พรีวิวโครงการใหม่: เมโทร สกาย โวค จรัญฯ 13 (Metro Sky Vogue Charan 13)

พื้นที่จรัญสนิทวงศ์ที่เป็นชุมชนดั้งเดิมเก่าแก่ พื้นที่ส่วนใหญ่ยังมีกลิ่นอายของความโบราณ Concept ของโครงการ เมโทร สกาย โวค จรัญฯ 13 (Metro Sky Vogue Charan 13) จึงถูกออกแบบมาให้เปลี่ยนแปลงพื้นที่การอยู่อาศัยบริเวณนี้ให้มีความหรูหราขึ้นด้วยดีไซน์ของ 3 ส่วนหลักๆ คือ

High Class Facilities ส่วนกลางสุดหรูที่ยกต้นแบบจากคอนโดมิเนียมในเมืองออกมา ประกอบไปด้วยส่วนกลางระดับพรีเมี่ยม อาทิ Lobby Triple Volume, Sky Oasis, Premium Onsen, Sparking Star Pool, Sky Loung เป็นต้น

High Class Design ออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยสไตล์ Voque ที่เปิดพื้นที่โล่งกว้างในห้องให้เชื่อมถึงกันและกัน พร้อมตัวอาคารสไตล์โมเดิร์นเพิ่มความทันสมัยให้พื้นที่บนถนนจรัญฯ

High Class Valuable ที่ดึงเอาศักยภาพทำเลบริเวณจรัญฯ 13 ออกมาจากการที่โครงการตั้งอยู่บนทำเลที่อยู่ไม่ไกลทั้ง สถานศึกษา สถานพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และสามารถเชื่อมต่อไปสู่เมืองได้จากระยะห่างของโครงการกับสถานีรถไฟฟ้าจรัญฯ 13 ที่ 150 ม. เท่านั้น

ที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หากนับจากฝั่งที่ดินที่ติดอยู่กับถนนจะเป็นที่ดินแนวลึกเข้ามา ด้านหน้าโครงการที่เป็นทางเข้า – ออกหลักของโครงการขนาดกว้างไม่มากหันหน้าไปทางทิศตะวันออกพอดี ส่วนด้านหลังโครงการที่มีหน้ากว้างพอๆกับด้านหน้าก็หันไปทางทิศตะวันตก เพราะฉะนั้นพื้นที่ด้านกว้างของที่ดินทางฝั่งทิศเหนือและทิศใต้จึงถูกนำมาใช้สอยประโยชน์ด้วยการสร้างอาคารให้มียูนิตที่พักอาศัยที่หันไปทางสองทิศนี้เท่านั้น

ข้อดีของทิศเหนือ และทิศใต้ก็คือเรื่องของความร้อนที่ลดลงมากจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก ซึ่งไม่ตรงกับพระอาทิตย์ขึ้นและตกนั่นเอง โดยทั้งนี้ยูนิตทางทิศใต้จะร้อนกว่าทิศเหนือไม่มากก็น้อย เนื่องจากพระอาทิตย์จะอ้อมทิศใต้จากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก ส่วนเรื่องการเทควิวของยูนิตทุกชั้น ณ ปัจจุบันรอบๆ โครงการยังเป็นพื้นที่ของชุมชนดั้งเดิม ไม่มีอาคารสูงมาบล็อควิว โดยรอบประกอบไปด้วยอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 2 – 4 ชั้น ซึ่งหากเมื่ออาคารสร้างเสร็จพร้อมอยู่ยูนิตทั้ง 2 ฝั่งทั้งทางใต้ทางเหนือจะมองเห็นแนวการเดินทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน

พื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าบนถนนจรัญสนิทวงศ์ยังไม่ได้ถูกการันตีว่าเป็นเมืองแห่งใหม่ ถึงแม้จะมีส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินออกมารองรับ แต่ปัจจุบันการจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนแนวรถไฟฟ้าสายนี้ก็ยังมีต้นทุนที่สูง และมีความเสี่ยงในอนาคตว่าจะสามารถดึงดีมานด์ในเมืองออกมาได้หรือไม่ โครงการส่วนใหญ่บริเวณนี้จึงมักพัฒนาคอนโดมิเนียมออกมาให้มียูนิตที่ค่อนข้างเยอะ พร้อมส่วนกลางขนาดใหญ่ และปล่อยขายออกมาในราคาไม่ถึง 3 ล้านบาท

ตัวโครงการ เมโทร สกาย โวค จรัญฯ 13 (Metro Sky Vogue Charan 13) ก็เป็นหนึ่งในโครการที่มี Facilities ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากโครงการที่เป็นคู่แข่งบนย่านนี้มากนัก ซึ่งจะประกอบไปด้วย Triple Volume Lobby Lounge, Main Garden, Step Garden (9-10th floor), Sparkling Star Pool, Stream, Sky View Fitness, Yoga Room, Play Room (Pool Table/Ball Room/Golf&Tennis Simulator Room), Theatre, On-Zen, Co-Working Space, Meeting Room, Sky Lounge, Sunset Deck, Sky Garden (Roof Top) ทั้งนี้ที่เห็นชัดๆ ว่ามีความแตกต่างจากโครงการอื่นก็คือจำนวนยูนิต 672 ยูนิตกับลิฟท์โดยสารถึง 4 ตัว โดยเฉลี่ยออกมาแล้วจะมีอัตราการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 150 ยูนิตต่อตัว ซึ่งโครงการอื่นๆ ย่านนี้บางโครงการมีอัตราเฉลี่ยทะลุไปที่เกิน 200 ยูนิตต่อตัวซึ่งค่อนข้างหนาแน่นมากเลยทีเดียว

หากใครเคยเห็นโครงการ เมโทร สกาย ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่บนทำเลอื่นๆ น่าจะได้เห็นความโมเดิร์นของคอนโดมิเนียมแบรนด์นี้อยู่ ตัวอาคารที่เป็นตึกทรงเรียวสูงเฉียดฟ้าพร้อมกับบานกระจกแบบ Full Height ของยูนิตต่างๆ ค่อนข้างมีความลงตัว และน่าจะเป็นดีไซน์ที่นำมาใช้ใน เมโทร สกาย โวค จรัญฯ 13 (Metro Sky Vogue Charan 13) ตัวนี้อยู่ โดยถ้าหากสร้างเสร็จน่าจะเปลี่ยนบรรยากาศย่านจรัญฯ 13 ให้ดูทันสมัยขึ้นพอสมควร

ส่วนภายในยูนิตถึงแม้ Concept ของโครงการจะเน้นไปที่ความ High Class แต่ด้วยราคาเริ่มต้นที่ไม่เกิน 90,000 บาทต่อตารางเมตร วัสดุภายในห้องก็ยังเป็นวัสดุมาตรฐานที่โครงการตามดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังทั่วไปเลือกใช้หรืออยู่ในเกรด B-C ประกอบไปด้วย พื้นห้องที่โครงการเลือกใช้ไม้ลามิเนต และกระเบื้องเซรามิกที่ห้องน้ำกับระเบียง ส่วนวัสดุพื้นผิวของผนังฝ้าเพดานก้ยังคงเป็นแบบฉาบปูนทาสี ยิปซั่มบอร์ด โครงการเลือกใช้บานประตูแบบ HDF วงกบต่างๆ เป็น UPVC กันความร้อนพร้อมบานหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสง ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ ก็จะเป็นของ COTTO ใน Serie เริ่มต้น โดยรวมวัสดุไม่ได้ดูหรูหรามาก แต่ก็สามารถใช้งานได้ตามมาตรฐานสากลของโครงการที่อยู่ในเซกเมนต์นี้

ห้องขนาด 28 ตารางเมตร เป็นขนาดเริ่มต้นของห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ในห้องจัดเเป็นสัดส่วนแบ่งออกเป็นห้องครัวปิด ห้องนอน และห้องน้ำ โครงการออกแบบ Layout ห้องออกมาในรูปแบบธรรมดาๆ แต่ตอบโจทย์คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวได้ดี

ภายในห้องครัวเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มาก แต่สามารถจัดสรรให้มีพื้นที่เตรียมครัววางไว้คู่กับโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ชุดครัวที่โครงการมอบให้มีทั้ง Hob & Hood และซิงค์ล้างจานแบบบิวท์อิน การเชื่อมต่อไประเบียงห้องจำเป็นต้องเดินผ่านห้องครัว

ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่บริเวณใกล้ชั้นวางทีวีและห้องนอน ถ้าออกจากห้องนอนมาสามารถเลี้ยวเข้าห้องน้ำได้เลย ภายในห้องน้ำเป็นพื้นที่ใช้สอยรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีห้องอาบน้ำอยู่ด้านในสุด

สุขภัณฑ์ที่โครงการมอบให้เป็นของ COTTO ทั้งหมด ดีไซน์ของสุขภัณฑ์เป็นสไตล์โมเดิร์นเน้นโทนสีขาวเป็นหลัก

ภายในห้องอาบน้ำโครงการมอบบานกั้นห้องอาบน้ำให้เป็นบานประตูแบบผลักเข้า ซึ่งค่อนข้างเปลืองพื้นที่ในการเข้า-ออกเล็กน้อย อุปกรณ์ประเภท ฝักบัว ก็อกน้ำ ชั้นวางของที่โครงการมอบให้เป็นสีสแตนเลส ที่อาบน้ำมี Rain Shower และฝักบัวแบบปรับระดับน้ำได้

ห้องนอนเป็นห้องสี่เหลี่ยมจตุรัสสามารถเลือกวางได้ทั้งเตรียง 5 ฟุต 6 ฟุต แต่ทั้งนี้หากเลือกเฟอร์นิเจอร์เตียง ตู้ ชั้นที่ให้ญ่มากก็จะเหลือพื้นที่แต่งตัวหน้าตู้เสื้อผ้าค่อนข้างน้อยลง

บานกระจกในห้องนอนเป็นบานกระจกแบบ Full Height แบ่งออกเป็นบานฟิกซ์ 2 ช่อง บานกระทุ้งที่สามารถเปิดออกได้ประมาณ 45 องศาอีกหนึ่งช่่อง ส่วนในภาพด้านล่างเป็นพื้นที่ที่เหลือหน้าตู้เสื้อผ้าสำหรับการตกแต่งห้องด้วยเตียงขนาด 5 ฟุต

ห้องนอนขนาด 34 ตร.ม. ยังคงเป็นห้อง 1 ห้องนอน แต่ได้ในส่วนของพื้นที่ใช้สอยระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเพิ่มขึ้น และยังคงแบ่งพื้นที่ต่างๆ เป็นสั่ดเป็นส่วน ยกเว้นบริเวณห้องครัวที่ถูกแต่งเป็นครัวแบบเปิด

โครงการให้ไอเดียจัดสรรห้องครัวเป็นครัวเปิด ทั้งนี้หากใครต้องการแบ่งพื้นที่ในห้องให้ชัดเจนก็สามารถติดตั้งบานกั้นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวได้  โดยทั้งนี้เองจากภาพห้องตัวอย่างจะเห็นว่าการตกแต่งห้องด้วยครัวแบบเปิด จะทำให้มี Space การใช้งานค่อนข้างเยอะสามารถวางได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะรับประทานอาหาร โดยเหลือพื้นที่เตรียมครัวไว้เยอะมากเลยทีเดียว

ถัดมาจากห้องครัวเป้นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อไปสู่พื้นที่ด้านในสุดหรือมุมโต๊ะทำงาน โดยมีตำแหน่งของห้องนอนอยู่ที่ด้านหลังห้องนั่งเล่น โครงการเลือกใช้บานประตูกั้น 3 ตอน เพื่อให้ห้องนั่งเล่นมีความอเนกประสงค์และปรับการใช้งานร่วมกับห้องนอนได้

อุปกรณ์ภายในห้องน้ำเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สุขภัณฑ์และก็อกน้ำเป็นของ COTTO ทั้งหมด ใต้อ่างล้างหน้ามีชั้นเก็บของแบบมีบานปิดมอบให้

พื้นที่อาบน้ำเป็นบล็อคสี่เหลี่ยมจตุรัส ค่อนข้างใช้งานลำบากพอตัวสำหรับคนตัวใหญ่ หากสังเกตจากภาพจะเห็นรัศมีของขอบประตูที่ตีวงตอนเปิดโดยเหลือพื้นที่ให้ยืนในมุมห้องน้ำเพียงนิดเดียวเท่านั้น

ตำแหน่งของห้องน้ำอยู่บริเวณห้องครัวและห้องนอน โครงการออกแบบให้มีฟังก์ชันแบบ Double Access สามารถเขข้าห้องน้ำได้ 2 ประตู ดังนั้นภายในห้องนอนของห้อง 34 ตร.ม. จึงมีห้องน้ำในตัวด้วย

ระเบียงของห้อง 1 ห้องนอนขนาด 34 ตร.ม. ไม่ได้เชื่อมต่อกับห้องครัวเหมือนห้องขนาด 28 ตร.ม. แต่ตำแหน่งของระเบียงจะอยุ่ติดกับห้องนอน ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ เพราะจริงๆแล้วตำแหน่งของระเบียงใกล้ห้องครัวจะได้เปรียบเรื่องการระบายกลิ่นระหว่างทำครัว แต่ทั้งนี้ก็เสียเปรียบในเรื่องของกลิ่นที่ไปรบกวนห้องค้างเคียงด้วย

พื้นที่ของมุมโต๊ะทำงานอยู่ด้านในสุดของห้อง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีบานกระจกใสแบบ Full Height รอบห้อง มีบานกระทุ้ง 1 บานที่สามารถเปิดรับลมได้ จากภาพห้องตัวอย่างจะเห็นว่าจากมุมนี้สามารถมองผ่านไปยังระเบียงห้องได้เลย