โครงการอินซิโอ้ เสรีไทย (Incio Serithai) คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร และ 5 ชั้น 1 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 508 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 5 ยูนิต ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มี 3 สระว่ายน้ำ 4 ฟิตเนส และสวนหย่อมตามจุดต่าง ๆ ราคาเริ่มต้น 2.xx ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
หลังจากที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการการอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วยการประกาศร่วมทุนเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าระหว่าง บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เจ้าแห่งการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งกรุงเทพฯ และ แสนสิริ ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นนำ ในที่สุด โครงการปฐมฤกษ์ระหว่างการร่วมมือดังกล่าวก็ได้ถือกำเนิดขึ้นกับคอนโดมิเนียมไฮไรส์หรู มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท นามว่า “เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต” ภายใต้แนวคิด
Location is Everything บททำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต และ MRT สถานีจัตุจักร เพียง 350 เมตร พร้อมสร้าง Skywalk เชื่อมเข้าสู่ Convenience Store และโครงการที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะขนาดกว่า 700 ไร่
รายละเอียดโครงการ
เจาะลึกโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2558)
– ชื่อโครงการ: เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต (The Line Jatujak-Mochit)
– ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด
– ทำเลที่ตั้ง: ถนนพหลโยธิน (ตรงข้ามสวนจตุจักร) แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 4 ไร่ 3 งาน
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมดีไซน์รูปตัว L ความสูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 841 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับความต้องการของกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการความคล่องตัว รวมถึงชาวต่างชาติ
สถานะก่อสร้าง: กำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน กุมภาพันธ์ 2561
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 7 – 43
ส่วนกลาง: ตั้งอยู่บริเวณ Lobby ด้านล่าง, ชั้น 7 และชั้น 40
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 5 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 -6 และบริเวณด้านล่างโดยรอบโครงการ (คิดเป็น 63 % ไม่รวมซ้อนคัน) ซึ่งผู้พักอาศัย 1-2 ห้องนอน ได้สิทธิ์จอดรถ 1 คัน ส่วน 3 ห้องนอนได้ 2 คัน แบบไม่ Fix
สถานะการขาย: หลังเปิดพรีเซลทั้งในกรุงเทพฯ ฮ่องกง และสิงค์โปร์ เมื่อวันที่ 30-31 พ.ค. 58 ที่ผ่านมาหมด 100% แล้ว โดยเปิดให้ลูกค้าคนไทยได้จองห้องชุดในชั้น 7-28 และ 33 ส่วนลูกค้าต่างชาติเริ่มต้นที่ชั้น 29 เป็นต้นไป ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 70% นิยมซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 4 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 150,000 บาท / ตร.ม.
ภาพ via facebook.com/sansiri.theline
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully-fitted โดยแต่ละชั้นคละแบบห้องกัน แต่ห้อง Duplex จะมีเพียง 5 ยูนิต และจะอยู่บริเวณชั้น 42 – 43 เท่านั้น
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 25.25 – 47.00 ตารางเมตร (คิดเป็น 79% ของยูนิตทั้งหมด)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 53.50 – 66.00 ตารางเมตร (คิดเป็น 16% ของยูนิตทั้งหมด)
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 77.75 – 85.25 ตารางเมตร (คิดเป็น 2% ของยูนิตทั้งหมด)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ดูเพล็กซ์) 84.50 – 103.75 ตารางเมตร (4 ยูนิต)
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ดูเพล็กซ์) 105.75 ตารางเมตร (1 ยูนิต)
รีวิวภาพรวมโครงการ
จากการเริ่มต้นแนวคิดของโครงการด้วยการร่วมมือกับ BTS สร้าง Skywalk เชื่อมเข้าสู่โครงการ และ Convenience Store ที่เปิด – ปิด ตามเวลาของ BTS ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างมาก โดยทิศที่นิยมมีดังนี้
อันดับ 1 ทิศเหนือ ชมวิวทิวทัศน์ของสวนจตุจักร และบีทีเอส
อันดับ 2 ทิศตะวันตก เพลิดเพลินกับถนนพหลโยธิน และสวนจตุจักร
อันดับ 3 ทิศตะวันออก เปิดหน้าต่างเจอที่จอดรถของสำนักงานใหญ่ธนาคาร TMB ซึ่งปัจจุบันเช่าพื้นที่บีทีเอส
อยู่ และในอนาคตคาดว่าจะมีโครงการมาสร้างในพื้นที่นี้แทน
อันดับ 4 ทิศใต้ มุมนี้ได้ราคาถูกลงกว่าทิศอื่น เนื่องจากมีตึกสำนักงานของบีทีเอสประมาณ 14 ชั้น บังวิว แต่ไม่ได้ติดกับโครงการมากนัก
บีทีเอส สายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ในอนาคตอยู่หน้าโครงการ พร้อมมี Skywalk เชื่อมเข้าสู่ ชั้น 6 ของ Convenience Store และโครงการ
ทิศใต้ของโครงการ ที่ถูกบดบังวิวจากตึกสำนักงานใหญ่บีทีเอส 14 ชั้น แต่ไม่ถึงกับติดมากนัก
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ The Line ถูกออกแบบในสไตล์ New York Loft โทนสีน้ำตาลทอง พร้อมชูจุดเด่นของโครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Game Room, ห้องสมุด, Business Lounge, ห้องออกกำลังกาย, ห้องเด็กเล่น, สระว่ายน้ำ และ Aqua Lounge
นอกจากโครงการจะรายล้อมด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่แล้ว ภายในโครงการเองก็มีการสร้างพื้นที่สีเขียว โดยคัดเลือกพันธุ์ต้นไม้ ให้เลียนแบบธรรมชาติตามรูปแบบของภูมิประเทศ อาทิ โซนริมน้ำ ที่ราบลุ่ม ที่ราบสูง และป่าภูเขา
ชั้น G – Lobby สไตล์ New York Loft รายล้อมด้วยสวนหย่อมของต้นไม้ นานาพันธุ์
ชั้น G – เต็มความรู้ภายในห้องสมุดที่จะมีหนังสือสลับ ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนไม่ให้จำเจ และมีบริการ Wifi ฟรีไว้ให้ลูกบ้านท่องโลกออนไลน์ได้อีกด้วย
ชั้น 7 – บรรยากาศของ Game Room มุมผ่อนคลายสไตล์หนุ่มสาว
ชั้น 7 – มุม Kids Room สนุกสนานกับอุปกรณ์เครื่องเล่น หนังสือนิทาน หรือแม้กระทั่งบ้านบอลภายในโครงการ
ชั้น 7 – สระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็ก ระบบเกลือ ยาว 40 เมตร พร้อมชมทัศนียภาพของสวนรถไฟ
ชั้น 41 – Aqua Lounge ออกแบบเป็น Sunken พร้อมจากุชชี่ ให้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ผืนน้ำ และวิวเมือง
ชั้น 41 – ส่วนของห้องออกกำลังกายให้ฟิตร่างกาย ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ 180 องศา
รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 12 มม.
พื้นจรดเพดาน: ห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีความสูงจากพื้น 2.7 เมตร ส่วนหัวครัว ห้องน้ำ 2.4 เมตร
ระเบียง : เริ่มต้นความกว้าง 2.4 เมตร (เฉพาะห้อง 2 ห้องนอน ขึ้นไป)
ประตู : บานประตู HDF ติดตั้ง Digital Door Lock
ชุดครัว : Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Mex
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ : Cotto
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: ห้องนั่งเล่น ติดฝาพนัง และห้องนอน เป็นแบบแขวน จาก Daikin
บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (1 A – 1) 25.75 – 26.50 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted
ภายในห้องนั่งเล่น โซฟา และอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมด เป็นไอเดียสำหรับให้ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น สิ่งที่ได้สำหรับมุมนี้คือ ระบบไฟ พื้น
ลามิเนตหนาถึง 12 มม. สีตามรูป และเครื่องปรับอากาศยี้ห้อไดกิ้น ติดผนัง
มุมมองการแบ่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว
ส่วนของห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ไม่มีประตูบานเลื่อนกั้น แต่สำหรับห้องนอนจะมีประตูแบ่งเป็นสัดส่วน
ส่วนของห้องครัว Built-in เครื่องครัวยี่ห้อ Mex ให้ พร้อมจัดวางโต๊ะกินข้าว เพื่อเป็นไอเดียให้กับผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังสามารถเลื่อนประตู ที่ทางโครงการเลือกใช้สีชา เพื่อลดความร้อนและแสงเข้าห้อง ระเบียงด้านนอกมีการทำระแนงบังคอมเพรสเซอร์แอร์ให้
สิ่งที่ได้จากการ Built-in เครื่องครัวยี่ห้อ Mex คือ เตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน ตู้วางเก็บของ และซิ้งค์ล้างจาน
ห้องนอน Built-in ตู้เสื้อผ้าตามขนาดห้อง โดยมีที่วางกระเป๋าเดินทางให้ด้านบน พร้อมติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง ให้รับลมธรรมชาติด้านนอก แต่ส่วนที่วางของบนหัวเตียง ของจริงเป็นผนังธรรมดา
โครงการติดตั้งปลั๊ก แบบมีฝาครอบ ให้บริเวณระเบียง เพื่อไว้เสียบเครื่องซักผ้า แต่ส่วนด้านในห้อง ปลั๊กและระบบไฟเป็นในลักษณะติดฝาผนัง ไม่ได้ซ่อนกับพื้นให้
บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (1 B – 1) 34.25 – 34.75 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted
ห้อง 1 ห้องนอน เพิ่มพื้นที่มากขึ้น การแบ่งสัดส่วนห้องยิ่งเห็นชัดเจน
เปิดประตูมาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ภาพที่เห็นนั้น เป็นเพียงแค่ไอเดียการตกแต่งเท่านั้น
ห้องนี้จะมีความเป็นสัดส่วนขึ้นเมื่อส่วนของห้องครัว กั้นด้วยประตูสีชาบานเลื่อน พร้อม Built-in เครื่องครัวเหมือนห้องแรก แต่ขนาดจะเพิ่มขึ้นตามห้อง
ส่วนของห้องนอน มีพื้นที่มากขึ้น สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต
และเมื่อมีพื้นที่มากขึ้น จึงทำให้สามารถวางโต๊ะทำงานได้เพิ่มภายในห้องนอน
ส่วนของห้องนอนยูนิตนี้ มีพื้นที่ของระเบียงตามเส้นสายของสถาปัตยกรรมตึก แต่ไม่สามารถออกไปได้ มีเพียงไว้ให้สัมผัสธรรมชาติที่รายล้อมด้านนอกเท่านั้น
ห้องน้ำของยูนิตนี้จะเหมือนกับห้องแรก สิ่งที่ได้คือ สุขภัณฑ์จาก Cotto มีตู้ ลิ้นชักเก็บของ Rain Shower และ ชักโครก รุ่นทูนิโอ้ มีไฟ LED เวลาเดินผ่านมีเซนเซอร์ ตัวฝาเปิดอัตโนมัติ แถมประหยัดน้ำ 4.8 ลิตร
บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 Bedroom ( 2 D) 82.25 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted
เป็นเรื่องปกติของยูนิต 2 ห้องนอน ในโครงการแสนสิริ ที่มักออกแบบให้มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวอยู่ตรงกลาง และแบ่งห้องนอนMaster กับห้องนอนเล็ก ไว้ซ้าย – ขวา
ห้องครัวของยูนิตนี้ มีสัดส่วนใหญ่ตามขนาดห้อง สิ่งที่ได้เพิ่มมากว่าห้องอื่น คือ ตู้วางของที่เยอะขึ้น
ห้องนอนเล็ก อยู่บริเวณ ขวามือของห้อง สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต และมีหน้าต่างบานกระทุ้งเหมือนห้องอื่น
ห้องนอน Master สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต มีหน้าต่างบานกระทุ้งเช่นกัน
ห้องน้ำของยูนิตนี้ ความพิเศษของชักโครกตัวท๊อปนั้นจะอยู่ที่ห้องนอน Master เท่านั้น
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ทำเลจตุจักร หมอชิต ถือเป็นย่านที่มีความคึกคัก เนื่องจากเป็นศูนย์รวมความสะดวกสบายทั้งการใช้ชีวิต ทำงานและการเดินทาง ประกอบกับแผนการพัฒนาโครงสร้างคมนาคมของรัฐ อย่างการเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ คูคต ที่ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกวัน ทำให้ศักยภาพของย่านนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ภาพ via mrta.co.th
นอกจากนี้ ย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ต่างๆ อาทิ ธนาคารทหารไทย และปตท. รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว และยูเนียน มอลล์ ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยนั้น ทำเลนี้ก็ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแสนสิริที่จับมือกับบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าขึ้นมาเพื่อปลุกดีมานด์ของทำเลนี้ ด้วยโครงการนำร่องความร่วมมืออย่าง “เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต) โดยชูจุดขายความสะดวกสบายของการเดินทางด้วยการทำทาง Skywalk เชื่อมกับสถานี BTS หมอชิตระยะทาง 400 เมตรเข้าสู่โครงการ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้โครงการนี้ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ-นักลงทุนชาวต่างชาติ
อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการที่อยู่ในย่านนี้ก็คืออยู่ใกล้กับพื้นที่ที่เปรียบเสมือนปอดของกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งอย่างสวนจตุจักรซึ่งมีพื้นที่กว่า 700 ไร่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติ ในขณะที่บรรดาขาช้อปทั้งหลายอาจจะชอบใจกับการที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดอ.ต.ก. JJ Mall, JJ Market และ JJ Green ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ลงตัวระดับหนึ่ง
การเดินทาง
– รถไฟฟ้า BTS
BTS มุ่งหน้ามายังสถานีหมอชิตใช้ทางออกที่ 4 เดินขึ้นมาทางธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ โครงการจะอยู่ในซอยก่อนถึงธนาคารทหารไทย ในอนาคตจะมีการสร้าง Skywalk จากสถานี BTS มาถึงโครงการ ซึ่งทางเชื่อมนี้จะแล้วเสร็จก่อนโครงการ
– รถไฟใต้ดิน MRT
ตีตั๋วมายังสถานีจตุจักร แล้วเลือกทางออกที่ 3 เดินต่อมาอีกนิดหรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ เพียง 350 เมตร ถึงที่หมาย
– รถยนต์ส่วนตัว
สำหรับผู้ที่ขับรถส่วนตัว และมาจากฝั่งสุขุมวิท ให้ใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และถนนหมายเลข 31 ไปทางคู่ขนานวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปทางจตุจักร เข้าถนนพหลโยธิน ตรงมาเรื่อยๆ โครงการอยู่ซ้ายมือ ข้างตึกสำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย
สภาพการจราจรตอนบ่ายบนถนนพหลโยธิน โล่งใช้ได้เลยทีเดียว ตรงกันข้ามกับช่วงเช้าและเย็นเลย
สถานที่แนว Lifestyle
ไม่ว่ากี่ยุคสมัย บรรดาวัยรุ่นขาโจ๋ หรือ เด็กแนว ต่างไม่พลาดไปเดินช้อปของเก๋ มีสไตล์ ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร แลนด์มาร์คย่านหมอชิต ซึ่งปัจจุบันได้ขยายอาณาจักรออกเป็น JJ Mall และ JJ Green เพื่อตอบสนองความต้องการของฮิปส์เตอร์ สมัยนี้ อีกทั้งด้วยกระแสเทรนด์รักสุขภาพ กำลังเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย สวนสาธารณะใจกลางเมือง พื้นที่สีเขียวของกรุงเทพฯ อย่าง สวนรถไฟ สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย และยิ่งไปกว่านั้นหากเมื่อมาย่านนี้แล้ว ทั้งบรรดาหนุ่มสาว หรือกลุ่มครอบครัว มักนิยมแวะเพลินเพลินกับอาหาร ของอร่อยขึ้นชื่อ ณตลาด อ.ต.ก.
สวนสาธารณะ
ภาพ via facebook.com/H.M.QueenSirikitPark
– สวนจตุจักร (ห่างจากโครงการ 70 เมตร)
– สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– สวนรถไฟ (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)
แหล่งช้อปปิ้ง
ภาพ via facebook.com/jjgreen59
– JJ Mall (ห่างจากโครงการ 450 เมตร)
– JJ Green (ห่างจากโครงการ 800 เมตร)
– JJ Market (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– ตลาด อ.ต.ก. (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– ยูเนียน มอลล์ (ห่างจากโครงการ 800 เมตร)
โรงพยาบาล
– โรงพยาบาลเปาโล (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)
– โรงพยาบาลวิภาวดี (ห่างจากโครงการ 6 กิโลเมตร)
โรงเรียน
– โรงเรียนเซนต์จอห์น (ห่างจากโครงการ 750 เมตร)
– โรงเรียนหอวัง (ห่างจากโครงการ 1.5 กิโลเมตร)
– มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน (ห่างจากโครงการ 7 กิโลเมตร)
สนามบินดอนเมือง (ห่างจากโครงการ 8 กิโลเมตร)
ขนส่งหมอชิต 2 (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
– อัตราค่าเช่าห้องชุด เปรียบเทียบกับย่านสะพานควาย อยู่ที่ 500 – 600 / ตารางเมตร/ เดือน
– ส่วนห้อง 1 ห้องนอน อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 15,000 บาท/ เดือน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
M Jatujak
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A สูง 32 ชั้น และอาคาร B สูง 34 ชั้น 864 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 28-115 ตร.ม. ที่จอดรถ 50 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 135,500 บาท / ตร.ม. หรือสามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/4/91466/รีวิวโครงการเอ็ม-จตุจักร-m-jatujak
Equinox
อีกหนึ่งโครงการของค่าย เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ บนที่ดิน 3 ไร่ 92 ตารางวา เป็น อาคารสูง 42 ชั้น 490 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน และ Duplex Penthouse พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 40-290 ตร.ม. ที่จอดรถ 90% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 120,000 บาท / ตร.ม.
The Saint Residences
คอนโดมิเนียมของบริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดินประมาณ 7 ไร่ 3 อาคาร สูง 21 ชั้น แบ่งเป็น อาคาร A 409 ยูนิต อาคาร B 407 ยูนิต และอาคาร C 721 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 30 – 134 ตร.ม. ที่จอดรถ 48 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 126,000 บาท / ตร.ม.
สรุป
จุดขายหลักของโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต นอกจากจะชูศักยภาพทำเลใกล้รถไฟฟ้า เพียง 350 เมตรแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ความสะดวกสบายที่ถือเป็น add-on สำหรับผู้ที่ซื้อโครงการนี้ก็คือ Skywalk และการสร้างร้านสะดวกซื้อไว้หน้าโครงการ ด้วยความที่เป็นโครงการที่อยู่ใกล้แหล่งงาน สถานศึกษา ราคาขายต่อตารางเมตรที่ไม่ถือว่าแรงมาก (เมื่อเทียบกับคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าในปัจจุบัน) จึงทำให้ดีมานด์ที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับการเป็นโครงการแนวรถไฟฟ้าในระยะที่เดินได้ แนวโน้มราคาของโครงการนี้คาดว่าจะมีแต่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเป็นรูปเป็นร่างในอนาคตอันใกล้
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ