สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ที่ดินแปลงใหญ่กว่า 35 ไร่ที่มีหน้ากว้างริมแม่น้ำยาวถึง 350 เมตร ซึ่งในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของ “องค์การสะพานปลา” รัฐวิสาหกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งถนนเจริญกรุง 64 เป็นที่ดินแปลงที่ถูกจับตามอง เพราะเป็นที่ดินแปลงใหญ่และอยู่ฝั่งถนนเจริญกรุง (ถือว่าไพร์มกว่าฝั่งถนนเจริญนคร) โดยบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้สิทธิเช่าในที่ดินผืนนี้ ระยะเวลาเช่าช่วงแรก 25 ปี พร้อมกับสิทธิในการเลือกที่จะต่ออายุสัญญาเช่า 2 ครั้ง นับรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 75 ปี
คันทรี่ กรุ๊ปมีแผนพัฒนาที่ดินดังกล่าว ภายใต้ชื่อโครงการ “เจ้าพระยา เอสเตท” ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยหรูและโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยามูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา อาคารที่พักอาศัยหรูความสูง 73 ชั้น จำนวน 355 ยูนิต และโรงแรมระดับเวิลด์คลาส 2 แห่ง ได้แก่
1. โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมสไตล์ รีสอร์ท พื้นที่โรงแรมกว้างกว่า 22 ไร่ มีพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้ากว้าง 200 เมตร มีห้องพัก 312 ห้อง ห้องจัดเลี้ยงแกรนด์ บอลรูมริมแม่น้ำพื้นที่กว่า 1,400 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่พรีฟังก์ชั่น ห้องประชุมห้องจัดเลี้ยง และสวนลอยฟ้า
2. โรงแรมคาเพลล่า กรุงเทพ โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ให้บริการห้องพักแบบสวีท ทั้งหมด 101 ห้อง ถือเป็นวิลล่าริมแม่น้ำแห่งแรกของกรุงเทพฯ ห้องจัดเลี้ยงแกรนด์บอลรูม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องจัดเลี้ยงพิเศษ และห้องรับรอง “คาเพลล่า ลีฟวิ่ง รูม” และ Auriga สปาที่ได้รับรางวัลระดับโลก
การที่คันทรี กรุ๊ปดึงเชนโรงแรมชั้นนำระดับโลกอย่างโฟร์ซีซั่นเข้ามาบริหารโครงการคอนโดมิเนียม และอยู่บนพื้นที่เดียวกับโรงแรม 2 แบรนด์ดัง ทำให้ “โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ ณ แม่น้ำเจ้าพระยา” เป็นที่สนใจของบรรดาเศรษฐีทั้งไทยและต่างชาติที่อยากมีที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาและอยู่อาศัยในโครงการที่เป็นแบรนด์โรงแรมชื่อดังระดับโลก รวมถึง การที่โครงการดังกล่าวเปิดราคาขายห้องชุดแบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรือสิทธิการเช่า ไม่ใช่ฟรีโฮลด์ (Freehold) ร้อนแรงถึง 300,000 บาท/ตร.ม. จึงเป็นที่จับตามองของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ 19 มีนาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ กรุงเทพฯ (Four Seasons Private Residences Bangkok)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ซอยเจริญกรุง 64 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทรเว็บไซต์: http://www.chaophrayaestate.com
• รายละเอียดโครงการ
แนวคิดในการสร้างอาคาร คือ ออกแบบให้ทุกห้องเป็นห้องหัวมุม เพื่อให้ผู้พักอาศัยในทุกห้องเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำและเมืองกรุงเทพฯ และในห้องชุด 1 ห้อง ยังออกแบบให้ได้เห็นวิวแม่น้ำมากกว่า 1 มุม
อาคารที่พักอาศัยริมแม่น้ำ ความสูง 73 ชั้น (พื้นที่ขาย 64,290 ตร.ม.)
จำนวน 355 ยูนิต มูลค่าโครงการ 19,000 ล้านบาท
ที่จอดรถ 600 คันสำหรับส่วนที่เป็นเรสซิเดนซ์
ห้องพักเพดานสูง 3 เมตร
ที่พักอาศัย เริ่มต้นจากชั้น 4 ถึงชั้น 71
สิ่งอำนวยความสะดวก แบ่งเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซน River Lounge ชั้น Promenade โซนAmenities Deck ชั้น 3 และโซน Four Seasons Club ชั้น 64 ชั้น 65 และ ชั้น 66
ลิฟท์โดยสารความเร็วสูง 8 ตัว
ลิฟท์บริการ 2 ตัว โดย 1 ตัวจะเป็นลิฟท์ดับเพลิง
ลิฟท์โดยสารจากบริเวณ River Lounge ไปยังล็อบบี้และโซน Amenities Deck 1 ตัว
ลิฟท์โดยสารสำหรับที่จอดรถริมน้ำ 1 ตัว
ระบบคีย์การ์ด ล็อกชั้น ใช้สำหรับเข้าถึงเฉพาะชั้นที่ลูกค้าเป็นเจ้าของ และพื้นที่ส่วนกลาง เช่นคลับโฟร์ซีซั่นส์และสิ่งอำนวยความสะดวกในชั้นต่างๆ
ราคาขายเฉลี่ย 300,000 บาท/ตารางเมตร (ข้อมูล ณ 19 มีนาคม 2558)
เงื่อนไขการขาย: Leasehold (สัญญาเช่าระยะยาว 25 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก)
• คณะที่ปรึกษา: ฮามิลตันส์ อินเตอร์เนชั่นแนล- มาสเตอร์แพลนและดีไซน์, บริษัท เทวนันทน์ จำกัด – สถาปนิก, บาโม่ – ออกแบบภายใน, บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด – ออกแบบภายใน และบริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด – ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม
• สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง ไตรมาสที่ 3 ปี 2557
• กำหนดการแล้วเสร็จ: ไตรมาสที่ 4 ปี 2561
• เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 1,000 บาท/ ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง: 120 บาท/ ตร.ม. / เดือน
• รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 6 แบบ
1 ห้องนอน [104 ตร.ม.]
2 ห้องนอน [115-140 ตร.ม.]
3 ห้องนอน [191-253 ตร.ม.]
4 ห้องนอน [355-399 ตร.ม.]
5 ห้องนอน [492-499 ตร.ม.]
เพนท์เฮ้าส์ [สอบถามโดยตรงกับโครงการ]
รีวิวภาพรวมโครงการ
• สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
– โซน River Lounge ชั้น Promenade ประกอบด้วย เลาจน์, ริเวอร์ไซด์ส่วนตัว, ห้องนั่งเล่น, แกลลอรี่, ห้องรับประทานอาหารส่วนตัวและฟังก์ชั่นรูม, สวน
– โซน Amenities Deck ชั้น 3 ประกอบด้วย สระว่ายแบบ Infinity Edge, ฟิตเนสและโยคะสตูดิโอ, ห้องอเนกประสงค์, ซาลอน, พื้นที่นวดแบบกลางแจ้ง, สระว่ายน้ำในร่ม, สระว่ายน้ำเด็ก, ห้องอบไอน้ำและซาวน่า, ลานบาร์บีคิว, จากุซซี่แบบกลางแจ้ง, ห้องเด็กเล่น, ห้องนวด
– โซน Four Seasons Club ชั้น 64 ชั้น 65 และ ชั้น 66 มีรายละเอียดดังนี้
ชั้น 64 : เลาจน์บาร์และโต๊ะบิลเลียด, ระเบียงกลางแจ้ง, ห้องเก็บไวน์ส่วนตัว พร้อมอุปกรณ์ชิมไวน์, สนามกอล์ฟจำลอง, เรสซิเด้นซ์บาร์, ห้องประชุม, ซิการ์เลานจ์ และโรงภาพยนตร์ส่วนตัว
ชั้น 65 : Teens den, Study room, ห้องดนตรี, ห้องคาร์ดิโอส่วนตัว, โยคะ/พิลาทิสสตูดิโอและห้องศิลปะ-กิจกรรม
ชั้น 66 : สระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้า, มุมอาบแดด, พื้นที่พักผ่อนริมสระว่ายน้ำ
รีวิวภายในห้องชุด
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted ชุดครัว ชุดห้องน้ำ และบิวท์อินบางส่วน
เพดาน: สูง 3 เมตร
ระบบไฟภายในห้อง: สามารถสั่งการเปิด-ปิดผ่านแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน
สำหรับบรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขายแบบ 2 ห้องนอน [131 ตร.ม.]
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้านพร้อมระบบ Digital
• ห้องซักผ้า: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามา ด้านขวามือ ออกแบบให้เป็นห้องซักผ้า หรือจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้ โดยวางระบบเครื่องซักผ้าให้บริเวณนี้ และมีพื้นที่บิวท์อินตู้เก็บของอเนกประสงค์
• ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก: ฝั่งซ้ายมือ ตรงข้ามห้องซักผ้า จะเป็นห้องนอนเล็ก ที่มีห้องน้ำอยู่ในห้องด้วย โดยในห้องน้ำเล็กได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้าหินอ่อน และกระจก มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว
• โถงห้องนั่งเล่นใหญ่กลางห้อง+ครัวใหญ่+มุมระเบียง: เมื่อเดินเข้าสู่กลางห้องจะเป็นโถงห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ มีโซนตั้งโต๊ะรับประทานอาหาร และครัวใหญ่ที่เน้นโทนสีขาวและหินอ่อน โดยจุดเด่นของโถงห้องนั่งเล่นนี้ คือ บานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน เพื่อเห็นวิวภาพกว้างด้านนอกและยังเชื่อมต่อไปยังมุมระเบียงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กๆ ที่สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นเอ้าท์ดอร์ชมวิวด้านนอกได้
• มาสเตอร์เบดรูม หรือห้องนอนใหญ่+ห้องน้ำใหญ่: ถัดจากห้องโถงใหญ่แล้ว ด้านขวามือจะเป็นมาสเตอร์เบดรูม มีบานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน เพื่อเห็นวิวภาพกว้างด้านนอก พร้อมห้องน้ำใหญ่ในห้องนอน โดยในห้องน้ำใหญ่ ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียก และส่วนสุขภัณฑ์ พื้นที่ส่วนแห้งจะมีอ่างล้างหน้าหินอ่อน และกระจก และแยกห้องสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว พร้อมอ่างอาบน้ำวงรี
บรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขายแบบ 3 ห้องนอน [238 ตร.ม.] โดย Type นี้เป็นห้องดูเพล็กซ์ 2 ชั้น ซึ่งห้องตัวอย่างจะเน้นโชว์เป็นห้องเปล่า
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้านพร้อมระบบ Digital
• ห้องเมดและห้องครัวเล็ก: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามา ด้านซ้ายมือ ออกแบบให้เป็นห้องเมดและห้องครัวเล็ก หรือจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์และห้องครัวก็ได้ โดยจะมีเคาน์เตอร์ครัวครบชุด พร้อมออกแบบให้วางตู้เย็น และเครื่องซักผ้า รวมถึง มีพื้นที่บิวท์อินตู้เก็บของอเนกประสงค์ และมีห้องนอนขนาดเล็กให้กับเมด พร้อมห้องน้ำในตัว
• ห้องน้ำเล็ก: Type นี้ ด้านขวามือ (ตรงข้ามกับห้องเมดและห้องครัวเล็ก) ออกแบบให้เป็นห้องน้ำเล็ก ที่มีเฉพาะสุขภัณฑ์ อ่างล้างมือและกระจก ไม่มีห้องอาบน้ำ
ถัดจากห้องเมดและห้องน้ำเล็ก จะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 แต่จะพามาดูโถงกลางห้องก่อน
• โถงห้องนั่งเล่นใหญ่กลางห้อง+ครัวใหญ่+มุมระเบียง: ฟังก์ชั่นจะคล้ายกับ 2 ห้องนอน ห้องตัวอย่างโชว์แบบห้องเปล่า ให้เห็นพื้นที่จริง จุดเด่นของโถงห้องนั่งเล่นนี้ คือ บานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน เพื่อเห็นวิวภาพกว้างด้านนอกและยังเชื่อมต่อไปยังมุมระเบียงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กๆ ที่สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นเอ้าท์ดอร์ชมวิวด้านนอกได้ และครัวใหญ่ที่เน้นโทนสีขาวและหินอ่อน
• ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก: ฝั่งซ้ายขวาของโถงห้องนั่งเล่นใหญ่ จะเป็นห้องนอนเล็ก ที่มีห้องน้ำอยู่ในห้องด้วย โดยในห้องน้ำเล็ก ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า และกระจก มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว
บันไดขึ้นชั้น 2 ของห้องชุด ด้านบนจะมี 2 ห้องนอน คือ มาสเตอร์เบดรูมและห้องนอนเล็กอีก 1 ห้อง
• มาสเตอร์เบดรูม หรือห้องนอนใหญ่+ห้องน้ำใหญ่: มาสเตอร์เบดรูมของดูเพล็กซ์อยู่ชั้น 2 มีบานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน เพื่อเห็นวิวภาพกว้างด้านนอก พร้อมห้องน้ำใหญ่ในห้องนอน โดยในห้องน้ำใหญ่ ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียก และส่วนสุขภัณฑ์ โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้าหินอ่อน กระจก และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว พร้อมอ่างอาบน้ำวงรี
• ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก: ห้องนอนเล็กชั้น 2 ก็มีบานกระจกเต็มเช่นกัน แต่จะเล็กกว่าห้องมาสเตอร์เบดรูม และบานกระทุ้งจะมีเพียง 1 บาน เห็นวิวภาพกว้างด้านนอก พร้อมห้องน้ำเล็กในห้องนอน โดยในห้องน้ำเล็ก ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียก และส่วนสุขภัณฑ์ โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า และกระจก สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว
บรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขายแบบ 4 ห้องนอน [398 ตร.ม.] โดย Type นี้จะเป็นหนึ่ง Type ไฮไลท์ที่มีจุดเด่นมากๆ ในเรื่องวิว และพื้นที่เอ้าท์ดอร์ขนาดใหญ่ ลักษณะห้องจะคล้ายกับแบ่งเป็น 2 ฝั่ง มีโถงห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่คั่นกลางระหว่างฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
เริ่มด้วย :
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้านพร้อมระบบ Digital
ทางเดินสู่โถงห้องนั่งเล่นใหญ่กลางห้อง
• โถงห้องนั่งเล่นใหญ่กลางห้อง+ มุมระเบียงขนาดใหญ่: Type 4 ห้องนอนนี้ เมื่อเดินเข้าสู่ห้องชุด จะเจอโถงห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่เลย มีพื้นที่เป็นทั้งห้องนั่งเล่น และมีมุมตั้งโต๊ะรับประทานอาหาร (Type นี้ ห้องครัวใหญ่จะถูกซ่อนไว้ด้านใน) โดยจุดเด่นของโถงห้องนั่งเล่นนี้ คือ บานกระจกเต็มเป็นแนวยาว เพื่อเห็นวิวภาพกว้างด้านนอก และยังเชื่อมต่อไปยังมุมระเบียงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่
• พื้นของบริเวณห้องนั่งเล่น: ลายหินอ่อน
• มุมระเบียงขนาดใหญ่: มุมนี้ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของ Type นี้ สามารถจัดเป็นมุมนั่งเล่นเอ้าท์ดอร์ขนาดใหญ่ชมวิวด้านนอกได้ และยังมีทางเชื่อมทะลุไปยังห้องเอนกประสงค์ชมวิวอีกห้องหนึ่งด้วย
• ห้องเอนกประสงค์ชมวิว+ห้องน้ำ: ห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องเอนกประสงค์ที่สามารถชมวิวแม่น้ำได้เต็มที่ และมีห้องน้ำในตัว โดยมีทางเข้า 2 ทาง คือ ทางเชื่อมมาจากมุมระเบียงขนาดใหญ่ กับเข้าจากด้านหน้าห้องที่อยู่ภายในห้องชุด หากดูจากแปลนห้องชุดด้านใน ห้องนี้จะอยู่ฝั่งซ้าย (หันหน้าเข้าริมแม่น้ำ มีโถงห้องนั่งเล่นเป็นจุดกลางของห้องชุดทั้งหมด) ถัดจากโซนห้องครัวใหญ่+ห้องครัวเล็ก+ห้องเมด
โซนฝั่งซ้าย (หันหน้าเข้าริมแม่น้ำ มีโถงห้องนั่งเล่นเป็นจุดกลางของห้องชุดทั้งหมด) ประกอบด้วย
– ห้องครัวใหญ่+ห้องครัวเล็ก+ห้องเมด
– ห้องอเนกประสงค์ชมวิวแม่น้ำ +ห้องน้ำ
– ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำ
– มาสเตอร์เบดรูดหรือห้องนอนใหญ่ +ห้องน้ำ
• ห้องครัวใหญ่+ห้องครัวเล็ก+ห้องเมด: พื้นที่โซนนี้จะลึกจนสุดฝั่งวิวแม่น้ำ แบ่งเป็นส่วนตามการใช้งาน เริ่มด้วย
ห้องครัวใหญ่ จะเป็นห้องครัวโทนสีขาวขนาดใหญ่ เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันเกือบทั้งพื้นที่ ออกแบบให้มีทั้งตู้เย็น 2 ประตูและเตาอบไฟฟ้า ส่วนเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันออกแบบให้มีบาร์นั่งรับประทานอาหารด้วย
ห้องครัวเล็ก ถัดจากห้องครัวใหญ่จะเป็นห้องครัวเล็กที่มีอุปกรณ์ครบ เช่น เคาน์เตอร์ครัวพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน มีมุมให้วางตู้เย็น
ห้องเมด ถัดจากครัวเล็ก จะเป็นห้องเมดและห้องซักผ้า มีเคาน์เตอร์และตู้เก็บของเอนกประสงค์ มีห้องนอนเมด และห้องน้ำ สุดท้ายจะมีมุมเล็กๆ ให้วางเครื่องซักผ้าและเตาอบผ้า
• ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก: ขยับออกจากโซนห้องครัวและห้องเมดแล้ว จะมีห้องนอนเล็กที่มีห้องน้ำในตัว โดยในส่วนห้องนอน จะมีกระจกบานเต็มให้มองเห็นวิว ส่วนห้องน้ำเล็ก ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้า และกระจก มีสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว
• ห้องนอนใหญ่+มุมระเบียง+ห้องน้ำใหญ่: ห้องนอนใหญ่นี้ ยังไม่ใช่ห้องมาสเตอร์เบดรูม แต่ก็เรียกว่าน้องๆ มาสเตอร์เบดรูมเลยทีเดียว เพราะห้องขนาดใหญ่ วิวสวยไม่แพ้ฝั่งมาสเตอร์เบดรูม และยังมีห้องน้ำใหญ่แบบจัดเต็ม มีบานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง เห็นวิวภาพกว้างด้านนอก และยังมีทางเชื่อมออกไปยังระเบียงสี่เหลี่ยมเล็กๆ
พื้นห้องนอน
• ห้องน้ำใหญ่: ห้องน้ำนี้อยู่ในห้องนอนใหญ่ (ฝั่งซ้าย) ได้อุปกรณ์ครบชุดแบบจัดเต็ม แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียก และส่วนสุขภัณฑ์ โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้าหินอ่อน กระจก แยกห้องสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ มุมในสุดของห้องน้ำนี้วางอ่างอาบน้ำวงรี สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว
โซนฝั่งขวา (หันหน้าเข้าริมแม่น้ำ มีโถงห้องนั่งเล่นเป็นจุดกลางของห้องชุดทั้งหมด) ประกอบด้วย
– ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก (ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องทำงาน)
– มาสเตอร์เบดรูม+ระเบียง + ห้องน้ำใหญ่+ Walk-in Closet
ทางเดินเข้าสู่ฝั่งขวา
• ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก: (ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องทำงาน) ห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องนอนเล็ก ที่สามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ได้ โดยห้องนี้มีบานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง เห็นวิวภาพกว้างด้านนอก และมีห้องน้ำในตัว โดยห้องน้ำได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้าหินอ่อน กระจก และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว
• มาสเตอร์เบดรูม+ระเบียง + ห้องน้ำใหญ่+ Walk-in Closet: มาสเตอร์เบดรูม (ฝั่งขวา) แตกต่างจากห้องนอนใหญ่ฝั่งซ้ายตรงที่ห้องนี้มี Walk-in Closet เป็นไฮไลท์ของห้องนี้ โดยในส่วนที่เป็นห้องนอน จะมีบานกระจกเต็ม พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน เห็นวิวภาพกว้างด้านนอก และมีทางเชื่อมออกไปสู่ระเบียงสี่เหลี่ยมเล็กๆ สำหรับชมวิวด้านนอก พร้อมห้องน้ำใหญ่ในห้องนอน
มุมระเบียงในห้องมาสเตอร์เบดรูม
ห้องน้ำใหญ่ ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้ง ส่วนเปียก และส่วนสุขภัณฑ์ โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะมีอ่างล้างหน้าหินอ่อน กระจก และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ สำหรับพื้นที่ส่วนเปียก กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีชุดฝักบัว พร้อมอ่างอาบน้ำวงรี โดยมุมวางอ่างอาบน้ำวงรี จะอยู่ชิดกระจกบานเต็ม เห็นวิว
มุม Walk-in Closet โดยก่อนที่จะเข้าสู่ส่วนที่เป็น Walk-in Closet จะมีมุมนั่งแต่งตัว เคาน์เตอร์หินอ่อนพร้อมกระจก ชั้นวางของเอนกประสงค์ และตามด้วย Walk-in Closet ขนาดใหญ่
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ทำเลริมแม่น้ำถือว่ามีเสน่ห์โดยตัวมันเอง ที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำในทั่วทุกมุมโลกจึงล้วนได้รับความสนใจสูง ซึ่งหากเอ่ยถึงทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณที่ไพร์มที่สุด คือ ฝั่งถนนเจริญกรุงบริเวณเอเชียทีคไปจนถึงโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เพราะถือว่าเป็นฝั่งใกล้ใจกลางเมือง ซึ่งเป็นบริเวณที่หาที่ดินพร้อมพัฒนายากมาก หากไม่นับที่ดินที่ยังไม่พัฒนาในโครงการเอเชียทีค ก็ต้องเรียกว่า ไม่มีแล้ว
ก่อนหน้าที่จะมีโครงการเอเชียทีค บริเวณฝั่งเจริญกรุงไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เมื่อทำเลริมแม่น้ำเริ่มฟื้นตัว กลุ่มโรงแรมแม่น้ำ ก็เปิดตัวโครงการ “แม่น้ำ เรสซิเดนท์” เป็นคอนโดมิเนียมฟรีโฮดล์ ราคาเริ่มต้นประมาณ 200,000-250,000 บาท/ตร.ม. และล่าสุดก็คือโครงการ Four Seasons Private Residences (โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์) โดยทำเลที่ตั้งของโครงการนี้ ซึ่งอยู่ติดริมถนนเจริญกรุง 64 และติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ใกล้กับโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ) ถือว่าอยู่ในโซนไข่แดงของริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือนับเป็นโซนใจกลางทำเลริมแม่น้ำ
ในอนาคต ที่ดินริมแม่น้ำหลายแปลงจะถูกปัดฝุ่นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำในรูปแบบย้อนรำลึกเรื่องราวของริมแม่น้ำในอดีต จะมีโรงแรมเกิดใหม่ และค้าปลีกชั้นนำระดับโลก เช่น แผนพัฒนาเอเชียทีคแห่งที่ 2 หรือไอคอนสยามที่ดึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง “ทาคาชิมาย่า” จากประเทศญี่ปุ่นเข้าอยู่ในโครงการ รวมถึง แนวคิดจะพัฒนาโครงการริมน้ำยานนาวา (Yannawa Riverfront Project) ของศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) ที่จะพัฒนาฟื้นฟูพื้นที่ริมน้ำของกรุงเทพฯ ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เชิงสะพานตากสินจนถึงโรงแรมชาเทรียม คิดเป็นระยะทางยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร ให้เป็น “พื้นที่ริมน้ำแห่งประเทศไทย” (The Riverfront of Thailand) ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพให้กับทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการจราจรบนถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ที่ไม่ได้กว้างมาก และมีชุมชนเก่าที่ขยายตัวจนเต็มพื้นที่แล้ว ยังแก้ไขได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาเที่ยวเอเชียทีค และหากมีเอเชียทีค 2 แนวโน้มถนนเส้นนี้จะติดขัดมากขึ้น
การเดินทาง:
1. เดินทางด้วยรถยนต์ ถ้ามาจากในเมือง (ฝั่งพระนคร) จะวิ่งมาจากถนนสุรวงศ์ หรือถนนสีลม หรือถนนจันทน์ก็สามารถเชื่อมต่อมายังถนนเจริญกรุงได้ โดยถ้ามาจากถนนจันทน์ ให้เลี้ยวไปทางที่จะมุ่งหน้าไปบางรัก ขับไปนิดหนึ่งก็จะเจอตัวโครงการ หรือถ้ามาจากถนนสุรวงศ์และถนนสีลม ให้เลี้ยวไปทางบางรัก ผ่านรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสินไปเล็กน้อย ก็จะเจอตัวโครงการ
2. เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ลงรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานตากสิน ในอนาคตคาดว่าจะมีเรือบริการรับส่งระหว่างโครงการกับรถไฟฟ้า
สถานที่แนว Lifestyle ย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา
– แวดล้อมด้วย 8 โรงแรมใกล้เคียง ได้แก่ โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซา โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมแชงกรี-ลา โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน โรงแรมอนันตรา รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมเพนนินซูล่า โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน และโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร บาร์ริมแม่น้ำให้เลือกแฮงค์เอ้าท์ได้หลากหลาย
ภาพบริเวณท่าเรือโรงแรมชาเทรียม ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ
– เอเชียทีค ริเวอร์ฟร้อนท์ คอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนเนื้อที่รวมกว่า 70 ไร่ ปัจจุบันเฟสแรกพัฒนาเป็นย่านการค้า มีร้านค้า 1,500 ร้าน และร้านอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์อีกประมาณ 40 ร้าน ซึ่งเป็นสถานที่กินดื่มริมแม่น้ำเจ้าพระยายอดนิยมอันดับต้นๆ ของทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยในอนาคตเอเชียทีคมีแผนจะขยายเฟส 2 อยู่ฝั่งลานจอดรถติดกับเอเชียทีค 1 เป็นค้าปลีก อาคารจอดรถ คอนเวนชั่น และโรงแรม และเฟส 3 จะเป็นค้าปลีกและโรงแรม 2 อาคาร
ภาพ via facebook.com/Asiatique.Thailand
– ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค (ปากคลองตลาด) ตั้งอยู่ในโซนไข่แดงของทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นตึกเก่าที่ปรับปรุงใหม่ให้เป็นไทย เฮอริเทจ มอลล์ ริมแม่น้ำมีพื้นที่ทั้งหมด 14,000 ตร.ม. แบ่งเป็น พื้นที่เชิงพาณิชย์ 60% และพื้นที่ส่วนกลาง 40% รวมมีร้านค้า 40 ร้านค้า มองเห็นวิววัดอรุณ
ภาพ via facebook.com/YodpimanRiverWalk
– เสนา เฟสท์ (อยู่ฝั่งถนนเจริญนคร) เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด 4 ชั้น และลานจอดรถใต้ดิน 2 ชั้น มีการตกแต่งภูมิทัศน์สวยงาม พร้อมร้านค้าทั่วไป ประมาณ 120 ร้านค้า โดยชั้น G เป็นโซนซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้าแฟชั่น, ชั้น 1-2 เป็นพื้นที่ร้านอาหาร มือถือ สินค้าไอที และธนาคาร, ชั้น 3 เป็นพื้นที่ศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ และศูนย์ความงาม
ภาพ via facebook.com/SENAfestMall
– ไอคอนสยาม (โครงการในอนาคต) อภิมหาโปรเจคย่านเจริญนคร ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการและทยอยเปิดตัวพันธมิตรภายในโครงการ ซึ่งความชัดเจนล่าสุด คือ การดึงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น “ทาคาชิมาย่า” เข้ามาปักธงในพื้นที่โครงการไอคอนสยาม ที่จะช่วยยกระดับให้โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นทำเลที่มีความเป็นลักซ์ชัวรี่มากขึ้น
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
เนื่องจากห้องชุดในโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ และเป็นระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มซื้อเพื่ออยู่เอง หรือหากเป็นกลุ่มต่างชาติก็จะใช้เป็นบ้านหลังที่สอง และการลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า อาจจะไม่ได้อัตราผลตอบแทนที่ดีมาก ยกเว้น โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ฯ จะมีบริการบริหารผู้เช่าระยะยาวให้ อาจจะมีโอกาสที่ดีในการปล่อยเช่า
อย่างไรก็ตาม โอกาสในการปรับขึ้นของราคาห้องชุดในโครงการโฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ก็มีสูง เพราะเป็นห้องชุดซูเปอร์ลักซ์ชัวรีริมแม่น้ำที่ใช้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกเข้ามาบริหาร และอยู่ในพื้นที่โครงการเจ้าพระยา เอสเตท ซึ่งเน้นโรงแรม ร้านอาหารระดับไฮเอนด์ แต่การที่โครงการนี้เป็นการขายสิทธิการเช่า 25 ปี แม้จะต่ออายุสัญญาเช่าได้ แต่ช่วงที่ราคาจะปรับขึ้นสูง และดีที่สุด จะอยู่ในช่วง 10 ปีแรกของอาคาร โดยหากในอนาคตหลังจากหมดสัญญา 25 ปี และได้ต่ออายุ มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นรอบใหม่
เปรียบเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
• Meman Residences (แม่น้ำ เรสซิเดนท์) ของบริษัท แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จำกัดในเครือโรงแรมแม่น้ำ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2556 โดยตั้งอยู่ถนนเจริญกรุง 72 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่โครงการรวม 5-0-93.3 ไร่ อาคารความสูง 54 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุดทั้งหมด 294 ยูนิต รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 5 แบบ คือ 1-3 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ เพ้นท์เฮาส์ [44-287 ตร.ม.] ที่จอดรถ Fixed ประมาณ 350 คัน ประมาณ 120% ราคาขายปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 19 มีนาคม 2558) 190,000-200,000 บาท/ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2562 โดยโครงการนี้ขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
• Magnolias Waterfront Residences ICONSIAM (แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม) ของบริษัท ดิ ไอคอนสยาม เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดในเครือแมกโนเลีย เปิดตัวเมื่อกลางปี 2557 โครงการตั้งอยู่ในเขตคลองสาน ถนนเจริญนคร อยู่ในพื้นที่โครงการ ไอคอนสยาม ที่ดินประมาณ 7-2-63 ไร่ เป็นอาคารพักอาศัยความสูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต มีห้องชุด 1-3 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ (พื้นที่ใช้สอย 60 – 246 ตร.ม.) ที่จอดรถยนต์เกิน 100% ราคาขายในช่วงเปิดตัว 230,000 – 360,000 บาท/ตร.ม. คาดว่าจะแล้วเสร็จ กันยายน 2560 โดยโครงการนี้ขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
• The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok (เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ) ของบริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดในเครือแมกโนเลีย เปิดตัวความร่วมมือในการดึงเชนโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลเข้ามาบริหารอาคารหลังตึกเสร็จเมื่อปลายปี 2557 โครงการตั้งอยู่ในเขตคลองสาน ถนนเจริญนคร อยู่ในพื้นที่โครงการ ไอคอนสยาม (นับเป็นเฟส 2 ของแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม) จำนวน 146 ยูนิต เป็นอาคารสูง 52 ชั้น (ยังไม่เปิดตัวราคา แต่มีการประเมินกันว่าอาจจะแตะ 4 แสนบาท/ตร.ม.) โดยโครงการนี้ขายแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) หรือเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ใช้แบรนด์โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลบริหารอาคารและดูแลการอยู่อาศัย
จุดเด่นหลักๆ ของโครงการนี้ นอกจากจะเป็นโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรีริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใช้แบรนด์โรงแรมโฟร์ซีซั่นฯ เป็นจุดขายสำคัญแล้ว ต้องบอกว่า “วิว” ของโครงการนี้จะเป็นจุดที่ดึงดูดกลุ่มคนกำลังซื้อสูงได้ดีมาก โดยจากการออกแบบให้ทุกห้องชุดเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และภายใน 1 ห้องนอนยังเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในเกือบทุกมุมห้อง ถือเป็นจุดเด่นด้านการออกแบบมาก ซึ่งถือเป็นกลุยทธ์ที่ชาญฉลาดในการใช้เทคนิคการออกแบบให้เห็นวิวได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อกลบจุดอ่อนในเรื่องที่โครงการนี้เป็นลีสโฮลด์ไม่ใช่ฟรีโฮลด์
โครงการลักษณะนี้ ราคาไม่ใช่เรื่องสำคัญ เป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก ความพึงพอใจ ซึ่งการออกแบบภาพรวมโครงการและภายในห้องชุด โดยใช้วิวเป็นจุดดึงดูดหลัก พร้อมกับเลือกใช้เชนโรงแรมโฟร์ซีซั่นมาเป็นแบรนด์โครงการ ทำให้ห้องชุดโครงการสามารถดึงดูดความต้องการของกลุ่มเศรษฐีทั่วโลกที่อยากมีที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำได้ โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีนักสะสมคอนโดมิเนียมที่เป็นแบรนด์โรงแรม
แต่จุดอ่อน อย่างที่กล่าวแล้วว่าโครงการนี้เป็นลีสโฮลด์ สิทธิการเช่า 25 ปี (ต่ออายุสัญญาเช่า 2 ครั้ง นับรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 75 ปี)
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร คอนโดมิเนียม แบรนด์ IDEO ซีรี่ส์ใหม่ ที่ชูจุดเด่นที่แตกต่างจาก IDEO โครงการเก่าๆ ด้วย Facilities ที่ไฮคลาสและมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงโลเคชั่นติดรถไฟฟ้าเอาไว้ ณ สถานีสะพานที่เป็นจุดเชื่อมต่อสู่ The New CBD ในอนาคตอย่างจตุจักร – หมอชิต โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาหรือประมาณ 155,000 บาทต่อตารางเมตร
ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร คอนโดมิเนียม แบรนด์ IDEO ซีรี่ส์ใหม่ ที่ชูจุดเด่นที่แตกต่างจาก IDEO โครงการเก่าๆ ด้วย Facilities ที่ไฮคลาสและมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงโลเคชั่นติดรถไฟฟ้าเอาไว้ ณ สถานีสะพานที่เป็นจุดเชื่อมต่อสู่ The New CBD ในอนาคตอย่างจตุจักร – หมอชิต โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาหรือประมาณ 155,000 บาทต่อตารางเมตร
เฌอรีน กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เพียง 83 ยูนิต ออกแบบในสไตล์ Modern European มีช่องแสงขนาดใหญ่ทั่วทั้งบ้าน มาพร้อมฟังก์ชันพิเศษเพดานสูงโปร่ง พร้อมติดตั้งระบบฟอกอากาศ Panasonic nanoe™X ใกล้ถนนหลักหลายสาย ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สถานีลาดกระบัง ราคาเริ่มต้น 8-12 ล้านบาท
