โครงการอินซิโอ้ เสรีไทย (Incio Serithai) คอนโด Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร และ 5 ชั้น 1 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 508 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 5 ยูนิต ออกแบบในสไตล์โมเดิร์น มี 3 สระว่ายน้ำ 4 ฟิตเนส และสวนหย่อมตามจุดต่าง ๆ ราคาเริ่มต้น 2.xx ล้านบาท
หลังจากทีประกาศการร่วมทุนกับอสังหาฯ เบอร์ใหญ่จากแดนปลาดิบอย่าง มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป มาตั้งแต่ปี 2556 เอพี ไทยแลนด์ ได้มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2558 นี้ แผนในการเปิดตัวโครงการที่เป็นการร่วมทุนระหว่าง 2 ดีเวลอปเปอร์มีทั้งหมด 5 โครงการด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการ “ไลฟ์ ปิ่นเกล้า” (Life Pinklao) ที่พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ที่การเชื่อมต่อคนรุ่นยุค Baby Boomers กับคนรุ่น Gen Y เข้าไว้ด้วยกันผ่านรูปแบบที่อยู่อาศัย ซึ่งคุณวิทการ จันทวิมล หนึ่งในผู้บริหารเอพีฯ กล่าวไว้ในงานเปิดตัวโครงการว่า “ไลฟ์ ปิ่นเกล้า จะเป็นโครงการที่ดึงความสัมพันธ์ในระดับเครือญาติระหว่างยุค Gen X และ Y เข้าไว้ด้วยกัน…จะดีแค่ไหน ถ้าเราจะได้เห็นภาพความอบอุ่นเหล่านั้น ณ หนึ่งในย่านที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพ” ต้องคอยดูกันว่าโครงการที่ทางเอพีฯ จัดเป็น hype ณ ขณะนี้จะมีแนวทางและรูปแบบโครงการอย่างไร ซึ่งในวันนี้ DDproperty จะพาไปรีวิวโครงการแบบเจาะลึกกัน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: ไลฟ์ ปิ่นเกล้า (Life Pinklao )
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ติดถนนจรัญสนิทวงศ์ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สถานีบางยี่ขัน 40 ม.
พื้นที่โครงการ: 4-3-86.3 ไร่
จำนวนห้องพัก: ห้องชุดพักอาศัย 803 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
รูปแบบอาคาร: อาคารพักอาศัย 1 อาคาร สูง 23 ชั้น
ชั้น 1: โถงต้อนรับ, สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด และร้านค้า
ชั้น 1 – 4: ที่จอดรถ
ชั้น 3 – 23: ห้องพักอาศัย
ชั้น 5: ที่พักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางอำนวยความสะดวก
สระว่ายน้ำ ยาว 40 เมตร, ห้องฟิตเนส, พื้นที่อเนกประสงค์, ห้องซาวน่า
ที่จอดรถ: 52% รวมซ้อนคัน
รูปแบบห้อง: 1 ห้องนอน ขนาด 26 และ 30 ตร.ม.
1 ห้องนอน (+1 ห้องอเนกประสงค์) ขนาด 35 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 50 – 60.5 ตร.ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก: สวนจำลอง, Infinity Edge Pool, Panoramic Fitness, Casual Space
ค่าส่วนกลาง: 34 บาท/ ตารางเมตร/ เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน: 450 บาท/ ตารางเมตร
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 3 ล้านบาท (115,000 บาท/ ตร.ม.)
รายละเอียดโครงการ
ทางโครงการต้องการสร้างสัมผัสแห่งเสน่ห์ของย่านกรุงเก่าของกรุงเทพฯ ให้กับผู้อยู่อาศัยได้คุ้นชินตามสโลแกน “เสน่ห์ใหม่ แห่งวิถีที่คุ้นเคย” และเนื่องจากเป็นโครงการที่พัฒนาภายใต้การร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ปจากแดนอาทิตย์อุทัย ทำให้รูปแบบการออกแบบตัวโครงการจะเน้นไปที่การทำให้พื้นที่สีเขียวส่วนกลางมีการผสมผสานของดีไซน์ zen จากญี่ปุ่นทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ผ่อนคลายยามเหนื่อยล้า โดยกลุ่มเป้าหมายของโครงการนี้ได้แก่ คน Gen Y ที่เริ่มคิดถึงเรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับการขยายครอบครัวต่อไปในอนาคต และคนกลุ่ม Gen X ที่อยากจะซื้อให้ลูกหลานได้มีที่อยู่อาศัยต่อไปหากต้องขยายครอบครัวเช่นเดียวกัน จุดไฮไลท์ของโครงการคือการได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานพระราม 8 อีกทั้งวิวเมืองในมุม city skyline ที่สวยงามในบรรยากาศค่ำคืน (ซึ่งวิวดังกล่าวจะเห็นได้ชัดจากห้องชั้น 20 ขึ้นไป)
Panoramic Fitness: ที่มาพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ทันสมัย ให้การออกกำลังเสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
Floor Plans
Room Layouts
ห้องประเภท 1 ห้องนอนจะมีขนาดตั้งแต่ 26 – 35 ตร.ม.
ในส่วนของห้องขนาด 26 และ 30 ตร.ม. ประกอบด้วย:
-1 ห้องนอน
-บริเวณ living area และ pantry
– ระเบียงส่วนตัว
ส่วนห้องขนาด 35 ตร.ม. จะแตกต่างจากห้องสองขนาดแรก ตรงที่ผู้อยู่อาศัยสามารเปลี่ยน walk-in closet ให้กลายเป็นอีก 1 ห้องนอนเล็กหรือห้องอเนกประสงค์ได้
ห้องประเภท 2 ห้องนอน ขนาด 50 ตร.ม. ประกอบด้วย:
-1 master bedroom
-1 ห้องนอนเล็ก
-2 ห้องน้ำ (1 ห้องใน master bedroom)
-บริเวณ pantry, living และ dining area
-ระเบียงส่วนตัว
ส่วนห้องประเภท 2 ห้องนอนขนาด 55.5 ตารางเมตรจะมีตัว walk-in closet เพิ่มเข้ามาซึ่งผู้อาศัยสามารถเปลี่ยนให้เป็นอีกหนึ่งห้องอเนกประสงค์ได้
ห้องประเภท 2 ห้องนอนขนาด 57.5 และ 60.5 ตร.ม. ประกอบด้วย:
-1 master bedroom (พร้อม walk-in closet และ ห้องน้ำในตัว)
-1 ห้องน้ำติดกับบริเวณ living และ dining area
-บริเวณ living, dining และ pantry area
-ระเบียงส่วนตัว
ห้องตัวอย่างโครงการ ขนาด 35.5 ตารางเมตร (Plus)
ในส่วนที่ติดกับห้องนอนนี้จะเป็นห้องอเนกประสงค์ (plus) ซึ่งสามารถทำเป็นอีกหนึ่งห้องนอนเล็กได้ โดยในห้องตัวอย่างนี้ทำเป็น walk-in closet
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ทำเลจรัญสนิทวงศ์และปิ่นเกล้าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีจำนวนในเรื่องของยูนิตที่อยู่อาศัยน้อยมากเนื่องจากยังค่อนข้างอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาทำให้หลายๆดีเวลลอปเปอร์มองข้ามโอกาสในเรื่องพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ไป หากจะมีการเกิดขึ้นของโครงการ ส่วนใหญ่จะไปหนาแน่นอยู่ที่ช่วงบรมราชชนนีตอนต้นผ่านหน้าห้างสรรพสินค้าต่างๆแถบปิ่นเกล้าไปจนถึงแยกศิริราช แต่จำนวนยูนิตที่ถูกจำกัดเนื่องด้วยกฎหมายความสูงส่งผลให้การขึ้นของโครงการต้องอยู่ในลักษณะแนวราบทำให้แถบบรมฯตอนต้นถูกเรียงไปด้วยโครงการบ้านเดี่ยวราคาสูง ดังนั้นความต้องการในเรื่องที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมกับราคาที่จับต้องได้จึงเพิ่มมากขึ้น ความสนใจจากดีเวลอปเปอร์เจ้าต่างๆจึงเริ่มถูกเทมายังฝั่ง จรัญสนิทวงศ์-ปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำพาให้ราคาที่ดินต่อตารางวาเพิ่มสูงขึ้น เอพีฯ มองเห็นโอกาสในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลนี้เช่นกันจึงส่งโครงการ Life Pinklao มาชิมลางว่าจะสามารถตอบโจทย์คนพื้นที่นี้ได้ดีมากน้อยเพียงใด
ถือว่าช่วงเวลาการเริ่มต้นรุกตลาดในย่านนี้ของเอพีฯเป็นการเริ่มต้นในฐานะเจ้าแรกๆ ณ ย่าน จรัญสนิทวงศ์-ปิ่นเกล้านี้ ปัจจัยที่เห็นได้ชัดเรื่องการขับเคลื่อนราคาที่ดินต่อตารางวาในย่านแถบนี้ให้สูงขึ้นคือการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) จากรัฐบาล โดยคุณ วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาดของ เอพีฯ กล่าวว่า ทางบริษัทเองแลเห็นถึงปัจจัยบวกของการเกิดขึ้นของโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินซึ่งจะผลักดันราคาที่ดินให้สูงขึ้นอย่างกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงถนนเส้นอ่อนนุช ทำให้ Life Pinklao โครงการที่เจาะตลาดลูกค้าระดับ กลาง-บน เกิดขึ้นบนผืนทำเลแห่งนี้
วิเคราะห์ศักยภาพโครงการ
ตัวโครงการอยู่ใกล้กับสะพานกรุงธนหรือสะพานซังฮี ซึ่งถ้าวิ่งย้อนกลับไปเมื่อลงสะพานมาจะถูกบังคับให้เลี้ยวซ้ายทำให้ไม่สามารถตรงไปได้ เมื่อเลี้ยวซ้ายมาจะพบกับแยกสังคโลกซึ่งเป็นตำแหน่งที่ตั้งของวังดุสิตและสถานที่ราชการต่างๆ, โรงแรมระดับ 5 ดาว The Siam รวมไปถึงสถานศึกษาอย่าง โรงเรียนเซนต์คาเบรียล, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตและราชภัฏสวนสุนันทาแต่ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งของสะพานซังฮีจะเป็นเส้นที่สามารถออกไปยังถนนพระปิ่นเกล้าได้ (ณ แยกปิ่นเกล้าเป็นจุดที่สามารถไปยัง เซ็นทรัล พลาซ่า ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ฯ ปิ่นเกล้า, แหล่งขายเสื้อผ้าอย่างปิ่นเงินปิ่นทอง) แต่หากข้ามสะพานขึ้นต่อไปจะสามารถโผล่ไปยังถนนบรมราชชนนีที่เป็นจุดที่สามารถไปยังถนนเพชรเกษม (บริเวณใกล้กับสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้), บางบัวทอง และพุทธมณฑลได้
สถานที่ lifestyle
การเดินทาง
รถยนต์
-หากมาจากทางเส้นเพชรเกษมให้เลือกใช้เส้นทางมุ่งหน้าไปปิ่นเกล้าตรงมาเรื่อยๆ จากนั้นให้เลือกตรงไปยังเส้นสะพานกรุงธนบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร โดยท่านจะวิ่งผ่านถนนสิรินธร ก่อนถึงสะพานซังฮี้จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาที่แยกนี้ หลังจากนั้นประมาณ 200 เมตรจะพบโครงการจะอยู่ซ้ายมือ
-หากมาาจากทางเส้นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้เลือกเข้าถนนราชวิถี หลังจากนั้นตรงมาเรื่อยๆประมาณ 5 กิโลเมตรจะเจอกับสะพานซังฮี้ ข้ามสะพานหลังจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายตรงแยกบางพลัด หลังจากนั้นตรงมาประมาณ 200 เมตรจะพบโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
บทวิเคราะห์
หากคุณเป็นนักลงทุนที่อดทนรอได้ในระยะยาวการเลือกซื้อยูนิตจากโครงการในตอนนี้ (จะเปิด presales ในช่วงเดือน พฤศจิกายน) จะทำให้คุณได้ราคาที่ค่อนข้างน่าสนใจ (เริ่มต้นประมาณ 115,000 บาทต่อตารางเมตร) แต่ต้องเน้นย้ำว่าคุณต้องใจเย็นพอที่จะรอการปรับตัวขึ้นของราคา เพราะโครงการถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของรัฐบาลคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วง ปี 2561 เข้ากับปัจจัยที่ว่า “ยิ่งระบบโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) และสิ่งอำนวยความสะดวก (amenities) เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่มากเท่าไร จะยิ่งผลักดันให้ราคาพื้นที่ต่อตารางวาสูงขึ้น”
สรุป
หากมองถึงเรื่องของอนาคตที่คุณจะสามารถเดินทางไปรอบๆ กรุงเทพฯ ด้วยการขึ้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพียงแค่จุดเดียวโดยไม่ต้องไปเปลี่ยนขบวนที่ไหน ถือเป็นจุดแข็งที่โครงการสามารถมอบให้ได้เมื่อโครงการรถไฟฟ้าดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ อีกทั้งความแตกต่างเรื่องดีไซน์เมื่อก้าวเข้ามาในตัวโครงการอาจจะทำให้คุณสัมผัสถึงบรรยากาศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นปิ่นเกล้า ถึงแม้สถานที่ไลฟ์ไสตล์บริเวณรอบจะไม่มากมาย แต่ถ้าแลกกับการที่ได้อยู่ติดกับวิวแม่น้ำจุดตั้งของสะพานพระราม 8 ถือเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย