แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
เกษร พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเปอร์ที่โฟกัสการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ล่าสุดได้ขยายแผนการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู ภายใต้ชื่อว่า “เทลล่า ทองหล่อ (Tela Thonglor)” บนที่ดินแปลงบริเวณปากซอยทองหล่อ 13 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นที่ตั้งของร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งย่านทองหล่ออย่าง ร้านต้นเครื่อง โดยทุ่มทุนสร้างกว่า 4,100 ล้านบาท พร้อมดีไซน์ที่เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานและความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนห้องชุดต่อชั้นเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น และทุกยูนิตมีลิฟท์โดยสารส่วนตัว กับราคาขายเฉลี่ยที่ขึ้นไปแตะที่ 300,000 บาท / ตร.ม. โดยภายหลังจากเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่างและจองอย่างเป็นทางการ มียอดขายที่แรงอยู่ไม่น้อย คือ กว่า 70%
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559)
• ชื่อโครงการ: เทล่า ทองหล่อ (Tela Thonglor)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เกษร พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด
• ทำเลที่ตั้ง: ปากซอย ทองหล่อ 13 ถนน สุขุมวิท แขวง คลองตันเหนือ เขต วัฒนา กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 3 งาน 63 ตร.ว.
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ความสูง 32 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 84 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่ม ครอบครัวระดับไฮเอนด์ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตท่ามกลางความสะดวกสบายใจกลางทองหล่อ
สถานะก่อสร้าง: ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จ 100% ช่วงปลายปี 2562
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card ในการผ่านเข้า-ออก กล้อง CCTV Monitoring & Control และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็น ชั้น 1 ประกอบด้วย ห้องสมุด, ล็อบบี้ และชั้น 5 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องโยคะ, ซาวน่า, Treatment Room, Kid’s Play Room และ BBQ Area
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสารส่วนตัว ทุกยูนิต (บริเวณล็อบบี้มีลิฟท์ 4 ตัว) และลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 2 – 4 (คิดเป็น 169% หรือ 142 คัน ไม่รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: นับตั้งแต่เปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14-15 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา มียอดขายไปแล้วกว่า 70%
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 1,000 บาท/ ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 120 บาท/ ตร.ม. / เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ราคาขายเริ่มต้น: 33 ล้านบาท
ราคาขายเฉลีย: 300,000 บาท/ ตร.ม.
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 200,000 บาท พร้อมทำสัญญา 10% ของราคาห้อง
เว็บไซต์: telathonglor.com
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Fitted
Tela Sienna / Tela Amber (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) ขนาด 111 ตร.ม.
Tela Legacy Suite A (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ) ขนาด 202 ตร.ม.
Tela Legacy Suite B (3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ) ขนาด 201 ตร.ม.
Signature (3+1 ห้องนอน) ขนาด 245 ตร.ม.
Sky Duplex Suite (4 ห้องนอน) ขนาด 280 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ทองหล่อ ถือได้ว่าเป็นย่านที่หาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่อย่างคอนโดฯ ผุดขึ้นได้ยากแล้ว ดังนั้นเมื่อมีโครงการใหม่เกิดขึ้นในซอยดังกล่าวจึงค่อนข้างได้รับความสนใจในกลุ่มผู้อยู่อาศัยระดับ A+ และเหล่านักลงทุน เฉกเช่นเดียวกับ เทล่า ทองหล่อ ซึ่งได้ยึดครองที่ดินบริเวณปากซอยทองหล่อ 13 (เดิมเป็นร้านอาหารต้นเครื่องมาก่อน) ให้กลายเป็นคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ที่เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนห้องชุดทั้งหมดเพียง 84 ยูนิต หรือชั้นละ 4 ห้องเท่านั้น โดยแบ่งออกเป็น ขนาด 2 ห้องนอน 40 ยูนิต 3 ห้องนอน ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของโครงการอีก 40 ยูนิต 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ หรือ ซิกเนเจอร์ สวีท อีก 2ยูนิต ปัจจุบันมีผู้สนใจจับจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสุดท้ายห้องสกาย ดูเพล็กซ์ สวีท อีก 2 ยูนิต โดยเป็นห้องชุดที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด
จากโมเดลจะเห็นว่าตัวอาคารหันหน้าไปทางถนนภายในซอยทองหล่อหรือทิศตะวันออก โดยมีทางเข้า 2 ด้าน ทางหลักจะอยู่ติดถนนใหญ่ซอยทองหล่อ ส่วนอีกทางคือด้านข้าง และสำหรับยูนิตพักอาศัย ระเบียงจะหันออกไปทางฝั่งทิศตะวันออก (วิวฝั่งเอกมัย) และ ทิศตะวันตก (วิวฝั่งพร้อมพงษ์)
ตอนนี้ทางเข้าพื้นที่ก่อสร้างจะอยู่ทางซอยทองหล่อ 13 เนื่องจากบริเวณทางเข้าหลัก ณ ขณะนี้คือพื้นที่สำนักงานขาย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
เจ้าของโปรเจค อย่างเกษร พร็อพเพอร์ตี้ ได้ออกแบบตัวอาคารให้มีความหรูหรา เพื่อให้สมกับเป็นที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นอกจากจำเป็นต้องมีความหลากหลายแล้ว ยังต้องพิเศษและแตกต่างจากโครงการอื่น ซึ่งอยู่ระดับเดียวกัน ในละแวกทองหล่อ ไม่ว่าจะเป็นโซนสิ่งอำนวยความสะดวก ชั้น 5 ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ Lapis Deck ที่มีความยาวถึง 25 เมตร หรือแม้กระทั่งฟิตเนส Pulse Fitness and Pause Spa ที่คัดสรรอุปกรณ์ เครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยแล้วยังได้จัดสรรพื้นที่บางส่วนให้เป็นสปา และบิ้วตี้ชาลอนส่วนตัวอีกด้วย นอกจากนี้ในชั้นเดียวกันยังประกอบไปด้วยห้องโยคะ, ซาวน่า, Treatment Room, Kid’s Play Room และ BBQ Area ไว้รองรับความต้องการของกลุ่มผู้อยู่อาศัย ส่วนชั้นล่างออกแบบให้เป็นล็อบบี้หรือโถงต้อนรับ ซึ่งรายล้อมด้วยความร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ
ชั้น 5 ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ สระว่ายน้ำระบบเกลือ ความยาว 25 เมตร, ฟิตเนส, ห้องโยคะ, ซาวน่า, Treatment Room, Kid’s Play Room และ BBQ Area
รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ห้องนั่งเล่น และห้องนอน เป็นพื้นเอ็นจิเนียริ่ง วูด ส่วนพื้นที่เตรียมอาหาร เป็นกระเบื้องหินอ่อน
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 3.20 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 2 เมตร ส่วนความยาวขึ้นอยู่กับขนาดห้อง
ประตู: Digital Door Lock
ระบบไฟ: Downlight
ชุดครัว: Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมติดตั้งชุดเครื่องครัวจาก Binova และเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Bertazzoni
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Duravit
อุปกรณ์ห้องน้ำ: Hansgrohe
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: แบบซ่อนฝ้า
จากรูปคือห้องตัวอย่างรูปแบบ Tela Legacy Suite A ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม. โดยประตูเข้าห้องเป็น Digital Door Lock และในรูปฝั่งซ้ายมือคือพื้นที่ของลิฟท์ส่วนตัว
เมื่อเข้ามาด้านในจะพบว่าบริเวณพื้นที่ห้องนั่งเล่น เป็นโถงค่อนข้างกว้าง ดังนั้นจึงสามารถนำโซฟาขนาดใหญ่มาวางได้ดังรูป
มาดูอีกด้านหนึ่งของพื้นที่ห้องนั่งเล่น เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างมาก จึงสามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาด 8 ที่นั่งมาวางเพิ่มเติมได้
ประตูที่เห็นในรูป หากเปิดไปคือส่วนพักอาศัยของแม่บ้าน ภายในจะประกอบไปด้วยครัว ห้องนอน และห้องน้ำ แยกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน
ทางโครงการได้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวพร้อมติดตั้งชุดเครื่องครัวจาก Binova และเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Bertazzoni ให้ด้วย
กลับมาดูพื้นที่ระเบียง ซึ่งเป็นจุดเด่นของโครงการ โดยมีความยาวถึง 17 เมตร และความกว้างเกือบ 3 เมตร พร้อมราวกันตกที่ใช้วัสดุกระจกลามิเนต ซึ่งมีคุณสมบัติหากแตกยังคงเกาะเป็นแผ่นอยู่ และด้วยความสูงและสีทึบ จึงทำให้ระหว่างที่ผู้พักอาศัยนั่งพักผ่อน คนภายนอกจะไม่สามารถมองเห็น ให้ความส่วนตัวอย่างแท้จริง
โดยภายในห้องนี้ มีห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งในตัวให้ด้วย โดยใช้สุขภัณฑ์จาก Duravit ส่วนอุปกรณ์ห้องน้ำเป็นของ Hansgrohe
ออกมาจากห้องน้ำภายในห้องอเนกประสงค์ มาดูทางเดินหลักไปยังห้องต่างๆ ซึ่งมีความกว้างประมาณ 1.50 เมตร โดยฝั่งตรงข้ามห้องอเนกประสงค์ จะเป็นห้องน้ำดังรูป
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
โครงการตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของย่านสุขุมวิท ในซอยสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อ ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนกระเป๋าหนักมาตั้งแต่สมัยอดีต เนื่องจากที่ดินบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นของเหล่าผู้ดีเก่า สังเกตได้จากตามตรอกซอกซอยยังพบเห็นบ้านเดี่ยวเนื้อที่กว้างขวางที่ปลูกมานาน อีกทั้งตำนานของโชว์รูมเบนซ์ทองหล่อ ยังคงทำให้เหล่านักสะสมรถหรูต่างต้องเดินทางมาจับจองกันเป็นทิวแถว ภาพลักษณ์ของซอยทองหล่อเป็นเหมือนจุดเช็คอินของกลุ่มผู้มีอันจะกิน อาจเป็นเพราะบรรดาร้านค้า ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ หรือแม้กระทั่งของขายข้างทางยังมีราคาจำหน่ายสูง รวมไปถึงที่จอดรถ ซึ่งดูเหมือนเป็นเงินเป็นทองไปหมด นั่นเป็นเพราะมูลค่าของที่ดินในซอยทองหล่อที่สูงลิบลิ่ว โดยมีราคาเฉียดตารางวาละล้าน ไปทุกที ดังนั้นจึงมักไม่ค่อยพบที่ดินเปล่าในย่านนี้เท่าไหร่นัก เพราะถูกบรรดาผู้ประกอบการแห่กันเข้ามาจับจอง ไว้หมดแล้ว ในขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยที่เกิดขึ้นในซอยนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมในระดับไฮเอนด์และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่มีราคาขายเฉลี่ย 200,000 – 300,000 บาท / ตร.ม. และมักจะชูไฮไลท์ในเรื่องของความหรูหรา มีระดับ รายล้อมด้วยสถานที่ไลฟ์สไตล์ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโรงแรม 5 ดาว พร้อมด้วยการเดินทางแสนสะดวก เนื่องจากซอยดังกล่าวอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท ประกอบกับผู้ที่ใช้รถใช้ถนน แม้การจราจรในซอยนี้จะค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงวันศุกร์-เสาร์เนื่องจากเป็นแหล่งรวมผับ บาร์ ร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงสถานที่ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ตลอดซอย แต่ถึงกระนั้น ก็ยังสามารถเลือกเส้นทางหลบเลี่ยงได้ เนื่องจากถนนสุขุมวิทแต่ละซอยจะเชื่อมต่อกัน รวมไปถึงเส้นเพชรบุรี พระราม 9 ได้ และด้วยจุดเด่นของทำเลนี้เอง จึงทำให้ย่านทองหล่อเป็นที่ต้องการของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่นิยมเข้ามามาอาศัยอยู่ในย่านดังกล่าวตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
การเดินทาง
รถไฟฟ้า
ใช้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ลงสถานีทองหล่อ จากนั้นให้เลือกทางออกที่ 3 แล้วใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ต่อมาลงซอยทองหล่อ 13 โครงการตั้งอยู่บริเวณปากซอย
รถยนต์
ทางเลือกที่1 หากมาจากเส้นสุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือทองหล่อ บริเวณสี่แยกไฟแดง จากนั้นตรงเข้ามาประมาณ 1 กม. ให้สังเกตป้ายซอยทองหล่อ 13 โครงการอยู่บริเวณปากซอย ติดกับสตาร์บัคส์ คอฟฟี่
ทางเลือกที่ 2 หากมาจากเพชรบุรี ให้เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 55 หรือทองหล่อ ข้ามสะพานข้ามคลองแสนแสบมาประมาณ 1.2 กม. ให้สังเกตอาคาร Home Place Building อยู่ขวามือ ให้เตรียมเลี้ยวเข้าโครงการ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 13
สภาพจราจรของซอยทองหล่อในช่วงสาย ถือว่ายังคล่องตัวดีอยู่ แต่หากเป็นตอนเย็นจนถึงค่ำจะติดขัดมาก โดยเฉพาะช่วงวันศุกร์-เสาร์ เนื่องจากตลอดซอยอัดแน่นไปด้วยผับ บาร์ ร้านอาหารมากมาย
ทางเข้าหลักของโครงการเทล่า ทองหล่อ อยู่ในซอยทองหล่อ 13 โดยสภาพถนนภายในซอยจะเป็นแบบสองเลนให้วิ่งสวนกันได้ และซอยนี้มักใช้เป็นเส้นทางลัดทะลุซอยสุขุมวิท 49 และ 39
สถานที่แนว Lifestyle
ปัจจุบันเมื่อพูดถึงแหล่งรวมสถานที่แฮงก์เอาท์สุดชิค เชื่อว่าหลายคนคงมุ่งเป้าไปที่ “ทองหล่อ” หรือ ซอยสุขุมวิท 55 เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีสถานที่ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก ล่าสุด มีคอมมูนิตี้มอลล์เพิ่งเปิดตัวใหม่ ถึง 3 แห่ง ได้แก่ 72 Courtyard, The Commons และ Maze Thonglor ซึ่งแต่ละแห่งรวบรวมร้านอาหารสุดเก๋ มีดีไซน์ ที่สำคัญมีชื่อเสียง จึงทำให้บรรดาวัยรุ่น คนทำงาน และชาวต่างชาติ เดินทางมาเพื่อเช็คอิน ชิมรสชาติ เสพบรรยากาศแบบชิคๆ กับย่านที่เต็มไปด้วยสีสันและความคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นร้าน Roast Café (ตั้งอยู่ในโครงการ The Commons ทองหล่อ 17 ห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร ) ที่โดดเด่นในการคัดสรรเมนูกาแฟและบรันช์ หรือจะเป็น Egg My God (ตั้งอยู่ใน The Commons ทองหล่อ 17 เช่นกัน) ร้านในเครือบ้านหญิงซึ่งสร้างสรรค์เมนูตระกูลไข่ทั้งหมด ส่วนเรื่องรสชาติ และหน้าตาแต่ละจานอร่อยชวนลอง ไม่ว่าจะเป็น สเต็กเนื้อออสเตรเลียโปะบนไข่คนและครีมชีส หรือแม้แต่ของหวานอย่างทาร์ตคัสตาร์ด ที่ทำให้เมนูง่ายๆ ดูมีสีสันมากขึ้น
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
ศักยภาพของพื้นที่ทองหล่อซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการนั้น เปรียบเสมือนไข่แดงของเส้นสุขุมวิท เนื่องจากเป็นย่านที่เป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของคอมมูนิตี้มอลล์กว่า 10 แห่ง รวมถึงแหล่งที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ไปจนถึงระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายเฉลี่ยถึง 300,000 บาท / ตร.ม. จากผลของปัจจัยมูลค่าที่ดินตารางวาละเฉียดล้าน แต่ถึงกระนั้นกลับมีผู้สนใจซื้อและลงทุนอย่างคึกคักพอสมควร เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ไม่ค่อยพบโปรเจคอสังหาฯ มาพัฒนาในซอยทองหล่อเท่าไรนัก ดังนั้นหากลงทุนจึงทำให้มีกลุ่มผู้อยู่อาศัยระดับผู้บริหาร รวมถึงชาวต่างชาติให้ความสนใจ โดยหากปล่อยเช่าระยะยาวในย่านนี้จะได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงถึง 80,000 – 100,000 บาท/ เดือน สำหรับห้องชุดที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ขึ้นไป
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
Kraam Sukhumvit 26
Kraam Sukhumvit 26 ภาพ via nyeestate.co.th
ชื่อโครงการ: คราม สุขุมวิท 26
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอย สุขุมวิท 26 (รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์) ถนน สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.
เว็บไซต์: nyeestate.co.th
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 3 งาน 91 ตร.ว.
พื้นที่ห้องชุด: 61 – 228.5 ตร.ม.
รูปแบบ: อาคารสูง 29 ชั้น 1 อาคาร รวมยูนิตที่อยู่อาศัยทั้งหมด 128 ยูนิต เป็นรูปแบบ 1-3 ห้องนอน และเพ้นท์เฮ้าส์
ที่จอดรถ: 140 %
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 275,000 บาท / ตร.ม.
The Diplomat 39
The Diplomat 39 ภาพ via kpnland.com
ชื่อโครงการ: เดอะ ดิโพลแมท 39
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: สุขุมวิท 39 (ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ 100 เมตร) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
เว็บไซต์: kpnland.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 3 งาน 30 ตร.ว.
พื้นที่ห้องชุด: 54 – 450 ตร.ม.
รูปแบบ: อาคารสูง 31 ชั้น 1 อาคาร รวมยูนิตที่อยู่อาศัยทั้งหมด 156 ยูนิต เป็นรูปแบบ 1-3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ และเพ้นท์เฮ้าส์
ที่จอดรถ: 100 %
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 280,000 บาท / ตร.ม.
สรุป
บทสรุป
เทล่า ทองหล่อ ถือได้ว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่ตั้งอยู่ในทำเลไพร์ม ของเส้นสุขุมวิทอย่างทองหล่อที่ถูกรายล้อมไปด้วยสถานที่แนวไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่ต้นไปจนถึงปลายซอย จึงทำให้กลายเป็นย่านที่เหล่านักลงทุน และผู้ประกอบการต่างจับตามองเป็นพิเศษ เพราะต่างเติมเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งงานของคนเมือง รวมถึงตั้งอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า พร้อมเชื่อมต่อเส้นทางกับสุขุมวิทหลากหลายซอย ทั้งฝั่งพร้อมพงษ์ และเอกมัย รวมถึงเพชรบุรี จนทำให้เหล่ากลุ่มผู้ซื้อกระเป๋าหนักทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความนิยมมาอยู่อาศัยในย่านนี้ แม้ว่าอสังหาฯ ในย่านนี้จะมีราคาขายเฉลี่ยที่สูง อยู่ที่ 200,000 – 300,000 บาท / ตร.ม. ก็ตาม ทั้งนี้หากพิจารณาถึงการขายต่อหรือปล่อยเช่าระยะยาว ถือว่าได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยอยู่ที่ 80,000 – 100,000 บาท / เดือน สำหรับห้องชุดที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ขึ้นไป นอกจากศักยภาพของทำเลที่ตั้งแล้ว ตัวโครงการเองก็น่าสนใจ ด้วยความที่เป็นโครงการที่พัฒนาโดยดีเวลลอปเปอร์ที่โฟกัสตลาดไฮเอนด์ การออกแบบโครงการที่เน้นความเอ็กซ์คลูซีฟ เป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตที่มีไม่ถึง 100 ยูนิตและห้องชุดเป็นห้องขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี การเป็นโครงการที่ผุดขึ้นมาในทำเลที่หาที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆ ได้ยากมากในปัจจุบันอย่างทองหล่อ ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่ง rare item ที่หากใครมีกำลังซื้อเชื่อว่าคงต้องเอาโครงการนี้มาใส่ใน Wish List ของตัวเองแน่นอน
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ