สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ถึงแม้ปัจจุบันเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวยต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ในแง่ของกำลังซื้อที่หดหายลงไป แต่ทางภาครัฐก็ยังมีมาตรการที่สนับสนุนด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่เนืองๆ ประกอบกับเส้นทางคมนาคมโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นและพร้อมให้บริการในเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่ –เตาปูน) ที่เป็นรูปเป็นร่างพร้อมเปิดใช้บริการในเดือนสิงหาคมนี้โดยผังเส้นทางการเดินรถไฟฟ้าสายดังกล่าวมีจุดสำคัญบริเวณสถานีบางซื่อ (Grand Station) ซึ่งจะเป็นจุดตัดกับโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต) และสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ – ตลิ่งชัน) รวมถึงในอนาคตอาจจะเชื่อมต่อไปยัง โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง – บางแค) ที่สถานีเตาปูน (Interchange) ทำให้เส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีจุดตัดสำคัญถึง 2 จุด และอานิสงส์ตรงนี้ทำให้โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงบริเวณสถานีบางซ่อน เป็นอีกหนึ่งทำเลที่เป็นที่หมายตาของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ ในจำนวนนั้นคือเจ้าตลาดคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าอย่างค่ายอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ที่นำโครงการแบรนด์ “ไอดีโอ โมบิ” เข้ามาปักหมุดใกล้สถานีบางซ่อนก็คือโครงการ “ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์” กับจุดเด่นบนทำเลที่อยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางซ่อนเพียง 10 ม. พร้อม Triple Sky Facilities ส่วนกลางวิวสูงที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งกลุ่มคนเมืองและกำลังซื้อดั้งเดิมย่านถนนวงศ์สว่าง –ติวานนท์
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ:ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Mobi Wong Sawang Interchange)
ผู้พัฒนาโครงการ:บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน): ANAN
ทำเลที่ตั้ง:ถ.ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.
เว็บไซต์:http://www.ananda.co.th/condo/ideomobi/wongsawang/
โทร:02 316 2222
รายละเอียดโครงการ(ข้อมูล ณ วันที่ 6 กรกฎาคม 2559)
พื้นที่โครงการ:2-2–24.4 ไร่
รูปแบบ:คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 1 อาคารความสูง29 ชั้น ประกอบด้วยห้องชุดพักอาศัย 559 ยูนิต และห้องชุดเพื่อการค้า 4 ยูนิต รวมทั้งสิ้น563ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย:กลุ่มคนพื้นที่, พนักงานระดับเงินเดือนตั้งแต่ 40,000 – 60,000 บาทขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง:เริ่มก่อสร้างประมาณเดือน ธันวาคม 2557
คาดว่าจะแล้วเสร็จ:ประมาณเดือนธันวาคม 2559
ลิฟท์:โดยสาร 2 ตัวลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ:ที่จอดรถชั้น2-5 จำนวน 201 คัน ไม่รวมซ้อนคัน คิดเป็น 35%
เงินกองทุนสะสม:500 บาทต่อตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)
ค่าส่วนกลาง:50 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.89 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย:ประมาณ 120,000 บาทต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
สตูดิโอขนาด 21.5 ตร.ม.
1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตร.ม.
1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม.
รีวิวภาพรวมโครงการ
ไอดีโอ โมบิ วงสว่างอินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโดมิเนียมความสูง 29 ชั้น พร้อมส่วนกลางสวนบนชั้นดาดฟ้า 1 อาคาร เข้า-ออกโครงการด้วย Access Card มีป้อมยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. โดยชั้นแรกของอาคารจะเป็นล็อบบี้และสำนักงานขาย มีชุดโซฟารับแขก พร้อมโมเดลอาคารที่จำลองมาในอัตราส่วน 1 ต่อ 100 และมีโถงลิฟท์แบบเข้า-ออกด้วยคีย์การ์ด โดยมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ที่สามารถจุคนได้มากสุดประมาณ 18 คนต่อรอบหรือรับน้ำหนักได้ประมาณ 1,350 ตัน (คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 280 คนต่อลิฟท์ 1 ตัว) พร้อมห้อง Mail Box ตรงข้ามกับทางเข้า-ออกโถงลิฟท์ ส่วนที่จอดรถรวมอยู่ในอาคารตั้งแต่ชั้น 2– ชั้น 5 ทางเข้าที่จอดรถจะเป็นทางลาดขึ้นสู่ชั้น 2 บริเวณอาคารด้านทิศตะวันตก เป็นการขึ้น-ลงแบบสวนกันมีความกว้างของทางลาดประมาณ 12 ม. การเข้าออกอาคารที่จอดรถเป็นแบบวนขวาตามมาตรฐานอาคารจอดรถทั่วไป ตัวอาคารเป็นโทนสีเทา ขาว สไตล์โมเดิร์น ตามแบบฉบับของแบรนด์ ไอดีโอ
ในส่วนของยูนิตที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไป โดยมียูนิตทั้งสองฝั่งของทางเดินหรือแบบ Double Corridor จำนวนยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นประมาณ 22-26ยูนิต มีรูปแบบห้องคละกันตั้งแต่ห้องสตูดิโอ21.5 ตร.ม.,1 ห้องนอน 24.5 ตร.ม.,1 ห้องนอน 30 ตร.ม. และ 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม. ขึ้นไป ห้องทุกรูปแบบโครงการตกแต่งให้แบบ Fully Fitted ตามมาตรฐาน ผนังห้องฉาบเรียบทาสีขาว มาพร้อมเคาน์เตอร์ครัวที่มีทั้งเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจานของ Mex ไฟในห้องเป็นแบบดาวน์ไลท์ฟิกซ์แสงหรือไม่สามารถปรับความเข้มของแสงไฟได้ ส่วนสุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Cotto เน้นโทนสีขาว และก๊อกที่เปิด-ปิดน้ำต่างๆ จะเป็นของ Prema และมี Shower Box ที่มีธรณีกั้นน้ำไหลสูงขึ้นมาประมาณ 2 ซม. พร้อมกับประตูกระจกนิรภัยกั้นโซนเปียก โซนแห้ง แตกต่างจากคอนโดมิเนียมไอดีโอ อื่นๆ คือบริเวณ Shower Box นี้ จะมีชั้นวางของแบบกระจกใสเพิ่มเข้ามา ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ให้ความสะดวกไปในตัว นอกจากนั้นโครงการยังมอบ Electronic Door Lock ของ Samsung ให้กับห้องทุกแบบ พร้อมตัวล็อคมือแบบสองชั้นมีที่จับเป็นก้านโยก
โดยรวม ห้องทุกรูปแบบได้รับเฟอร์นิเจอร์บางส่วน สำหรับวัสดุมาตรฐานของแบรนด์นี้กับการตั้งราคาเกือบ 3 ล้านที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่คุ้มค่าจากการได้รับส่วนกลางที่เน้นฟังก์ชั่นวิวจากมุมสูง เริ่มจากสวนส่วนกลางที่ชั้น 6, ชั้น 28, ชั้น 29 และ Sky Garden บนชั้นดาดฟ้าของอาคาร ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณชั้น 28 และชั้น 29 ที่เชื่อมต่อทางเดินขึ้น-ลงเข้าไว้ด้วยกันเสมือนส่วนกลางอยู่โซนเดียวกัน โดยที่ชั้น 28 จะเป็นส่วนของ Social Club และ ห้องสมุดทั้งแบบ Outdoor และ Indoor ในตัวห้องสมุดจะมีบันไดวนสามารถเชื่อมต่อไปสู่ชั้น 29 ที่เป็น Sky Poolระบบเกลือขนาด 25 x 4 ม.ที่สามารถเทควิวเมืองทางฝั่งทิศตะวันออกได้แบบ 180 องศา และ รวมไปถึงฟิตเนส และสวนกลางแจ้งที่ชั้น 29
สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของส่วนกลางในโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์นี้จะเป็นเรื่องของวิว ที่สามารถเทควิวเมืองได้ทั้งฝั่งทิศตะวันออก และทิศตะวันตก โดยทางทิศตะวันออกอาจจะมีอาคารสูงขึ้นมาแซมๆ บ้าง แต่มองออกไปลิบตาก็จะเป็นวิวแนวราบ ส่วนทางทิศตะวันตกจะเป็นวิวแนวราบยังไม่ค่อยมีอาคารตึกสูงที่พัฒนาขึ้นมาในโซนนี้
บริเวณหน้าโครงการมีโลโก้โครงการ ไอดีโอ โมบิ ชัดเจน
โมเดลอาคารเป็นการจำลองในอัตราส่วน 1 : 100 สามารถเห็นรายละเอียดของโครงการได้ครบทุกส่วน รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางทุกชั้น จากตัวโมเดลจะเห็นว่าโครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบางซ่อนมาก
ภาพรวมของโมเดลโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์
ภายในล็อบบี้มีชุดโซฟารับแขกหลายจุด พร้อมเฟอร์นิเจอร์และการออกแบบภายในสไตล์โมเดิร์น
ชุดโซฟารับแขกชุดใหญ่ภายในล็อบบี้ ตัวล็อบบี้เองกรุผนังเป็นกระจกใสทำให้มีความโปร่งโล่ง และดูกว้างขึ้น
ถัดมาจากชุดโซฟามีหน้าจอทัชสกรีนสำหรับดูข้อมูล รายละเอียดทำเล ภาพตัวอย่างโครงการ และอื่นๆ
ถัดมาเป็นห้อง Mail Box กล่องจดหมายเป็นรูปแบบตัว U โอบรอบห้อง มีกุญแจสำหรับล็อคเพื่อความเป็นส่วนตัว
โถงลิฟท์ภายในอาคารที่เชื่อมต่อกับลานจอดรถและชั้นที่เป็นยูนิตพักอาศัย การเข้า-ออกบริเวณนี้จำเป็นต้องใช้ Access Card ระบบลิฟท์เป็นแบบล็อคชั้น มีลิฟท์โดยสารด้วยกัน 2 ตัว
ภาพรวมของอาคารจอดรถ จะแบ่งที่จอดเป็นล็อคๆ ละประมาณ 2 คัน รถที่มีความสูง ไม่เกิน 2.5 ม. สามารถเข้าจอดในอาคารจอดรถได้สบาย
ทางขึ้น-ลงของลานจอดรถเป็นทางลาดแบบขับสวนทางเข้า-ออก มีความกว้างประมาณ 12 ม. หรือแบ่งออกเป็นความกว้างเลนที่ 6 ม. ซึ่งเพียงพอต่อการตีวงเลี้ยวขึ้น – ลง สวนทางกันได้
ที่ชั้น 28 เป็นส่วนของ Social Club ประกอบไปด้วย ชุดโซฟานั่งเล่น โต๊ะเกม ทีวี และเซอร์วิสจากทางโครงการ ผนังของชั้นเป็นกระจกใสตีกริดอะลูมิเนียมสามารถชมวิวเมืองจากบริเวณนี้ได้
เคาน์เตอร์บริการภายใน Social Club
เครื่องเล่นโต๊ะบอลที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้ลูกบ้านได้เล่นเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ
ภายใน Social Club บริเวณโซฟาจะมีปลั๊กไฟซ่อนพื้นตามภาพสำหรับอำนวยความสะดวกในการใช้อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ต่างๆ อาทิ โน๊ตบุ๊คหรือการชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ต่างๆ
วิวที่ได้รับจาก Social Club
ถัดมาอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น ห้องสมุดแบบ Indoor มีชั้นหนังสือ และชุดโซฟาสำหรับนั่งอ่านหนังสือ
ถัดมาด้านในมีใ โต๊ะทำงานเป็นแนวยาว สามารถนั่งทำงานไปพร้อมกับการชมวิวแบบ 180 องศาได้
ภายในห้องสมุดจะมีบันไดวนขึ้นไปสู่ชั้น 29 เชื่อมต่อกับห้องสมุดแบบ Outdoor และสระว่ายน้ำส่วนกลางที่ชั้น 29
วิวที่ได้รับจากมุมโต๊ะทำงานในห้องสมุดที่ชั้น 28
ภาพรวมของบันไดทางขึ้นจากชั้น 28 มาชั้น 29
Sky Pool ที่ชั้น 29 เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25 x 4 ม.
ภาพรวมของสระว่ายน้ำที่ชั้น 29 สามารถเทควิวเมือง ได้ 180 องศา
ที่ชั้น 29 นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว ยังมีที่อาบน้ำกลางแจ้ง 1 จุด ก๊อก ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำอุ่น-น้ำเย็น ฝักบัวเป็นแบบ Rain Shower
ห้องน้ำแยกหญิง-ชาย
พื้นที่ห้องสมุดแบบ Outdoor อยู่ถัดมาจากสระว่ายน้ำบนชั้น 29 ใกล้กับทางเข้า-ออกบันไดวนที่เชื่อมต่อกับชั้น 28
ที่ ทางเดินในอาคารของชั้นที่เป็นยูนิตพักอาศัยเป็นแบบ Double Corridor ยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นประมาณ 22-25 ยูนิต โดยแต่ละชั้นมีห้องทุกรูปแบบคละกันอยู่
Master Plan
Ground Floor
โครงการตั้งอยู่ติดอยู่กับถนนกรุงเทพ– นนทบุรีมีทางเข้า-ออกหันไปทางทิศตะวันตก แปลนอาคารเป็นอาคารรูปตัว T หัวกลับ มีลักษณะคล้ายไม้ T จากการดัดแปลงผังอาคารตามลักษณะพื้นที่ โดยในส่วนของชั้นแรกสุด ทางเข้า-ออกเป็นถนนกว้างประมาณ 6 ม. ที่วงเวียนทางเข้าโครงการ ถนนรอบวงเวียนจะมีความกว้างประมาณ 8 ม. โดยจะกว้างกว่าถนนเมนเนื่องจากเป็นทางที่รถต้องสวนเข้า-ออก ทางเข้าอาคารจอดรถอยู่ทางทิศใต้หรือบริเวณฝั่งด้านบนของแปลน ทางเข้าออกเป็นทางลาดขึ้นไปสู่ชั้น 2 กว้างประมาณ 6 ม. ด้านหลังอาคารเป็นสวนส่วนกลางชั้นแรกมีขนาดประมาณ 700 ตร.ม. ด้านในอาคารเป็นในส่วนของล็อบบี้ประกอบไปด้วยชุดโซฟารับแขก ห้อง Mail Box และลิฟท์โดยสารที่เชื่อมต่ออาคารจอดรถและยูนิตพักอาศัย
ผังอาคารจอดรถชั้น 2-5
ที่จอดรถเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 2 โครงการแบ่งออกเป็น ชั้น 2, ชั้น 2m, ชั้น 3, ชั้น 4 และชั้น 5 โดยที่จอดรถในอาคารสามารถจอดรถได้ 36% ไม่รวมจอดซ้อนคัน อัตราการจอดเฉลี่ยต่อชั้นประมาณ 35 คัน ภายในอาคารประกอบด้วยลิฟท์โดยสาร ลิฟท์บริการ และบันไดทางหนีไฟ 3 จุดตามแปลน
Floor Plan
ผังโครงการชั้น 6
ที่ชั้น 6 เป็นชั้นแรกที่มียูนิตพักอาศัย ทางเดินเป็นแบบ Double Corridor มีโถงลิฟท์อยู่ตรงกลางของแปลน มีบันไดหนีไฟด้วยกัน 3 จุด ยูนิตที่ใกล้กับทางเข้า-ออกลิฟท์มากที่สุดคือห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตร.ม. จากแปลนจะเป็นห้องสีน้ำตาล ชั้น 6 นี้จะมีห้องชุดอยู่ที่ 25 ยูนิต รูปแบบห้องคละกัน มีห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม. 2 ยูนิต อยู่บริเวณด้านบนที่สามารถเทควิวทางทิศตะวันออก และอีกหนึ่งห้องทางมุมขวาล่างของแปลนที่จะได้วิวทิศใต้และติดกับสวนส่วนกลางที่ชั้น 6
ผังโครงการชั้น 7-21
ที่ชั้น 7-21 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งหมดรูปแบบห้องคละกันทั้ง 4 รูปแบบ โดยมีห้อง 2 ห้องนอนขนาด 48 ตร.ม. ตั้งอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับชั้น 6 เพียงแต่ที่ชั้น 7-21 จะไม่มีสวนส่วนกลางเหมือนชั้น 6 จะเป็นยูนิตพักอาศัยล้วนๆ ห้องที่อยู่ใกล้กับลิฟท์มากที่สุดจะเป็นห้องขนาด 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตร.ม.เหมือนชั้น 6 จำนวนยูนิตต่อชั้นของชั้น 7-21 อยู่ที่ประมาณ 26 ยูนิต
ผังโครงการชั้น 22
ผังโครงการชั้น 22รูปแบบยูนิตคล้ายกับชั้นอื่นๆ เพียงแต่ชั้นนี้มียูนิตแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม. เพียงยูนิตเดียวคือทางมุมแปลนด้านบน อีกหนึ่งยูนิตถูกดัดแปลงเป็นพื้นที่ใช้สอยของสวนส่วนกลางตามภาพ จำนวนยูนิตในชั้นนี้อยู่ที่ 24 ยูนิต
ผังโครงการชั้น 23-24
ที่ชั้น 23 -24 เป็นยูนิตที่พักอาศํยทั้งหมดไม่มีส่วนกลางอื่นๆ จำนวนยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นอยู่ที่ 24 ยูนิต แปลนห้องเป็นแบบคละกัน โดยแบบแปลนนี้จะคล้ายกับแปลนที่ชั้น 22 ต่างกันแค่ไม่มีสวนส่วนกลางเท่านั้น
ผังโครงการชั้น 25
ชั้น 25 แปลนคล้ายกับชั้นอื่นๆ แต่ถูดลดทอนยูนิตต่อชั้นให้เหลือประมาณ 22 ยูนิต แต่มีสวนส่วนกลางเพิ่มเข้ามา โดยยูนิตที่หายไปคือแบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตร.ม. และ 1 ห้องนอนขนาด 30 ตร.ม. ที่มุมขวาล่างของแปลน เป็นห้องที่มีระเบียงหันออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้
ผังโครงการชั้น 26
ชั้น 26 ผังของชั้นเหมือนกับชั้น 25 มียูนิตต่อชั้นที่ 22 ยูนิตเท่ากัน แต่ไม่มีสวนส่วนกลางทางมุมขวาล่างของแปลน
ผังโครงการชั้น 27
ผังโครงการชั้น 27 เหมือนกับชั้น 26 เลย
ผังโครงการชั้น 28
ที่ชั้น 28 เป็นพื้นที่ของส่วนกลางที่ประกอบไปด้วย Social Club ห้องสมุด สวนส่วนกลาง และห้องซักรีด ที่แปลนด้านบนใกล้ๆ กับ Social Club เป็นงานระบบของสระว่ายน้ำที่ชั้น 29 โดยชั้นนี้จะมียูนิตพักอาศัยด้วยกัน 6 ห้อง คือห้องขนาด 21.5 ตร.ม. 5 ห้อง และห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม. 1 ห้อง รวมทั้งสิ้น 6 ยูนิต
ผังโครงการชั้น 29
ชั้น 29 ยังคงเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 25×4 ม. และฟิตเนสที่กรุผนังเป็นกระจกใส สามารถเทควิวเมืองได้ 180 องศาทางฝั่งทิศตะวันออก ทางมุมล่างขวาของแปลนเป็นทางเชื่อมเข้าสู่ยูนิตที่พักอาศัยประกอบด้วยโถงลิฟท์โดยสาร ตรงกลางด้านล่างเป็นบันไดวนที่ขึ้นมาจากห้องสมุดแบบ Indoor เชื่อมต่อกับห้องสมุดแบบ Outdoor บริเวณข้างๆ สระน้ำมีห้องน้ำแยกหญิง-ชาย
ผังโครงการชั้นดาดฟ้า
ที่ชั้นดาดฟ้า เป็นสวนส่วนกลางขนาดใหญ่แปลนถูดลดทอนให้เล็กลงเป็นเหมือนพื้นที่ถูกยกขึ้นมาจากบริเวณห้องน้ำแยกหญิง-ชาย และฟิตเนส จนถึงส่วนของทางเชื่อมต่อกับยูนิตที่พักอาศัย ดังนั้นหากยืนอยู่ที่ดาดฟ้าชั้นนี้จะสามารถมองเห็นวิวของสระว่ายน้ำส่วนกลาง และห้องสมุดแบบ Outdoor ได้ รวมไปถึงการเทควิวเมืองจากชั้นนี้แบบ 360 องศาเลย
Unit Layout
สตูดิโอขนาด 21.5 ตร.ม.
ห้องสตูดิโอขนาด 21.5 ตร.ม. ภายในห้องประกอบไปด้วย 5 ส่วนหลักๆ คือพื้นที่เตรียมครัว และห้องน้ำ บริเวณหน้าห้อง ถัดไปเป็นโซนนั่งเล่น และท้ายสุดเป็นห้องนอนที่สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้ พร้อมกับตู้เสื้อผ้าปลายเตียง โดยยังเหลือพื้นที่ให้เดินเชื่อมต่อออกไปสู่ระเบียงด้านนอกได้
1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตร.ม.
ห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตร.ม. ฟังก์ชั่นฟังก์ชั่นไม่ได้ต่างจากห้องสตูดิโอมากนัก เพียงแต่มีพื้นที่ของห้องเพิ่มเข้ามา พร้อมกับประตูกั้นห้องระหว่างห้องนอนกับพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ ห้องแบบนี้จะดูเป็นสัดส่วนกว่าห้องสตูดิโอ แต่ระเบียงของห้องแบบนี้จะเชื่อมต่อกับห้องครัว โดยระเบียงจะมีขนาดสั้นกว่าห้องสตูดิโอ แต่มีขนาดกว้างกว่าเล็กน้อย
1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม.
ห้องแบบ 1 ห้องนอนขนาด 30 ตร.ม. โครงการปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นใหม่ให้ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนของห้องนอนหรือเป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว โดยมีผนังกั้นส่วนของห้องนอนกับโซนอื่นๆ เรียบร้อย ส่วนพื้นที่ใช้สอยอื่นๆ มีองค์ประกอบเหมือนรูปแบบห้องอื่นๆ คือห้องครัว ห้องนั่งเล่น ที่แตกต่างออกไปก็คือพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้นจนสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ และระเบียงที่กว้างขึ้นขนาดจัดโต๊ะกาแฟเล็กๆ สองที่นั่งได้ พร้อมกับช่องเก็บของด้านข้างระเบียงที่เพิ่มเข้ามา
2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม.
ห้องรูปแบบ 2 ห้องนอน เริ่มต้นที่ขนาด 48 ตร.ม.ขึ้นไป จากแปลนจะเห็นว่าโครงการเน้นพื้นที่ใช้สอยบริเวณส่วนที่เป็นการพักผ่อนให้มีขนาดใหญ่สุด และจัดสรรให้ระเบียงเชื่อมต่อกับในส่วนนี้ โดยพื้นที่ระเบียงเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานแบบเดียวกับห้องขนาด 30 ตร.ม. พื้นที่เตรียมครัวมีขนาดไม่ใหญ่มากแต่ก็ดูเป็นสัดส่วน ในส่วนของห้องนอนที่ 1 และห้องนอนที่ 2 มีขนาดไม่แตกต่างกันมาก แตกต่างกันเพียงมุมหน้าต่าง ซึ่งจากแปลนห้องขนาดนี้จะอยู่บริเวณมุมซ้ายบนของแปลนที่หันระเบียงออกไปเทควิวฝั่งทิศตะวันออก และมุมซ้ายล่างที่หันระเบียงออกไปเทควิวทางทิศใต้
การวางทิศทางโครงการ
ทิศตะวันตก: อยู่ติดกับอาคารสำนักงานของ BTS บริเวณสถานีบางซื่อ เป็นอาคารสูงไม่เกิน 4-5 ชั้น แต่ตั้งอยู่ติดกับรั้วโครงการเลย แต่เนื่องจากชั้นพักอาศัยของโครงการอยู่ตั้งแต่ชั้น 6 ขึ้นไป อาคารนี้จึงไม่มีส่วนกับการบดบังทัศนียภาพเท่าไหร่นัก
อาคารสำนักงาน BTS บริเวณสถานีบางซ่อน
ซอยกรุงเทพ – นนทบุรี 23
ทิศเหนือ: เป็นทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติดกับถนนกรุงเทพ – นนทบุรี ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกวงศ์สว่าง บริเวณเกาะกลางถนนด้านบนเป็นสถานีไฟฟ้าสถานีบางซ่อน ถัดไปทางซ้ายอีกประมาณ 10 ม. เป็นทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบางซ่อน
บริเวณจุดรับคนขึ้นลงรถไฟฟ้าสถานีบางซ่อน ฝั่งมุ่งหน้าไปสถานีบางซื่อ
ด้านหน้าโครงการไม่เกิน 200 ม.มีทางกลับรถทั้งจากฝั่งถนนกรุงเทพ – นนทบุรี ที่มุ่งไปแยกวงศ์สว่าง และฝั่งที่มุ่งไปยังถนนประชาราษฎร์ สาย 2
ทิศใต้: ทิศใต้ติดอยู่กับอาคารบ้านเรือนความสูง ไม่เกิน 5 ชั้น และยังมีลำลางสาธารณะและชุมชนของคนที่อยู่อาศัยดั้งเดิมในย่านนี้
ภาพจากมุมอาคารจอดรถที่ชั้น 2m
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
Lobby & Mail Box
Sky Infinity Edge Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 25 x 4 ม.
Sky Fitness
Sky Deck
Sky Outdoor Library
Social Club
Private Grand Park
ห้องซักรีด
Access Key Card
ที่จอดรถชั้น 2 – ชั้น 5
CCTV 24 จุดสำคัญและ รปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม. พร้อมบัวเชิงผนัง, พื้นระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นขนาด 30 x 30 ซม.
ผนัง: ผนังก่ออิฐมวลเบาเสริมโครงเหล็ก ฉาบเรียบทาสี
ฝ้าเพดาน: ฝ้ายิปซั่ม ฉาบสีเรียบ
ประตู: บานสำเร็จรูป HDF โครง Hollow Care ขนาด 90 x200 ซม. พร้อม Electronic Door Lock ยี่ห้อ Samsung สำหรับประตูทางเข้า
ปลั๊กและสวิตช์: สายไฟร้อยท่อฝังผนัง ปลั๊กและสวิตช์เป็นของ Schneider
ความสูงพื้นจรดเพดาน : 2.5 ม.
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted โครงการมอบ เคาน์เตอร์ครัว ชุดครัว และสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ
เครื่องปรับอากาศ: 1 เครื่องสำหรับห้องขนาด 21 – 25 ตร.ม., 2 เครื่องสำหรับห้องขนาด 30 ตร.ม. และ 3 เครื่องสำหรับห้องขนาด 48 ตร.ม.ขึ้นไป เป็นของ Samsung
สุขภัณฑ์: โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ Cotto หรือเทียบเท่า, ก๊อก ฝักบัวและอุปกรณ์อื่นๆ ของ Prema หรือเทียบเท่า
ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัว อ่างล้างจาน พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ Mex
ลิฟท์ภายในอาคาร: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว, ลิฟท์บริการ 1 ตัว เป็นของ OTIS ลิฟท์สามารถจุคนได้มากสุด 18 คน รับน้ำหนักได้ประมาณ 1,350 กก.
รีวิวภายในห้องสตูดิโอขนาด 21.5 ตร.ม.
ห้องรูปแบบสตูดิโอขนาด 21.5 ตร.ม. เป็นห้องแนวลึก บริเวณหน้าห้องประกอบไปด้วยเคาน์เตอร์ครัว และห้องน้ำ พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม.
บรรยากาศภายในห้องน้ำ แบ่งโซนเปียกและโซนแห้งด้วยบานกระจกกั้นชัดเจน โครงการมอบสุขภัณฑ์ต่างๆ พร้อมกระจกเงาตรงอ่างล้างหน้า และติดตั้งสายไฟภายในสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้
พื้นที่บริเวณโถสุขภัณฑ์มี ความกว้างประมาณ 1 ม. รัศมีโดยรอบสามารถนั่งได้อย่างสบาย พร้อมกับเอื้อมหยิบสายชำระได้โดยไม่ลำบาก
พื้นห้องน้ำแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยฝั่งแห้งจะเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. แบบกันลื่นที่เน้นโทนสีขาว ในส่วนของโซนเปียกเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x30 ซม. แบบกันลื่นเหมือนกันแต่เป็นโทนสีเทา โดยบริเวณ Shower Box จะมีธรณีกั้นน้ำไหลยกสเต็ปขึ้นมาประมาณ 2 ซม.
ภายในห้องอาบน้ำโครงการเพิ่ม ชั้นวางของไว้ให้ตามภาพ
เคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้เป็นแบบมีช่องใส่เครื่องซักผ้าขนาดมาตรฐานประมาณ 60×60 ซม. แบบฝาหน้าเท่านั้น เคาน์เตอร์มาพร้อมกับซิงค์ล้างจาน เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว เครื่องดูดควัน และชั้นวางของด้านบน พื้นที่บริเวณนี้ สามารถยืนเตรียมครัวได้ประมาณ 1 คน
ถัดมาจากส่วนเตรียมครัวเป็นโซนนั่งเล่น
โครงการจัดสรรให้วางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวี โดยเหลือพื้นที่ให้เดินเข้า-ออกสบาย
ระยะห่างระหว่างโซฟาที่นั่งกับชั้นวางทีวี จากภาพหากแขวนทีวีติดผนังที่เป็นแบบยื่นออกมาให้พ้นจากคานห้องน่าจะสามารถติดทีวีขนาด 43-50 นิ้วแบบดูสบายตาได้อยู่
ถัดมาจากชั้นวางทีวีโครงการจัดสรรให้เป็นโต๊ะทำงานหนึ่งที่นั่งจากพื้นที่ที่เหลือบริเวณปลายเตียง
จากภาพเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต จะเห็นว่าเมื่อวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานแล้ว ยังเหลือพื้นที่ให้เดินปลายเตียงอีกประมาณ 60-80 ซม.
หากอาศัยอยู่คนเดียวสามารถเปลี่ยนจากเตียงคิงไซส์เป็นเตียงเดี่ยวได้ ซึ่งจะเหลือพื้นที่อีกมากจนสามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งหรือเพิ่มฟังก์ชั่นโต๊ะรับประทานอาหารเข้าไปได้เลย
จะเห็นว่าการจัดพื้นที่ใช้สอยระหว่างเตียงกับชุดโซฟาวางชิดติดกันพอดีกับตัวห้องเลย โครงการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับห้องนี้สำหรับการอยู่อาศัยเพียง 1 – 2 คนเท่านั้น
การจัดสรรเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มีความลงตัว หากเปลี่ยนเตียงเป็นขนาด คิงไซส์อาจติดขัดเรื่องทางเดินเข้า-ออกระเบียงเล็กน้อย
ประตูระเบียงเป็นแบบสองตอนที่สามารถเปิดเข้า-ออกได้ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งปกติตามโครงการทั่วไปจะสามารถเปิดประตูบานเลื่อนได้จากฝั่งเดียว
พื้นที่ระเบียงเป็นแนวยาวมีขนาดความกว้างประมาณ 60 ซม. พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิกกันลื่น ขนาด 30×30 ซม.
ที่กั้นตกริมระเบียงเป็นโครงเหล็กเคลือบสีเทาสูงประมาณ 1.5 ม.
ด้านข้างระเบียงโครงการติดชั้นแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ 1 ตัว
รีวิวภายในห้อง 1 ห้องนอนขนาด 24.5 ตร.ม.
ประตูห้องของห้องชุดทุกรูปแบบ โครงการมอบ Electronic Door Lock ของ Samsung ให้ตามภาพ พร้อมระบบล็อคสองชั้นแบบไขกุญแจ ด้ามจับเป็นแบบก้านโยก
ด้านในห้องส่วนแรก แบ่งออกเป็นโซนห้องนั่งเล่น และห้องนอนที่มีประตูเลื่อนบานกระจกวงกบอะลูมิเนียม 3 ตอนกั้นเป็นสัดส่วน บริเวณห้องนั่งเล่นประกอบไปด้วยโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะทำงาน 1 ที่นั่ง ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนของชั้นวางทีวี
ประตูบานเลื่อนที่กั้นส่วนของห้องนอนกับห้องนั่งเล่นไว้เป็นกระจกเขียวตัดแสงมีความสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งและมีความกว้าง ซึ่งแปลนห้องแบบนี้จะเน้นพื้นที่ใช้สอยของห้องนั่งเล่นมากกว่าห้องนอน
บรรยากาศของโต๊ะทำงานที่โครงการตกแต่งไว้ให้เป็นไอเดีย
ประตูบานเลื่อนของห้องนอนสามารถใช้ระบบล็อคมือได้จากด้านใน
บรรยากาศภายในห้องนอนสามารถวางเตียงนอนแบบคิงไซส์ได้โดยเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงเล็กน้อย
ภายในห้องนอนโครงการออกแบบให้ดูโล่งโปร่งด้วยการกรุกระจกเป็นผนัง โดยมีบานเลื่อนหน้าต่างให้เปิดออกรับลมธรรมชาติได้
ภาพรวมส่วนเชื่อมต่อระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น
ประตูห้องน้ำเป็นวัสดุ HDF โครง Hollow Care ขนาดประมาณ 70×200 ซม. เป็นประตูลูกบิดที่สามารถล็อคจากด้านในและไขกุญแจจากด้านนอกได้
ภายในห้องเป็นพื้นลิเนตหนา 8 มม. ทางเดินเชื่อมต่อไปสู่ห้องน้ำมีขนาดกว้างพอสมควรจนสามารถวางชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 1-2 ที่นั่งได้ โดยยังเหลือพื้นที่ให้เดิน
บริเวณห้องครัวเชื่อมต่อกับระเบียง โครงการมอบชุดครัวให้เหมือนกับห้องแบบ 21.5 ตร.ม.
โครงการเก็บงานสายไฟฝังผนัง ติดตั้งปลั๊กไฟตามจุดสำคัญ จากภาพเป็นใพื้นที่เตรียมครัวที่มีขนาดกว้างพอสมควรโครงการเก็บงานสายไฟฝังผนัง ติดตั้งปลั๊กไฟตามจุดสำคัญ จากภาพเป็นใพื้นที่เตรียมครัวที่มีขนาดกว้างพอสมควร
ด้านล่างเคาน์เตอร์มีถังขยะใต้ซิงค์ พร้อมชั้นวางและช่องเก็บของ
พื้นที่โดยรวมของระเบียง 1 ห้องนอน ขนาด 24.5 ตร.ม. มีขนาดประมาณ 1.30x 1.00 ม.
โครงการติดชั้นวางคอมเพรสเซอร์แอร์ให้อยู่กับผนังด้านบนของระเบียง
บรรยากาศภายในห้องน้ำแบ่งเป็นสัดส่วนประกอบด้วยโซนอาบน้ำ และ อ่างล้างหน้า
อีกฝั่งหนึ่งเป็นพื้นที่สำหรับโถสุขภัณฑ์ สุขภัณฑ์ส่วนใหญ่เน้นโทนสีขาวเป็นของ Cotto
ประตูกระจกใสกั้นส่วนอาบน้ำเป็นกระจกนิรภัย มีด้ามจับเป็นแบบแท่งอะลูมิเนียม ขอบบานประตูมีการติดยางกันกระแทกไว้ตามแนว
ภายในห้องน้ำ โครงการมาร์คจุดติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้ ฝักบัวที่โครงการมอบให้เป็นแบบธรรมดา
ภายใน Shower Box เมื่อเปิดประตูเข้าไปรัศมีประตูจะชิดกับผนังโซนอาบน้ำพอดีทำให้เข้า-ออกสะดวก พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.20x 0.7 ม. พร้อม Floor Drain แบบกันกลิ่น
รีวิวภายในห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตร.ม.
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นว่าฟังก์ชั่นการใช้งานถูกแบ่งเป็นสัดส่วน แตกต่างออกไปจากห้องตัวอย่าง 2 ห้องด้านบน โดยจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มเข้ามาในส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร
ประตูทางเข้าห้องเป็นบานสำเร็จรูป HDF โครง Hollow Care ลายไม้ ขนาด 90×200 ม. ที่บริเวณหน้าห้องแบ่งออกเป็นเคาน์เตอร์ครัว และชุดรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง โดยเหลือพื้นที่ตรงกลางกว้างประมาณ 1 ม.
บรรยากาศของชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่ง ผู้อาศัยสามารถวางโต๊ะกลางขนาดใหญ่กว่านี้โดยเหลือพื้นที่ให้เดินสบายๆ
พื้นที่เตรียมครัวสามารถยืนเตรียมครัวได้ถึง 2 คน จากพื้นที่ใช้สอยของห้องที่มากขึ้น
ถัดไปจากมุมรับประทานอาหารเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับมุมระเบียง
บริเวณเคาน์เตอร์ครัวโครงการกรุผนังเป็นกระเบื้องเซรามิกเคลือบเงาขนาด 15×30 ซม. เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ถัดมาจากห้องครัวเป็นประตูทางเชื่อมเข้าไปสู่ห้องนอน ประตูเป็นวัสดุเดียวกับประตูทางเข้าห้อง แต่มีความสูงน้อยกว่าที่ขนาด 80×200 ซม. เป็นประตูลูกบิดที่สามารถกดล็อคได้จากด้านในห้องนอน
ระยะห่างระหว่างที่นั่งโซฟาและชั้นวางทีวีมีความกว้างประมาณ 1.5 ม. สามารถวางโต๊ะกลางโดยเหลือพื้นที่ให้เดินเชื่อมต่อไปถึงระเบียงได้
จากภาพจะเห็นว่าชุดโซฟาเป็นขนาด 2 ที่นั่ง โดยทางขวามือจะเหลือพื้นที่อีกจนสามารถปรับเปลี่ยนชุดโซฟาประมาณ 3 ที่นั่งได้
พื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนพื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30×30 ซม. กั้นโซนด้วยประตูบานกระจกเขียวตัดแสงวงกบอะลูมิเนียม มีการยกสเต็ปขึ้นมาประมาณ ไม่เกิน 3 ซม. เพื่อกันน้ำจากระเบียงไหลเข้าห้อง
พื้นที่ระเบียงของห้องขนาด 30 ตร.ม. มีขนาดประมาณ 1.70×1.00 ม.
ฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาสำหรับห้องขนาด 30 ตร.ม. ก็คือ ประตูบานเลื่อนกั้นด้านนอกระเบียง ที่สามารถเปิดเข้า เปิดออกเพื่อรับลม หรือปิดไว้ในเวลาที่ฝนตกเพื่อป้องกันฝนสาดเข้ามาที่ระเบียง
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนจะแบ่งเป็นสองส่วนหลักๆ คือบริเวณพักผ่อน และส่วนของห้องน้ำที่อยู่ในตัวห้องนอน
จากภาพโครงการวางเตียงขนาด 5 ฟุต โดยยังเหลือพื้นที่เดินปลายเตียงได้ โครงการติดปลั๊กตามจุดสำคัญต่างๆ และติดตั้งปลั๊กสัญญาณฟรีทีวีให้ โดยห้องขนาด 30 ตร.ม. จะติดตั้งในห้องรับแขก และห้องนอน ถ้าเป็นห้องขนาด 21.5 ตร.ม. และห้องขนาด 24.5 ตร.ม. จะมีปลั๊กสัญญาณทีวีบริเวณส่วนรับแขกอย่างเดียวเท่านั้น
ตามแบบแปลนจะเห็นว่าพื้นที่ใช้สอยบริเวณ โต๊ะทำงานถูกดร็อปฝ้าออกไป ซึ่งผนังทางฝั่งขวามือจะเป็นช่องเก็บของที่เชื่อมต่อกับระเบียงของอีกฝั่งนั่นเอง
พื้นที่ที่ดร็อปเข้าไปของห้องในส่วนนี้ออกแบบให้อยู่มุมหน้าต่างเป็นบานกระจกเขียวตัดแสงความสูงจรดเพดาน โดยมีบานฟิกซ์ด้านล่าง 2 บาน และบานกระจกที่สามารถเปิดรับลมได้ ระหว่างนั่งทำงานจะสามารถเทควิวเมืองได้
ด้านล่างโต๊ะทำงานมีปลั๊กไฟเป็นของ Schneider และสายสัญญาณโทรศัพท์ที่โครงการมอบให้ทั้งในส่วนของห้องรับแขกและในส่วนนี้ โดยมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเป็นระบบสายเคเบิล (Docsis)
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องน้ำในตัว และตู้เสื้อผ้าทีเห็น เป็นเพียงไอเดียในการแต่งห้องเท่านั้น
บริเวณข้างเตียงเหลือพื้นที่สำหรับแต่งตัวได้สบายๆ โดยสามารถวางชั้นข้างเตียงได้ ซึ่งเตียงนอนที่โครงการจัดสรรไว้เป็นขนาด 5 ฟุตซึ่งหากเปลี่ยนเป็นขนาด 6 ฟุตก็ยังคงเหลือพื้นที่ข้างเตียงอยู่แต่อาจจะต้องนำชั้นข้างเตียงออกเพื่อความสะดวกในการใช้ตู้เสื้อผ้า และตู้เสื้อผ้าที่ใช้ควรเป็นแบบบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ใช้สอย
บรรยากาศภายในห้องน้ำมีขนาดกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โครงการมอบให้ทั้งอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ ฟังก์ชั่นที่เปลี่ยนไปของโถสุขภัณฑ์คือมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ใช้งานสะดวกขึ้นแตกต่างจากห้องขนาด 21.5 ตร.ม. และห้องขนาด 24.5 ตร.ม. ชัดเจน
ก๊อกน้ำที่โครงการมอบให้เป็นของ Prema เป็นก๊อกแบบผสมหมุนซ้าย ขวา สามารถติดเครื่องทำน้ำอุ่น เพิ่มได้
ฟังก์ชั่นของ Shower Box เป็นเหมือนกับห้องน้ำแบบห้องอื่นๆ มีชั้นวางของ และมาร์กจุดสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้เรียบร้อย
พื้นที่บริเวณที่อาบน้ำของห้องขนาด 30 ตร.ม. อาจดูเล็กไปหน่อยจากการไปเน้นพื้นที่ใช้สอยของโซนแห้ง แต่ก็เพียงพอให้อาบน้ำได้สบายๆ
พื้นห้องน้ำมีการดร็อปลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 10 ซม. เพื่อป้องกันน้ำไหลสู่ห้องนอน
รีวิวภายในห้อง 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม.
ห้องรูปแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตร.ม. ใช้บานประตูวัสดุ HDF ขนาด 90×200 ซม.ทางเดินเข้าห้องมีขนาดกว้างกว่าห้องแบบอื่นๆ โครงการจึงให้ไอเดียในการวางตู้เก็บรองเท้าไว้ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว
ฟังก์ชั่นของเคาน์เตอร์ครัวเป็นเหมือนแบบห้องอื่นๆ
ที่แตกต่างออกไปจากห้องอื่นๆ ก็คือพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น เคาน์เตอร์ครัวจึงมีขนาดยาวกว่าห้องแบบอื่นๆ ถัดไปเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น
พื้นที่เตรียมครัวมีขนาดกว้างกว่าอย่างเห็นได้ชัด เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันเป็นรุ่นเดียวกันกับห้องแบบอื่นๆ ผนังบริเวณครัวกรุด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 15×30 ซม. เคลือบเงา เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด
โครงการติดตั้งปลั๊กไฟหนึ่งจุดให้บริเวณเคาน์เตอร์ครัว
มองจากโต๊ะรับประทานอาหารจะเป็นประตูทางเชื่อมสู่ห้องนอนที่ 1 และห้องนอนที่ 2
พื้นที่ของโต๊ะรับประทานอาหาร เป็นชุดโต๊ะขนาด 4 ที่นั่ง จากพื้นที่สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งสำหรับปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อนฝูงก็ยังได้อยู่
ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างมาก สามารถจัดวางโซฟารูปตัวแอลได้เลย ด้านหลังม่านจะเป็นระเบียงขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น
ระเบียงของห้องขนาด 48 ตร.ม. มีฟังก์ชั่นเหมือนระเบียงของห้องขนาด 30 ตร.ม. คือมีบานกระจกสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ที่ด้านนอกมีที่กั้นตก และมีหน้าต่างบานกระจกเลื่อนที่สามารถเปิดรับลมได้
ด้านข้างระเบียงมีช่องเก็บของเหมือนฟังก์ชั่นระเบียงของห้อง 30 ตร.ม. แตกต่างกันที่ระเบียงมีขนาดใหญ่กว่า
มุมห้องด้านในสุดเป็นห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอนที่ 2
ประตูห้องนอนเป็นแบบลูกบิดทั้งหมด ประตูห้องนอนมีขนาด 80×200 ซม. เป็นวัสดุ HDF เหมือนสเปคห้องอื่นๆ
ภายในห้องนอนที่หนึ่งแบ่งออกเป็นเตียงนอน และมุมโต๊ะทำงาน
มุมโต๊ะทำงานที่เห็น โครงการตกแต่งไว้ให้เป็นไอเดียเท่านั้น
โครงการจัดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต โดยเหลือพื้นที่ให้เดินรอบเตียงได้สบาย หากเปลี่ยนไปใช้ทีวีแบบติดผนังจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 1.5 ม. ซึ่งกว้างมาก โครงการได้ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ให้สองจุดบริเวณห้องรับแขก และห้องนอนที่ 1 พร้อมช่องเสียบสายอากาศทีวีที่ห้องรับแขกและห้องนอนที่ 1 เช่นกัน
บริเวณมุมห้องมีบานหน้าต่างรูปตัวแอล ความสูงจรดเพดาน ซึ่งตามแบบแปลนห้องขนาด 48 ตร.ม.จะมีแปลนห้องอยู่บริเวณมุมของผังชั้น โครงการจึงออกแบบให้มีหน้าต่างมุมห้องเพื่อรับแสงธรรมชาติได้ทั้งสองทิศทาง
ห้องนอนที่ 2 โครงการจัดให้เป็นห้องนอนเดี่ยว โดยการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต จะเห็นว่าพอมีการปรับเปลี่ยนไซส์เตียงทำให้เหลือพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้นจนสามารถจัดมุมที่นั่งโซฟาเพิ่มได้เลย
โครงการจัดการส่วนของพื้นที่ใช้สอยที่เหลือให้เป็นมุมโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้า
มาที่ห้องน้ำจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับห้องน้ำของห้อง 30 ตร.ม. โดยห้องน้ำจะมีขนาดเล็กกว่า เพราะแปลนจะไปเน้นพื้นที่การใช้งานภายในห้องมากกว่า
Shower Box มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีฟังก์ชั่นการใช้งานทั่วไปเหมือนห้องน้ำของแบบห้องอื่นๆ
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ปัจจุบันทำเลย่านวงศ์สว่างจะมีไฮไลท์อยู่ที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ –เตาปูน) ที่วิ่งผ่านแนวถนนวงศ์สว่างตลอดเส้น และมีจุดเชื่อมต่อสำคัญบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบางซื่อ(Grand Station) ซึ่งการพัฒนาในละแวกนี้ส่งผลให้ความเจริญแผ่ขยายออกไปเป็นรัศมีกว้าง โดยพื้นที่ที่ได้รับอานิสงส์จากส่วนนี้หลักๆ ก็คือบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียงกับสถานีเตาปูน และสถานีบางซื่อ แบ่งออกเป็น4 สถานีสำคัญได้แก่ สถานีบางโพ สถานีรัฐสภา สถานีบางซ่อน (ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์) และสถานีวงศ์สว่าง
หากนับตังแต่ที่โครงการรถไฟฟ้าสายสำคัญต่างๆ บริเวณนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น จะเห็นว่าราคาที่ดินต่อตารางวาบริเวณบางซ่อน วงศ์สว่าง ติวานนท์ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 150,000 –170,000 บาท ณ ปัจจุบัน ซึ่งปรับขึ้นมาจากปีที่แล้วถึง 6-7 % หากสังเกตจากตัวโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ เองก็จะเห็นได้ชัดเวลาราคาเริ่มต้น ณ วันเปิดตัวกับราคาเริ่มต้นในปัจจุบันปรับขึ้นมาจากเดิมประมาณ 300,000 บาทได้
นอกจากโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาในพื้นที่นี้แล้ว ในอนาคตทำเลดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะได้รับการพัฒนาให้มีความเจริญยิ่งขึ้นไปอีกโดยเฉพาะโปรเจกต์ต่างๆ ของผู้ประกอบการแบรนด์ดัง ทั้งที่มีอยู่แล้วและกำลังทยอยเข้ามา ทั้งพื้นที่แนวรถไฟฟ้าเองหรือแนวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งถนนประชาราษฎร์ก็ตาม ซึ่งทำให้ย่านนี้มีความคึกคัก และมีความครบครันในการอยู่อาศัยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับขึ้นของราคาที่ดินเมื่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ เปิดให้บริการทั้งหมด ถึงแม้การปรับตัวของที่ดินจะไม่ได้มากเท่ากับแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบันอย่างสายสีเขียวทั้งเส้นสุขุมวิทและเส้นสีลมแต่ก็ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี ในขณะที่ดีมานด์ของโครงการในย่านนี้จะเป็นกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ซึ่งมักจะเป็นคนในพื้นที่ที่มีความคุ้นชิ้นกับทำเล และชื่นชอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่ในแนวสูง รวมไปถึงกลุ่มคนทำงานทั้งในพื้นที่และในเมือง เพราะจากโครงการสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปทำงานในเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็ว รวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนหน้าใหม่ที่เล็งเห็นศักยภาพของคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ในระดับราคาการลงทุนที่ไม่สูงจนเกินกำลัง เพื่อปล่อยเช่าให้กับคนในพื้นที่
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการ ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพ– นนทบุรี หรือบริเวณซอยกรุงเทพ– นนทบุรี 23 โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีบางซ่อนประมาณ 10 เมตร ซึ่งบริเวณนี้จะมีทางเดิน (Sky Walk) เชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงสถานีบางซื่อด้วย หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากสถานีบางซ่อนเพียง 1 สถานีจะเป็นสถานีบางซื่อหรือบริเวณที่เป็น Interchange ที่สามารถเชื่อมต่อไปยัง Airport Link พญาไทได้ใน 4 สถานี ดังนั้นภาพรวมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจากสถานีบางซ่อนสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (เตาปูน– บางใหญ่) โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต)รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ – ตลิ่งชัน)และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (บางซื่อ – ท่าพระ) รวมทั้ง Airport Rail Link (บางซื่อ – พญาไท) ในส่วนของบริการขนส่งมวลชนอื่นๆ ทั้งรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์คงไม่ต้องพูดถึง ด้วยความเป็นแหล่งชุมชนดั้งเดิมเดินออกมาจากหน้าโครงการก็มีป้ายรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ในรัศมีใกล้กับโครงการ
นอกจากเรื่องระบบขนส่งมวลชนแล้ว เส้นทางการคมนาคมทางรถยนต์เองบนถนนกรุงเทพ– นนทบุรีเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าการเดินทางโดยรถไฟฟ้า หากนับจากแยกวงศ์สว่างที่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 1 กม. สามารถเชื่อมต่อไปถนนสายสำคัญได้หลายสายหากมุ่งหน้ามาจากตัวโครงการบนถนนกรุงเทพ– นนทบุรี มาที่แยกวงศ์สว่างหากเลี้ยวซ้ายจะวิ่งไปบนถนนวงศ์สว่าง มุ่งหน้าไปยังสะพานพระราม 7 เข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์เชื่อมต่อเข้าสู่ฝั่งธนฯ ได้อย่างง่ายดาย หรือจากถนนวงศ์สว่างตรงมาสามารถเลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนประชาราษฎร์สาย 1ออกไปสู่ถนนราชวิถีแล้วเลี้ยวซ้ายก็สามารถออกไปยังศูนย์กลางเส้นทางคมนาคมกิโลเมตรที่ศูนย์บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้
โดยอีกหนึ่งเส้นทางสำคัญจากแยกวงศ์สว่างฝั่งถนนกรุงเทพ– นนทบุรี หากเลี้ยวขวาจะวิ่งไปบนถนนรัชดาภิเษก และสามารถเชื่อมต่อไปยัง ย่านธุรกิจ บริเวณรัชดาภิเษกได้ในระยะ 10 กม. โดยมีทางพิเศษศรีรัชเป็นทางเลือกในการเดินทาง โดยจุดขึ้น-ลงทางด่วนอยู่ห่างจากโครงการประมาณ2.2 กม. หากกลับรถหน้าโครงการวิ่งตรงลงมาก็จะมุ่งเข้าถนนประชาราษฎร์สาย 2 มุ่งหน้าไปยังถนนพระราม6 ได้
และเส้นทางสุดท้ายจากแยกวงศ์สว่าง หากมุ่งหน้าตรงขึ้นไปจากถนนกรุงเทพ– นนทบุรี ก็สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนติวานนท์ทางฝั่งขวา และวิ่งเข้าถนนนครอินทร์ทางฝั่งซ้ายข้ามสะพานพระราม 5 เข้าไปสู่ถนนราชพฤกษ์ได้ ซึ่งมีระยะทางโดยรวมประมาณ10 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีสำหรับในช่วงการจราจรปรกติซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังจุดสำคัญของกรุงเทพมหานครได้อย่างสบาย
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่ต้องเป็นห่วง บริเวณนี้มีร้านค้า ร้านอาหารกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ เพราะนอกจากจะเป็นย่านชุมชนอยู่อาศัยแล้ว บริเวณโดยรอบโครงการยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นคือสำนักงานใหญ่ของเครือ SCG และ คาดว่าในอนาคตบริเวณจุดที่เป็นทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเข้ามาอีกเรื่อยๆ รวมไปถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ใกล้โครงการ อาทิ ตลาดสดบางซ่อน (ห่างจากโครงการ 300 ม.) สยาม ยิปซี มาร์เก็ต (ห่างจากโครงการ 300 ม.) หรือไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่างบิ๊กซี วงศ์สว่างที่ตั้งอยู่บริเวณแยกวงศ์สว่างห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กม. รวมไปถึงเทสโก้ โลตัส วงศ์สว่างในระยะ 1.4 กม.โดยในระยะรัศมี ไม่เกิน 6-7 กม. สามารถมุ่งหน้าไปยังบนถนนรัชดาภิเษกออกไปสู่ย่านไลฟ์สไตล์อย่างรัชโยธิน – ลาดพร้าวอาทิ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และสวนจตุจักรได้หรือหากมุ่งตรงไปยังถนนรัตนาธิเบศร์ไปสู่เดอะมอลล์ งามวงศ์วานในระยะทางประมาณ 4.4 กม.
นอกจากนี้ ที่โครงการเองก็มีร้านสะดวกซื้อ Max Valu ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม. ด้วยในขณะที่สาธารณูปโภคที่สำคัญที่ตั้งอย่ในรัศมีรอบโครงการประกอบไปด้วย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น โรงพยาบาลพิชัยยุทธ ในเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รอบโครงการจึงเรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตและการทำงานให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุ
การเดินทาง
การเดินทางแยกเป็น 3เส้นทางหลักๆ ที่เชื่อมโยงไปยังโครงการ
เส้นทางจากถนนพระรามที่ 2
หากนับตั้งแต่บริเวณแยกพระราม 2 เส้นทางที่มาถึงโครงการได้เร็วที่สุดคือถนนสุขสวัสดิ์ ให้มุ่งหน้าไปยังทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยอยู่ห่างจากแยกพระราม2 ประมาณ 2.5 กม. จากนั้นให้มุ่งตรงขึ้นไปข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาและเบี่ยงซ้ายเชื่อมต่อไปยังทางด่วนพิเศษศรีรัช จากนั้นมุ่งตรงยาวๆ ไปลงที่ทางออก น.2 – 08 ถนนรัชดาภิเษก (สี่แยกประชานุกูล – ถนนวิภาวดีรังสิต)และตรงไปอีกประมาณ 500 ม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก ตรงไปอีก 200 ม. ให้เบี่ยงซ้ายเลี้ยวเข้าสู่ถนนประชาชื่น ตรงมาเรื่อยๆ อีกประมาณ 1 กม. ให้สังเกตทางขวามือจะเจอซอยเพิ่มทรัพย์ให้เลี้ยวขวาเข้าซอย ตรงออกไปยังถนนกรุงเทพ– นนทบุรี จากปากซอยเพิ่มทรัพย์ ถนนจะบังคับให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางและรีบเบี่ยงขวาเพื่อกลับรถ เมื่อกลับรถมาตรงไปอีกไม่เกิน 200 ม.ก็จะพบกับโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางจากถนนราชพฤกษ์
ถนนราชพฤกษ์เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สามารถเดินทางไปยังโครงการได้ไม่ยาก จากถนนราชพฤกษ์ให้มุ่งหน้าไปยังวงเวียนพระราม 5 และเลี้ยวขวาตามป้ายออกไปยังถนนพระราม 5 ตรงไปประมาณ 5 กม. ให้ขึ้นสะพานพระราม 5 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา และวิ่งตรงไปบนถนนนครอินทร์อีกประมาณ 1.6 กม. ให้เตรียมเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนกรุงเทพ– นนทบุรี ในชั่วโมงเร่งด่วนบริเวณแยกถนนประชาราษฎร์ ถนนนครอินทร์ และถนนกรุงเทพ– นนทบุรี มีการจรากรหนาแน่นพอสมควร การจราจรจะมาคลายตัวอีกทีบริเวณแยกวงศ์สว่าง จากแยกวงศ์สว่างให้ตรงข้ามแยกมาอีกประมาณ 1.4 กม. จะเจอทางกลับรถ ให้กลับรถและเบี่ยงซ้ายเพื่อเตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวโครงการ
เส้นทางจากถนนลาดพร้าว
บริเวณถนนรัชดาภิเษก – ลาดพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สามารถเดินทางมายังโครงการได้สะดวก แม้จะมีการจราจรที่คับคั่งตลอดทั้งวัน จากแยกลาดพร้าวให้มุ่งตรงมายังถนนรัชดาภิเษกผ่านแยกรัชโยธิน
ตรงไปอีกประมาณ 3 กม. จะพบกับแยกประชาชื่นให้มุ่งหน้าไปตามถนนรัชดาภิเษก อีกประมาณ 1 กม. ให้เตรียมเบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนกรุงเทพ– นนทบุรีที่แยกวงศ์สว่าง จากนั้นตรงมาอีกประมาณ 1.4 กม.จะเจอทางกลับรถเข้าสู่โครงการ
สถานที่ไลฟ์สไตล์
แหล่งไลฟ์สไตล์บริเวณรอบๆ โครงการมีอยู่หลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งประชาชื่น ฝั่งริมแม่น้ำบริเวณถนนประชาราษฎร์ ขยับออกมาไม่ไกลก็จะเป็นโซนรัชโยธิน – ลาดพร้าว ทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้สามารถเลือกสถานที่แฮงค์เอาท์ที่มีความหลากหลายได้ตามต้องการ โดยสามารถเดินทางมาได้ทั้งรถไฟฟ้า รถยนต์ หรือขนส่งมวลชนสาธารณะอื่นๆ ได้
ตลาดสดบางซ่อน 300 ม.
สยาม ยิปซี มาร์เก็ต 300 ม.
บิ๊กซี วงศ์สว่าง 1.3 กม.
เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น1.8 กม.
เมเจอร์รัชโยธิน 5.3 กม.
เซ็นทรัล ลาดพร้าว 6.6 กม.
ยูเนี่ยนมอลล์ 7 กม.
สวนรถไฟ 7.5 กม.
สวนจตุจักร7.5กม.
สถานที่แฮงค์เอาท์
นอกจากห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต แล้วย่านนี้ยังมีแหล่งแฮงค์เอาท์ชื่อดังที่เป็นจุดรวมตัวของนักศึกษาตลอดจนวัยทำงาน ซึ่งประกอบไปด้วย
Lizm ห่างจากโครงการ 1.8 กม
โอยั๊วะ ริเวอร์เทอเรส ห่างจากโครงการ 3.3 กม.
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
โดยรวมพื้นที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบางซ่อนหรือย่านวงศ์สว่างเป็นเสมือนทำเลทองแห่งใหม่ นับตั้งแต่มีการ สร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – เตาปูน) ด้วยอานิสงส์ของเส้นทางการเชื่อมต่อไปยัง Grand Station ที่สถานีบางซื่อ ที่ห่างจากสถานีบางซ่อน ซึ่งเป็นที่ตั้ง โครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ เพียงหนึ่งสถานี พื้นที่บริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ จากผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ หากนำไปเปรียบเทียบกับโครงการติดรถไฟฟ้าโครงการอื่นๆ โครงการนี้อาจอยู่ในเรทที่แพงกว่าในระยะสถานีที่เชื่อมต่อไปยังตัวเมืองพอๆ กัน แต่ด้วยระดับความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้ที่มีกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมทั้งย่านบางซื่อ บางซ่อนและเตาปูน จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ยูนิตรวมของจำนวนห้องชุดบริเวณนี้จะอยู่ที่ 10,000 ต้นๆ ยูนิต โดยโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่างจะได้เปรียบในเรื่องการเดินทางที่อยู่ติด กับสถานีรถไฟฟ้าบางซ่อนดังนั้นกลุ่มเป้าหมายหลักก็คือคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ติดกับรถไฟฟ้า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงไม่ใช้รถเป็นทุนเดิมและมีชีวิตประจำวันอยู่กับรถไฟฟ้า ซึ่งหากผู้ที่อยู่อาศัยมีจุดประสงค์และไลฟ์สไตล์ตรงตามที่กล่าวมาข้างต้น การซื้อห้องชุดในโครงการนี้จะคุ้มค่าอยู่ หรือหากเป็นการปล่อยเช่า ก็มีแนวโน้มที่ดี ทั้งนี้อาจจะต้องหาจุดขายให้กับห้องของตัวเอง เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้เช่าให้ตัดสินใจเลือก ท่ามกลางการแข่งขันที่ถือว่าค่อนข้างสูงในย่านนี้
แต่หากมองในส่วนของการซื้อมาแล้วขายไปก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกำไร จากมูลค่าที่ดินในย่านนี้ที่มีแนวโน้มขึ้นทุกปีประมาณ 6-7% อาจจะไม่มากแต่ในอนาคตก็ต้องมีราคาปรับขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนในเรื่องของการซื้อเพื่ออยู่เองก็ต้องมองในเรื่องของวัสดุ ส่วนกลางต่างๆ ที่โครงการมอบให้ ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มีคุณภาพได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ดังนั้นสรุปสั้นๆ ได้ว่า กลุ่มคนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการเลือกโครงการนี้ก็คือพนักงานระดับเงินเดือนประมาณ 50,000 บาทที่มีกำลังจ่ายค่างวดที่ประมาณ 16,000 บาทถึง 30,000 บาท และชอบการใช้ชีวิตแนวรถไฟฟ้าที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
แอสไปร์ รัชดา – วงศ์สว่าง (Aspire Ratchada-Wong Sawang)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: บางซื่อ
รูปแบบ: คอนโด High Rise 27 ชั้น 1,232 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต
พื้นที่โครงการ : 5-2-96.5 ไร่
ที่จอดรถยนต์: 40% (รวมจอดซ้อนคัน)
ราคาเริ่มต้น: 2.65 ล้านบาท
เดอะ สเตจ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (The Stage Taopoon Interchange)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
ที่ตั้ง: ถนนประชาราษฎร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม.
พื้นที่โครงการ: 3-3-84.9 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 36 ชั้น 773 ยูนิต
ราคาเริ่มต้น: 2.89 ล้านบาท
ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ (Chewathai Residence Bang Pho)
เจ้าของโครงการ: ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้ง: ถ.ประชาราษฏร์ สาย 2 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ: 1-1-94.3 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม High Rise 1 อาคาร 24 ชั้น 172 ยูนิต
ที่จอดรถ: 80% รวมจอดซ้อนคัน
ราคาเริ่มต้น: 3.9 ล้านบาท
ภาพรวมของตลาดในบริเวณนี้ ถือว่าโครงการไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ มีความโดดเด่นจากการดีไซน์ตัวอาคาร พร้อมกับจุดเด่นที่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 10 ม. หากชีวิตประจำวันไม่ต้องใช้รถก็ถือว่าเหมาะสมที่จะหยิบโครงการนี้เข้ามาอยู่ในลิสต์สำหรับการเลือกหาที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าในย่านวงศ์สว่าง ในเรื่องของที่จอดรถแม้จะมีเพียง 36% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คงไม่ใช่ประเด็นที่น่าหนักใจ กับคอนโดมิเนียมที่ถูกออกแบบฟังก์ชั่นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ มาถึงในเรื่องของราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาทหรือราคาเฉลี่ย 120,000 บาทต่อตร.ม. ถือว่าเป็นราคาที่แรงอยู่ แต่ถ้าเทียบระยะห่างจากรถไฟฟ้าที่เรียกว่าแทบจะติดเลยก็ว่าได้ ระดับราคาที่สูงขึ้นแลกกับความสะดวกสบาย ในแบบที่ไม่ต้องเดินหรือนั่งรถหลายต่อถือเป็นเรื่องที่ดีมาก หากมองในมุมกลับกัน การที่โครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า และอยู่ห่างจากสถานีใหญ่อย่างบางซื่อ ที่จะเป็น Grand Station ในอนาคต จะเป็นอานิสงส์ที่ผลักดันให้มูลค่าของโครงการนี้ถีบตัวสูงขึ้นไป เมื่อเวลาผ่านไปและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมใช้งาน
หากมองภาพรวมของโครงการทั้งหมด และวิเคราะห์ออกมาเป็น SWOT จะสามารถแยกได้ออกเป็นจุดแข็งหลักๆ ของโครงการก็คือ ทำเลที่ตั้งโครงการและชื่อเสียงของแบรนด์ที่เพียงได้ยินชื่อก็รู้เลยว่าโครงการนี้ต้องอยู่ในระยะเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าได้แน่นอน และมันก็จริงยิ่งกว่านั้น เพราะสถานีรถไฟฟ้าแทบจะอยู่ติดกับโครงการเลย แต่ถึงแม้โครงการจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก โดยจุดอ่อนหลักๆ ของโครงการ หากมองในแง่ของคนที่ต้องการความสะดวกสบายครบคัน ก็คงเป็นเรื่องของที่จอดรถที่มีเพียง 36% กับยูนิตที่พักที่มีมากถึง 563 ยูนิต แต่ในแง่ของคนที่มีชีวิตประจำวันเกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มาถึงในแง่ของโอกาส(Opportunities) แน่นอนว่าศักยภาพทำเลที่ดีจะนำมาซึ่งความเจริญในอนาคต จุดเชื่อมต่อของเส้นทางคมนาคมที่ใกล้กับถนนสายสำคัญหลายเส้น รวมไปถึงทางด่วนศรีรัช และGrand Station สถานีบางซื่อซึ่งเมื่อเปิดให้บริการจริงจะส่งผลดีต่อมูลค่าโครงการ รวมไปถึงดีมานด์ที่กำลังจะทะลักเข้ามาจากเส้นทางการเชื่อมต่อที่แสนสะดวกสบาย ส่วนสุดท้ายในเรื่องของอุปสรรคคงหนีไม่พ้นตลาดคอนโดมิเนียมบริเวณแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – เตาปูน) ที่เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ซึ่งปัจจับันน่าจะมีซัพพลายรวมกว่า 10,000 ยูนิตจากข้อมูลข้างต้น การที่มีซัพพลายที่มากเกินไปอาจทำให้ราคาไม่โตเท่าที่ควร เพราะผู้ซื้อมีตัวเลือกเยอะ เหล่าผู้ประกอบการจึงต้องงัดกลยุทธ์ในการดึงดูดใจให้คนมาซื้อโครงการของตน และการที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงกำลังจะเปิดให้บริการในเร็ววันนี้ ยิ่งเป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าแผนการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ดีเวลลอปเปอร์เคยเคลมไว้เมื่อ 1-2 ปีก่อนตอนโครงการเปิดตัวใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้นจริง และเป็นความสะดวกสบายที่สามารถจับต้องได้ในเร็วๆ นี้
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
พาร์ค 168 นพรัตน์ รามอินทรา (Park 168 Nopparat Ramindra) จาก บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) คอนโดมิเนียม High Rise 25 ชั้น 3 อาคาร ห้องชุดพักอาศัยรวม 1,224 ยูนิต อาคารจอดรถและสระว่ายน้ำ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร แต่ละอาคารมีห้องพักอาศัยเพียงอาคารละ 408 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีนพรัตนราชธานี ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
คาราเพช หัวหิน-เขาเต่า (CARAPACE Huahin-Khaotao) คอนโด Low Rise สไตล์รีสอร์ต อยู่ติดชายหาดเขาเต่า ไม่ไกลจากถนนเพชรเกษม สามารถสร้าง Passive Income จากการลงทุนที่โครงการการันตีผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี รวมรับผลตอบแทนต่อเนื่อง 15 ปี ในราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท
ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 50 อาคาร อาคารที่จอดรถสูง 8 ชั้น 6 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัยรวม 10,074 ยูนิต และร้านค้า 7 ยูนิต ตกแต่งแบบ Fully Fitted ราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาท
