The Shelter โครงการบ้านเดี่ยว และโฮมออฟฟิศตั้งอยู่ในย่านธุรกิจชั้นนำ เพชรเกษม–พุทธมณฑลสาย 5 บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนเพชรเกษม เดินทางเข้าออกโครงการได้ง่าย ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อถึงพุทธมณฑลสาย 4 ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 10 ล้านบาท
ถ้ายังพอจำกันได้โครงการ “กฤษดา แกรนด์ พาร์ค” บ้านจัดสรรโครงการบิ๊กเบิ้มเส้นพหลโยธิน-รังสิต ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 10 ปี รวมทั้งช่วงวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปี 2554 ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ เพราะวิกฤติครั้งนั้นกินวงกว้างมาก จนมาวันนี้ “เอคิว เอสเตท” (AQ) ผู้ประกอบการชื่อใหม่แต่ประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาฯ เมืองไทยนี้ยาวนานติดอันดับ เพราะเปลี่ยนชื่อจากเดิมคือ “กฤษดามหานคร” นั่นเอง ครั้งนี้ AQ ได้เดินหน้าพลิกโฉมเฟส 3 ของโครงการบ้านเดี่ยวกฤษดา แกรนด์ พาร์คเป็นบ้านดีไซน์ใหม่ภายใต้แบรนด์ “เอคิว เชดิ” ชูจุดขายบ้านพร้อมอยู่ รูปแบบใหม่ ราคาเก่า เคาะราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท กับจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ ที่มีการตกแต่งภายในเพิ่มเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเราจะมารีวิวแบบเจาะลึกกันในครั้งนี้
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2558)
ชื่อโครงการ: เอคิว เชดิ พหลโยธิน – รังสิต (AQ SHADI)
เจ้าของโครงการ : บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน): AQ
ทำเลที่ตั้งโครงการ: ริมถนนพหลโยธิน กม. 39 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120
เว็บไซต์: www.aqestate.com
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: ( เฟส 3 ) 16 ไร่ 1 งาน 17.7 ตร.วา (พื้นที่รวมทั้งโครงการกฤษดา แกรนด์ พาร์ค 80 ไร่ 293 ตร.วา)
รูปแบบโครงการ: บ้านแฝด 2 ชั้น จำนวนยูนิต 86 ยูนิต พื้นที่ดิน 36-84.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 30-40 ปี ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง
สถานะการก่อสร้าง: ก่อสร้างเสร็จแล้วจำนวน 11 ยูนิตจาก 86 ยูนิต คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปลายปี 2559
ระบบความปลอดภัย: เข้าออกโครงการด้วยระบบ Key Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง
ส่วนกลาง: สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย, คลับเฮาท์, สวนส่วนกลาง, สนามเด็กเล่น ฯลฯ
ที่จอดรถ: 2 คัน/หลัง ( มีหลังคา ) ที่จอดรถส่วนกลางอีกประมาณ 10 คัน
สถานะการขาย: ขายไปแล้ว 11 ยูนิตจาก 86 ยูนิต คิดเป็น 12.8% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กันยายน 2558)
เปิดขาย Pre-Sales : 5 กันยายน 2558
ค่าส่วนกลาง: 25 บาท/ ตร.วา/ เดือน (ชำระล่วงหน้า 3 ปี)
ราคาขายเริ่มต้น: 4.29 ล้านบาท หรือ 119,166 บาท/ ตร.วา
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 9,000 บาท ทำสัญญา 90,000 บาท ผ่อนดาวน์ 2 งวด งวดละ 9,000 บาท ยอดโอน 97%
ตกแต่งแบบ : Fully Fitted มีเฟอร์นิเจอร์บางส่วน เช่น ครัว, ชุดสุขภัณฑ์, Built-in บางตัว
รูปแบบแบบบ้าน : มีทั้งหมด 1 แบบ เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 9.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ+ 1 ห้องน้ำรับแขก ส่วนรับแขก / ส่วนรับประทานอาหาร / ครัวยุโรป ( ในบ้าน) / ครัวไทย ( นอกบ้าน ) / ส่วนซักล้าง / ห้องเก็บของ 2 ห้อง ที่จอดรถ 2 คัน ( มีหลังคา )
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
เอคิว เชดิ พหลโยธิน – รังสิต (AQ SHADI) บนเส้นพหลโยธิน กม 39 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเฟส 3 ของหมู่บ้านกฤษดา แกรนด์ พาร์ค ซึ่งที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากปากทางเข้าหมู่บ้านกฤษดา แกรนด์ พาร์ค ประมาณ 1 กม. ภายในโครงช่วงเฟส 1 จะเป็น คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตลอด 2 ข้างทาง แซมกับต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สวน ถนนภายในโครงการเป็นทางวันเวย์วนรอบโครงการความกว้างประมาณ 8-10 เมตร ซึ่งถือได้ว่ากว้างขวางทีเดียว เข้ามาได้ประมาณ 300 เมตร จะเป็นบ้านเดี่ยวขนาดย่อมเยาว์ลงมาหน่อย พื้นที่ส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส คลับเฮาส์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะอยู่ท้ายเฟส 1 ประมาณ 600 เมตร ซึ่งเป็นรอยต่อกับพื้นที่ของเฟส 2 พอดี เรื่องดีไซน์บ้านของพื้นที่เฟส 2 จะเป็นแบบยกพื้นสูงกว่าเฟสแรกเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วมในตอนนั้นทำให้ยังพอมียูนิตเดิมที่เหลืออยู่เดิมประปราย ถึงแม้ทางโครงการนี้จะผ่านร้อนผ่านหนาวกว่า 10 ปี แต่โดยรวมของโครงการก็ยังอยู่ในสภาพที่ดูดี เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ
พื้นที่เฟส 3 ที่ตั้งของโครงการด้านหน้าทางเข้าโครงการถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม เข้าออกใช้ระบบแบบ Key Card มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมงอีกชั้นเพื่อความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวที่เพึ่มขึ้นของเฟสนี้ ซึ่งก็ถือว่าดีทีเดียว ดีไซน์ของตัวบ้านทางโครงการออกแบบให้ดูทันสมัย แต่ในความรู้สึกโดยส่วนตัวมันดูเหลี่ยมๆ เหมือนกล่องไปหน่อย ซึ่งรูปทรงเหลี่ยมๆ นั่นเองทำให้ตัวบ้านมีกว้างขวางขึ้น ทำให้สามารถจัดสรรค์พื้นที่ใช้สอยได้ง่ายและลงตัวเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งอำนวยความสะดวก
รีวิวภายในบ้านตัวอย่าง
แบบบ้านมี 1แบบเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. หน้าบ้านกว้าง 9.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ+ 1 ห้องน้ำรับแขก ส่วนรับแขก / ส่วนรับประทานอาหาร / ครัวยุโรป ( ในบ้าน) / ครัวไทย ( นอกบ้าน ) / ส่วนซักล้าง / ห้องเก็บของ 2 ห้อง ที่จอดรถ 2 คัน ( มีหลังคา ) ตกแต่งแบบ Fully Fitted มีเฟอร์นิเจอร์บางส่วน
สิ่งที่จะได้รับจากทางโครงการ รายละเอียดดังต่อไปนี้
บ้านตัวอย่างของทางโครงการ
มุมมองบนชั้น 2 ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็นห้องนอนเล็ก ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ ขาวมือเป็นห้องอเนกประสงค์
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลเส้นพหลโยธิน- รังสิต
ทำเลอสังหาริมทรัพย์บนเส้นพหลโยธิน- รังสิต บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัยกรุงเทพและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ยังคงมีการขยายตัวได้ดี แม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศโดยรวมในปีนี้จะชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ขยายตัว แต่การลงทุนในโซนนี้นับว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนมาก หนึ่งในปัจจัยที่ขับเคลื่อนให้ตลาดย่านนี้มีความคึกคัก ได้แก่ โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต และการเกิดขึ้นของโครงการต่างๆ อาทิ สถานีขนส่งหมอชิตแห่งใหม่, ห้างสรรพสินค้า อย่างเซ็นทรัล, เมกะ รังสิต และฟิวเจอร์ ซิตี้ (ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตปรับปรุงใหม่) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ นำไปสู่การพัฒนาในทำเลดังกล่าวในอนาคตอันใกล้
ประกอบกับเมื่อไหร่ที่โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งใหม่ในอนาคตก่อสร้างแล้วเสร็จ คาดว่าจะทำให้ราคาที่ดินในบริเวณโดยรอบพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันที่ดินติดถนนใหญ่พหลโยธินราคาจะสูงอยู่แล้วในระดับหนึ่งและยังมีแนวโน้มจะปรับตัวสูงขึ้นอีก ทำให้ตลอดเส้นพหลโยธิน – รังสิต ยากที่จะมีโครงการบ้านหรือที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ๆ เกิดขึ้น เนื่องจากต้นทุนราคาที่ดินที่สูงขึ้นนั่นเอง
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
“เอคิว เชดิ” มีพื้นที่โดยรวม 16-1-17.7 ไร่ จำนวนยูนิต 86 ยูนิต แบ่งออกเป็น 2 เฟส ได้แก่ เฟสแรก จำนวน 26 ยูนิต (พื้นที่แสดง) และ 60 ยูนิตสำหรับเฟสที่สอง (พื้นที่แรเงา) ตั้งอยู่ในโครงการกฤษดา แกรนด์ พาร์ค ลึกเข้าไปประมาณ 1 กม. จากซึ่งเรียกว่าเป็นเฟส 3 ของโครงการก็ได้ พื้นที่รอบนอกโครงการเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวราบ มีคลองเชียงรากใหญ่อยู่ติดกับโครงการทางทิศเหนือ ส่วนใครที่กลัวเรื่องน้ำท่วม หมดห่วงได้เพราะจากวิกฤตปี 54 น้ำท่วมมาถึงแค่เฟสสองประมาณ 50 ซม. เท่านั้น ส่วนพื้นที่เฟส 3 ที่เป็นที่ตั้งของ เอคิว เชดิ น้ำไม่ท่วม อีกทั้งทางโครงการยังได้ปรับพื้นที่ให้สูงขึ้นเพื่อความสบายใจของผู้อยู่อาศัย ประกอบกับมีแนวคิดจะสร้างระบบระบายน้ำของโครงการออกไปสู่คลองเชียงรากใหญ่ได้โดยตรง
เส้นทางที่ 1 จากถนนพหลโยธิน วิ่งมุ่งหน้าไปสระบุรี ผ่าน ม.กรุงเทพ ประมาณ 3 กม. โครงการอยู่ซ้ายมือ
เส้นทางที่ 2 จากทางด่วนแจ้งวัฒนะ มาตามเส้น ม.ธรรมศาสตร์ ผ่านถนนเชียงราก วกรถเข้ากรุงเทพฯ กลับรถมาฝั่ง ม.กรุงเทพวิ่งมุ่งหน้าไปสระบุรีโครงการอยู่ซ้ายมือ
เส้นทางที่ 3 จากทางด่วนยกระดับ (โทลเวย์) ลงสุดทางด่วน เข้าเส้นพหลฯ เลี้ยวซ้ายกลับรถมาฝั่ง ม.กรุงเทพ วิ่งมุ่งหน้าไปสระบุรีโครงการอยู่ซ้ายมือ
เส้นทางที่ 4 จากปทุมธานี ตรงมาเส้นพหลฯ เลี้ยวซ้ายวิ่งมุ่งหน้าไปสระบุรีผ่าน ม.กรุงเทพ โครงการอยู่ซ้ายมือ
เส้นทางที่ 5 จากนครนายก วนขวาวิ่งมุ่งหน้าไปสระบุรีผ่าน ม.กรุงเทพ โครงการอยู่ซ้ายมือ
เส้นทางที่ 6 จากเส้นคลองหลวง เข้าเส้นพหลฯ เลี้ยวซ้ายกลับรถมาฝั่ง ม.กรุงเทพ วิ่งมุ่งหน้าไปสระบุรีโครงการอยู่ซ้ายมือ
รถไฟ : นั่งรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ลงสถานีรังสิต (ซึ่งจะสร้างเสร็จในปี 2561) ต่อรถไปยังโครงการประมาณ 20 นาที
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
Future City
Future Park รวมกับ Zpell บนที่ดิน กว่า 600 ไร่ มูลค่าการลงทุน 5,300 ล้านบาท. (เฉพาะ รีโนเวทฟิวเจอร์พาร์ค 400-500 ลบ.) เจ้าของโครงการ บริษัท รังสิตพลาซ่า
Mega Rangsit
ที่ดิน 250 ไร่ เฉพาะที่ดินจากตระกูลสนิทวงศ์ฯ และกำลังกว้านซื้ออีก รวมน่าจะประมาณ 1,000 ไร่ มูลค่าการลงทุน เฉพาะที่ดิน 250 ไร่ ราคา 700 ล้านบาท. เป็นการรวมทุนระหว่าง SF (49%) + Ikano (49%) + ไทยวนาสิริ (2%) = บริษัทร่วมทุน ชื่อ North Bangkok Development
Central ‘M’
พิ้นที่ขนาด 616 ไร่ หน้ากว้าง 1 กม. มูลค่าการลงทุน ที่ดิน 4,200 ล้านบาท. และ ค่าก่อสร้าง 9,500 ล้านบาท.
เจ้าของโครงการ CPN
The Hub (ขยายจาก Zeer รังสิต)
บนพื้นที่ดิน 86 ไร่ 1 งาน มูลค่าการลงทุน 3,500 ล้านบาท. เจ้าของโครงการ Zeer Property (PLC)
โบ๊เบ๊ ทาวเวอร์ รังสิต
รีโนเวทจาก เมอร์รี่คิง เก่า บนที่ดิน 4 ไร่ 3 งาน 68 ตร.ว. เจ้าของโครงการ บริษัท ถาวรสินพัฒนา
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ ![IMG_6156]()
แม้ว่าราคาประเมินที่ดินจังหวัดปทุมธานีของกรมธนารักษ์ในรอบบัญชีปี 2555-2558 จะมีการประเมินราคาที่ดินช่วงทางหลวงสายนนทบุรี-ปทุมธานี อยู่ที่ 32,500-45,000 ต่อตร.วา แต่ก็เป็นเพียงการสรุปภาพรวมของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นรายถนนเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงราคาที่ดินรายแปลงได้ ประกอบกับราคาของกรมธนารักษ์เป็นราคาประเมินเพื่อการเสียภาษี ไม่ได้เป็นราคาตลาดที่มีการซื้อ-ขายจริง ซึ่งหากเป็นแบบหลัง ราคาจะสูงกว่าราคาประเมินที่ราว 10% และด้วยอานิสงส์จากเมกะโปรเจคทั้งหลายที่เตรียมผุดขึ้นในอนาคตอันใกล้ รวมถึงการก่อสร้างรถไฟสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ – รังสิต ) ทำให้ราคาเฉลี่ยของที่ดินบริเวณนี้น่าจะอยู่ที่ 50,000 ต่อตร.วา โดยประมาณ และจะขยับขึ้นอีกอย่างไม่ต้องสงสัย
เปรียบเทียบโครงการ
เพฟ รังสิต – คลอง 4 (Pave Rangsit)
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พัฒนาโครงการโดย บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน): SC ถนนรังสิต – นครนายก คลอง 4 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 81 -2 – 15.3 ไร่ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวน 320 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยวสร้างเสร็จพร้อมขาย เริ่มก่อสร้างเมื่อ ก.พ 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท
โครงการอินนิซิโอ รังสิต-คลอง 3 (Inizio Rangsit Khlong 3)
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ของบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บนถนนรังสิต-คลอง 3 บนเนื้อที่โครงการ 93 ไร่ จำนวน 482 ยูนิต เป็นบ้านขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถทั้งหมด 1 คัน พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 113.0 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท
โครงการเดอะทรัสต์ รังสิต-คลอง 4 (The Trust Rangsit Khlong 4)
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พัฒนาโดย ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บนเนื้อที่ทั้งหมด 30 ไร่ จำนวน 171 ยูนิต ประกอบด้วยแบบบ้านทั้งหมด 2 แบบ ขนาดที่ดินตั้งแต่ 37.6 – 50.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 120.0-147.0 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
สรุป
เป็นทำเลที่น่าจับตามองของนักลงทุน เพราะเป็นประตูทางออกสู่ภาคเหนือและภาคอีสาน อีกทั้งยังอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้าและนิคมอุตสาหกรรม นั่นหมายถึงเป็นย่านที่มีดีมานด์รองรับ และในขณะเดียวกันก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว โดยกำลังมีการปรับปรุงศูนย์การค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม และยังมีแผนการพัฒนาศูนย์การค้าแห่งใหม่กลุ่มเซ็นทรัลบนที่ดินกว่า 600 ไร่ อีกทั้งโครงการ MEGA Rangsit ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างประเทศไทยกับสวีเดน ที่จะร่วมกันพัฒนาที่ดินกว่า 250 ไร่ ให้กลายโครงการรีเทลขนาดใหญ่ ในขณะที่โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ที่มีการก่อสร้างตามแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือที่มีแนวจากกลางเมืองกรุงเทพฯ สถานีบางซื่อมุ่งหน้าออกไปสู่ย่านรังสิต และมีโครงการต่อขยายไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต) ในอนาคต ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทำเลย่านรังสิตเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจและจะมีมูลค่าเพิ่มในอนาคตสอดล้อไปกับการพลิกโฉมทำเลดังกล่าวให้กลายเป็นย่านอยู่อาศัยและแหล่งงานที่สำคัญทางตอนเหนือของกรุงเทพฯ ต่อไป
เรื่องข้างต้นเขียนโดย วัชระ วงศ์สง่า Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ watchara@ddproperty.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่