พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
เมื่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง โดยเฉพาะกับที่อยู่อาศัยในรูปแบบของคอนโดมิเนียมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่ย่านใจกลางเมืองอีกต่อไป ปัจจุบันการกระโดดออกจากตัวเมือง มาอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าย่านชานเมืองกลายเป็นเทรนด์ใหม่ และดูเหมือนว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ชอบที่อยู่อาศัยประเภทนี้ได้ดี เพราะทำเลที่โล่ง ไม่แออัด ราคาจับต้องได้ อีกทั้งสภาวะแวดล้อมที่มีความเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะกับคอนโดฯ ริมแม่น้ำ ยิ่งโดนใจ และเพิ่มมูลค่า รวมไปถึงการใช้ชีวิตที่มีคุณภาพ
ค่ายเอเวอร์แลนด์ ซึ่งผุดคอนโดฯ ในเมืองมาหลายแห่งก็เลือกมาจับตลาดคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าย่านทางโซนตะวันตกของกรุงเทพฯ อย่างแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ – บางใหญ่) ด้วยเช่นกัน และได้ทำเลดีติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาผุดโครงการล่าสุด “เดอะ โพลิแทน บรีซ” (The Politan Breeze) ต่อจากโครงการแรกซึ่งอยู่ติดกันคือ เดอะโพลิแทน รีฟ (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง มียอดขายแล้วกว่า 80%) โดยกลุ่มลูกค้าผู้วิ่งเข้าหาที่อยู่ริมแม่น้ำมีแทบทุกรุ่นก็ว่าได้คือ ตั้งแต่วัยเริ่มทำงานไปจนถึงวัยเกษียณเลยทีเดียว
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2559 )
ชื่อโครงการ: เดอะ โพลิแทน บรีซ (The Politan Breeze)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน): EVER
ที่ตั้ง: ซอยนนทบุรี 15 ถนนสนามบินน้ำ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
สำนักงานขาย: 02 – 002 – 2222
เว็บไซต์: www.thepolitancondo.com
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 7 ไร่ 2 งาน 85 ตารางวา
รูปแบบโครงการ: คอนโดมิเนียมพักอาศัย สูง 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 587 ยูนิต และอาคารจอดรถ 7 ชั้น 1 อาคาร ทั้งนี้อาคารพักอาศัย ประกอบด้วยห้องชุด 5 ขนาด คือ
รูปแบบห้องชุด:
1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร (สามารถรับชม Virtual Tour แบบ 360 องศา ของ ห้องขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ได้ที่ด้านล่าง)
2 ห้องนอน ขนาด 43 ตารางเมตร (สามารถรับชม Virtual Tour แบบ 360 องศา ของ ห้องขนาด 2 ห้องนอน ขนาด 43 ตารางเมตร ได้ที่ด้านล่าง)
2 ห้องนอน ขนาด 48 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร (สามารถรับชม Virtual Tour แบบ 360 องศา ของ ห้องขนาด 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร ได้ที่ด้านล่าง)
ราคาขายเริ่มต้น: 1.65 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย: 57,000 บาท/ ตารางเมตร
เจาะกลุ่มเป้าหมาย : ลูกค้ามีรายได้เฉลี่ย 30,000 – 40,000 บาท/ เดือน
เปิดขาย: 23 – 24 กรกฏาคม 2559
เริ่มก่อสร้าง: ไตรมาสแรกปี 2560
แล้วเสร็จ: ไตรมาสสามปี 2561
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ ตารางเมตร/ เดือน ( จ่ายล่วงหน้า 2 ปี )
เงินกองทุนสะสม: 520 บาท/ ตารางเมตร (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ที่จอดรถ: 343 คัน (รวมซ้อนคัน) คิดเป็น 58%
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 1 ตัวและลิฟท์โดยสารและบริการ 1 ตัว
เงื่อนไขการชำระเงิน:
- 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 40,000 บาท ผ่อนค่างวดปกติ (22 งวด) 5,999 บาท
งวดพิเศษ (2งวด) 50,000 บาท
- 2 ห้องนอน ขนาด 43 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 60,000 บาท ผ่อนค่างวดปกติ (22 งวด) 12,000 บาท
งวดพิเศษ (2งวด) 60,000 บาท
- 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 60,000 บาท ผ่อนค่างวดปกติ (22 งวด) 15,000 บาท
งวดพิเศษ (2งวด) 60,000 บาท
- 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 80,000 บาท ผ่อนค่างวดปกติ (22 งวด) 15,000 บาท
งวดพิเศษ (2งวด) 80,000 บาท
- 2 ห้องนอน ขนาด 60 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 100,000 บาท ผ่อนค่างวดปกติ (22 งวด) 30,000 บาท
งวดพิเศษ (2งวด) 80,000 บาท
โปรโมชั่น: ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 80,000 บาทในวันพรีเซลครั้งแรกวันที่ 23-24 ก.ค. 59
หมายเหตุ: ชำระเงินจอง 0% นาน 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย และ KTC (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2559 )
รายละเอียดโครงการ
เจาะลึกรายละเอียดโครงการ
ออกแบบสถาปัตยกรรมโดย : บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ ประเทศไทย (จำกัด)
ระบบรักษาความปลอดภัย: เข้าออกด้วย Key Card Access, รปภ. 24 ชม. CCTV
สิ่งอำนวยความสะดวก: สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องสมุด, สวนสาธารณะ ทั้งหมดมีพื้นที่ประมาณ 3 ไร่
ส่วนประกอบภายในห้องชุดหรือภายในบ้าน
พื้น ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร
ผนัง ภายในห้อง วอลล์เปเปอร์สีพื้น
ชุดครัว โมเดอร์นฟอร์ม และสตาร์มาร์ค (กำหนดตามมาตรฐานโครงการ ให้แต่ละอาคารต่างกันไป ไม่สามารถเลือกได้)
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ยี่ห้อ Cristina ประกอบด้วย อ่างล้างหน้า,โถสุขภัณฑ์ รวมถึงตกแต่งผนังบริเวณส่วนอาบน้ำด้วยโมเสกหินอ่อนแท้ทั้งแผง และท็อปสำหรับวางของหินอ่อน
แผนผังโครงการ
โครงการนี้ยังไม่ได้เริ่มการก่อสร้าง แต่หากดูจากผังการออกแบบคือ จะมีทางเข้า-ออกหลักบนถนนสนามบินน้ำ 1 ทาง และมีทางรอง 1 ทางเพื่อออกไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ ซอย 42 ได้ (ทางวัดน้อยนอก) ทั้งนี้เดิมเป็นที่ดินของธุรกิจโรงไม้ ซึ่งทางโครงการได้ซื้อมาเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม โดยอยู่ถัดจากพื้นที่ของโครงการเฟสแรก คือ เดอะโพลิแทน รีฟ (The Politan Rive) ซึ่งเป็นคอนโดฯ สูง 57 ชั้น (ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง )
ตามผังโครงการ ได้ออกแบบอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร คือ A, B, C และ D รวมถึงอาคารจอดรถ สูง 7 ชั้น 1 อาคาร อยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 15 เมตร และห่างจากเฟสแรกประมาณ 26 เมตร ซึ่งข้อดีของ condo lowrise โครงการนี้คือมีแค่เพียง 500 กว่าครอบครัวเท่านั้น ที่อาศัยอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ครึ่ง พร้อม พื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 3 ไร่ กับ facilities ที่ให้เยอะมากๆ ทั้งสระว่ายน้ำยาวมากกว่า 30 เมตร กว้าง 13 เมตร พร้อม bubble pool และ kid pool ความยาวกว่า 15 เมตร พร้อมทั้ง ห้องสมุด 2 ชั้น และ fitness วิวสระน้ำ อีกทั้งสวนต่างๆ พร้อม jogging track โดยมีรายละเอียดดังนี้
ผังโครงการทั้งหมด
อาคาร A มีห้องพักอาศัยจำนวน 131 ยูนิต อยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา โดยชั้นที่ 1 มีจำนวน 5 ยูนิต แต่ละยูนิตมีที่จอดรถหน้าห้อง 2 คัน (ใครมาจอดก็ได้) ส่วนชั้นอื่นเป็นห้องพักอาศัย
อาคาร B อยู่ถัดจากอาคาร A มีห้องพักอาศัยจำนวน 130 ยูนิต โดยชั้นที่ 1 มีจำนวน 5 ยูนิต แต่ละยูนิตมีที่จอดรถหน้าห้อง 2 คัน (ใครมาจอดก็ได้) ส่วนชั้นอื่นเป็นห้องพักอาศัย ที่พิเศษกว่าอาคารอื่นคือ เป็นอาคารที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในร่ม อาคารอื่นต้องมาใช้บริการที่อาคาร B เท่านั้น
อาคาร C มีห้องพักอาศัยจำนวน 159 ยูนิต ชั้น 1 เป็นที่จอดรถ ส่วนอาคารพักอาศัยจะเริ่มจากชั้น 2 – 8
อาคาร D มีห้องพักอาศัยจำนวน 167 ยูนิต โดยชั้นที่ 1 มีจำนวน 5 ยูนิต แต่ละยูนิตมีที่จอดรถหน้าห้อง 2 คัน (ใครมาจอดก็ได้) ส่วนชั้นอื่นเป็นห้องพักอาศัย
ทั้งนี้อาคาร C และ D จะอยู่ใกล้อาคารจอดรถมากกว่าอาคาร A และ B
ทิศทางการวางผังโครงการ
แต่ละอาคารหันหน้าไปทางทิศเหนือ และทิศใต้ แต่ละทิศจะได้วิว ดังนี้
รูปแบบบ้านตัวอย่าง
1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร
เป็นห้องขนาดเล็กสุด ห้องมาตรฐานเป็นห้องเปล่า ทำพื้น ผนัง ห้องน้ำ ระเบียง และชุดครัว ให้ตามแบบห้องตัวอย่าง (แต่ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า)
จากประตูทางเข้าห้อง ออกแบบให้เป็นห้องรับแขก นั่งเล่น และมุมพักผ่อนสำหรับดูทีวี พื้นที่ค่อนข้างกระทัดรัด แต่ไม่รู้สึกอึดอัด เพราะความสูงจากพื้นถึงเพดานประมาณ 2.55 เมตร และออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชิดผนัง
ห้องนั่งเล่นติดกับห้องครัวที่กั้นแบ่งพื้นที่ให้ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนด้านเดียวสีชา เพื่อป้องกันกลิ่นอาหาร และเพื่อความสะอาดเรียบร้อย
ห้องครัว พร้อมชุดครัวบิลท์อิน ท็อปหินควอทซ์ และหน้าบานลามิเนตให้ แต่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ เว้นพื้นที่ว่างสำหรับวางตู้เย็นให้เรียบร้อย
ระเบียงด้านนอกห้องครัวกั้นแบ่งด้วยประตูบานเลื่อนให้เช่นกัน ระเบียงปูกระเบื้อง และราวเหล็กกันตกให้เรียบร้อย
ภายในห้องนอน ตกแต่งไว้ด้วยเตียงขนาดใหญ่ให้เป็นไอเดีย โดยด้านบนของผนังด้านหัวเตียง ดร็อปฝ้าไว้ให้ เพราะซ่อนงานระบบต่างๆ ไว้บริเวณนี้
ผนังปลายเตียง บิลท์อินตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแต่งตัวไว้เป็นไอเดีย แต่หากใครมีเสื้อผ้าเยอะอาจทำตู้เต็มผนังไม่ต้องมีโต๊ะก็ได้ แล้วใช้หน้าบานตู้เป็นกระจกเงาแทน
ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน อาจไม่เป็นส่วนตัวนัก กรณีมีแขกมาเยี่ยม แต่จะสะดวกสำหรับคนอยู่อาศัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน ไม่ต้องเดินออกไปนอกห้อง
ห้องน้ำดร็อปฝ้าเหลือ 2.4 เมตร แต่ก็ดูโล่ง กว้าง ด้วยโทนสีสว่างตา บวกกับความเรียบ ง่ายของพื้นผิววัสดุที่ดูไม่รกตา แบ่งส่วนแห้งและเปียกไว้ให้อย่างชัดเจน มีฉากกั้นส่วนพื้นที่อาบน้ำให้เรียบร้อย ประตูเปิด-ปิดได้สุดบาน ไม่ติดขัดหรือชนกับเรนชาวเวอร์แต่อย่างใด
2 ห้องนอน ขนาด 43 ตารางเมตร
ห้องมาตรฐานเป็นห้องเปล่าเช่นกัน ลักษณะรูปแบบของแปลนห้องจะเหมือนกับห้องแบบ 48 ตารางเมตร แต่ต่างกันที่ขนาดห้องเท่านั้น
จากปากทางเข้าห้องมองตรงเข้าไปจะเจอห้องรับแขก หรือทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนที่เชื่อมต่อกับระเบียงนอกห้อง มีประตูบานเลื่อนให้เช่นกัน
ตกแต่งห้องรับแขก หรือมุมนั่งเล่นคล้ายกับห้องตัวอย่างแบบแรกไว้ให้เป็นไอเดีย คือสองฝั่งชิดผนังเพื่อให้มีพื้นที่ว่างตรงกลาง แต่ระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีอาจใกล้กันไปสักนิด อาจไม่เหมาะกับการจ้องหน้าจอทีวีนานๆ
ติดประตูทางเข้าห้อง ออกแบบให้เป็นพื้นที่ครัวรูปตัวแอลบิลท์อินแบบเปิดโล่ง ซึ่งถือว่าให้ความสำคัญกับพื้นที่ครัวค่อนข้างมาก พร้อมทั้งเตรียมพื้นที่ว่างไว้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ เช่น ที่วางเครื่องซักผ้าและเตาอบ เป็นต้น
ถัดจากเคาน์เตอร์ครัวบิลท์อินโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง ใช้เก้าอี้แบบลอยตัวเพื่อง่ายต่อการปรับเปลี่ยน แต่หากต้องการเพิ่มพื้นที่ทางเดินก็อาจใช้เป็นโต๊ะที่สามารถพับเก็บแทนได้ ส่วนผนังด้านข้างติดกระจกเงาไว้เป็นไอเดีย เพื่อให้ห้องดูโล่งขึ้น อีกทั้งใช้ส่องหน้าเพื่อเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากห้องได้ด้วย
ถัดจากส่วนครัว ตกแต่งไว้เป็นห้องนอนเล็ก หากใครไม่ต้องการห้องนอนก็ทำเป็นห้องเก็บของ ห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือห้องดูหนัง-ฟังเพลง หรือไม่ก็ทุบให้โล่ง เพิ่มพื้นที่ห้องรับแขกให้กว้างขึ้นได้
ห้องนอนใหญ่ มีพื้นที่กว้างพอสำหรับเตียงขนาดคิงไซส์ มีระเบียงด้านนอกที่สามารถออกไปยืนรับลมเย็นๆ ยามค่ำคืนได้
พื้นที่ระเบียงมีขนาดยาวตั้งแต่ฝั่งของห้องรับแขกไปจนถึงห้องนอนใหญ่ คือเดินเข้า-ออกห้องได้จากประตูบานเลื่อนของทั้งสองจุด
ทําเล & การเดินทาง
เจาะลึกทำเลและการเดินทาง
ทำเลถนนรัตนาธิเบศร์ – ทำเลถนนสนามบินน้ำ
หากเอ่ยถึงย่านรัตนาธิเบศร์ แต่เดิมนั้นเป็นย่านที่สงบเงียบ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ผู้คนในย่านนี้มีวิถีชีวิตเรียบง่ายไม่หวือหวามากนัก เส้นทางการเดินทางก็ไม่สะดวกเท่าปัจจุบัน แต่ในชั่วโมงนี้ภาพที่ผุดขึ้นมาในหัวคงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารมากมาย รวมถึงเส้นทางการเดินทางที่สามารถเข้าเมืองได้ อาทิ มุ่งหน้าถนนงามวงศ์วานเพื่อไปขึ้นทางด่วน หรือจะออกไปยังต่างจังหวัดด้วยการมุ่งหน้าไปทางบางใหญ่ บางบัวทองไปยังนครปฐม , กาญจนบุรี เป็นต้น
ถนนรัตนาธิเบศร์
รวมไปถึงเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ใกล้จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคมนี้ และด้วยอานิสงส์นี้เองทำให้ทำเลนี้ก้าวขึ้นมาทำเลแถวหน้าในเรื่องแหล่งที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมก็ว่าได้ เพราะนับจากถนนแครายมุ่งหน้าสะพานพระนั่งเกล้า ไปบางใหญ่ สองข้างทางเรียงรายด้วยโครงการคอนโดมิเนียมนับสิบโครงการ
ทั้งนี้ ถนนรัตนาธิเบศร์ยังเชื่อมต่อกับถนนสนามบินน้ำ ซึ่งสามารถทะลุไปยังถนนติวานนท์ได้ ไม่ต้องผ่านทางแยกแคราย ถนนสนามบินน้ำ เดิมทีจะไม่คึกคักเท่าปัจจุบันนี้ที่ถือเป็นหนึ่งในทำเลฮอตฮิตสำหรับโครงการคอนโดฯ เช่นกัน โดยเฉพาะคอนโดฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือเป็นจุดขายหลักของแต่ละรายก็ว่าได้ รวมถึงกลายเป็นย่านการค้าเพราะมีร้านอาหารให้เลือกมากขึ้น ทำให้บรรยากาศคึกคักตลอดเส้นทางเช่นกัน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ติดถนนหลัก คือถนนสนามบินน้ำ ซอยนนทบุรี 15 ถือเป็นทำเลที่ได้เปรียบในเรื่องเส้นทางการเดินทางคือ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีพระนั่งเกล้าประมาณ 400 เมตร และยังเชื่อมต่อกับเส้นทางการเดินทางได้หลายทาง อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น รวมถึงได้เปรียบเรื่องของวิวทิวทัศน์ และธรรมชาติ เนื่องจากอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองบางเสาธง
ทั้งนี้ ที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัย รวมถึงใกล้กับสถานที่ราชการอย่างกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีความคึกคัก รถราสัญจรไปมาตลอด
อย่างไรก็ตามด้วยการขยายเมือง ขยายที่อยู่อาศัยทำให้ย่านนี้มีการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะในช่วงเช้า ซึ่งต้องเผื่อเวลาการเดินทางไว้ราว 1 ชั่วโมงขึ้นไปจะได้ถึงที่หมายได้ทัน ซึ่งการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายสีม่วง นับเป็นตัวช่วยในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
แผนที่จาก Google Map
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 จากบางใหญ่ มุ่งหน้าสะพานพระเกล้า (เก่า) ลงสะพานชิดซ้าย เห็นป้ายบอกทางไปถนนสนามบินน้ำ ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเจอโครงการอยู่ซ้ายมือ คือ ซอยนนทบุรี 15
ทางเลือกที่ 2 จากทางด่วนขั้นที่ 2 ลงถนนงามวงศ์วาน วิ่งมาสะพานข้ามแยกแคราย จนมากลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า (เก่า) เพื่อไปยังถนนสนามบินน้ำ อีกประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ซ้ายมือ คือ ซอยนนทบุรี 15
ทางเลือกที่ 3 จากปทุมธานี, ติวานนท์ หรือห้าแยกปากเกร็ด ขับมาจนเจอสามแยกสนามบินน้ำให้เลี้ยวขวา ขับมาอีกประมาณ 4.7 กิโลเมตร โครงการจะอยู่ทางขวามือ คือ ซอยนนทบุรี 15
ทางเลือกที่ 4 จากถนนประชาชื่น, ถนนวงศ์สว่าง ผ่านถนนติวานนท์ เลี้ยวขวากระทรวงสาธารณสุข เลี้ยวซ้ายเข้าถนนแคราย จนมากลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า (เก่า) เพื่อไปยังถนนสนามบินน้ำ อีกประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ซ้ายมือ คือซอยนนทบุรี 15
ทั้งนี้เราใช้เส้นทางการเดินทางที่ 2
รถไฟฟ้า
รถไฟฟ้าสายสีม่วง ( บางซื่อ – บางใหญ่) สถานีพระนั่งเกล้า อยู่ห่างจากโครงการ ประมาณ 400 เมตร
แท็กซี่
ผ่านหน้าโครงการ
วินมอเตอร์ไซค์
ผ่านหน้าโครงการ
รถเมล์
สาย 191 ,69
หมายเหตุ: ทางโครงการมีรถรับ – ส่งไปยังรถไฟฟ้า สถานีพระนั่งเกล้า แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน
สถานที่ไลฟ์สไตล์
มีห้างสรรพสินค้าหลายแห่งที่อยู่ใกล้โครงการ อาทิ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล เวสเกต์, BB Market บางใหญ่, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า
สำหรับร้านอาหารถือว่าย่านนี้มีร้านอาหารให้เลือกไม่แพ้ใคร มีทั้งร้านอาหารเชิงสะพานพระนั่งเกล้า อาทิ, ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านเอ, ร้านแดรี่ควีน, ร้านบ้านส้มตำ , ร้านครัวลุงหนวด, ครัว ๓ ยาย เป็นต้น รวมถึงร้านบนถนนรัตนาธิเบศร์อีกหลายร้าน เช่น ร้านบิ๊กบะหมี่ & สเต๊ก รัตนาธิเบศร์, ร้านศิริวรรณ หอยทอด – ผัดไทย, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เอกโอชาและร้านบะหมี่ก้ามปูโอเดียน รัตนาธิเบศร์ เป็นต้น
นอกจากนี้บนถนนสนามบินน้ำก็มีร้านอาหารมากมาย อาทิ ร้านระเบียงน้ำ, ร้านขนมจีนบ้านคุณย่า, และโดยเฉพาะบริเวณแยกสนามบินน้ำที่คึกคักเป็นพิเศษได้แก่ ครัวอัปสร สาขาสนามบินน้ำ, ชาบูนางใน สนามบินน้ำ, ข้าวหมกไก่สยาม สนามบินน้ำ, บางหวาน สนามบินน้ำมาร์เก็ตพาร์ค เป็นต้น
ส่วนสถานที่เดินเล่นและช้อปปิ้งก็มีเช่นกัน อาทิ ตลาดเช้าฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าที่ โดยเฉพาะวันเสาร์จะมีสินค้ามือสอง และสินค้าอื่นๆ อีกมากมายให้ได้เดินเลือกซื้อหากัน ,ตลาดนัดในกระทรวงพาณิชย์ที่มีทั้งของกิน ของใช้โดยเปิดให้บริการในวันอังคาร และวันศุกร์ ตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเวลาประมาณบ่ายสองโมง, ชั้น 8 ของพันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เป็นที่รู้จักกันดีของนักช้อปโดยเฉพาะสินค้าหายาก สินค้ามือสองหลากหลายรูปแบบ ในวันเสาร์ และอาทิตย์ช่วงสายสักสิบโมงไปจนถึงห้าโมงเย็นก็เริ่มทยอยเก็บของกลับบ้าน เป็นต้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงหรือแหล่งอำนวยความสะดวก
สำนักงานบำรุงทางนนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร
กระทรวงพาณิชย์ ห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุวรรณภูมิ นนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 2.7 กิโลเมตร
โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กิโลเมตร
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กิโลเมตร
สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน-
และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ห่างจากโครงการประมาณ 3.9 กิโลเมตร
ศาลากลาง (ใหม่ ) จังหวัดนนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร
โรงพยาบาลทรวงอก ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร
โรงพยาบาลนนทเวช ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร
บทวิเคราะห์
ผลตอบแทนที่จะได้รับ
ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านนี้ถือว่ามีการแข่งขันที่สูง ด้วยเพราะอานิสงส์จากการมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ทำให้มีคอนโดฯ เปิดตัวเกาะตามแนวรถไฟฟ้าหลายแห่ง ซึ่งคอนโดฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ถือว่าได้รับความนิยมค่อนข้างมากเช่นกัน
ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อ และจองห้องชุดของโครงการมีทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และเพื่อการลงทุนโดยการซื้อเพื่อลงทุนหรือเก็งกำไรเพื่อปล่อยเช่านั้นก็จะเป็นการลงทุนในระยะยาวสัก 3 – 5 ปีถึงจะคุ้มค่า โดยปัจจุบันราคาเช่าเฉลี่ยที่ 400 บาท /ตารางเมตร/ เดือน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
1. ชื่อโครงการ: โกรว รัตนาธิเบศร์ (Grow Rattanathibet )
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท โกรว พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ตัวแทนขายโครงการ : บริษัท ฮาริสัน จำกัด
ที่ตั้ง: ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลไทรม้า อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
ติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง ( บางซื่อ – บางใหญ่ ) สถานีไทรม้า
เนื้อที่โครงการ: 3ไร่ 1 งาน 5.7 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมพักอาศัย สูง 34 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 364 ยูนิต และอาคารสำนักงาน 1 อาคาร ทั้งนี้อาคารพักอาศัย ประกอบด้วยห้องชุด 4 ขนาด คือ
– 1 ห้องนอน ขนาด 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
– 1 ห้องนอน ขนาด 42 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
– 2 ห้องนอน ขนาด 58 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.38 ล้านบาท
– 2 ห้องนอน ขนาด 76 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.82 ล้านบาท
ราคาขายเริ่มต้น: 2.49 ล้านบาท
สำนักงานขาย: 02 – 921 – 7227
2.ชื่อโครงการ: สกายไลน์ รัตนาธิเบศร์ (Skyline Rattanathibet)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เอเจ พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ที่ตั้ง: ถนนรัตนาธิเบศร์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
เนื้อที่: 3 – 0 – 44.7 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 38 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 813 ยูนิต มี 2 แบบคือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น: 25.65 ตารางเมตร
ราคาเริ่มต้น: 1.87 ล้านบาท
สำนักงานขายโทร: 02 526 1888
3.ชื่อโครงการ: เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ รัตนาธิเบศร์ (Metro Lux Riverfront Rattanathibet)
เจ้าของโครงการ: บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: ถนนไทรม้า ซอย7 ตำยลไทรม้า อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000
เนื้อที่: 7 – 2 – 37.80 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 6 อาคาร จำนวน 606 ยูนิต มี 3 แบบ คือ
1 ห้องนอน ( 25.6 – 32.6 ตารางเมตร)
2 ห้องนอน (45.2 – 65.7 ตารางเมตร)
Duplex (60.6 – 62.3 ตารางเมตร)
ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น: 25.6 ตารางเมตร
ราคาเริ่มต้น: 1.79 ล้านบาท
Call Center โทร: 1375
สรุป
โครงการเดอะ โพลิแทน บรีซ มีข้อได้เปรียบเรื่องของทำเลคืออยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีพระนั่งเกล้า (ห่างประมาณ 400 ม.) รวมถึงท่าเรือด่วนเจ้าพระยาบริเวณใต้สะพานพระนั่งเกล้า และอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถือเป็นวิวทิวทัศน์ที่หลายคนถวิลหา
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือจะออกไปยังต่างจังหวัด ไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งยังมีแหล่งรวมร้านอาหารหลายร้านโดยเฉพาะบนถนนสนามบินน้ำที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเนื่องจากย่านนี้ถือเป็นย่านของแหล่งที่อยู่อาศัยนั่นเอง
ทั้งนี้ การเดินทางด้วยรถยนต์ หรือรถโดยสารประจำทาง ในช่วงจันทร์-ศุกร์ถือว่ามีการจราจรที่ติดขัด และหนาแน่นมากโดยเฉพาะในช่วงเช้า แต่ก็มีตัวช่วยคือนั่งเรือ และรถไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นทางเลือกเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามโครงการนี้เป็นโครงการที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ และอยู่ในพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับโครงการแรก และอาจมีแผนการพัฒนาต่อเนื่องอีกหลายเฟส แต่จะแยกการบริหารการจัดการนิติบุคคล และสิ่งอำนวยความสะดวกกันอย่างชัดเจน ลูกค้าของโครงการนี้ค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งวัยหนุ่มสาวจนถึงวัยเกษียณ นั่นหมายถึงการอาศัยอยู่ในชุมชนที่ผู้อาศัยอยู่ในวัยที่หลากหลาย แต่มีความชอบในไลฟ์สไตล์ที่ใกล้เคียงกันอย่างหนึ่งคือชีวิตริมน้ำ ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
ส่วนกรณีซื้อเพื่อการลงทุนนั้น แนะนำให้เป็นการลงทุนระยะยาว 3 – 5 ปี จึงจะเห็นผลตอบแทนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง