การปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายตั้งแต่ตลาดยอดพิมาน (ปากคลองตลาด) ยาวจนมาถึงเอเชียทีค เหมือนเป็นการพลิกฟื้นทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้ฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง โดยหากย้อนหลังกลับไปกว่า 30 ปีที่แล้ว ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่าบูมสุดสุด มีโรงแรมระดับ 5 ดาวเกิดขึ้นหลายแห่งทั้งฝั่งถนนเจริญกรุงและฝั่งถนนเจริญนคร แต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และไม่ได้มีความเคลื่อนไหว หรือการพัฒนาโครงการใหม่ๆ มานานมาก จนเมื่อมีโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา “เอเชียทีค” ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดีเกิดขึ้นบริเวณถนนเจริญกรุง 72-76 และประสบความสำเร็จมาก จนบรรดานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายกล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนกรุงโหยหาวิถีริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นวิถีดั้งเดิมที่ห่างหายไปจากสังคมไทยเนิ่นนาน พอมีคนปัดฝุ่นขึ้นมา ก็ได้รับการตอบรับที่ดี ปัจจัยดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ มองเห็นโอกาส และเริ่มมองหาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาเป็นโครงการค้าปลีกริมแม่น้ำ เช่น โครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์ค ของกลุ่มบริษัทตลาดยอดพิมานและผู้รับสัมปทานบริหารตลาดปากคลอง โครงการไอคอนสยามของกลุ่มสยามพิวรรธน์และกลุ่มซีพี โดยโครงการไอคอนสยาม ถือเป็นการจุดพลุครั้งใหญ่ให้กับทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมแม่น้ำ เรสซิเดนท์ (Meman Residences) นับเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ยุคใหม่โครงการแรกๆ ในรอบหลายปีที่กลับมาปลุกตลาดที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาโซนถนนเจริญกรุงรอบใหม่ ซึ่งนอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ยังเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือขายแบบมีกรรมสิทธิ์ เพราะในอนาคตหากมีคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆ เปิดขายบริเวณนี้คาดว่าจะขายแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรือสิทธิการเช่ามากกว่า
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 19 มีนาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: แม่น้ำ เรสซิเดนท์ (Meman Residences)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จำกัดในเครือโรงแรมแม่น้ำ
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนเจริญกรุง 72 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสิน
• รายละเอียดโครงการ:
พื้นที่โครงการรวม 5-0-93.3 ไร่
อาคารความสูง 54 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุดทั้งหมด 294 ยูนิต
ที่จอดรถ (Fixed) ประมาณ 350 คัน คิดเป็นสัดส่วน 120%
ห้องพักเพดานสูง 2.85 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก ชั้น 10 และ ชั้น 41
ลิฟท์โดยสาร จำนวน 6 ตัว (High Zone 3 ตัว และ Low Zone 3 ตัว)
ลิฟท์บริการ จำนวน 1 ตัว
ระบบคีย์การ์ด: ล็อกชั้น
ระบบรักษาความปลอดภัย Access Card และ CCTV
• สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างก่อสร้าง
• กำหนดแล้วเสร็จ: ประมาณมิถุนายน 2562
• เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 600 บาท/ ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ ตร.ม. / เดือน
• ราคาขายเฉลี่ย: 190,000-200,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ 19 มีนาคม 2558)
• รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 5 แบบ
1 ห้องนอน [44-60 ตร.ม.] 130 ยูนิต
2 ห้องนอน [63-99 ตร.ม.] 72 ยูนิต
3 ห้องนอน [120-162 ตร.ม.] 83 ยูนิต
ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ [262-287 ตร.ม.] 9 ยูนิต
รีวิวภาพรวมโครงการ
• สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ชั้น Ground Floor : สวน, สนามเด็กเล่น, จ็อกกิ้งแทร็ค, สนามบาสเก็ตบอล (Half)
ชั้น 10: สระว่ายน้ำ Infinity-edged, ห้องซาวน์น่า, ห้องสตีม, ออนเซ็นในร่มและกลางแจ้ง, ห้องฟิตเนส, ห้องสำหรับเด็ก, ห้องสมุด
ชั้น 41 : Outdoor Sky Lounge
รีวิวภายในห้องชุด
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted + วอลล์เปเปอร์
เพดาน: ห้องพักเพดานสูง 2.85 เมตร
เครื่องปรับอากาศ : ติดตั้งให้เป็นระบบฝัง
โครงการนี้ออกแบบให้อีกฝั่งของห้องชุด (ด้านนอกห้องชุด ถัดจากแนวทางเดิน) เป็นที่วางคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศของแต่ละห้อง จะทำให้ภายในห้องชุดจะไม่เห็นคอมเพรสเซอร์
สำหรับบรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 1 ห้องนอน [50 ตร.ม.]
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้านพร้อมระบบ Digital Door lock ของ Yale และ Video Phone
• ห้องครัว: ได้ครบชุด ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย Top เป็นหินควอซ, อ่างล้างจาน และก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (ไม่รวมตู้เย็นและเตาอบไฟฟ้า แต่วางระบบไว้ให้)
• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นพื้นที่เปล่า วางระบบทีวีไว้ให้มุมนี้ มีเครื่องปรับอากาศแบบฝัง
• พื้นห้องนั่งเล่น: พื้นกระเบื้อง
• ระเบียง: ติดกับมุมห้องนั่งเล่น ความยาว 4 เมตร
• ห้องนอน: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน วางระบบทีวีไว้ให้ มีเครื่องปรับอากาศแบบฝัง โดยบริเวณหัวเตียงนอน จะมีกระจกบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้
• พื้นห้องนอน: พื้นไม้ลามิเนต
• ตู้เก็บของอเนกประสงค์: นอกจากจะเป็นที่เก็บของอเนกประสงค์แล้ว ยังวางระบบเครื่องซักผ้าไว้ส่วนนี้ด้วย
• ห้องน้ำ: ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยตู้อเนกประสงค์ด้านบนเป็นตู้กระจกที่เปิดออกมาเก็บของได้ มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัว บวกด้วยเรน ชาวเวอร์ และออกแบบให้มีที่วางอุปกรณ์อาบน้ำไว้ด้วย
• พื้นห้องน้ำ: พื้นกระเบื้อง
สำหรับบรรยากาศจำลองที่สำนักงานขาย ห้องชุด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ [160 ตร.ม.] โดย Type นี้เป็น Type เดียวที่มี 2 ครัว และ 1 ห้องเมด (ปัจจุบัน Type นี้ขายหมดแล้ว และถือเป็น Type ที่ขายดีที่สุด)
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้านพร้อมระบบ Digital Door lock ของ Yale
• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นพื้นที่เปล่า วางระบบทีวีไว้ให้มุมนี้ มีเครื่องปรับอากาศแบบฝัง
• ห้องครัวแม่บ้าน: ได้ครบชุด ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจาน พร้อมก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (ไม่รวมเครื่องซักผ้า แต่วางระบบไว้ให้) มีที่วางเครื่องซักผ้า ซึ่งอยู่ติดกับฝั่งหน้าต่างของครัว
• ห้องครัวใหญ่: ได้ครบชุด ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจาน พร้อมก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน วางระบบเตาอบ และตู้เย็น ซึ่งมีพื้นที่เหมาะกับตู้เย็นไซส์ใหญ่ (ตู้เย็นแบบ 2 ประตู)
• ห้องนอนใหญ่ หรือมาสเตอร์เบดรูม มีห้องน้ำใหญ่อยู่ในห้อง: ห้องจริง เป็นห้องเปล่า แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน วางระบบทีวีไว้ให้ มีเครื่องปรับอากาศแบบฝัง โดยบริเวณหัวเตียงนอน จะมีกระจกบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้
• ห้องน้ำใหญ่ (อยู่ในห้องนอนใหญ่): ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ด้านบนและด้านล่าง โดยตู้อเนกประสงค์ด้านบนเป็นกระจกที่เปิดออกได้ มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ มีอ่างอาบน้ำ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโซนอ่างล่างหน้า ด้านข้างอ่างอาบน้ำจะเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัว บวกด้วยเรน ชาวเวอร์
• ห้องนอนเล็ก 1 + ห้องน้ำเล็ก: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน วางระบบให้วางทีวีได้ มีห้องน้ำในตัว
• ห้องน้ำเล็ก: ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ด้านบนและด้านล่าง โดยตู้อเนกประสงค์ด้านบนเป็นกระจกที่เปิดออกได้ มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัว บวกด้วยเรน ชาวเวอร์
• ห้องนอนเมด +ห้องน้ำเล็ก: (ห้องตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องเด็ก) ห้องจริง เป็นห้องโล่ง โดยออกแบบรองรับเมดที่จะดูแลความเรียบร้อยภายในห้องชุด และมีห้องน้ำเล็กอยู่ภายในห้องนี้ เท่ากับว่า Type นี้จึงเหมือนกับมี 4 ห้อง จึงเป็น Type ที่ขายดีที่สุด
• ห้องนอนเล็ก 2+ห้องน้ำเล็ก: (ห้องตัวอย่างตกแต่งให้เป็นห้องทำงาน) ห้องจริง เป็นห้องโล่ง แต่มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน พร้อมด้วยห้องน้ำเล็กในตัว
• ห้องน้ำเล็ก: ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า พร้อมตู้อเนกประสงค์ด้านบนและด้านล่าง โดยตู้อเนกประสงค์ด้านบนเป็นกระจกที่เปิดออกได้ มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัว บวกด้วยเรน ชาวเวอร์
• ระเบียง: Type นี้ ระเบียงกว้างถึง 7 เมตร
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ทำเลถนนเจริญกรุง 72 เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ โดยโรงแรมแม่น้ำ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการโรงแรมรายแรกๆ ที่บุกเบิกพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งถนนเจริญกรุง การเดินทางมีความสะดวกทั้งทางรถยนต์ที่สามารถเดินทางเข้าสาทร สีลม ใกล้ทางด่วนบริเวณถนนจันทน์ หรือจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ก็ใกล้กับสถานีสะพานตากสิน หรือจะเดินทางด้วยเรือก็สามารถไปต่อเรือท่องเที่ยว เรือสาธารณะได้ที่ท่าเรือสาทร ซึ่งอยู่ใกล้กับ BTS สถานีสะพานตากสิน
นอกจากนี้ ที่ดินฟรีโฮลด์ที่สามารถพัฒนาได้ย่านนี้หาได้ยากมาก เพราะที่ดินส่วนใหญ่เป็นของหน่วยงานรัฐ หรือองค์กรต่างๆ โดยที่ดินแปลงใหญ่ของเอกชนที่ยังมีอยู่เป็นของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งไม่มีแผนที่จะนำที่มีอยู่มาขาย มีแต่แผนพัฒนาเป็นเอเชียทีคแห่งที่ 2 และโรงแรม ทำให้โอกาสที่จะเกิดคอนโดมิเนียมฟรีโฮลด์ใหม่ๆ ได้ยาก
อีกทั้ง การที่ศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) มีแนวคิดจะพัฒนาโครงการริมน้ำยานนาวา (Yannawa Riverfront Project) เป็นพื้นที่นำร่องการพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำของกรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เชิงสะพานตากสินจนถึงโรงแรมชาเทรียม คิดเป็นระยะทางยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร ให้เป็น “พื้นที่ริมน้ำแห่งประเทศไทย” (The Riverfront of Thailand) ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากถนนเจริญกรุง เป็นถนนเก่าแก่ และเป็นชุมชนเก่าที่ขยายตัวมานาน จึงทำให้ถนนบริเวณนี้ไม่ได้กว้างมากนัก การจราจรจึงค่อนข้างติดขัด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวเอเชียทีค ถนนเส้นนี้จะติดขัดมาก
สถานที่แนว Lifestyle ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา
– แวดล้อมด้วย 8 โรงแรมใกล้เคียง ได้แก่ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล, โรงแรมแชงกรี-ลา, โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน, โรงแรมอนันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา, โรงแรมเพนนินซูล่า, โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน และโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร บาร์ริมแม่น้ำให้เลือกแฮงค์เอ้าท์ได้หลากหลาย
– เอเชียทีค ริเวอร์ฟร้อนท์ คอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนเนื้อที่รวมกว่า 70 ไร่ ปัจจุบันเฟสแรกพัฒนาเป็นย่านการค้า มีร้านค้า 1,500 ร้าน และร้านอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์อีกประมาณ 40 ร้าน ซึ่งเป็นสถานที่กินดื่มริมแม่น้ำเจ้าพระยายอดนิยมอันดับต้นๆ ของทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยในอนาคตเอเชียทีคมีแผนจะขยายเฟส 2 อยู่ฝั่งลานจอดรถติดกับเอเชียทีค 1 เป็นค้าปลีก อาคารจอดรถ คอนเวนชั่น และโรงแรม และเฟส 3 จะเป็นค้าปลีกและโรงแรม 2 อาคาร
– ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค (ปากคลองตลาด) แม้ว่าจะไกลจากตัวโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ เล็กน้อย แต่ก็สามารถด้วยเรือสาธารณะไปถึงมอลล์ริมแม่น้ำแห่งนี้ได้ โดยยอดพิมานริเวอร์วอล์ค จัดอยู่ในโซนไข่แดงของทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นตึกเก่าที่ปรับปรุงใหม่ให้เป็นไทย เฮอริเทจ มอลล์ ริมแม่น้ำมีพื้นที่ทั้งหมด 1.4 หมื่นตร.ม. แบ่งเป็น พื้นที่เชิงพาณิชย์ 60% และพื้นที่ส่วนกลาง 40% รวมมีร้านค้า 40 ร้านค้า มองเห็นวิววัดอรุณ
– เสนา เฟสท์ (อยู่ฝั่งถนนเจริญนคร) เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด 4 ชั้น และลานจอดรถใต้ดิน 2 ชั้น มีการตกแต่งภูมิทัศน์สวยงาม พร้อมร้านค้าทั่วไป ประมาณ 120 ร้านค้า โดยชั้น G เป็นโซนซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้าแฟชั่น, ชั้น 1-2 เป็นพื้นที่ร้านอาหาร มือถือ สินค้าไอที และธนาคาร, ชั้น 3 เป็นพื้นที่ศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ และศูนย์ความงาม
– ไอคอนสยาม (โครงการในอนาคต) อภิมหาโปรเจคย่านเจริญนคร ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการและทยอยเปิดตัวพันธมิตรภายในโครงการ ซึ่งความชัดเจนล่าสุด คือ การดึงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น “ทาคาชิมาย่า” เข้ามาปักธงในพื้นที่โครงการไอคอนสยาม ที่จะช่วยยกระดับให้โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นทำเลที่มีความเป็นลักซ์ชัวรี่มากขึ้น
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
อัตราค่าเช่าย่านถนนเจริญกรุง 72: 1 ห้องนอน 50,000-60,000 บาท/ เดือน
ต้นทุนห้องชุดเฉลี่ย 190,000 – 200,000 บาท/ตร.ม. จะมีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอย่างน้อย 6.32 – 7.20 % ต่อปี
เปรียบเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
• Four Seasons Private Residences (โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์) ของบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2558 ติดถนนบริเวณเจริญกรุง ซอย 64 เป็นคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำ ความสูง 73 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุด 355 ยูนิต ที่จอดรถเพียงพอทุกห้องพัก มีห้องชุด 1-5 ห้องนอน และเพ้นท์เฮ้าส์ (พื้นที่ใช้สอย 104 – 499 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยในช่วงเปิดตัวประมาณ 300,000 บาท/ตร.ม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 4 ปี โดยโครงการนี้ขายแบบลีสโฮลด์ (Lease Hold) หรือสิทธิการเช่า 25 ปี ใช้แบรนด์โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์บริหารอาคารและดูแลการอยู่อาศัย
• Magnolias Waterfront Residences at ICONSIAM (แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม) ของบริษัท ดิ ไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดในเครือแมกโนเลีย เปิดตัวเมื่อกลางปี 2557 โครงการตั้งอยู่ในเขตคลองสาน ถนนเจริญนคร อยู่ในพื้นที่โครงการ ไอคอนสยาม ที่ดินประมาณ 7-2-63 ไร่ เป็นอาคารพักอาศัยความสูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต มีห้องชุด 1-3 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ (พื้นที่ใช้สอย 60 – 246 ตร.ม.) ที่จอดรถเกิน 100% ราคาขายในช่วงเปิดตัว 230,000 – 360,000 บาท/ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จ กันยายน 2560 โดยโครงการนี้ขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
• The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok (เดอะ เรสซิเดนเซส แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ) ของบริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดในเครือแมกโนเลีย เปิดตัวความร่วมมือในการดึงเชนโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลเข้ามาบริหารอาคารหลังตึกเสร็จเมื่อปลายปี 2557 โครงการตั้งอยู่ในเขตคลองสาน ถนนเจริญนคร อยู่ในพื้นที่โครงการ ไอคอนสยาม (นับเป็นเฟส 2 ของแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม) จำนวน 146 ยูนิต เป็นอาคารสูง 52 ชั้น (ยังไม่เปิดตัวราคา แต่มีการประเมินกันว่าอาจจะแตะ 4 แสนบาท/ตร.ม.) โดยโครงการนี้ขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ใช้แบรนด์โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลบริหารอาคารและดูแลการอยู่อาศัย
ก่อนอื่นต้องประเมินก่อนว่าทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทำเลเฉพาะกลุ่มคนกำลังซื้อสูง ถ้าหากเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำที่อยู่ระหว่างขายในปัจจุบันแม่น้ำ เรสซิเดนท์มีต้นทุนราคาที่ดีกว่า เพราะเปิดตัวก่อน และเป็นที่ดินที่กลุ่มโรงแรมเก็บไว้นานแล้ว แต่หากวิเคราะห์ถึงโอกาสในการเพิ่มขึ้นของราคาในอนาคต หรือ Capital Gain มีโอกาสขยับขึ้น เพราะที่ดินริมแม่น้ำหายากขึ้น และคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำล็อตใหม่ๆ มีราคาค่อนข้างสูงมาก แต่ราคาอาจจะขยับขึ้นน้อยกว่า 3 โครงการดังกล่าว เพราะ 3 โครงการที่กล่าวมามีจุดขายด้านอื่นๆ เสริม ทั้งเรื่องการใช้แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกในการบริหาร หรือการอยู่ในพื้นที่เดียวกับโครงการค้าปลีกชั้นนำจากญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม แม่น้ำ เรสซิเดนท์ เป็นโครงการที่เสนอขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) ในต้นทุนราคาที่ถูกกว่า และมีการบริหารจัดการหลังจากที่อาคารเสร็จจากกลุ่มโรงแรมแม่น้ำ จึงถือว่าโดยรวมแล้วมีความคุ้มค่าในด้านราคาและสิ่งที่จะได้รับ
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดเขาเต่า ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม สามารถสร้าง Passive Income จากการลงทุนที่โครงการการันตีผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี รวมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 15 ปี ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 50 อาคาร อาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น 6 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 10,074 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท
