ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
จากสาทรเข้าสู่ถนนพระราม 4 หลายคนเลือกใช้ซอยทรัพย์เพื่อเป็นซอยเชื่อมระหว่างฝั่งสาทร-สีลม เพื่อเข้าสู่พระราม 4 – สามย่านที่เป็นแยกที่ตั้งของอาคารจามจุรีและวัดหัวลำโพง ซอยที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างถนนสองเส้นหลักนี้ นอกจากจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมแล้ว ยังมีโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ ซึ่งตั้งตรงข้ามกับสถานฑูตรัสเซียนั่นคือ โครงการ “ไซมิส สุรวงศ์” (Siamese Surawong) โดยผู้พัฒนาโครงการ “ไซมิส แอสแสท” ที่ประสบความสำเร็จกับการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ “ไซมิส” มาแล้วหลายโครงการก่อนหน้านี้ในทำเลไพร์มของกรุงเทพฯ อย่างย่านสุขุมวิท อารีย์ หรือแม้แต่ย่านนางลิ้นจี่ โดยความน่าสนใจของโครงการนี้ คือเป็นโครงการตึกสูงที่ราคาต่อตารางเมตรยังไม่สูงเกินเอื้อม เมื่อเทียบกับโครงการคอนโดที่รายล้อมอยู่บนถนนเส้น สาทร-สีลม ในปัจจุบัน
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2559)
ชื่อโครงการ: ไซมิส สุรวงศ์ (Siamese Surawong)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด
ที่ตั้งโครงการ: ถนนทรัพย์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก
พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 2 งาน 11.9 ตารางวา
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ ความสูง 20 ชั้น จำนวน 77 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงานที่ในโซน CBD อย่างสาทรและสีลม, กลุ่มครอบครัวที่มีสมาชิกเรียนที่จุฬาฯ รวมถึงมีแนวโน้มจะต้องทำงานในโซนเมือง, กลุ่มครอบครัวที่กำลังมองหาคอนโดฯ ใจกลางเมืองที่ตั้งอยู่บนถนนที่ยังคงมอบบรรยากาศความเป็นส่วนตัวสูง
จำนวนที่จอดรถ: 140 คัน (182%)
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว: ลิฟท์บริการ 1 ตัว
สถานะการก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมอยู่
สถานะการขาย: ประมาณ 70% (ข้อมูล ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2559)
เงินกองทุนสะสม: 600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ ตร.ม./ เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาขาย: เริ่มต้นประมาณ 5 ล้านบาท
ราคาขายเฉลี่ย: 150,000 บาท/ ตร.ม.
รูปแบบห้องชุด:
ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 34 – 62 ตร.ม.
ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 49 – 92 ตร.ม.
ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 81 – 197 ตร.ม.
ห้องชุดแบบทาวน์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอย 100 – 152 ตร.ม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.7 เมตร
เว็บไซต์โครงการ: www.siameseasset.co.th
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
บรรยากาศโดยรอบโครงการ
โครงการตั้งอยู่บนถนนที่มีบรรยากาศความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุรวงศ์และถนนสี่พระยาซึ่งเป็นถนนเส้นที่มีโครงการที่อยู่อาศัยไม่มากนัก ปัจจุบันมีเพียงแค่โครงการ เดอะ แบงกอก คอนโด ที่พัฒนาโดย แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ ไซมิส สุรวงศ์ ดังนั้น ความหนาแน่นของประชากรในซอยนี้จึงไม่หนาแน่น สำหรับฝั่งตรงข้ามของโครงการจะเป็นที่ตั้งของสถานฑูตรัสเซียเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ นอกนั้น ภายในซอยส่วนใหญ่เป็นอาคารเชิงพาณิชย์และห้างหุ้นส่วนจำกัด
การออกแบบตัวอาคาร
ตัวอาคารถูกออกแบบให้มียูนิตอยู่ทั้งสี่ด้านซึ่งแต่ละด้านจะได้วิวทิวทัศน์ที่แตกต่างกันดังนี้:
ด้านหน้าโครงการ: สถานฑูตรัสเซีย
ด้านขวาโครงการ: ถนนสี่พระยา
ด้านซ้ายโครงการ: ถนนสุรวงศ์
ด้านหลังโครงการ: ถนนสามย่าน
ดังนั้นเสน่ห์ของแต่ละด้านก็จะแตกต่างกันไป อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับกลิ่นอายความเก่าแก่ของถนนสุรวงศ์ได้มีการดึงหน้าต่างรูปทรงพระจันทร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งโครงการ (เฉพาะบางชั้น) เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความโปร่งให้กับภายในอาคาร แต่ละส่วนของโครงการจะมีการลดหรือเพิ่มพื้นที่สีเขียวเข้าไปเพื่อไม่ให้เป็นรูปแบบเดียวที่เหมือนๆ กันตลอดทั้งตึกจนเกินไป จะเห็นได้ว่าแต่ละส่วนจะมีลูกเล่นผสมผสานความโมเดิร์นเข้าไปด้วยส่งผลให้ตัวอาคารดูมีมิติและลูกเล่น และด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย คือประมาณชั้นละ 13 ยูนิต สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ถวิลหาความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี
หน้าต่างทรงพระจันทร์ ที่เป็นรูปแบบการตกแต่งในอาคารสัมยเก่าในย่าน เจริญกรุง-สุรวงศ์ เพิ่มกลิ่นอายแห่งอดีตของย่านนี้ให้แก่ตัวโครงการ
พื้นที่สีเขียว
การจัดวางในส่วนของพื้นที่สีเขียวจะอยู่ที่ชั้น 10, 13, 15, 17, 19 และชั้นดาดฟ้า
ยูนิตถูกออกแบบมาในลักษณะของ semi-fully furnished นั่นคือมีการตกแต่งในส่วนของครัวและห้องน้ำมาให้ แต่จะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวจำพวกโซฟาและฟูกที่นอนมาให้ แต่ทั้งนี้ ทางโครงการได้ให้ตู้เสื้อผ้ารวมถึงโต๊ะกินข้าวและงานบิลท์อิน เคานเตอร์ครัวมาให้มาให้
สำหรับรูปแบบของห้องนั้น ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกได้ว่าอยากจะให้เป็นแบบ Premier หรือ Privilege โดยในประเภทหลังจะมีข้อแตกต่างที่เพิ่มเข้ามาคือผนัง, เคาน์เตอร์บริเวณครัวรวมถึงผนังและพื้นของห้องน้ำจะเป็นหินอ่อนและมีราคาที่ถูกบวกเพิ่มขึ้นมาที่ประมาณ 20,000 บาทต่อตารางเมตร แต่สำหรับการตกแต่งประเภท Premier จะใช้เป็นแกรนิตโต้
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จะอยู่ที่ชั้น 4 ประกอบไปด้วย:
รูปแบบของห้องชุด
ประกอบด้วย:
-1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 34-62 ตร.ม.
-2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ 49-92 ตร.ม.
-2 ห้องนอน (ดูเพล็กซ์) ขนาดพื้นที่ 81-197 ตร.ม.
-ทาวน์เฮ้าส์ ขนาดพื้นที่ 100-152 ตร.ม.
สำหรับห้องชุดประเภททาวน์เฮ้าส์จะถูกจัดไว้ทางฝั่งทิศตะวันออกจากด้านหน้าโครงการโดยจะมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้นที่มาพร้อมกับที่จอดรถส่วนตัว จอดได้ 2-3 คัน
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องประเภท duplex 3 ห้องนอน ขนาด 139 ตร.ม.
ชั้น 1 ประกอบด้วย
ห้องรับประทานอาหาร, ห้องรับแขก, ห้องน้ำ และเคาน์เตอร์ครัว
ชั้น 2 ประกอบด้วย
Master bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว และห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และห้องน้ำกลาง
ด้านหน้าของประตูจะเป็นงานบิลท์อินชั้นวางรองเท้าที่มีบานเลื่อนเปิด-ปิดได้/ พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซึ่งข้อดีของกระเบื้องชนิดนี้คือสามารถทำความสะอาดได้ง่ายฝุ่นไม่จับติดกับตัวเนื้อกระเบิ้องและดูสวยงาม
งานบิลท์อินครัวในห้องตัวอย่างนี้จะให้เป็นแบบ premier นั่นคือทำจากแกรนิตโต้ สำหรับตู้เย็นที่โครงการให้จะเป็นขนาด 20 คิว ของ Samsung ส่วนเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันที่ให้จะเป็นแบรนด์ Franke
ห้องน้ำของชั้น 1 พื้นและผนังจะเป็นแกรนิตโต้สีดำเทาตัดกับสีของอ่างล้างหน้าที่บิลท์อินมาให้พร้อมและสุขภัณฑ์ซึ่งเป็นสีขาว
ส่วนของห้องรับแขก แอร์ที่ให้มาจะเป็นแบบฝังฝ้า (concealed) ในด้านของการบำรุงรักษา อาจจะต้องเข้าไปแก้ไขจากช่องเซอร์วิสซึ่งไม่สามารถแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ต้องเรียกช่างมาตรวจสอบให้แตกต่างจากแอร์แขวนผนังที่เราสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้เอง
จากประตูบานเลื่อนเมื่อเดินออกมาจะพบกับระเบียงส่วนตัวที่มีขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร พร้อมพื้นที่เก็บ compressor แอร์
เมื่อเดินขึ้นมาด้านหน้าจะมีห้องสองห้องซ้ายจะเป็น master bedroom ขวาจะเป็นห้องนอนที่ 1 เมื่อหันขวาจากบันไดที่ขึ้นมาจะเจอกับห้องนอนที่ 2
ตู้ทั้งสองฝั่งจะบิลท์มาเป็นแบบบานเลื่อนกระจกเงาไว้ให้สำหรับแยกส่วนของคุณผู้หญิงและชาย (กระจกเงาและ props เป็นเพียงไอเดียในการแต่งห้องเท่านั้น)
พื้นที่บริเวณเตียงนอนมีขนาดประมาณ 4×3 เมตร ทำให้สามารถจัดวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ จุดวางเตียงติดกับหน้าต่างบาน fixed เปิดไม่ได้ (ทางโครงการไม่ได้ติดผ้าม่านให้)
บริเวณข้างเตียงฝั่งขวา โครงการบิลท์อินตู้เสื้อผ้าอีกหนึ่งตู้ขนาดเล็กมาให้ สำหรับชุดโต๊ะอ่านหนังสือเป็นเพียงไอเดียการแต่งห้องเท่านั้น ความสูงเพดานของห้องนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.7 เมตร
ห้องน้ำจะตกแต่งในสไตล์เดียวกับห้องน้ำชั้นล่างอุปกรณ์ต่างๆ ใช้แบรนด์ American Standard มีกระจกนิรภัยติดตั้งมาให้เพื่อแยกโซนเปียกออกจากโซนแห้ง
ห้องนอนที่ 1
พื้นที่โดยรวมของห้องนอนนี้อยู่ที่ประมาณ 3×3 เมตรดังนั้นจึงเหมาะที่จะวางเตียงขนาด 5 ฟุต เพื่อให้เหลือพื้นที่ใช้สอยด้านข้างมากขึ้น
บริเวณห้องนอนนี้มีระเบียงส่วนตัว ขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกไปรับแสงยามเช้าได้
ห้องนอนที่ 2
ห้องนอนนี้จะเป็นส่วนที่ติดกับบันไดโดยสามารถมองลงไปที่ชั้น 1 ผ่านกระจกที่ดีไซน์เป็นมุมได้, ผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกเข้ายูนิตได้ทั้งจากชั้นล่าง และชั้นดูเพล็กซ์ของยูนิต หากไม่อยากดูหวิวเกินไปอาจจะหาม่านมาติดเพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ห้องนอนนี้จะมีขนาดเท่ากับห้องนอนที่ 1 ดังนั้นขนาดเตียงที่วางแล้วไม่ดูแคบก็คือ 5 ฟุต ห้องนี้มีตู้เสื้อผ้าถูกบิลท์อินแถมมาให้เช่นกัน
ห้องตัวอย่างขนาด 66.8 ตร.ม. 2+1 ห้องนอน ที่ตกแต่งมาในแบบ Privilege
Layout ของห้องประกอบด้วย 2 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 1 โซนครัว, 1 โซนรับประทานอาหาร, 1 ห้องนั่งเล่น และระเบียงส่วนตัว
เมื่อหันมาทางซ้ายจะพบว่ามีอีกห้องหนึ่งซึ่งจะเป็นห้องนอนเล็กโดยมีมุมกระจกบานเลื่อนกั้นโซนระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนเล็กนี้
ส่วนของครัวจะเป็นแบบแนวยาวไม่ใช่แบบทรงรูปตัว L งานบิลท์อินตู้แถมมาให้ครบ ตู้เย็นให้เป็นแบรนด์ Samsung ขนาด 13 คิว
สำหรับการตกแต่งห้องแบบ Privilege จะให้งานบิลท์อินเคาน์เตอร์ครัวมาเป็นหินอ่อน, ซิงค์, เตาไฟฟ้าและที่ดูดควันเป็นแบรนด์ Franke
ติดกับโซนครัวจะเป็นงานบิลท์อินตู้ชั้นวางรองเท้าและที่เก็บของมาให้ซึ่งจะใช้ไม้เกรดพรีเมี่ยม กว่าห้องแบบ Premier
Master Bedroom
เมื่อเดินเข้ามาจะพบว่าฝั่งซ้ายเป็นงานบิลท์อินโต๊ะแต่งตัวและฝั่งขวาเป็นห้องน้ำสไตล์ sexy bathroom นั่นคือเป็นกระจกซีทรู แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัว อาจจะติดตั้งม่านบังตาเพิ่มได้ พื้นปูด้วย engineered wood
เช่นเดียวกับห้องน้ำฝั่งประตูทางเข้าที่ใช้หินอ่อนในการตกแต่ง สุขภัณฑ์แถมเป็นแบรนด์เดียวกันนั่นคือ American Standard
โซนห้องนั่งเล่น ที่มาพร้อมงานบิลท์อินชั้นวางทีวีและหนังสือ สำหรับการตกแต่งแบบ Privilege จะให้ชุดเฟอร์ฯ โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 4 ท่านมาด้วย
ห้องชุดประเภททาวน์เฮ้าส์
สำหรับยูนิตประเภทนี้จะมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตแบบครอบครัวมากกว่า มาพร้อมกับที่จอดรถส่วนตัวด้านหน้าที่จอดได้สูงสุดถึง 3 คัน แต่สำหรับพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง (110 ตร.ม.) นั้นจะน้อยกว่าห้องแบบดูเพล็กซ์
Layout ยูนิต
ชั้น 1: ที่จอดรถมาตรฐานคือจอดได้ 2 คัน สำหรับยูนิตที่จอดได้ 3 คันจะเพิ่มราคาที่ล็อตละประมาณ 300,000 บาท, ห้องนอนเล็กพร้อมห้องน้ำในตัว, ห้องเก็บของใต้บันได
ชั้น 2: ห้องนั่งเล่น, ครัว, โซนรับประทานอาหาร, ห้องน้ำและระเบียงส่วนตัวขนาดความกว้าง 2 เมตร
ชั้น 3: semi-master bedroom (ห้องน้ำในตัว) และห้องนอนเล็กพร้อมห้องน้ำในตัว
ระบบประตูจะเป็นแบบคีย์การด์แตะเพื่อเข้ายูนิต, เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับประตูที่สามารถเข้าได้อีกทางจากฝั่งที่จอดรถหน้ายูนิต, พื้นตรงทางเดินจะปูด้วยแกรนิตโต้
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับห้องแรกทางฝั่งซ้ายมือนั่นคือห้องนอนเล็กที่มีขนาดประมาณ 3×3 เมตร ซึ่งทำให้อาจจะวางเตียงได้แค่ควีนไซส์
พื้นที่ปลายเตียงสามารถประยุกต์ในฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันโดยห้องตัวอย่างเลือกเป็นมุมอ่านหนังสือ, แอร์ห้องนี้จะให้เป็นขนาด 9,000 BTU
ชั้น 2
ห้องครัว และ โซนนั่งเล่นจะอยู่ติดกัน คุณแม่บ้านขณะทำอาหารก็ดูแลลูกน้อยไปพร้อมกันได้เลย (โซฟา และงานบิลท์อินตู้โชว์ด้านหลังที่เห็นเป็นเพียงไอเดียในการตกแต่งเท่านั้น)
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ภายในครัว ได้แก่ เครื่องซักผ้าฝาหน้าและตู้เย็นขนาด 20 คิว ทั้งคู่เป็นแบรนด์ Samsung
ทางเข้าที่สามารถเข้าได้จากทางชั้น 2 ของยูนิต ลักษณะคล้ายกับของห้องแบบดูเพล็กซ์ โดยระบบจะเป็นแบบเดียวกันนั่นคือคีย์การด์ เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับตู้บิลท์อินซึ่งเป็นที่เก็บของจิปาถะและเก็บรองเท้า
ชั้น 3
ห้องนอนที่ 2
ห้องนอนที่ 3
ถึงกระนั้นพื้นที่ข้างเตียงหากจัดวางดีๆยังสามารถมีพื้นที่ study เพิ่มขึ้นได้ (แนะนำเป็นเตียงขนาด 3-3.5 ฟุต)
ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินมาให้บริเวณหน้าห้องน้ำ, ห้องน้ำ spec เดียวกับห้องอื่นๆ เช่นกันแต่จะไม่มีอ่างอาบน้ำให้
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ถนนสีลมมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของราคาที่ดินในแบบก้าวกระโดด เมื่อย้อนดูราคาประเมินขั้นต่ำโดยกรมธนารักษ์จะพบกับการเคลื่อนไหวดังนี้:
รอบปี 2551-2554 ถูกประเมินไว้ที่ 550,000-650,000 บาทต่อตารางวา
รอบปี 2555-2558 ถูกประเมินไว้ที่ 650,000-850,000 บาทต่อตารางวา
รอบปี 2559-2562 ถูกประเมินไว้ที่ 1 ล้านบาทต่อตารางวา
และสำหรับราคาซื้อขายกันจริง ณ ปัจจุบันได้ไหลไปไกลจนไปอยู่ที่ประมาณตารางวาละ 1.6 ล้านบาทหรือ 640 ล้านบาทต่อไร่ และดูเหมือนว่ายิ่งที่ดินอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดงเท่าไร ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้นเนื่องจากรถไฟฟ้าสถานีเป็นจุดเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลมได้อีกด้วย ดังนั้นจึงมีระบบขนส่งมวลชนถึงสองระบบด้วยกัน ทำให้ที่ดินที่อยู่รอบสีลมจึงเป็นที่หมายปองของบรรดาดีเวลลอปเปอร์ และการสร้างโครงการต่างๆ บนย่านนี้คงต้องขึ้นเป็นโครงการระดับลักซ์ชัวรี่เพื่อให้สอดคล้องกับราคาที่ดินที่ได้ นั่นหมายความว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในโครงการอสังหาฯ ย่านนี้ถูกเรียกได้ว่ากลุ่มคนผู้มีศักยภาพทางการเงินสูง
ถนนทรัพย์ตั้งอยู่ในเขตสุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นย่านที่เงียบสงบและในขณะเดียวกันเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนสายหลักของกรุงเทพฯ ถึง 3 สาย นั่นคือ สีลม, สาทร และถนนพระรามสี่ (บริเวณแยกจามจุรี) ซอยทรัพย์ยังเป็นซอยที่ถูกถนนสองสายแนบขนาบนั่นคือถนนสุรวงศ์ ซึ่งเป็นถนนติดกับเส้นสีลมและถนนสี่พระยาที่ติดกับถนนพระราม 4
สำหรับผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในย่านศาลาแดงสามารถใช้เส้นทางลัดเดินทะลุจากถนนสุรวงศ์ เพื่อเข้าสู่ถนนศาลาแดงได้ โดยใช้ซอยเชื่อมอย่างซอยทานตะวัน
ถึงแม้ทำเลโครงการไม่ได้อยู่แนวเส้นรถไฟฟ้าบีทีเอสเสียทีเดียว (ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอาจจะทำให้ราคาเริ่มต้นสูงกว่านี้) อย่างไรก็ตาม ยังคงความสะดวกด้วยการที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสามย่านที่อยู่ในระยะเดินได้
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาถือว่าถนนสุรวงศ์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากธุรกิจโรงแรมให้ความสนใจมาเปิดถึง 2 แห่งด้วยกัน นั่นคือ Red Planet Surawong และ Amara Bangkok อีกทั้งยังมีโรงแรมเชนดังที่มาเปิดก่อนหน้านี้ อาทิเช่น โรงแรมตะวันนา รามาดา, โรงแรมมณเฑียร และโรงแรมเลอ เมอริเดียน รวมไปถึงในบริเวณใกล้เคียงกันยังมีโครงการที่เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของย่านสาทรอย่าง “มหานคร” และโครงการไฮเอนด์ของค่ายอนันดาฯ อย่าง “แอชตัน สีลม” ที่ ณ ตอนนี้ราคาพุ่งไปแตะที่ตารางเมตรละ 200,000 บาทแล้ว
เส้นทางที่สามารถเข้าออกได้จากตัวโครงการ (ถนนทรัพย์)
ถนนสุรวงศ์มีโรงแรมสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติมากมายที่นอกจากจะเข้ามาติดต่อธุรกิจแล้ว ยังอยากมาสัมผัสแสงสีในยามค่ำคืนของย่านนี้
ซอยทานตะวันบนถนนเส้นสุรวงศ์เป็นซอยที่สามารถทะลุไปยังถนนสีลม-ศาลาแดงได้ หากใช้บริการพี่วินจะ รวดเร็วยิ่งขึ้น (ประมาณ 20 บาท) แต่ถ้าอยากออกกำลังกายเล็กๆ ก็เดินได้เลย โดยระยะเวลาการเดินจากถนนสุรวงศ์ไปถึงถนนศาลาแดงใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยตั้งอยู่บริเวณแยกสามย่าน หากมาจากโครงการไซมิส สุรวงศ์ จะมีระยะทางประมาณ 700 เมตร สำหรับโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลสามย่านอย่างเช่น แอชตัน จุฬา-สามย่าน ที่อยู่ใกล้กับจุฬาฯ มากกว่ามีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรไปไกลอยู่ที่ประมาณ 230,000 บาท ต่อตารางเมตร รูปภพ via: pantip.com
แยกช่องนนทรีย์บนถนนสาทรใต้ศูนย์รวมอาคารสำนักงานที่เป็นที่ตั้งของบริษัทชื่อดังมากมาย อีกหนึ่งจุด CBD ของกรุงเทพฯ
ถนนสุรวงศ์ยังเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนสายเก่าแก่ของกรุงเทพฯ อย่างถนนเจริญกรุงซึ่งเป็นถนนที่มีพื้นที่ติดแม่น้ำ
การเดินทางมายังโครงการ
นับจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรีให้เลือกมายังเส้นทางดังนี้:
บรรยากาศภายในสำนักงานขาย
สถานที่ lifestyle
1. ร้าน Too Fast Too Sleep
ร้าน Too Fast Too Sleep เป็นร้าน Bistro ที่เปิดตลอด 24 ชม. และอุดมไปด้วยหนังสือเรียนมากมายโดยลูกค้าส่วนมากจะเป็นนิสิต-นักศึกษา เข้ามานั่งติวหนังสือ หรือชิลๆ กัน ภาพ via: facebook Too Fast Too Sleep
แผนที่จากโครงการไปยังร้าน Too Fast Too Sleep ให้เลือกใช้เส้นถนนสุรวงศ์เพื่อไม่ต้องกลับรถ ระยะทางประมาณ 1.5 กม.
อุทยานจุฬาฯ ครบ 100 ปีเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ประมาณ 29 ไร่ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คในอนาคตบนถนนสามย่าน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2560 ภาพ via: www.skyscrapercity.com
บทวิเคราะห์
ค่าเช่าที่สำรวจจากโครงการในระดับเดียวกันและมีราคาต่อตารางเมตรที่อยู่ในระดับไล่เลี่ยกันบนถนนทรัพย์นั้นจะมีเพียงโครงการ เดอะ แบงกอก จากค่าย แลนด์ แอนด์ เฮาส์ ที่มีค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 400 บาท/ตร.ม. ซึ่งทำให้อัตราค่าเช่ารวมต่อเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 33,000 – 35,000 บาท (ขนาดเริ่มที่ 84 ตร.ม.) แต่เนื่องจากโครงการ ไซมิส สุรวงศ์ เป็นโครงการที่ออกมาใหม่กว่า (สร้างเสร็จเมื่อ เมษายน ’59) อาจจะเรียกเก็บได้มากกว่าประมาณ 100 บาทต่อ ตร.ม. ทำให้ได้ราคาเช่าที่ประมาณ 17,000 บาทต่อเดือน (ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 34 ตร.ม.)
อย่างไรก็ตาม จากตัวโครงการยังคงสามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนอย่าง MRT ได้สะดวกอยู่ (ห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร) แต่หากจะมองหาผู้เช่าที่เป็นชาวต่างชาติที่ได้รับค่าเช่าบ้านจากบริษัทต้นสังกัดอาจจะค่อนข้างยากเนื่องจากชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่เมืองไทยโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มองหายูนิตเช่าที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้าไม่เกินระยะประมาณ 200-300 เมตร แต่ดีมานด์ทางด้านฝั่งคนไทยอาจจะยังพอหาได้บ้างเนื่องจากไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของบ้านเราเน้นความเป็นส่วนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการแนวรถไฟฟ้า
การขยับขึ้นของราคาที่ดินต่อตารางวาในย่านสีลมนั้นมีแนวโน้มขยับขึ้นค่อนข้างรวดเร็วรวมถึงพื้นที่ CBD อื่นๆที่มีการปรับราคาขึ้นทุกๆ ปีอยู่ที่ประมาณ 10-14% ซึ่งถือว่าโดดเด่นกว่าพื้นที่มิดทาวน์อื่นๆ ที่ขยับอยู่ที่ประมาณ 4-5% สาเหตุที่ทำให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มปรับขึ้นในลักษณะที่โดดเด่นนั่นคือการที่จำนวน supply ของพื้นที่ดินนั้นเริ่มเหลือน้อยลงไปทุกทีและบางครั้งกรรมสิทธิ์ต่างเปลี่ยนมือไปจนบางทีในบางจุดเราไม่ทราบว่าเป็นแลนด์แบงค์หรือผืนที่ดินของใครกันบ้าง
เปรียบเทียบโครงการ
1. Ideo Q Chula-Samyan
ชื่อโครงการ: ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน Ideo Q Chula-Samyan
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน): ANAN
ที่ตั้งโครงการ: แยกสามย่าน
เนื้อที่โครงการ: 5-3-59.8 ไร่
ประเภทโครงการ: คอนโดฯ ไฮไรส์สูง 40 ชั้น จำนวน 1,605 ยูนิต
ประเภทห้องชุด:
สตูดิโอ ขนาด 21 – 28.5 ตารางเมตร
1 ห้องนอน ขนาด 33.50 – 34.00 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาด 47.00 – 50.00 ตารางเมตร
2 ห้องนอน แบบดูเพล็กซ์ ขนาด 66 ตารางเมตร
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้น: 150,000 – 170,000 บาท
เว็บไซต์โครงการ: www.ananda.co.th
ค้นหา โครงการใหม่ ของ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์
2. M Silom
ชื่อโครงการ: เอ็ม สีลม (M Silom)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน): MJD
ที่ตั้งโครงการ: แยก ช่องนนทรี-สีลม
เนื้อที่โครงการ: 1-1-28 ไร่
ประเภทโครงการ: คอนโดฯ ไฮไรส์สูง 53 ชั้น 161 ยูนิต
ประเภทห้องชุด:
1 ห้องนอน พื้นที่ 46 – 57 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9.8 ล้านบาท
2 ห้องนอน พื้นที่ 82 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 15.6 ล้านบาท
3 ห้องนอน พื้นที่ 165 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 43 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรเริ่มต้น: 190,000 – 220,000 บาท
เว็บไซต์โครงการ: www.mde.co.th
ค้นหา โครงการใหม่ ของ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์
สรุป
ด้านทำเลของตัวโครงการ ไซมิส สุรวงศ์ อาจจะไม่ได้เรียกว่าใกล้กับตัวระบบขนส่งมวลชนอย่าง MRT มากนักแต่ก็ยังอยู่ในระยะที่สามารถเดินไปได้ ในเรื่องของตัวของอาคารถือว่าออกแบบมาได้อย่างมีจุดเด่นที่ดึงความร่วมสมัยและกลิ่นอายความคลาสสิกของย่านทำให้ตัวอาคารดูเป็นเอกลักษณ์บนถนนทรัพย์ที่อยู่ตรงข้ามสถานฑูตรัสเซีย ในส่วนของยูนิตมีรูปแบบของยูนิตที่หลากหลายรองรับความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และมีการตกแต่งในสไตล์ที่แตกต่างกัน ทั้งแบบ Premier และ Privilege ซึ่งแบบหลังมีการนำหินอ่อนเข้ามาตกแต่งภายในตัวยูนิต
สำหรับเรื่องของราคานั้นถือว่า โครงการนี้ ราคาขายถูกกว่าโครงการแนวรถไฟฟ้าถึง 65% เลยทีเดียวทั้งที่เพียงเพิ่มระยะการเดินอีกเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และหากมีสมาชิกภายในครอบครัวที่เรียนอยู่ที่จุฬาฯและมีสมาชิกที่ต้องทำงานอยู่ในใจกลางเมืองโดยเฉพาะสีลม-สาทร ไซมิส สุรวงศ์ นับเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างคุ้มค่าเนื่องจากราคาที่ตั้งไว้ไม่ได้แพงจนเกินไป
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ