พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ราคาที่ดินขยับขึ้นทุกๆปีและดูเหมือนว่าโครงการคอนโดใหม่ที่ตั้งในบริเวณศูนย์กลางธุรกิจหรือ CBD จะค่อยๆถอยห่างจากความเป็นไปได้ในการเป็นเจ้าของสำหรับพวกเราชาวมนุษย์เงินเดือนระดับกลาง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ทำลายกำแพงด้านการเอื้อมถึงโครงการประเภทนี้ด้วยการย้ายพื้นที่ตั้งโครงการออกมาจากโซน CBD เพียงเล็กน้อย แต่ยังคงความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่เหล่านี้เช่นเดียวกันนั่นคือ “สาทร-ท่าพระ” กับโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ในราคาเพียงสองล้านต้น และที่สำคัญอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสโพธิ์นิมิตรเพียงแค่ 300 เมตรเท่านั้น สาเหตุว่าทำไมถนน รัชดา-ท่าพระ ถึงมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของราคาที่ดินมากที่สุดและปัจจัยอะไรที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นอย่างเด่นชัดของราคา และภาพรวมของโครงการจะเป็นอย่างไร รีวิวนี้มีคำตอบ
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ (Ideo Sathorn-Thapra)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีวอลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ใกล้บีทีเอสสถานี โพธิ์นิมิตร, สาทร-รัชดาท่าพระ
พื้นที่โครงการ: 5-3-19 ไร่
รูปแบบ: คอนโดไฮไรส์ 31 ชั้น
จำนวนยูนิต: 1339 สำหรับยูนิตอยู่อาศัย 5 ยูนิตร้านค้า
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนวัยทำงานที่เริ่มมีศักยภาพในการผ่อนต่อเดือนได้ที่ประมาณ 6,000-10,000 บาท อาจจะเป็นคู่รักที่แชร์ห้องกันอยู่สำหรับห้องสตูดิโอหรือประเภทหนึ่งห้องนอนหรืออาจจะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก (3-4 คน) ที่เลือกรูปแบบห้องประเภท 2 ห้องนอน
ระบบความปลอดภัย: รปภ. เดินตรวจรอบโครงการตลอด 24 ชม. รวมถึงกล้อง CCTV ทั่วโครงการ
พื้นที่จอดรถ: 34% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
สถานะการขาย: ประมาณ 70% (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2559)
สถานการณ์ก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่
ค่าส่วนกลาง: 45 บาท/ตารางเมตร (ชำระล่วงหน้ายอด 1 ปี)
ค่ากองทุน: 500 บาท/ตารางเมตร (ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 5,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท และเข้าอยู่ได้เลย
ราคาเริ่มต้น: 2,390,000 บาทที่ห้องขนาด 21 ตร.ม.
รูปแบบห้องชุด: ห้องสตูดิโอ ขนาด 21 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม., 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม.
ห้องสตูดิโอ ขนาด 21 ตร.ม.1 ห้องนอนขนาด 30 ตร.ม.
2 ห้องนอนขนาด 47 ตร.ม.
เว็บไซต์โครงการ: http://www.ananda.co.th/condo/ideo/sathorn-thaphra/
รายละเอียดโครงการ
จุดเด่นของโครงการนี้คือตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีโพธิ์นิมิตร โดยอยู่ห่างจากสถานีประมาณ 320 เมตรใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีก็ถึงตัวโครงการ และด้วยความที่อนันดาฯ เป็นผู้ประกอบการที่เน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคน Gen Y ผู้ซึ่งต้องการความครบวงจรในที่อยู่อาศัย จะพบว่าในแทบจะทุกโครงการภายใต้แบรนด์ ไอดีโอ จะมีร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการ 24 ชม. อย่าง MaxValu และร้านกาแฟ ทรู คอฟฟี่ เข้ามาตั้งภายในโครงการ เพียงแค่ลงมาจากห้องก็สามารถนั่งชิลพร้อมทำงานได้เลย หรือหากอยากจะแฮงก์เอ้าท์ข้างนอกก็มีสถานที่ไลฟ์สไตล์ให้เลือกมากมาย ไล่ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์ริมน้ำ ไปจนถึงร้านอาหารต่างๆ
ในเรื่องของจำนวนยูนิตถึงแม้อาจะดูเยอะ (1,339 ยูนิต) แต่ด้วยการจัดองค์ประกอบและ layout ของตัวโครงการทำให้ออกมาดูไม่หนาแน่นอย่างที่คิด นั่นคือไม่กระจุกยูนิตอยู่ในอาคารเดียวกันแต่แยกออกเป็นสองฝั่ง A และ B โดยห้องชุดในฝั่ง A จะอยู่ทางฝั่งถนน รัชดา-ท่าพระ และห้องชุดในฝั่ง B จะอยู่ฝั่งถนนตากสิน-สาทร
โมเดลจำลองโครงการ, พื้นที่ด้านหน้าโครงการเป็นร้านสะดวกซื้อ MaxValu และ True Coffee Shop ส่วนล็อบบี้จะอยู่ในฝั่ง A สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่ที่ชั้น 7 ในฝั่ง A เช่นเดียวกัน ด้านการดีไซน์ทำออกมาได้อย่างทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ตามสไตล์ของอนันดาฯ เราจะเห็นดีไซน์คล้ายๆ กันนี้ในแบรนด์ Ideo และ Ideo Q จากดีเวลลอปเปอร์เจ้านี้
พื้นที่จอดรถ
ล็อบบี้ของโครงการมีขนาดใหญ่และดูเหมือนว่าจะสามารถกลายเป็น co-working space ได้ จากรูปแบบการจัดวาง
ทางเข้าไปยังส่วนของพื้นที่อาศัย
จากฝั่ง A สามารถเดินไปฝั่ง B ได้โดยใช้ทางเชื่อมได้หรือสามารถเข้าจากทางด้านล่างได้เช่นกันแต่ต้องมีคีย์การ์ดเพื่อสแกนเข้า
ระบบความปลอดภัย
ลูกบ้านจะได้รับการ์ดสำหรับเข้า-ออกประตูภายในส่วนของที่อยู่อาศัยและต้องใช้การด์เพื่อสแกนในการกดลิฟท์เพื่อไปยังห้องของตัวเอง
ระบบส่วนกลาง
ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 7 ของฝั่ง A โดยสามารถเข้า-ออกได้ด้วยการ์ดเท่านั้น เมื่อเดินขึ้นมาจะมีพื้นที่ส่วนกลาง 3 ส่วนนั่นคือ co-working space, ฟิตเนสและห้องซาวน่าอยู่ทางทิศเหนือเมื่อออกมาจากตัวลิฟท์, ขวามือเป็นสระว่ายน้ำ และทางฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
บรรยากาศที่ได้บริเวณสระว่ายน้ำเป็นวิวของโซนเมืองฝั่งตากสิน-สาทร อาคารข้างๆ ที่เห็นคือโครงการเดอะรูม สาทร-ท่าพระของค่ายแลนด์แอนด์เฮ้าส์
ในพื้นที่โซนนี้มีบาร์และเคาน์เตอร์พร้อมตู้เย็นสำหรับแช่เครื่องดื่มรองรับการใช้งานเผื่อใครอยากนำเครื่องดื่มส่วนตัวมาดื่มในบริเวณนี้
ในโซนมีการจัดวางเก้าอี้สำหรับนั่งพักผ่อนหรือสนทนากันระหว่างเพื่อนบ้าน พร้อมมีทีวีไว้ดูเพลินๆ เดินตรงเข้าไปจะเป็นโซนสำหรับนั่งทำงานแบบเป็นส่วนตัวและแบบรวม
พื้นที่ co-working space ที่มีทั้งโซนที่เป็นส่วนตัวนั่นคือมีกระจกกั้นและส่วนที่เป็นที่นั่งรวมเพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดกัน
บรรยากาศโดยรอบโครงการ
นับจากทางเข้าเป็นทิศเหนือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นวิวถนนรัชดา-ท่าพระ ซึ่งจะมองเห็นเดอะมอลล์ท่าพระ, โครงการคอนโด พาร์คแลนด์ ของนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ และโครงการยูดีไลท์จากค่ายแกรนด์ยู
ทางทิศใต้จะเป็นวิวที่สามารถเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ อาคารริมน้ำที่เป็นจุดเด่นที่สามารถมองเห็นจากตัวโครงการเช่น โครงการวอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยา, ศุภาลัย ริเวอร์เพลส, ศุภาลัย ริเวอร์ รีสอร์ท และโรงแรมจากเครือไมเนอร์ฯ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายปีที่ผ่านมาอย่าง Avani ที่มี คอมมูนิตี้ริมน้ำอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรม
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
โครงการไอดีโอ สาทร-ท่าพระประกอบด้วยห้องชุด 3 แบบ ได้แก่
-ห้องประเภทสตูดิโอ ขนาด 21 ตร.ม.
-ห้องประเภท 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม.
-ห้องประเภท 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม.
เริ่มกันที่ห้องไซส์เล็กสุดที่เหมาะสำหรับอยู่คนเดียวคือ สตูดิโอ 21 ตร.ม.
Layout ของห้อง: 1 ห้องนอน, 1 ห้องครัว, 1 ห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัวขนาดเล็ก
เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนของห้องนอนก่อนเลยพร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกัน พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.
ตรงบริเวณห้องนอนโครงการติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนเพื่อเปิดรับลมกรณีต้องการประหยัดค่าไฟและช่วยเพิ่มอากาศหมุนเวียนภายในห้องด้วย สำหรับเตียง หากไม่ต้องการให้ห้องดูคับแคบจนเกินไปอาจจะเลือกเป็นขนาด 5 ฟุต (โครงการแถมที่นอนขนาดดังกล่าวนี้ให้) เพราะจะทำให้เหลือพื้นที่ข้างๆ สำหรับใช้งานเป็นฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้
ประตูที่ได้จะเป็นแบบกุญแจล็อคธรรมดา พื้นที่ข้างเตียงสามารถจัดวางโซฟาขนาด 2-3 ที่ได้ (โครงการแถมให้เช่นกัน) หรือจะจัดเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารก็ได้เช่นกัน เครื่องปรับอากาศสำหรับห้องแบบสตูดิโอจะได้ขนาด 12,000 BTU ยี่ห้อ Trane
ฝั่งตรงข้ามจุดวางโซฟาเป็นงานบิลท์อินชั้นวางทีวีและชั้นวางไอเทมตกแต่งด้านบนซึ่งทางโครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อย และทีวีก็แถมให้เช่นกัน (ขนาด 32 นิ้ว ยี่ห้อ Samsung)
ฝั่งขวามือของห้องเป็นโซนครัวซึ่งโครงการก็จัดเต็มมาให้พร้อม ประกอบด้วย ชุดบิลท์อินเคาน์เตอร์ครัว, อ่างล้างจานแบรนด์ Mex เช่นเดียวกันกับชุดเตาและที่ดูดควัน ไมโครเวฟ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าฝาหน้าที่ได้เป็นของ Samsung
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกโทนสีขาวสะอาดตา อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์เป็นแบรนด์ Cotto ก็อกน้ำและอุปกรณ์ shower เป็นแบรนด์ Prema, เครื่องทำน้ำอุ่นจาก Panasonic
ห้องตัวอย่างถัดมาเป็นประเภท 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 30 ตร.ม.
Layout ของห้อง: 1 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ห้องครัว, 1 ระเบียงส่วนตัว
Layout จะแตกต่างจากห้องแบบสตูดิโอนั่นคือจะมีการกั้นเป็นสัดส่วนระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้ามาฝั่งซ้ายมือเป็นตู้เก็บรองเท้าและร่มผิวกรุด้วยลามิเนต
จุดแตกต่างกันอีกจุดหนึ่งคือห้องครัวจะอยู่พื้นที่เดียวกับห้องนั่งเล่น เช่นเดียวกันงานเฟอร์ฯ บิลท์อินมาให้คล้ายกับห้องสตูดิโอ เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU แบรนด์ Trane
ห้องนั่งเล่นที่แถมโซฟาขนาด 3 ที่นั่งมาให้ รวมถึงชั้นวางทีวีและชั้นวางของเหนือทีวีและแน่นอนทีวีก็แถมมาให้ด้วยเรียกได้ว่าเป็นชุดเฟอร์ฯที่มาพร้อมกับความบันเทิง
ระเบียงส่วนตัวมีขนาดกว้างกว่าของห้องสตูดิโอเล็กน้อยและมีการเก็บ compressor แอร์ไว้ด้านข้างทำให้สามารถจัดวางชุดโต๊ะนั่งเล่นได้โดยที่น้ำแอร์ไม่หยดใส่ รั้วระเบียงจะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนกั้นกันตกอีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน พื้นระเบียงปูด้วยเซรามิกขนาด 30×30 ซม.
ในส่วนของห้องนอนทั้งเตียงและที่นอนสปริงขนาด 5 ฟุตแถมมาพร้อม เรียกได้ว่าพกแค่หมอนก็เข้ามาอยู่ได้เลย สำหรับงาน hoverboard ที่เป็นลายตรงหัวเตียงเป็นเพียงไอเดียในการแต่งห้องเท่านั้น ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบสีขาว
ห้องตัวอย่างประเภท 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม.
สำหรับห้องตัวอย่างสุดท้ายเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่ที่สุดของโครงการมี layout ดังนี้:
2 ห้องนอน, 1 ห้องน้ำ, 1 ครัว, 1 ห้องนั่งเล่น, 1 จุดรับประทานอาหาร, ระเบียงส่วนตัวความกว้าง 2 เมตร
บริเวณห้องนั่งเล่นมาพร้อมกับโซฟา แต่สำหรับโต๊ะประดับที่เห็นด้านหน้าเป็นเพียงไอเดียในการแต่งห้องเท่านั้น
ด้านหลังโซฟา เป็นเคาน์เตอร์ครัวที่มาพร้อมกับเครื่องใช้ไฟฟ้าดังที่เห็นในภาพ หากต้องการกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ผู้อยู่อาศัยสามารถติดตั้ง partition กั้นส่วนระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องครัวได้
ห้องนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าของห้องนอนใหญ่ เนื่องจากขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าทำให้ห้องนั่งเล่นดูกว้างขวางก็ห้องแบบอื่นๆ ติดกันเป็นระเบียงส่วนตัวขนาดความกว้าง 2 เมตร (ห้องจริงไม่มีผ้าม่านติดมาให้) และห้องจริงจะมีประตูลูกบิดกั้นส่วนระหว่างห้องให้
ระเบียงส่วนตัวถือเป็นจุดชมวิว นั่งชิลเมื่อยามต้องการ ประตูออกไปสู่ระเบียงเป็นแบบบานเลื่อน พื้นระเบียงปูด้วยเซรามิกขนาด 30×30 ซม. (ชุดโต๊ะ-เก้าอี้บริเวณระเบียงเป็นเพียงไอเดียในการตกแต่งห้องเท่านั้น)
มุมมองเข้ามาในตัวห้องจากระเบียง แอร์ที่ติดให้จะเป็นขนาด 18,000 BTU แบรนด์ Trane ส่วนโคมไฟประดับที่เห็น เป็นเพียงไอเดียในการตกแต่งเท่านั้น
ห้องนอนใหญ่
ห้องนอนใหญ่ของห้องตัวอย่าง โครงการจัดในสไตล์เรียบง่าย ดูสบายตา งานบิลท์อินปลายเตียงมีให้พร้อมเตียงนอนและที่นอนสปริงขนาด 5 ฟุต สำหรับผู้มีอาการปวดหลังอาจจะไม่ชอบเพราะที่นอนสปริงจะรองรับน้ำหนักได้ไม่ดีเท่าที่นอนยางพารา
กระจกบานเลื่อนด้านข้างรับแสงอรุณเบิกฟ้าในยามเช้า หรือจะเคลิบเคลิ้มไปกับแสงจันทร์ในยามค่ำคืน ผ้าม่านที่เห็นในห้องจริงจะไม่ได้ติดมาให้
สำหรับห้องนอนเล็กโครงการจะให้เป็นเตียงและที่นอนสปริงขนาด 3 ฟุต เนื่องจากพื้นที่ห้องเล็กอาจจะเลือกติดทีวีบริเวณปลายเตียงเป็นแบบติดผนังเพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่
ห้องนอนเล็กเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจองานบิลท์อินตู้เสื้อผ้าอยู่ทางฝั่งขวามือซึ่งเป็นสเปคเดียวกับของห้องนอนใหญ่
ทําเล & การเดินทาง
ทำเล & การเดินทาง
การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการใช้บริการขนส่งมวลชนอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สะพานตากสิน-บางหว้า โดยให้เลือกลงสถานี โพธิ์นิมิตร หลังจากนั้นเลือกออกที่ทางออกที่ 2 เมื่อลงมาให้เดินต่อไปเพียง 300 เมตร โครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
เมื่อรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว (สายสีลม) ยังคงมีระยะทางวิ่งที่สั้นในสมัยก่อน นั่นคือ สถานีสะพานตากสิน-สนามกีฬา แต่ถึงแม้จะมีระยะวิ่งที่สั้นแต่กลับส่งผลทำให้ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้า ณ สมัยนั้นปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากวิ่งผ่านสองโซนธุรกิจนั่นคือ สีลมและสยาม ปัจจัยนี้นอกจากจะทำให้ราคาที่ดินขยับตัวสูงขึ้นแล้วยังมีผลทำให้ราคาค่าเช่าอาคารสำนักงานต่อตารางเมตรปรับตัวขึ้นด้วยเช่นกันอันเนื่องด้วยความสะดวกสบายที่เข้ามาในย่านนี้ ตอกย้ำดีมานด์การหลั่งไหลของประชากรที่อยู่โซนนอกสถานีสะพานตากสินเพื่อเข้ามาทำงานภายในเมืองมากขึ้นเรื่อยๆโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว สะพานตากสิน-บางหว้า จึงถือเกิดขึ้น และหากใครที่สัญจรไปมาในเส้นตากสินไปจนถึงแยก รัชดา-ท่าพระ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนระหว่างสมัยก่อนส่วนต่อขยายและหลังจากที่ส่วนต่อขยายนั้นเปิดใช้บริการ ในช่วงที่กำลังขึ้นรางส่วนต่อขยาย ณ สมัยนั้น ผู้ประกอบการรายต่างๆหลั่งไหลเข้าไปเพื่อชิงเค้กรสชาติดีหรือผืนที่ดินตามแนวรถไฟฟ้านี้เอง ซึ่งจากราคาที่ดินต่อตารางวาไม่ถึงแสนถูกซื้อจนราคาขยับมาที่หลักแสนและตั้งแต่มีการอนุมัติไปจนถึงขั้นตอนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสถานีท่าพระยิ่งทำให้ผืนที่ดินบริเวณนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเป็น Red Ocean เลยก็ว่าได้ และดูเหมือนจะเป็นอนันดาเองที่เข้าไปอยู่เป็นรายแรกๆของลิสต์ผู้ประกอบการที่สามารถเข้าไปคว้าผืนดินบริเวณแนวรถไฟฟ้านี้ได้
ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างโซนฝั่ง ธนบุรี และ โซนเมืองสาทร สำหรับไฮไลท์สำคัญต่อจากส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวแล้วเห็นทีจะเป็นคราวของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ตลาดอสังหาฯในย่านฝั่งธนคงความคึกคักอย่างต่อเนื่องโดยราคาที่ดินน่าจะขยับไปได้ถึง 400,000 – 500,000 บาทต่อตารางวา และอาจจะมากกว่านั้นหลังจากส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินแล้วเสร็จในปี ’62 เส้นทางการเดินรถของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินจะวิ่งผ่านย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญที่จะพาครัวเรือนทางฝั่งย่านเพชรเกษมเข้ามาในตัวโซนเมืองอย่างย่าน อโศก, สีลม, สามย่าน และ new CBD พระราม 9 ได้ด่วนทันใจ อีกทั้งยังสามารถผ่านไปบริเวณหัวเมืองชั้นในของกรุงเทพฯ (urban area) นั่นคือ หัวลำโพง, ลาดพร้าว จตุจักรได้อีกด้วย ลักษณะการเดินรถจะเป็นทางวนแบบวงแหวนรอบเมืองกรุงเทพฯชั้นใน ดังนั้นการเดินทางเชื่อมต่อจึงเป็นเรื่องที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
สิ่งอำนวยความสะดวกที่รายล้อมพื้นที่บริเวณโครงการไร่เลียงไปตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ย่านท่าพระอย่าง เดอะมอลล์ ท่าพระ ไปจนถึงพื้นที่คอมมูนิตี้, คอมเพล็กซ์ อย่าง เอเชียทีค ริเวอร์ฟร้อนท์ ของกลุ่มเบียร์ช้าง และ ริเวอร์ไซด์ วิลล์ ที่ประกอบไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง ดำเนินการโดยกลุ่มไมเนอร์ ทั้งสองสถานที่นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ริมน้ำบนถนนเก่าแก่ของกรุงเทพฯ เจริญนคร และ เจริญกรุง โดยถนนทั้งสองสายนี้อยู่ห่างจากแยกที่ตั้งโครงการเพียงหนึ่งและสองแยกตามลำดับ ดังนั้นหากผู้อยู่อาศัยเลือกยูนิตที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ (นับจากประตูทางเข้าโครงการทิศเหนือ) จะได้วิวเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา
แน่นอนในปี ’59-’60 นี้ตลาดคอนโดมีเนียมย่านท่าพระถือว่าน่าจับตาเป็นอย่างมาก เพราะจากจำนวนประชากรที่หนาแน่นแล้วยังมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูงประกอบกับการพัฒนาโครงการเมกะโปรเจคด้านคมนาคมที่สำคัญอย่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ทั้งสองปัจจัยนี้ยังคงสร้างความน่าสนอย่างต่อเนื่องให้แก่ทั้งผู้ประกอบการและผู้ที่กำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าโดยที่สามารถเข้าถึงโซนกลางเมืองได้ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ
ระยะทางวิ่งของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินคือ 11.1 กม. แล้วเสร็จประมาณปี ’62 (ข้อมูลจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, ศูนย์เศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ และ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน))
สถานที่ไลฟ์สไตล์
1. Avani Riverside Bangkok
Avani เป็นโรงแรมในเครือ Minor Group ที่มีพื้นที่ติดริมน้ำฝั่งถนนเจริญนคร ซึ่งมีห้องอาหารที่ติดริมน้ำเจ้าพระยา พร้อม community mall บริเวณข้างหน้าโรงแรมคอยให้บริการ (ใช้เวลาขับรถจากโครงการประมาณ 10 นาที) Avani อยู่ฝั่งริมน้ำเจริญนคร
2. ร้านอาหารมีเฮหรือชื่อเก่าคือกลัวดัง
ร้านกลัวดัง เป็นร้านอาหารที่เปิดให้บริการตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงดึกพร้อมดนตรีสดย้อนยุคและจะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงวันที่มีฟุตบอลฉาย เมนูแนะนำคือ กุ้งกระทะร้อน (สาวเสิร์ฟสวย)
3. เดอะมอลล์ ท่าพระ
เดอะมอลล์ท่าพระ ห้างเก่าแก่ที่สุดที่ตั้งอยู่บนถนนรัชดา-ท่าพระ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คคลาสสิกของย่านนี้เลยก็ว่าได้
4. เอเชียทีค ริเวอร์ฟรอนท์
ชิงช้าสวรรค์ของเอเชียทีคของกลุ่มเบียร์ช้างที่กลายเป็นแลนด์มาร์คฝั่งเจริญกรุง (ภาพ via: www.asiatique-sky.com)
เอเชียทีค ริเวอร์ฟรอนท์ สถานที่ท่องเที่ยวและอีกหนึ่งแลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญกรุงที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะชาวจีน ใครอยากดื่มหรือทานอาหารร้านเก๋ๆ ที่นี่มีให้เลือกสรรมากมาย ร้านยอดนิยมได้แก่ Happy Fish, Why 97, Brew
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
เมื่อระบบโครงสร้างพื้นฐานเป็นรูปเป็นร่างและถูกคาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี ’62 ส่งผลให้ราคาที่ดินแถบรัชดา แถวเดอะมอลล์ท่าพระ จะปรับขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญและสูงที่สุดเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกรุงเทพฯ โดยอัตราที่ถูกปรับขึ้น ณ บริเวณนี้สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วถึง 15% และมีแนวโน้มว่าจะขยับขึ้นเรื่อยๆ เมื่อโครงการรถไฟฟ้าใกล้เปิดและจำนวนประชากรที่จะเข้ามาอาศัยในย่านนี้เพิ่ม คาดว่าราคาที่ดินที่ซื้อ-ขายจริงน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 300,000 – 350,000 บาทต่อตารางวาและสามารถปรับตัวขึ้นสูงได้อีกในอนาคต
ในส่วนของราคาเช่าที่สามารถปล่อยได้สำหรับโครงการ ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ได้แก่:
-ห้องสตูดิโอขนาด 21 ตร.ม. ราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 10,000-12,000 บาทต่อเดือน
-ห้องประเภท 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. ราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 13,000-15,000 บาทต่อเดือน
-ห้องประเภท 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม. ราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 24,000-26,000 บาทต่อเดือน
จากเรทข้างต้น ทำให้ราคาเฉลี่ยปล่อยเช่าของโครงการจะอยู่ที่ประมาณ 500 บาทต่อตารางเมตร สำหรับดีมานด์ในเรื่องการเช่ายังคงมีเข้ามาเรื่อยๆ เนื่องจากตัวทำเลเองติดกับแนวรถไฟฟ้า สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางเข้าไปทำงานใจกลางเมือง เพราะถ้าจะให้เข้าไปเช่าโครงการภายในเมืองราคาค่าเช่าอาจจะปรับตัวขึ้นสูงถึงอีกเท่าตัวหรือ 1,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป
เปรียบเทียบโครงการ
1. U Delight @Talatphlu Station
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: ยู ดีไลท์ แอท ตลาดพลู สเตชั่น(U Delight @Talatphlu Station)
ผู้พัฒนาโครงการ: แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนรัชดาภิเษก เยี้องกับเดอะมอลล์ ท่าพระ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 5-3-72 ไร่
รูปแบบ: อาคารชุด 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A ความสูง 34 ชั้น และอาคาร B ความสูง 27 ชั้น ห้องพักอาศัย 973 ยูนิต
รูปแบบห้องชุด: 1 ห้องนอน ขนาด 30 – 45.5 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน ขนาด 51 – 72 ตารางเมตร
ราคาเริ่มต้น: 90,000 บาท/ตารางเมตร
2. Whizdom Station Ratchada-Thrapra
รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: วิสซ์ดอม สเตชั่น รัชดา-ท่าพระ (Whizdom Station Ratchada-Thrapra)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แม็กโนเลีย ควอลิตี้ ดีวอลลอปเม้นท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ท่าพระ, ถนนรัชดาภิเษก (ใกล้บีทีเอส ตลาดพลู)
พื้นที่โครงการ: 3-0-52 ไร่
รูปแบบ: คอนโดไฮไรส์ 37 ชั้น
จำนวนยูนิต: 690 ยูนิตอยู่อาศัย 6 ยูนิตพาณิชย์
รูปแบบห้องชุด: ห้องสตูดิโอ 22 ตร.ม., 1 ห้องนอน 26-35 ตร.ม., 2 ห้องนอน 47-59 ตร.ม., เพนท์เฮ้าส์ 40-78 ตร.ม.
สรุป
โครงการ ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ดูเหมือนว่าสามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ millennials หรือกลุ่มคนเจ็นวายได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องราคาที่สามารถเอื้อมถึงในแง่ของยอดการผ่อนต่องวดกับธนาคาร (เริ่มต้นที่ประมาณ 7,000-8,000 บาท ต่อเดือนในช่วงการผ่อน 1-3 ปีแรก) และในเรื่องรูปลักษณ์การดีไซน์ของตัวอาคารที่ดูทันสมัย รูปแบบของห้องชุดไม่ได้เน้นไปที่กลุ่มครอบครัวที่มีขนาดใหญ่แต่เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังก่อร่างสร้างตัว ทั้งกลุ่มคนโสดหรือคู่รักที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าซึ่งโครงการตอบโจทย์ตรงนี้อีกเช่นกัน ในเรื่องของการลงทุนอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของราคาโครงการอย่างมีนัยยะสำคัญหลังจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ในขณะเดียวกันราคาที่ดินเส้น สาทร-ท่าพระ ยังคงขยับต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ต้องคอยติดตามว่าจะขยับขึ้นร้อนแรงเหมือนในช่วงปีที่ผ่านมาหรือไม่ สุดท้ายสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการใช้งานของดีมานด์ที่หลากหลายด้วยราคายูนิตที่เริ่มต้น 2 ล้านต้น
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ