ลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ 10 คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดจำนวน 476 ยูนิต พร้อมลานกิจกรรม และลานออกกำลังกายขนาดใหญ่ รองรับการพักอาศัยช่วง Work from Home ได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นเพียง 1.45 ล้านบาท
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ
ชื่อของ “เยลโล่ฟินน์ ดีเวลลอปเม้นท์” อาจจะฟังดูไม่ค่อยคุ้นหู แต่ผู้ประกอบการหน้าใหม่รายนี้สามารถคว้าที่ดินบนทำเลไพร์มของโซนพหลโยธินตอนต้นอย่างซอยอารีย์ปักหมุดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์โครงการแรกของบริษัทอย่าง “ฟินน์ อารีย์” (FyNN Aree) รายล้อมไปด้วยแหล่งงาน ร้านอาหาร แหล่งแฮงค์เอ้าท์ชิกๆ มากมาย ชูไฮไลท์การอยู่อาศัยในแบบฉบับคนเมือง ด้วยทำเลที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ หนึ่งในทำเลในฝันของคนที่อยากอยู่ในเมืองและในแนวรถไฟฟ้า มาดูกันว่าทำไม ดีเวลลอปเปอร์ป้ายแดงรายนี้จึงเลือกลงทุนในทำเลนี้ โดยรีวิวฉบับนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับย่านอารีย์และศักยภาพของทำเล รวมไปถึงรายละเอียดของโครงการกัน
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มกราคม 2558)
ชื่อโครงการ: ฟินน์ อารีย์ (FYNN Aree)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เยลโล่ฟินน์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ตัวแทนขายโครงการ: บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ จำกัด
ที่ตั้ง: ซอยอารีย์ 2
เนื้อที่โครงการ: 0-2-73 ไร่
รูปแบบโครงการ: อาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 79 ยูนิต
รูปแบบห้องชุด:
1 ห้องนอน 27 – 31.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.4 ล้านบาท
2 ห้องนอน 47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.1 ล้านบาท
ราคาขายเริ่มต้น: 3.4 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย/ตารางเมตร: 130,000 บาทต่อตารางเมตร
เงื่อนไขการชำระเงิน:
จอง+ทำสัญญา = 50,000 บาท
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ตร.ม. ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ ตารางเมตร
สถานะการขาย: (ณ วันที่ 15 มกราคม 2559) 52%
วันที่เปิดขาย: พฤศจิกายน 2558
ประมาณการก่อสร้างแล้วเสร็จ: กลางปี 2560
เว็บไซต์โครงการ: www.fynn.co.th/
รายละเอียดโครงการ
ตัวโครงการออกแบบในลักษณะ Modern Loft เน้นไปที่ความโปร่งสบายและทุกยูนิตอยู่อาศัยจะเป็นแบบ Corner Units ที่เน้นความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย
ชั้น 2: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 3 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 7 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
ฟิตเนสและห้องรับจดหมายจะอยู่ ณ ชั้น 2 ด้วย
ชั้น 3: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 3 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 7 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
ชั้น 4: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 3 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 7 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
ชั้น 5: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 3 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 7 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
ชั้น 6: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 3 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 7 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
ชั้น 7: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 3 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 7 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
ชั้น 8: พื้นที่อยู่อาศัย
Type A (27 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
Type B (31.25 ตร.ม.) จำนวน 4 ยูนิต
Type C (42 ตร.ม.) จำนวน 2 ยูนิต
และยังเป็นพื้นที่ของส่วนกลางนั่นคือสระว่ายน้ำ
รูป Perspective โครงการ
ห้องขนาด 42 ตารางเมตร
รีวิวห้องตัวอย่าง
ทางโครงการทำห้องตัวอย่างแล้วเสร็จตอนนี้ไปเพียงหนึ่งห้องนั่นคือ Type B พื้นที่ใช้สอย 31.25 ตารางเมตรซึ่งเป็นรูปแบบห้องที่มีจำนวนมากที่สุด
ในส่วนนี้จะเป็นจุดกั้นระหว่างห้องนอนกับโซนนั่งเล่นด้วย
ห้องน้ำ
สิ่งที่จะได้จากโครงการ
-ชุดเฟอร์นิเจอร์มูลค่า 50,000 บาท
-เครื่องปรับอากาศ 2 ตัวแบรนด์ Mitsubishi
-พื้นลามิเนตหนา 8 มม.
-พื้นห้องน้ำแกรนิตโต้
-สุขภัณฑ์แบรนด์ Mogen
-อุปกรณ์ Shower แบรนด์ American Standard
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ช่วงพหลโยธินตอนต้น ถือเป็นทำเลที่ได้รับการจับตามองจากทั้งผู้ซื้อและนักลงทุน รวมถึงผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์อย่าง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่าโครงการคอนโดมิเนียมแถบนี้สร้างเสร็จไม่ถึง 4 ปี แต่ราคาขายต่อ (resale) ขยับขึ้นสูงถึง 80% หรือราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 150,000 บาทต่อตารางเมตร และคาดว่าโครงการใหม่จะพุ่งสูงถึง 200,000 บาทต่อตารางเมตร หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาคอนโดฯ ในย่านนี้ขยับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากซัพพลายห้องชุดใหม่ๆ ที่เข้าสู่ตลาดในพื้นที่ดังกล่าวมีน้อย เฉลี่ยปีละประมาณ 1 โครงการเท่านั้น ในขณะที่ดีมานด์ในที่อยู่อาศัยในย่านนี้ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นโซนที่เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานบริษัทชั้นนำหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทชื่อดังของประเทศและบริษัทข้ามชาติ รวมไปถึงหน่วยงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร, กรมทหารต่างๆ, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการส่งออกและการนำเข้า, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารเอสเอ็มอี, บริษัทไอบีเอ็ม, บริษัทต่างๆในอาคารชินวัตร เป็นต้น ส่งผลให้เกิดดีมานด์ในที่อยู่อาศัยของคนทำงานในย่านนี้ที่ต้องการอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และด้วยโครงการอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า ทำให้มูลค่าของห้องชุดในโครงการนี้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวกสบาย เพราะสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนเส้นหลักต่างๆ โดยมีจุดเชื่อมต่ออยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร (สองสถานีรถไฟฟ้า) นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังเป็นจุดที่สามารถขึ้นทางด่วนเพื่อออกไปยังฝั่งดาวคะนองและบางนาได้ และการมีถนนคู่ขนานอย่างวิภาวดีที่สามารถต่อไปยังเส้นลาดพร้าวและดอนเมืองช่วยชูโรงเรื่องศักยภาพของทำเลได้
การเดินทาง
รถยนต์ส่วนตัว
ในกรณีขับรถ คุณสามารถเลือกลงมายังป้ายทางด่วนพหลโยธิน ถ้านับจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คุณสามารถเลี้ยวเข้ามายังโครงการผ่านซอยพหลโยธิน 5 ได้ (ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร)
เมื่อลงมาจากสถานีบีทีเอสอารีย์คุณสามารถเดินขึ้นไปข้างหน้าเพื่อเข้าไปยังอารีย์ซอย 2 หลังจากนั้นเลี้ยวซ้าย เพื่อเดินมายังโครงการ (ระยะทางการเดินประมาณ 750 เมตร)
รถไฟฟ้า BTS
บรรยากาศสำนักงานขาย
สถานที่ Lifestyle
วิเคราะห์ศักยภาพโครงการ
โครงการเป็นลักษณะอาคารโลว์ไรส์ เน้นดีไซน์ Corner Units ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่อยากได้ห้องมุมที่มีพื้นที่มาก และไม่ต้องติดกับห้องคนอื่น จุดที่ถือเป็นไฮไลท์ของโครงการอีกอย่างหนึ่งก็คือการที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่รายล้อมไปด้วยแหล่งแฮงค์เอ้าท์ที่ไม่ใช่ในลักษณะของเมนสตรีม การันตีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยในหลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ดี ที่ดินในย่านอารีย์เป็นที่ดินของเอกชน เราไม่อาจทราบเลยว่าจะมีอะไรผุดขึ้นบริเวณรอบข้างอีกเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของทำเลอย่างไม่หยุดหย่อน สังเกตได้จากบริเวณรอบข้างยังเป็นบ้านครัวเรือนและอพารต์ม้นท์อยู่อาศัย หากมีนักลงทุนซื้อที่ขึ้นมาเพื่อพัฒนาโครงการอีกเมื่อไร ปัจจัยนี้สามารถดันราคาให้สูงขึ้นอีกได้
บทวิเคราะห์
จากตัวเลขในข้างต้นที่ได้นำเสนอมาจะเห็นได้ว่าราคาขายต่อของคอนโดมิเนียมในย่านนี้เพิ่มสูงถึง 80% ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาโดยโครงการทั่วไปจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนถ้าเป็นโครงการใหม่ก็จะสูงกว่านี้ โดยน่าจะไปแตะอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่ง ณ ตอนนี้โครงการ ฟินน์ คอนโด ยังคงเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากถ้าพิจารณาจากศักยภาพทำเลและราคาเทียบเคียงโดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ130,000 บาท อีกทั้งการที่ตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากตัวแอร์พอร์ตลิ้งก์พญาไทและจุดเชื่อมรถไฟฟ้าใหญ่บางซื่อ ในอนาคตราคาน่าจะถูกดันให้สูงขึ้น
เปรียบเทียบโครงการ
1. D’ rouvre (เดอ รูฟ)
ชื่อโครงการ: D’ rouvre (เดอ รูฟ )
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ริชเชส ยูเนี่ยน จำกัด
สถานที่ตั้งโครงการ: ซ. พหลโยธิน 2 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
ประเภทโครงการ: คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร
จำนวน: 42 ยูนิต
เนื้อที่: 0-2-24 ไร่
ประเภทของห้อง:
UNIT A ขนาด 61 ตร.ม., UNIT B ขนาด 48 ตร.ม.
UNIT C ขนาด 51 ตร.ม., UNIT D ขนาด 58 ตร.ม.
UNIT E ขนาด 86 ตร.ม., UNIT F ขนาด 61 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 4.7 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม.: ประมาณ 100,000 บาท
เว็บไซต์โครงการ: http://www.drouvre.com/home.html
2. เดอ เมมโมเรีย พหลโยธิน 8
ชื่อโครงการ: เดอ เมมโมเรีย พหลโยธิน 8
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ดี เวล แกรนด์ แอสเสท จำกัด
สถานที่ตั้งโครงการ: พหลโยธิน ซอย 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
ประเภทโครงการ: คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร
จำนวน: 123 ยูนิต
เนื้อที่: 1 ไร่
ประเภทของห้อง:
1 ห้องนอน ขนาด 35.98 – 44.93 ตารางเมตร
2 ห้องนอน ขนาด 59 – 72.74
ราคาเริ่มต้น: 3.3 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม.: ประมาณ 100,000 บาท
เว็บไซต์โครงการ: http://www.dwell-group.com
สรุป
จากเรื่องราคาสู่ศักยภาพของทำเลของโครงการ ฟินน์ คอนโด นับว่าเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนอยู่ไม่น้อยโดย ณ ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงของการก่อสร้างซึ่งราคายังถือว่าอยู่ในระดับที่ยังต่ำกว่าราคาเฉลี่ยกลาง (120,000 ต่อตารางเมตร) อีกทั้งรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดสัปดาห์เป็นจุดที่กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคน Gen Y มองหารูปแบบที่อยู่อาศัยที่มอบสิ่งนี้ให้กับพวกเขา จึงไม่น่าแปลกใจหากราคาจะถูกขยับต่อออกไปเรื่อยๆ ในอนาคต
สนใจ คอนโดฯ ในโครงการนี้? เลือกชม รายการประกาศ ราคาโดนใจ