ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ในยุคที่มีการแข่งขันทางอสังหาริมทรัพย์สูง พื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าถือเป็นทำเลสำคัญที่เหล่าซัพพลายให้ความสนใจและนิยมไปปักหมุดโครงการ แต่ด้วยภาวะปัจจุบันพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าในเมืองที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่าไม่มีเหลือแล้ว เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เหล่าดีเวลลอปเปอร์ต้องทำการบ้าน และเฟ้นหาพื้นที่ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังตัวเมืองได้ง่าย แต่ยังคงอำนวยความสะดวกในการเดินทางเพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองได้ ซึ่งหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังที่สามารถทำงานเข้าขากับพาร์ทเนอร์ของบริษัทเจ้าของแนวรถไฟฟ้าสายหลักอย่าง บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ได้ดีมาตลอด ก็คือบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมทุนกันพัฒนาคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีโครงการแบรนด์เด่นอย่างเดอะไลน์ที่ได้รับความนิยมจนเรียกได้ว่าสามารถ Sold Out ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วหลายโครงการ อาทิ เดอะไลน์ อโศก – รัชดา, เดอะไลน์ ราชเทวี, เดอะไลน์ สุขุมวิท 71 และเดอะไลน์ จตุจักร – หมอชิต ซึ่งทุกโครงการเป็นการร่วมทุนกันระหว่าง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่มาตลอด แต่ด้วยแบรนดิ้งของเดอะไลน์ที่มีจุดเด่นของทำเลใกล้รถไฟฟ้าไม่เกิน 500 เมตร ประกอบกับที่ดินเปล่าในรัศมีรถไฟฟ้าที่หายากขึ้นทุกวัน ทางแสนสิริจึงได้จับแบรนด์รองอย่าง The Base มาร่วมทุนกับบริษัท บีทีเอส โฮลดิ้ง จำกัดเป็นครั้งแรก และปักหมุดโครงการใหม่บริเวณ Airport Rail Link รามคำแหง ซึ่งมีระยะห่างจากทางขึ้น – ลง เพียง 700 ม. โดยการร่วมทุนครั้งนี้ในนามผู้พัฒนา บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง เซเว่น จำกัด น่าจะพลิกโฉมโครงการนี้ให้กลายเป็นแบรนด์ The Base ที่ดีที่สุดไม่แพ้คอนโดมิเนียมร่วมทุนที่ผ่านมาอย่างแบรนด์รุ่นพี่ The Line แน่นอน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 (The Base Garden Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง เซเว่น จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพระราม 9 ตัดใหม่ แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์: http://www.sansiri.com/condominium/thebase-garden-rama9
โทร: 1685
อีเมล์: thebasegarden@sansiri.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 3-2-39 ไร่
รูปแบบ: อาคารพักอาศัยสูง 36 ชั้น 1 อาคาร 639 ยูนิต และเพื่อการพาณิชย์ 1 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: พนักงานที่มีระดับเงินเดือน 30,000 – 50,000 บาท, ข้าราชการและคนในพื้นที่
เริ่มก่อสร้าง: เดือนกันยายน 2559
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ประมาณเดือนมิถุนายน 2562
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว, ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
สถานะการขาย: พรีเซลวันที่ 10-11 กันยายน 2559
เงินกองทุนสะสม: 500 บาทต่อตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 55 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.199 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 99,000 – 110,000 ต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
1 Bedroom 26.5 – 34.75 ตร.ม.
2 Bedrooms 49.75 – 55 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ตัวสำนักงานขายเน้นสี Copper Gold ออกโทนสีทองแดงสะท้อนแสง เน้นผนังเป็นกระจกใสสูงจากพื้นจรดเพดาน จากภาพทำให้มองเห็นดีไซน์ในอนาคตของ Lobby แบบ Double Volume
โครงการ เดอะ เบส การ์เดน พระราม 9 เป็นโครงการ เดอะ เบส ตัวแรก ที่มีการร่วมทุนกันกับบริษัท บีทีเอส โฮลดิ้ง จำกัด เป็นครั้งแรก หลังจากที่ทางแสนสิริมักจะจับคู่กับพาร์ทเนอร์นี้และพัฒนาออกมาเป็นโครงการ เดอะไลน์ ดังนั้นรูปแบบโครงการ เดอะ เบส การ์เดน พระราม 9 จึงเปลี่ยนแปลงจากโครงการ เดอะ เบส ที่ผ่านๆ ในด้านวัสดุและดีไซน์ที่อัพเกรดขึ้นมา โดยตัวอาคารจะเป็นสีโทน Copper Gold ออกแนวทองแดงให้ความรู้สึกหรูหราตัดกับกระจน Insulating Glass กันความร้อนที่จะสะท้อนออกเป็นสีน้ำเงิน การจัดวางรูปแบบอาคารเป็นรูปตัว Z ซึ่งปกติโครงการทั่วไปมักใช้การวางผังอาคารแบบคู่ขนานทำให้แต่ละยูนิตมีระเบียงที่มองเห็นกันได้ แต่การวางอาคารเป็นตัว Z ทำให้ลดการที่ยูนิตจะหันหน้าระเบียงชนกันเพื่อความเป็นส่วนตัว สิ่งแวดล้อมภายในรั้วโครงการเน้นพื้นที่สีเขียว มีสวนขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้จริง
โมเดลจำลองโครงการเสมือนจริง ตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว Z ลดการมองเห็นกันระหว่างห้อง สีของตัวอาคารออกโทนสีทองแดงหรือสีอิฐมอญ ตัดกับกระจกนิรภัยกันเสียงที่เป็นสีฟ้าอย่างลงตัว
ชั้น 1-4 เป็นในส่วนของอาคารจอดรถ โดยมียูนิตที่พักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 5
ส่วนกลางของโครงการ อยู่ด้านนอกของตึกบริเวณชั้นหนึ่งหรือบริเวณปากทางเข้าโครงการ หากเดินมาจากหน้าโครงการก็จะพบส่วนกลางสระว่ายน้ำก่อน รอบโครงการเน้นพื้นที่สีเขียวสอดคล้องกับความเป็น Garden
ส่วนในเรื่องของส่วนกลาง ยังไม่ได้ถือว่าโดดเด่นมากนักสำหรับโครงการคอนโดมิเนียมย่านพระราม 9 – รามคำแหง แต่ก็ได้มาตรฐานทั่วไป โดยส่วนใหญ่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น Ground Floor ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำแบบ Freeform ระบบเกลือ ขนาด 5 x 23 เมตร ลึก1.2 เมตร พร้อมสระเด็ก, ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ที่มีอุปกรณ์ครบครัน,สวนส่วนกลางและพื้นที่สันทนาการกลางแจ้ง ตกแต่งลูกเล่นด้วย Tree House,พื้นที่ Multi Purpose Area ที่สามารถเทควิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางด้านนอกได้,พื้นที่สีเขียวบนอาคารที่ชั้น 5 เป็นสวนที่อยู่บริเวณหางอาคารรูปตัว Z ทั้งสองฝั่ง พร้อมกับไฮไลท์ส่วนกลางอย่าง Double Lobby ที่มีความโปร่งโล่งจากความสูงระหว่างพื้นจรดผนัง และเน้นใช้วัสดุธรรมชาติให้สอดคล้องกับความเป็นการ์เดน ทั้งไม้จริง หินอ่อน และตกแต่งให้แตกต่างจากโครงการเดอะ เบส เดิมให้มีความหรูหราด้วย Rain Chandelier เพิ่มเติมบรรยากาศที่อบอุ่น
ภายในอาคารมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 639 ยูนิต ยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นประมาณ 20 ยูนิต มีลิฟท์โดยสารภายในอาคาร 4 ตัว เฉลี่ย 160 หน่วยต่อลิฟท์หนึ่งตัว ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการใช้บริการลิฟท์บ้างในชม.เร่งด่วน ส่วนทางเดินภายในอาคารไปถึงยูนิตต่างๆ จะเป็นแบบ Double Corridor ที่มีทั้งยูนิตแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน คละกันในแต่ละชั้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีความต้องการเรื่องระดับชั้นและขนาดห้องที่แตกต่างกัน โดยภายในยูนิตที่อยู่อาศัยแบบ 2 ห้องนอนทุกห้องจะมีไฮไลท์เด่นอยู่ที่กระจกใสแบบ Bay Window ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่มุมชมวิวในบ้านเดี่ยวแต่เปลี่ยนทัศนะทางสายตาให้กลายเป็นวิวเมืองบนอาคารสูง
Master Plan
จากแปลนจะเห็นว่าส่วนกลางที่บริเวณชั้นล่างของโครงการอยู่ห่างจากถนนหลักพระราม 9 ประมาณ 30 ม. ซึ่งโครงการล้อมรั้วป้องกันความเป็นส่วนตัวด้วยรั้วสีเขียวซึ่งน่าจะสูงราว 3 ม. ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสิ่งรบกวนจากภายนอก ถัดมาโดยรอบโครงการเป็นที่จอดรถแบบ Outdoor และ Indoor ภายใต้อาคาร รั้วโครงการล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวตลอดแนว
Floor Plan
เนื่องจากส่วนกลางส่วนใหญ่อยู่บริเวณชั้นล่าง รูปแบบของยูนิตที่อยู่ภายอาคารตัว Z จึงเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 5 ถึงชั้น 36 โดยรูปแบบห้องจะคละกันไปทุกชั้น แต่ที่ชั้น 5 จะมีพื้นที่สวนส่วนกลางทั้งสองฝั่งไว้รองรับการพักผ่อนของผู้อยู่อาศัย ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปโครงการที่เน้นพื้นที่สีเขียว โดยยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นอยู่ที่ประมาณ 16-20 ยูนิต ซึ่งถือว่ายังไม่มากเกิน มีทางเดินเป็นแบบ Double Corridor ความส่วนเป็นส่วนตัวอาจจะลดน้อยลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีข้อดีของการวางผังอาคารแบบนี้ที่จะช่วยลดการมองเห็นของระเบียงระหว่างอาคาร ลิฟท์โดยสารโครงการจัดมาให้ 4 ตัว เฉลี่ยประมาณ 160 ยูนิตต่อลิฟท์หนึ่งตัว ซึ่งอาจจะมากไปหน่อย แต่ก็ยังเป็นเรทมาตรฐานโครงการไฮไรส์ทั่วไป
Unit Layout
1 Bedroom 26.5 – 34.75 ตร.ม.
ทางโครงการแบ่ง Type ห้องออกเป็นหลายรูปแบบด้วยกันตามพื้นที่ใช้สอย มีทั้ง Type ห้องที่มีทั้งแบบหน้ากว้างหรือแบบตอนลึกให้ผู้อยู่อาศัยเลือกตามความชอบ แต่จากแผนผังเป็นแปลนห้อง 1 ห้องนอน Type 1 A ซึ่งเป็นห้องมาตรฐานพื้นที่ใช้สอยรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส โครงการจัดมุมห้องนอนให้อยู่ด้านในสุดของห้องและมีห้องน้ำในตัว โดยมีผนังกั้นห้องเป็นสัดส่วน พื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องครัว มีระเบียงอยู่ติดกับห้องครัวสำหรับ Typeห้อง 1 ห้องนอน 1 A
2 Bedrooms 49.75 – 55 ตร.ม.
ห้องแบบ 2 ห้องนอน โครงการออกบบมาหลาย Type ตามพื้นที่ใช้สอยของชั้นยูนิตที่พักอาศัยเช่นกัน คละอยู่กับห้องแบบหนึ่งห้องนอน โดยห้องสองห้องนอนจะเน้นฟังก์ชันของห้องนั่งเล่นที่มีขนาดใหญ่ สามารถจัดวางโซฟาชุดใหญ่ พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั้งได้ โดยมีทั้งระเบียงใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องนั่งเล่น และระเบียงเล็กที่เชื่อมต่อกับห้องครัวแยกส่วนกันให้ผู้อยู่อาศัยเลือกตามใจชอบ แต่ในแผนผังตัวอย่างเป็นห้องแบบ 1 B หรือเป็นยูนิตขนาดเริ่มต้นของห้อง 2 ห้องนอน มีผนังกั้นห้องเป็นสัดส่วนสำหรับทุกส่วน ห้องครัวเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นสะดวกต่อการใช้งาน ห้องนอนไม่มีห้องน้ำในตัว แต่ก็สามารถใช้งานห้องน้ำกลางได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมห้องอาบน้ำที่กว้างขึ้นกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: เป็นด้านหน้าโครงการ หันไปทางถนนหลักพระราม 9 ที่ความสูงประมาณชั้น 5-7 น่าจะเป็นชั้นที่มองตรงออกไปขนานกับทางด่วนพอดี แต่มีระยะห่างจากโครงการพอสมควรไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงรบกวน
ทิศใต้: เป็นวิวเคลียร์ มองออกมาสามารถเทควิวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และเส้นทางรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีรามคำแหงได้
ทิศตะวันออก: ฝั่งนี้เป็นวิวเคลียร์เช่นกัน ถัดออกมาสักหนึ่งบล็อคจะเป็นที่ดินแปลงเปล่าที่สามารถใช้ประโยชน์ในการทำอาคารสูงหรือคอนโดมิเนียมได้ ปัจจุบัน วิวทางนี้ยังเป็นวิวราบกับสายตา แต่ในอนาคตก็ต้องลุ้นอีกต่อไป เพราะถ้าหากมีคนเข้ามาเทคโอเวอร์ที่ดินแปลงนี้แล้วสร้างตึกสูงจะบล็อควิวฝั่งนี้ทันที
ทิศตะวันตก: ทิศนี้จะมองเห็นวิวแยกรามคำแหง บริเวณชั้น 7-9 วิวอาจไม่เคลียร์สายตาเราะมีท่างด่วนรามอินทราอยู่ถัดไปจากตัวโครงการประมาณ 100 เมตร แต่ก็ถือว่าเป็นระยะห่างที่ไกลพอสมควร
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
Double Volume Lobby ผนังกระจกบานใหญ่ แชนเดอเรียลายสายฝนขนาดใหญ่
สระว่ายน้ำ Freeform ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5 x 23 ม. ลึกประมาณ 1.2 ม. พร้อมสระเด็ก
ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์
ห้องสมุด
สวนส่วนกลาง พร้อมพื้นที่สันทนาการ
สวนบริเวณชั้น 5
อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับโถงพักคอยและพื้นที่ส่วนกลาง
แสนสิริ แฟมิลี่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง และ CCTV ตามจุดสำคัญ
ที่จอดรถ
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: พื้นห้องลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. พื้นครัวและระเบียงเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้านขนาด 30×30 ซม.
ผนัง: ฉาบเรียบสีขาว
พื้นจรดเพดานความสูง: 2.55 ม.
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted (ชุดครัว, ฉากกั้นทุกส่วน, แอร์)
เครื่องปรับอากาศ: 1 ห้องนอนได้รับเครื่องปรับอากาศ Trane 2 ตัว, 2 ห้องนอนได้รับเครื่องปรับอากาศ Trane 3 ตัว
สุขภัณฑ์: American Standard
ชุดครัว: เคาท์เตอร์ครัว ซิงค์ Hob & Hood ของ Mex
รีวิวภายในห้องตัวอย่างทั้งหมด
1 ห้องนอน Type 1 B ขนาด 31.00 – 31.50 ตร.ม.
พื้นที่ใช้สอยของห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถจัดวางโซฟาประมาณ 4 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้ แต่ทางโครงการให้ไอเดียจัดสรรออกมาตามภาพ
ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีมีความกว้างประมาณ 3 ม. หากไม่ได้ติดตั้งตู้เก็บของสามารถติดทีวีขนาด 49-60 นิ้ว บบติดผนังแบบยังอยู่ในระยะสายตาได้เลย
ฉากกั้นห้องครัวเป็นประตูกระจกใสวงกบอลูมิเนียมเคลือบสีดำด้าน ออกแบบมาให้เข้ากับสีตัวห้อง สามารถล็อคได้จากฝั่งห้องนั่งเล่น
ห้องครัวมีขนาดกว้างประมาณ 3 ม. สามารถวางเคาท์เตอร์ครัว ตู้เย็นประตูเดียว 9.1 คิว พร้อมโต๊ะอาหารสองที่นั่งโดยเหลือพื้นที่ให้เดินเข้าเดินออกอย่างสะดวกสบาย
ระเบียงด้านนอกกว้างประมาณ 1 ม. ที่กั้นตกเป็นโครงเหล็กสูงประมาณ 1.2 ม. โครงการติดตั้งปลั๊กไฟและระบบประปาไว้ด้านนอกเพื่อรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้า
โครงการมอบชั้นวางแอร์ให้ 2 ตัว ขนาด 12,000 BTU สำหรับห้อง 1 ห้องนอน พร้อมชั้นวางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้านนอก
ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ 6 ฟุตโดยเหลือพื้นที่ปลายเตียง และด้านข้างเตียงให้สามารถวางตู้ข้างเตียงได้
หน้าต่างในห้องนอนเป็นกระจกกันเสียง เป็นบานฟิกซ์ขนาดใหญ่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทางด้านขวาบนเป็นบานกระทุ้งสามารถเปิดรับลมได้
ห้องน้ำทำการลดสเตปลงไปเพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าสู่ตัวห้อง พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องลายไม้ซึ่งมีความโดดเด่นและแตกต่างจากดครงการทั้วไป
ภายในห้องน้ำประกอบด้วยโถสุขภัณฑ์ อ่างล่างหน้า และระบบไฟในห้องน้ำ โครงการไม่ได้มอบชั้นวางของใต้อ่างให้
พื้นห้องอาบน้ำเป็นกระเบื้องลายไม้เหมือนพื้นห้องน้ำ กรุผนังด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อนให้ความผ่อนคลาย มี Floor Drain แบบกันกลิ่นอยู่มุมด้านใน
บริเวณก็อน้ำฝักบัว โครงการดีไซน์ชั้นวางเครื่องอาบน้ำโดยการดรอบผนังเข้าไปตามภาพ สะดวกต่อการใช้งานเวลาอาบน้ำพอสมควร
2 ห้องนอน Type 2 A ขนาด 53.50 ตร.ม.
โครงการจัดสรรไอเดียให้ โดยวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง และโต๊ะอาหาร 4 ที่นั่งไว้ ถัดไปจากโต๊ะอาหารเป็นประตูเชื่อมไปสู่ห้องครัว
โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งที่โครงการจัดสรรให้เป็นไอเดีย จะเห็นได้ว่ายังเหลือพื้นที่รอบโต๊ะอีกมาก จนสามารถจัดชุดโต๊ะอาหารขนาด 5-6 ที่นั่งเพิ่มได้เลย
มุมหนังเล่นมีขนาดกว้างประมาณ 3 ม. กว่า ระยะระหว่างโซฟาจรดชั้นวางทีวีจึงกว้างมาก ทำให้สามารถติดตั้งทีวีขนาดใหญ่ได้ โดยไม่เสียระยะสายตา
ถัดมาเป็นในส่วนของระเบียง โครงการใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ปูพื้นระเบียงขนาด 30×30 ซม. รางเลื่อนบานประตูยกสเตปขึ้นมาเล็กน้อยป้องกันน้ำจากระเบียงด้านนอกเข้าสู่ห้อง
พื้นห้องเป็นไม้ลามิเนต 8 มม. ส่วนพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30×30 ซม. แยกส่วนห้องครัวออกจากตัวห้องอย่างชัดเจน
พื้นที่ห้องครัวเป็นแนวยาว เชื่อมต่อกับระเบียงเล็กที่เอาพื้นที่ใช้สอยส่วนของระเบียงนี้มาเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์
ครัวของห้อง Type 2 A ที่โครงการมอบให้มีขนาดใหญ่มาก จะเห็นว่าพื้นที่เตรียมครัวมีพื้นที่มากขึ้นทำให้จัดเตรียมอาหารได้สะดวก
ด้านล่างเคาท์เตอร์ครัวมีลิ้นชัก ช่องเก็บของ ช่องวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน และช่องใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า
พื้นที่ที่เหลือโดยรวมของห้องครัว กว้างประมาณ 1 ม. เวลานำมาเข้าเครื่องซักอาจจะลำบากหน่อยจากความกว้างที่ไม่ได้กว้างมาก
บานประตูกั้นห้องครัวและระเบียงเป็นบานกระจกใสสองตอน เปิดได้แค่ด้านเดียว สามารถล็อคได้จากข้างในห้องครัว
โครงการตกแต่งที่กั้นตกของระเบียงฝั่งนี้เป็นรูปตัวแอลตามภาพ ช่วยลดภาระสายตาของตำแหน่งที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์
มาถึง Master Bedroom หรือห้องนอนที่หนึ่ง เป็นห้องนอนที่ดูโล่งโปร่งสบาย และมีขนาดกว้างมากจาก Floor to Ceiling ที่สูงถึง 2.55 ม. กับบานกระจกที่สูงโปร่งตั้งแต่พื้นจรดเพดาน
มองจากมุมนี้จะเห็นว่าผนังฝั่งที่เห็นโครงการเน้นวัสดุให้เป็นกระจกใสมองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจน โดยมีบานกระทุ้ง 2 ช่องที่สามารถเปิดรับลมได้แบบ 45 องศา
ห้องนอน Master Bedroom สามารถวางเตียงคิงไซส์ ชั้นวางของ ตู้เสื้อผ้า และจัดมุมโซฟาไว้ในห้องได้เลย จากขนาดห้องที่กว้างมาก
ภายในห้องแต่งตัวมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ถ้าหากมองภาพของพื้นที่ความเป็นจริงที่ไม่มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเปลี่ยนมุมนี้เป็นห้องนอนที่สองก็ยังสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้สบายๆ
ถัดมาที่ห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกห้องนอนทั้ง 2 ห้อง มีขนาดไม่ใหญ่มากตกแต่งโนสีอบอุ่นเหมือนห้อง Type อื่นๆ
พื้นที่อาบน้ำของห้อง Type 2 A มีขนาดใหญ่พอสมควร ใช้งานง่ายไม่เปลืองพื้นที่จากประตูกั้นโซนแบบเลื่อนที่เวลาเปิดเข้าออกไม่จำเป็นต้องตีวงรัศมีรอบบานประตู
ฝักบัวที่โครงการมอบให้สามารถปรับระดับน้ำได้ 2 ระดับ โครงการติดตั้งสายไฟซ่อนภายในผนังสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้เรียบร้อย
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ในแง่ของพื้นที่อสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าภายในเมืองเรียกได้ว่าแทบไม่หลงเหลืออยู่เลย และยังมีราคาค่าที่ดินแพงเป็นเท่าตัวหากเปรียบกับที่ดินใกล้รถไฟฟ้าโซนที่ห่างออกมา แต่ยังสามารถให้ความสะดวกสบายในการเดินทางได้ ดังนั้นแนวคิดในการตอบโจทย์ของดีเวลลอปเปอร์ต่างๆ จึงเน้นมองหาพื้นที่ไม่ได้ไกลจากศูนย์กลางของกรุงเทพมหานคร และยังสามารถดึงดีมานด์จากในเมืองออกมาได้ในฐานราคาที่ตอบโจทย์กลุ่มพนักงาน ทำเลพระราม 9 – รามคำแหง จึงถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มึจุดเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองบริเวณที่เป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเทพมหานครอย่างพระราม 9 หรือ เพชรบุรี – อโศก ได้ง่ายที่สุดในปัจจุบัน
พอยท์หลักของทำเลดังกล่าวก็คือบริเวณถนนพระราม 9 ที่ตัดกับถนนรามคำแหง เป็นแยกที่มีความเจริญที่สุดบนย่านนี้ โดยสิ่งที่เข้ามาซัพพอร์ทให้ศักยภาพทำเลให้มีแนวโน้มการเติบโตไปในทางที่ดีก็คือระยะทางที่ไม่ได้ห่างจาก The New CBD พระราม 9 – รัชดาฯ และถนนสายสำคัญอื่นๆ อาทิ อโศก เพชรบุรี สุขุมวิท ดินแดง พระราม 4 โดยมีจุดเด่นคือเส้นทางคมนาคมหลักอย่าง Airport Rail Link รามคำแหงที่สามารถไปเชื่อม Mass Transit สำคัญอย่าง MRT เพชรบุรี ที่ Airport Rail Link สถานีมักกะสันหรือ BTS พญาไท ได้ รวมไปถึงเส้นทางคมนาคมโดยรถยนต์บริเวณแยกพระราม 9 – รามคำแหงอยู่ห่างจากจุดขึ้นลงทางพิเศษศรีรัช ประมาณ 1 กม. และห่างจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจนรงค์ ประมาณ 1.4 กม. ซึ่งอยู่ในระยะที่ขับรถไปถึงได้ประมาณ 5-7 นาทีเท่านั้น โดยจากจุดเด่นที่กล่าวมาทำให้ทำเลเป็นที่น่าสนใจตั้งแต่มี Airport Rail Link เกิดขึ้น ปัจจุบันพื้นที่โดยรอบจึงประกอบไปด้วยแหล่งสาธารณูปโภคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถาบันการศึกษา และยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่สามารถเดินทางไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างง่ายดาย
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการเดอะ เบส การ์เดน-พระราม 9 ตั้งอยู่ติดกับแยกพระราม 9 รามคำแหง ฝั่งมุ่งหน้าไปทางพระราม 9 – อโศก – รัชดา ซึ่งมีระยะห่างจากจุดศูนย์กลางบริเวณพระราม 9 – รัชดาฯ ที่เป็น The New CBD ประมาณ 5 กม. เท่านั้น แต่ทั้งนี้จุดเด่นของตำแหน่งที่ตั้งโครงการก็คืออยู่ใกล้กับ Airport Rail Link รามคำแหงประมาณ 700 ม. สามารถเดินทางไปสู่บริเวณแขยกอโศก – เพชรบุรีได้เพียง 1 สถานีที่ Airport Rail Link มักกะสันโดยใช้เวลาไม่นาน หรือจะไปเชื่อมต่อกับ BTS พญาไทก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ในด้านของสาธารณูปโภค ปัจจัยภายนอกโครงการก็มีสถานที่สำคัญคอยอำนวยความสะดวกเยอะพอสมควรไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ที่รวบรวมเอาความอร่อยของร้านอาหารชื่อดัง และสถานที่แฮงค์เอาท์สุดชิคอย่าง Est. 33 ที่ขนขบวนเหล่าเบียร์นานาชาติมาให้ได้ลิ้มรอง รวมไปถึงศูนย์กลางด้านอาหารสดอย่างตลาดเสรีมาร์เก็ต ฟู้ดแลนด์ บิ๊กซี และช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่อย่าง เดอะ มอลล์ รามคำแหง ที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบครัน
การเดินทาง
ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอสะพานเข้าสู่ทางด่วนพิเศษศรีรัช ให้เบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนพระรามเก้า (ไม่ต้องเข้าช่องทางพิเศษ)
ตรงมาเรื่อยๆ ให้สังเกตทางซ้ายมือจะเจอป้ายโครงการ ตรงไปอีกประมาณ 300 ม. จะเจอสำนักงานขายอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงแยกถนนพระราม 9 – รามคำแหง
สำนักงานอยู่ทางซ้ายมือ มีป้ายโครงการ และโลโก้แบรนด์ เดอะ เบส เป็นอลูมิเนียมสะท้อนเงา เห็นเด่นชัด เตรียมเปิดไฟเลี้ยวแล้ว เข้าโครงการได้เลย
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่บริเวณรอบโครงการจะเป็นชอปปิ้งมอลล์ และไฮเปอร์มอลล์ที่อยู่คู่กับคนพื้นที่เป็นเวลานาน การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ จำเป็นต้องใช้รถยนต์หรือบริการขนส่งมวลชน แต่ก็ยังอยู่ในระยะไม่ไกลมาก ประกอบไปด้วย
Foodland 500 ม.
The Mall รามฯ 820 ม.
Major Cineplex 960 ม.
Big C 1.3 กม.
Major Hollywood 1.55 กม.
ตลาดเสรีมาร์เก็ต 2.4 กม.
เดอะ ไนน์ 2.4 กม.
RCA 3.7 กม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงใกล้โครงการมีทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และแหล่งงานที่ไม่ไกลมาก สามารถเดินทางด้วยวินมอเตอร์ไซค์ไปได้ทุกจุดในราคาตั้งแต่ 20 – 50 บาท ประกอบไปด้วย
สภาสถาปนิก 200 ม.
ARL รามคำแหง 700 ม.
UM Tower 700 ม.
โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา 740 ม.
มหาวิทยาลัยรามคำแหง 1.6 กม.
โรงเรียนสาธิตรามคำแหง 1.9 กม.
สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน 2.6 กม.
โรงพยาบาลปิยะเวท 3.2 กม.
โรงพยาบาลกรุงเทพ 3.4 กม.
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
โครงการ เดอะ เบส การ์เดน พระราม 9 มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 2.2 – 6.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นในแง่ของราคาที่รองรับดีมานด์จากฝั่งในเมืองที่มีจำนวนพนักงานเงินเดือนตั้งแต่ 30,000 – 50,000 บาทขึ้นไป และสามารถรองรับดีมานด์นักธุรกิจ แอร์ฮอสเตรส กัปตัน หรืออาชีพที่มีเงินเดือนขั้นสูงทางฝั่งสุวรรณภูมิได้ดังนั้นด้วยความที่บริเวณทำเลเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญรองรับดีมานด์ในระดับพนักงานประจำจนถึงขั้นนักธุรกิจหรือผู้บริหารได้ ในแง่ของการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าจึงดูน่าสนใจมากกับราคาค่าห้องที่ต่ำกว่าค่าห้องในเมืองกว่าเท่าตัว แต่ก็ยังรองรับดีมานด์เช่าได้สบาย ซึ่งทำให้นักลงทุนคิดว่าการลงทุนที่ต่ำกว่าบนทำเลที่มีศักยภาพไม่ได้ด้อยกว่ามากสามารถตอบโจทย์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับได้ดีเช่นกัน โดยห้องเริ่มต้นที่ขนาด 26.5 ตร.ม. น่าจะมีราคาค่าเช่าอยู่ที่ไม่เกิน 15,000 บาท และจะเยอะขึ้นไล่ตามขนาดห้องไปที่ห้องใหญ่สุดที่ขนาด 55 ตร.ม. น่าจะมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 45,000 – 60,000 บาทแล้วแต่ออฟชั่นของห้อง อีกทั้งจากข้อมูลทางการตลาดจากสื่อต่างๆ ยังพบว่าบริเวณทำเลแยกพระราม 9 – รามคำแหงเป็นทำเลที่มีอัตราการดูดซับการขายคอนโดมีเนียมในครึ่งปีแรกในปีนี้ของทำเลอยู่ที่ 75% ซึ่งถือว่าดีมาก โดยอุปสงค์ของหน่วยยูนิตโดยรอบอยู่ที่ประมาณ 6,000 ยูนิต จากอุปทานที่ 8,000 ยูนิต โดยสามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปประกอบการตัดสินใจ และวางแผนการลงทุนกับโครงการเดอะ เบส การ์เดน พระราม 9 นี้ได้
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ฟิวส์ โมเบียส รามคำแหง – คลองตัน (Fuse Mobius Ramkhamhaeng – Klong Ton)
ผู้พัฒนาโครงการ: พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยรามคำแหง 3/1 ถนนรามคำแหง
พื้นที่โครงการ: 9-1-24 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 3 Tower ตึก A 30 ชั้น, ตึก B 32 ชั้น, ตึก C 12 ชั้น รวม 1,390 ยูนิต 9 ยูนิตร้านค้า
รูปแบบห้อง: 1 Bedroom – 2 Bedrooms พื้นที่ใช้สอย 29 ตรม 1,204 units – 38 ตรม 60 units – 55.2 ตร.ม. 126 units
ที่จอดรถ: 60%
ราคาเริ่มต้น: 1.7 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 58,600 – 70,000 บาทต่อตร.ม.
ยู ดีไลท์ @ หัวหมาก สเตชั่น (U Delight @Huamark Station)
ผู้พัฒนาโครงการ: แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลลอปเมนท์
ทำเลที่ตั้ง: ซอยรามคำแหง 24 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
พื้นที่โครงการ: 6 ไร่ 5.00 ตร.ว.
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 20 ชั้น จำนวน 867 ยูนิต
รูปแบบห้อง: 1 Bed / 30-40 ตร.ม. – 2 Bed / 51.50 ตร.ม.
ที่จอดรถ: 50% (รวมจอดซ้อนคัน)
ราคาเริ่มต้น: 2.16 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 72,000 บาทต่อตร.ม.
สรุป
โครงการ เดอะ เบส การ์เดน พระราม 9 ตั้งอยู่บนจุดเชื่อมต่อที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่ายๆ ด้วย Airprort Rail Link สถานีรามคำแหง โดยมีระยะห่างประมาณ 700 ม. ในระยะที่นั่งวินมอเตอร์ไซค์ประมาณ 20 บาท แต่ด้วยความที่ตัวโครงการเองก็ไม่ได้อยู่ในระยะเดิน หากถามว่าเหมาะกับผู้อยู่อาศัยประเภทไหนมากที่สุดคงต้องตอบว่าเหมาะกับผู้ที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางในชีวิตประจำวันและใช้แนวรถไฟฟ้าเป็นครั้งคราว เพราะเส้นทางคมนาคมอยู่บริเวณแยกที่สามารถเดินทางไปได้หลายทางไม่ว่าจะเป็น พระราม 9 อโศก เพชรบุรี พระราม 4 หรือจะเป็นฝั่งสุวรรณภูมิก็เชื่อมต่อได้ในระยะประมาณ 15 กม.หรือประมาณ 30 นาทีหากไม่ได้อยู่ในชม.เร่งด่วน
ภาพรวมภายในโครงการถือเป็นโครงการใหม่ที่มาพร้อมวัสดุที่ดีเยี่ยม โครงการเน้นวัสดุระดับพรีเมี่ยม อาทิ หินนำเข้าจากประเทศอิตาลีมาตกแต่งในส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นห้องออกกำลังกาย ห้องเอนกประสงค์ หรือ Lobby Double Volume ที่ตกแต่งด้วย Rain Chandelier ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเสียงรบกวนจากการจราจรข้างเคียงที่คับคั่ง เพราะโครงการเลือกใช้กระจกกันเสียงตกแต่งยูนิตที่อยู่อาศัยภายในห้องนอนที่ได้รับผลกระทบในด้านนี้ และเน้นกระเบื้องเนื้อเดียวที่มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำน้อย รองรับน้ำหนักได้ดี หมดปัญหาเรื่องพื้นกระทบแตกร้าว หรือวัสดุที่ไม่แน่นหนา เรียกได้ว่าสามารถเอาไปเทียบชั้นกับแบรนด์รุ่นพี่อย่าง เดอะ ไลน์ ได้ในบางส่วนก็ว่าได้ ซึ่งนอกเหนือจากวัสดุแล้ว หากไม่ได้มองว่าต้องการที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้า โครงการก็ยังถือว่าตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เชื่อมต่อได้กับเส้นทางคมนาคมทุกรูปแบบ ถึงแม้จะมีระยะทางที่ไกลกว่าแต่ก็แลกมาด้วยกับราคาเริ่มต้นที่เอื้อมถึงที่ 2.199 ล้าน
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ