รีวิวโครงการ: เวอรีเดียน พรอมท์ (Viridian Prompt)

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีป้อมยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ลูกบ้าน เข้า-ออก โครงการด้วย Key Card Access

โดยรวมภายในโครงการกำลังดำเนินการก่อสร้างในส่วนของเฟสที่ 1 อยู่ โดยในแต่ละซอยยูนิตจะมียูนิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-8 ยูนิตเท่านั้น ส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นที่แตกต่างจากทาวน์โฮมอื่นๆ ก็คือ ระบบเสาไฟฟ้าที่โครงการออกแบบให้ตั้งอยู่ในตำแหน่งตามแนวถนนโครงการโดยไม่ได้บังวิวหน้าบ้านเหมือนโครงการทั่วไปที่พบเห็นได้บ่อยมาก

แบบบ้านตัวอย่างของทาวน์โฮมหน้ากว้าง 6.5 ม. สามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงสร้างบ้านจะเป็นแบบก่ออิฐมวลเบา ดีไซน์บ้านสไตล์โมเดิร์นหลังคาเป็นแบบแบนราบ

แบบบ้านจริงบริเวณพื้นลานจอดรถจะเป็นซีเมนต์ปาดเรียบไม่ได้จัดสวนให้ตามภาพ

บ้านตัวอย่างเป็นบ้านแปลงมุมจึงได้พื้นที่ในส่วนของพื้นที่ด้านข้างเพิ่มตัว หากเป็นยูนิตอื่นๆ ที่ไม่ใช่แปลงมุม พื้นที่ด้านข้างจะลดลงสิ้นสุดที่ Layout ผนังบ้านตรงที่มีบานหน้าต่างทรงสูง

จากมุมนี้จะเห็นว่าเฉลียงบ้านที่ยื่นออกมาสูงจากพื้นพอสมควร จากนั้นบริเวณธรณีบานประตูก็ถูกยกขินสูงมาอีกสเต็ปหนึ่ง โดยรวมน่าจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 30 ซม. ซึ่งหากรวมกับการถมดินของที่ดินโครงการขึ้นมาจากพื้นถนนประกอบกับคลองที่ตัดผ่านหน้าโครงการที่น้ำคงสามารถช่วยในเรื่องของอุบัติภัยน้ำท่วมได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากโซนตะวันตกถือเป็นหนึ่งในโซนที่เสี่ยงเรื่องน้ำท่วมหากฝนตกหนักพอสมควร

บริเวณประตูทางเข้า – ออกหลักหน้าบ้านเป็นบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสงวงกบอลูมิเนียมสีดำ ระบบล็อคประตูเป็นแบบล็อคมือได้จากด้านละใช้กุญแจล็อคจากด้านนอกได้

ภายในบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยแบบหน้ากว้างให้อารมณ์บ้านเดี่ยวถึงแม้ภายในจะเป็นพื้นที่แบบเปิดไม่มีผนังกั้น แต่ก็สามารถต่อเติมเองได้ พื้นที่ใช้สอยในห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างมาก สังเกตจากระยะของชั้นวางทีวีถึงโซฟาเรียกได้ว่าติดตั้งทีวีที่มีขนาดใหญ่กว่า 60 นิ้วก็ยังสามารถรับชมภาพยนตร์ได้สบายตา

แบบบ้านจริงผนังบ้านจะเป็นโครงสร้างอิฐมวลเบาฉาบเรียบทาสีขาว ขนาดความยาวของผนังด้านนี้สามารถจัดวางโซฟาแบบยาว 4-5 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้เลย

ด้วยทางเข้า – ออกบ้านที่เป็นบานประตูเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง ทำให้ช่วงเช้าถึงเย็นยังพอมีแสงธรรมชาติส่งเข้าบ้านได้ตามภาพถึงจะอยู่ในทิศที่ไม่ตรงกับแสงแดด

โครงการจัดสรรห้องนั่งเล่นด้วยการวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง โดยยังเหลือพื้นที่ด้านข้างโซฟาให้วางโคมไฟอีกประมาณ 30 ซม.

ฝั่งตรงข้ามโซฟาจะเป็นตำแหน่งของบันไดบ้านที่อยู่ใกล้กับทางเข้า – ออกโครงการ ถัดมาเป็นชั้นวางทีวีที่โครงการจัดสรรไว้เป็นไอเดียให้เข้ามุมกับบริเวณชานบันได 2 ขั้นแรก ต่อมาจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได ส่วนด้านในสุดจะเป็นตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่าง

ด้วยตำแหน่งของบันไดที่อยู่ติดกับผนังหน้าบ้าน ทำให้บริเวณชานพักบันไดสามารถดีไซน์ช่องวอยซ์รับแสงช่วยประหยัดไฟตอนกลางวันได้

บานประตูห้องเก็บของและบานประตูห้องต่างๆ เป็นบานวัสดุ HDF (ไม้อัดที่มีความหนาแน่นสูง) วงกบไม้เบจพรรณ กลอนลูกบิดของประตูต่างๆ เป็นแบบธรรมดา

ถัดมาจากห้องนั่งเล่นเป็นพื่นที่ของห้องครัว ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าห้องนั่งเล่นพอสมควร โครงการจึงจัดสรรให้มีทั้งครัวเปิด ชั้นวางของ และไอซืแลนด์สำหรับเตรียมครัว พร้อมโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสมาชิกครอบครัว 4-5 คนได้สบายๆ หากใครที่ชอบครัวปิดก็สามารถทำผนังกั้นส่วนได้ หรือ ย้ายครัวออกไปหลังบ้านพื้นที่ใช้สอยในส่วนนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนที่ 4 ได้ไม่ยากเลย

พื้นที่โดยรวมในส่วนของห้องครัว สามารถเดินเสิร์ฟอาหารได้รอบโต๊ะสบายๆ หรือจะจัดโต๊ะรับประทานอาหารให้มีขนาดใหญ่กว่านี้ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบโต๊ะได้อยู่

ด้วยความกว้างกว่า 6.5 ม.ของหน้าบ้านจึงทำให้บริเวณผนังบ้านด้านข้างที่ยื่นออกมาตามแบบแปลนสามารถจัดทำเป็นมุมโชว์ของหรือโต๊ะทำงานได้ตามภาพ

โครงการจัดสรรบ้านตัวอย่างให้มีทั้งเคาท์เตอร์ครัว และไอซ์แลนด์ สามารถเตรียมครัวได้ 3-4 คนเลยทีเดียว เพราะพื้นที่ใช้สอยส่วนนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในตัวบ้านก็ว่าได้

จากมุมนี้จะเห็นตำแหน่งของห้องน้ำกลางที่อยู่ด้านในสุดของบ้านชั้นล่าง และเชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องครัว

ภายในเป็นห้องน้ำแบบดร็อปพื้นลงจากพื้นบ้านเพื่อป้องกันน้ำไหลตาม- กระเบื้องที่โครงการมอบให้มีลวดลายและลูกเล่นในการหลอกสายตาเพื่อขยายพื้นที่ห้องน้ำ

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแบบพื้นที่ใช้สอยแนวยาวด้านหนึ่งเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ มีรัศมีการใช้งานโถสุขภัณฑ์ที่ประมาณเกือบๆ 1 ม. ผนังด้านหลังสองข้างมีในส่วนของชั้นวางของบิวท์อิน กล่องทิชชู่ และสายชำระ

ในส่วนของผนังอีกฝั่งเป็นเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้ารุ่นสลิม มีขนาดบางสวยงามสไตล์โมเดิร์น แต่ก็มีความลึกของการใช้งานพอสมควร ด้านล่างมีชั้นเก็บของปิดผิวหน้าบานด้วยลามิเนต โครงการมอบกระจกเงาให้ตามภาพ

พื้นที่เก็บของใต้อ่างล้างน้ำมีขนาดความกว้างเท่าความกว้างห้องน้ำ ฟังก์ชันการใช้งานเป็นแบบบานพับเปิด – ปิด โดยรวมห้องน้ำชั้นล่างสามารถตอบโจทย์การใช้งานของพื้นที่อเนกประสงค์ด้านล่างในอารมณ์ของพื้นที่ที่ใช้งานไม่หนักมากเพราะไม่สามารถอาบน้ำได้

ก็อกน้ำที่โครงการมอบให้เป็นแบบหัวผสมของ American Standard หากใครที่ชอบระบบน้ำอุ่นก็สามารถติดตั้งเพิ่มใต้ชั้นอ่างล้างหน้าได้

บานประตูทางเชื่อมสู่ด้านหลังบ้านเป็นบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสงสองตอน จากมุมนี้จะเห็นว่าตัวบ้านถูกยกสูงขึ้นมาจากพื้นนอกบ้านได้ชัดเจน

พื้นที่หลังบ้านมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็สามารถวางเคาท์เตอร์ครัวต่อเติมเป็นครัวปิดหลังบ้านได้สบายๆ โดยแบบบ้านจริงรั้วบ้านจะไม่ใช้ต้นไม้ตามภาพ ผนังรั้วในส่วนนี้จะเป็นโครงสร้างก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบทาสีสูงประมาณ 1.5 ม. ส่วนพื้นซักล้างจะเป็นซีเมนต์ปาดเรียบตลอดแนวหลังบ้าน

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวลูกตั้ง ลูกนอน และราวจับด้วยไม้สำเร็จรูปที่ให้สัมผัสคล้ายไม้จริง พร้อมเก็บงานตามขอบบันไดด้วยเชิงบัวสีขาวสวยงามตามมาตรฐานของโครงสร้างบ้านทั่วไป

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเป็นโถงบันไดเล็กๆ เชื่อมต่อไปสู่ห้องอื่นๆ ฝั่งตรงข้ามกับหัวบันไดเป็นห้องน้ำกลางชั้นสอง อยู่ในตำแหน่งระหว่างห้องนอนที่ 2 กับ Master Bedroom

เมื่อขึ้นมาที่ชั้นสองหันไปทางด้านขวาจะเป็นตำแหน่งของประตูทางเข้าห้อง Master Bedroom บานประตูทุกบานของห้องต่างๆ เป็นบานพับแบบพลักเข้าไปด้านในเป็นวัสดุบานลูกฟัก HDF ลูกบิดเป็นกลอนธรรมดา

ภายในห้องมีขนาดกว้างพอสมควรสามารถจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ โดยเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า โดยยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียง พร้อมพื้นที่ใช้สอยในการแต่งตัวสบายๆ

จากภาพโครงการจัดสรรเตียงขนาด 5 ฟุต โดยเหลือพื้นที่ให้สามารถวางชั้นข้างเตียงได้ แต่หากเปลี่ยนเป็นเตียงห้องฟุต Space ว่างๆหน้าตู้เสื้อผ้าก็ยังคงมีพื้นที่เท่าเดิมตามภาพจากพื้นที่ของชั้นข้างเตียงฝั่งระเบียงห้องที่หายไป 1 ฟุต

ระเบียงของห้องนอน Master Bedroom หันออกไปทางหน้าบ้าน พื้นที่ใช้สอยของระเบียงมีขนาดไม่กว้างมากแต่เน้นฟังก์ชันในการออกมายืนรับลได้ 2-4 คนจากแนวยาวของระเบียง

ผนังฝั่งตรงข้ามเตียงโครงการติดตั้งระบบไฟ สัญญาณโทรทัศน์ไว้ให้เรียบร้อย ถัดมาจากชั้นวางทีวีจะเป็นบานประตูของห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำในตัวของห้องนอน Master Bedroom ถูกแบ่งแยกออกจากห้องนอนชัดเจนด้วยการดร็อปพื้นห้องน้ำลงจากตัวพื้นห้อง และใช้กระเบื้องเซรามิกปูพื้นตัดกับพื้นห้องที่เป็นลามิเนต ส่วนบานประตูเป็น HDF วงกบเบจพรรณลายลูกฟักเหมือนประตูบานอื่นๆ ภายในบ้าน

ด้านในประกอบด้วยอ่างล้างหน้าบิวท์อินบนชั้นเก็บของตามภาพ ข้อดีของสุขภัณฑ์บิวท์อินแบบนี้คือพื้นที่ด้านข้างที่สามารถวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ถัดมาจากอ่างล้างหน้าเป็นในส่วนของโถสุขภัณฑ์ตั้งอยู่ระหว่างอ่างล้างหน้ากับห้องอาบน้ำ หากติดตั้งบานกั้นส่วนโซนเปียกโซนแห้ง จะทำให้พื้นที่การใช้งานของโถสุขภัณฑ์แคบลง

พื้นที่โดยรวมของห้องอาบรน้ำมีขนาดความกว้างประมาณ 1.20 ม. โครงการเลือกใช้กระเบื้องเซรามิกผิวด้านแผ่นใหญ่ในการตกแต่งพื้นที่ส่วนนี้เพื่อป้องกันการลื่นล้ม และทำความสะอาดได้ง่าย

ฝักบัวที่โครงการมอบให้เป็นแบบธรรมดาไม่สามารถปรับระดับน้ำได้ โครงการติดตั้งสายไฟซ่อนผนังสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อยตามภาพ

ที่บริเวณหน้าห้อง Master Bedroom จะเห็นว่าผนังในส่วนนี้ยังเหลือ Space ที่สามารถจัดวางชั้นหนังสือ หรือ หิ้งพระเข้ามุมได้

ภายในห้องน้ำกลางชั้น 2 ตกแต่งออกมาสไตล์โมเดิร์น เน้นพื้นและผนังกระเบื้องให้เป็นสีขาวเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องน้ำที่มีขนาดไม่ใหญ่มากให้โปร่งโล่งสบาย

ด้วยพื้นที่ที่จำกัด แต่สามารถตอบโจทย์ทุกคนในบ้านด้วยุขภัณฑ์ที่ครบครันพร้อมห้องอาบน้ำ พื้นที่ในการใช้งานของโถสุขภัณฑ์จึงมีขนาดไม่ใหญ่มากหรือกว้างประมาณไม่เกิน 80 ซม. โดยคนที่ตัวใหญ่ๆ อาจจะใช้งานลำบาก

โครงการใช้กระเบื้องเซรามิกขนาดไม่ใหญ่เน้นให้มีลวดลายเป็นตารางพร้อมตัดเส้นห้องน้ำให้มีมิติด้วยเส้นสายกระเบื้องสีดำ ห้องน้ำจึงดูมีขนาดกว้างกว่าขนาดจริง แต่ทั้งนี้ก้ต้องดูแลในเรื่องของความสะอาดด้วยจากรอยต่อกระเบื้องที่เยอะพอสมควร

ฝั่งตรงข้าม Master Bedroom เป็นในส่วนของห้องนอนที่ 2 และห้องนอนที่ 3

ที่ห้องนอนที่ 2 โครงการจัดสรรให้เป็นห้องนอนเดี่ยวสำหรับเด็ก

ด้วยพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 145 ตร.ม. ซึ่งเรียกได้ว่าใหญ่กว่าโครงการทาวน์โฮมทั่วไปทำให้ห้องนอนที่ 2 มีขนาดกว้างพอสมควรสามารถวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง โดยที่หากเปลี่ยนเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตก็ยังสามารถจัดฟังก์ชันห้องให้มีการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้ครบครัน

ในส่วนของห้องนอนที่ 3 โครงการออกแบบให้เป็นมุมของห้องทำงาน โดยการบิวท์อินผนังให้เป็นชั้นหนังสือแบบโปร่งตามภาพ

ภายในมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ตามภาพ ด้านหลังเก้าอี้เป็นมุมหน้าต่างสามารถรับแสงธรรมชาติจากด้านหลังบ้านได้

บรรยากาศในห้องนอนที่ 3 ที่ถูกจัดสรรไอเดียจากโครงการให้กลายเป็นห้องทำงาน จากการบิวท์อินผนังให้โปร่งแสง มองเห็นส่วนต่างๆ บนชั้น 2 ของบ้านทำให้ห้องดูโปร่งสบาย ไม่อึดอัดถึงแม้ห้องนอนที่ 3 จะมีขนาดของพื้นที่ที่จำกัดก็ตาม