รีวิวโครงการ: แมเนอร์ สนามบินน้ำ (Manor Sanambinnam)

สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล

สระว่ายน้ำสไตล์ “คลาสสิก โคโลเนียล” บริเวณชั้น 6

ภาพ perspective โครงการแมเนอร์ สนามบินน้ำ

ภาพจำลองของสระว่ายน้ำที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณชั้น 1

Master plan ชั้น 1 พร้อมจุดแสดงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการ (ดูเพิ่มเติม)

ภาพ perspective สระว่ายน้ำตามแบบสถาปัตยกรรม “คลาสสิก โคโลเนียล” บริเวณชั้น 6

Master plan ชั้น 6 พร้อมจุดแสดงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการ

ที่ตั้งโครงการอยู่ระหว่างซอยนนทบุรี 25 – 27 ตรงข้ามกับซอยนนทบุรี 22

ถนนสนามบินน้ำ เป็นถนนด้านหน้าโครงการมีโคมไฟสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถนนเส้นนี้

มุมมองจากด้านหน้าทางเข้าโครงการดูอลังการงานสร้างมาก ด้านขวามือจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์

แมเนอร์ สนามบินน้ำ มีทั้งหมด 4 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A,B สูง 25 ชั้น 2 อาคาร และ อาคาร C,D สูง 35 ชั้น 2 อาคาร รวมห้องชุดพักอาศัย 1,848 ยูนิต

ด้วยตัวโครงการเป็นสไตล์คลาสสิก โคโลเนียล ทำให้มีจุดเด่นอยู่ที่ซุ้มประตูแบบโรมัน ที่จะสวยยิ่งขึ้นถ้ามองผ่านแสงที่รอดผ่านซุ้มประตูนี้ ที่มีความเรียบแบบโมเดิร์นผสมอยู่

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะอยู่ที่บริเวณด้านท้ายโครงการซึ่งอยู่เลียบแม่น้ำเจ้าพระยาถือเป็นจุดขายที่ดี

ขึ้นมาบริเวณชั้น 6 ระหว่างตึก A และ B ซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกชั้นหนึ่งของโครงการ ที่จะสวยเป็นพิเศษในช่วงพระอาทิตย์

มุมมองฝั่งซ้ายมือจะเป็นตึก A และ C ซึ่งมีศาลาไว้ให้นั่งพักผ่อน

มุมมองฝั่งขวามือจะเป็นตึก B และ D ห้องที่อยู่บริเวณชั้น 6 ของตึก A และ B ฝั่งสระว่ายน้ำ สามารถเดินออกมาจากห้องแล้วไปยังพื้นที่ส่วนกลางได้เลย

มุมมองจากจุดชมวิวบริเวณชั้น 6

มีทางเดินเชื่อมระหว่างตึกจำนวน 2 จุด บริเวณระหว่างตึก A กับ C และระหว่างตึก B และ D

ทางเดินระหว่างตึกมีความกว้าง 6×12 เมตร โดยประมาณ ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ มีลมพัดผ่านตลอดเวลา

วิวทิศเหนือของโครงการหันไปทางโค้งน้ำบริเวณวัดกลางเกร็ด

วิวทิศตะวันออกของโครงการ จะหันไปทางถนนด้านหน้าโครงการ จะมองเห็นกระทรวงพาณิชย์อยู่ทางซ้ายมือ

วิวทิศใต้ของโครงการ จะหันไปทางสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งเท่าที่ทราบมา ด้านข้างโครงการจะมีโรงแรมเกิดขึ้น แต่น่าจะไปบังวิวแต่ตึก B ส่วนตึก D น่าจะไม่โดนบัง

วิวทิศตะวันตกของโครงการก็จะมองเห็นโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นมุมที่สวยที่สุดของโครงการในช่วงที่พระอาทิตย์ตก

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 28 ตร.ม. TYPE A – C

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 25 ตร.ม. TYPE D – E

แบบ 2 ห้องนอนขนาด 70 ตร.ม. TYPE F – G

แบบ 2 ห้องนอนขนาด 61 ตร.ม. TYPE H – I

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 37 ตร.ม. TYPE J

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 36 ตร.ม. TYPE K- L

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 32 ตร.ม. TYPE M

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 42 ตร.ม. TYPE N – O

แบบ 1 ห้องนอนขนาด 30 ตร.ม. TYPE P

ที่เปิดประตูเป็นแบบด้ามจับซึ่งสะดวกมากต่อการเปิดประตู เข้ามาด้านซ้ายมือจะเป็นห้องนั่งเล่น

ตัวโซฟาของห้องตัวอย่างจะเป็นแบบ 3 ที่นั่ง วัสดุที่ใช้เป็นกำมะหยี่สวยงาม แต่ต้องขยันดูดฝุ่นนิดนึง

ชั้นวางทีวีที่แถมให้จะไม่เหมือนแบบในห้องตัวอย่าง แต่เป็นแบบสีขาวสไตล์โมเดิร์น

พื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นกั้นด้วยกระจกแบบบานเลื่อน 2 ตอนแต่มันดูสบายตากว่านี้ถ้าหากเป็นกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ผนังห้องจะทำให้ห้องดูโปร่งมากกว่านี้

ฉากกั้นห้องเป็นขอบอะลูมิเนียมสีเงินแบบบานเลื่อน 2 ตอน

มุมมองภายในห้องนอนได้ความสว่างจากกระจกหน้าต่างบานกระทุ้ง

เตียงที่แถมมาให้จะขนาด 5 ฟุต สีขาว แบบคลาสสิก ไม่มีที่เก็บของใต้เตียง

ถ้าหากหน้าต่างบานใหญ่กว่านี้จะทำให้ห้องนอนดูโปร่งน่านอนมากขึ้น แต่สิ่งที่จะตามมาก็คือราคาที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่มีมาให้พร้อมกับห้องเน้นโทนสีขาวซึ่งจะต่างกับห้องตัวอย่างเล็กน้อยในเรื่องของสีและดีไซน์

พื้นที่ข้างเตียง ห้องจริงไม่มีที่วางโคมไฟให้ เราสามารถเลื่อนให้เตียงมาติดกำแพงได้เลยจะได้เพิ่มพื้นที่ในห้องอีกด้วย

พื้นที่ภายในห้องน้ำเป็นแนวยาว สะดวกในการใช้งานมีทั้งกระจกชั้นวางของแบบบิวท์อินลอยตัว

สุขภัณฑ์ karat เป็นสีขาวแบบมาตรฐาน แต่หลายคนบอกว่าโถนั่งของยี่ห้อนี้เล็กไปนิด คนตัวใหญ่อาจนั่งแล้วไม่ค่อยสบายเท่าไหร่

เด่นที่ชั้นวางของบิลท์อินแบบลอยตัวเหมือนที่เห็นตามโรงแรม

ฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย มีฝักบัวขนาดกลาง ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่มีการเดินระบบไฟไว้ให้

ที่นั่งอาบน้ำอาจแคบไปนิดสำหรับคนตัวใหญ่ แต่หลายคนก็ใช้เป็นที่วางของแทนก็สะดวกดี

มุมมองภายในห้องครัว อยู่ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำ

ห้องครัวไม่มีฉากกั้นกับห้องนั่งเล่น หากทำอาหารอาจประสบปัญหากลิ่นรบกวนได้ ทางที่ดี หากชอบทำอาหารให้หาฉากมาติดให้เป็นสัดส่วนดีกว่า หรือไม่ก็ทำเมนูง่ายๆ เบาๆ ที่ไม่มีกลิ่นแรง

ห้องครัวมีขนาดกว้างพอสมควร มีกระจกเลื่อนแบบบานเดี่ยวเมื่อเลื่อนจะไปซ่อนอยู่หลังผนังห้อง

ชุดครัวที่มีให้เป็นแบบบิวท์อินพร้อมเตาไฟฟ้าเละเครื่องดูดควัน

โต๊ะรับประทานอาหารที่ให้มาจะเป็นสีขาวสไตล์โมเดิร์นไม่เหมือนกับห้องตัวอย่าง

พื้นของห้องครัวจะเล่นระดับกับระเบียงเล็กน้อยเพื่อกันฝุ่นและน้ำบริเวณระเบียง

ประตูแบบบานเลื่อนเหมาะกับพื้นที่ที่มีจำกัด แต่ลงตัวมากสำหรับห้องนี้

คอมเพรสเซอร์แอร์แบบแขวนลอยจำนวน 2 ตัว ซึ่งติดไว้ที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน

ทางโครงการมีการเดินท่อน้ำและปลั๊กไฟไว้ให้ สามารถใช้ได้ทั้งเครื่องซักผ้าได้ทั้งแบบฝาบนและฝาหน้า

ตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 61 ตร.ม.

เมื่อเข้ามาในห้องด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำกลาง

ภายในห้องน้ำจะแยกส่วนเปียกปห้งอย่างชัดเจน

สุขภัณฑ์ karat เป็นสีขาวแบบมาตรฐาน ตามแบบห้องตัวอย่าง

ชั้นว่างของบิลท์อินแบบลอยตัวในห้องน้ำ มีติดตั้งมาให้ดังเช่นห้องแบบ 1 ห้องนอน

ที่นั่งอาบน้ำอาจแค่ไปนิดสำหรับคนตัวใหญ่ แต่หลายคนก็ใช้เป็นที่วางของแทน

มีการยกพื้นกั้นน้ำเพื่อแยกส่วนเปียก-แห้ง พร้อมฉากกั้นอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัยที่มีให้มาพร้อมกับห้อง

ห้องน้ำส่วนกลางสามารถเขาได้จากทั้ง 2 ทาง ด้านซ้ายจากห้องนั่งเล่น ส่วนด้านขาวเป็นห้องนอนเล็ก

ห้องนอนมีขนาดกว้างพอสมควร แต่การมีโต๊ะเขียงหนังสืออยู่ตรงนี้คงจะเปิด-ปิดตู้เสื้อผ้าลำบากนิดนึง

แต่พื้นที่ว่างด้านข้างเตียงมีพอสมควรทำไม่ไม่รู้สึกอึดอัด

หน้าต่างห้องนอน เป็นแบบบานกระทุ้ง ซึ่งในความเห็นส่วนตัวหากเป็นบานใหญ่แบบบานใหญ่ๆ แบบเต็มผนัง จะทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งกว่านี้

ทางโครงการเลือกใช้เตียง 5 ฟุต ซึ่งก็ไม่ได้ดูเล็กไปลงตัวกับพื้นที่ห้อง ซึ่งของที่แถมมาจะดีไซน์แบบโมเดิร์นคนละแบบกับห้องตัวอย่าง

พื้นที่ข้างเตียง หากนำโคมไฟออก แล้วเปลี่ยนให้เป็นเตียงขนาด 6 ฟุตก็สามารถทำได้ แต่โคมไฟไม่ได้แถมมาให้นะครับ

มีประตูห้องน้ำฝั่งซ้ายสามารถเปิดไปใช้ห้องน้ำกลางได้สะดวกดี

พื้นที่ห้องครัวอยู่ด้านขวามือจากประตูห้อง เป็นชุดครัวแบบบิลท์อินเข้ามุม

โต๊ะอาหารอยู่ติดกับแพนทรี่ แต่จริงๆ แล้วถ้าเป็นบาร์ยาวจะดูสวยงามลงตัวกว่า แต่ทางโครงการเน้นแบบคลาสสิกเลยเลือกใช้โต๊ะอาหารแบบคลาสสิกแทน

ด้านครัวบิลท์อินเข้ามุมติดกำแพงทางโครงการใช้กระเบื้องผิวมันเงาท็อปที่กำแพงเพื่อสะดวกในการทำความสะอาด

พื้นที่ครัวจัดมาอย่างลงตัวทำเสร็จก็สามารถนั่งกินอาหารได้เลย แต่เรื่องกลิ่นน่าจะเป็นปัญหา แม้ว่าทางโครงการจะมีเครื่องดูดควันมาให้ แต่ก็ต้องจัดการเรื่องที่ระบายอากาศให้ดี หรือเลือกทำเมนูเบาๆ ไม่มีกลิ่น ก็หมดปัญหา

ห้องนี้จะเป็นห้องนอนใหญ่แต่กับดูมีพื้นที่น้อยกว่าห้องนอนเล็กนิดหน่อย

หน้าต่างภายในห้องนอนยังคงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง ซึ่งเป็นแบบที่ใช้เหมือนกันในทุกๆ ยูนิตของโครงการ

สิ่งที่มีเพิ่มเข้ามาในห้องนี้จะเป็นโต๊ะทำงานบิลท์อินแบบลอยตัวติดกำแพงที่ให้มาพร้อมกับห้อง ซึ่งเราอาจจะใช้เป็นชั้นวางทีวี หรือไม่ก็เอาทีวีติดผนังไปเลยน่าจะสะดวกกว่า

สำหรับห้องนอนนี้ ทางโครงการเลือกเตียงขนาด 5 ฟุตมาวาง แต่ของที่แถมมาให้จะเป็นสีขาวสไตล์โมเดิร์น

หน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง เปิดได้นิดหน่อยตามที่เห็น ไว้สำหรับระบายอากาศ และเหตุผลด้านความปลอดภัย

มุมมองวิวจากห้องนอนตึก D ประมาณชั้น 14

ห้องนี้จะมีห้องน้ำส่วนตัว

สุขภัณฑ์ karat เป็นสีขาวแบบมาตรฐาน ปูด้วยกระเบื้องผิวหยาบกันลื่น

พื้นที่ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน

มีที่นั่งอาบน้ำให้สำหรับคนที่ชอบนั่งอาบน้ำ แต่ถ้าคนที่ชอบยืนอาบก็จะใช้เป็นที่วางของแทน

ชั้นวางทีวีเป็นโต๊ะแบบคลาสสิก แต่จริงๆ แล้วเราเอาทีวีติดผนังเลยจะดูดีกว่า

โซฟารับแขกรูปตัว L ที่ดีไซน์มาเฉพาะโครงการนี้

ประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่แบบ 2 ตอน 4 บาน ช่วยให้แสงเข้าห้องได้อย่างเต็มที่ แต่หากความสูงจรดเพดานห้อง และกว้างเต็มพื้นที่จะดูโปร่งยิ่งขึ้น

บานเลื่อนเป็นอะลูมิเนียมดำ เกรดดี กว่าแบบสีขาวและสีเงิน

ห้องนี้มีแอร์ 3 ตัว คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนลอยยกสูงเข้ามุม นั่นจึงเป็นเหตุผลให้บานกระจกกั้นห้องนั่งเล่นกับระเบียงถึงต้องมีขอบปูนเพื่อซ่อนคอมเพรสเซอร์แอร์ ต้องขอปรบมือให้กับคนออกแบบที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างลงตัว

แม้ว่าระเบียงแคบไปนิด ขนาด 0.7 x 4 เมตรแต่หน้ากว้างมากเปิดรับลมได้เต็มๆ เอาไว้ยืนรับลม ชมวิวได้ตามต้องการ