เพอร์เฟค พาร์ค ราชพฤกษ์-ปทุมธานี หนึ่งโครงการบ้านที่น่าสนใจบนถนนราชพฤกษ์-ปทุมธานี ในรูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียง 199 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 39 ไร่ ออกแบบบ้านสไตล์ Resort กับบรรยากาศพักผ่อนท่ามกลางสวนและคลับเฮ้าส์หรู Modern Luxury Style ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4 ล้านบาท
ที่ดินตรงถนน บางนา – วงแหวนกาญจนาภิเษก 2 ปัจจุบันกลายเป็นทำเลฮิตที่ดีเวลลอปเปอร์รายต่างๆนั้นเข้าพัฒนาโครงการแนวราบ เนื่องจากราคาของที่ดินนั้นยังไม่สูงมากนักทำให้สามารถซื้อที่ดินได้แปลนใหญ่ เซ็กเม้นต์ของโปรดักส์ที่ดูเหมือนว่าจะตอบโจทย์และถูกดูดซับได้ดีบนถนนบางนามีตั้งแต่ทาวน์โฮมไปจนถึงบ้านเดี่ยว บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) แลเห็นว่าถึงแม้สินค้าประเภทที่อยู่อาศัยแนวสูงหลายโครงการจำเป็นต้องถูกพับเก็บก่อนในไตรมาส 4 ของปีนี้ แต่ที่อยู่อาศัยแนวราบไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าไรนัก จึงขยายพอร์ตต่อเนื่องด้วยการส่งโครงการ วิลเลจทาวน์ ที่มีลักษณะคล้ายกับบ้านเดี่ยว เดอะ วิลเลจ บางนา – วงแหวนฯ 2 ที่เดินทางมาถึงเฟสที่ 4 แล้วหลังจากที่ เฟส 1 – 3 นั้นถูกดูดซับไปจนหมดเกลี้ยง อารียาฯ เลือกตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่แตกต่างตามแผนธุรกิจแบบ Areeya Way ด้วยรูปแบบของวิลเลจทาวน์ที่คล้ายกับบ้านเดี่ยว มาพร้อมกับการออกแบบสไตล์ Modern Colonial คล้ายกับบ้านที่สามารถเห็นได้ที่ทางยุโรปตอนเหนือ
รีวิวฉบับนี้จะพาไปดูกันว่าสาเหตุใดที่ทำให้บางนา กม. 10 น่าสนใจ ทั้งศักยภาพด้านการอยู่อาศัยและเดินทาง รวมถึงความน่าสนใจของตัวโปรดักส์ เดอะ วิลเลจ และสาเหตุใดที่ทำให้เกิดยอดขายถึง 50% ได้ จากช่วงเปิดตัวเพียง 1 เดือน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ วิลเลจ บางนา – วงแหวน 2 (The Village Bangna – Wongwan 2)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน): A
ทำเลที่ตั้ง: ซ.มหาชัย ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ
เว็บไซต์: http://www.areeya.co.th/
โทร: 1797
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 ธันวาคม 2559)
พื้นที่โครงการ:
ลักษณะโครงการ: วิลเลจทาวน์ 2 ชั้น
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มครอบครัวขนาด เล็ก-กลาง ที่กำลังมองหาวิลเลจทาวน์ที่มาพร้อมกับการออกแบบคล้ายบ้านเดี่ยวบนพื้นที่ที่มีถนนเข้าออกส่วนตัว และเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยห้างใหญ่ๆและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
สถานะการก่อสร้าง: ใกล้เสร็จและคาดว่าน่าจะพร้อมเข้าอยู่ได้ประมาณ มกราคม 2560
ที่จอดรถ: 2 คันต่อ 1 หลัง
สิ่งอำนวยความสะดวก: สนามบาส สวนสาธารณะ คลับเฮ้าส์ (สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Co-working space)
ระบบรักษาความปลอดภัย: รปภ. 24 ชม. ถนนเข้าออกส่วนตัว และเข้าด้วยระบบคีย์การ์ด (ในอนาคต)
สถานะการขาย: ประมาณ 50%
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท / ตร.ว. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 38 บาท / ตร.ว. (ชำระเป็นยอดล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ราคาเริ่มต้น: 3.79 ล้านบาท*
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 135,000 บาท / ตร.ว.
รูปแบบบ้าน
ทุกยูนิตเป็นแบบ Village Town 2 ชั้น พื้นที่ดิน 28 ตร.ว. (ยูนิตแปลนมุมจะมีพื้นที่ดินเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย) พื้นที่ใช้สอย 134 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
แนวคิดโครงการ
โปรดักส์บ้าน เดอะ วิลเลจ บางนา – วงแหวน 2 นับว่ามีเอกลักษณ์แตกต่างจากโครงการทาวน์โฮมทั่วไปตรงที่ เป็นโครงการวิลเลจทาวน์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านเดี่ยว โดยบ้านแต่ละหลังของโครงการจะใช้ผนังกำแพงแยกยูนิตกัน ไม่ใช่ยูนิตที่แชร์ผนังร่วมกัน รวมถึงเป็นวิลเลจทาวน์ที่มีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มมาด้วย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้สามารถใช้เป็นจุด Tea Break ขนาดเล็กได้
รูปแบบการดีไซน์ของยูนิตจะมาแบบ Modern Colonial ที่ผสมผสานกลิ่นไอระหว่างสมัยเก่าและสมัยใหม่ คล้ายกับบ้านที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปทางฝั่งยุโรปตอนเหนือ
จำนวนยูนิตทั้งหมดของโครงการคือ 167 แบบบ้านเป็นเหมือนกันทุกหลังแตกต่างกันเพียงเรื่องพื้นที่ดิน ซึ่งยูนิตตรงแปลนหัวมุมจะมีขนาดพื้นที่ที่เพิ่มเติมขึ้นมา ยูนิตของโครงการที่เป็นวิลเลจทาวน์จะมี 166 และจะมียูนิตที่เป็นบ้านเดี่ยวอยู่ 1 ยูนิต ปัจจุบันสร้างเสร็จและเปิดขายประมาณ 50 ยูนิต โดยลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้ทันที
พื้นที่ส่วนกลาง
คลับเฮ้าส์จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่จะถูกใช้โดยลูกบ้านโครงการ The Village ทั้ง 4 เฟส ส่วนกลางประกอบด้วย สระว่ายน้ำขนาด 10 x 5 เมตร ฟิตเนส และ เลาจน์
พื้นที่ส่วนกลางจะถูกแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกันนั่นคือ ที่หนึ่งจะถูกตั้งใกล้กับ The Villaga เฟส 4 ประกอบไปด้วยโดมขนาดย่อม สวนสาธารณะ และ สนามบาสขนาดเล็ก ส่วนอีกที่หนึ่งจะเป็นคลับเฮ้าส์ที่จะตั้งใกล้กับ The Village เฟส 3
ส่วนกลาง ณ The Village เฟส 4
ในช่วงหน้าหนาวบรรยากาศจะดีเป็นอย่างมาก
คลับเฮ้าส์โครงการ ใกล้กับ The Village เฟส 3 (ปิดบริการทุกวันอังคาร)
หากต้องการใช้บริการคลับเฮ้าส์สามารถติดต่อ รปภ. เพื่อให้เขาขับรถกอล์ฟมินิมาส่งได้ เช่นเดียวกันหากต้องการกลับเจ้าหน้าที่ดูแลคลับเฮ้าส์จะติดต่อให้ รปภ. ขับรถมารับกลับเข้าหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามระยะทางจาก เฟส 4 มายังคลับเฮ้าส์ไม่ไกลมากเท่าไรนัก (ประมาณ 300 เมตร)
รีวิวบ้านตัวอย่างโครงการ
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
-พื้นห้องรับแขก ห้องเอนกประสงค์ชั้น 1 เป็น แกรนิโต้ขนาด 60 x 60 ซม. (ดูดซึมน้ำน้อยป้องกันปัญหาเนื้อกระเบื้องบวม)
-พื้นห้องน้ำ แกรนิโต้ขนาด 30 x 30 ซม.
-พื้นชั้น 2 ลามิเนตหนา 8 มม. (ดูดซึมน้ำน้อยป้องกันปัญหาเนื้อไม้บวม)
-วอลเปเปอร์สีขาวเรียบ
-Terrace ข้างบ้าน ที่มีพื้นเป็นแกรนิโต้ขนาด 30 x 30 ซม.
-ปั๊มน้ำ (Mitsubishi) และ แทงก์น้ำบรรจุ 1,000 ลิตร ติดตั้งบริเวณหลังบ้าน
-สุขภัณฑ์ American Standard กระจก safety กั้นระหว่างโซนเปียกแห้งที่ห้องน้ำชั้น 2 (Tempered Glass แตกแล้วละเอียดไม่เป็นเศษแก้ว)
-หลังคาติดตั้งฉนวนกันความร้อน (Shera) กระจกหน้าต่างเขียวตัดแสง
(สำหรับบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งภายในจะอยู่ที่ เดอะ วิลเลจ บางนา – วงแหวนฯ เฟส 3 ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานขายโครงการ จะมีรถบริการมายังตัวโครงการพร้อมพนักงานขายบริการด้านข้อมูล)
แบบบ้านจะมีเพียง Type เดียวเท่านั้น จะแตกต่างกันเพียงเรื่องพื้นที่ดิน หากเป็นยูนิตแปลนริมจะมีขนาดพื้นที่ดินมากกว่า
แปลนบ้านเป็นวิลเลจทาวน์ 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ดิน 28 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 134 ตร. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องเอนกประสงค์ โดยห้องเอนกประสงค์ลูกค้าอาจจะเลือกกั้นเป็น partition แยกส่วนเพิ่มเติมได้ เนื่องจากไม่มีการบิ้ลท์ผนังกั้นส่วนระหว่างห้องให้ ณ จุดนี้
ความกว้างดังกล่าวสามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงการมีจุดขายที่ว่าตรงพื้นที่จอดรถใต้พื้นดินจะมีการฝังเข็มขนาดใหญ่รองรับน้ำหนักรถไว้ การทำเช่นนี้จะทำให้พื้นมีความทนทานต่อน้ำหนักมากขึ้นและไม่ทรุดง่าย
พื้นที่ด้านข้างตัวบ้านจะมี Terrace ขนาดเล็กติดตั้งมาให้พร้อมปูด้วยพื้นแกรนิโต้ขนาด 30 x 30 ซม. (English Garden เป็นเพียงไอเดียการตกแต่งของบ้านตัวอย่างเฉยๆ)
หน้าประตูทางเข้ามีการติดตั้งปลั๊กเอ้าท์เลทไว้สำหรับรองรับการใช้งานประเภทต่างๆ อาทิเช่น เครื่องตัดหญ้า
ห้องน้ำ ณ ชั้น 1 สุขภัณฑ์ให้เป็นของ American Standard (สีขาวดังรูป) พร้อมปูด้วยพื้นแกรนิโต้ 30 x 30 ซม. | โซนอาบน้ำมีธรณียกขึ้นแยกโซนเปียกแห้งไว้ให้ แต่ไม่มีกระจก Safety มาด้วย ผนังส่วน shower เป็นแกรนิโต้ขนาด 15 x 15 ซม.
พื้นที่ฝั่งตรงข้ามประตูบานเลื่อนมีพื้นที่เอนกประสงค์อยู่ด้วย ซึ่งเปิดเป็นพื้นที่เชื่อมติดกันไม่มีผนังกั้น
วอลเปเปอร์ตรงจุดทางขึ้นลงของจริงจะเป็นสีขาวเรียบ เพื่อไม่ให้เป็นการโล่งเกินไปอาจจะลองหารูปภาพแขวนมาติดตั้ง | เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้น 2 ฝั่งซ้ายมือจะเป็นทางเข้า Master Bedroom
Master Bedroom ของจริงจะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมไม่มีผนังแยกเหมือนในบ้านตัวอย่างที่กั้นระหว่าง Walk-in closet และห้องนอน |ขนาดของห้องนอนสามารถจัดวางเตียงขนาด ควีน – คิง ไซส์ได้สบายๆ Floor to Ceiling ชั้นนี้อยู่ที่ประมาณ 2.6 เมตร
มีระเบียงขนาดเล็กมาให้ด้วยตรงตำแหน่งนี้ซึ่งอาจจะเลือกแต่งเป็นระเบียงไม้ประดับขนาดเล็กได้
ห้องน้ำชั้น 2 สามารถเข้าได้สองทางนั่นคือจากทางฝั่ง Corridor และ Master Bedroom | สุขภัณฑ์ที่ให้เป็น spec เดียวกับด้านล่าง (American Standard) ที่แตกต่างกันคือมีประตูบานเลื่อนที่ติดตั้งกระจก Safety แยกระหว่างโซนเปียกแห้งให้
ห้องนอน #2 ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 2.5 x 2 เมตร ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่าสี่เหลี่ยม ไม่มีการยกเตียงขึ้นเป็นงานบิ้ลท์อินเหมือนดั่งในบ้านตัวอย่าง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียพื้นที่ ควรเลือกติดตั้งทีวีเป็นแบบแขวนผนัง
ยูนิตจริงที่ลูกค้าจะได้รับเป็นยูนิตเปล่า
หน้าบ้านมีจุดปลั๊กเอ้าท์เลทรองรับการใช้งานเหมือนบ้านตัวอย่างก่อนหน้านี้
พื้นที่จอดรถสองคัน | ประตูรั้วเหล็กขนาดความสูง 1 เมตร | พื้นใต้คอนกรีตมีการเสริมความคงทนด้วยเสาเข็มรองรับน้ำหนักรถยนต์ทำให้ไม่ทรุดง่าย
ด้านหลังบ้านมีการติดตั้งแท้งก์น้ำขนาด 1 พันลิตรให้ พร้อมหญ้าปูให้ด้วย สามารถใช้เป็นพื้นที่สำหรับตากผ้าได้
มอเตอร์ปั๊มน้ำ (Hitachi) ที่ติดตั้งมาให้หลังบ้าน
ประตูจากทางเข้าหน้าบ้านและประตูด้านข้างที่เปิดออกไปเป็น terrace พื้นที่ได้ทั้งหมดของชั้นปูด้วยแกรนิโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
ห้องน้ำสุขภัณฑ์ American Standard พื้นปูก้วยแกรนิโต้ 30 x 30 ซม. ผนังโซนเปียกเป็น แกรนิโต้ 15 x 15 ซม.
ห้องน้ำ spec เดียวกับบ้านตัวอย่างข้างต้น สุขภัณฑ์ American Standard พร้อม built-in ใต้ซิงค์ ประตูกระจก safety บานเลื่อน (tempered glass)
Master Bedroom
ขนาดพื้นที่ของห้องประมาณ 4 x 2.5 เมตร จะเห็นได้ว่าแตกต่างจากบ้านตัวอย่างตรงที่ไม่มี partition กั้นระหว่าง walk-in closet และ ห้องนอน
ตรงหน้าต่างมีระเบียงสำหรับปลูกไม้ประดับขนาดเล็กติดตั้งให้
ทําเล & การเดินทาง
ถนนบางนาเป็นถนนเส้นยาว และเป็นถนนสำคัญเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ทางภาคฝั่งตะวันออกเพื่อมุ่งสู่จังหวัดต่างๆเช่น สมุทรปราการ ชลบุรี จุดเริ่มต้นของถนนบางนาอยู่ที่แยกที่ตัดกับถนนสุขุมวิท ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม โดยปัจจุบันมาสิ้นสุดที่สถานีสำโรงหรือช่วงสุขุมวิท 113 แยกนี้สามารถมุ่งตรงเข้าสู่โซนเมืองชั้นในได้โดยผ่านถนนสำคัญต่างๆเช่น ถนนอุดมสุข ถนนพระโขนง ไล่ไปจนถึงแยกอโศกหรือซีบีดีสำคัญของกรุงเทพฯนั่นเอง
สถานที่อำนวยความสะดวกและห้างสรรพสินค้า ณ บางนาช่วงที่หนึ่งมี เซ็นทรัลบางนา ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โรงพยาบาลนครินทร์ และโรงพยาบาลบางนา 1 สำหรับสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ ณ บางนา ช่วงนี้คือ โรงเรียนนานาชาติ เบิร์คลีย์
สำหรับอีกเมกกะโปรเจกต์ที่จะเข้ามาปักหมุด ณ แยกบางนา – ตราด คือ The Bangkok Mall ที่พัฒนาโดย เดอะ มอลล์ กรุ๊ป ขนาดพื้นที่ดินพัฒนาโครงการมีมากกว่า 100 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นของ Property Perfect ภายในพื้นที่่ประกอบด้วยคอมมูลนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ โรงแรมและเรสซิเดนซ์ที่บริหารโดย City Realty ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม Chatrium นั่นเอง
ลำดับถัดมาถือได้ว่าเป็นช่วงกลางของถนนบางนา ซึ่งเราขอใช้จุดเริ่มต้นส่วนที่สองนี้ที่ห้าง เมกกะ บางนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าขนาดใหญ่ รวมถึงศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ระดับโลกอย่าง อิเกีย และศูนย์รวมเฟอร์ฯอื่นๆ อาทิเช่น SB Design, Index Living Mall และจากจุดนี้เองสามารถเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ และในอนาคตข้างหน้าบนถนนศรีนครินทร์จะมีการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีที่ใกล้กับ เดอะ วิลเลจ มากที่สุดคือ สถานีวัดศรีเอี่ยม ซึ่งตามแผนแม่บทจะสร้างเสร็จประมาณกลางปี ’63 โดยรถไฟฟ้าสายนี้จะมีจุดอินเตอร์เชนจ์สองแห่ง ลาดพร้าว และ สำโรง (สุขุมวิท 113) ดังนั้นผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังช่วงลาดพร้าวจะสามารถเลี่ยงรถติด ณ ถนนพัฒนาการได้ในอนาคต
ลำดับสุดท้ายคือบางนาช่วง บางเสาธง – บางปะกง ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นพื้นที่ที่มีผังเมืองสีเขียวหรือพื้นที่เกษตกรรมเสียส่วนใหญ่ และประกอบไปด้วยคาร์โกเก็บสินค้าขนาดใหญ่มากมาย
ศักยภาพทำเล บางนา กม. 10
เดอะ วิลเลจ บางนา – วงแหวนฯ ตั้งอยู่ตำแหน่งของ บางนา กม. 10 ซอยเข้าโครงการคือ ซอยมหาชัย บรรยากาศภาพรวมจะเป็นพื้นที่โล่งและคาร์โกเก็บสินค้าเสียส่วนใหญ่รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบจากดีเวลลอปเปอร์รายอื่นๆ อย่างไรก็ตามภายในซอยมหาชัยนี้เองจะมีจุดที่รวมร้านอาหารและมินิมาร์ทอย่าง Family Mart ที่ตั้งอยู่ที่ซอยมหาชัยแยก 1 หรือถนนกิ่งแก้ว (ใกล้กับสำนักงานขายโครงการ)
จุดเด่นของซอยมหาชัยคือการที่สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนด้านข้างที่เป็นที่ตั้งของ เมกกะ บางนา ได้ทันที ซึ่งถนนนี้เองเป็นจุดเชื่อมไปยังทางพิเศษมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ได้ และเมื่อออกจากซอยจะพบว่าตรงไปอีกนิดเดียวก็จะพบกับจุดขึ้นทางด่วนที่จะพาขึ้นไปเส้นศรีรัชที่จะพาไปลงยังฝั่ง ดินแดง – แจ้งวัฒนะ และ สายเฉลิมมหานคร ที่จะพาไปลงยังเส้น พระราม 3 – สีลม และสาทร
การโผล่มายังซอยข้างอิเกียนี้สามารถทำได้โดยใช้ซอยที่อยู่ด้านข้างสำนักงานขายโครงการ ซอยที่ว่านี้จะมีเส้นทางผ่านโครงการต่างๆของ อารียาฯ เช่น โคโม่, เดอะ คัลเลอร์ส เฟสต่างๆ และในอนาคตข้างหน้าทางโครงการจะทำถนนเส้นนี้ให้กลายเป็นถนนส่วนบุคคลที่จะเข้าออกได้เพียงลูกบ้านของโครงการต่างๆของ อารียาฯ เท่านั้น ผ่านระบบคีย์การ์ด ปากซอยเข้าออกนี้ยังเป็นที่ตั้งโครงการคอนโดฯ ของ อารียาฯ เช่นกัน นั่นคือ เอ สเปซ มี บางนา
การเดินทางมายังโครงการ
หากนับจุดเริ่มต้นตั้งแต่แยก สุขุมวิท – บางนา จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น (กรณีการจราจรสภาพปกติ) ให้ทำการวิ่งผ่านแยกถนนต่างๆ โดยแยกถนนจุดแรกที่จะเจอคือ บางนา – ศรีนครินทร์ และส่วนที่สองคือ บางนา – กาญจนาภิเษก หรือเรียกว่า บางนา – วงแหวน นั่นเอง ซึ่งเป็นแยกที่ตั้งของ เมกกะ บางนา
จากสุขุมวิทให้วิ่งตรงยาวมาจนเลยแยกที่ผ่าน เมกกะ บางนา หลังจากนั้นให้มองหาที่กลับรถ (ออกมาจากเลนด้านใน)
ซอยด้านข้าง Family Mart คนพื้นที่เรียกว่า ถนนกิ่งแก้ว ที่เพียบพร้อมไปด้วยร้านอาหารต่างๆมากมาย (หอยทอด ส้มตำ) รวมถึงมี Tesco Lotus Express ด้วย และเป็นซอยที่สามารถออกสู่ถนนใหญ่ได้ (บางนา)
ซอยด้านข้างสำนักงานขายคือซอยส่วนตัวของลูกบ้านโครงการต่างๆของ อารียาฯ ซึ่งสามารถโผล่ไปด้านข้างอิเกียบางนาได้ทันที
Estate ของ อารียาฯ จะประกอบไปด้วยโครงการต่างๆมากมายไล่เป็นลำดับเซ็กเม้นต์ได้แก่ The Colors, The Village และ Como
อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงมหาวิทยาลัยต่างๆที่ตั้งอยู่บนเส้น บางนา – หัวหมาก ได้ง่าย เช่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โดยใช้เส้นทางผ่านคือ ถนนวงแหวน
สถานที่ Lifestyle
โครงการอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่าง เมกกะ บางนา เต็มไปด้วยซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง ท๊อปมาร์เก็ต และบิ๊กซี ทำให้สะดวกสบายต่อการจับจ่ายใช้สอยและเป็นที่ชื่นชอบของคุณแม่บ้าน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรบินสัน รวมถึงอีเกีย แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้านมากมาย ที่ส่งตรงมาจากสวีเดน เรียกได้ว่ารองรับความต้องการของกลุ่มคนที่ชอบตกแต่งบ้านอยู่เสมอ ส่วนคนชอบนั่งดื่ม ไม่ต้องไปไหนไกล บริเวณรอบนอกของ เมกกะ บางนา มีร้านดนตรีเพราะ อาหารอร่อยมากมาย อาทิ Wine I Love You ถูกใจนักดื่มไวน์ หรือ 7th Street Bar & Bistro ที่ขึ้นชื่อเมนูฟิวชั่น อย่าง แซลมอนรสแซบ เป็นต้น แต่ถ้าหากรู้สึกยังไม่จุใจ สามารถขับรถไปทางเลียบวงแหวนตะวันออก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ต่างเต็มไปด้วยสวนอาหารชื่อดัง ที่โด่งดังทั้งรสชาติ และห้องคาราโอเกะ อารมณ์เดียวกับเส้นเลียบทางด่วนรามอินทรา อาทิ ร้านอาหารวิวดี ครัวรสหนึ่ง และบึงใหญ่ เป็นต้น ซึ่งจุดขายของร้านอาหารในย่านนี้ อยู่ที่ความสด อร่อยของซีฟู้ด และมักแข่งขันกันที่บรรยากาศอันสวยงาม รวมถึงราคาถูก ชวนเชิญให้ทั้งคนในพื้นที่และบริเวณโดยรอบต่างอยากมาลองลิ้มชิมรส สังเกตได้จากจำนวนรถที่หนาแน่นเกือบทุกร้าน
แหล่งแฮงค์เอาท์ ของคนรุ่นใหม่ ในย่านนี้ กับร้าน Wine I Love You ที่ตั้งอยู่ในเมกกะ บางนา ภาพ via edtguide.com
บทวิเคราะห์
The Village บางนา – วงแหวนฯ 2 นั้นเริ่มเปิดเฟสแรกตั้งแต่เมื่อปี ’54 และค่อยๆถูกดูดซับเรื่อยมาจนเดินทางมาถึงเฟสที่ 4 ปัจจุบัน กำลังซื้อที่หลั่งไหลเข้ามายังโครงการเป็นรูปแบบของเรียลดีมานด์หรือผู้ซื้อทำการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ ส่งผลให้กลไกการขยับขึ้นของราคาโครงการแนวราบพื้นที่ชานเมืองจะแตกต่างจากโครงแนวสูงพื้นที่ในเมือง ซึ่งโครงการประเภทแนวสูงในเมืองนั้นราคาจะขยับขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากมี volume การซื้อกันในรูปแบบของ ใบจองคอนโด ซึ่งต้องไปลุ้นกันอีกทีช่วงก่อนโอนกรรมสิทธิ์ว่าจะมีผู้อยู่อาศัยจริงเท่าไร แต่สำหรับโครงการแนวราบหากผู้ซื้อไม่มีปัญหาเรื่องการยื่นกู้ก็จะทำการโอนเกือบ 100% เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่
ด้านการขยับขึ้นของราคาที่ดินอาจจะขยับในระดับที่น้อยหรือหลักพันบาทต่อ ตร.ว. เนื่องจากราคาที่ดินประเมินปัจจุบันอยู่ที่ช่วงประมาณสองหมื่นต้นๆ โดยเฉลี่ยแล้วนับตั้งแต่ปี ’54 ราคาที่ดินขยับขึ้นจากประมาณ 15,000 – 17,000 มาอยู่ที่ 20,000 กว่าบาท หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ประมาณ 20% ในช่วงกรอบประเมิน 2 รอบ 8 ปี (’54 – ’62)
อย่างไรก็ตามในอนาคตราคาของที่ดินอาจจะมีการปรับขึ้นเล็กน้อยจากอานิสงค์ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะเกิดขึ้นบนถนนศรีนครินทร์ ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมูล ก่อสร้าง รวมทั้งทดลองระบบก่อนเปิดให้บริการถึง 5 – 6 ปี
เปรียบเทียบโครงการ
โครงการเพื่อนบ้านต่างดีเวลลอปเปอร์คือ เดอะ คอนเนค บางนา จากค่าย พฤกษาฯ ซึ่งเป็นโครงการประเภททาวน์โฮม แต่เนื่องจากเป็นโปรดักส์ในช่วงกรอบราคา 2 ล้านกว่าบาทจึงไม่ได้หยิบยกนำมาเปรียบเทียบ โครงการที่ดูเหมือนจะใกล้เคียงกันมากที่สุดและอยู่ในช่วงกรอบราคาเดียวกันกับ เดอะ วิลเลจ บางนา – วงแหวน 2 คือ Stories อ่อนนุช – วงแหวน
Stories Onnut – Wongwan
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: สตอรี่ส์ อ่อนนุช – วงแหวน (Stories Onnut – Wongwan)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เรียล แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ที่ตั้งโครงการ: ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี ถนนกาญจนาภิเษก (ซอยกาญจนาฯ 39) สมุทรปราการ
ประเภทโครงการ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ขนาดที่ดิน 19.9 – 36.6 ตร.ว.
จำนวนยูนิต: 216
ราคาเริ่มต้น: 3 ล้านต้น
เว็บไซต์: http://www.realasset.co.th/stories
ชื่อโครงการ | ยูนิต | พืนที่ดิน | ราคาเฉลี่ย | ราคาขาย |
The Village บางนา – วงแหวน 2 | 167 | 28 | 4.29 ล้านบาท (ราคาหน้าสัญญา) | 150,000 บาท / ตร.ว. |
Stories อ่อนนุช – วงแหวน | 216 | 19.9 – 36.6 ตร.ว. | 3 ล้านต้น | 160,000 บาท / ตร.ว. |
สรุป
The Village บางนา – วงแหวน 2 เป็นโครงการวิลเลจทาวน์ที่ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับบ้านเดี่ยว สาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเรียกว่าเป็นโปรดักส์ประเภทบ้านเดี่ยวได้เพราะว่าขนาดพื้นที่ดินแปลงต่อยูนิตไม่ถึง 50 ตร.ว. ซึ่งตามกฎหมายทำให้ต้องเลือกพัฒนาเป็นวิลเลจทาวน์แทน อย่างไรก็ตามบรรยากาศที่ได้จะคล้ายกับการได้อยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวเพราะผนังของบ้านแต่ละหลังจะเป็นแบบส่วนตัวไม่ได้ใช้ผนังร่วมกับเพื่อนบ้านเหมือนโครงการทาวน์โฮมทั่วไป
ด้านระบบคมนาคม (ปัจจุบัน) ค่อนข้างทำได้อย่างสะดวกถ้าเทียบกันในกรณีของการอยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรร ไฮไลท์หลักดูเหมือนจะเป็นการที่โครงการมีถนนส่วนตัวที่เชื่อมต่อออกไปยังด้านข้างอิเกียได้ทันที ซึ่งซอยข้างอิเกียนี้เชื่อมกับถนน บางนา – สุขุมวิท พร้อมจุดขึ้นลงทางด่วนที่อยู่ใกล้ ส่วนปัจจัยด้านการอยู่อาศัยเพียบพร้อมไปด้วย โรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ และโรงพยาบาล ดังนั้นสิ่งที่สำคัญสำหรับการอยู่อาศัยก็คือการมีรถยนต์ส่วนตัว
ด้านราคาเมื่อเปรียบเทียบกับขนาดพื้นที่ดินที่ได้รับนั้นจะเริ่มต้นประมาณ 135,000 บาท/ตร.ว. ซึ่งอยู่ในระดับที่ผู้ที่มีรายได้ประมาณ 40,000 – 50,000 บาทขึ้นไปผ่อนไหว (กรณีปราศจากการผ่อนสินเชื่อประเภทอื่นๆ) หากคิดอัตราดอกเบี้ยต่อปีที่ 5% ยอดเงินกู้ 3,500,000 บาท อายุสินเชื่อ 30 ปี จะทำให้ยอดการผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท