พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
จากการที่ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนช่วงที่ 1 (สะพานตากสิน – บางหว้า) เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในตลาดคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า ส่งผลให้มีการเกิดขึ้นของโครงการต่างๆไร่เรียงมาตั้งแต่แนวสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับสะพานสาทรที่สุดนั่นคือสถานีกรุงธนบุรี มาจนถึงบริเวณใกล้เคียงสถานีวงเวียนใหญ่ที่ถูกค้นคว้าด้านศักยภาพโดย บริษัท สันติโชค จำกัด เกิดขึ้นเป็นโครงการไฮไรส์ที่แนบติดมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ Greenovative Living ภายใต้ชื่อโครงการ Motif Condo วงเวียนใหญ่ – ตลาดพลู ซึ่งถูกนำมาจัดวางไว้บนถนนที่เรียกได้ว่าคือ “จุดเชื่อมต่อ” กล่าวคือจากจุดวงเวียนใหญ่สามารถเข้าออกถนนได้หลายสายตั้งแต่การข้ามมายังสาทร การออกไปฝั่งพระนครและฝั่งโซนเก่าอย่างย่านปิ่นเกล้า และไฮไลท์สำคัญดูเหมือนว่าจะเป็นการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีท่าพระอินเตอร์เชนจ์บนถนนเพชรเกษมหรือคนที่คุ้นเคยกับพื้นที่จะเรียกว่าถนนอินทรพิทักษ์ที่สามารถเข้าได้จากแยกวงเวียนใหญ่เช่นเดียวกัน มาดูกันว่ารายละเอียดทางด้านการอยู่อาศัยแบบนวัตกรรมสีเขียวและศักยภาพทำเลของวงเวียนใหญ่จะเป็นอย่างไรผ่านรีวิวฉบับนี้ได้เลยครับ
เจาะลึกรายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 21 กันยายน 2559)
ชื่อโครงการ: โมทิฟ คอนโด วงเวียนใหญ่ – ตลาดพลู (Motif Condo Wonwienyai – Talad Plu)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท สันติโชค จำกัด
ก่อสร้างโดย: JWS Construction
ที่ตั้งโครงการ: ถนนอินทรพิทักษ์ (ติดกับปั๊มน้ำมัน Esso) วงเวียนใหญ่ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี
พื้นที่โครงการ: 3 – 0 – 27 ไร่
ประเภทของโครงการ: คอนโดไฮไรส์ 23 ชั้น
จำนวนยูนิต: 387 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนที่ชอบเสน่ห์บรรยากาศในย่านฝั่งธนบุรี ในขณะเดียวกันต้องเดินทางเข้าเมืองมาทำงาน ทั้งอยู่อาศัยแบบคนเดียวหรือเป็นคู่รวมไปถึงคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอ่อน
สิ่งอำนวยความสะดวก: สระว่ายน้ำขนาด 6 x 6 เมตร, Fitness, ห้องสตรีมและซาวน่า, ห้อง meeting และ สวนดาดฟ้า รวมถึง Shuttle Bus รับ – ส่ง จากโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้า
ระบบรักษาความปลอดภัย: CCTV, รปภ. 24 ชม. และ Keycard Access
ที่จอดรถ: 60% (196 คัน)
รูปแบบห้องชุด:
1 ห้องนอน ขนาด 27.55 – 49.98 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 51.27 – 58.35 ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: ฟรี (1 ปี)
ค่ากองทุน: ฟรี (ยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่น)
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 20,000 บาท
ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น: 2.29 ล้านบาท (80,000 บาท/ตร.ม.)
สถานะการขาย: ประมาณ 62% (ข้อมูลจากฝ่ายขาย ณ วันที่ 5 ก.ย. 2559)
สถานะการก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่
เว็บไซต์โครงการ: www.motifcondo.com
รายละเอียดโครงการ
อาคารอยู่อาศัยของโครงการ Motif Condo เป็นแบบอาคารเดียวที่จะมีพื้นที่ส่วนกลางจัดวางตามส่วนต่างๆของอาคาร และด้วยขนาดพื้นที่และการออกแบบตัวอาคารอาจจะจัดอยู่ในประเภท Eco ทั้งในเรื่องของพื้นที่สีเขียวและราคาเริ่ม 2 ล้านต้นๆ ที่ห้องขนาดเริ่มต้นที่ 27.55 ตร.ม.
Master Plan ของโครงการ
-ถนนด้านหน้าโครงการคือ ถนนเพชรเกษม -ทิศเหนือของโครงการจะมองเห็นเป็นถนนเส้น สาทร – ท่าพระ ที่เป็นที่ตั้งของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนนั่นเอง -ทิศตะวันออกของโครงการจะมองเห็นเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานี ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ -ทิศตะวันตกของโครงการจะเห็นเป็นการจราจรของแยกวงเวียนใหญ่
Floor Plan ของโครงการ
ชั้นอยู่อาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 เป็นต้นไป ชั้นนี้เองยังเป็นที่ตั้งของพื้นที่ส่วนกลาง Fitness, สระว่ายน้ำ, สระวารีบำบัด และ meeting room
การจัด sizing ของห้องหรือการมีขนาดห้องที่หลากหลายถือเป็นอีกจุดหนึ่งเด่นหนึ่งของ Motif Condo เนื่องจากสามารถรองรับความต้องการขนาดของห้องที่แตกต่างกันในหมู่ผู้บริโภค (เริ่มต้นที่ 27.55 ไปจนถึงเกือบ 50 ตร.ม. ทั้งหมดเป็นประเภทหนึ่งห้องนอน)
แปลนของห้องขนาดต่างๆ
ห้อง Type A18 ขนาด 47.35 ตร.ม.
โครงการถ่ายทอดความคิดการสร้างบรรยากาศสีเขียวที่มาพร้อมกับวิว skyline ผ่านบนชั้นดาดฟ้าของโครงการ โดยใช้ชื่อคอนเซ็ปต์ Greenovative Living และฟีเจอร์พิเศษสำหรับบางยูนิตคือจะมีพื้นที่บาร์สำหรับรับประทานอาหารไปพร้อมๆกับหันหน้าชมบรรยากาศ Skyline ของเมืองหรือเราเรียกว่า Sky Dining นั่นเอง
บรรยากาศ ณ Rooftop Garden
พื้นที่ส่วนกลางชั้น 7
รีวิวภายในห้องตัวอย่างโครงการ
เริ่มที่ห้องตัวอย่างแรก Type A18 ขนาด 47.35 ตร.ม.
Type A18 จะมาพร้อมห้องนอน 2 ห้อง (Master bedroom และห้องนอนเล็ก) พร้อมพื้นที่ระเบียงส่วนตัวถึง 2 เมตร ณ Master bedroom, มีการจัดพื้นที่ Living ไว้ตรงกลางห้องติดกับโซน Kitchen โดยที่ไม่มีประตูบานเลื่อนกั้นทำให้เดินไปมาระหว่างโซนได้อย่างสะดวก
ภายในห้องตัวอย่าง
เมื่อเปิดเข้ามาในห้องจะเจอกับ Living Room ซึ่งจะเป็นในลักษณะของตอนลึก พื้นที่ในส่วนนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 3 x 3 เมตร
บริเวณขวามือสามารถจัดวางเป็นตู้วางรองเท้าหรือตู้สำหรับเก็บร่มได้
โซฟาขนาดสองที่นั่งทางโครงการมอบให้ หรือหากต้องการให้พื้นที่ตรงนี้ถูกใช้แบบเต็มๆก็สามารถนำโซฟาขนาด 3 ที่นั่งมาจัดวางได้เลย
ชั้นวางทีวีที่แถมเป็นแบบสำเร็จรูปมาให้ไม่ใช่งานบิ้ลท์อิน สำหรับตู้หนังสือด้านข้างที่เห็นนั้นคนละส่วนกับชั้นวาง (ชั้นหนังสือไม่ได้ถูกแถม) ด้วยระยะห่างจากตำแหน่งของโซฟาถึงทีวีค่อนข้างเยอะสามารถจัดวางทีวีจอใหญ่ได้เต็มๆเลย
โซนฝั่งซ้ายของประตูจะเป็นพื้นที่สำหรับโซน Dining รองรับการใช้งาน 2 – 4 ที่ ซึ่งโครงการแถมชุดโต๊ะและเก้าอี้ให้เช่นกัน
จากเลย์เอ้าท์ที่เห็นสามารถลุกไปมาระหว่างสองโซนนั่นคือ Dining และ Living ได้อย่างสบาย ทานข้าวอยู่อยากจะยกมาทานพร้อมกับดูรายการโปรดก็สามารถทำได้ทันที
ติดกับโซน Dining จะเป็น Kitchen ที่มีไซส์ประมาณ 1 x 3 เมตร พร้อมติดตั้งงานบิ้ลท์อินครัวให้พร้อม รวมถึงตู้เย็นขนาด 7.4 คิว (Samsung)
ไมโครเวฟแถมให้เช่นเดียวกัน (Samsung) รวมถึงชุดเตาไฟฟ้า & ที่ดูดควัน (Hafele) และซิ้งค์ล้างจานเป็นแบรนด์เดียวกัน วอลเปเปอร์ลายกำแพงด้านหลังไม่ได้ถูกแถมมาด้วย ของจริงจะเป็นผนังสีขาวเรียบ
Master bedroom สามารถจัดวางเตียงนอนขนาดใหญ่ (6ฟุต) ได้สบายๆพร้อมพื้นที่ปลายเตียงทั้งสองฝั่งแบบเหลือๆอาจจะนำตู้หนังสือหรือโต๊ะสำหรับวางโคมไฟมาจัดวางได้ตามอเนกประสงค์ พื้นที่ใช้สอย ณ ห้องนี้จะมากกว่าของ Living room ก่อนหน้า ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 4 x 3 เมตร
ด้านขวาของระเบียงเป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้า ซึ่งโครงการให้เป็นเครื่องซักผ้าชนิดฝาหน้าให้ (Samsung) พร้อมติดต้องระบบน้ำเพื่อต่อท่อมายังจุดวางนี้
ด้วยขนาดความกว้าง 3 เมตร เมื่อนำเตียงใหญ่มาวางอาจจะไม่ค่อยเหลือที่เดินผ่านทำให้ต้องเลือกเป็นติดตั้งทีวีแขวนผนังแทน หรืออาจจะไม่ติดก็ได้เนื่องจากเปิดห้องถัดไปใกล้ก็เจอทีวีใน Living room แล้ว อย่างไรก็ตามโครงการติดตั้งเต้าปลั๊ก socket เพื่อรองรับการใช้งานบริเวณปลายเตียงให้เช่นกัน
ห้องน้ำจะมีห้องเดียวซึ่งจะอยู่ใน Master bedroom ชุดสุขภัณฑ์ต่างๆและอ่างล้างหน้าให้เป็นแบรนด์ Mogen ผนังและพื้นเป็นเซรามิกโทนสีน้ำตาลขนาด 30 x 30 เมตร
มุมมองเมื่อมองออกมาจาก Master bedroom
มากันที่ส่วนสุดท้ายของห้องคือห้องอเนกประสงค์ขนาดเล็กซึ่งอาจจะจัดเป็นห้องนอนสำหรับเด็กเล็กได้ พื้นที่ประมาณ 1 x 2 เมตร ขนาดเตียงอาจจะจัดไดเ้ป็นไซส์เล็ก (3 – 3.5 ฟุต)
ห้องตัวอย่าง Type A 11 ขนาด 45.07 ตร.ม.
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ layout ที่สามารถรวม dining, living and kitchen zone ไว้ในจุดเดียวกัน พื้นที่ใช้สอยรวมตรงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3 x 3 เมตร
ตำแหน่ง kitchen แถมเตาและที่ดูดควันเป็นแบรนด์ Hafele รวมถึงอ่างล้างจานที่เป็นแบรนด์เดียวกัน พื้นเคาน์เตอร์เป็นไม้สังเคราะห์
โซฟาแถมมาให้เช่นกันแต่แถมให้เฉพาะส่วนของโซฟายาว อาร์มแชร์ไม่แถม ระเบียงข้าง Living Zone มีขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร กระจกเปิดออกไปเป็นกระจกบานเลื่อน
ชุดชั้นวางทีวีสีขาวและงานบิ้ลท์อินเหนือทีวีแถมมาให้เช่นกัน เนื่องด้วยขนาดพื้นที่มีมากอาจจะนำทีวีขนาดใหญ่มาจัดวางเพื่อให้ได้สัดส่วนสอดคล้องกับขนาดพื้นที่
ถัดมาคือห้องนอนที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 3 x 2 เมตร สามารถจัดวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ ซึ่งงานบิ้ลท์อินเตียงรวมถึงโต๊ะหัวเตียงโครงการก็แถมให้ด้วยเช่นกัน กระจกข้างเตียงเป็นแบบานกระทุ้ง
ด้านขวามือของห้องนอนมีพื้นที่หน้าห้องน้ำที่กว้างพอจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดกลางได้ และอาจจะมีลิ้นชักแยกออกมาเพื่อเก็บถุงเท้าหรือชุดชั้นในอีกตู้หนึ่งก็ยังได้ ซึ่งทั้งสองตู้ในห้องตัวอย่างนี้โครงการก็แถมให้ มุมตรงห้องน้ำออกแบบเป็นแบบ sexy scene นั่นคือจะเป็นกระจกซีทรูที่สามารถมองเห็นได้จากข้างนอกและข้างใน หากเขินอายสามารถติดตั้งผ้าม่านได้
พื้นที่ปลายเตียงมีการติดตั้ง outlet ปลั๊ก เพื่อรองรับการใช้งานสำหรับผู้ที่ต้องการนำทีวีแบบแขวนผนังมาจัดวาง
จากตำแหน่งของห้องนอน ณ ห้องตัวอย่างนี้จะมองออกไปเห็นเป็นโครงการ Bright Condo (วงเวียนใหญ่) ที่กำลังอยู่ในช่วงก่อสร้าง
หรือหากงบเหลืออาจจะทำเป็นบิ้ลท์อินตู้กระจกบานเลื่อนแทนก็ได้ที่หน้าห้องน้ำ ห้องน้ำสุขภัณฑ์ให้เป็นแบรนด์ Mogen พร้อมกระจกเงาที่ติดตั้งมาให้พื้นห้องน้ำเป็นเซรามิค 30 x 30 ซม.
ห้องตัวอย่าง Type A20 ที่เป็นห้องตัวอย่างขนาดใหญ่ที่สุดนั่นคือ 47.64 ตร.ม. แต่เป็นแบบ 1 ห้องนอน
layout ของ A20 จะแตกต่างจาก 3 ห้องตัวอย่างก่อนหน้านั่นคือเป็นแบบแนวกว้างออกไม่ใช่แนวลึก เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับ Dining Zone ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดวางชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่ได้ และพื้นที่เดียวกันเป็น Living Zone นั่งพักผ่อนดูทีวี
เมื่อเปิดประตูเข้ามาริมขวาจะเป็น Living Zone ด้านใน และ Dining Zone ฝั่งติดประตู พื้นที่ใช้สอยรวมสองบริเวณรวมกันอยู่ที่ประมาณ 3.5 x 3 เมตร
ชุดโต๊ะรับประทานอาหารสำหรับสองที่โครงการแถมให้เช่นกัน (Prop ไม่ได้แถมมาด้วย)
เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยกว้างทำให้สามารถจัดวางทีวีในระยะห่างได้ แน่นอนนั่นหมายถึงขนาดทีวีที่ใหญ่ขึ้นที่สามารถวางได้
ชั้นวางทีวีแบบเตี้ยโครงการให้มาด้วยพร้อมทีวี Samsung 40″
Type นี้ Kitchen จะถูกแบ่งกั้นโดยกระจกบานเลื่อนแยกเป็นสัดส่วน ชุดบิลท์อินครัวโทนสีขาวเช่นเดียวกัน พร้อมเตาไฟฟ้าและไมโครเวฟที่แถมเช่นเดียวกัน (Hafele และ LG)
ห้องน้ำเป็นแบบ Sexy See Through เช่นเดียวกัน คนข้างนอกมองเข้าคนข้างในมองมาข้างนอก ถ้าไม่อยากให้หวิวเกินไปแนะนำให้ติดตั้งม่าน
พื้นที่ปลายเตียงพร้อม socket ปลั๊กเช่นเดียวกัน สามารถนำทีวีติดผนังมาติดตั้งได้เพื่อสร้างอีกจุความบันเทิงแยกออกมาจาก Living Zone
ห้อง Type A7 ขนาด 35.01 ตร.ม.
ห้องไซส์ 35.01 เป็นประเภทหนึ่งห้องนอนอีกเช่นเดียวกัน โดย layout จะแตกต่างจากห้องก่อนหน้านี้ตรงที่เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นการจัดวางแบบตอนลึกทั้งในส่วนของ Living Room และ Bedroom ดังนั้นจะทำให้มุมมองที่เสมือนกว้างกว่า
Living Zone, Dining Zone และ Kitchen ที่อยู่ในส่วนเดียวกัน
เปิดเข้ามาฝั่งซ้ายมือของประตูจะเป็นชุดบิ้ลท์อินครัวที่มีมาให้ พร้อมไมโครเวฟ (LG) เตาและที่ดูดควัน (Hafele)
บิ้ลท์อินครัวมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานมาตรฐาน
สำหรับวอลเปเปอร์ของตริงจะเป็นสีเทาเรียบ แต่ในห้องตัวอย่างทำเป็น backdrop ผนังยื่นออกมา เพื่อให้เกิดมิติในโซน Living
มากันที่ Bedroom พื้นที่ใช้สอยรวมเท่าๆกับห้องตัวอย่างก่อนหน้านั่นคือ 3 x 2 เมตร สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้เช่นกัน
พื้นที่ปลายเตียงมีการติดตั้ง outlet ปลั๊กไว้ให้ ถ้าไม่อยากจัดเป็นตู้วางทีวีซึ่งจะกินที่มากกว่า ให้ทำเป็นงานบิ้ลท์อินฝังผนังเข้าไปเพื่อใส่ทีวีและเครื่องเล่น
ชุดเฟอร์ฯที่แถมให้ใน bedroom จะเป็นโทนสีขาว ห้องน้ำตกแต่งเป็นแบบ sexy see through เช่่นเดียวกันมองเห็นทั้งจากด้านในและด้านนอก
ลำดับต่อมาจะเป็นห้องที่มีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Sky Dining นั่นคือ Type A19 ขนาด 35.2 ตร.ม.
เมื่อเปิดเข้ามาส่วนที่พบลำดับแรกจะเป็น Living Zone และมองลึกเข้าไปเป็นจุด Sky Dining ริมหน้าต่าง ห้อง type นี้มี 1 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำเช่นเดียวกัน
Living Zone ที่กว้างพอสำหรับโซฟา 3 – 4 ที่นั่ง เพื่อไม่ให้ดูโล่งเกินไปอาจจะทำเป็นบิ้ลท์อินชั้นวางทีวีฝั่งตรงข้ามกับโซฟา แต่ห้อง type นี้ บิ้ลท์อินชั้นวางในห้องตัวอย่างจะไม่ได้มาด้วย เป็นไอเดียการแต่งที่โครงการนำเสนอเฉยๆ
จุด Kitchen และ Sky Dining ถูกจัดวางมาเป็นรูปตัว “L” งานบิ้ลท์อินทั้งเคาน์เตอร์ครัวและบาร์สำหรับนั่งทานข้าวโครงการติดตั้งมาให้พร้อมในโทนสีขาว ชุดเตาไฟฟ้าและอ่างล้างจานให้มาเช่นกัน (Hafele, LG)
นำเทียนมาตั้งพร้อมชมวิวจิบไวน์ตอนกลางคืนก็ดูคลาสสิคดีเช่นกัน
มาที่ห้องนอนริมฝั่งซ้ายกันบ้างที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเท่ากับห้องก่อนหน้านั่นคือ 3 x 2 เมตรเช่นเดียวกัน จัดวางเตียงใหญ่ได้สบายๆ
พื้นที่ข้างเตียงอาจจะนำโต๊ะทำงานขนาดเล็กมาจัดวางไว้ได้หรือจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ดี (โครงการแถมให้ดังรูป) ตู้เสื้อผ้าหน้าห้องน้ำก็ให้ด้วยเช่นกัน
พื้นที่ปลายเตียงเพื่อให้เดินผ่านไปมาสะดวกควรเลือกเป็นทีวีแบบแขวน มี socket ปลั๊กติดตั้งให้พร้อมเช่นกัน
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น bedroom, living room, kitchen เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
พื้นห้องน้ำเป็นเซรามิกขนาด 30 x 30 ซ.ม. โทนสีน้ำตาล
เครื่องใช้ไฟฟ้า
1. โทรทัศน์ LED ขนาด 40 นิ้ว (Samsung) จำนวน 1 เครื่อง
2. เครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7 กิโลกรัม (Samsung) จานวน 1 เครื่อง
3. ตู้เย็น แบบ 2 ประตู ขนาด 7.4 คิว (Samsung) จำนวน 1 เครื่อง
4. ไมโครเวฟ ขนาด 20 ลิตร (LG) จำนวน 1 เครื่อง
5. เครื่องทำน้ำอุ่น ขนาด 3,500 วัตต์ (Panasonic) จำนวน 1 เครื่อง
เฟอร์นิเจอร์
1. เตียงนอน พร้อมที่นอน ขนาด 5 ฟุต จำนวน 1 ชุด และอุปกรณ์บนเตียงจำนวน 11 ชิ้น ผ้าปูและปลอกหมอนสีตามมาตรฐานของโครงการ (หรือเทียบเท่า)
2. ตู้เสื้อผ้า จำนวน 1 หลังตู้ข้างเตียง จำนวน 1 ตัว
3. โต๊ะเครื่องแป้ง จำนวน 1 ตัว
4. ตู้รองเท้า จำนวน 1 ตัว
5. โต๊ะอาหาร พร้อมเก้าอี้นั่งรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง จานวน 1 ชุด
6. ตู้วางโทรทัศน์ พร้อมชุดตู้เก็บของเอนกประสงค์ จำนวน 1 ตัว
7. ชั้นโล่ง จำนวน 1 ตัว
8. โซฟาแบบ 2 ที่นั่ง จำนวน 1 ตัว
9. วอลเปเปอร์ ห้องนั่งเล่นและห้องนอน สีมาตรฐานของโครงการ (หรือเทียบเท่า)
10. ผ้าม่าน ห้องนั่งเล่นและห้องนอน สีมาตรฐานของโครงการ (หรือเทียบเท่า)
ทําเล & การเดินทาง
ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้วงเวียนใหญ่ หากใครไม่คุ้นชินกับพื้นที่นี้อาจจะสงสัยว่าทำไมจากจุดที่เราเรียกว่าวงเวียนใหญ่ (อนุเสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขณะทรงม้า) จึงมีจุดเชื่อมต่อไปยังถนนต่างๆได้มากมาย บางคนอาจจะเคยเข้าถนนผิดมาบ้างแล้ว (รวมถึงตัวผู้เขียนเอง) ดังนั้นเรามาเริ่มกันก่อนดีกว่าว่าจากจุดนี้สามารถเข้าได้ถึงถนนสำคัญ 4 สาย นั่นคือ ถนนเพชรเกษม (ที่ตั้งโครงการ โมทีฟ วงเวียนใหญ่ – ตลาดพลูถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน, ถนนลาดหญ้า และถนนประชาธิปก)
จากจุดตรงกลาง (ตำแหน่งที่ตั้งอนุเสาวรีย์พระเจ้าตากสินฯ) ทิศเหนือจะไปยังถนนประชาธิปกซึ่งเป็นเส้นที่จะวิ่งผ่านหน้าโรงเรียนศึกษานารี และจากจุดหน้าโรงเรียนจะมีสะพานสองสะพานทั้งสะพานสูง (สะพานปกเกล้า) และสะพานเล็กข้ามแม่น้ำ (สะพานพระพุทธยอดฟ้า)
การเดินทางมายังโครงการ
จากจุดแยกวงเวียนใหญ่ (จากถนนตากสิน) ให้เลือกเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้ามายังถนนเพชรเกษม หากมาโดยรถไฟฟ้าให้เลือกมาตามป้าย “วงเวียนใหญ่” หลังจากลงสถานีมาอาจจะทำการต่อรถแท็กซี่เพื่อเข้ามายังโครงการเนื่องจากบริเวณล่างสถานีส่วนนี้จะไม่มีวินมอเตอร์ไซด์อยู่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นถนนใหญ่แท็กซี่จึงมีผ่านไปมาตลอด หรืออาจะเลือกลงตรงทางออกฝั่งถนนที่จะไปวงเวียนใหญ่ได้เลยเช่นกันเพื่อต่อรถไปยังโครงการแต่รถจะมาติดตรงแยกเลี้ยวขวาไปวงเวียนใหญ่อีกทีหนึ่ง จึงแนะนำให้เดินมาขึ้นรถ ณ จุดที่มารฺ์คไว้ ได้ออกกำลังกายนิดๆไปในตัวด้วย
เมื่อเลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษมมา (อีกชื่อหนึ่งของถนนช่วงนี้คือ ถนนอินทรพิทักษ์) ประมาณ 500 เมตร จะเจอปั๊ม Esso อยู่ทางฝั่งซ้ายมือให้เตรียมเช้าซ้ายทันทีเพราะซอยเข้าโครงการจะอยู่ถัดจากปั๊มทันที
บรรยากาศย่านวงเวียนใหญ่
ก่อนถึงเซเว่นจะมีร้านก๋วยเตี๋ยวที่เปิดร้านกันตั้งแต่เย็นยันดึก
การเข้าถึงระบบขนส่งมวลชน
สำหรับสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากที่สุด ณ ปัจจุบัน คือ BTS วงเวียนใหญ่ (สายสีเขียวอ่อน) อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 2 ก.ม. หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 5 นาทีเท่านั้น แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเพื่อขึ้นรถไฟฟ้าเพราะทางโครงการมีบริการ shuttle bus เพื่อ รับ – ส่ง ลูกบ้านจากตัวโครงการไปยังตัวสถานีวงเวียนใหญ่ (สามารถดูตารางการเดินรถได้ที่ล็อบบี้)
คาดว่าในปี 2562 รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บนดิน) จะดำเนินการก่อสร้างเสร็จและเปิดให้บริการ จะพบว่าสถานีของสายสีน้ำเงินที่อยู่ใกล้กับโครงการ โมทีฟ คอนโด มากที่สุดจะเป็น สถานีอินเตอร์เชนจ์ท่าพระ จากตัวโครงการไปยังสถานีจะมีระยะทางประมาณ 3 ก.ม. (ขับรถประมาณ 5 นาทีเท่านั้น) และหากเลยต่อมาอีกสองสถานีจะเป็นจุดอินเตอร์เชนจ์อีกจุดระหว่างสายสีน้ำเงินและสายสีเขียวอ่อน (สถานีบางหว้า) แยกตรงจุดอินเตอร์เชนจ์บางหว้า สามารถเข้าสู่ถนนสำคัญอีกสองสายได้แก่ ถนนราชพฤกษ์ และ ถนนบางแค (แนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินในอนาคต ปัจจุบันอยู่ในช่วงระหว่างก่อสร้าง)
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ โมทีฟ คอนโด ดูน่าสนใจคือปัจจัยที่เอื้อต่อการคมนาคม หากสังเกตจากจุดวงเวียนจะเห็นได้ว่าโครงการตั้งอยู่ใกล้ถนนที่เป็นพื้นที่ถนนรายล้อม (Grid Road System) กล่าวคือสามารถเดินทางออกไปยังถนนสายสำคัญต่างๆและสร้างความหลากหลายในการเลือกใช้ชีวิตในวันหยุด ซึ่งถนนแต่ละสายที่สามารถออกไปได้จากจุดนี้มีเป็นพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
ถนนทางตอนใต้ของวงเวียนใหญ่จะเป็นถนนตากสิน โดยหากต้องการข้ามฝั่งแม่น้ำเพื่อเข้าสู่เส้นถนนเจริญกรุงแนะนำให้ใช้ถนนเส้นนี้ เนื่องจากว่าถนนช่วง ตากสิน – สาทร จะมีปริมาณรถที่หนาแน่นตั้งแต่ช่วงต้นของสะพานสาทรไปจนถึงถนนสาทรเหนือ และจะไม่สามารถกลับรถตรงแยกสาทรเพื่อเข้ามายังถนนเจริญกรุงได้ ณ แยกนี้ แต่ช่วงถนนตากสิน (เส้นประสีเหลือง) จะมีทางเบี่ยงซ้ายเพื่อขึ้นสะพานสูงนั่นคือสะพานพระราม 3 เพื่อเข้ามายังถนนเจริญกรุง ที่เป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์คสำคัญอย่าง เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ ได้
ในขณะเดียวกันหากต้องการเข้าถึงพื้นที่ริมน้ำใกล้เคียงคือฝั่งถนนเจริญนคร (เส้นประสีน้ำเงิน) สามารถเข้าได้จากถนนช่วง ตากสิน – สาทร โดยให้วิ่งถนนเส้นนอก (ระวังอย่าเลยไปขึ้นสะพานสาทร) เมื่ออยู่ถนนเส้นนอกจะเห็นว่ามีทางเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนเจริญนครได้ (ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี) โดยถนนเส้นนี้เป็นที่ตั้งของเมกะโปรเจกต์ที่จะแล้วเสร็จในปี 2563 นั่นคือ ดิ ไอคอน สยาม
หากจะต้องกลับรถจริงๆเพื่อเข้าถนนเจริญกรุงต้องไปกลับไกลถึงเกือบแยกช่องนนทรี ซึ่งปริมาณรถช่วงถนนสาทรเหนือจะหนาแน่นมากโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมจึงแนะนำให้ใช้สะพานพระราม 3 ในการข้ามจะสะดวกกว่า อย่างไรก็ตามสามารถเลี้ยวขวาได้จากแยกนี้เพื่อเข้าสู่ถนน เจริญราษฎร์ – พระราม 3
จุดขึ้นลงทางด่วน
ผู้ที่ต้องใช้รถเป็นประจำสามารถเข้าถึงจุดขึ้นลงทางด่วนได้โดยง่ายเช่นกัน โดยจะเป็นจุดขึ้นที่ชื่อว่า สีลม โดยขึ้นได้ที่ก่อนถึงแยกสาทร (สังเกตจะมีทางยกระดับอยู่ข้างบน)
เมื่อลงจากสะพานสาทร (หรือบางคนเรียกว่าสะพานตากสิน) ให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าสู่จุดขึ้นทางด่วน
จากที่กล่าวไปข้างต้นเป็นปัจจัยทางด้านคมนามคมที่ถือเป็นจุดเด่นทางด้านทำเลที่ตั้งของโครงการ ต่อไปจะเป็นในส่วนของปัจจัยทางด้านการอยู่อาศัยกันบ้าง (Living Factors) ว่ามีสถานที่อะไรที่อยู่รอบบริเวณตัวโครงการทั้งด้านสถานพยาบาลและสถานศึกษา
สถานพยาบาลที่อยู่ใกล้กับโครงการ โมทีฟ คอนโด ประกอบด้วย โรงพยาบาลตากสิน ที่สามารถเข้าถึงได้จากถนนลาดหญ้า (ระยะทางประมาณ 2.9 ก.ม.) และโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาที่ตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาลตากสิน หรือจะเป็นโรงพยาบาลศิริราชที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านถนนอรุณอัมรินทร์ (ระยะทางประมาณ 5 ก.ม.) จะสังเกตได้ว่าสถานพยาบาลทั้งหมดที่กล่าวมายังคงตั้งอยู่ฝั่งธนบุรีซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับโครงการ โมทีฟ คอนโด
ด้านสถานศึกษาบริเวณรอบๆนั้นค่อนข้างหลากหลาย ทั้งที่ตั้งอยู่ฝั่งธนบุรี เช่น โรงเรียนศึกษานารี, มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จ หรือจะเป็นสถานศึกษาที่ต้องข้ามแม่น้ำไปยังฝั่งพระนคร (ใช้สะพานพุทธในการข้ามฝั่ง) เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย, วิทยาลัยเพาะช่าง, มหาวิทยาศิลปากร และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากสะพานพุทธที่ใช้ข้ามมายังฝั่งพระนครแล้ว ยังมีสะพานปกเกล้าอีกเช่นกัน โดยสะพานปกเกล้านี้จะพามาลงยัง ถนนเมือง ซึ่งมีจุดเชื่อมต่อเพื่อเข้าถนน เพชรบุรี – พระราม 4 (เส้นที่เป็นจุดตั้งของห้างพารากอน) ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่น่าสนใจแทนที่การใช้บริการรถไฟฟ้าในวันหยุดเพราะปริมาณรถจะไม่หนาแน่น
สถานที่ Lifestyle
Riverside Plaza
เพิ่งเปิดเมื่อปีที่ผ่านมาแต่ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีกับพื้นที่พลาซ่าริมแม่น้ำที่รวมไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นและร้านอาหารชื่อดัง อีกทั้งด้านหลังเป็นส่วนของโรงแรม Avani ที่มีห้องอาหารริมน้ำด้วย
Jam Factory
คือพื้นที่ที่ถูกรังสรรค์ด้วยฝีมือการออกแบบ คุณ ดวงฤิทธิ์ บุนนาค จากพื้นที่โกดังให้กลายเป็นสถานที่สุดชิคที่เป็นศูนย์รวมของสินค้าแฟชั่น, เฟอร์นิเจอร์ งานอาร์ทๆรวมถึงร้านอาหารชื่อดังอย่าง Never Ending Summer ร้านอาหารไทยชื่อดังที่หากต้องการไปลองชิมอาจต้องทำการจองล่วงหน้าเนื่องจากแขกจากโรงแรมริมน้ำต่างๆจะ book เข้ามากินเป็นจำนวนมาก
บทวิเคราะห์
จากบทวิเคราะห์ทำเลในข้างต้นจะเห็นได้ว่า Motif Condo อยู่บนทำเลที่ที่ไม่แตกต่างกันเรื่องการเดินทางมากนักหากเทียบกับ Bright Condo วงเวียนใหญ่ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน (ช่วงถนนตากสินหลังเดอะมอลล์ท่าพระ) แต่เนื่องจาก ไบรท์ คอนโด จะเป็นโปรดักส์ที่ค่อนข้างเอียงไปทางพรีเมี่ยมจากวัสดุและอุปกรณ์ที่ให้มาทำให้ราคาต่อ ตร.ม. ของไบรท์ไปแตะที่แสนต้นๆ ซึ่งเป็นโปรดักส์ที่ถูกจัดอยู่ในเซกเมนต์เดียวกันกับ Nye by Sansiri วงเวียนใหญ่ ที่อยู่ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่เช่นเดียวกัน ที่ทางแสนสิริส่งมาจับตลาดพื้นที่ใกล้วงเวียนใหญ่ต่อจากแบรนด์รุ่นพี่ Hive ตากสินที่อยู่ในระดับราคาที่แสนต้น – กลาง เช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันราคาเริ่มต้นของ Motif Condo จะอยู่ที่เพียง 80,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้น
หรือจะเป็นโครงการจากดีเวลลอปเปอร์เจ้าพ่อโครงการแนวรถไฟฟ้าอย่าง อนันดาฯ ที่ส่ง Ideo Thrapra Interchange เข้ามากินสัดส่วนมาร์เก็ตบนพื้นที่ใกล้แนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ โดยถือเป็นตัวที่สามแล้วต่อจาก ไอดีโอ สาทร – ตากสิน และ ไอดีโอ สาทร – ท่าพระ แต่เนื่องจากโครงการ ไอดีโอ ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ นั้นตั้งอยู่ใกล้จุดอินเตอร์เชนจ์มากกว่าส่งผลให้ราคาของโครงการขยับไปอยู่ที่กว่า 120,000 บาท/ตร.ม. แต่ถ้าวัดระยะเวลาการเดินทางจากตัวโครงการ Motif Condo ไปสถานีท่าพระอินเตอร์เชนจ์จะใช้เวลานานกว่าเพียง 10 นาทีเท่านั้น แต่มาพร้อมราคาที่ลดลงมาถึง 44% ส่งผลให้ Motif Condo เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจทันทีถ้าช่างน้ำหนักกันเรื่องของทำเล
นอกจากโครงการที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ยังมีโครงการอื่นๆที่ขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้อีกเช่นกัน ใกล้สถานีโพธิ์นิมิตรที่เป็นที่ตั้งของ The Park Land Grand Taksin ซึ่งโปรดักส์นี้โดดไปเล่นที่ตลาดราคาแสนต้นเช่นเดียวกัน
ดังนั้นค่าเช่าที่สามารถทำได้จากการปล่อยเช่า Motif Condo จึงค่อนข้างตอบรับได้ดีกับคนรักฝั่งธนที่กำลังตามหาโครงการที่มาพร้อมกับคำว่า เช่าไหว โดยห้องขนาด 35 ตร.ม. จะมีค่าเช่าเริ่มต้นประมาณหมื่นต้นๆ ที่มาพร้อมของตกแต่งครบ แตกต่างจากค่าเช่าจากโครงการจากบิ๊กดีเวลลอปเปอร์ที่กล่าวไปที่มีราคาเริ่มต้นเช่าที่ประมาณ 16,000 – 18,000 บาท ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 33 ตร.ม. ผู้เช่าอาจคิดอีกแง่ได้ว่านำส่วนต่างตรงนี้ไปจ่ายเป็นค่าส่วนกลางหรือค่าน้ำค่าไฟจะดีกว่า ในขณะที่ความสะดวกด้านการเดินทางไม่ต่างกันนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าโปรดักส์เซกเม้นต์ของ Motif Condo กับโครงการอื่นๆนั้นค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน จากจุดนี้เองทำให้อัตราค่าเช่าของที่นี่ดูน่าสนใจกว่าโครงการอื่นๆ
แต่ถ้าจะมองเรื่องของการขยับขึ้นของราคาโครงการที่จะปรับตัวขึ้นคงต้องบอกว่าอาจจะเป็นไปใน trend ที่ค่อนข้างอยู่ในระดับค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากอาจจะไม่ใช่โครงการระดับแบรนด์เนมอะไรมากนั้น อย่างไรก็ตามด้วยอานิสงค์ของราคาที่ดินเขตธนบุรีช่วงถนนเพชรเกษมที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดุดัน (ประมาณ 20% ของแต่ละรอบช่วงประเมิน ตั้งแต่ 2551 – 2562) เนื่องจากการเข้ามาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและจุดอินเตอร์เชนจ์ต่างๆนั่นเเอง ต้องคอยติดตามว่าปัจจัยด้านคมนามคมสำคัญนี้จะมีส่วนเข้ามาช่วยในการปรับราคาขึ้นของโครงการมากน้อยเพียงใดในปีต่อๆไป
สรุป
การหาพื้นที่พัฒนาโครงการบนตลาดเดียวกับเจ้าใหญ่ๆไม่ใช่เรื่องง่ายในปัจจุบันซึ่ง สันติโชค ก็สามารถหาพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการได้บนพื้นที่วงเวียนใหญ่นี้ แต่สำหรับกลุ่มคนระดับกลาง (Middle Income) ที่ต้องการหาที่พักอาศัยไม่ว่าจะเป็นในมุมมองของการส่งลูกเข้ามาเรียนในสถานศึกษาย่านฝั่งธนและฝั่งพระนครหรือจะเป็นทางด้านอาจารย์เองที่ต้องเดินทางไปสอน ณ สถานศึกษาในย่านเหล่านี้ อย่างไรก็ตามรูปแบบของห้องประเภทหนึ่งห้องนอนและ 2 ห้องนอน (1 ห้องนอนใหญ่ และ 1 ห้องอเนกประสงค์ขนาดเล็ก) อาจจะเหมาะกว่าสำหรับชีวิตเดี่ยว, ชีวิตคู่ หรือครอบครัวที่มีลูกอ่อนมากกว่า ผู้ซึ่งกำลังมองหาคอนโดฯที่มีค่าเช่าเริ่มต้นที่หมื่นต้นๆ
ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแบบที่เรียกได้ว่า 200 เมตรเดินถึง แต่ทางโครงการ Motif Condo เองก็มีบริการ shuttle bus รับส่งคอยบริการลูกบ้านเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายด้านการเดินทาง หรือจะเป็นคนที่ต้องขับรถไปไหนมาไหนบ่อยก็ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากวงเวียนใหญ่เป็นพื้นที่ที่มีถนนเส้นต่างๆรายล้อม และไม่ไกลจากสาทรเช่นเดียวกัน
ในเรื่องของส่วนกลางอาจจะไม่มากมายหรูหราเหมือนกับโครงการต่างๆที่รายล้อมเนื่องจาก Motif Condo ไม่ต้องการแข่งขันในจุดนั้น เพียงแค่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานและราคาที่ผ่อนหรือเช่าสบายต่อเดือนก็ตอบโจทย์เพียงพอแล้วสำหรับคนรักการอยู่อาศัยในย่านฝั่งธน
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ