The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
หากใครเคยขับรถผ่านทางถนนบรมราชนนีเพื่อมุ่งหน้าเข้าไปยังเส้น บางบัวทอง-พุทธมณฑล จะพบว่ามีถนนอยู่หนึ่งเส้นที่สามารถตัดเข้าสู่ เพชรเกษม – บางแค ได้คือ ถนนกาญจนาภิเษก เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เมื่อพูดถึงถนนเส้นนี้คงนึกถึงแต่ สมาคมชาวปักษ์ใต้, เนติบัณฑิตสภา หรือเต๊นท์รถที่เปิดเรียงรายทั้งสองข้างทางบนถนนเส้นนี้ แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสายตาผู้ประกอบการโดยเฉพาะการพัฒนาโครงการบ้านหรู และหนึ่งในผู้ประกอบการบ้านเดี่ยวที่สายตาแหลมคม เข้าซื้อที่ดินบนถนนนี้เมื่อ 5 ปีก่อนเพื่อเข้าพัฒนาโครงการการคือ บริษัท ธงสิริ กรุ๊ป จำกัด และนำมาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้ชื่อ “เดอะ รอยัล เทียร์” เจาะกลุ่มลูกค้าในเซ็กเมนท์ไฮเอนด์ที่กำลังซื้อดูจะไม่ค่อยสั่นคลอน แม้ตลาดอสังหาฯ ภายในประเทศในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในช่วงชะลอตัว แม้จะเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก แต่ก็เก็บชั่วโมงบินในการทำความคุ้นเคยกับตลาดในโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกมาพอสมควร มาดูกันว่าโปรดักส์ของโครงการนี้จะสะท้อนความรอยัลขนาดไหนกับจำนวนที่มีเพียง 18 ยูนิต พร้อมบทวิเคราะห์ศักยภาพของทำเลบนถนนเส้นสายพระเทพฯ ที่ถูกพัฒนาอย่างเป็นลำดับต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นอีกหนึ่งทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายย่อยในปัจจุบัน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2559)
ชื่อโครงการ: เดอะ รอยัล เทียร์ กาญจนาภิเษก – พรานนก (The Royal Tier Kanchanaphisek-Phran Nok)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ธงสิริ กรุ๊ป จำกัด
ที่ตั้งโครงการ: ถนนสายพระเทพฯ แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: www.thongsiri.co.th/Project/The-Royal-Tier/
โทร: 02-408-8333, 085-155-0999
เนื้อที่โครงการ: 6-1-79.2 ไร่
ประเภทโครงการ: บ้านเดี่ยว 2 ชั้นครึ่ง จำนวน 18 ยูนิต
รูปแบบบ้าน:
Type A ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
Type B ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องพระ, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
Type C ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องพระ, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
กลุ่มเป้าหมาย: ครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงและกำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์แผนการขยายครอบครัวและการดูแลผู้สูงอายุไปพร้อมๆกัน
สิ่งอำนวยความสะดวก: สระว่ายน้ำที่มีระบบน้ำวน ณ คลับเฮ้าส์, ฟิตเนส
ระบบรักษาความปลอดภัย: รปภ. 24 ชม., video call จากด้านหน้าโครงการเมื่อมีผู้เข้ามาเยี่ยมเจ้าของบ้าน
เงินกองทุนสะสม: (รอฝ่ายการตลาดติดต่อมาครับ)
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท ต่อตารางวา ต่อเดือน (ชำระล่วงหน้าเป็นจำนวน 2 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 22 ล้านบาท
เริ่มก่อสร้าง: ตุลาคม 2558
สถานะการก่อสร้าง: 80%
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ประมาณตุลาคม 2561
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ เดอะ รอยัล เทียร์ ตั้งอยู่บนผังเมืองสีเขียว ซึ่งเป็นเขตที่ปลอดโรงงานอุตสาหกรรม จึงทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องของมลพิษเข้ามารบกวนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้นสีของผังเมืองประเภทนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ห้ามก่อสร้างอาคารอยู่อาศัยที่สูงกว่า 8 ชั้น นั่นหมายถึงว่าผู้อยู่อาศัยสามารถสบายใจได้ว่าจะไม่มีตึกสูงมาบดบังทัศนียภาพแต่อย่างใด
โครงการสร้างจุดเด่นให้กับตัวโปรดักส์ด้วยการเน้นทุกรายละเอียด ภายใต้คอนเซ็ปต์ “the base of living” ที่เน้นคุณภาพในการก่อสร้างทุกขั้นตอน บ้านภายในโครงการนี้มีจุดเด่นภายใต้คำนิยามสั้นๆ ว่า “สูง – กว้าง – ใหญ่” ที่มาพร้อมกับการออกแบบในสไตล์ร่วมสมัย บ้านมีรูปทรง diamond หรือมีลูกเล่นเป็นมุมเหลี่ยมต่างๆ คล้ายกับเพชรทำให้ได้มุมมองที่ดูทันสมัย
นอกจากนี้ โครงการยังได้ออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ โดยมีห้องในชั้นหนึ่งที่มีฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้ อาทิ ราวจับตามผนังที่ติดตั้งไว้ภายในห้องและห้องน้ำ รวมถึงไฟ เปิด – ปิด อัตโนมัติภายในห้อง เพียงเดินเข้าไปในบริเวณห้อง ไฟจะถูกเปิดเองและจะถูกปิดอัตโนมัติเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง
ในส่วนของการก่อสร้างนั้น ทางโครงการค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องรากฐานของสิ่งปลูกสร้าง โดยมีไฮไลท์ดังนี้
1. การถมที่ดินถึง 3 ครั้ง – เพื่อให้หน้าดินและพื้นดินมีความหนาแน่นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาเรื่องตัวบ้านทรุดในอนาคต รวมถึงยกระดับความสูงของพื้นดินขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำท่วม
2. มีการทดสอบความแข็งแรงของเสาเข็ม รวมถึงการนับ blow count หรือการตรวจสอบการรับน้ำหนักของเสาเข็มเพื่อให้ทราบถึงการใช้ฐานรากที่เหมาะสมกับชั้นดิน เมื่อชั้นดินและเสาที่เจาะแข็งแรงก็ยากที่จะเกิดปัญหาตามมาในอนาคต
3. มีการเทน้ำยากำจัดปลวกทั่วพื้นชั้นล่างทั้งหมด
4. ก่อผนังด้วยอิฐมอญ ก่อนก่อได้มีการทำความสะอาดอิฐและนำอิฐไปแช่น้ำเพื่อป้องกันการดูดซึมของน้ำปูน หลังจากนั้นก่อผนังเบิ้ล 2 ชั้นเสริมแกนกลางด้วยฉนวนกันความร้อนเพื่อเพิ่มความเย็นให้กับตัวบ้านพร้อมตะแกรงภายในผนังเพื่อการยึดเกาะระหว่างปูนกับอิฐมอญ และยังช่วยลดการเกิดรอยแตกร้าวของตัวผนังบ้าน
5. ปูฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาบนฝ้าด้วยความหนาถึง 6 นิ้ว เพื่อลดความร้อนและเพิ่มความเย็นให้แก่ตัวบ้าน อีกทั้งยังช่วยให้ประหยัดไฟอีกด้วย
โครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่รวมกว่า 6 ไร่ ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวจำนวน 18 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางประมาณ 93 ตร.ว., สำนักงานนิติบุคคล, พื้นที่คลับเฮ้าส์ และสระว่ายน้ำประมาณ 20 ตร.ว.
บ้านแต่ละหลังมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่เริ่มตั้งแต่ 450 ตร.ม. ไปจนถึง 500 ตร.ม. เป็นบ้านแบบ 2 ชั้นครึ่ง มีความสูงเพดานตั้งแต่ชั้น 1 – 2 ถึง 12 เมตร (ทุกยูนิต)
บ้านแต่ละหลังมีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่เริ่มตั้งแต่ 400 ตร.ม. เป็นบ้านแบบ 2 ชั้นครึ่ง มีความสูงเพดานตั้งแต่ชั้น 1-2 ถึง 12 เมตร (ทุกยูนิต)
Type A ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
Type B ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องพระ, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
Type C ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องพระ, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางจะอยู่บริเวณคลับเฮ้าส์ ในอนาคตจะมีการกั้นรั้วเป็นสัดส่วนเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้มาใช้บริการ
บรรยากาศภายในโครงการ
รีวิวบ้านตัวอย่าง
สำหรับบ้านตัวอย่างโครงการจะเป็น Type A ที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม. บ้านตัวอย่างขายพร้อมงานบิลท์อินและอุปกรณ์ตกแต่ง spec ตามที่ผู้เข้าเยื่อมชมได้เห็นจริง สำหรับราคาของบ้านเปล่า Type A จะอยู่ที่ประมาณ 25 ล้านบาท และหากเป็นบ้านตัวอย่างที่รังสรรค์งานตกแต่งมาให้พร้อม ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 45 ล้านบาท
ภายในตัวบ้านประกอบด้วย ประกอบด้วย 5 ห้องนอน, 7 ห้องน้ำ, 2 ห้องนั่งเล่น, 1 ห้องครัว, 1 แพนทรี่, 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ดินประมาณ 100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตร.ม.
บ้านตัวอย่าง 2 ชั้นครึ่ง กระจกตามมุมต่างๆเป็นชนิดเขียวตัดแสงดูดซับความร้อนไม่ให้เข้ามาภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี
พื้นที่จอดรถหน้าบ้านปูด้วยกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม., ผนังเป็นแบบแซนวิชทำจากอิฐมอญประกบฉนวนความร้อนที่ฝังอยู่ข้างใน ทั้งนี้เพื่อการดูดซับความร้อนและเพิ่มความเย็นให้กับตัวบ้านพื้นที่หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน
แปลนชั้น 1
ประกอบด้วย: ที่จอดรถ 3 คัน, โซนห้องนั่งเล่นและรับประทานอาหาร, ห้องผู้สูงอายุ (บ้านทุกหลังจะมีการเพิ่มของห้องนี้ขึ้นมา), แพนทรี่, ครัว, ห้องแม่บ้าน และห้องน้ำ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับระบบรักษาความปลอดภัย video call ที่จะมีสัญญาณเชื่อมต่อจากประตูทางเข้าโครงการมายังตัวบ้าน กรณีแขกมาถึงด้านหน้าโครงการจะมีการแจ้งมายังเจ้าของบ้านก่อน
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบห้องน้ำของชั้น 1 ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือติดกับบันไดทางขึ้น พื้นชั้นหนึ่งปูด้วยหินอ่อน 60 x 60, บ้านตัวอย่างบิลท์อินตู้วางรองเท้ามาให้ สำหรับบ้านเปล่า บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โล่งๆ แต่พื้นยังคงปูหินอ่อน 60 x 60 มาให้ ความสูงพื้นจรดเพดานส่วนนี้ 4.5 เมตร
ผนังและพื้นใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. บ้านเปล่าจะมีอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์มาให้ซึ่งทั้งหมดเป็น Top spec ของ Cotto
ห้องน้ำมีกระจกนิรภัย กั้นระหว่างโซนเปียก-แห้ง ติดตั้งมาให้ แต่ไม่มีการยกธรณีขึ้นกั้นระหว่างส่วนเปียก-แห้ง
ถัดมาทางฝั่งซ้ายมือเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและโซนรับประทานอาหาร ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับความสูงเพดานอลังการประมาณ 7 เมตร, ตัวฝ้า (เฉพาะบ้านตัวอย่าง) จะมีลูกเล่นไล่เป็นระดับ แซมด้วยเส้นขอบทองเหลืองซึ่งเมื่อกระทบกับแสงไฟจะทำความรู้สึกหรูหราขึ้นมาทันที บ้านตัวอย่างมีการติดตั้ง Chandelier มาด้วย
ทางฝั่งขวาเป็นทางเข้าสู่ห้องครัวแต่ก่อนถึงประตูทางเข้าจะมีเคาน์เตอร์หินอ่อนแบบ island ขึ้นมา สามารถใช้เป็นจุดเตรียมอาหารหรือเครื่องดื่มได้ โดยทั้งบ้านตัวอย่างและบ้านเปล่าจะทำการบิลท์อินเคาน์เตอร์นี้มาให้ งานบิลท์อินติดผนังที่ทำจากไม้ด้านข้างหากเป็นบ้านเปล่าจะไม่มี เช่นดียวกับตู้บิลท์อินด้านหลังและเคาน์เตอร์เตรียมอาหารด้านหลัง ที่มีเป็นไอเดียในการตกแต่งในบ้านตัวอย่างเท่านั้น
พื้นที่บริเวณห้องรับประทานอาหารมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับการจัดวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาดใหญ่ 8-10 ท่านได้สบายๆ บริเวณนี้โอบล้อมด้วยหน้าต่างกระจกสูง (ประมาณ 2.2 เมตร ) ชนิดบานพับรอบด้าน พื้นบริเวณนี้ปูด้วยหินอ่อนขนาด 60 x 60 ซม. เช่นเดียวกัน หากต้องการให้พื้นดูมีลูกเล่น สามารถหาพรมมาตกแต่งได้ตามใจชอบ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ประมาณ 3 x 4 เมตร สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้สบาย สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะ สามารถจัดวางโซฟาแชร์เพิ่มเติมได้ด้วย สำหรับบ้านเปล่าบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีงานบิลท์อินชั้นวางดั่งในรูปมาให้ ซึ่งบ้านตัวอย่างทำเป็นชั้นไม้แซมด้วยทองเหลืองเสริมลูกเล่นความหรูหราเข้าไปให้กับบริเวณ ตรงตำแหน่งของผ้าม่านคือหน้าต่างแนวสูงที่เมื่อเปิดออกไปจะเป็นพื้นที่หน้าบ้าน
งานบิลท์อินตู้ไม้และเคาน์เตอร์ในห้องครัวถูกบิลท์มาในรูปตัว “U” ทำให้ได้พื้นที่จัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ได้มาก โดยไม่จำเป็นต้องนำออกมาแขวนข้างนอก สำหรับบ้านตัวอย่างเครื่องชุดเตาและเครื่องดูดควัน, ก๊อกน้ำ โครงการมอบเป็นแบรนด์ Mex ให้ แต่สำหรับตู้เย็นไม่ได้แถมมาให้ด้วย
ทั้งบ้านเปล่าและบ้านตัวอย่าง ท๊อปตรงเคาน์เตอร์จะเป็นหินอ่อนหรือแกรนิต ซึ่งจะมีตู้ใต้ท๊อปเป็นงานบิลท์อินมาให้ ผนังฉาบเรียบสีขาวก่อนถึงห้องครัว จะมีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังบริเวณหลังบ้านได้
พื้นที่หลังบ้านเป็นตำแหน่งของห้องแม่บ้าน ซึ่งบ้านตัวได้ตกแต่งด้วยการนำเตียงสองชั้นมาวางให้เป็นไอเดีย
ห้องแม่บ้านมาพร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐานอย่างเครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic และตู้เย็นขนาดเล็กแบรนด์เดียวกัน
บันไดทางขึ้นไปยังชั้น 2 พื้นทางขึ้นเป็นไม้แท้ ราวทำจากไม้แท้และกระจก เป็น Tempered Glass แข็งแรงและปลอดภัย ข้อดีของกระจกชนิดนี้คือเมื่อแตกแล้วจะเป็นเม็ดละเอียดไม่เป็นชิ้นส่วนเศษแก้วกระจาย
พื้นที่ชั้นลอยภายในบ้านตัวอย่าง
แปลนชั้นลอย
ประกอบด้วย: ห้องนั่งเล่น, master bedroom, ระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
เมื่อขึ้นมาชั้นสองจะเจอกับพื้นที่ที่ถูกจัดเป็นห้องนั่งเล่น ขนาดประมาณ 4 x 5 เมตร ผู้อยู่อาศัยสามารถเพิ่มเติมฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ ชั้นวางหนังสือเพื่อให้พื้นที่กลายเป็นกึ่ง study & living ด้านหลังของห้องมีหน้าต่างสูง 2.3 เมตรที่หันออกไปทางหน้าบ้านเช่นเดียวกัน กระจกกันตกทำจาก tempered glass เช่นเดียวกันเพื่อความปลอดภัยของผู้อาศัย บ้านตัวอย่างจะบิลท์อินงานตกแต่งเพดานฝ้าไล่เป็นระดับขอบไม้เข้าไป
Master Bedroom
Master bedroom ตั้งอยู่บนชั้นสองของตัวบ้าน ขนาดห้องประมาณ 3×4.5 เมตร (ไม่รวมพื้นที่บริเวณ walk-in closet และห้องน้ำ) ซึ่งสามารถจัดวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้อย่างสบายกลางห้อง, หัวเตียงที่เห็นในภาพ หากเป็นบ้านเปล่าจะเป็นผนังฉาบเรียบสีขาว, ลูกเล่นบิลท์อินตรงเพดานจะมีให้มาเฉพาะในบ้านตัวอย่างเท่านั้น
บ้านตัวอย่างบิลท์อินชั้นวางทีวี, โต๊ะอ่านหนังสือและโต๊ะเครื่องแป้งทำจากไม้แท้ ตัดด้วยขอบทองเหลืองเพื่อเพิ่มความสวยงาม บ้านเปล่าจะเป็นพื้นไม้แท้และผนังห้องสีขาวเรียบ
ด้านขวาของห้อง จะเป็นทางเข้าสู่ walk-in closet และห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศที่ทางโครงการให้มาจะเป็นแบบฝังผนัง (concealed)
Walk-in closet ถูกบิลท์อินมาให้เฉพาะในบ้านตัวอย่าง ขนาดของห้องและตู้ใหญ่สำหรับตู้สไตล์ his & hers แบ่งโซนใช้สอยระหว่างคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย
นอกจากอ่างอาบน้ำแล้วยังมี bloc สำหรับอาบน้ำแบบ rain shower แยกส่วน พร้อมประตูเปิด-ปิดที่มีกระจกนิรภัย แยกโซนเปียก-แห้ง ขอบของประตูสองข้างแซมด้วยหินอ่อน, ผนังและพื้นห้องน้ำจะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างคือปูด้วยเซรามิก
ห้องน้ำใน Master bedroom ทั้งบ้านเปล่าและบ้านตัวอย่างติดตั้งอ่างอาบน้ำ Jacuzzi ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นรุ่นท๊อป ของ Ispa
เนื่องจากตรงจุดแช่ Jacuzzi มีขนาดใหญ่สามารถนำทีวีแขวนผนังมาติดตั้งขณะผ่อนคลายในอ่างได้ (บ้านเปล่าไม่มี)
ตำแหน่งของ rain shower จะมีผนังด้านหลังตกแต่งด้วยหินอ่อน (เฉพาะบ้านตัวอย่าง) ชักโครกมีดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ทันสมัย
ชั้น 2
แปลนชั้น 2
ประกอบด้วย: 3 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว (สามารถประยุกต์เป็นห้องทำงานได้), ระเบียงส่วนตัวขนาดเล็ก
บริเวณบันไดทางขึ้นไปชั้นลอยมีการติดตั้งหน้าต่างบานสูงเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับทางขึ้น-ลงโดยไม่ต้องเปิดไฟ
เมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 ส่วนแรกที่จะเจอคือพื้นที่โล่งของชั้น ซึ่งสามารถเลือดจัดเป็นห้องพระได้ พื้นบนชั้นนี้ปูด้วยไม้แท้ ห้องทางฝั่งซ้ายมือ บ้านตัวอย่างเลือกแต่งเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่
เริ่มกันที่ห้องทำงานที่มีขนาดของห้องโดยรวมประมาณ 4 x 5 เมตร ด้วยขนาดที่กว้างขวางจึงสามารถแยกเป็นโซนวางโต๊ะทำงานและโต๊ะประชุม ได้, งานบิลท์อินชั้นหนังสือและผนังตรงจุดวางทีวีจะไม่มีมาให้ในบ้านเปล่า ในบ้านตัวอย่าง เลือกดร็อปฝ้าแบบเล่นระดับ พร้อมสอดหลอด LED เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับงานบิลท์อิน
ห้องน้ำภายในห้องนี้จะไม่ได้ตกแต่งด้วยหินอ่อนดั่งเช่นในห้องตัวอย่าง พื้นปูด้วย เซรามิก ผนังเป็นหินอ่อน (บางส่วน) ชักโครก
ห้องนอนริมขวา มีขนาดประมาณ 3×4 เมตร, ผนังบริเวณหัวเตียงในบ้านจริงจะเป็นแบบฉาบเรียบธรรมดาขนาดของห้องกว้างขวางพอจะจัดวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้เช่นเดียวกัน ความสูงของห้องอยู่ที่ประมาณ 2.8 เมตร
งานบิลท์อินผนังไม้แซมขอบทองเหลือง พื้นที่ปลายเตียงกว้างพอที่จะวางโซฟาขนาดใหญ่ได้อีกสักตัว สำหรับพื้นที่ที่เหลืออาจจะจัดหาชุดโฮมเธียเตอร์ขนาดกลางมาช่วยสร้างสีสีนและความบันเทิงภายในห้อง
ด้านขวามือของห้องนอนนี้ โครงการให้ไอเดียในบ้านตัวอย่างด้วยการบิลท์อิน semi walk-in closet เป็นตู้ไม้บานประตูเป็นกระจกพร้อมเคาน์เตอร์แต่งหน้าทำผม แต่บ้านเปล่าตรงบริเวณนี้จะเป็นจะเป็นพื้นที่โล่ง
ห้องนอนห้องริมฝั่งด้านนอก (ฝั่งริมขวาของชั้นสาม) ขนาดประมาณ 3.5 x 3.5 เมตรเนื่องจากมีขนาดเล็กกว่าห้องนอนห้องอื่นทำให้อาจจะจัดวางได้แค่ที่นอนขนาดควีนไซส์ งานตกแต่งบริเวณหัวเตียง, บิลท์อินและเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (ไม่รวมที่นอน) เป็นไอเดียการตกแต่งสำหรับบ้านตัวอย่าง ความสูงของห้องอยู่ที่ประมาณ 2.8 เมตร
บ้านตัวอย่างบิลท์อินชั้นวางของใต้ทีวีมาให้ สามารถใช้เป็นที่จัดวางชุดเครื่องเสียงขนาดเล็ก – กลางได้ พร้อมเหลือพื้นที่ตรงมุมที่สามารถประยุกต์ใช้เป็นที่นั่งสำหรับวางโน้ตบุคทำงานได้ ผนังด้านหลังทีวี บุด้วยผ้าสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากห้องก่อนหน้า
ถึงแม้ว่าจะเป็นห้องนอนที่ไซส์เล็กสุดในตัวบ้านแต่ยังคงมีพื้นที่ที่สามารถจัดทำเป็น semi walk-in closet ได้เช่นกัน แต่ขนาดของตู้ที่ได้อาจจะเล็กกว่าห้องนอนอื่นๆ
ภายในห้องน้ำอุปกรณ์ shower, สุขภัณฑ์ (Cotto), spec พื้น, ผนังและงานบิลท์อินทั้งหมดเป็นแบบเดียวกับห้องทำงานและห้องนอนก่อนหน้าที่อยู่บนชั้นเดียวกัน
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ถนนกาญจนาภิเษก เป็นเพียงเส้นที่ถูกสัญจรเพื่อนำประชากรฝั่งปิ่นเกล้าและถนนบรมราชนนี เข้าสู่ถนนเพชรเกษม-บางแค และถนนพระราม 2 และเป็นเส้นที่มีผู้ประกอบการเต๊นท์รถเข้าไปเปิดโชว์รูมเพื่อดำเนินธุรกิจจนกลายเป็นแหล่งรวมการแลกเปลี่ยน ซื้อ-ขาย รถมือสองขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
ลำดับต่อมาคือการเกิดขึ้นของโปรเจกต์ค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีการออกแบบไปทางสไตล์จีนหรือ สำเพ็ง 2 โดยค่าย เจ เอส พี บนถนนเส้นที่อยู่ติดกับถนนกาญจนาฯ นั่นคือ ถนนกัลปพฤกษ์ (ช่วงปลาย) ซึ่งสร้างความสะดุดตาให้แก่ผู้ที่ขับรถผ่านเนื่องจากพื้นที่ขนาดใหญ่และการออกแบบของตัวโครงการ
การพัฒนาลำดับต่อมาเห็นทีจะมาถึงคิวของ ถนนกาญจนาฯ เริ่มต้นด้วยแผนจากกรมทางหลวงชนบทได้ทำการสร้างถนนตัดขนาดใหญ่ที่ทำการเชื่อมระหว่างถนน 4 เส้นนคือ กาญจนาฯ, พุทธมณฑลสาย 1, ถนนราชพฤกษ์ และ ถนนจรัญสนิทวงศ์ จุดที่สามารถออกไปยังโซนปิ่นเกล้า – พรานนก ได้ ซึ่งแยกของถนนดังกล่าวสามารถเข้าได้จากถนนกาญจนาฯ และช่วยผ่อนคลายปัญหารถติดภายใน ซอยบางแวก ก่อนหน้าที่จะมีการสร้างถนนเส้นดังกล่าว ผู้ที่ต้องเดินทางไปมาระหว่าง จรัญฯ, ราชพฤกษ์, กาญจนาฯ จำเป็นที่จะต้องใช้ซอยบางแวกเป็นถนนผ่าน แต่เนื่องด้วยขนาดของถนนที่มีเพียงสองเลนและเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา ทำให้การจราจรในซอยบางแวกหนาแน่นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนโดยเฉพาะในช่วงเย็นของวันธรรมดา
นอกจากนี้ ในอนาคต ถนนกาญจนาฯ (ตามแผนแม่แบบจากรมทางหลวงชนบท) จะมีการขยายถนนจากเดิม 8 เลน กลายเป็น 12 เลน นั่นหมายถึงการเดินทางที่น่าจะคล่องตัวขึ้นหากการพัฒนานี้เป็นรูปเป็นร่างและดำเนินการแล้วเสร็จ
แต่ก่อนถนนลัดที่เชื่อม ถนนกาญจนาฯและราชพฤกษ์ คือ ถนนบางแวก ซึ่งมีช่องทางเดินรถเพียง 2 เลนสวนกัน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอยู่บ่อยครั้ง
ปัจจุบันถนนตัดใหม่ กาญจนา – พรานนก ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ นี้สามารถออกไปยัง พุทธมณฑล สาย 2, บางบัวทอง ได้โดยที่ไม่ต้องอ้อมเข้าถนนกาญจนาฯ เพื่อวกเข้าสู่ถนนบรมฯ ซึ่งค่อนข้างกินเวลามาก และภายในอนาคตถนนเส้นนี้จะขยายยาวเพื่อทำการเชื่อมต่อไปยาวไปถึง พุทธมณฑลสาย 3 – 4 นั่นหมายถึงการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างจังหวัด อาทินครปฐม และ ราชบุรี
แผนที่ถนนต่างๆที่สามารถออกได้จากเส้นถนนตัดใหม่สายพระเทพฯ กาญจนาฯ-พรานนก
ตัวโครงการตั้งอยู่บนถนนตัดใหม่ ซึ่งสามารถออกไปยังถนนเส้นต่างๆได้ เริ่มกันที่แยกแรกคือถนนพุทธมณฑล สาย 1 ปัจจุบันถนนที่อยู่ด้านหน้าโครงการสามารถตัดผ่านไปสู่ พุทธมณฑล สาย 2 ได้ (ทำการกลับรถเพื่อขึ้นสะพานฝั่งตรงข้ามโครงการ) และ กำลังดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่จะขยายตัดไปยัง สาย 3 – 4 ได้ในอนาคต
แยกต่อมาจะเป็นแยกที่สามารถเข้าสู่เส้นราชพฤกษ์ได้ (ถนนตัดใหม่ กาญจนาภิเษกฯ – พรานนก) บนถนนราชพฤกษ์เป็นแหล่งรวมสิ่งอำนวย
ความสะดวกและแหล่งแฮงก์เอ้าท์ต่างๆ มากมาย รวมถึง คอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่ง อาทิ The Circle, The Walk และ The Crystal SB จากถนนราชพฤกษ์ หากมุ่งหน้าตรงไปก็จะไปบรรจบกับถนนบรมฯอีกครั้งหนึ่ง
เส้นราชพฤกษ์ ยังเป็นเส้นที่สามารถเดินทางเข้าไปยังโซน CBD สาทร – สีลม ได้ค่อนข้างสะดวกเช่นกัน เนื่องจากถนนเป็นเส้นตรงยิงยาว (เมื่อเข้าถนนราชพฤกษ์) มาจนถึงถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นที่ตั้งของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน (สถานีบางหว้า) หากเลยถนนราชพฤกษ์ – สาทร ไปอีกหนึ่งเส้นจะเป็นตำแหน่งของ “ถนนจรัญสนิทวงศ์” ซึ่งเป็นเส้นที่เชื่อมต่อกับ “รัชดาภิเษก – ท่าพระ” จากถนนเส้นนี้สามารถเข้าถึงถนนสาทร รวมไปถึงเชื่อมต่อไปยัง เจริญกรุง และ พระราม 3 ได้อีกด้วย
บริเวณแยกถนนจรัญฯ หากเลือกเลี้ยวซ้ายจะสามารถเข้าสู่ถนนปิ่นเกล้า – พระราม 8 หรือสามารถข้ามมายังฝั่งพระนคร (สนามหลวง) ได้เช่นกัน แต่ปัจจุบันการจราจรอาจจะดูหนาแน่นเนื่องจากถนนเส้นนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอยู่
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการ
กรณีมาจากทางถนนบรมราชนนีให้สังเกตป้ายทางออกที่จะเข้าสู่ถนนบางแค
เมื่อออกมาจากถนนเส้นหลักได้แล้ว (สังเกตทางออกจะอยู่เลยสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้ใหม่มาไม่ไกล) ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าเส้น กาญจนาฯ – บางแค
เมื่อเลี้ยวเข้ามาให้ตรงมาเรื่อยๆประมาณ 3 กม. ผ่านฝั่งตรงข้ามที่เป็น เดอะ พาซิโอ หลังจากนั้นจะมีทางเบี่ยงให้เลี้ยวซ้าย (ก่อนถึงแยก จุดสังเกตจะมี สมาคมเนติบัณฑิต)
ถนนด้านหน้าโครงการที่เป็นเส้นทางที่สามารถมุ่งหน้าสู่ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ที่สามารถตัดไปยังเส้นบรมฯได้, แยกเข้าสู่ถนนราชพฤกษ์ และแยกเพื่อเข้าสู่ถนนจรัญฯ ตามลำดับ
ถนนฝั่งตรงข้ามโครงการหากเลี้ยวซ้ายจะเป็นการกลับเข้าสู่ถนนกาญจนาฯ หากตรงขึ้นสะพานไปจะสามารถมุ่งหน้าไปยังพุทธมณฑลสาย 2 – 3 และบางบัวทองได้
สถานที่ Lifestyle
1. The Paseo
คอมมูนิตี้มอลล์ ที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่น เสมือนได้ไปเหยียบดินแดนอาทิตย์อุทัย และที่พิเศษคือทุกช่วงต้นเดือน (วันที่ 1 -3) จะมีตลาดนัดขายสินค้ามือสองมาเปิดที่นี่
The Paseo ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก สามารถกลับรถด้านหน้าโครงการเพื่อกลับเข้ามายังถนนกาญจนาฯอีกครั้งโดยใช้สะพานเพื่อวนลงมา เดอะ พาซิโอ จะตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
2. เดอะ มอลล์ บางแค
ห้างเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนถนน เพชรเกษม – บางแค มาช้านาน และได้รับการรีโนเวทให้ดูทันสมัยขึ้นตามยุคสมัย
ใช้ถนนกาญจนาฯ เพื่อเข้าสู่ ถนนเพชรเกษม – บางแค ได้เลย จากตัวโครงการถึง เดอะ มอลล์ บางแคระยะทางประมาณ 9 กม.
3. The Circle ราชพฤกษ์
The Circle คือ คอมมูนิตี้มอลล์ สุดฮิตบนถนนราชพฤกษ์ เป็นศูนย์รวมร้านอาหารทั้งไทย, เกาหลี, ญี่ปุ่น พร้อมร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ทั้ง homemade และ brand name
จากด้านหน้าโครงการสามารถมุ่งหน้าตรงเพื่อเข้าแยกถนนราชพฤกษ์ หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายตรงมายัง The Circle ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที
บทวิเคราะห์
โครงการเดอะ รอยัล เทียร์เป็นบ้านเดี่ยวหรูระดับไฮเอนด์ ดังนั้นกำลังซื้อที่เข้ามาในโครงการลักษณะนี้จะเกิดจากกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพทางการเงินสูง ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นความต้องการในลักษณะ “เรียลดีมานด์” คือเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ ส่งผลให้ไม่มีการซื้อในลักษณะของการเก็งกำไรเกิดขึ้น นอกจากนี้ ด้วยราคาจองและทำสัญญาค่อนข้างสูง (เริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านบาท) จึงเป็นการสกรีนผู้ซื้อของโครงการในระดับหนึ่ง
เปรียบเทียบโครงการ
1. Grand Bangkok Boulevard (Ratchaphruek – Charan)
ชื่อโครงการ: แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ – จรัญฯ (Grand Bangkok Boulevard Ratchaphruek – Charan)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน): SC
ทำเลที่ตั้ง: ถนนตัดใหม่ พรานนก – พุทธมณฑล สาย 4 เขตตลิ่งชัน (ถนนเส้นเดียวกับโครงการ เดอะ รอยัล เทียร์)
พื้นที่โครงการ: 61-1-20.3 ไร่
แบบบ้าน: คฤหาสน์สไตล์ luxury colonial 2 ชั้น
กัลปพฤกษ์ เนื้อที่บ้าน 113.3 – 210 ตร.ว., พื้นที่ใช้สอย 484 ตร.ม.
ราชพฤกษ์ เนื้อที่บ้าน 145.5 – 342.3 ตร.ว., พื้นที่ใช้สอย 588 ตร.ม.
จำนวนยูนิต: 92
ราคาเริ่มต้น: 30 – 50 ล้านบาท
2. Narasiri Pinklao – Phuttamonthon Sai 1
ชื่อโครงการ: นาราสิริ ปิ่นเกล้า พุทธมณฑล สาย 1 Narasiri Pinklao – Phuttamonthon Sai 1
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน): SIRI
ทำเลที่ตั้ง: พุทธมณฑล สาย 1 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน
พื้นที่โครงการ: 37-1-45.14 ไร่
แบบบ้าน: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น Murano พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. Carrara พื้นที่ใช้สอย 370 ตร.ม. Carrara (B) พื้นที่ใช้สอย 380 ตร.ม. Kirunavara พื้นที่ใช้สอย 518 ตร.ม.
จำนวนยูนิต: 57
ราคาเริ่มต้น: 25 ล้านบาท
3. Nantawan Pinklao – Ratchapruek
ชื่อโครงการ: นันทวัน ปิ่นเกล้า – ราชพฤกษ์ (Nantawan Pinklao – Ratchapruek)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน): LH
ทำเลที่ตั้ง: ถนนราชพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน
พื้นที่โครงการ: 220 ไร่
แบบบ้าน: บ้านเดียว 2 ชั้น Ample พื้นที่ใช้สอย 182 ตร.ม. Elegant พื้นที่ใช้สอย 264 ตร.ม. Deluxe พื้นที่ใช้สอย 279 ตร.ม. Flourish พื้นที่ใช้สอย 338 ตร.ม. และ Gorgeous พื้นที่ใช้สอย 507 ตร.ม.
จำนวนยูนิต: 382
ราคาเริ่มต้น: 20 – 40 ล้านบาท
สรุป
คุณภาพของวัสดุที่ใช้รวมถึงคุณภาพด้านการก่อสร้างถูกนำมาใส่ไว้แบบจัดเต็มในโครงการเดอะ รอยัล เทียร์ รวมถึงรูปลักษณ์การออกแบบที่ให้ความรู้สึกทันสมัยซึ่งแตกต่างจากโครงการบ้านจัดสรรหรูส่วนใหญ่ที่นิยมออกแบบค่อนไปทาง Royal หรือคล้ายกับตัวพระราชวัง และความสูงของตัวเพดานคงเป็นที่ถูกใจสำหรับหลายๆคนเพราะสร้างมุมมองให้บ้านดูกว้างขึ้นมากเมื่อก้าวเข้าไปด้านใน ส่วนกลางที่มีมาให้อาจจะไม่หลากหลาย แต่ทั้งนี้เป็นเพราะผู้ซื้อโครงการในราคาระดับนี้มักใช้เวลาส่วนใหญ่กับครอบครัวและการพักผ่อนภายใน “บ้านหลังใหญ่”
การพัฒนาศักยภาพของพื้นที่ทำเลถนนกาญจนาฯ คงต้องบอกว่ามีความสะดวกและจะสะดวกยิ่งขึ้นในอนาคตด้วยแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและทางพิเศษที่จะเกิดขึ้น อาทิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินบนถนนเพชรเกษมซึ่งจะวิ่งมาจากเส้นจรัญฯ (กำลังดำเนินการก่อสร้าง) ซึ่งเมื่อเปิดดำเนินการแล้วจะวิ่งมาสิ้นสุดที่ เดอะมอลล์ บางแค, สายสีเขียวอ่อนส่วนต่อขยาย บางหว้า – ตลิ่งชัน (โครงการในอนาคต) ที่จะวิ่งอยู่บนถนนบรมราชชนนี, ทางด่วนพสายย ศรีรัช –วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีเส้นทางที่สามารถมาลงยังถนนราชพฤกษ์เพื่อเลี้ยวเข้าถนนกาญจนาฯได้ซึ่งโครงการทางด่วนนี้กำลังจะเปิดใช้ปลายเดือนสิงหาคม 2559, รถไฟฟ้าสายสีแดง ยังเป็นโปรเจกต์ที่ต้องรอการอนุมัติการก่อสร้างใน โดยในปัจจุบันระบบรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดมายังตัวโครงการยังคงเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนสถานีบางหว้า ซึ่งสามารถทำการต่อรถเข้ามาโครงการได้ไม่ยากโดยใช้เส้นทาง ถนนราชพฤกษ์ เพื่อเข้ามายังถนนกาญจนาภิเษกนั่นเอง
โครงการเดอะ รอยัล เทียร์ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีศักยภาพทางการเงินสูงและผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับกับจำนวนสมาชิกครอบครัวขนาดใหญ่ ผู้ซึ่งถวิลหา คุณภาพ รวมถึงกำลังมองหาโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลที่มีความเงียบสงบ เหมาะกับการใช้ชีวิตได้แบบเป็นส่วนตัว และสามารถเข้าถึงตัวเมืองได้อย่างรวดเร็ว