พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
[Special Advertising Feature]ดูเหมือนว่าภาคธุรกิจอสังหาฯ ที่อยู่อาศัยแนวสูงจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยฮอตฮิตของคนยุคนี้ไปแล้วจริงๆ เพราะตั้งแต่ตั้นปีที่ผ่านมา หลายค่ายยังคงทยอยเปิดโครงการใหม่เป็นว่าเล่น ทั้งใจกลางเมืองและพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะทำเลที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าอย่างโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ซึ่งมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอย่าง โครงการของค่าย เอเวอร์แลนด์ (Everland) ที่ล่าสุดส่งโครงการ เดอะ โพลิแทน อควา (The Politan Aqua ) ลงสู่ตลาด โดยโครงการล่าสุดนี้ถือว่าเป็นคอนโดฯ ไฮไลท์ที่สูงถึง 61 ชั้น ติดแม่น้ำเจ้าพระยาที่ให้พื้นที่ส่วนกลางมากหลายจุดทั้งตัวคลับเฮ้าส์ 3 ชั้น และพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 60 – 62 (ซึ่งชั้น 62 เป็นชั้นดาดฟ้า) อีกทั้งมีความได้เปรียบเรื่องทำเลที่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีพระนั่งเกล้าและท่าเรือพระนั่งเกล้าในอนาคตอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันถือว่าคอนโดฯ ริมแม่น้ำที่สูง 61 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 1.29 ล้านบาท ไม่ได้หาได้ง่ายๆ เลยจริง แถมยังมีราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดเสียด้วย เรียกได้ว่าโครงการนี้สร้างเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
อ่านพรีวิวโครงการ: เดอะ โพลิแทน อควา (The Politan Aqua)
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ โพลิแทน อควา (The Politan Aqua )
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บางกอก ริว่า ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยนนทบุรี 15 ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
เว็บไซต์: www.thepolitancondo.com
โทร: 02 002 2222
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560)
พื้นที่โครงการ: 10 – 2 – 34.8 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 2,741 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: ลูกค้ามีรายได้เฉลี่ยเกิน 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างปลายไตรมาสหนึ่งถึงต้นไตรมาส 2 ของปี 2560 แล้วเสร็จไตรมาสสองของปี 2563
ลิฟท์: โดยสาร 6 ตัว ต่อ 1 อาคาร
ขนของ 1 ตัว ต่อ 1 อาคาร
ที่จอดรถ: 1,564 คัน (รวมซ้อนคัน) คิดเป็น 57%
สิ่งอำนวยความสะดวก:
Clubhouse, 3 Swimming Pools with Jacuzzi, Kid pool, Politan Pond, Riverfront garden, Playground, Jogging track, Pavilion, Duplex fitness, Sky lounge, Sky garden
ระบบรักษาความปลอดภัย:
รปภ. 24 ชั่วโมง
CCTV
เข้าออกด้วยระบบ Key Card
สถานะการขาย: Pre Sale 18 – 19 มีนาคม 2560
เงื่อนไขการชำระเงิน:
เงินจอง + เงินทำสัญญา: 35,000 บาท
ค่างวด: กรณีห้องขนาด 24 ตร.ม. จอง + ทำสัญญา 35,000 บาท งวดดาวน์ปกติ (35 งวด ) = 3,999 บาท/งวด
งวดพิเศษ 3 งวด ( เดือน ม.ค. 2561,2562,2563) = 30,000 บาท โอนกรรมสิทธิ์ (ประมาณการ) 85% ของราคาซื้อขาย
ค่าส่วนกลาง: 47 บาท ต่อตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 2 ปี ในวันโอนกรรมสิทธิ์)
เงินกองทุนสะสม: 520 บาทต่อตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 1.29 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560)
**เปิด Pre Sale 18 – 19 มีนาคม 2560 เริ่มรับบัตรคิว 7.00 น.
ราคาเฉลี่ย: 60,000-80,000 บาทเศษต่อตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560)
รูปแบบห้อง
-1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.
-1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม.
-1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
-2 Bedrooms ขนาด 60 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการมีลักษณะเป็นคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 4,741 ยูนิต บนเนื้อที่ 10 – 2 – 34.8 ไร่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ ทุกรายละเอียดแห่งการใช้ชีวิต …ติดแม่น้ำ” โดยมีบริษัท Palmer and Turner เป็นผู้ออกแบบอาคาร และบริษัท Collab + T Design เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายใน ส่วนบริษัทก่อสร้างอยู่ระหว่างการประมูล
พื้นที่ก่อสร้างโครงการอยู่ระหว่างการปรับที่ดินเพื่อเตรียมการก่อสร้าง
เดิมที่ตั้งโครงการเป็นที่ดินเปล่าอยู่ในอาณาบริเวณที่ดินผืนใหญ่เดียวกันกับโครงการ The Politan Rive และโครงการ The Politan Breeze โดยโครงการ The Politan Aqua เป็นคอนโดฯสูง 61 ชั้น 2 อาคาร ซึ่งจะก่อสร้าง 2 อาคารพร้อมกัน และในอนาคตยังมีโครงการที่จะเกิดขึ้นอีก 2 โครงการด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดเป็นของผู้ประกอบการอสังหาฯ กลุ่ม Everland
ทั้งนี้โครงการถือเป็นโครงการขนาดใหญ่กว่า 2 โครงการที่ผ่านมาทั้งความสูงและจำนวนยูนิตที่มากกว่า ซึ่งในทางเข้าหลักจากปากซอยนนทบุรี 15 ไปยังโครงการประมาณ 300 เมตร อนึ่งสามารถจำแนกภาพรวมแต่ละส่วนในโครงการได้ดังนี้ คือ
จากด้านหน้าโครงการเข้ามาจะเจอกับวงเวียนซึ่งตรงกลางเป็น ป้อม รปภ. ภายในด้านหน้าโครงการและพื้นที่โดยรอบโครงการจะเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่ (ซึ่งพื้นที่สีเขียวทั้งหมดในโครงการมีขนาดกว่า 3 ไร่ ) นอกจากนี้ก็มีร้านค้าจำนวน 4 ร้านค้า (ยังไม่ได้ระบุว่าเป็นร้านค้าประเภทใด)
ถัดเข้าไปด้านหลังโครงการฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นคลับเฮ้าส์ (Clubhouse ) 3 ชั้น ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานขาย ประกอบด้วย ชั้นแรกเป็น Lobby ชั้น 2 เป็น Co – Working Space, Sport Simulator Room, Multipurpose Room และชั้น 3 Roof top Garden โดยคลับเฮ้าส์มีทั้งลิฟท์และบันไดให้เลือกใช้ด้วย
ทั้งนี้ด้านหลังคลับเฮ้าส์มีสวนหย่อนริมแม่น้ำ ( Riverfront Garden) ขนาด 1 ไร่ที่สามารถเดินเล่นได้แบบเป็นส่วนตัว รวมถึงสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดประมาณ 27.5×33 เมตร ลึก 1.4 เมตร โดยถัดจากสระว่ายน้ำก็มีสวนเล่นระดับที่มีจุดขึ้นไปชมวิวได้ด้วย
(ภาพเพิ่ม 3 รูป)ชั้น 2 ของคลับเฮ้าส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่รับรองลูกค้าที่มาชมห้องตัวอย่างบนชั้นนี้
ชั้น 3 ของคลับเฮ้าส์ มีพื้นที่อเนกประสงค์ในร่มสามารถขึ้นมานั่งเล่น พักผ่อนได้ ทั้งนี้คลับเฮ้าส์มีทั้งบันได และลิฟท์จากชั้น 1ถึงชั้น 3 ไว้คอยบริการด้วย
สวนหย่อมด้านนอกบนชั้น 3 ของคลับเฮ้าส์แบบเปิดโล่ง สามารถมานั่งเล่น และชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้รอบทิศทาง
ด้านหลังอาคารอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นที่จอดรถสำหรับรถมอเตอร์ไซด์ รถจักรยาน และรถยนต์ส่วนตัวของลูกบ้าน และผู้มาติดต่อ โดยรถมอเตอร์ไซด์ รถจักรยานและรถของผู้มาติดต่อจะมีเพียงแค่ชั้น 1 ส่วนรถยนต์ส่วนตัวของลูกบ้านจะมีตั้งแต่ชั้น 1 – 8
เข้ามาในอาคารตรงกลางชั้น 1 ทั้งแบบ Outdoor และ Indoor และพื้นที่นั่งรอ นั่งพักผ่อน( Waiting Lounge (กรณีรอรถแท็กซี่ หรือรอเพื่อนมารับเป็นต้น ) , ส่วน Lobby และโถงลิฟท์จะมีแยกให้ในแต่ละอาคาร โดยลิฟท์โดยสารมี 6 ตัว/1 อาคาร และลิฟท์ขนของมี 1 ตัว/1 อาคาร สรุปโครงการมีลิฟท์โดยสาร 12 ตัว และลิฟท์ขนของ 2 ตัว
ชั้น 2 – 7 ในอาคาร เป็นพื้นที่จอดรถเกือบทั้งหมด ห้องชุดพักอาศัยอยู่ทางริมฝั่งแม่น้ำไม่มากนัก การวางผังห้องจะให้ห้องขนาด 60 ตร.ม. อยู่ทางทิศเหนือคือฝั่งริมแม่น้ำ ซึ่งอาคารจะทำระเบียงรูปตัว L ให้เห็นวิวได้ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนห้องพักที่เหลือคือแบบ 30 ตร.ม. ระหว่างพื้นที่จอดรถ และส่วนพักอาศัยจะมีการกั้นประตูซึ่งต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปเพื่อความปลอดภัย
ชั้น 8 มีพื้นที่ส่วนกลางคือ สวนและสระว่ายน้ำระบบเกลือทั้งสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ ส่วนห้องพักจะมีจำนวนประมาณ 27 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งลูกบ้านที่อยู่ชั้นนี้สามารถเดินออกไปใช้พื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกมาก ส่วนพื้นที่จอดรถก็จะเหลือเพียงครึ่งเดียวหากเทียบกับชั้นอื่นๆ ที่เป็นที่จอดรถ
ชั้น 9 เป็นพื้นที่ของสวนหย่อมและที่นั่งเล่น ซึ่งจากชั้น 8 สามารถเดินขึ้นมายังชั้น 9 ได้ด้วย และคนที่อยู่อีกอาคารหนึ่งจะขึ้นลิฟท์มายังชั้น 9 ก็ได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้อาคารฝั่งที่ไม่ได้อยู่ริมน้ำจะมีห้องพักเพิ่มเข้ามา ทิศเหนือเป็นแบบ 29 ตร.ม. ส่วนทิศใต้เป็นแบบ 24 ตร.ม. ส่วนอาคารริมน้ำ ทิศเหนือเป็นห้องแบบ 30 ตร.ม. และห้องมุมเป็นแบบ 60 ตร.ม. ส่วนทิศใต้เป็นแบบ 29 กับ 30 ตร.ม.
ชั้น 10 – 59 เป็นส่วนพักอาศัย คล้ายกับชั้น 9 แต่ไม่มีสวน และมีจำนวนห้องมากกว่า
ชั้น 60 เป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่งทั้งชั้น ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ Infinity edge pools with Jacuzzi , สวนลอยฟ้า (Sky Garden) และ Duplex Fitness ฟิตเนส 2 ชั้นคือชั้น 60 – 61
ชั้น 61 ห้องพักผ่อนอเนกประสงค์ ( Sky lounge ) และฟิตเนส
ชั้น 62 สวนลอยฟ้า
ทั้งหมดทั้งมวลตัวโครงการถือว่ามีความสวยงาม สิ่งอำนวยความสะดวกมาก เพื่อรองรับกับจำนวนยูนิตที่มาก นอกจากนี้ยังรวมถึงวัสดุ อุปกรณ์ที่นำมาใช้ในโครงการถือว่าพรีเมี่ยม เห็นได้ชัดจากคลับเฮ้าส์ ซึ่งใช้พื้น ผนังหินอ่อนเป็นหลัก เป็นต้น
โมเดลจำลองโครงการทั้งหมด และแยกส่วนให้ดูเฉพาะชั้น 60 – 62 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำ ,ฟิตเนส 2 ชั้น และสวนลอยฟ้า ( ภาพขวามือ )
Master Plan
ภาพรวมผังโครงการ จากหน้าประตูทางเข้าโครงการมาจะมีวงเวียน เลี้ยวซ้ายมาเป็นสวนขนาดใหญ่ ยาวเรื่อยมาจนถึงโซนด้านหลังมี Clubhouse 3 ชั้นอยู่ พร้อมสวน และสระว่ายน้ำ ส่วนโซนพักอาศัยมี 2 อาคาร ด้านหน้าก่อนเข้าในอาคารเป็นร้านค้า 4 ร้าน ส่วนภายในโครงการ ชั้น 1 มี Lobby ทั้งในร่มและกลางแจ้ง , ตู้จดหมาย, ห้องนิติบุคคล , ด้านหลังมีที่จอดรถสำหรับมอเตอร์ไซด์ และจักรยาน ที่จอดรถยนต์ของลูกบ้านและผู้มาติดต่อ
Floor Plan
Floor Plan ชั้น 2 ในอาคารเป็นพื้นที่จอดรถเกือบทั้งหมด มีห้องชุดพักอาศัยอยู่ทางริมฝั่งแม่น้ำไม่มากนัก
Floor Plan ชั้น 8 เป็นพื้นที่ส่วนกลางคือ สวนและสระว่ายน้ำระบบเกลือทั้งสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ ส่วนห้องพักจะมีจำนวนประมาณ 27 ยูนิตต่อชั้น
Floor Plan รูปแบบห้อง
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: ติดกับที่ดินเปล่า บ้านเรือนประชาชน ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
ทิศใต้: ติดกับโครงการแบบ Low Rise ในอนาคต ได้วิวสะพานพระนั่งเกล้า,
รถไฟฟ้าสายสีม่วง และส่วนกลางของโครงการ The Politan Breeze และโครงการ The Politan Rive
ทิศตะวันออก: ติดกับถนนสาธารณะของโครงการ และบ้านเรือนประชาชน ได้วิวเมืองฝั่งด้านหน้าโครงการ
ทิศตะวันตก: ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา
สิ่งอำนวยความสะดวก
– ส่วนของ Clubhouse
ภาพจำลอง Clubhouse 3 ชั้น ซึ่งอยู่ด้านหลังโครงการติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยชั้นแรกเป็น Lobby ชั้น 2 เป็น Co – Working Space, Sport Simulator Room, Multipurpose Room และชั้น 3 Roof top Garden
ภาพจำลองชั้น 2 ของ Clubhouse เป็น Social Club สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน หรือนัดพบปะกับเพื่อนฝูง ซึ่งปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว และใช้เป็นพื้นที่สำนักงานขายอยู่
– ส่วนของอาคารพักอาศัย
ภาพจำลองภายในชั้น 1 เป็นพื้นที่ Waiting Lounge สำหรับนั่งคอย เช่น คอยรถแท็กซี่ หรือคอยเพื่อนมารับ เป็นต้น
ภาพจำลอง Lobby ชั้น 1 ซึ่งมีทั้งแบบ Main Lobby อยู่ในร่ม และแบบ Outdoor Lobby คือ กลางแจ้งเพื่อนั่งพักผ่อนชมสวน
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
แบบ 1 ห้องนอน
– พื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร
– ผนัง Wallpaper สีพื้น มาตรฐานโครงการ
– Fully Fitted
– ชุดครัว ยี่ห้อ Modernform , Starmark บิลท์อิน + ซิงค์ล้างจาน
– ชุดครัวขนาด 24 ตร.ม. ได้ Top ลามิเนต ส่วน 29 และ 30 ตร.ม. ได้ Top หินควอทซ์
– วัสดุปิดผิวครัวลามิเนตลายหนังเหมือนกันทุกยูนิต
– สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ยี่ห้อ Cristina + Rain Shower พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
– กระเบื้องห้องน้ำ Cotto porcelain 60 x 60 cm. ,ธรณีหินอ่อน, โมเสคหินอ่อน
– ระเบียง กระเบื้อง เซรามิค 30 x 30 cm. ,ก๊อกน้ำดี, ปลั๊กพร้อมฝาครอปกันน้ำ และที่โคมไฟให้ 1 จุด เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Toshiba หรือเทียบเท่า (ห้อง 24 ตร.ม. ได้ 2 เครื่อง ขนาด 9000 BTU , ห้อง 29 ตร.ม. 2 เครื่อง ขนาด 9000 BTU และ 12,000 BTU )
– ดวงไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง
– สวิตซ์ ปลั๊ก ยี่ห้อ Siemens
แบบ 2 ห้องนอน
– พื้น ลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร
– ผนัง Wallpaper สีพื้นตามมาตรฐานโครงการ
– Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน ยี่ห้อ Euro Creation ประกอบด้วย ชั้นวางทีวี,ตู้เสื้อผ้า , โต๊ะเครื่องแป้ง และ Headboard ( หัวเตียง)
– ชุดครัวยี่ห้อ Modernform , Starmark บิลท์อิน + ซิงค์ล้างจานแบบ 2 หลุม + เตาไฟฟ้า 2 เตา + เครื่องดูดควัน
– Top ครัวหินขาว
– วัสดุปิดผิวครัว ไฮกรอส
– สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ยี่ห้อ Cristina + Rain Shower พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ
– กระเบื้องห้องน้ำ Cotto porcelain 60 x 60 cm. ,ธรณีหินอ่อน, โมเสคหินอ่อน
– เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Toshiba หรือเทียบเท่า ( ได้ 3 เครื่อง ขนาด 9000 ,18,000 และ18,000 BTU)
– รางผ้าม่าน
– ระเบียง กระเบื้อง เซรามิค 30 x 30 cm. ,ก๊อกน้ำดี, ปลั๊กพร้อมฝาครอปกันน้ำ และที่โคมไฟให้ 1 จุด
– ดวงไฟดาวน์ไลท์ทั้งห้อง
– สวิตซ์ ปลั๊ก ยี่ห้อ Siemens
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน: 2.6 เมตร
ห้องตัวอย่าง มี 4 แบบ คือ
– 1 Bedroom ขนาด 24 ตร.ม.
ห้องรูปแบบนี้จะวางตำแหน่งทางทิศใต้ของอาคาร เป็นห้องขนาดกะทัดรัดที่ดูกว้าง เพราะแบ่งสัดส่วนห้องไว้ให้ดีเลยทีเดียว ประกอบไปด้วย ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว ระเบียง และห้องน้ำ โดยใช้ประตูกระจกบานสไลด์กั้นพื้นที่ห้องนอนสร้างความเป็นส่วนตัว โดยพื้นที่หลักเป็นห้องโล่ง มีเพียงห้องน้ำที่มีสุขภัณฑ์ครบ และห้องครัวที่มีชุดครัวบิลท์อินให้
พื้นที่ห้องนอนโล่ง กว้าง วางเตียง 5 ฟุต และยังเหลือพื้นที่รอบเตียง นอกจากนี้เปิดรับแสงจากภายนอกด้วยหน้าต่างบานใหญ่สีชา เพื่อกรองแสงแดดจ้าในเวลากลางวัน ซึ่งทุกยูนิตจะติดตั้งกระจกแบบนี้ให้
จากห้องนอนมองย้อนออกไปยังมุมรับแขกจะเห็นว่าเราสามารถเล่นกับผนังได้ตามใจชอบ อีกทั้งพื้นที่ว่างตรงผนังหลังโซฟาสามารถบิลท์อินเพิ่ม เป็นที่สำหรับเก็บของด้านบนได้
เข้ามาดูในห้องครัวกันบ้าง โดยจะเชื่อมต่อกับระเบียง เป็นครัวสำเร็จรูปที่มีให้แบบนี้ โดยห้องขนาดนี้จะเป็นTop ลามิเนต ส่วนวัสดุปิดผิวครัวเป็นลามิเนตลายหนังให้เหมือนกันทุกยูนิต แต่ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าให้
ระเบียงด้านนอกกั้นประตูกระจกบานสไลด์ พร้อมกับปูกระเบื้อง ราวกันตกให้ นอกจากนี้เตรียมก๊อกน้ำสำหรับซักล้างให้เรียบร้อย
ระเบียงวางเครื่องซักผ้าได้ พร้อมเตรียมก๊อกน้ำดีสำหรับต่อกับเครื่องซักผ้า และปลั๊กพร้อมฝาครอบกันน้ำให้แล้ว
อีกฝั่งหนึ่งของครัวอยู่ติดกับห้องน้ำ บริเวณพื้นซึ่งเชื่อมต่อกันกั้นด้วยธรณีหินอ่อน ซึ่งหายห่วงเรื่องพื้นผุกร่อน รั่วซึม
ภายในห้องน้ำเน้นความเรียบง่าย ใช้โทนสีพื้นไม่เน้นลวดลาย แยกส่วนเปียกและแห้งให้ โดยส่วนแห้งสำหรับโถสุขภัณฑ์ที่วางตำแหน่งได้ดี และอ่างล้างมือขนาดพอเหมาะพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง และท็อปวางของด้านบน ถือว่าตอบโจทย์คนที่มีอุปกรณ์ห้องน้ำเยอะๆ ได้พอสมควรเลยทีเดียว
ส่วนที่อาบน้ำมีฉากกั้นให้ ตกแต่งผนังด้วยโมเสกหินอ่อนเพื่อความสวยงาม รวมถึงทำที่วางของ วางสบู่ให้ พร้อมเรนชาวเวอร์ให้ด้วย
เพดานห้องจริงฉาบเรียบ ติดดวงไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งห้อง แต่ห้องตัวอย่างนี้ตกแต่งให้มีแสง มีดวงไฟเล็กๆ เหมือนดวงดาว ให้เป็นไอเดีย ดูสวยงาม โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน
– 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม.
ห้องนี้เป็นรูปแบบใหม่ของบริษัท เป็นการกั้นฟังก์ชั่นห้องนอนแบบ 1 ห้องนอน ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยแบ่งฟังก์ชั่นห้องรับแขกเชื่อมต่อกับห้องครัวและระเบียง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน
มุมรับแขกหรือนั่งเล่นเปิดโล่ง วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบาย ตกแต่งผนังด้วยการซ่อนไฟ และสร้างเทกเจอร์ให้ห้องดูมีมิติ และสวยงามไว้เป็นไอเดีย
ผนังห้องบิลท์อินเป็นชั้นวางของ ชั้นวางทีวี และใช้วัสดุกระจกเข้ามาช่วยให้ห้องดูกว้าง และสวยงามขึ้นไว้เป็นไอเดีย
ห้องครัวหน้าตาคล้ายกับแบบ 24 ตร.ม. แต่ต่างกันที่แบบนี้จะเป็น Top หินควอทซ์ และตำแหน่งช่องว่างสำหรับวางตู้เย็นจะอยู่ตรงข้ามกับครัวไม่เชื่อมต่อกันเหมือนแบบแรก
ภายในห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว โล่งกว้าง และวางเตียงคิงไซส์ได้เลย ส่วนปลายเตียงก็มีที่ว่างสำหรับตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง
ห้องนี้นอกจากจะมีระเบียงที่เชื่อมกับครัวแล้ว ในห้องนอนก็มีระเบียงให้ด้วย สำหรับเปิดรับลม ชมวิว และให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้นด้วย
– 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม.
แปลนห้องนี้เหมือนกับแบบ 29 ตร.ม. แทบทุกอย่าง แต่ต่างกันที่การกั้นแบ่งฟังก์ชั่น โดยห้องนี้จะกั้นด้วยประตูกระจกบานสไลด์เหมือนแบบ 24 ตร.ม. แต่ดูโล่ง กว้างกว่า และเน้นใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เพื่อไม่ให้ห้องดูอึดอัด
ห้องครัวเป็นครัวบิลท์อินที่โครงการมีให้แบบเดียวกันกับห้องแบบ 29 ตร.ม. เชื่อมต่อกับระเบียงเช่นเดียวกัน
– 2 Bedrooms ขนาด 60 ตร.ม
แบบห้องใหญ่สุดในโครงการ และถือว่าออกแบบได้ดีทีเดียว โดยห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะอยู่ด้านข้าง ส่วนตรงกลางจะเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด และห้องรับแขก ซึ่งเหมาะกับการสังสรรค์ ระหว่างเพื่อนฝูง และคนในครอบครัว
จากประตูทางเข้าห้องก็จะเจอกับครัว และห้องน้ำรับแขก โดยครัวเป็นครัวบิลท์อินที่ต่างจากห้องแบบอื่นๆ ใช้วัสดุปิดผิวแบบไฮกรอสทั้งหมด และตู้เก็บของที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงมีไอซ์แลนด์หินอ่อนที่เชื่อมต่อกับชุดครัวให้
จากห้องรับแขกมองออกมายังครัว ดูผิวเผินเหมือนไม่มีที่วางตู้เย็น แต่หากสังเกตฝั่งซ้ายมือของรูป จะเห็นหน้าบาน (ล้อมกรอบสีแดง) ที่หากเปิดออกมาจะเป็นตู้เย็นแต่ละชั้น ซึ่งถือว่าสวยงาม และเป็นการประหยัดพื้นที่ได้ดี
ก่อนจะไปดูห้องนอนใหญ่ มาดูห้องนอนที่ 2 กันก่อน ซึ่งถือว่าเป็นห้องนอนที่ไม่เล็ก เพราะวางเตียง 5 ฟุต และเหลือทางเดินรอบเตียงด้วย
ระเบียงคอมเพลสเซอร์แอร์ถูกยกไว้ด้านบนเหนือศีรษะ พร้อมกับมีกลอนเปิดปิดให้เพื่อความสะดวกในการใช้งานระเบียงได้อย่างเต็มที่
ทําเล & การเดินทาง
ทำเลถนนรัตนาธิเบศร์
บรรยากาศของการพัฒนาที่อยู่อาศัยในย่านรัตนาธิเบศร์ โดยเฉพาะรัศมีใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงยังคงมีให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งกำลังพัฒนาก่อสร้าง และดำเนินการรื้อถอนเพื่อปรับหน้าดิน เพราะผู้ประกอบการต่างเชื่อมั่นว่ายังไปได้ดี
ย่านรัตนาธิเบศร์ทั้งจากฝั่งที่มุ่งหน้าไปบางบัวทอง และจากฝั่งที่มุ่งหน้าไปแคราย แต่เดิมนั้นเป็นย่านที่สงบเงียบ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ที่มีวิถีชีวิตเรียบง่ายไม่หวือหวามากนัก เส้นทางการเดินทางก็ไม่สะดวกเท่าที่ควร แต่ด้วยอานิสงส์ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงทำให้ย่านนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก แม้ในวันนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงอาจหงอยเหงาไปบ้าง เนื่องจากรอคอยการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สถานีบางซื่อให้แล้วเสร็จก็คาดว่าจะมีความคึกคักขึ้น มีอาคารสำนักงาน ห้างร้านมากขึ้น และแน่นอนอย่างที่เกริ่นไปข้างต้น คือ คอนโดฯ ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ทำเลถนนสนามบินน้ำ
สำหรับทำเลสนามบินน้ำ เดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ แต่ปัจจุบันอย่างที่ทราบกันว่ามีคอนโดมิเนียมทั้งไฮไรส์และโลว์ไรส์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ด้วยเพราะเชื่อมต่อกับถนนเส้นหลักอย่างถนนรัตนาธิเบศร์ และติวานนท์ สำหรับถนนติวานนท์ที่ตัดผ่านถนนรัตนารัตนาธิเบศร์ทางแยกแคราย ในแนวเหนือ – ใต้นั้น สามารถเชื่อมไปยังถนนนครอินทร์ ไปสะพานพระราม 5 ในทิศใต้ และยังเชื่อมไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ไปแยกปากเกร็ดในทิศเหนือ
นอกจากนี้สนามบินน้ำยังได้อานิสงส์จากแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นหลัก โดยเฉพาะสถานีพระนั่งเกล้าซึ่งอยู่ใกล้สนามบินน้ำมากที่สุด รวมถึงยังมีท่าเรือพระนั่งเกล้าซึ่งเป็นท่าเรือด่วนเจ้าพระยาที่จะเข้ามามีบทบาทยกศักยภาพในย่านนี้มากขึ้น เพราะสามารถโดยสารเข้าไปในเขตกรุงเทพฯ ไปถึงสาทร ตากสินได้ อีกทั้งบริเวณท่าเรือพระนั่งเกล้าก็จะมีร้านค้าร้านอาหารอีกด้วยซึ่งแตกต่างจากท่าเรืออื่น ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดให้คนมาใช้บริการมากขึ้น และเพื่อความสะดวกสบายของผู้คนนั่นเอง
นอกจากนี้ยังจะมีการสร้างสะพานทางเดินที่เชื่อมจากรถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้ามายังถนนสนามบินน้ำอีกด้วย ซึ่งส่งผลให้คนที่อยู่อาศัยในย่านนี้หายใจหายคอกันได้มากขึ้น ไม่ต้องผจญรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนตลอดเวลา
ไม่เพียงเท่านี้ ในอนาคตยังจะมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งใหม่เกิดขึ้น ทางทิศเหนือของถนนสนามบินน้ำ ตามแผนงานที่กรมทางหลวงชนบทเสนอมาเพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่างพื้นที่ทางทิศตะวันตกกับทิศตะวันออกให้สะดวกมากขึ้น โดยโครงการนี้จะเริ่มจากถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตกข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อมาบรรจบกับถนนสนามบินน้ำและขยายไปบรรจบกับถนนวิภาวีรังสิต รวมระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท และเริ่มก่อสร้างได้ในปี 2563 และเปิดให้บริการในปี 2566 โดยเส้นทางนี้จะอยู่ระหว่างถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนแจ้งวัฒนะ
ด้านความอุดมสมบูรณ์ทั้งถนนรัตนาธิเบศร์ และถนนสนามบินน้ำถือว่าเติบโตต่อเนื่อง จากเดิมมีเพียงห้างเซ็นทรัลพลาซ่า รัตนาธิเบศร์ แต่ปัจจุบันมีห้างใหญ่อย่างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกตและอิเกีย บางใหญ่ที่ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว รวมไปถึงตลาดนัดขนาดใหญ่อย่างตลาดนกฮูก ตลาดสนามบินน้ำ บริเวณหน้ากองสลาก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย
เหล่านี้ทำให้โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกนี้มีหน้าตาที่ทันสมัย สวยงาม และที่สำคัญมีราคาค่าตัวที่แพงขึ้นถนัดตาอีกด้วย
แผนที่แสดงแนวเส้นทางโครงการสะพานสนามบินน้ำและถนนต่อเชื่อมถนนกาญจนาภิเษก – วิภาวดีรังสิต ภาพจาก : www.Thepolitancondo.com
ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ติดถนนสนามบินน้ำ ซอยนนทบุรี 15 ถือเป็นทำเลที่ได้เปรียบในเรื่องเส้นทางการเดินทางคือ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีพระนั่งเกล้าและท่าเรือพระนั่งเกล้าประมาณ 400 เมตร อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าในอนาคตคาดว่าจะมีการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าพระนั่งเกล้ามายังฝั่งโครงการ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นระแวกวัดน้อยนอก หรือซอยรัตนาธิเบศร์ 42 ซึ่งเป็นทางลัดเพื่อมุ่งหน้าไปยังโครงการประมาณ 500 เมตร ได้อีกทางหนึ่ง แต่ยังไม่ระบุแน่ชัดว่าเป็นบริเวณใด
ไม่เพียงแต่เรื่องของเส้นทางการเดินทางและการคมนาคมที่สะดวก แต่โครงการถือว่ามีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยด้านหน้าของตัวอาคารห่างจากแม่น้ำเพียง 30 เมตร
นอกจากนี้แล้ว โครงการตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ราชการอย่างกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงสำนักงานบำรุงทางนนทบุรี,สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ซึ่งมีความคึกคัก รถลาสัญจรไปมาตลอดทาง
การเดินทาง
เส้นทางรถยนต์ที่เหมาะสมที่สุด 2 เส้นทางคือ
ทางเลือกที่ 1 จากบางใหญ่ เข้าถนนรัตนาธิเบศร์ มุ่งหน้าสะพานพระเกล้า (เก่า) ลงสะพานชิดซ้าย เลี้ยวเข้ารัตนา ธิเบศร์ซอย 42 ก็ได้ หรือเห็นป้ายบอกทางไปถนนสนามบินน้ำ เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเจอโครงการอยู่ซ้ายมือ คือ ซอยนนทบุรี 15 ก็ได้
ทางเลือกที่ 2 จากถนนแคราย มุ่งหน้ามาสะพานพระนั่งเกล้า (เก่า) ให้กลับรถใต้สะพาน เพื่อไปยังถนนสนามบินน้ำ อีกประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ซ้ายมือ คือซอยนนทบุรี 15
รถไฟฟ้า
MRT สายสีม่วง สถานีพระนั่งเกล้า
อยู่ห่างจากโครงการ ประมาณ 400 เมตร
แท็กซี่
ผ่านหน้าโครงการ
มอเตอร์ไซด์รับจ้าง
ผ่านหน้าโครงการ
รถเมล์
สาย 191 ,69
เรือ
เรือด่วนเจ้าพระยา ท่าเรือพระนั่งเกล้า
หมายเหตุ: ทางโครงการมีรถรับ – ส่งไปยังรถไฟฟ้า สถานีพระนั่งเกล้า แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
ย่านนี้มีสถานที่ไลฟ์สไตล์หลายแห่ง ทั้งบริเวณใกล้เคียงโครงการ และย่านที่เชื่อมต่อกับโครงการ ซึ่งแน่นอนที่สุดหากเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุดก็คือ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ นอกจากนี้หากขยับไปทางแครายก็เป็นเอสพลานาด, แคราย โลตัส, พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน, และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ส่วนฝั่งทางบางใหญ่ก็มีเซ็นทรัล เวสต์เกต, อิเกีย บางใหญ่ที่เป็นที่นิยมในย่านนี้
นอกจากห้างสรรพสินค้าแล้ว ตลาดนัดก็เป็นที่หนึ่งที่คนนิยมไปเดินเล่น และจับจ่ายใช้สอยกัน อย่างตลาดนัดนกฮูก หรือตลาดนัดเลี่ยงเมืองนนทบุรี ที่อยู่หลังเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ก็เป็นตลาดใหญ่ที่มีทุกสิ่งให้คุณเลือกสรร โดยเฉพาะในช่วงเย็นของวันเสาร์ – อาทิตย์ แต่ต้องยอมรับว่ารถเยอะ คนเยอะมาก ใครจะพาลูกเล็กเด็กแดงมาเที่ยวต้องดูแลให้ดีเพราะอาจพลัดหลงกันได้
ส่วนตลาดนัดในกระทรวงพาณิชย์ช่วงเช้าถึงบ่ายก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่คนชอบไปเดินดูของกิน ของใช้เพราะมีสินค้าหลากหลายให้ได้เลือกชมกันมีเฉพาะในวันอังคาร และศุกร์ เท่านั้น รวมถึงตลาดนัดสนามบินน้ำหน้ากองสลากก็เป็นแหล่งของกินมากมายเช่นกัน
สำหรับร้านอาหารอร่อยๆ ในย่านสนามบินก็มีให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะตรงบริเวณสนามบินน้ำมาร์เก็ต ที่มีร้านอาหารที่หลายคนคุ้นหู อาทิ ชาบูนางใน,วีทีแหนมเนือง, ครัวอัปสร ,บ้านระเบียงน้ำ, The River House เป็นต้น รวมไปถึงร้านน่านั่ง อาทิ Plieu Cafe, Brown Sugar, Brunchroom เป็นต้น
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ห่างจากโครงการประมาณ 2.6 กิโลเมตร
เอสพลานาด แคราย ห่างจากโครงการประมาณ 4.8 กิโลเมตร
โลตัส แคราย ห่างจากโครงการประมาณ 4.9 กิโลเมตร
บิ๊กซี รัตนาธิเบศร์ ห่างจากโครงการประมาณ 4.37 กิโลเมตร
เซ็นทรัลเวสต์เกต บางใหญ่ ห่างจากโครงการประมาณ 12.6 กิโลเมตร
อิเกีย บางใหญ่ ห่างจากโครงการประมาณ 12.6 กิโลเมตร
BB Market บางใหญ่ ห่างจากโครงการประมาณ 12.6 กิโลเมตร
เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ห่างจากโครงการประมาณ 7.7 กิโลเมตร
สถานพยาบาล
โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 3.2 กิโลเมตร
โรงพยาบาลทรวงอก ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร
โรงพยาบาลนนทเวช ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร
โรงพยาบาลศรีธัญญา ห่างจากโครงการประมาณ 8.6 กิโลเมตร
สถานศึกษา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุวรรณภูมิ นนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 2.7 กิโลเมตร
โรงเรียนธัมมสิริศึกษา ห่างจากโครงการประมาณ 370 เมตร
อื่นๆ
วัดน้อยนอก ห่างจากโครงการประมาณ 350 เมตร
สำนักงานบำรุงทางนนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตร
กระทรวงพาณิชย์ ห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร
สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ห่างจากโครงการประมาณ 3.8 กิโลเมตร
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
ห่างจากโครงการประมาณ 3.9 กิโลเมตร
ศาลากลาง (ใหม่ ) จังหวัดนนทบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 6.7 กิโลเมตร
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
โครงการถือว่าตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพมากแห่งหนึ่ง และมีคู่แข่งอยู่หลายเจ้า แต่โครงการถือว่ามีข้อได้เปรียบในเรื่องของอาณาบริเวณที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งมีพื้นที่ส่วนกลางให้แบบเต็มที่ รวมถึงวัสดุที่ใช้ในโครงการก็เป็นแบบเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นล้านบาทปลายๆ ก็ถือว่าสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับหลายคนไม่น้อย
กระนั้นโครงการไม่เน้นให้คนแห่กันมาซื้อเพื่อการลงทุน แต่เน้นการขายสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นหลัก จึงไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องตัวเลขในแง่ของการซื้อเพื่อการลงทุน แต่หากเอ่ยถึงว่าน่าลงทุนหรือไม่ ก็ถือว่าแนะนำเพราะราคาดี น่าลงทุนระยะสั้น โดยทั่วไปย่านนี้ราคาปล่อยเช่าก็น่าจะเหยียบๆ หลักพันปลายๆ ถึงหมื่นต้นๆ ต่อเดือน และอนาคตได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นเป็นแน่
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ชื่อโครงการ | ยูนิต | พื้นที่ใช้สอย(ตร.ม.) | ราคาเฉลี่ย(บาท) | ราคาขาย(ล้านบาท) |
เดอะ โพลิแทน อควา (The Politan Aqua) | 2,741 | 24-60 | 60,000 | 1.29 |
แมเนอร์ สนามบินน้ำ (Manor Sananbinnarm) | 1,848 | 25.44 – 76.39 | – | 1.75 |
เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ (Metro Luxe Riverfront Rattanathibet) | 606 | 25.6 – 60.6 – 62.3 | – | 2.77 |
แมเนอร์ สนามบินน้ำ (Manor Sananbinnarm)
ชื่อโครงการ: แมเนอร์ สนามบินน้ำ (Manor Sananbinnarm)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถ.สนามบินน้ำ ต.บางกะสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทร: 02 526 8833
เว็บไซต์: www.manorbymajor.com
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 10 -3 – 75 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 4 อาคาร จำนวน 1,848 ยูนิต
อาคาร A และ B สูง 25 ชั้น อาคาร C และ D สูง 35 ชั้น มี 2 แบบคือ
– 1 ห้องนอน ขนาด 25.44 – 42.07 ตร.ม.
– 2 ห้องนอน ขนาด 61.26 – 76.39 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 1.75 ล้านบาท
เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ (Metro Luxe Riverfront)
ชื่อโครงการ: เมโทร ลักซ์ ริเวอร์ฟร้อนท์ (Metro Luxe Riverfront)
เจ้าของโครงการ: บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด(มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง : ถนนไทรม้า ซอย 7 ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทร: 1375
เว็บไซต์ : www.pf.co.th
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 7 – 2 – 37.80 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 6 อาคาร จำนวน 606 ยูนิต มี 4 แบบ
– 1ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 25.6 – 32.5 ตร.ม.
– 2 ห้องนอน 1 – 2 ห้องน้ำ ขนาด 45.2 – 65.7 ตร.ม.
– 2 ห้องนอน แบบ Combine 1 – 2 ห้องน้ำ ขนาด 45.2 – 65.7 ตร.ม.
– Duplex 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ ขนาด 60.6 – 62.3 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 2.77 ล้านบาท
สรุป
โครงการนี้ถือว่ามีข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ทั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีพระนั่งเกล้า รวมไปถึงในอนาคตที่จะมีท่าเรือพระนั่งเกล้า และสะพานเชื่อมจากรถไฟฟ้ามายังฝั่งถนนสนามบินน้ำ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ ที่สำคัญโครงการตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทำเลในฝันของใครหลายคนที่อยากมีที่อยู่อาศัยใกล้แม่น้ำ ซึ่งโครงการนี้ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็มีให้แบบจุใจ เช่น สระว่ายน้ำ 3 จุด ห้องเล่นกอล์ฟ ห้องเล่นเกม และพื้นที่อเนกประสงค์มากมาย ซึ่งถือว่าจัดเต็ม และเรียกเสียงฮือฮาได้ดีเลยทีเดียว
ส่วนตัวอาคาร และวัสดุที่ให้ก็ถือว่าใช้ของดี กล้าให้ เช่น วัสดุหินอ่อน กระจกสีชา กระเบื้องโมเสก เป็นต้น ดูแล้วสวยเกินราคาขาย
ด้วยรายละเอียดข้างต้น เมื่อเทียบกับราคาขายเริ่มต้นที่หนึ่งล้านบาทต้นๆ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกว่าจะซื้ออยู่จริง หรือซื้อเพื่อการลงทุนก็คุ้มค่าคุ้มราคา เพราะทำเลนี้มีศักยภาพ และจะเติบโตในอนาคตเป็นแน่
อย่างไรก็ดี ด้วยจำนวนยูนิตที่มาก โครงการขนาดใหญ่ การบริหารจัดการสังคมให้น่าอยู่จึงไม่ควรมองข้าม ผู้คนที่มาอยู่อาศัยมากหน้าหลายตา เรื่องนี้จึงต้องพิจารณา และให้ความสำคัญในการจัดระเบียบให้ดี เพราะองค์ประกอบโดยรวมของโครงการถือว่ามีความสวยงาม น่าจับจอง และน่าอยู่ ไม่น้อยเลยทีเดียว
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ