รีวิวโครงการ: โกลเด้น ทาวน์ บางนา – สวนหลวง (Golden Town Bangna - Suanluang)

จากรูปจะเห็นว่าถนนทางเข้าโครงการค่อนข้างโอ่โถงทีเดียว โดยมีความกว้าง 16 เมตร และมีระยะห่างระหว่าง Main Gate กับถนนกาญจนาภิเษก ประมาณ 100 เมตร ทั้งนี้ความกว้างของถนนโครงการภายในซอยประมาณจะกว้างประมาณ 12 เมตร และ 9 เมตร

ก่อนจะถึง Main Gate จะมีสะพานข้ามคลองปักหลักดังรูป

สำหรับ Main Gate แบ่งจุดเข้า-ออก เป็นสองฝั่ง แต่ไม่มีระบบ Access Key Card ในการเข้า-ออก จะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเปิดไม้กระดกให้แทน ทั้งนี้บริเวณจุดดังกล่าวมีการติดตั้งกล้อง CCTV ให้ด้วย

พื้นที่ล้อมรั้วคือส่วนที่กำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนตุลาคม 2561

Kensington เป็น Type ใหญ่สุดของโครงการ โดยนอกจากจะสามารถจอดรถ 2 คันได้แล้ว ยังมีพื้นที่ของห้องพระเพิ่มเข้ามาด้วย

Windsor เป็น Type กลางของโครงการ สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือส่วนของห้องนอน กับพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น หากเทียบกับยูนิตเล็กสุด

Saint Jame เป็นยูนิตเล็กสุดของโครงการ และถึงแม้จะเป็น Type เล็กสุด แต่ก็มีห้องอเนกประสงค์บริเวณชั้นล่างให้ด้วย

ภาพจาก Google Maps แสดงรัศมีโดยรอบของโครงการ ซึ่งจากรูปจะเห็นว่าทางเข้าโครงการติดกับถนนกาญจนาภิเษก โดยจะมีคลองปักหลักพาดผ่านพอดี ยิ่งไปกว่านั้นจะมีแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านโครงการด้วยเช่นกัน ทั้งนี้บริเวณพื้นที่รอบเสาไฟฟ้าจะไม่มียูนิตที่อยู่อาศัย เป็นเพียงสวนสาธารณธเท่านั้น

คลับเฮ้าส์โครงการเป็นสไตล์อังกฤษ เฉกเช่นเดียวยูนิตบ้านอาศัย โดยขณะนี้ถูกใช้เป็นพื้นที่ของสำนักงานขาย

บรรยากาศของสระว่ายน้ำ โดยเป็นระบบเกลือ มีความกว้าง 15 เมตร ยาว 8 เมตร ภายในสระมีการแบ่งพื้นที่สระเด็กให้ด้วย ทั้งนี้บรรยากาศโดยรอบจะถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการสัมผัสถึงความร่มรื่น

บรรยากาศของสระว่ายน้ำ บริเวณด้านหน้าคลับเฮ้าส์

สำหรับสวนสาธารณะโครงการโกลเด้น ทาวน์นี้ มีความแตกต่างจากที่อื่น ตรงที่มีการออกแบบให้กระจายอยู่หลายจุดในโครงการ และใหญ่ขึ้น

พื้นที่สนามเด็กเล่นภายในโครงการ

เป็นรูปแบบทาวน์โฮมสไตล์อังกฤษ ที่ใช้หินมาประดับด้านหน้าบ้าน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นมากขึ้น โดยสามารถจอดรถได้ 1 คัน และถ้าหากเป็นบ้านจริง บริเวณโถงที่จอดรถจะปูพื้นคอนกรีตให้ พร้อมรั้วกั้น

โถงที่จอดรถหน้าบ้าน สามารถจอดได้ 1 คัน

เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนเข้ามาด้านในบ้าน สิ่งแรกที่เจอคือโถงรับแขกขนาดพอเหมาะ

พื้นที่โถงรับแขกนั้นไม่ได้กว้างมากนัก ดังนั้นการเลือกโซฟา หรือ Built-in ชั้นวางทีวี จึงควรเลือกขนาดที่พอเหมาะสมกับพื้นที่ เพราะถ้าหากใหญ่เกินไป จะทำให้เดินเข้า-ออกลำบาก

ถัดจากโถงรับแขกเข้ามา จะเป็นพื้นที่สำหรับจัดวางเป็นที่กินข้าวในครอบครัว โดยสามารถนำโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งมาวางได้ เพราะถ้าหากใหญ่กว่านี้ จะปิดทางเดินไปส่วนของครัวไทยหลังบ้าน

ตรงข้ามกับพื้นที่นั่งกินข้าวเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ ซึ่งสามารถจัดวางเป็นห้องนอนขนาดเล็กได้

ด้านข้างเตียงสามารถนำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดพอเหมาะมาวางได้ โดยสังเกตจากรูป บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งจะมีหน้าต่างบานกระทุ้ง เพื่อช่วยในการถ่ายเทอากาศและให้แสงรอดเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูสว่าง โปร่ง ไม่ทำให้อึดอัด ซึ่งถือว่าเป็นไอเดียที่ดี

นอกจากนี้ ยังมีหน้าต่างบานเลื่อนเพิ่มเติมให้สามารถมองพื้นที่หลังบ้านได้

พื้นที่หลังบ้านสามารถตกแต่งจัดวางเป็นพักผ่อน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งสวนส่วนตัวได้ อันเป็นการแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่สวนสำหรับทาวน์โฮมได้ดี

ส่วนของหลังคา หากต้องการให้แสงรอดผ่านเข้ามาได้ดี ประกอบกับต้องการให้ลมโกรกเข้ามาในบ้าน อาจทำเป็นลักษณะหลังคาบานเลื่อน ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย

นอกจากนี้ส่วนของพื้นที่หลังบ้าน อาจกั้นเป็นครัวปิดได้ดังรูป

โดยสำหรับพื้นที่ของห้องครัว หากเป็นยูนิตห้องมุม จะมีประตูบานกระจก ที่สามารถเปิดเพื่อถ่ายเทอากาศ พร้อมออกไปสูดอากาศบริเวณพื้นที่สวนข้างบ้านได้

สำหรับห้องน้ำชั้นล่าง ถูกออกแบบให้เล่นระดับลงไปบริเวณใต้บันได ดังรูป

สำหรับห้องน้ำชั้นล่างแม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ได้ออกแบบพื้นที่อาบน้ำให้ด้วย โดยสุขภัณฑ์เป็นของ Englefield by Kohler

บริเวณพื้นที่อาบน้ำ มีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายอากาศ และให้แสงรอดผ่านเข้ามาในห้องน้ำ เนื่องจากห้องน้ำอยู่ใต้บันได อาจจะมีปัญหาเรื่องแสง

ความกว้างของพื้นที่อาบน้ำ

จากรูปหากสังเกตจะเห็นว่ามีหน้าต่างอยู่ด้านข้างทางขึ้นบันได ทั้งนี้เป็นการเพิ่มช่องแสงให้กับทางเดินบันได เพื่อไม่ให้มืดทึบเกินไป

บริเวณชานพักบันไดที่เป็นรูปสามเหลี่ยม จะมีช่องแสงอีกหนึ่งช่อง เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับทางเดินขึ้นบันได โดยบันไดลูกนอนเป็นไม้ประสาน ซึ่งเด่นในเรื่องาความสวดงามและเนื้อสัมผัสที่เหมือนไม้จริง

เมื่อขึ้นมาชั้นสอง มาดูความน่าสนใจของห้องนอนที่ 2 กันก่อน ซึ่งสิ่งที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน คือความยาวของห้อง ที่สามารถจัดวางเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุต จำนวน 2 เตียงมาไว้ในห้องนี้ได้เลย

ทั้งนี้ยังมีหน้าต่างด้านหลังและด้านข้าง อันทำให้ห้องดูโปร่งขึึ้น

ห้องนอนมาสเตอร์ ถือว่าค่อนข้างใหญ่ทีเดียว โดยสามารถนำเตียงขนาด 6 ฟุตขึ้นไปมาวางได้อย่างไม่อึดอัด

จะเห็นว่าเมื่อวางเตียงขนาด 6 ฟุตไปแล้ว ยังมีพื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือให้สามารถวางโต๊ะอ่านหนังสือ หรือโต๊ะเครื่องแป้งได้เพิ่มเติม

ภายในห้องนอนมาสเตอร์สำหรับยูนิตนี้ จะไม่มีห้องน้ำในตัวให้ แต่ได้ออกแบบเพื่อรองรับการกั้นห้องให้เป็น Walk in closet ดังรรูป

ส่วนของระเบียงภายในห้องนอนมาสเตอร์ ราวเป็นเหล็กสีดำตกแต่งลวดลาย เพื่อให้เข้ากับสไตล์บ้าน

รูปแบบของบ้านนั้นไม่ได้แตกต่างจากยูนิต Saint Jame แต่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยและเนื้อที่เพิ่มมากขึ้น

ลานหน้าบ้านนั้นมีขนาดกว้างขึ้น แต่ยังคงจอดรถได้คันเดียว

สิ่งแรกที่เข้าไปในบ้านแล้วสัมผัสได้คือ ขนาดพื้นที่โถงรับแขกที่กว้างขึ้น ทำให้เข้า-ออกบ้านได้อย่างไม่อึดอัด

เนื่องจากยูนิตตัวอย่างนี้เป็นห้องมุมจึงทำให้มีหน้าต่างด้านข้างเพิ่มเข้ามา ข้อดีคือบ้านดูโปร่งและสว่างขึ้น

ถัดมาจากโถงรับแขก เป็นพื้นที่สำหรับจัดวางเป็นที่กินข้าวในครอบครัว โดยสังเกตจากรูปจะเห็นว่ามีพื้นที่ว่างด้านฝั่งโถงรับแขก ที่สามารถนำตู้โขว์หรือโต๊ะทำงานมาวางได้เพิ่มเติม

โดยห้องอเนกประสงค์ยังคงถูกออกแบบให้อยู่ตรงข้ามกับพื้นที่นั่งกินข้าว ซึ่งสำหรับยูนิตนี้ถูกตกแต่งให้เป็นโรงภาพยนตร์ส่วนตัว อันถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี

พื้นที่หลังบ้านของยูนิตนี้ ยังคงแบ่งสัดส่วนให้เป็นทั้งห้องครัวไทย และสวนนั่งพักผ่อน

สำหรับครัวยูนิตห้องมุม ยังมีประตูให้เปิดออกไปส่วนของพื้นที่สวนด้านข้าง

ขึ้นมาดูส่วนของห้องนอนชั้น 2 กันบ้าง โดยเริ่มจากห้องนอนขนาดกลาง จะสังเกตเห็นว่าแม้วางเตียงขนาด 3 ฟุตลงไปแล้ว ยังมีพื้นที่บริเวณปลายเตียงเหลือให้สามารถตกแต่งงาน Built-in ได้เพิ่มเติม แต่มีข้อแม้ว่าอาจจะต้องเลือกที่มีขนาดพอเหมาะเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะทำให้ห้องดูแคบ

ข้างเตียงสามารถหาสตูเล็กๆ มาตั้งเพื่อวางของได้เพิ่มเติม

รวมไปถึงการวางตู้เสื้อผ้า เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน จะมีขนาดไม่เกิน 2 บาน

สำหรับห้องนอนมาสเตอร์ ยังคงสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต ขึ้นไปได้ โดยยังคงออกแบบให้หน้าต่างโดยรอบ เพื่อให้แสงรอดผ่านเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น

เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดี ในการ Built-in พื้นที่เหลือด้านข้างเตียงให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือชั้นวางของเพิ่มเติม เพราะนอกจากจะดูเป็นสัดส่วนแล้ว ยังเป็นการใช้พื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า

พื้นที่แต่งตัวในห้องนอนในรูป จริงๆ แล้วสามารถกั้นเป็น Walk in closet ได้

ระเบียงยูนิตนี้อาจจะดูแคบไปนิด ไม่เหมาะต่อการออกไปยืนสูดข้างนอก แต่สามารถเปิดให้ลมพัดเข้ามาในห้อง ทำให้ห้องถ่ายเทอากาศได้ดีขึ้น

ห้องน้ำชั้น 2 ยังคงไม่ได้แบ่งส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน แต่ผู้อยู่อาศัยสามารถกั้นให้เป็นสัดส่วนได้ด้วยม่านหรือตู้อาบน้ำ

สำหรับห้องนอนเล็กสุดของยูนิตนี้ โดยรวมถือว่าไม่ได้แคบเมื่อนำเตียงและตู้มาวาง ทั้งนี้สามารถสังเกตเห็นระยะห่างของตู้และเตียง ที่แม้ไม่ได้กว้าง แต่ก็สามารถเดินเข้า-ออกได้สะดวก

บริเวณปลายเตียงแม้จะไม่มีช่องว่างให้เป็นทางเดิน แต่สามารถแต่งผนังให้กลายเป็นพื้นที่เก็บของได้เพิ่่มเติม

สิ่งที่แตกต่างจากยูนิตอื่นคือ ที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้ 2 คัน ดังรูป

เมื่อเข้ามาในบ้าน ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น จึงทำให้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหมือนบ้านเดี่ยวเมื่อเข้ามาด้านใน  โดยสามารถจัดชุดรับแขกแบบจัดเต็มได้ดังรูป

ส่วนของฝั่งวางทีวี ดูเหมือนถูกออกแบบให้มีพื้นที่จำกัดในการวางชั้นวางทีวี ดังนั้นจึงของวัดพื้นที่ให้แน่นอนก่อนเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์

ส่วนของพื้นที่กินข้าว จริงๆ แล้วสามารถจัดวางโต๊ะได้มากกว่่า 4 ที่นั่ง โดยหันโต๊ะเป็นแนวยาวแทน และไม่ทำให้เกะกะด้วย

สำหรับห้องน้ำชั้นล่าง แม้จะยังคงออกแบบให้อยู่ใต้บันได แต่ปรับเปลี่ยนใหม่ให้สะดวกต่อการใช้งาน โดยตัดขั้นบันไดเล่นระดับออก

ห้องน้ำชั้นล่าง แม้จะมีพื้นที่อาบน้ำ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้สอยอันดูคับแคบไปนิดอยู่

ส่วนของห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง สำหรับยูนิตนี้ได้ตกแต่งให้เป็นห้องนอนได้อย่างลงตัว เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ

ภายในห้องอเนกประสงค์ได้ออกแบบให้มีหน้าต่างบานกระทุ้ง ที่สามารถเปิดช่วงระบายอากาศได้

เมื่อได้จัดวางเตียงภายในห้องอเนกประสงค์นี้แล้ว บริเวณปลายเตียงสามารถ Built-in เป็นชั้นวางของได้ดังรูป

สำหรับยูนิตนี้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มีค่อนข้างมาก จึงสามารถตกแต่งพื้นที่ด้านหลังให้เป็นห้องซักรีดได้เลย

พื้นที่ครัวแม้มีการกั้นเป็นห้องซักรีดแล้ว ก็ยังมีพื้นที่พอเหมาะที่จะตกแต่งเป็นครัวไทย

มาดูส่วนของชั้น 2 กันบ้าง เรียกว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ กับการออกแบบให้มีชั้นลอย เมื่อจัดวางเป็นห้องพระ

มุมพื้นที่อันออกแบบให้เป็นห้องพระ

ห้องนอนเล็กของยูนิตนีี้ ถือว่าไม่เล็ก โดยสามารถวางเตียงเดี่ยวขนาด 3 ฟุตได้ดังรูป หรืออาจปรับเแลี่ยนเป็นเตียง 5 ฟุต ด้วยการหันเตียงใหม่ เพื่อให้ห้องไม่ดูแคบ อึดอัด

เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีในการแต่งผนังให้เป็นที่เก็บของ ในห้องอันมีความจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้สอย

ห้องนอนมาสเตอร์ ยังคงคอนเซปต์ขนาดใหญ่ไว้อยู่ โดยสามารถนำเตียงขนาด 6 ฟุตมาวางได้ แต่ถ้าหากเป็นคิงไซส์ อาจจะมีพื้นที่ปลายเตียงน้อยเกินไป

บริเวณนี้ถ้าต้องการเป็นสัดส่วนสามารถกั้นเป็น Walk in closet ได้ โดยภายในห้องนอนนี้มีห้องน้ำส่วนตัวให้ด้วย โดยอยู่ฝั่งซ้ายมือของรูป

ระเบียงยูนิตนี้ เรียกว่ามีพื้นที่มากกว่า Type กลาง

ห้องน้ำภายในห้องนอนมาสเตอร์ สังเกตว่าส่วนของพื้นอาบน้ำ มีการก่อกระเบื้องสูงขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อกั้นไม่ให้น้ำไหลออกมาส่วนแห้ง

พื้นที่ข้างเตียง เมื่อวางเตียงแล้ว สามารถนำโต๊ะอ่านหนังสือหรือโต๊ะเครื่องแป้งมาวางเพิ่มเติมได้