พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ทำเลสะพานควายถือเป็นหนึ่งในทำเลที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น 80 – 90% ของพื้นที่ และถูกวางผังเมืองให้เป็นพื้นที่โซนสีน้ำตาล หรือ กำหนดไว้ให้เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก โดยให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย หรือสถาบันราชการ และสาธารณประโยชน์เป็นส่วนใหญ่ สำหรับการใช้ที่ดินเพื่อกิจการอื่นให้ใช้ได้ไม่เกินร้อยละ 10 ซึ่งในปัจจุบันหากนับเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าสะพานควายยังถือว่ามีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวคอนโดมิเนียมยังไม่มาก จากความที่ทำเลนี้เป็นพื้นที่ของชุมชนดั้งเดิม ดังนั้นการแข่งขันทางการตลาดด้านอสังหาริมทรัพย์แนวคอนโดมิเนียมจึงน้อยมาก หากสังเกตจากโครงการใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมาบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย 1-2 ปี ที่ผ่านมาจะเห็นว่าสามารถทำการ Sold Out ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จากอานิสงส์ของจุดเชื่อมต่อหมอชิตที่อาจจะกลายเป็น The New CBD ใหม่ในอนาคต และดีมานด์ของคนบนพื้นที่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้จึงทำให้พื้นที่บริเวณสะพานควายเป็นที่หมายตาของเหล่าดีเวลลอปเปอร์ และหนึ่งในผู้พัฒนาที่สามารถที่สามารถเข้ามายึดที่ดินใกล้รถไฟฟ้าสะพานควายได้ในระยะห่างเพียง 150 ม. ก็คือบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ที่จับเอาแบรนด์ IDEO ที่มีจุดเด่นเรื่อง Location เป็นจุดขายมาเช็คอินบนพื้นที่นี้กับโครงการใหม่ ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร ที่สลัดคราบแบรนด์ IDEO เก่าทิ้ง พร้อมเปลี่ยนโฉมแบรนด์เป็น IDEO ให้เป็น New Series ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กับส่วนกลางที่จัดเต็มและมอบความเป็นส่วนตัวบนศักยภาพทำเลเมืองที่กำลังมีแนวโน้มในการพัฒนาพื้นที่ให้เข้าสู่ The New CBD ในอนาคต กับราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาหรือประมาณ 155,000 บาทต่อตารางเมตร
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร (Ideo Phaholyothin – Chatuchak)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน): ANANDA
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
เว็บไซต์: http://www.ananda.co.th
โทร: 02 316 2222
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2560)
พื้นที่โครงการ: 1-3-44.9 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม 35 ชั้น พร้อมชั้นลอย ห้องชุดพักอาศัย 390 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนพื้นที่ พนักงานเงินเดือนตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือนมีนาคม 2560 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์ขนส่ง 1 ตัว
ที่จอดรถ: 273 คันหรือประมาณ 70%
สิ่งอำนวยความสะดวก: โถงต้อนรับ, ห้องประชุม, ห้องจดหมาย, สำนักงานนิติบุคคล, ห้องซักรีด, สวนส่วนกลาง, ที่จอดรถอัตโนมัติ, โซเชี่ยลคลับ, Sky Facility บนชั้นสูงสุด ซึ่งประกอบไปด้วย Pool Deck สระแนวยาว 35 เมตร, Fitspace ในห้องกระจกที่เปิดแบบ Panoramic view, Rooftop Infinite Running, Urban Lodge ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Co-Working Space พร้อม Movie corner
ระบบรักษาความปลอดภัย: ดิจิตอล ดอร์ล็อค, ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม., CCTV
สถานะการขาย: เปิดจองรอบลูกค้าเก่าบางส่วน 19-20 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาและกำลังจะมีงาน Pre-sale อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25-26 มีนาคมนี้ 2560 ที่จะถึงนี้
เงื่อนไขการชำระเงิน:
จอง 50,000 บาท
ทำสัญญา 5% ให้ครบตามจำนวนเงิน และเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
เงินดาวน์ 22 งวด คิดเป็น 5% ของราคาห้อง
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท ต่อ ตร.ม. (ชำระครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 68 บาท ต่อ ตร.ม. ต่อ เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 3.59 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 155,000 บาท ต่อ ตร.ม.
รูปแบบห้อง
สตูดิโอ ขนาด 24.50 – 27.00 ตร.ม.
1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม.
1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. (รูปแบบครัวปิด)
1 Bed Plus ขนาด 45 – 49 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 57.50 – 71.5 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร ถือเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวคอนโดมิเนียมซีรี่ใหม่สำหรับแบรนด์ IDEO ซึ่งจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ทางบริษัท อนันดา ได้มีการเปิดตัว ไอดีโอ โมบิ โฉมใหม่บนทำเลแยกอโศกและชูจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์เดิมทั่งเรื่องของส่วนกลาง วัสดุ และไฮไลท์อื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามา ดังนั้นคำว่า ไอดีโอ ซีรี่ใหม่ ตรงนี้ของโครงการ ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ไปพอสมควรจากโครงการไอดีโอเก่าๆ ที่ผ่านมา โดยที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องของยูนิตที่พักอาศัยที่มีเพียง 390 ยูนิตกับโครงการคอนโดมิเนียม 35 ชั้น ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยและมีความเป็นส่วนตัวสูงจากยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นที่ 15 – 18 ยูนิต โดยสามารถเอาไปเปรียบเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ในตัวเมืองเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญด้วยความเป็นซีรี่ส์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดในอีกแง่มุมก็คือพื้นที่ส่วนกลางจอดรถถึง 70% กับระบบ Auto Parking ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโครงการแรกเลยก็ว่าได้ที่ทางบริษัท อนันดา นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ รวมไปถึงส่วนกลางอื่นๆ ที่ชูคอนเซ็ปต์ Live Energetic บนพื้นที่กิจกรรมต่างๆ สำหรับคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะในส่วนของ Sky Facility บนชั้นสูงสุด ซึ่งประกอบไปด้วย Pool Deck สระแนวยาว 35 เมตร Fitspace ในห้องกระจกที่เปิดแบบ Panoramic view ,Rooftop Infinite Running, Urban Lodge ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Co-Working Space พร้อม Movie corner
ส่วนยูนิตภายในโครงการเองจะประกอบไปด้วยห้องสตูดิโอ ขนาด 24.5 -27 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 34-34.5 ตร.ม., 1ห้องนอน พลัส ขนาด 45-49 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 57.5-71.5 ตร.ม. โดยห้องที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 45-48 ตร.ม. ไปจนถึง 2 ห้องนอน ขนาด 57.5-72 ตร.ม. จะถูกจัดให้อยู่บริเวณหัวมุมของแปลน โดยส่วนใหญ่ยูนิตจะหันไปที่ทิศเหนือที่เป็นวิวพื้นที่สีเขียวของจตุจักร และทางทิศใต้ที่หันเข้ามาทางถนนประดิพัทธ์ซึ่งเป็นพื้นที่ของบ้านแนวราบ และจะมียูนิตขนาด 45 ตร.ม. ที่ชั้น 12 – 27 หันออกไปทางทิศตะวันออก โดยจากยูนิตทั้งหมดจะมียูนิตบางยูนิตที่ได้รับระเบียงที่มีต้นไม้ด้วย
โมเดลโครงการ Scale 1 : 125 จะเห็นว่าโครงการถูกออกแบบมาให้เป็นโทนสีขาว สูงเด่น ยูนิตส่วนใหญ่หันไปทางทิศเหนือและใต้
Master Plan
ที่ดินโครงการเป็นรูปตัว L มีทางเข้า – ออก หลักติดอยู่กับถนนพหลโยธิน รั้วโครงการล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว ทางทิศเหนือของแปลนติดอยู่กับคลองบางซื่อ อีกฝั่งจะเป็นในส่วนของถนนกำแพงเพชร บริเวณลานจอดรถชั้นล่างเชื่อมต่อกับทางเข้าล็อบบี้ พร้อมช่องจอดรถอัตโนมัติสามที่จอด
Floor Plan
Floor 12th
ที่ชั้น 12 จะเป็นชั้นเริ่มต้นของยูนิตที่อยู่อาศัย บริเวณหัวมุมของแปลนทั้งสี่มุม จะเป็นตำแหน่งของห้องขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 57.50 – 69.00 ตร.ม. โดยที่ชั้นนี้ ยูนิตแปลนมุมขวามือล่างจะได้รับระเบียงเป็นสวนตามภาพ โดยที่ชั้น 12-27 จะมียูนิตเฉลี่ยต่อชั้นประมาณ 18 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น
Floor 28th
มาที่ชั้น 28 ตำแหน่งของ Type ห้องทางฝั่งซ้ายมือไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปมาก แต่มาทางฝั่งขวามือ Layout ของแปลนถูกเปลี่ยนเป็นสวนส่วนกลางเข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ยูนิตขนาด 69 ตร.ม. , 45 ตร.ม. และ 64 ตร.ม. หายไป และเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่สวนลอยฟ้าส่วนกลางชั้น 28
Floor 29
มาที่ชั้น 29 รูปแบบของตำแหน่งห้องยังเป็นเหมือนชั้น 28 แต่ในส่วนของฝั่งทางขวามือยังไม่สามารถเพิ่มเติมยูนิตเข้าไปได้จากโครงสร้างของสวนลอยฟ้าแบบ Outdoor ที่ชั้น 28
Floor 32
ที่ชั้น 32 มีเพียง 14 ยูนิต ต่อชั้นเท่านั้น เพราะ พื้นที่ของยูนิตบริเวณตรงข้ามทางหนีไฟ ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนส่วนกลางของชั้น 32
Floor 33
ชั้น 33 ตำแหน่งห้องยังไม่คลาดเคลื่อนกับชั้น 32 มี 14 ยูนิตต่อชั้นเท่ากัน แต่แตกต่างกันตรงไม่มีสวนส่วนกลางเหมือนชั้น 32
Floor 35
ที่ชั้น 35 เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาดยาวเกือบเท่าแนวอาคาร พร้อมทั้งฟิตเนส Play Studio, เลานจ์, ห้องสตรีม, ซาวน่า เรียกได้ว่าที่ชั้นนี้รวบรวมส่วนกลางทั้งหมดไว้ที่ชั้นเดียวเลย
Roof Floor
ในส่วนของชั้นบนสุดก็จะมีห้องงานระบบ และพื้นที่สีเขียวทั้งชั้น และสามารถขึ้นมารับชมวิวรอบโครงการจากชั้นนี้แบบ 360 องศาได้
Unit Layout
Studio 24.50 ตร.ม.
ห้องสตูดิโอขนาด 24.50 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้น และ Layout ห้องถูกออกแบบมาในแนวที่อนันดาถนัดคือห้องหน้าแคบ แต่ข้อดีของโครงการนี้ก็คือ ถึงแม้ยูนิตจะถูกซอยย่อยเป็นห้องหน้าแคบก็ตาม แน่ยูนิตต่อชั้นกลับมีไม่เยอะหรือที่ประมาณไม่เกิน 18 ชั้นต่อยูนิตเท่านั้น
1 ห้องนอน 34 ตร.ม. แบบครัวเปิด
1 ห้องนอน 34 ตร.ม. แบบครัวปิด
มาที่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ดครงการออกแบบ Type ห้องนี้ให้เป็น 2 รูปแบบ คือแบบครัวปิด และครัวเปิด โดยห้องแบบครัวเปิดจะจัดสรรปันส่วนของห้องแต่ละห้องให้มีขนาดเท่าๆ กัน แต่ห้องนอนจะได้ห้องน้ำในตัวซึ่งมีความเป็นส่วนตัวสำหรับการพักผ่อนมากกว่า ส่วนห้องแบบครัวปิดจะเน้นฟังก์ชั่นของส่วนกลางมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ พร้อมครัวแบบปิดที่เชื่อมต่อกับระเบียงห้อง ซึ่งแน่นอนห้องนอน Type แบบครั้วปิดจะไม่ได้รับห้องน้ำในตัว
1 ห้องนอน Plus ขนาด 45.00 – 48.00 ตร.ม.
ห้องนอนแบบ 1 ห้องนอน Plus ขนาด 45.00 – 48.00 ตร.ม. เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ไม่ได้รับห้องน้ำในตัว แบ่งสัดส่วนของห้องครัวและห้องนั่งเล่นขนาดยาวให้อยู่ด้วยกัน และเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อกับระเบียงห้อง สามารถทำห้องนี้เป็นครัวและขยายพื้นที่นั่งเล่น หรือจะทำเป็นห้องนอนเล็กๆ ก็ย่อมได้
2 ห้องนอน ขนาด 57.50 – 72.00 ตร.ม.
รูปแบบห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แบ่ง Layout ห้องนอนออกเป็น 2 ฝั่ง โดยมีพื้นที่ส่วนกลางห้องอย่างห้องนั่งเล่นเป็นจุดเชื่อมต่อเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน โดยห้องนอนทั้งสองทีขนาดเท่าๆ กัน และมีห้องน้ำในตัวทั้งสองฝั่ง ระเบียงของห้องเชื่อมต่ออยู่กับพื้นที่นั่งเล่น ข้อเสียของห้องสองห้องนอนคือ ไม่มีห้องน้ำกลาง ทำให้ต้องเลือกเข้าห้องน้ำในห้องนอนส่วนตัว
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ชั้นล่าง
โถงต้อนรับ
ห้องประชุม
ห้องจดหมาย
สำนักงานนิติบุคคล
ห้องซักรีดไม่รวมอุปกรณ์
สวนส่วนกลาง
ที่จอดรถ
ชั้น 2-11
ที่จอดรถอัตโนมัติ
ชั้น 12-34
ห้องพักอาศัย
ชั้น 35
ห้องเอนกประสงค์ (Social Club)
สระว่ายน้ำ
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมล็อคเกอร์
ห้องอบไอน้ำ
ชั้น 35M
ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์
ดาดฟ้า
สวนส่วนกลาง
ลู่วิ่งสำหรับออกกำลังกาย
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
ตัวอย่างวัสดุที่ใช้สำรับตกแต่งเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished
พื้น
พื้นห้องนั่งเล่น: พื้นลามิเนตสำเร็จรูป หนา 8 มม. พร้อมบัวเชิงผนัง
พื้นห้องนอน: พื้นลามิเนตสำเร็จรูป หนา 8 มม. พร้อมบัวเชิงผนัง
พื้นส่วนเตรียมอาหาร: พื้นลามิเนตสำเร็จรูป หนา 8 มม. ยกเว้น ห้องชุดแบบสตูดิโอ Type A1, A2 และห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน Type B1 เป็นกระเบื้องเซรามิกชนิดกันลื่น
พื้นระเบียง: พื้นกระเบื้องเซรามิกชนิดกันลื่น
พื้นห้องน้ำ: พื้นกระเบื้องแกรนิตโต้
ผนัง
ผนังกั้นระหว่างห้องชุด: ผนังก่ออิฐมอญ หรืออิฐมวลเบา หรือผนังคอนกรีต ฉาบเรียบทาสี
ผนังภายในห้องชุด: ผนังก่ออิฐมอญ หรืออิฐมวลเบา หรือผนังคอนกรีต หรือผนังมวลเบา เสริมโครงเหล็ก ฉาบเรียบทาสี
ผนังห้องน้ำ: ผนังก่ออิฐมอญ หรืออิฐมวลเบา ฉาบเรียบ กรุกระเบื้องแกรนิตโต้
ผนังภายนอกห้องชุด: ผนังก่ออิฐมอญ หรืออิฐมวลเบา หรือผนังคอนกรีต ฉาบเรียบทาสี ตกแต่งตามแบบสถาปัตยกรรม
ฝ้าเพดาน
พื้นจรดเพดานความสูง: 2.65 ม.
ฝ้าเพดานภายในห้อง: ผ้ายิปซั่ม ฉาบเรียบทาสี และท้องพื้นปูนแต่งผิวเรียบทาสี
ฝ้าเพดานห้องน้ำ: ฝ้ายิปซั่มกันชื้น ฉาบเรียบทาสี
ฝ้าระเบียง: ท้องพื้นปูนแต่งผิวเรียบทาสี
ประตู – หน้าต่าง
ประตูทางเข้าห้องชุด: บานสำเร็จรูป โครง Hollow Core (แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง) ขนาด 0.90 x 2.00 ม.
ประตูห้องนอน: บานสำเร็จรูป โครง Hollow Core (แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง) ขนาด 0.90 x 2.00 ม.
ประตูห้องน้ำ: บานสำเร็จรูป โครง Hollow Core (แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง) ขนาด 0.70 x 2.00 ม.
หน้าต่างอลูมิเนียม: วงกบและกรอบบานอลูมิเนียมทำสี
ประตูบานอลูมิเนียม: วงกบและกรอบบานอลูมิเนียมทำสี
ประตูทางเข้าห้องชุด: บานสำเร็จรูป โครง Hollow Core (แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง) ขนาด 0.90 x 2.00 ม.
ประตูห้องนอน: บานสำเร็จรูป โครง Hollow Core (แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง) ขนาด 0.80 x 2.00 ม.
ประตูห้องน้ำ: บานสำเร็จรูป โครง Hollow Core (แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูปแบบกลวง) ขนาด 0.70 x 2.00 ม.
หน้าต่างอลูมิเนียม: วงกบและกรอบบานอลูมิเนียมทำสี
ประตูบานอลูมิเนียม: วงกบและกรอบบานอลูมิเนียมทำสี
กระจกภายนอก: เขียวตัดแสง
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ
โถส้วม: สีขาว ของ American Standard หรือ เทียบเท่า
อ่างล้างหน้า: สีขาว ของ Charmer หรือ เทียบเท่า
ก็อกอ่างล้างหน้า – ฝักบัวและอุปกรณ์อื่นๆ: ของ American Standard หรือ เทียบเท่า
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished ได้รับ เตียง, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกระจกเงาหรือโต๊ะทำงาน, ชั้นวางทีวี, โซฟา, ชุดโต๊ะอาหาร, เคาท์เตอร์ครัว ของ Starmark
ห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. (รูปแบบครัวปิด)
เข้ามาภายในห้องจุดแรกจะเห็นว่าดครงการออกแบบให้พื้นห้องมีแนวระนาบเท่ากับพื้นทางเดินโครงการ แต่แบ่งกั้นโซนด้วยการทำธรณีพื้นยกขึ้นมาเพื่อป้องกันน้ำไหล
มองไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำทางฝั่งขวามือ ห้องนอน และห้องครัวปิดด้านใน พื้นห้องในส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
โครงการจัดสรรฟังก์ชันห้อง 1 ห้องนอน แบบครัวปิด ให้เน้นพื้นที่ใช้สอยที่ห้องนั่งเล่น ห้องนั่งเล่นจริงมีขนาดกว้างมาก
โครงการมอบเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ให้ครบชุด ทั้งโต๊ะกลาง โซฟา สตู และชั้นวางของ ภายในพื้นที่นั่งเล่นหากไม่ต้องการเฟอร์นิเจอร์หรือรับเป็นส่วนลดก็สามารถหาชุดโซฟาที่มีขนาดใหญ่กว่านี้มาจัดวางได้สบาย
พื้นที่ที่เหลือของห้องนั่งเล่นมุมนี้ โครงการจัดวางเป็นชั้นวางหนังสือตามภาพ ซึ่งเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในออฟชั่นแบบ Fully Furnished
จากมุมนี้จะเห็นว่าระยะในการวางทีวีจะอยู่เยื้องฟ กับที่นั่งโซฟา หากอยู่อาศัยจริงน่าจะต้องขยับโซฟาไปชิดกับบานกั้นครัวปิดเพื่อที่จะได้รับชมทีวีในระยะที่เต็มสายตา
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นในส่วนของประตูทางเชื่อมสู่ห้องน้ำ พื้นห้องน้ำเป็นแนวเดียวกับพื้นห้อง แต่มีธรณีกั้นน้ำไหลสูงขึ้นมาตามภาพ ข้อเสียจากการไม่ดร็อปพื้นก็คือต้องระมัดระวังในการเข้าออกไม่ให้สะดุดล้ม
ด้านในประกอบไปด้วยตำแหน่งของโภสุขภัณฑ์ ที่อยู่กึ่งกลางผนังห้องน้ำ ทำให้มีรัศมีการใช้งานโดยรอบที่กว้างพอสมควร
ถัดมาจากโถสุขภัณฑ์ เป็นชั้นอ่างล้างหน้าขนาดใหญ่พร้อมที่เก็บของใต้อ่าง และบานกระจกที่โครงการมอบให้ตามภาพ
ชั้นอ่างล้างหน้ามีขนาดยาวตั้งแต่ผนังอีกฝั่งจรดผนังอีกฝั่งทำให้มีพื้นที่วางของจุกจิกข้างอ่างทั้งสองข้างตามภาพ
ถัดมาจากอ่างล้างหน้าตรงข้ามกับตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์เป็นฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอน ปิดทับหน้าบานด้วยกระจกนิรภัยของ Charmer
โครงการมอบก็อกฝักบัวให้ตามภาพ พร้อมชั้นวางสบู่โลหะด้านใน โดยผนังห้องน้ำฝั่งนี้จะทำการกรุกระเบื้องเซรามิกให้ตามภาพเพื่อความสวยงาม
ออกมาจากห้องน้ำหันไปทางขวาจะเป็นในส่วนของห้องนอนที่โครงการมอบเฟอร์นิเจอร์เตียงนอนที่สามารกเลือกได้ว่าจะเอา 5 ฟุตหรือ 6 ฟุต แต่ไม่ได้มอบฟูกนอนให้ จากในภาพจะเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต
จะเห็นว่าเมือวางเตียงนอนลงไปแล้วยังเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียง โดยจะสามารถขึ้นเตียงนอนจากมุมไหนก็ได้
ด้านในเป็นกระจกบานฟิกซ์อยู่ช่องล่างเป็นแนวยาวสองช่อง กับบานเลื่อนสองตอนที่เปิดรับลมได้ด้านบน โครงการไม่ได้มอบผ้าม่านให้
ที่หัวเตียงด้านข้างทั้งสองด้านโครงการติดตั้งระบบปลั๊กไฟไว้เรียบร้อย พร้อมเฟอร์นิเจอร์ชั้นวางข้างเตียง
ที่ผนังห้องนอนฝั่งปลายเตียงโครงการติดตั้งปลั๊กไฟ และสัญญาณฟรีทีวีไว้ให้เรียบร้อย โดยห้อง 1 ห้องนอนนี้โครงการจะมอบเครื่องปรับอากาศให้สองตัว ติดตั้งบริเวณห้องนั่งเล่นและห้องนอน
อีกฝั่งหนึ่งเป็นในส่วนของตู้เสื้อผ้าที่โครงการมอบให้เป็นแบบสามช่องเก็บของ มีหน้าบานประตูเป็นแบบเปิดเข้าเปิดออก
ถัดมาข้างห้องนอนจะเป็นในส่วนของห้องครั้วปิด พื้นห้องครัวปรับเปลี่ยนเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. เพื่อการทำความสะอาดที่ง่ายขึ้น
พื้นที่โดยรวมภายในห้องครัวมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถติดตั้งโต๊ะวางอาหารแบบลอยได้สองที่นั่ง พร้อมเคาท์เตอร์ครัวที่สามารถประกอบอาหารได้สบาย
เคาท์เตอร์ครัวมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่โครงการก็ให้อุปกรณ์ครบครันทั้งเตาไฟฟ้าแบบสองหัว และซิงค์ล้างจานแบบไม่มีที่พักจาน จากภาพจะเห็นว่าพื้นที่เตรียมครัวมีขนาดเล็กมากอาจจะใช้โต๊ะรับประทานอาหารช่วยประกอบครัวได้เป็นครั้งคราวสำหรับมื้อใหญ่
สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน เป็นห้องที่มีระเบียงเชื่อมต่อของห้องอยู่ติดกับห้องครัวปิด โดยใช้บานกั้นกระจกเขียวตัดแสงแบบเลื่อนสองตอน ระเบียงด้านนอกมีความกว้างประมาณ 1 ม. ยาวประมาณ 1.80 ม. สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานได้ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน
ห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน ขนาด 57.50 ตร.ม.
จากมุมประตูหน้าห้อง เมื่อเปิดประตูมาจะเห็นว่าทางเข้าออกอยู่ตรงกับบริเวณพื้นที่ส่วนกลางของห้องหรือโซนนั่งเล่นนั่นเอง
เมื่อเข้ามาในห้องแล้วหันไปทางซ้ายจะเป็นในส่วนของเคาท์เตอร์ครัวขยาดใหญ่รูปตัว L ที่มีโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง กั้นส่วนระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่นไว้
ด้านข้างเคาท์เตอร์ครัวมีฟังก์ชั่นพิเศษ เมื่อเปิดประตูออกมาจะกลายเป็นชั้นวางรองเท้าตามภาพ ตั้งอยู่ในตำแหน่งใกล้กับประตูทางเข้า ออก
ถัดมาจากโต๊ะทานอาหารเป็นในส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่พอๆกับห้องครัวบวกกับโซนรับประทานอาหาร
มองจากมุมนี้จะเห็นโซฟาที่มากับออฟชั้น Fully Furnish และทางเดินเชื่อมไปสู่ห้องนอนที่ 2 และห้องน้ำกลาง
เขยิบมาที่มุมก่อนออกระเบียงจะเห็นว่าพื้นที่ส่วนนี้ยังเหลืออีกเยอะพอสมควรจนสามารถปรับเปลี่ยนโซฟา 3 ที่นั่งให้เป็นโซฟารูปตัวแอล 4-5 ที่นั้งได้เลย
ชั้นวางทีวีที่โครงการมอบให้เป็นแบบลอยตัวเหมือนห้อง Type อื่นๆ แต่จากมุมนี้จะเห็นว่าดครงการวางทั้งโต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี แต่ก็ยังเหลือพื้นที่เดินเข้าออกระเบียงหรือห้องนั่งเล่นแบบเดินสวนกันได้สบายๆ เลย
ระเบียงของห้องแบบ 2 ห้องนอนมีขนาดไม่กว้างมาก พอๆกับระเบียงห้องอื่นๆ แต่จะมีพื้นที่ใช้สอยขนาดยาวเพิ่มเข้ามา
ด้านข้างโครงการมอบชั้นวางคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ตามมาตรฐาน โดยห้อง 2 ห้องนอน จะได้รับเครื่องปรับอากาศจำนวน 3 ตัว
ห้องนอนขนาด 57.50 ตร.ม. ห้องนอนที่สองจะไม่มีห้องน้ำในตัว จะแยกโซนห้องน้ำออกมาเป็นห้องน้ำกลาง โดยในส่วนที่แยกจะเป็นทางเดินเชื่อมแยกสองฝั่งแบ่งเป็นฝั่งห้องนอน และห้องน้ำ
Layout ห้องน้ำเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าประกอบไปด้วย อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำแบบมีฉากกั้นส่วน
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นในส่วนของห้องนอนที่ 2 มองจากหน้าประตูจะเห็นพื้นที่โดยรวมของห้องนอนที่ 2 ตามภาพ
เมื่อเปิดบานประตูออกมาก จะเห็นว่ายังเหลือพื้นที่สำหรับยืนแต่งตัวข้างตู้ได้สบายๆ แม้จะเปลี่ยนไซส์เตียงเป็นแบบคิงไซส์ก็ตาม
ฝั่งข้างเตียงที่ติดกับบานกระจกก็ยังเหลือพื้นที่ข้างเตียง เรียกได้ว่าต่อให้เปลี่ยนขนาดเตียงเป็นไซส์ใหญ่สุดก็สามารถเดินรอบเตียง หรือยืนรับลมมุมหระจกในห้องนอนที่ 2 นี้ได้
ห้องนอน Master Bedroom โครงการใช้เฟอร์นิเจอร์เตียงนอนแบบคิงไซส์หรือ 6 ฟุต และจัดวางให้มีพื้นที่เดินได้รอบเตียง
มุมห้องจะเป็นบานกระจกเข้ามุมเห็นวิวแบบ 180 องศาตามภาพ เนื่องจากส่วนใหญ่ห้อง 2 ห้องนอนจะอยู่ตำแหน่งหัวมุมของชั้นที่อยู่อาศัย
จากมุมนี้จะเห็นว่าห้องออกแบบให้เป็น Layout แบบยาวๆ ถัดไปจากเตียงนอนจะเป็นตู้เสื้อผ้าบิวท์อินบานพับกระจกชาดำ และโต๊ะทำงานที่โครงการมอบให้
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
หากมองศักภาพโดยรวมของทำเลบริเวณนี้โดยนับจากบริเวณตามแนวรถฟ้าตั้งแต่สถานี อารีย์-สะพาน-หมอชิต จะเห็นว่าในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่มีรถไฟฟ้าตัดผ่านบริเวณอารีย์ไปจนถึงหมอชิตนั้นมีการพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ และอสังหาริมทรัพย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน คอมมูนิตี้มอลล์ คอนโดมิเนียม จนเรียกว่า ณ ปัจจุบันทั้ง 2 ทำเลดังกล่าวมีซัพพลายคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวโครงการตามแนวรถไฟฟ้า จนในปัจจุบันราคาเฉลี่ยก็สูงถึง 160,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งหากมองย้อนกลับมาที่ทำเลสะพานที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโซนอารีย์และหมอชิตเพียงสถานีเดียวจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน จากการพัฒนาโครงการต่างๆ น้อยกว่าทั้งสองจุดดังกล่าว ราคาที่ดินจึงยังไม่พุ่งขึ้นสูงมาก และเป็นที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เองด้วยความที่สะพานควายเป็นพื้นที่ของชุมชนดั้งเดิม และผู้อยู่อาศัยส่วนใหญ่ที่มีความติดพื้นที่สูง จึงทำให้การพัฒนาโครงการต่างๆ จำเป็นต้องสร้างแลนด์มาร์คจากการซื้ออาคารพาณิชย์ดั้งเดิมหรือแลนด์ลอร์ดเจ้าถิ่นมาทีละเล็กละน้อยเพื่อนำมาพัฒนาเป้นโครงการต่อ ดังนั้นการพัฒนาด้านคอนโดมิเนียมหากนับเฉพาะบริเวณสะพานควายจึงถือว่ามีการแข่งขันที่น้อยอยู่กว่าโซนอื่นๆ จากเหตุผลข้างต้นดังกล่าว
แต่ด้วยดีมานด์ของผู้อยู่อาศัยที่หนาแน่น และต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ จึงทำให้ปัจจุบันมีซัพพลายคอนโดมิเนียมที่เข้ามาปักมุดเตรียมขึ้นโครงการบนแนวรถไฟฟ้าสะพานควายมากขึ้น และในวันเปิดตัวก็มักมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เกิดจากดีมานด์ของคนในพื้นที่ รวมไปถึงในเซกเมนต์ของนักลงทุนเองก็เริ่มเอนเอียงมองหาพื้นที่ลงทุนใหม่ จากพื้นที่ในเมืองอย่างบริเวณพร้อมพงษ์ สาทร สีลม CBD ดั้งเดิมที่ไม่หลงเหลือให้ลงเม็ดเงินแล้ว ดังนั้นบริเวณสะพานควาย หมอชิตจึงถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษจากการที่ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสจะเป็น The New CBD อีกแหล่งต่อจากรัชดา – พระราม 9 จากอานิสงส์ของภาครัฐที่พยายามผลักดันให้บริเวณหมอชิต – จตุจักรกลายเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมที่ครบวงจรของกรุงเทพมหานครในอนาคต ด้วยการวางโปรเจคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ที่จะสร้างเสร็จในปีพ.ศ.2563, รถไฟฟ้าสถานีบางซื่อที่ในอนาคตจะถูกพัฒนาให้เป็นสถานีกลางที่เป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าสีอื่นๆ อาทิ สายสีแดง บางซื่อ-รังสิต, บางซื่อ-ตลิ่งชัน, Airport Link บางซื่อ-พญาไท สายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ และรถไฟฟ้าความเร็วสูง นอกจากนั้นยังมีรถไฟจากต่างจังหวัดในทุกทิศ เป็นรถไฟฟ้าชานเมือง รถไฟทางไกลที่ตัดมายังบริเวณสถานีบางซื่อที่อยู่ห่างจากบริเวณสถานีหมอชิตเพียงหนึ่งสถานี รวมไปถึงโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมสะพานเกียกกาย–ถนนกำแพงเพชร เป็นการขยายถนนประดิพัทธิ์จาก 4 ช่องจราจรเป็น 8 ช่องจราจร และคร่อมคูน้ำพร้อมสร้างสะพานข้ามในทิศทางเลี้ยวขวาบริเวณทางแยกตัดกับถนนเทอดดำริห์และถนนพระราม 6 โดยการเข้ามาของเมกะโปรเจคเหล่านี้เองที่จะพลักดันให้พื้นที่บริเวณใกล้เคียงหมอชิต – จตุจักร อย่างทำเลสะพานควายมีการลงทุนของภาคเอกชนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันทำเลสะพานควายเองก็เริ่มมีการพัฒนาโครงการรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น รวมทั้งเจ้าของที่ดินดั้งเดิมก็เริ่มปล่อยที่ดินเข้าสู่ท้องตลาด และจะมีแน้วโน้มในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีกมายมายอย่างแน่นอนจากผังเมืองบริเวณนั้นที่เป็นโซนสีแดง (ที่ดินเพื่อการพาณิชยกรรม สามารถก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษ รวมถึงอาคารสูงประเภทต่างๆ ได้อย่างเต็มที่) และจะส่งผลให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์มีราคาที่ดีขึ้นจนเป็นที่น่าจับตาของนักลงทุน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่บนถนนพหลโยธินฝั่งมุ่งหน้าไปทางลาดพร้าว เดิมทีที่ดินบริเวณโครงการน่าจะเป็นอาคารพาณิชย์หรือชุมชนดั้งเดิมเก่าที่ผู้พัฒนาค่อยๆ เก็บที่ดินแปลงเล็กๆ หลายแปลงมารวมกันเพื่อจะพัฒนาเป็นโครงการ สภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ของที่ตั้งโครงการจึงเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ซะส่วนใหญ่ จากความที่เป็นชุมชนดั้งเดิม ดังนั้นเรื่องอาหารการกินแนวสตรีทฟู้ดหรืออาหารข้างทางจึงมีเยอะมากตลอดแนวรถไฟฟ้าสถานีสะพานควาย รวมไปถึงมินิมาร์ท ร้านสะดวกซื้อก็ที่กระจายอยู่ในจุดสำคัญบนพื้นที่ โดยมีชอปปิ้งมอลล์เด่นๆ ไม่เยอะนักที่ใกล้เคียงกับโครงการ โดยมอลล์ที่ใกล้โครงการที่สุดคือ Big C สะพานควาย และเขนิบออกไปอีกหนึ่งสถานีก็จะมี La Villa อารีย์ ซึ่งถัดจากโซนอารีย์ – สะพานควายไปก็ต้องเลยไปที่บริเวณแยกลาดพร้าวที่จะมีเซ็นทรัลลาดพร้าวและยูเนียนมอลล์ ซึ่งอาศัย BTS และ MRT ใต้ดินเพื่อเดินทางไปถึงได้ไม่ยาก นอกเหนือจากนี้ บริเวณถนนประดิพัทธ์ยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ AQUA ที่รวบรวมไลฟ์สไตล์ของกินนานาชนิดมาให้พื้นที่นี้ โดยมีระยะห่างประมาณ 1 กม. จากโครงการ หากนั่งวินจะต้องกลับรถมาเพื่อเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์ ซึ่งที่กลับรถก็อยู่ไม่ไกลมากจากหน้าโครงการ
นอกจากเรื่องของความอุดมสมบูรณ์แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของที่ตั้งโครงการก็คือเส้นทางการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชนหรือขับรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางไปยังจุดสำคัญต่างๆ ได้สะดวก โดยการคมนาคมเส้นทางหลักของที่ตั้งโครงการก็คงหนีไม่พ้น BTS สถานีสะพานควายที่ห่างจากโครงการประมาณ 150 ม. สามารถใช้เส้นทางนี้มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองหรือจุดที่เป็นแหล่งงานได้หากมาทางฝั่งอนุสาวรีย์ ส่วนการเดินทางที่มุ่งหน้าไปยังสถานีหมอชิตถัดไปเพียงหนึ่งสถานีจะมีส่วนเชื่อมต่อของ MRT สวนจตุจักร หรือจากหน้าโครงการหากไม่ได้ใช้การเดินทาง BTS สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์นั่งมายัง MRT กำแพงเพชรได้ โดยจากโครงการจะอยู่ห่างจากสถานีกำแพงเพชรเพียง 500 ม. หรือประมาณไม่เกิน 15 บาท ในส่วนของการขับรถยนต์ส่วนตัวจากหน้าโครงการจะอยู่ห่างจากแยกกำแพงเพชรประมาณ 250 ม. เมื่อตรงมาให้เลี้ยวเข้าแยกกำแพงเพชรแล้วตรงไปอีกประมาณ 1.3 กม. จุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ที่สามารถเลือกเดินทางไปยังดินแดง พระราม 9 พระราม 4 สีลม ดาวคะนองได้เลย ซึ่งพอยท์หลักๆ สำหรับการขับรถยนต์ส่วนตัวก็คือการที่โครงการตั้งอยู่ระหว่างสองแยกสำคัญบนถนนพหลโยธินคือถนนกำแพงเพชรซึ่งพาออกไปสู่นอกเมืองได้ ส่วนหากใช้ทางด่วนในการวิ่งกลับมายังโครงการก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัชมาลงยังทางออกพระราม 6 ได้ แล้วเลี้ยวเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์มาเลี้ยวซ้ายออกยังแยกสะพานควายตรงไปอีกประมาณ 400 ม. ก็จะพบโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ในระยะประมาณ 700 ม. จะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ประกอบไปด้วยสวนจตุจักร, สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนรถไฟ ซึ่งหากอาศัยอยู่บนชั้นสูงๆ ฝั่งที่หันหน้ามาทาง 5 แยกลาดพร้าวอาจจะมองเห็นวิวของพื้นที่สีเขียวส่วนนั้นด้วย
การเดินทาง
การเดินทางมายังโครงการด้วยรถยนต์วิธีที่สะดวกที่สุดคือจากทางด่วนพิเศษศรีรัชและโทลเวย์ทางฝั่งดอนเมืองหรือทางยกระดับอุตราภิมุข
จากทางด่วนพิเศษศรีรัช
จากทางด่วนพิเศษศรีรัช สามารถเดินทางมาได้จากทั้งสองฝั่งคือจากทางฝั่งบางนา และทางฝั่งพระราม 2 จากท่างด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ซึ่งทั้งสองเส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนพิเศษศรีรัชได้ โดยให้วิ่งไปตามป้าย แจ้งวัฒนะ จะนำไปสู่ทางออกพระราม 6 (คลองประปา) ให้ลงทางออกนั้น เมื่อวิ่งไปตามทางออกจะออกมายังถนนพระรามที่ 6 บริเวณพระราม 6 ซอย 37 ให้ตรงไปอีกประมาณ 700 ม. จะพบกับทางเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนประดิพัทธ์แล้วตรงไปตามทางจนถึงบริเวณแยกสะพานควายให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นตรงไปไม่เกิน 700 ม. จะพบกับโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ก่อนจะถึงแยกถนนพหลโยธิน – กำแพงเพชร
จากทางยกระดับอุตราภิมุข
จากทางฝั่งรังสิตเองก็สามารถเชื่อมต่อมาสู่โครงการได้ไม่ยาก จากทางยกระดับอุตราภิมุขให้วิ่งตามป้ายถนนวิภาวดี และใช้ทางออกที่ลงไปสู่ถนนลาดพร้าว จากทางลงตรงมาประมาณ 500 ม. จะเข้าสู่ถนนคู่ขนานวิภาวดีรังสิตให้ตรงมาประมาณ 1.5 กม. จะเจอทางเบี่ยงขวาเพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน ให้เบี่ยงขวาไปตามทาง จากนั้นตรงมาตามทางผ่านสวนจตุจักรบริเวณรถไฟฟ้าสถานนีหมอชิต ให้ตรงมาอีกประมาณ 1.3 กม. จะพบกับแยกประดิพัทธ์สามารถใช้แยกนั้นกลับรถไปอีกฝั่งได้ จากนั้นตรงไปประมาณ 500 ม. จะพบโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
BTS
หากมา BTS ให้มาลงที่สถานีสะพานควายทางออกที่ 3 จากนั้นเดินตรงไปอีกประมาณ 150 ม. ก็จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
เนื่องจากพื้นที่บริเวณสะพานเป็นชุมชนหนาแน่น พื้นที่ส่วนใหญ่จึงถูกพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย โดยสถานที่ไลฟ์สไตล์จะไปกระจุกตัวอยู่บริเวณส่วนเชื่อมต่อกับสะพานควาย ไม่ว่าจะเป็นอารีย์ จตุจักร ยาวออกไปถึงลาดพร้าว เรียกได้ว่ามีทุกอย่างให้เลือกสรรไม่ว่าจะเป็นแหล่งแฟชั่น เลี้ยงสัตว์ ศิลปะ แฮงค์เอาท์ คอมมูนิตี้มอลล์เรียกได้ว่ารวบรวมทีเด็ดไลฟ์สไตล์ของกรุงเทพเอาไว้เลย
สถานที่ท่องเที่ยว
พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากรสามเสนใน 2.1 กม.
สวนจตุจักร 500 ม.
ตลาดนัดจตุจักร 500 ม.
อะควอ คอมมูนิตี้มอลล์ 1 กม.
ลา วิลล่า อารีย์ 1.8 กม.
เส้นทางการคมนาคม
BTS สถานีสะพานควาย 150 ม.
MRT สถานีกำแพงเพชร 500 ม.
ด่านย่านพหลโยธิน 1 ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2) 1.4 กม.
ด่านทางยกระดับอุตราภิมุขบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต 3.30 กม.
ห้างสรรพสินค้า
บิ๊กซี สะพานควาย 400 ม.
เจเจ มอลล์ 1 กม.
ยูเนี่ยน มอลล์ 2.3 กม.
เซ็นทรัล ลาดพร้าว 2.5 กม.
สถานพยาบาล และสถานีตำรวจ
โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียลพหลโยธิน 0.9 กม.
โรงพยาบาลประสานมิตร (สังกัดกระทรวงสาธารณสุข) 1.8 กม.
โรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่า (สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) 2.0 กม.
สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ 1.5 กม.
สถานศึกษา
โรงเรียนวัดไผ่ตัน 2.1 กม.
สถาบันการบินพลเรือน 3.7 กม.
มหาวิทยาลัยชินวัตร พญาไท 5.6 กม.
โรงเรียนวัดธรรมาภิรตาราม 2.1 กม.
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร 3.7 กม.
มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น 2.4 กม.
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
ในเซกเมนต์ของการลงทุนเอง หากไม่นับบริเวณทำเลรัชดา – พระราม 9 ที่กำลังเป็น CBD แห่งใหม่และยังเหลือพื้นที่ในการพัฒนาอยู่บ้างพื้นที่บริเวณสะพานควาย – หมอชิต – จตุจักร ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะเป็น The Next Location ต่อจากบริเวณรัชดา – พระราม 9 ที่นักลงทุนจับตามอง เพราะเป็นพื้นที่ที่จะมีโอกาสเป็น The New CBD ต่อไปในอนาคตจากอานิสงส์ของผังเมืองโซนนี้ที่จะประกอบไปด้วยพื้นที่สีแดงที่ใช้ในการประกอบพาณิชยกรรมที่สามารถสร้างตึกสูงได้เต็มที่ บวกกับพื้นที่โซนสีน้ำเงินบริเวณจตุจักร – หมอชิต ที่ใช้สำหรับการพัฒนาอาคาร สำนักงานข้าราชการ และในอนาคตน่าจะเกิดการพัฒนาอย่างสูงสุดจนกลายเป็นพื้นที่เศรษฐีสำคัญอีกแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งถึงแม้ปัจจุบันนี้อาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นพื้นที่เปล่าบนทำเลนี้มากเท่าไหร่ เนื่องจากตลอดแนวรถไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนดั้งเดิม ประกอบไปด้วยอาคารพาณิชย์ต่างๆ และอยู่ในโซนที่มีผู้อยู่อาศัยหนาแน่น ซัพพลายคอนโดมิเนียมที่เข้ามาปักหมุดบริเวณนี้ จึงจำเป็นต้องไล่เก็บที่ดินทีละเล็กทีละน้อยเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบที่ดินเป็นที่ดินแปลงใหญ่และพัฒนาโครงการ ทำให้ต้องใช้ทุนทรัพย์มากขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นเหตุให้บริเวณสะพานควายนี้มีการแข่งขันการตลาดที่น้อยอยู่หากเปรียบเทียบกับโซนอื่นๆ แต่สิ่งที่จะได้รับโดยตรงจากปัจจัยนี้เลยก็คือ ตลาดคู่แข่งที่น้อยนั้นทำให้โครงการมีความน่าสนใจมากขึ้น นอกจากเรื่องของการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจากดีมานด์คนในพื้นที่แล้วยังถูกจับเข้าไปอยู่ในเซกเมนต์ของนักลงทุนได้ด้วยในกรณีนี้ ซึ่งสามารถสังเกตง่ายๆ จากโครงการที่เปิดใหม่ในปัจจุบันจะถูกออกแบบมาให้ในฐานราคาเริ่มต้นที่ตร.ม.ละ 150,000 -160,000 บาท เพื่อรองรับความสอดคล้องทางสภาพเศรษฐกิจบนทำเลนี้ที่มีอัตราขยายตัวเร็วมากๆ หากย้อนไป 5 ปี ก่อนคอนโดมิเนียมโครงการเก่าๆ ยังมีราคาต่อตร.ม. อยู่ที่ประมาณ 80,000 บาทเท่านั้น โดยหากคิดเป็นเปอร์เซ็นตลอด 5 ปีก่อนอัตราผลตอบแทนสำหรับราคาต่อตร.ม.ในอดีตจะอยู่ที่ประมาณ 8% ต่อปีเลยทีเดียว และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าอัตราผลตอบแทนดังกล่าวแน่นอน จากพื้นที่หมอชิต – จตุจักร ที่จะถูกพลักดันให้เป็น Hub ของเส้นทางคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
ส่วนเรื่องของการปล่อยเช่าต้องบอกว่าด้วยความเจริญของบริเวณสะพานควาย ณ ปัจจุบัน นอกจากพื้นที่ชุมชนดั้งเดิมแล้ว เราจะเห็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมตั้งอยู่บริเวณนี้ด้วย จากอานิสงส์ของสะพานควายที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังแหล่งธุรกิจย่านอารีย์ และพื้นที่ไลฟ์สไตล์ขนาดใหญ่อย่างตลาดจตุจักรที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ ดังนั้นจากปัจจัยที่กล่าวมาทำให้บริเวณสะพานควายมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย เข้ามาอยู่อาศัยและประกอบธุรกิจบนพื้นที่ดังกล่าวเยอะพอสมควร ดังนั้นอัตราเฉลี่ยค่าเช่าจึงมีราคาอยู่ที่ประมาณ 500 – 600 บาท ต่อตร.ม.เลยทีเดียว ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 5-7% ในปัจจุบัน โดยห้องนอนขนาด 30 ตร.ม. จะได้รับความนิยมสูงสุดเพราะเป็นห้องที่มีขนาดสำหรับอยู่สบายๆ ได้ 1-2 คน โดยจะมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยบนพื้นที่สะพานควายอยู่ที่ 17,000 – 18,000 บาท รวมไปถึงห้อง 2 ห้องนอนตั้งแต่ขนาด 65 ตร.ม. ขึ้นไปก็จะได้รับความนิยมรองลงมาโดยมีราคาค่าเช่าอยุ่ที่ 35,000 ตร.ม. ซึ่งจะเห็นได้เลยว่าซัพพลายของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณนี้มีการรองรับฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ดีมานด์กลุ่มนี้ด้วยห้องขนาดใหญ่ ซึ่งบางโครงการถึงกับสร้างห้องขนาด 100 กว่าตร.ม.เพื่อรองรับกลุ่มครอบครัวขยายที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวใหม่เลยทีเดียว รวมไปถึงฟูลออฟชั่นที่จัดเต็มเฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully Furnished
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ชื่อโครงการ | ยูนิต | พืนที่ใช้สอย | ราคาเฉลี่ย | ราคาขาย |
ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร | สตูดิโอ | 24.50 ตร.ม. | 155,000 บาท ต่อ ตร.ม. | 3.59 ล้านบาท |
เดอะไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ | 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ | 26.25 ตร.ม. | 150,000 บาท ต่อ ตร.ม. | 3.55 ล้านบาท |
ดิ เอดิเตอร์ สะพานควาย | 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ | 27.21 ตร.ม. | 150,000 บาท ต่อ ตร.ม. | 4.29 ล้านบาท |
เปรียบเทียบโครงการ
โครงการ เดอะไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ (The Line Phahon – Pradipat) ชมรีวิวโครงการนี้..
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ทเวลฟ์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 5 ไร่
ลักษณะโครงการ: อาคารพักอาศัย สูง 46 ชั้น 1 อาคาร, คลับเฮ้าส์ สูง 2 ชั้น 1 อาคาร ทั้งหมด 981 ยูนิต
ที่จอดรถ: 49%
ราคาเริ่มต้น: 3.55 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 150,000 บาท ต่อ ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 26.25 – 28.50 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 30.50 – 40.75 ตร.ม.
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 51.50 – 51.75 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 54.00 – 67.00 ตร.ม.
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 79.00 – 111.50 ตร.ม.
โครงการ ดิ เอดิเตอร์ สะพานควาย (The Editor Saphan Khwai) ชมรีวิวโครงการนี้..
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพหลโยธิน แขวง สามเสนใน เขต พญาไท กทม
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 73 ตารางวา
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมความสูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 240 ยูนิต
ที่จอดรถ: อาคารจอดรถ 6 ชั้น (คิดเป็น 55 % รวมซ้อนคัน)
ราคาเริ่มต้น: 4.29 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 150,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 27.21 – 45.91 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 52.19 ตารางเมตร
สรุป
หากมองภาพรวมของทำเลกับราคาเริ่มต้นที่ 155,000 บาทต่อตร.ม. ถือว่ามีราคาที่สูงพอสมควรในสภาพปัจจุบัน แต่ก็ได้รับอานิสงส์จากระยะที่สามารถเชื่อมต่อ BTS สะพานควายเพียง 150 ม. กับ MRT กำแพงเพชรที่ระยะประมาณ 500 ม. นอกจากนั้นพื้นที่สะพานควายยังมีแนวโน้มในการพัฒนาที่ดีจากศักยภาพในพื้นที่และจุดเชื่อมต่อบริเวณอารีย์หรือจตุจักร – หมอชิต เพียงแต่ในปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วยชุมชนทำให้เป็นพื้นที่ที่มีที่อยู่อาศัยหนาแน่นอยู่ และยังไม่พัฒนาไปถึงขั้นโซนสุขุมวิท ดังนั้นการจ่ายเม็ดเงินในราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท ถือว่าคุ้มค่าไหม ต้องมาดูกันที่สิ่งที่จะได้รับเพิ่มเติม
จากทำเลที่ตั้งโครงการที่กล่าวมาข้างต้นก็คือตัวโปรดักส์ของโครงการเอง คงต้องบอกว่า ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร แตกต่างจากโครงการ ไอดีโอ ต่างๆ ที่ผ่านมามาก โดยจุดเด่นหลักๆ นอกจากจะเป็นโครงการแรกที่มี Auto Parking เป็นโครงการแรกของอนันดา และมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่แล้ว สิ่งที่ผู้อยู่อาศัยเองหรือดีมานด์เช่าต้องการก็คือความสะดวกสบายที่ยังคงความเป็นส่วนตัว ซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่า โครงการ ไอดีโอ พหลฯ – จตุจักร สามารถตอบโจทย์ได้อย่างดีจากคอนโดมิเนียมไฮไรส์ที่มี 35 ชั้น แต่ประกอบไปด้วยยูนิตที่อยู่อาศัยรวมเพียง 390 ยูนิต ซึ่งเฉลี่ยออกมาแล้วยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 18 ยูนิตเท่านั้น และมอบที่จอดรถให้ถึง 70% ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งภายในของโครงการเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นการให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnish กับราคาที่ฟิกซ์ให้กับผู้อยู่อาศัยแล้วถือเป็นหนึ่งในการตลาดที่จับต้องได้ทั้งกลุ่มผู้อยู่อาศัยเอง และนักลงทุนที่ต้องการจะปล่อยเช่า รวมไปถึงการดึงดีมานด์จากพื้นที่อื่นให้เข้ามาได้จากความสะดวกสบายของทางเลือก BTS ที่มุ่งหน้าไปสายสุขุมวิท หรือ MRT ที่มุ่งหน้าไปสู่สีลมได้ถึงจะมีระยะห่างสถานีที่เยอะก็ตาม ส่วนคนที่ชอบใช้รถส่วนตัวอาจพบปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ก็ยังมีเส้นทางด่วนพิเศษหลายจุดรองรับทั้งทางฝั่งพระราม 6 วิภาวดีรังสิต ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องไปพูดถึงเลย เพราะทำเลนี้ขึ้นชื่อและจัดเต็มอาหารแนวสตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านเด็ดร้านดังสไตล์แฮงค์เอาท์บริเวณจตุจักรอยู่แล้ว
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ