ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
อ่านต่อ ⋅ 11 พฤษภาคม 2022
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ปัจจุบันการขึ้นคอนโดมิเนียมในตัวเมือง นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากพื้นที่ที่มีจำนวนจำกัด และราคาที่ดินที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบริเวณทำเลอโศก – รัชดา ที่มีดีมานด์ในที่อยู่อาศัยระดับปรอทแดง จากทำเลที่เป็นที่กระจุกตัวของแหล่งธุรกิจ และมีแนวโน้มในการลงทุนของเมกะโปรเจคมากมาย ซึ่งในอนาคตพื้นที่ตรงนี้อาจกลายเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่ดึงดี มานด์ของคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยเข้ามาเพิ่มจนจำนวนซัพพลายไม่สามารถรองรับ ได้ในบริเวณนี้ ซึ่งหากดีเวลลอปเปอร์ต่างๆไม่ได้มีที่ดินที่ซื้อเก็บไว้บริเวณนี้ โอกาสที่จะเข้ามาตีตลาดบริเวณพระราม 9 – รัชดาบนจุดที่เป็นทำเลไข่แดงก็ยากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังมีผู้ประกอบการอยู่หนึ่งรายที่มีแลนด์แบงก์บนทำเลนี้กับโครงการ “เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา” ซึ่งพัฒนาโดย อารียา พรอพเพอร์ตี้ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์มากว่า 15 ปี สร้างคอนโดมิเนียมโครงการที่ผ่านมาและได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ด้วยคอนเซ็ปต์ที่มีความแตกต่างจากโครงการทั่วไป โดยเฉพาะโครงการใหม่ที่มีจุดเด่นที่เน้นธรรมชาติในตัวเมือง พร้อมกับที่จอดรถอัตโนมัติ ซึ่งโครงการนี้จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากโครงการทั่วไปอย่างไร ทำเลของโครงการจะส่งผลให้โครงการมีความสนใจแค่ไหน วันนี้ DDproperty จะมาเจาะลึกข้อมูลให้ดูกัน
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: ไอดี อโศก-รัชดา (I.D. Asoke – Ratchada)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน): A
ทำเลที่ตั้ง: ถนนดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: http://www.areeya.co.th
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2559)
พื้นที่โครงการ: 2 ไร่ 1 งาน 83.70 ตร.ม.
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ความสูง 29 ชั้น จำนวน 543 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: ระดับกลางจนถึงกลุ่มผู้บริหาร
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างประมาณ พ.ย. 57
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ปี 2559
ระบบความปลอดภัย: Key Card Access พร้อมระบบกล้องวงจรปิด
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสารในอาคารที่พักอาศัย 3 ตัว
สถานะการขาย: 60%
ค่ากองทุนส่วนกลาง 450 บาทต่อตร.ม. (ชำระครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าส่วนกลาง: 45 บาทต่อตร.ม.
ที่จอดรถ: ที่จอดรถอัตโนมัติ 106 คัน อาคารจอดรถ 112 คัน หรือประมาณ 40% ของโครงการ (ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ราคาเริ่มต้น: 3.69 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: เริ่มต้น 110,000 บาทต่อตร.ม.
รูปแบบห้อง
1 ห้องนอน แบบ Idealist Type A ขนาดประมาณ 33 ตร.ม.
1 ห้องนอน แบบ Identity Type B ขนาดประมาณ 33 ตร.ม.
2 ห้องนอน แบบ Idyllic Type A ขนาดประมาณ 66.86 ตร.ม.
2 ห้องนอน แบบ Idea Type B ขนาดประมาณ 72.10 ตร.ม.
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการเป็นอาคารสูง 29 ชั้น ส่วนของตึกที่เป็นสีดำที่เห็นเป็นในส่วนของพื้นที่จอดรถอัตโนมัติและ Facilities ส่วนยูนิตพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 2 (สังเกตจากช่วงอาคารที่เป็นสีขาว) ซึ่งความสูงจริงจะเทียบเท่าประมาณชั้นที่ 11 ของอาคารปกติ
สระว่ายน้ำ Free Form ระบบเกลือขนาดประมาณ 5×30 ตร.ม. โดยรอบเป็นสวนส่วนกลางสามารถพัตต์กอล์ฟได้ ส่วนกลางนี้ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคาร มีรั้วโครงการกั้นมิดชิดความสูงประมาณ 3 ม. บดบังสายตาจากคนภายนอก
โครงการ เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์สูง 29 ชั้น โดยมีจุดเด่นที่ระบบจอดรถอัตโนมัติ หรือ Mechanical Parking ที่กินพื้นที่ตั้งแต่ชั้น G ไปประมาณ 10 ชั้น ซึ่งความสูงตรงนี้จะเทียบเท่ากับว่า อาคารนี้เสมือนตึกสูงประมาณ 40 ชั้นเลยทีเดียว โดยอานิสงส์ตรงนี้ก็คือห้องพักอาศัยบนชั้น 2 ของโครงการ ก็เทียบเท่าประมาณชั้น 10-11 ของโครงการอื่นๆแล้ว
สำหรับส่วนกลาง โครงการจัดมาให้ครบถ้วน ในตัวอาคารเริ่มตั้งแต่ชั้นแรกก็จะเป็น Lobby ดีไซน์แบบ Double Volume สูงโอ่โถง พร้อมชุดโซฟารับแขก, เล้านจ์ที่ประกอบไปด้วยโซนนั่งเล่นพักผ่อนและห้องสมุด โดยภายในอาคารชั้นแรกจะมีประตูทางเชื่อมจากที่จอดรถอัตโนมัติเข้ามาสู่ Lobby ด้วยกัน 4 ประตูหรือจำนวนเท่ากับจำนวนล็อคที่นำรถเข้าจอด ถัดจากชั้น Lobby ขึ้นมาจะเป็นชั้น M1 ซึ่งมีห้องฟิตเนส ห้องน้ำและห้องประชุม ถัดขึ้นมาอีกชั้น จะเป็นชั้น M2 ซึ่งจะมีห้องซาวน่า สตีมแยกหญิง-ชาย ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องอาบน้ำ และร้านซักรีด สำหรับสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง จะอยู่บริเวณด้านนอกอาคาร โดยสระว่ายน้ำเป็นแบบ Free form ระบบเกลือ ขนาดประมาณ 5×30 ม. พร้อมห้องอาบน้ำ และมีสวนหย่อมอเนกประสงค์ที่สามารถไดรฟ์กอล์ฟได้ไปในตัวด้วย ซึ่งตรงนี้ถึงแม้จะถูกจัดสรรให้อยู่ด้านนอกแต่ก็มีรั้วโครงการกั้นมิดชิด ปลอดจากสายตาคนภายนอก และพื้นที่สีเขียวโดยรวมของโครงการครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 1 ไร่ หรือคิดเป็นพื้นที่มากกว่า 40% ขอเนื้อที่โครงการ
ในส่วนของชั้นพักอาศัย โครงการการออกแบบด้วยแนวคิดที่เน้นตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนสมัยใหม่ การออกแบบฟังก์ชั่นห้องให้แตกต่าง โดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันของผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงความเป็นธรรมชาติภายในโครงการ จะเห็นได้จากการออกแบบตัวอาคารที่เน้นความโปร่งโล่ง เน้นการใช้บานหน้าต่างและบานกระจกในจุดต่างๆ ทั้งในพื้นที่ส่วนกลางและภายในห้องพัก เป็นแบบที่มีความสูงจากพื้นจรดเพดาน จึงทำให้แสงและกระแสลมธรรมชาติผ่านเข้ามาในตัวตึกได้มากขึ้น และมีช่องชาร์ปเปิดโล่งบริเวณหน้าห้องพัก เพื่อช่วยในเรื่องของการระบายอากาศมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บางชั้นยังมีมุมสวนพักผ่อน Vertical Garden สามารถออกไปยืนรับลมหรือนั่งเล่นได้ โดยกินพื้นที่ความสูงประมาณ 4 ชั้น สำหรับด้านหน้าห้องพัก ถือเป็นจุดที่ออกแบบได้แตกต่างจากคอนโดมิเนี่ยมอื่นๆ เน้นในเรื่องของการเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับแต่ละยูนิต โดยหน้าห้องพักได้ถูกออกแบบให้มีประตู 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นรั้วเปิด-ปิด ก่อนเข้าห้อง ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนมีชานส่วนตัวก่อนเดินเข้าบ้าน และโถงทางเดินเข้ายูนิต ตกแต่งด้วยต้นไม้จำลองสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานทั้งสองฝั่ง ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูสดชื่น
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ณ วันที่เข้ารีวิว ยังอยู่ระหว่างการตกแต่งในขั้นตอนสุดท้าย บางส่วนจึงอาจจะยังดูไม่สวยงาม 100% ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือนมิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงานก่อสร้างอาคารและห้องพักอาศัยแล้วเสร็จ เริ่มทยอยส่งมอบให้แก่ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย
ล็อบบี้ด้านล่างตกแต่งสไตล์โมเดิร์น หรูหราโอ่อ่าด้วยพื้นจรดเพดานสูงประมาณ 7.65 ม.
ที่นั่งล็อบบี้มีหน้าจอแสดงผลการจัดเก็บและนำส่งรถของระบบจอดรถอัตโนมัติ ว่าลงมาถึงชั้นล่างแล้วหรือยัง สามารถนั่งรอและดูจากตรงนี้ได้
ถัดจากโถงล็อบบี้มีเล้านจ์สำหรับพักผ่อน หรือรอรับรถจากระบบจอดรถอัตโนมัติ ซึ่งภายในส่วนนี้จะมีจอแสดงผลให้อีก 1 จุด
ด้านในมีการจัดฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนโดยการให้ห้องสมุดอยู่ด้านในสุดของเล้านจ์ เพิ่มความเป็นส่วนตัว
ถัดจากเล้านจ์จะเป็นโถงเชื่อมสู่ประตูทางเข้า-ออกล็อบบี้ จากบริเวณที่จอดรถอัตโนมัติ
ฝั่งตรงข้ามเล้านจ์จะเป็นส่วนของลิฟท์โดยสาร โครงการจัดสรรให้การเข้าโถงลิฟท์ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออกเพื่อความปลอดภัย มีจำนวนลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
ฟิตเนสอยู่บริเวณ ชั้น M1 ซึ่งเป็นชั้นลอยขึ้นมาจากล็อบบี้ วิวของฟิตเนสหันออกไปทางวิวที่เป็นส่วนกลางสระว่ายน้ำและสวนของโครงการ
บรรยากาศภายในห้องประชุม
บริเวณยูนิตที่พักอาศัย โครงการตกแต่งให้มีมุมสวนพักผ่อนบนอาคาร เป็นลักษณะเป็นระเบียงด้านนอก โดยมีความสูงคาบเกี่ยวสี่ชั้นของยูนิตที่พักอาศัย ซึ่งกำลังจะมีการจัดตกแต่งพื้นที่ให้ในขั้นต่อไป
ภาพรวมของสวนระหว่างชั้น
ทางเดินหน้าห้องพักออกแบบพิเศษในคอนเซ็ปต์ Refreshing Corridor ที่มาพร้อมกับสวนแนวตั้งตลอดสองข้างทางในพื้นที่ที่กว้างประมาณ 2.5 เมตร
Master Plan
จาก Master Plan จะเห็นได้ว่า พื้นที่โครงการ เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา จะอยู่ติด ถ.ใหญ่ (ถ.ดินแดง) ตัวอาคารถูกจัดวางให้ห้องพักหันในทิศเหนือ-ใต้ โดยด้านหน้าอาคารจะเป็นทิศใต้ ความยาวที่ดินประมาณ 80 เมตร ฝั่งทิศเหนือ จะถัดกับ South Tower A ของโครงการ เอ สเปซ อโศก โดยมีความยาวที่ดินประมาณ 70 เมตร ฝั่งทิศตะวันออกจะเป็นลำรางสาธารณประโยชน์ โดยมีความยาวที่ดินประมาณ 60 เมตร และฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นอาคารจอดรถ โดยมีความยาวที่ดินประมาณ 70 เมตร
Unit Layout
Layout ของทั้ง 2 Type ทั้งแบบหนึ่งห้องนอนและสองห้องนอน พื้นที่ใช้สอยไม่แตกต่างกันมาก แต่จะแตกต่างกันที่การวางตำแหน่งห้องน้ำ โดยโครงการจะออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ตรงกลางเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย และออกแบบให้ห้องน้ำอยู่ชิดมุมหรือผนังในรูปแบบห้องนอนปกติให้ผู้อยู่อาศัยสามารถออกแบบไอเดียในการตกแต่งได้อย่างเต็มที่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ล็อบบี้ โถงล็อบบี้สูงโปร่งแบบ Exclusive Volume Space
สระว่ายน้ำ Freeform พร้อมจากุซซี่
Sky High Garden เทอเรซพักผ่อนริมสระและลานซ้อมพัตต์กอล์ฟ
สวน Vertical Garden มุมสวนพักผ่อนบนอาคาร และพื้นที่สีเขียวกว่าครึ่งของโครงการ
ห้องซาวน่าและสตีมพร้อมห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ห้องฟิตเนส
ห้องสมุด
ห้องประชุมอเนกประสงค์
Exclusive Foyer ส่วนตัวหน้าห้อง
ตู้จดหมายส่วนตัวหน้าห้อง
ระบบจอดรถอัตโนมัติภายในอาคาร
ลานซ้อมพัตต์กอล์ฟ
ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงพร้อม CCTV
ร้านค้าบริเวณชั้นล่างของอาคาร
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: พื้นลามิเนตหนา 12 มม.
ผนัง: ฉาบเรียบสีขาว
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.6 ม.
เฟอร์นิเจอร์: เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted ประตูห้องพักติดตั้งอุปกรณ์ Digital Door Lock ของ Samsung, เคาน์เตอร์ครัวบิลท์อิน, Hob & Hood, ตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อิน, เครื่องปรับอากาศ, ไฟดาวน์ไลท์ และสุขภัณฑ์
เครื่องปรับอากาศ: 2 เครื่อง เป็นของ Panasonic แบบ Wall -Type ขนาด 9,000 BTU
สุขภัณฑ์: American Standard
ชุดครัว: : เคาน์เตอร์ครัว บิลท์อิน ของแบรนด์ Lixil ซึ่งเป็นแบรนด์ของญี่ปุ่น พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัวเตาและฮูดดูดควันของ Teka อ่างซิ้งค์ของ American Standard
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้อง 1 ห้องนอน แบบ Idealist Type A ขนาด 33 ตร.ม.
ยูนิตต่างๆ ของโครงการมีชานห้องส่วนตัวยื่นออกมาเป็น Foyer จากประตูห้อง พร้อมมีรั้วกันเป็นประตูโครงเหล็กแบบเปิดออกมาข้างนอก ด้านในรั้วจะมีเก้าอี้อเนกประสงค์และชั้นเก็บรองเท้า การเข้า-ออกประตูสำหรับห้องจริงที่ลูกค้าได้รับเป็นระบบคีย์การ์ดและกดรหัสผ่าน
Mail Box ประจำห้องพักทุกห้องบริเวณ Foyer พร้อมบริการจัดส่งถึงตู้ในแบบ Exclusive
ภายในห้องพักของ Type A นี้ layout ห้องจะเน้นความเป็นสัดส่วนของพื้นที่ เมื่อเปิดห้องเข้ามาจะพบกับห้องรับแขก โดยจัดวางให้ห้องน้ำอยู่ระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน เพื่อให้ 2 พื้นที่นี้เป็นอิสระจากกัน เพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้อยู่อาศัยในเวลาที่มีเพื่อนๆ หรือญาติมาหา
สำหรับพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่งได้โดยยังเหลือพื้นที่ให้เตรียมครัว ด้านในจะเป็นประตูบานเลื่อนแบบสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะเป็นทางเดินเข้าสู่ห้องน้ำ และอีกทางจะเป็นทางเชื่อมสู่ห้องนอน สามารถเลื่อนเปิด-ปิดเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องนอนได้ พื้นห้องทั้งในส่วนนั่งเล่นและห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 12 มม.
ฝั่งตรงข้ามโซฟาออกแบบให้เป็นชั้นวางทีวีและพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นในส่วนนี้หากใช้ทีวีแบบแขวนผนังสามารถเปลี่ยนทีวีเป็นขนาด 60 – 70 นิ้วได้ โดยยังเหลือพื้นที่บนผนังเหลือๆ และยังอยู่ในระยะที่สบายตาจากตำแหน่งโซฟาที่นั่งของอีกฝั่งห้อง
บริเวณเคาน์เตอร์ครัว จะอยู่ข้างประตูเข้าห้อง โดยเคาน์เตอร์ครัวที่โครงการมอบให้เป็นแบบบิลท์อิน ทอปเป็นหินสังเคราะห์ ส่วนบานตู้และลิ้นชักเป็นวัสดุ Hi-gross ทำความสะอาดง่าย ชุดครัวที่ให้มี่ทั้งซิงค์ล้างจาน Hob & Hood โครงการเดินงานระบบประปาไฟฟ้าไว้ให้เรียบร้อย และมีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าด้วย
ทางเชื่อมเข้าสู่ห้องนอน ทางด้านขวามือจะเป็นประตูเข้าห้องน้ำอีกฝั่งที่โครงการออกแบบให้เป็นทางเข้าห้องน้ำสองทาง ซึ่งห้องจริงก็จะเป็นฟังก์ชันห้องน้ำนี้เหมือนกัน ส่วนด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าที่จะได้รับจากโครงการเลย
ห้องน้ำมีการกั้นโซนเปียก โซนแห้งชัดเจน ประตูบานกระจกกั้นเป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัว แนวกำแพงเสริมดีไซน์ด้วยกระเบื้องโมเสค (ห้องจริงที่ได้รับเหมือนกับห้องตัวอย่าง)
ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ นอกจากฝักบัวแล้ว ทางโครงการได้ติดตั้ง Rain shower แบบฝังฝ้าไว้ให้ด้วย พร้อมเดินงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ด้านบนมีเครื่องดูดอากาศ
ส่วนอ่างล้างหน้าเป็นแบบบิลท์อิน พร้อมสุขภัณฑ์แบรนด์ American Standard
โถสุขภัณฑ์ถูกตั้งบริเวณที่มีความเป็นส่วนตัว เนื่องจากโครงการดีไซน์ห้องน้ำในส่วนนี้ให้มีการดร็อปผนังเข้าไปบนพื้นที่ ที่สามารถนั่งบนโถสุขภัณฑ์ได้สบายพอดีตัว
ประตูทางเข้า-ออกอีกฝั่งทางห้องรับแขก ที่โครงการออกแบบมาให้เป็นแบบบานสไลด์
พื้นโซนเปียก โซนแห้งเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×30 ซม. มีที่กันน้ำไหลกระเบื้องลายหินอ่อนสีดำ ยกสเต็ปขึ้นมาประมาณ 2 ซม.
ภายในห้องนอนโครงการตกแต่งด้วยโทนสีหวานๆ สไตล์ห้องนอนผู้หญิง พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ และโต๊ะเครื่องแป้งปลายเตียงได้ โดยยังเหลือทางเดิน
อีกฝั่งหนึ่งของห้องนอนเป็นระเบียง โครงการใช้ประตูเลื่อนด้านเดียวแบบเปิดเข้า-ออกสามตอน พร้อมระบบล็อคระหว่างช่องกริดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ประตูระเบียงเป็นแบบสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานเพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ตามคอนเซ็ปต์โครงการ
ปลายเตียงเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งแบบบิลท์อินยาวตลอดแนวห้อง พร้อมชั้นวางของ และตู้เก็บของบนผนัง ซึ่งเป็นไอเดียในการเพิ่มพื้นที่ใช้สอย (ห้องจริงโครงการจะไม่ได้มอบส่วนนี้ให้) พื้นที่ทางเดินระหว่างโต๊ะเครื่องแป้งและปลายเตียง มีความกว้างพอจนสามารถวางเก้าอี้สตูล สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย
ในภาพเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต จะเห็นว่าเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงเยอะพอสมควร หากจะเปลี่ยนเป็นเตียงแบบ 6 ฟุต หรือเตียงที่มีดีไซน์เป็นทรงกลมเพื่อเพิ่มความหรูหราก็ยังสามารถวางได้อยู่
ระบบล็อคระหว่างกริดของประตูกั้นห้องนอนและระเบียง
บรรยากาศระเบียงด้านนอกของห้องที่หันไปทางทิศใต้
พื้นบริเวณโซนวางคอมเพรสเซอร์แอร์ แตกต่างจากพื้นโซนระเบียง โดยพื้นระเบียงจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ แต่โซนวางคอมพ์แอร์จะเป็นพื้นซีเมนต์สามารถติดตั้งประตูกริลเพื่อความเรียบร้อยได้
ห้องจริงประเภท 1 ห้องนอนแบบ Idealist Type A ขนาด 33 ตร.ม.
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น ทางซ้ายมือคือห้องน้ำ มีประตูกั้นโซนแบบบานเลื่อน ด้านขวาเป็นประตูทางเข้าห้องนอน
โครงการมอบเคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood ซิงค์ล้างจานให้ สำหรับห้อง Type นี้ จะมีหน้าต่างบานใหญ่แบบสไลด์ หันออกไปทางหน้าห้อง เชื่อมต่อกับช่องลม ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกยิ่งขึ้น
โครงการติดตั้งเต้าเสียบและท่อประปา ไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าในช่องชาร์ปของเคาน์เตอร์ สามารถวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้อย่างเดียว
ภายในห้องน้ำอ่างล้างหน้าได้รับเหมือนห้องตัวอย่าง เป็นแบบชั้นลอย
โถสุขภัณฑ์เป็นของ American Standard มีทั้งปุ่มกดน้ำน้อยและน้ำมาก
บริเวณทางเดินเชื่อมต่อสู่ห้องนอน ด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อินสูงจากพื้นจรดเพดาน ด้านซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากในห้องนอน
โครงการมอบตู้เสื้อผ้าเป็นวัสดุแบบไฮกรอส ประตูตู้เป็นแบบบานพับเปิดเข้าเปิดออก ทั้งนี้ผู้อาศัยสามารถดัดแปลงเป็นแบบเลื่อนเพื่อความสะดวกในการใช้พื้นที่ได้
พื้นที่โดยรวมของห้องนอนที่เชื่อมต่อกับระเบียง โดยพื้นเป็นลามิเนตหนา 12 มม.พื้นที่โดยรวมของห้องนอนที่เชื่อมต่อกับระเบียง โดยพื้นเป็นลามิเนตหนา 12 มม.
โครงการออกแบบช่องหน้าต่างแบบบานฟิกซ์ให้แบบเดียวกับห้องตัวอย่าง ติดตั้งกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัว หากผู้อยู่อาศัยจะเปลี่ยนเป็นกระจกใส่สไตล์ Sexy Bath ก็ทำได้
ประตูเลื่อนเป็นแบบสามตอน สามารถล็อคระหว่างกริดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ด้านนอกระเบียงโครงการ ใต้คอมคอมเพรสเซอร์แอร์ ทางโครงการติดตั้งก๊อกน้ำไว้ให้หนึ่งจุด ที่กั้นตกเป็นโครงเหล็กสีขาวสูงประมาณ 1.5 ม.
ห้องตัวอย่างประเภท 1 ห้องนอน แบบ Identity Type B ขนาด 33 ตร.ม.
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบเคาน์เตอร์ครัวอยู่ทางด้านซ้าย และห้องน้ำทางด้านขวา มีทางเดินเชื่อมไปสู่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน พื้นที่ของห้องแบบนี้จะเน้นความโปร่งโล่ง ต่างจากห้องแรกที่เน้นความเป็นสัดส่วน
เคาน์เตอร์ครัวเป็นสเปคเดียวกันกับที่โครงการมอบให้ทุกห้อง พร้อมติดตั้งระบบน้ำประปาและปลั๊กไฟบริเวณช่องชาร์ปสำหรับใส่เครื่องซักผ้ามาให้
ด้านในห้องน้ำ มีสุขภัณฑ์ครบครัน แบ่งโซนเปียก โซนแห้งอย่างชัดเจน
ประตูกั้นโซนเปียกและแห้งเป็นประตูกระจกเทมเปอร์แบบเลื่อน ช่วยให้ประหยัดพื้นที่เวลาเปิดประตู ซึ่งผนังส่วนอาบน้ำตกแต่งกระเบื้องโมเสค และสำหรับห้อง Type นี้ จะมีบานกระทุ้งบริเวณกำแพงด้วย
ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งห้อง Type B นี้ เน้นความโปร่งโปร่ง โดยการจัดวางห้องน้ำและครัว ไว้ส่วนหน้าของห้อง บรรยากาศในห้องนั่งเล่นต่อเนื่องจนถึงห้องนอนโดยรวมจะดูกว้างกว่าห้องสเปคแรก ผนังอีกฝั่งของห้องนั่งเล่นมีระยะห่างจากโซฟาในระดับที่ติดทีวีแบบแขวนผนังขนาด 60-70 นิ้วได้เช่นเดียวกัน
บรรยากาศภายในห้องนอนเชื่อมต่อกับมุมระเบียง บริเวณเพดานที่ติดตั้งม่านโครงการจัดทำไว้เป็นแบบซ่อนรางม่าน
ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า และมุมโต๊ะทำงาน พื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นติดตั้งประตูกั้นบานเลื่อนสองตอนแบบแยกสองฝั่ง หากต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็สามารถติดตั้งม่านเพิ่มในจุดนี้ได้ ตามแบบไอเดียของห้องตัวอย่างนี้
พื้นที่ระเบียงเหมือนกับฟังก์ชันห้องอื่นๆ มีชั้นวางคอมพ์แอร์ 2 ตัว ที่กั้นตกโครงเหล็กสีขาวสูง 1.5 ม.
ห้องจริงประเภท 1 ห้องนอน แบบ Identity Type B ขนาด 33 ตร.ม.
ห้องจริงของห้องแบบ Identity ประตูเป็นระบบ Digital Door Lock พื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำและส่วนครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ แต่ด้านในห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะเป็นพื้นลามิเนตหนา 12 มม. กล่องสี่เหลี่ยมที่เห็นคือชั้นวางรองเท้าพร้อมที่นั่ง ซึ่งทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้สำหรับ Foyer หน้าห้อง ทั้งนี้ ห้องนี้อยู่ระหว่างติดตั้งบิลท์อินชุดครัวและตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะได้รับแบบเดียวกันกับในห้องตัวอย่าง
ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นก้านจับแบบบิดขึ้น-ลง
เมื่อเปิดประตูห้องน้ำมา จะเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง โดยทางโครงการติดตั้งอ่างล่างหน้าและโถสุขภัณฑ์ไว้ให้เป็นแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่าง
ประตูกั้นโซนของห้องน้ำในห้องแบบ Identity โครงการมอบให้เป็นแบบบานกระจกเลื่อน
โครงการได้ติดตั้ง Rain Shower แบบฝังฝ้า ตำแหน่งบริเวณโซนอาบน้ำ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอนด้านใน
โครงการมอบประตูกระจกแบบเลื่อนสองตอนให้เป็นส่วนกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น
พื้นที่โดยรวมของห้องนอนเชื่อมต่อกับระเบียง
ประตูระเบียงเป็นแบบเลื่อนสามตอน ล็อคกริดประตูได้เหมือนกับห้องอื่นๆ ด้านนอกระเบียงเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบเดียวกับห้องน้ำขนาด 30×60 ซม. มีที่กั้นตกเป็นโครงเหล็กสีขาวสูง 1.5 ม.
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
เมกะโปรเจคในอนาคตบริเวณทำเลอโศก – รัชดา
Makkasan Complex
ภาพ via skyscrapercity.com
Singha Complex
ภาพ via picpost.postjung.com
G Tower
The Super Tower
ทำเลอโศก – รัชดา เป็นอีกหนึ่งทำเลธุรกิจ คำว่าอโศก – รัชดา ในที่นี้ หมายความควบรวมไปถึงทำเลพระราม 9 ซึ่ง เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญทั้งสองพื้นที่ไว้ด้วยกัน ซึ่งในแง่ของธุรกิจเอง ภาพรวมของทำเลนี้จะไปอยู่ที่ตึก อาคารสำนักงานสูง ห้างสรรพสินค้าน้อยใหญ่ และแหล่งสถาบันการเงินชื่อดังมากมาย รวมไปถึงสถานฑูตทั้งจีน เกาหลี จากอานิสงส์ของโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ซึ่งนับตั้งแต่มีรถไฟฟ้าใต้ดินจะเห็นว่าพื้นที่บริเวณอโศก-รัชดา มีการเติบโตของโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในรัศมีรถไฟฟ้าขึ้นมาก จากปัจจัยของทำเลไข่แดงอย่างสุขุมวิทที่แทบไม่มีพื้นที่ให้พัฒนา เหล่าผู้ประกอบการจึงค่อยๆ ขยับตัวออกมาปักหมุดตามแนวสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT หลังจากนั้นไม่นานพื้นที่ติดถนนก็ดึงดูดเม็ดเงินจากการลงทุนของห้างสรรพสินค้าบิ๊กเนม 2 เจ้า อย่าง Esplanade และเซ็นทรัล พระราม 9 เข้ามา ตามมาด้วยการเกิดขึ้นของอาคารสำนักงานเกรดเอใหม่ๆ อย่างตึก AIA รวมไปถึงการย้ายมาของตลาดหลักทรัพย์บนทำเลนี้ ซึ่งจากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นที่กำลังเปลี่ยนแปลงพื้นที่ย่านนี้ไปในพริบตา เพราะจากการขยายตัวด้านธุรกิจดังกล่าว ทำให้ย่านพระรามเก้าที่กำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี ก้าวข้ามขีดจำกัดของความเจริญด้วยบิ๊กโปรเจคต่างๆ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะเป็นอาคารเดอะซูเปอร์ทาวเวอร์ ในโครงการเดอะแกรนด์ พระราม 9 บริเวณสี่แยกรัชดา-พระราม 9 ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดในปี 2562 ตึกดังกล่าวจะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยความสูงที่สูงที่สุดในอาเซียนนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีโครงการมิกซ์ยูสจากค่ายสิงห์ เอสเตท อย่าง ตึกสิงห์ คอมเพล็กซ์ บริเวณมุมถนนอโศกมนตรีและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่จะมีทั้งส่วนของอาคารสำนักงาน รีเทล และใกล้ๆ กันก็มีโครงการคอนโดมิเนียมหรู โดยตึกสิงห์ คอมเพล็กซ์นี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี ซึ่งปัจจัยโดยรวมที่กล่าวมานี้จะส่งผลให้ดีมานด์ของพนักงานออฟฟิศ และชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก และโครงการอสังหาริมทรัพย์จะเข้ามากระจุกตัวอยู่บริเวณทำเลนี้มากขึ้น จากเดิมที่มีอยู่แล้วก็จะกระจายรัศมีออกไปเป็นวงกว้างตามพื้นที่ที่ยังคงหลงเหลือให้พัฒนา และจะมีซัพพลายของที่อยู่อาศัยเข้ามารองรับอยู่เรื่อยๆ จากการพัฒนาในด้านต่างๆ ของทำเลนี้ที่สามารถพัฒนาไปต่อได้
โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน – มีนบุรี)
ภาพ via blogspot.com
นอกเหนือจากเรื่องของธุรกิจแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยส่งผลให้ทำเลมีศักยภาพเพิ่มขึ้นก็คือ เส้นทางคมนาคมทั้งเส้นทางเดิมและเส้นทางใหม่ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยผลักดันทำเลนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ หรือ New CBD
เส้นทางการคมนาคมบนทำเล อโศก – รัชดา สามารถเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย โดยเชื่อมไปยังจุดสำคัญต่างๆ ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นสุขุมวิท ดินแดง วิภาวดีรังสิต สามารถเข้าออกเมืองได้สะดวกด้วยทางด่วนศรีรัช และในอนาคตยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน – มีนบุรี) ที่เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคลที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และเบี่ยงเข้ามาสู่แนวพระราม 9 ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อของย่านอโศก-ดินแดง
และภาษีของการเป็น New CBD แห่งใหม่ก็จะส่งให้ราคายูนิตที่อยู่อาศัยในย่านนี้เพิ่มขึ้นไปด้วย ถึงแม้จะมีการแข่งขันการตลาดที่สูง แต่ก็ไม่เกินกว่าดีมานด์ที่หลั่งไหลเข้ามาในย่านนี้เรื่อยๆ
วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
แผนที่ตั้งโครงการ
โครงการคอนโดมิเนียม เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา (A Space I.D. Asoke – Ratchada) อยู่ติดกับถนนดินแดง ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากแยกพระราม 9 ประมาณ 500 ม. โดยมีเส้นทางคมนาคมรถไฟฟ้า MRT สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีพระราม 9 มีระยะห่างจากโครงการประมาณ 400 ม. โดยใช้เวลาเดินด้วยความเร็วของคนปกติประมาณ 6-8 นาที หากยังสงสัยเรื่องระยะการเดินของโครงการใกล้รถไฟฟ้าสามารถเช็คระยะการเดินแบบเห็นภาพกันได้ที่ http://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2016/6/126906/ไขข้อสงสัย-ระยะห่างคอนโ โดยมีเส้นทางคมนาคมสำคัญที่ใกล้กับโครงการที่สุดอย่างทางด่วนศรีรัช ซึ่งโครงการอยู่ห่างจากจุดขึ้น-ลงประมาณ 1.2 กม. บริเวณถนนจตุรทิศ หรือเมื่อออกจากโครงการมาให้ตรงมาถึงแยกพระรามเก้าแล้วเลี้ยวขวา ตรงมาอีกประมาณ 250. แล้วเลี้ยวซ้ายที่ถนนจตุรทิศ วิ่งเลียบทางด่วนมาสักประมาณ 470 ม. จะเจอทางขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าไปพระราม 9 – รามอินทรา และสามารถไปเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ – ชลบุรี เดินทางไปสุวรรณภูมิได้ง่ายด้วยระยะทางที่เป็นเส้นตรงบนทางด่วนประมาณ 35 กม. และยังมี Airport Link สถานีมักกะสันอีกหนึ่งช่องทาง โดยอยู่ห่างจากโครงการ 1.2 กม. บนถนนกำแพงเพชร 7 ซึ่งหากมาจากโครงการให้เลี้ยวขวาที่แยกพระราม 9 ตรงมาประมาณ 600 ม. ก็จะเจอแยกถนนกำแพงเพชร 7 ให้เลี้ยวขวาตรงไปอีกนิดก็จะเป็น Airport Link สถานีมักกะสันเลย
ในส่วนของสาธารณูปโภคต่างๆ รอบโครงการก็มีห้างใหญ่อย่าง เซ็นทรัลพระราม 9 ที่สามารถเดินเท้าเข้า Mrt ไปเชื่อมในส่วนต่างๆ ได้สบาย รวมไปถึงมีอีกหนึ่งโครงการเข้ามาซัพพอร์ทในเรื่องความสะดวกสบายอย่าง เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9 ซึ่งโครงการนี้จะประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน ร้านค้า รวมไปคอนโดมิเนียม
อีกทั้งยังมี ไฮเปอร์มอลใหญ่ๆ อย่าง บิ๊กซี เทสโก้โลตัส ส่วนสถานที่ไลฟ์สไตล์อย่างตลาดนัดรถไฟรัชดาบริเวณด้านหลังห้างเอสพลานาด ก็อยู่ห่างจากโครงการราวๆ 1.5 กม.
สำหรับเรื่องอาหารการกิน ด้วยความที่ถนนสายหลักหน้าโครงการเป็นถนนสายดั้งเดิมอย่างดินแดง บริเวณรอบๆ โครงการจึงเต็มไปด้วยร้านอาหารโลคอล หรือเรียกได้ว่าเป็นอาชีพหลักของชุมชนดั้งเดิมบริเวณนี้ รวมไปถึงยูนิตร้านค้าหน้าโครงการถึง 4 ยูนิตใหญ่ที่คอยให้ความสะดวก จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของกินเลย
หากกลุ่มผู้อยู่อาศัยเป็นกลุ่มครอบครัวที่ต้องการอาศัยอยู่ในเมือง ย่านนี้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนแม่พระฟาติมา, โรงเรียนเซนต์ดอมินิก, โรงเรียนนานาชาติ NISTโดยมีโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดห่างจากโครงการประมาณ 1.4 กม. คือโรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดที่กล่าวมา ถือว่าที่ตั้งโครงการมีศักยภาพในด้านของความสะดวกสบายอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมาก
การเดินทาง
รถยนต์
จากแยกสามเหลี่ยมดินแดงมุ่งหน้าพระราม 9 >> จากแยกสามเหลี่ยมดินแดง ขับตรงมาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกประชาสงเคราะห์ เมื่อลงสะพานให้เบี่ยงซ้ายออก (ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9) ขับตรงมาอีกจะเห็นโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนใหญ่
จากแยกอสมท.มุ่งหน้าแยกพระราม 9 >> เมื่อเข้าสู่ ถ.อโศก-ดินแดง จนถึงแยกประชาสงเคราะห์ ให้ตรงไปยูเทิร์นบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง จากนั้นขับตรงมาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกประชาสงเคราะห์ เมื่อลงสะพานให้เบี่ยงซ้ายออก (ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9) ขับตรงมาอีกจะเห็นโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนใหญ่
จากแยกอโศก-เพชรบุรี มุ่งหน้าแยกพระราม 9 >> เมื่อถึงแยกพระราม 9 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ. อโศก-ดินแดง จนถึงแยกประชาสงเคราะห์ ให้ตรงไปยูเทิร์นบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง จากนั้นขับตรงมาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกประชาสงเคราะห์ เมื่อลงสะพานให้เบี่ยงซ้ายออก (ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9) ขับตรงมาอีกจะเห็นโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนใหญ่
จากแยกรัชดา-ลาดพร้าว มุ่งหน้าแยกพระราม 9 >> เมื่อถึงแยกพระราม 9 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ. อโศก-ดินแดง จนถึงแยกประชาสงเคราะห์ ให้ตรงไปยูเทิร์นบริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง จากนั้นขับตรงมาเพื่อขึ้นสะพานข้ามแยกประชาสงเคราะห์ เมื่อลงสะพานให้เบี่ยงซ้ายออก (ไม่ขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9) ขับตรงมาอีกจะเห็นโครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ติดถนนใหญ่
เส้นทางลัดเข้าโครงการจากรัชดาซอย 3 >> จากปากซอยขับตรงตามทางประมาณ 650 ม. จะบังคับเลี้ยวซ้าย ขับต่อมาอีกประมาณ 400 ม. ให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายทันทีเพื่อเข้าซอยเพิ่มมิตร และให้ขับต่อตามทางเรื่อยๆอีกประมาณ 500 ม. ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อออกสู่ ถ.อโศก-ดินแดง จากนั้นให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเข้าโครงการ
MRT
หากเดินทางมาจาก MRT ให้ใช้ทางออกที่ 1 หรือทางฟอร์จูน ทาวเวอร์ จากนั้นเดินตรงขึ้นมาทางถนนดินแดง 600 ม. ก็จะเจอตัวโครงการอยู่ทางขวามือ
สถานที่สำคัญใกล้โครงการ
อาคารสูง
AIA Capital Center
ตึกสำนักงานใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ (SET)
Cyber World Tower (อาคารรัชดา สแควร์ ทาวเวอร์ เดิม)
True Tower
G Land Tower พระราม 9
The Super Tower พระราม 9
สถานที่ราชการ
สถานฑูตฯ จีน
สถานฑูตฯ เกาหลี
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณะสุข
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
Fortune Town
Central Plaza Grand พระราม 9
Tesco Lotus Fortune Town
Big C รัชดาภิเษก
Esplanade รัชดาภิเษก
ตลาดนัดรถไฟ รัชดา
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลพระราม 9
โรงพยาบาลจักษุรัตนิน
โรงเรียน และมหาวิทยาลัย
โรงเรียนแม่พระฟาติมา
โรงเรียนเซนต์ดอมินิก
โรงเรียนนานาชาติ NIST
โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตรผลตอบแทนที่จะได้รับ
หากเปรียบเทียบอัตราค่าเช่าของคอนโดฯ ราคา 3 ล้านอัพ บริเวณแยกพระราม 9 ที่มีรัศมีใกล้กับโครงการรถไฟฟ้าไม่เกิน 500 ม. จะมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาทต่อห้องขนาดเริ่มต้น 1 ห้องนอน แต่ด้วยภาษีของโครงการ เอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดาที่มีความสดใหม่กว่า และมีจุดเด่นที่ส่วนกลางที่ครบครันพร้อมที่จอดรถระบบอัตโนมัติ แนวคิดการออกแบบ layout ห้องที่ต่างกันเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน Foyer หน้าห้องที่เพิ่มความเป็นส่วนตัว และพื้นที่สีเขียวที่มีพื้นที่โดยรวมกว่า 40% ของโครงการ อัตราค่าเช่าของห้องขนาดเริ่มต้นที่ 33 ตร.ม. จึงมีแนวโน้มที่สูงขึ้น คาดว่าสามารถตั้งอยู่ที่ประมาณ 15,000-18,000 บาทได้เลยทีเดียว ซึ่งในแง่ของการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองในทำเล New CBD กับราคาเริ่มต้น 3.69 ล้าน หรือตกตารางเมตรละ 111,xxx บาท ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่า สำหรับโครงการที่ห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 600 ม. ถ้าหากเปรียบเทียบกับโซนลาดพร้าวที่เขยิบออกไปจากโซนนี้ในราคาไม่เกิน 4 ล้าน อาจได้โครงการติดรถไฟฟ้าในระยะที่ก้าวออกมาจากโครงการก็เจอเลย แต่ถ้าต้องอยู่อาศัยในระยะยาว ภาษีของทำเลพระราม 9 ย่อมดีกว่าแน่นอน รวมไปถึงการลงทุนก็ต้องมองระยะยาวเช่นกันเพราะพื้นที่บริเวณนี้มีโอกาสพัฒนา ต่อไปได้เรื่อยๆ เห็นได้จากโครงการ mega project เช่น G Land และ Super Tower ที่เป็นตึกที่สูงที่สุดในอาเซียน กำลังพัฒนาอยู่ในทำเลนี้ ซึ่งแน่นอนว่าจะเกิดการขยายตัวของทั้งภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวในอนาคต
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
เบ็ล แกรนด์ พระราม 9 (Belle Grand Rama 9)
เจ้าของโครงการ: บริษัท เบ็ล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในเครือแกรนด์ คาแนล แลนด์ จํากัด (มหาชน)
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 8-1-15 ไร่
ลักษณะโครงการ: อาคารชุดพักอาศัยความสูง 27, 34, 36, 43 ชั้น อย่างละ 2 ตึก รวมทั้งหมด 8 ตึก จำนวน 1,992 ยูนิต
ที่จอดรถ: 2,000 คัน
รูปแบบห้อง: แบบ1-3 ห้องนอน ขายแบบตกแต่งพร้อมอยู่ (fully furnished), แบบดูเพล็กซ์ ขายเป็นห้องเปล่า, พื้นที่ใช้สอย 28 – 110 ตารางเมตร
ลิฟท์: 1 อาคารจะมี 4ตัวเป็น Low Zone 2ตัว High Zone 2ตัวและลิฟต์บริการ 1 ตัว
ราคาเริ่มต้น: 3.2 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยเริ่มต้น: 80,000 – 120,000 บาทต่อตร.ม.
มาเอสโตร 03 รัชดา – พระราม 9 (Maestro 03 Ratchada – Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยรัชดาภิเษก 3 ติดกับสถานฑูตจีน เขตดินแดง กรุงเทพฯ
พื้นที่โครงการ: 3-0-18 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 3 อาคาร 8 ชั้น ที่จอดรถใต้ดิน 2 ชั้น จำนวน 321 ยูนิต (ห้องพักอาศัย 320 ยูนิต 1 ยูนิตสำหรับสำนักงานขาย)
ที่จอดรถ: 55% ของโครงการ
ราคาเริ่มต้น: 3.5 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 120,000 บาทต่อตร.ม.
แอสปาย พระราม 9 (Aspire Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ที่ตั้งโครงการ: ห้วยขวาง
ลักษณะโครงการ: คอนโด High Rise 2 อาคาร อาคาร A 23 ชั้น, อาคาร B 25 ชั้น, 663 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 17
ที่จอดรถประมาณ: 311 คันคิดเป็น 46% รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 49%
พื้นที่โครง: 4-2-48.3 ไร่
รูปแบบ: 1 Bedroom 32 – 49 ตร.ม., 2 Bedrooms 49.2 – 66.2 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 3.1 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย: 96,800 บาทต่อตร.ม.
สรุป
โครงการเอ สเปซ ไอดี อโศก-รัชดา โดย อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีจุดเด่นภายในของโครงการอยู่ที่ส่วนกลางกว่า 40% ของเนื้อที่โครงการ และความแตกต่างของคอนโดมิเนียมไฮไรส์ในตัวเมืองที่เน้นความเป็นธรรมชาติและความเป็นส่วนตัว หาดีไซน์แบบนี้ได้ไม่ง่ายเท่าไหร่นักในตัวเมือง ส่วนปัจจัยภายนอกที่สำคัญก็คือระบบคมนาคมและสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน รวมไปไปถึงเส้นทางการคมนาคม ซึ่งที่ตั้งโครงการเองยังมีโอกาสที่จะอัพราคาขึ้นไปอีกในอนาคตจากอานิสงส์ การพัฒนาพื้นที่บริเวณ อโศก – รัชดา – พระราม 9
หากวิเคราะห์เป็น SWOT จะจำแนกเป็นจุดแข็งหลักของโครงการเลยก็คือความแตกต่างของคอนโดมิเนียมในตัว เมืองทั้งในเรื่องของดีไซน์ ส่วนกลาง และความสะดวกสบายภายในโครงการ ซึ่งตรงนี้ก็ยังมีจุดอ่อนเล็กๆ ก็คือโครงการอาจจะไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าซะทีเดียว แต่ก็ยังอยู่ในระยะเดินได้ หรืออาจจะเลือกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์บริเวณปากทางเข้าโครงการก็จะสะดวกขึ้น ในส่วนของโอกาสก็จะเป็นทำเลที่ตั้งที่รัศมีโดยรอบจะมีโอกาสพัฒนาไปต่อทั้ง เมกะโปรเจคต่างๆ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเข้ามาสนับสนุนและส่งผลดีให้กับโครงการ แต่ทั้งนี้อุปสรรคของโครงการก็คือคู่แข่งทางการตลาดคอนโดมิเนียมที่จะเข้ามา แบ่งส่วนตลาดเพิ่มเติมในอนาคตซึ่งจะมีผลต่อการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมของ กลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน แต่ด้วยดีมานด์ที่หนาแน่นของย่านนี้ ประกอบกับความพร้อมของโครงการซึ่งสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ น่าจะตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อปล่อยเช่าได้ทันที จึงคาดว่าโครงการน่าจะทำการปิดขายได้เร็วๆนี้
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
