohler
ชุดครัว: ชุดครัวหน้าบานตู้ ลามิเนต Hi-gloss, Top หินสังเคราะห์สีขาว, เตาไฟฟ้า 2 หัว และอ่างล้างจานเป็นของ Franke
ประตูทางเข้าหลัก: ประตูบานลามิเนต พร้อม Digital Door Lock ของ Samsung
ประตูห้องต่างๆ: ประตู HDF สำเร็จรูปทำสี
บานหน้าต่าง : กระจกลามิเนตเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียมเพาเดอร์โค้ท
รีวิวห้องตัวอย่างขนาด 1 ห้องนอน Type 1C2 พื้นที่ใช้สอย 31 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร เป็นรูปแบบห้องหน้ากว้าง โครงการดีไซน์ผนังห้องให้เป็นบานกระจกเพื่อให้มองเห็นภาพรวมภายในห้องแบบห้องจริงผนังโปร่งใสจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี
โครงการจัดสรรห้องตัวอย่างให้เป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนห้องนั่งเล่นให้เป็นห้องรับประทานอาหารได้ไปในตัว เพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย
โครงการจัดวางโซฟา และโต๊ะกลาง พร้อมเก้าอี้เสริมเป็นแบบ 4 ที่นั่งให้เป็นไอเดีย แต่อยากพื้นที่ที่มีผนังกั้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนยื่นออกมาสามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้ใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา L – Shape หรือชุดโซฟาปกติพร้อมโต๊ะกลาง
ฝั้งตรงข้ามโซฟาเป็นผนังกั้นส่วนระหว่งห้องน้ำและห้องนั่งเล่น โครงการให้ไอเดียโดยการติดทีวีขนาดประมาณ 49-55 นิ้ว จากระยะห่างของผนังและโซฟามีขนาดประมาณ 2 ม. หากใครชอบดูหนัง ละคร ภาพยนต์ก็ยังสามารถเพิ่มขนาดจอทีวีให้ใหญ่กว่านี้และติดกับผนังได้ โดยที่ยังนั่งรับชมภาพจากโซฟาได้สบายๆ ส่วนถัดไปจากมุมนี้จะเป็นในส่วนของห้องนอน ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องครัวปิด
ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่พอสมควร โครงการเลือกจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงให้ติดตั้งชั้นที่มีความหนาไม่เกิน 30 ม. และเหลือทางเดินปลายเตียงได้สบายๆ
ภายในห้องนอนมีบานกระจกขนาดใหญ่สามารถเปิดรับลมได้ ในช่วงกลางวันจึงไม่ต้องกังวลเรื่องว่าแสงจะเข้าไม่ถึงห้องเลย และไม่ต้องกลัวร้อนด้วยเพราะทุกอยู่นิตหันไปที่ทิศใต้และเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ค่อยมีแดด
จากมุมนี้จะเป็นมุมที่นอนดูทีวีอยู่บนเตียง จะเห้นว่าระยะห่างระหว่างรับสายตากับทีวีมีระยะที่สามารถรับชมภาพจากทีวีขนาดตั้งแต่ 43-65 นิ้วได้อย่างสบายๆ
โครงการจัดสรรไอเดียโดยการวางเตียง 5 ฟุต ให้อยู่ชิดกับผนังห้องนอนเลย โดยเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงบริเวณฝั่งประตูเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่ฝั่งนี้ให้สามารถแต่งตัวได้
โครงการมอบตู้เสื้อผ้าบิวท์อินให้ตามภาพ เป็นตู้แบบบานเลื่อนสองตอน ด้านหนึ่งเป็นกระจก ข้อดีของตู้แบบนี้คือไม่เปลืองรัศมีการเปิดใช้งานของบานประตู
พื้นที่ที่เหลือระหว่างการวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน ถึงจะไม่กว้างมากแต่ก็สามารถยืนแต่งตัวได้อยู่ สำหรับคุณผู้หญิง เนื่องจากพื้นที่ในห้องนอนมีจำนวนจำกัด ในส่วนของโต๊ะเครื่องแป้งหรือการแต่งหน้าจึงถูกลดทอนลงไป แต่ด้วยฟีงก์ชันของตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกหากเลือกวางชั้นข้างเตียงที่มีพื้นที่หน่อยก็ยังสามารถวางเครื่องสำอางค์และนั่งแต่งหน้าบริเวณขอบด้านข้างเตียงได้แบบชิลล์ๆ
พื้นที่ในส่วนพักผ่อนกับพื้นที่สำหรับใช้งานถูกแบ่งโซนกันชัดเจน พื้นห้องในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนห้องครัวจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ซึ่งเป็นพื้นที่ทำความสะอาดง่ายเนื่องจากกระเบื้องมีขนาดใหญ่รอยต่อน้อย ในส่วนของบานกั้นห้องจะเป็นบานเลื่อนกระจกใสวงกบ UPVC ซึ่งจะระบายความร้อนได้ดีกว่าวงกบอลูมิเนียม
พื้นที่ใช้สอยภายในห้องครัวหักลบเคาท์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้ไปแล้ว น่าจะเหลือพื้นที่ความกว้างประมาณ 1.2 ม.
เคาท์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้มาพร้อมชั้นเก็บของด้านบน มีช่องใส่ไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน พร้อมลิ้นชักเก็บของด้านล่าง
ด้านบนท็อปด้วยลามิเนตปิดผิวไฮกรอสทำให้สามารถทำความสะอาดได้ โครงการบิวท์อินซิงค์ล้างจาน และเตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันให้ ทั้งหมดเป็นของ Franke
ผนังเคาท์เตอร์ครัวตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวมันทำความสะอาดคราบง่าย ไม่ต้องห่วงเรื่องความสกปรก ด้านบนเป็นชั้นเก็บของปิดผิวด้วยไฮกรอสวัสดุเดียวกับท็อปเคาท์เตอร์ครัว
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยโถสุขภัณฑ์ อ่างล้างหน้า และห้องอาบน้ำ ห้องน้ำทุกห้องของโครงการมอบฉากกั้นห้องบาน Tempered Glass ให้ เป็นบานเลื่อนเข้า – ออก 2 ตอน ซึ่งข้อดีมากๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ สามารถเดินเข้า – ออก ห้องอาบน้ำได้สบายๆ โดยไม่ต้องหลบรัศมีบานประตูเหมือนบานที่พลักเข้า-ออก ซึ่งบานประตูแบบนั้นเมื่อเจอคนตัวใหญ่ๆ เข้าไปใช้งานห้องอาบน้ำต้องบอกเลยว่าลำบากกว่าบานแบบนี้มาก
รัศมีการใช้งานโถสุขภัณฑ์มีความกว้างกว่า 1 ม. ซึ่งรัศมีที่สามารถใช้งานได้สำหรับคนทุกไซส์ทุกขนาด ด้านข้างโครงการติดตั้งกล่องชิดชู่ไว้ให้ และติดตั้งสายชำระไว้ทางด้านขวา โถสุขภัณฑ์เป็นระบบประหยัดน้ำแบบให้เลือกการกดชำระหนักเบาได้
อ่างล้างหน้าของ Kohlerที่โครงการมอบให้เป็นอ่างล้างหน้าแบบมีบิวท์อินชั้นเก็บของด้านล่างอ่าง ก็อกน้ำเป็นแบบหัวผสม โครงการมอบกระจกเงาให้พร้อมชั้นวางของหน้ากระจกตามภาพ
พื้นที่ในห้องอาบน้ำมีขนาดกว้างพอสมควร เรียกได้ว่าเอาคนไซส์ปกติๆ ไปยืนอาบกันได้ 2 คนก็ยังได้ ส่วนพื้นในห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย
ฝักบัวที่โครงการให้เป็นของ Kohler สามารถปรับระดับน้ำได้ 3 รูปแบบ โครงการติดตั้งสายไฟสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นซ่อนผนังให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้มอบเครื่องทำน้ำอุ่นให้
สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นแบบและบังคับน้ำอุ่นน้ำเย็นได้จากก็อกน้ำได้ เนื่องจากฝักบัวที่โครงการมอบให้เป็นแบบหัวผสม
ต่อมาเป็นพื้นที่ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิก โครงการติดตั้งระบบประปาและระบบไฟฟ้าไว้ให้ เพื่อปรับเปลี่ยนให้ระเบียงเป็นพื้นที่ซักล้าง แต่ไม่ได้มอบเครื่องใช้ไฟฟ้าให้
พื้นที่ระเบียงมีความกว้างพอสมควร สามารถวางเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาหน้า และฝาบนขนาดมาตรฐานแบบฝาเดียวได้สบายๆ
รีวิวห้องตัวอย่างขนาด 2 ห้องนอน Type 2E1 พื้นที่ใช้สอย 43.95 ตร.ม.
ห้องแบบ 2 ห้องนอน Type 2E1 เป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ เน้นพื้นที่ใช้สอยของห้องอเนกประสงค์ และ Master Bedroom เป็นหลัก
ภายในห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ตำแหน่งกลางห้องเป็นห้องที่มีสัดส่วน Layout ของห้องใหญ่ที่สุด สามารถจัดวางชุดโซฟา และโต๊ะอาหาร 2-4 ที่นั่งได้สบายๆ
โครงการให้ไอเดียในการจัดสรรห้องอเนกประสงค์ด้วยการวางโซฟา 2 ที่นั่ง และโต๊ะทานข้าว 3 ที่นั่ง ออกแนวอารมณ์ห้องตัวอย่างที่ถูกออกแบบมาสำหรับพี่น้องที่ต้องการนอนแยกห้องมากกว่าคู่รัก
พื้นที่ของห้องนั่งเล่นตรงกลางห้องเชื่อมต่อกับทุกส่วนของห้อง ฝั่งนี้จะเป็นทางเข้าไปห้องนอนใหญ่ แบบห้องจริงจะมีบานประตู HDF กลอนลูกบิดธรรมดาให้ เป็นบานที่เปิดออกดูได้จากวงกบของบานประตูห้องนอน
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องครัวปิด และห้องน้ำ ส่วนด้านซ้ายมือถัดไปจากห้องครัวปิดจะเป้นห้องนอนที่ 2
ห้องแบบนี้มี 2 ห้องน้ำ ในส่วนนี้จะเป็นห้องน้ำกลางของห้อง มีสุขภัณฑ์ครบครัน อ่างล้างหน้าที่โครงการมอบให้มีชั้นเก็บของด้านล่างตามภาพ ห้องอาบน้ำมีบานกั้นส่วนโซนเปียกโซนแห้งเรียบร้อย
พื้นที่ในห้องอาบน้ำตั้งอยู่บริเวณมุมห้อง มีขนาดไม่ใหญ่มาก ดีไซน์ให้รอบด้านเป้นบานกระจกเพื่อความโปร่งโล่งสบายของพื้นที่ในห้องอาบน้ำที่มีจำกัด
โถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่ใกล้กับห้องอาบน้ำ รัศมีในการใช้งานหน้ากว้างประมาณ 80 ซม. ซึ่งอาจจะแคบลงมาหน่อยจากห้องน้ำรูปแบบอื่น แต่ก็ยังถือเป็นมาตรฐานเริ่มต้นสำหรับการติดตั้งโถสุขภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้สะดวก
ภายในห้องอาบน้ำกรุผนังด้วยกระเบื้องเซรามิก ฝักบัวที่โครงการมอบให้ปรับน้ำได้ 3 ระดับ พร้อมที่วางสบู่ และก็อกน้ำหัวผสม โครงการติดตั้งสายไฟซ่อนผนังสำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย
พื้นที่ในห้องอาบน้ำมีขนาดไม่ใหญ่มาก โครงการติดตั้ง Floor Drain แบบกันกลิ่นให้ตามภาพ บานประตูกั้นส่วนสำหรับห้องอาบน้ำของห้องนี้จะเป็นบานพับตามภาพ เวลาใช้งานห้องอาบน้ำต้องพยายามหลบมุมแล้วปิดบาน ซึ่งถือเป็นปัญหาของบานพับแบบนี้
โครงการติดตั้งเตาไฟฟ้าสองหัวให้เรียบร้อย พร้อมที่ดูดควัน และซิงค์ล้างจาน ผนังเคาท์เตอร์ครัวกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทาตามภาพเลย รวมถึงระบบปลั๊กไฟฟ้าก็ได้รับตามตำแหน่งที่เห็นอยู่ด้านหลังแจกันดอกไม้
ด้วยห้องที่มีขนาดใหญ่พอสมควรการวาง Layout ของห้องครัวจึงมีพื้นท่สำหรับเตรียมครัวมากพอสมควร เมื่อหยิบจับเครื่องครัวหรือใช้งานลิ้นชักเก็บของก็ยังเหลือพื้นที่ยืนเตรียมครัวได้สบายๆ
เตาไฟฟ้าที่โครงการมอบให้เป็นของ Franke ส่วนด้านข้างเตาเป็นพื้นที่เตรียมครัวบนท็อปครัว สามารถวางเขียงและเครื่องเคียงต่างๆ ได้ โดยยังเหลือพื้นที่ทำอย่างอื่น
ลักษณะซิงค์ล้างจานที่โครงการมอบให้เป้นแบบบิวท์อินลงไปกับเคาท์เตอร์ครัว มีความลึกสามารถจุภาชนะได้เยอะพอสมควร
พื้นจรดเพดานของห้องครัวจะมีความสูงอยู่ที่ 2.4 ม. ซึ่งจะเตี้ยกว่าห้องอเนกประสงค์ 2.65 ม. และห้องนอนที่ 2.5 ม.
บริเวณระเบียงโครงการยกธรณีของบานกั้นขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหล วัสดุของประตูกั้นระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียมเพาเดอร์โคท
ระเบียงมีความกว้างพอสมควร สามารถติดตั้งชั้นวางคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ 2-3 ตัว พร้อมออกไปยืนรับลมได้ 2 คนสบายๆ
ภายในห้องนอนเชื่อมต่อกับบานหน้าต่างขนาดใหญ่เป็นบานกระจกเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียมเพาเดอร์โคทเหมือนบานกั้นระเบียง
ภายในโครงการมอบตู้เสื้อผ้าบิวท์อินแบบมีกระจกเงาแบบ Full Height ให้ โดยภายในห้องนอนโครงการจัดสรรห้องเป้นไอเดียด้วยการวางเตียงเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุต และยังเหลือพื้นที่ให้ยืนแต่งตัวตามภาพ
ต่อมาเป็นในส่วนของ Master Bedroom จากมุมนี้มองเข้าไปจะเห็นตู้เสื้อผ้าบิวท์อินที่โครงการมอบให้เป็นอันดับแรก ด้วยบานประตู HDF ที่ใช้ในการเปิดออก หากอยู่อาศัยห้องนี้ 2 คนก็ไม่ต้องกลัวว่าเวลายืนแต่งตัวหน้าห้องน้ำหรือหน้าตู้เสื้อจะโดนรัศมีการเปิดประตูของผู้ใช้งานอื่นๆ ตอนเข้าห้อง
ภายในห้องนอนใหญ่ มีขนาดกว้างพอสมควรสามารถวางเตียงและชั้นวางทีวีโดยเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงได้ ด้านในเป็นบานกระจกฟิกซ์ 4 บาน พร้อมบานกระทุ้ง 2 บานตามภาพ
จากการวางเตียง 5 ฟุต จะเห็นว่าเหลือพื้นที่สำหรับวางชั้นข้างเตียงตามภาพ ซึ่งในจุดนี้หากใครที่อยากวางเตียงคิงไซส์ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้แต่ไซส์เตียงอาจจะพอดีกับพื้นที่ที่เหลือในภาพ แต่ก็ยังเดินขึ้นเตียงจากข้างเตียงหรือปลายเตียงได้จาก Layout ของห้องที่มีขนาดยาว
ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินที่โครงการมอบให้เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานที่โครงการมอบให้กับทุกห้องนอน ด้านในมีชั้นเก็บของ 3 ชั้น ตามภาพ สำหรับคูณผู้หญิงก็ไม่ต้องตกใจ จากพื้นหน้าตู้และฟังก์ชันารใช้งานของตู้เสื้อผ้า สามารถวางเครื่องสำอางไว้ที่ชั้นในตู้ และวางม้านั่งหน้ากระจกนั่งแต่งหน้าได้เลย
Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวอยู่บริเวณถัดจากตู้เสื้อผ้าที่โครงการมอบให้ โครงการทำธรณีประตูขึ้นสูงจากพื้นเพื่อป้องกันน้ำไหล ส่วนประตูห้องน้ำที่โครงการมอบให้จะเป็นบาน HDF แบบกลอนลูกบิด
โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าถูกจัดวางอยู่ในแนวเดียวกัน ด้วยการวางสุขภัณต่างๆ ในตำแหน่งนี้ จะทำให้สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต้องส่องกระจกเงาได้ขณะทำธุระบนโถสุขภัณฑ์ไปด้วย ซึ่งถือเป็นอะไรที่สะดวกในเวลาที่ต้องเร่งรีบ
บานกั้นส่วนกระจกนิรภัยเป็นบานแบบพลักเข้าด้านในมีที่จับแบบหูช้าง พร้อมติดตั้งขอบยางกันกระแทกให้เรียบร้อย
พื้นที่ด้านในห้องอาบน้ำในห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างกว่าห้องน้ำกลางด้านนนอก จากภาพนี้จะเห็นรัศมีในการใช้งานของการเปิด – ปิด ประตู เวลาใช้งานจริงคนตัวใหญ่ๆ จำเป็นต้องไปยืนหลบที่มุมขวาบนเพื่อปิดบานประตู
โครงการติดตั้งฝักบัวให้ตามมาตรฐานเหมือนห้องอื่นๆ ฝักบัวสามารถปรับระดับน้ำได้ 3 รูปแบบ พร้อมก็อกน้ำแบบหัวผสม และที่ยึดฝักบัวที่มีแท่นวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล เดอะ ทรี จรัญฯ 30 (The Tree Charan 30)
ในแง่ของอสังหาริมทรัพย์แนวคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนฯ จะถูกแบ่งโซนออกเป็น 3 โซนด้วยกัน คือ สิรินธร – บางพลัด, จรัญสนิทวงศ์ – ปิ่นเกล้า และวงเวียนใหญ่ – ท่าพระ โดยพื้นที่ที่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ของฝั่งธนฯ ในยุคแรกๆ ก็คือ วงเวียนใหญ่ – ท่าพระ เพราะเป็นโซนแรกในย่านฝั่งธนฯ ที่มีการตัดผ่านของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และได้รับความนิยมพอสมควรในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันด้วยความที่เป็นพื้นที่ดินที่ติดแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้ง่ายที่สุดที่ดินจึงค่อยๆ แพงขึ้นเรื่อยๆ และมีราคาสูงเกินกว่าจะพัฒนาคอนโดฯ ที่อยู่ขอบเมืองอย่างบริเวณ วงเวียนใหญ่ – ท่าพระ ดังนั้นอานิสงส์ดังกล่าวจึงเข้ามาสู่บริเวณ จรัญสนิทวงศ์ – ปิ่นเกล้า และ สิรินธร – บางพลัด โดยทั้งสองโซนนี้จะถูกจัดกลุ่มออกเป็นดีมานด์ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน และราคาต่อตร.ม.ของห้องชุด ซึ่งบริเวณฝั่งสิรินธร – บางพลัด โซนนี้ราคาต่อตร.ม.ของคอนโดมิเนียมจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 – 80,000 บาท และคนที่อยู่อาศัยบนทำเลนี้มักจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตหรือมีหน้าที่การงานอยู่บริเวณ เตาปูน – บางซื่อ เป็นส่วนใหญ่จากจุดเชื่อมต่อของสถานีรถไฟฟ้าไม่กี่สถานี
ส่วนทางฝั่งจรัญสนิทวงศ์ – ปิ่นเกล้า ดีมานด์ส่วนใหญ่ที่เลือกเข้ามาอยู่บริเวณนี้จะเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตการทำงานอยู่บริเวณที่เป็น CBD อย่าง สาทร – สีลม, อโศก – สุขุมวิท และพระราม 9 จากตัวเลือกของการเชื่อมต่อที่ง่ายและสะดวกกว่าไม่ว่าจะเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง – ท่าพระ) หรือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชั่น-ศูนย์วัฒนธรรม) ซึ่งหากไม่นับบริเวณวงเวียนใหญ่ – ท่าพระ แล้ว จรัญสนิทวงศ์ – ปิ่นเกล้าถือเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าฝั่ง สิรินธร – บางพลัด ในแง่ของคนที่ต้องการเชื่อมต่อไปยัง CBD ต่างๆ ในกรุงเทพฯ ในฐานราคาที่ไม่แพงมาก แต่ได้รับอานิสงส์จากทำเล และรถไฟฟ้าสายใหม่ทั้งส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน และสายสีส้มไปเต็มๆ ดังนั้นจากข้อได้เปรียบตรงนี้คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่ปักหมุดอยู่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์จึงมีราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ประมาณ 80,000 – 90,000 บาทต่อตร.ม. ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นราคาน้องๆ คอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าแถววงเวียนใหญ่เลยก็ได้ ถึงแม้จะเขยิบออกมาจากตัวเมืองชั้นในพอสมควร แต่สิ่งที่จะได้รับแน่ๆ สำหรับคอนโดมิเนียมที่เข้ามาเช็คอินบนถนนจรัญสนิทวงศ์ก็คือวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขนานกับถนนเส้นนี้ตลอดสาย
จากข้อมูลดังกล่าวในแง่ของพื้นที่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ต้องบอกเลยว่าการเข้ามาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีผลต่อพื้นที่บนถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ของการอยู่อาศัยตลอดจนเส้นทางการคมนาคมการเชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆ ซึ่งจากภาพจะเห็นผังเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่วิ่งวนเป็นวงกลมมีเส้นทางที่ตัดผ่านเมืองชั้นในอย่างหัวลำโพง – บางซื่อ และล้อมรอบขอบเมืองอย่างบริเวณพระนครเอาไว้ ซึ่งจากเส้นทางการเดินทางต้องบอกว่าการเดินรถเป็นวงกลมล้อมรอบตัวเมืองเอาไว้ทำให้เกิดจุดตัดของเส้นทางคมนาคมโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ทุกสีที่วิ่งผ่านเข้าตัวเมือง ดังนั้นหากไม่นับรถไฟฟ้าสายเดิมที่วิ่งเลียบแนวเมือง ใครที่อาศัยอยู่บนแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจึงได้เปรียบในการเดินทางที่ง่ายกว่าสายอื่นๆ พอสมควรจากตัวเลือกของ Interchange ต่างๆ ที่สามารถไปยังสถานที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ ได้สบาย
ทำเลที่ตั้งโครงการ เดอะ ทรี จรัญฯ 30 (The Tree Charan 30)
โครงการ The Tree จรัญฯ 30 ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนเพชรเกษม หรือ ฝั่งตรงข้ามแม็คโคร จรัญสนิทวงศ์ อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางขุนนนท์ ที่เป็น Interchange กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสีแดงที่ประมาณ 450 ม. รวมไปถึงอยู่ห่างจากสถานีแยกไฟฉายไม่เกิน 300 ม. นอกจากนั้นในเรื่องของบริการขนส่งมวลชนสาธารณะอื่นๆ ก็สามารถใช้บริการได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น Taxi ซึ่งวิ่งผ่านไปมาบนถนนจรัญสนิทวงศ์เยอะมากๆ จากการที่มีอู่ Taxi ตั้งอยู่บนฝั่งธนฯ เยอะมากๆ รวมไปถึงถัดมาหน้าโครงการไม่เกิน 50 ม. ยังมีป้ายรถเมล์ซึ่งมีรถเมล์หลายสายผ่าน อาทิ สาย 40ร, 42, 68, 80, 171ร, 175ร, 509 วิ่งเข้าไปสู่ตัวเมืองได้สบายๆ
ตามแนวรถไฟฟ้าของถนนจรัญสนิทวงศ์ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 3-4 ชั้น มีร้านสะดวกซื้ออยู่ตลอดแนวถนนทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดประปรายอยู่ริมถนนตลอดแนว ซึ่งตัวเลือกในการเลือกหาร้านอาหารริมทางบนถนนจรัญสนิทวงศ์อาจจะน้อยแต่ก็ยังมีอยู่สำหรับโครงการอื่นๆ ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า แต่สำหรับโครงการ The Tree จรัญฯ 30 ต้องบอกว่าทางเลือกในเรื่องของอาหารการกินถือว่าเยอะมากๆ เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่ที่สุดบนถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ได้ ซึ่งประกอบไปด้วย
Foodland จรัญสนิทวงศ์
ภาพ via igx.4sqi.net
ถัดมาจากโครงการไม่กี่เมตรในระยะที่เดินได้จากหน้าโครงการไม่ถึง 5 นาที จะมี Foodland สาขาจรัญสนิทวงศ์ ภายในมีศูนย์อาหารชื่อดังอย่างถูกและดีที่มีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกมากมาย แค่ชื่อก็ไม่ต้องอธิบายแล้วว่าศูนย์อาหารนี้มีดีอย่างไร
ตลาดบางขุนศรี
จากหน้าโครงการสามารถเดินขึ้นสะพานลอยมาลงอีกฝั่งแล้วเดินเข้าตลาดบางขุนศรีได้เลย ตลาดบางขุนศรีนี้มีขนาดใหญ่พอสมควร พื้นที่ภายในจะแบ่งเป็นส่วนของร้านอาหาร ส่วนตลาดสด มีร้านอาหารมากกว่า 20 ร้าน พร้อมของสดให้เลือกนำไปประกอบอาหารแบบที่ว่าเดินข้ามฝั่งกลับเข้าห้องปลาก็ยังไม่ตาย
Makro จรัญสนิทวงศ์
จากโครงการข้ามฝั่งมาเดินจากตลาดบางขุนศรีอีกไม่เกิน 100 เมตร จะพบห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือ Makro สาขาจรัญสนิทวงศ์ที่เรียกได้ว่ามีทุกอย่างสำหรับการดำเนินชีวิตทั้งแบบค้าปลีก ค้าส่ง ของสด ของคาว ศูนย์อาหาร ตลาดคนเดิน ร้านหนังสือ รวมไปถึงร้านอาหารแบรนด์เนมชื่อดังทั้ง MK Restaurant, KFC ตลอดจนสตรีทฟู้ด น้ำตก ซกเล็ก จิ้มจุ่มรสชาติเด็ดดวงที่ตั้งอยู่หน้าศูนย์การค้าถึง 2-3 ร้าน
เซ็นทรัลพลาซ่า ปิ่นเกล้า
ภาพ via numerothailand.com
ส่วนห้างสรรพสินค้าอื่นๆ ในระยะที่สามารถเชื่อมต่อไปถึงได้ง่ายทั้งขับรถยนต์ส่วนตัว และใช้บริการรถสาธารณะจะกระจุกตัวอยู่บริเวณพระปิ่นเกล้า ไม่ว่าจะเป็น PATA ห้างเก่าแก่ที่ถึงแม้คนจะให้ความสนใจน้อยแต่ก็ยังอำนวยความสะดวกสิ่งต่างๆ ได้อย่างครบครันทั้งบริการของสถาบันทางการเงิน คอร์ดแบดมินตันชื่อดัง ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ นอกจากนั้นบนถนนบรมราชชนนีก็ยังมี Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, Central ปิ่นเกล้า, คอมมิวนิตี้ มอลล์ The Sense , Major ปิ่นเกล้าและตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ที่สามารถเชื่อมต่อไปได้ พร้อมทั้งโรงพยาบาลใหญ่ๆ อย่าง โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลกรุงธนบุรี และโรงพยาบาลวิชัยเวช หรือ โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก เรียกได้ว่าพื้นฐานทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการดำรงค์ชีวิตเพียบพร้อมไม่ต่างจากที่ตั้งคอนโดฯ ในตัวเมืองเลย
สะพานพระราม 8
ภาพ via i.ytimg.com
สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
สะพานกรุงธน
ในเรื่องความสะดวกของเส้นทางคมนาคมรอบที่ตั้งโครงการนอกจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแล้ว บนถนนจรัญสนิทวงศ์ นั้นเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญหลายสาย สามารถเข้าเมืองได้หลายทางไม่ว่าจะเป็นจากสะพานพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8, สะพานกรุงธน ข้ามไปสู่ตัวเมืองชั้นในได้ ส่วนใครที่ทำงานในย่านที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ตัวเมือง หากมุ่งหน้าจากโครงการมาเรื่อยๆ จะไปเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษมหรือบริเวณแยกท่าพระและสามารถเลือกที่จะวิ่งออกไปนอกเมืองได้โดยใช้ถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าไปสู่พุทธมณฑล ราชพฤกษ์ วงแหวนกาญจนาภิเษกหรือจะใช้ถนนบรมราชชนนีมุ่งหน้าไปสู่ศาลายา จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรีก็ได้เช่นกัน
นอกจากเส้นทางการคมนาคมที่กล่าวมา บริเวณสามแยกไฟฉายในปัจจุบันที่ไม่ไกลจากโครงการยังมีถนนพระเทพตัดใหม่ที่ทำให้การเดินทางออกนอกเมืองของทำเลนี้สะดวกขึ้น โดยตัวถนนพระเทพตัดใหม่นี้จะเชื่อมต่อตั้งแต่ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนราชพฤกษ์ ใช้เดินทางไปบางใหญ่ นนทบุรีได้ ซึ่งที่ผ่านมาในเรื่องของการจราจรบริเวณสามแยกไฟฉายหรือถนนจรัญสนิทวงศ์เองถือว่ามีความหนาแน่นมากในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่ปัจจุบันนอกจากมีถนนพระเทพตัดใหม่แล้วก็ยังมีอุโมงค์ลอดแยกไฟฉายและทางด่วนโครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เข้ามาช่วยคลายความหนาแน่นบนถนนจรัญสนิทวงศ์ขึ้นด่วน
ทางด่วนพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอก
ทางขึ้นทางด่วนที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือจุดขึ้นทางด่วน บางบำหรุ สามารถใช้ทางด่วนเส้นนี้ข้ามจากฝั่งธนฯ ไปยังบริเวณบางซื่อ จตุจักรได้ โดยทางขึ้นบางบำหรุนี้จะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 9 กม.
จากท่าเรือประปิ่นเกล้าสามารถนั่งมาลงยังท่าเรือสาทรแล้วมาเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินสายสีเขียวได้
อีกหนึ่งเส้นทางที่สำคัญ อย่างที่กล่าวในช่วงต้นว่าถนนจรัญสนิทวงศ์นั้นเป็นถนนคู่ขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยา อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการเดินทางไปสู่ตัวเมืองเพื่อเลี่ยงปัญหาการจราจรที่หนาแน่นก็คือเรือด่วนเจ้าพระยา โดยท่าเรือที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดจะเป็นท่าเรือพระปิ่นเกล้าหรือท่ารถไฟ ซึ่งจะมีเรือด่วนเจ้าพระยาธงสีส้มและธงสีเหลืองสามารถใช้บริการเรือธงส้มนี้เชื่อมต่อไปยังบริเวณท่าเรือสาทร และใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสะพานตากสินเข้าสู่ตัวเมืองได้ โดยระยะเวลาในการเชื่อมต่อไปถึงจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. มีอัตราค่าใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 15 บาท จากโครงการไปยังท่าเรือพระปิ่นเกล้ามีระยะประมาณ 3.5 กม. สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์จากหน้าโครงการไปถึงท่าเรือได้ในราคาประมาณ 40 – 50 บาท หรือสามารถนั่งรถเมล์สาย 42, 68, 79, 91, 509 ไปลงบริเวณใกล้กับท่าเรือได้
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
สถานีแยกไฟฉาย 300 ม.
สถานีบางขุนนนท์ 450 ม.
ตลาดบางขุนศรี 140 ม.
Foodland จรัญสนิทวงศ์ 180 ม.
Makro จรัญสนิทวงศ์ 180 ม.
Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ 2.1 กม.
สถานีตำรวจบางกอกน้อย 2.8 กม.
พาต้า 4.3 กม.
Tesco Lotus ปิ่นเกล้า 4.3 กม.
Central ปิ่นเกล้า 4.8 กม.
The Sense ปิ่นเกล้า 4.8 กม
Major ปิ่นเกล้า 7.9 กม.
ม.ธรรมศาสตร์ 6.6 กม.
ม.ศิลปากร 6.7 กม.
สนามหลวง 5.9 กม.
วัดพระแก้ว 6.3 กม.
โรงพยาบาลศรีวิชัย 400 ม.
โรงพยาบาลศิริราช 2.2 กม.
โรงพยาบาลกรุงธนบุรี 7.3 กม.
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
ปัจจุบันโครงการบนถนนจัรญสนิทวงศ์ที่เป็นที่น่าสนใจและทำการ Sold out ได้อย่างรวดเร็วจะตั้งอยู่บริเวณใหล้กับสถานีสิรินทร เพราะติดกับถนนใหญ่และสามารถข้ามสะพานกรุงธน เข้าเมืองได้อย่างง่ายดายด้วยรถยนต์ ส่วนในเรื่องของภาคสถานีรถไฟฟ้าสิรินธรนอกจากจะวิ่งเข้าเมืองไปทางส่วนต่อขยายหัวลำโพงท่าพระได้แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อเพียง 5 สถานีเท่านั้น โครงการจึงได้รับความสนใจซื้อง่ายขายคล่องเป็นพิเศษ ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องยืนยันว่าคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนฯ ก็ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่ไม่น้อย
จากตัวแปรดังกล่าวของคอนโดมิเนียมใกล้สถานีสิรินธรที่เป็นช่วงต้นของถนนจรัญสนิทวงศ์สามารถทำยอดขายได้ในระดับที่ดีมาก การแข่งขันทางการตลาดของคอนโดมิเนียมไฮไรส์ตามแนวรถไฟฟ้าจึงมากขึ้น และดูจะมีภาษีที่ดีกว่าทางฝั่งบางพลัดที่มุ่งหน้าไปยังบางซื่อ เนื่องจากดีมานด์ส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตและทำงานอยู่บน CBD ดั้งเดิม และที่อยู่อาศัยฝั่งถนนจรัญสนิทวงศ์ก็ตอบโจทย์มากกว่าทั้งในเรื่องระยะเวลาในการเดินทาง ตลอดจนราคาที่ยังอยู่ในฐานที่พนักงานเงินเดือนรับได้ พร้อมห้องชุดที่มีขนาดใหญ่พอสมควร การปล่อยขายต่อหรือขายใบจองจึงมีความคล่องตัวจากเรียลดีมานด์ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่โดยเฉพาะโครงการใหม่ที่สร้างเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่ก็สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 80% ซึ่งในปัจจุบันบนถนนจรัญสนิทวงศ์มีโครงการคอนโดมิเนียมรวมประมาณเกือบ 20 โครงการ รวมยูนิตทั้งหมดเกือบ 10,000 ยูนิต ซึ่งแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ผลตอบแทนที่ได้รับก็จะแตกต่างกันไปด้วย
สำหรับโครงการ The Tree จรัญฯ 30 สิ่งที่น่าสนใจก็คือความเป็นส่วนตัวที่มีให้มากกว่าโครงการอื่นๆ ด้วยยูนิตต่อชั้นที่ 12 ยูนิต ซึ่งถือว่าน้อยมากสามารถตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยจริงๆ ได้อย่างแน่นอน ห้องขนาดเริ่มต้นที่ 23.60 ตร.ม. กับราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาทถือว่าเป็นราคากลางๆ ที่คอนโดมิเนียมบนถนนจรัญสนิทวงศ์ส่วนใหญ่ตั้งราคาเป็นบรรทัดฐานไว้คือยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
ดังนั้นความคุ้มค่าที่จะเกิดขึ้นก็คือเรื่องของการอยู่อาศัยจริง และราคาคอนโดมิเนียมในอนาคตที่จะพุ่งขึ้นไปเมื่อรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการ ซึ่งโครงการ The Tree จรัญฯ 30 นอกจากความเป็นส่วนตัวก็ยังมีความได้เปรียบในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินและพื้นฐานการดำรงค์ชีวิต ถึงแม้จะไม่ได้ติดสถานีรถไฟฟ้าที่ศูนย์เมตร แต่ก็สามารถเดินเท้าไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ไม่ยากพร้อมกับราคาที่ต่างกับโครงการติดรถไฟฟ้าที่มีราคามากกว่าประมาณ 500,000 บาท ดังนั้นในราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท แต่ยังคงได้รับความสะดวกสบายในทุกๆ ด้านแทบไม่ต่างจากโครงการติดรถไฟฟ้าก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ส่วนในเรื่องค่าเช่าน่าจะตกอยู่ที่ประมาณ 7,500 – 8,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องเปล่า ส่วนใครที่กู้ธนาคารเป็นระยะเวลาขั้นต่ำ 25 ปี หากไม่รวมผ่อนดาวน์จำเป็นต้องผ่อนคอนโดมิเนียมเริ่มต้นที่ประมาณเดือนละ 13,500 บาท
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ชื่อโครงการ |
ยูนิต |
พืนที่ใช้สอย |
ราคาเฉลี่ย |
ราคาขาย |
The Tree จรัญฯ 30 |
1 ห้องนอน |
23.60 ตร.ม. |
98,000 บาท ต่อ ตร.ม. |
1.99 ล้านบาท |
The Parkland จรัญฯ – ปิ่นเกล้า |
สตูดิโอ |
24 ตร.ม. |
90,000 บาท ต่อ ตร.ม. |
1.91 ล้านบาท |
Ideo Mobi จรัญฯ Interchange |
สตูดิโอ |
21.5 ตร.ม. |
125,000 บาท ต่อ ตร.ม. |
2.69 ล้านบาท |
โครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า (The Parkland Charan – Pinklao)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท นายารา จำกัด ในเครือบริษัท นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนจรัญสนิทวงศ์ 42 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร 10700
เว็บไซต์: http://www.naraiproperty.com
โทร: 02-424-1999
พื้นที่โครงการ: 11-2-75 ไร่
ลักษณะโครงการ: อาคารสูง 22 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 1,784 ยูนิต ร้านค้า 4 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนพื้นที่, พนักงานเงินเดือนตั้งแต่ 25,000 – 30,000 บาทขึ้นไป
เริ่มก่อสร้าง: ประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2560
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ประมาณเดือน กรกฎาคม 2562
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ต่อ อาคาร, Service Lift อาคารละ 1 ตัว, ลิฟต์ Double Sky Lounge 1 ตัว ที่อาคาร C
ที่จอดรถ: 925 คัน หรือ 51 % (รวมจอดซ้อนคัน)
ที่จอดรถ 1 คันต่อยูนิต (ไม่ประจำ) สำหรับห้อง 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ
ที่จอดรถ 1 คันต่อยูนิต (ประจำ) สำหรับห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
สิ่งอำนวยความสะดวก: Triple Sport Facilities, Sauna แยกชาย-หญิง, Double Yoga Fly Lounge, Boxing Corner, Double Sky Lounge, Jogging Track, Mini-theater Room, Golf Simulator Room, Co-working Space, Meeting Room, Roof Top Garden, สวนหย่อมรอบโครงการ 3.18 ไร่
ระบบรักษาความปลอดภัย: ระบบ CCTV, Access Card, รปภ. รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
ค่าส่วนกลาง: 45 บาท ต่อ ตารางเมตร ต่อ เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์) *ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ แล้วแต่นิติบุคคลอาคารชุด
ราคาเริ่มต้น: 1.91 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 90,000 บาท ต่อ ตารางเมตร
รูปแบบห้อง
ห้องสตูดิโอ ขนาด 24 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 30.00 – 45.00 ตร.ม.
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45.00 – 49.50 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60.00 – 75.00 ตร.ม.
โครงการไอดีโอ โมบิ จรัญ-อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Mobi Charan Interchange)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) : ANAN
ทำเลที่ตั้ง: ถ.จรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์: http://www.ananda.co.th/condo/ideomobi/charan
โทร: 02 316 2222
พื้นที่โครงการ: 5-3-68 ไร่
รูปแบบ: คอนโดเนียม High Rise รูปตัว ผสมกับตัว L จำนวน 1 อาคาร ความสูง 22 ชั้น รวม 1,201 ยูนิต (สำหรับพักอาศัย 1,196 ยูนิต+ ร้านค้า 5 ยูนิต)
ยูนิตต่อชั้น: สูงสุด 66 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: ระดับกลาง-บน, คนในพื้นที่ดั้งเดิม, คนทำงาน, เจ้าของกิจการ
สถานะการก่อสร้าง: ธันวาคม ปี 2557– ตุลาคม 2558
ระบบรักษาความปลอดภัย: Access Card, รปภ. 24 ชม., CCTV ตามจุดสำคัญ
ที่จอดรถ: ที่จอดในช่องจอด 427 คัน ประมาณ 36 %
ลิฟท์ใช้งาน: 6 ตัว (ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว และลิฟท์สำหรับขนของ 2 ตัว)
ส่วนกลาง: Social Club, Theatre, Fitness, Sauna Stream, Library, Laundry
ค่าส่วนกลาง: 45 บาทต่อ ตารางเมตรต่อเดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.69 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: เริ่มต้นที่ 125,000 บาทต่อตารางเมตร
รูปแบบห้อง:
สตูดิโอ ขนาด 21.5 ตารางเมตร (มีแบบหน้าแคบ (NR) และแบบหน้ากว้าง (WD) ซึ่งปัจจุบันห้องรูปแบบ WD ขายหมดแล้ว) ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้าน
1 ห้องนอน 33.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท
2 ห้องนอน 45 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.6 ล้านบาท
สรุป
โครงการ The Tree จรัญฯ 30 ถือเป็นโครงการใหม่ล่าสุดบนถนนจรัญสนิทวงศ์สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2017 ดังนั้นต้องบอกว่าด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทั้งในเรื่องของที่ตั้ง และโปรดักส์ของตัวโครงการจะค่อนข้างแตกต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ที่ผ่านมา โดยจุดแข็งหลักๆ ของโครงการที่เห็นได้ชัดๆ ก็คือ ตำแหน่งที่ตั้งโครงการที่เรียกว่าเดินเท้าไปไม่เกิน 200 ม. ก็จะได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านของพื้นฐานการดำรงค์ชีวิต อาทิ อาหาร เครื่องใช้ เสื้อผ้า บริเวณที่เป็นจุดศูนย์กลางความอุดมสมบูรณ์บนถนนจรัญสนิทวงศ์อย่าง Makro จรัญฯ ในขณะที่โครงการอื่นๆ อาจจะต้องเรียกรถสาธารณะมายังจุดศูนย์กลางนี้ แต่สำหรับ The Tree จรัญฯ 30 สามารถเดินไปถึงได้ในเวลาไม่เกิน 5 นาที และมีตัวเลือกด้านอาหารการกินเยอะมากกว่าที่อื่นแน่นอน โดยอีกหนึ่งจุดสำคัญก็คือสำหรับดีมานด์ที่ชอบความเป็นส่วนตัวและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ในย่านนี้ โครงการ The Tree จรัญฯ 30 คือโครงการที่มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดในเวลานี้ จากยูนิตเพียง 305 ยูนิต และยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นที่ไม่เกิน 12 ยูนิต ซึ่งน้อยมากๆ สำหรับโครงการคอนโดมิเนียม
ส่วนจุดที่ด้อยกว่าโครงการอื่นๆ ในถนนจรัญสนิทวงศ์ก็คือที่ตั้งโครงการที่ไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีใดบนถนนจรัญสนิทวงศ์เลย ซึ่งจากที่ผ่านมาต้องบอกว่าโครงการของดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังส่วนใหญ่มักจะคัดสรรทำเลที่ติดกับรถไฟฟ้าศูนย์เมตร เรียกได้ว่าเดินออกมาจากโครงการก็สามารถเดินขึ้นไปสถานีรถไฟฟ้าได้ แต่สำหรับ The Tree จรัญ 30 ถึงแม้จะไม่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใดเลยบนแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน แต่ก็ได้อานิสงส์จากการอยู่ใกล้กับสถานีบางขุนนนท์ ที่เป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟชานเมืองสายสีแดงที่ 450 ม. ซึ่งต้องบอกว่าโครงการที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้าบริเวณนี้มีราคาค่าตัวที่ 2 ล้านกลางๆ แต่ในระยะที่ห่างออกมาในขนาดห้องที่พอๆ กัน The Tree จรัญฯ 30 ได้สร้างความแตกต่างในเรื่องของการเชื่อมต่อที่ไปถึงสถานีบางขุนนนท์ได้ในระยะเวลาที่ไม่ต่างกันมาก แต่ก็ลดส่วนต่างของราคาไปได้เป็นตัวเลขกว่า 6 หลัก ซึ่งตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้บริโภคจริงๆ ว่าลึกๆ แล้ว ผลกระทบเรื่องราคากับความสะดวกสบายที่ต่างกันไม่มากมีผลต่อจิตใจมากน้อยแค่ไหน
มาที่โอกาสในอนาคตของโครงการ The Tree จรัญฯ 30 ต้องบอกว่าด้วยศักยภาพทำเลของพื้นที่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ที่เป็นชุมชนดั้งเดิม และมีดีมานด์ผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมอยู่หนาแน่น อิงค์ได้จากผังเมืองของเขตบางกอกน้อยที่เป็นเขตสีน้ำตาลหรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก ดังนั้นโอกาสที่ดีมานด์ดั้งเดิมจะมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ย่อมมีสูงบนพื้นที่ และนอกเหนือจากนั้นด้วยการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะช่วยซัพพอร์ทให้โครงการสามารถรองรับกลุ่มดีมานด์ขยายจากตัวเมืองชั้นในได้ด้วย โดยที่ผ่านมาหลายโครงการบริเวณนี้ก็มีการ Sold out และสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 80% เกือบทุกโครงการถึงแม้บางโครงการจะมียูนิตอยู่ที่ 1,000 ยูนิตต้นๆ ก็ตาม แต่ก็สามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง The Tree จรัญฯ 30 ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในตัวเลือกการตัดสินใจอันดับต้นๆ บนทำเลนี้
ในเรื่องของอุปสรรคต่างๆ ที่ตามมาทั้งในแง่ของการลงทุนและการอยู่อาศัย ยังเป็นเรื่องที่ตอบยากสำหรับโครงการใหม่ที่พร้อมอยู่อาศัยใกล้กับที่ดครงการรถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จเปิดใช้บริการ เพราะจากที่ผ่านมาด้วยความล่าช้าของโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ ที่มีการดำเนินการก่อสร้างโดยใช้ระยะเวลานาน ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมต่างๆ เริ่มตั้งราคาขายในอนาคตเพื่อรอรถไฟฟ้ามาไปบ้างแล้ว ดังนั้นเรื่องของราคาที่จะพุ่งขึ้นไปอีกในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการต้องบอกเลยว่าขึ้นแน่นอน แต่มากน้อยเพียงใดก็ไม่สามารถตอบได้ โดยในปัจจุบันหากนำพื้นที่บนถนนจรัญสนิทวงศ์นี้ไปเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรกับพื้นที่อื่นๆ ต้องบอกว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินฝั่งจรัญสนิทวงศ์ในเวลานี้สามารถไปเปรียบเทียบกับโครงการที่ปักหมุดอยู่บริเวณพระราม 9 โซนนอกที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มได้เลย ถึงการเชื่อมต่อเข้าไปสู่ตัวเมืองนั้นที่เป็นโซนไข่แดงนั้นมีระยะไกลกว่า แต่กับมีศักยภาพในด้านการลงทุนไม่แตกต่างกันมาก ทั้งนี้อาจจะมีผลมาจากเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าที่เป็น Circle Line ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ในอนาคตอาจจะเป็นรถไฟฟ้าอีกหนึ่งสายที่มีจุดตัด Interchange มากที่สุด และสิ่งนี้เองคือสิ่งที่น่าสนใจที่สุดบนทำเลฝั่งธนฯ หรือในแง่ของที่ตั้งโครงการ The Tree จรัญฯ 30
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ