ด้วยเหตุนี้ ธนาคารของภาครัฐจึงกลายเป็นตัวเลือกของผู้ซื้อ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยที่เข้าถึงสินเชื่อบ้าน หรือกู้บ้านได้ยาก

โดยปัจจุบันทางธนาคารรัฐอย่างธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และได้ออกสินเชื่อบ้านออมสิน สินเชื่อบ้าน ธอส. มาตรการและแพ็กเกจที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้ไม่สูงมากนัก รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าได้เข้าถึงสินเชื่อบ้าน หรือกู้บ้านได้ง่ายขึ้น ผ่านมาตรการต่าง ๆ ดังนี้
สินเชื่อบ้าน Two-Gen
กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบของขวัญปีใหม่
ธ.อิสลาม ลดอัตรากำไรสินเชื่อบ้านลงอีก 0.25% ในปีแรก
สินเชื่อบ้านออมสิน ผ่อนล้านละ 10 บ. ดอกเบี้ย 0.01%
กรมธนารักษ์-ออมสิน-ธอส. จัดสินเชื่อ "บ้านคนไทยประชารัฐ" ดอกเบี้ยต่ำ 2.75% ต่อปี
สินเชื่อบ้าน Two-Gen ผ่อนนาน 70 ปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เตรียมออกมาตรการสินเชื่อบ้าน ธอส. "ทูเจน (Two Gen)" เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท โดยจุดเด่นของสินเชื่อบ้าน ธอส. นี้ คือ เป็นสินเชื่อบ้านที่ผ่อนนาน 70 ปี เพื่อทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านได้ง่ายขึ้น
วัตถุประสงค์การยื่นกู้
เฉพาะกรณีกู้ใหม่
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- เพื่อปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
หมายเหตุ: นิยามคำว่า “อาคาร” หมายถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์เพื่อที่อยู่อาศัยยกเว้นบ้านเช่าและแฟลต
วงเงิน/ระยะเวลาผ่อน
วงเงิน
- กำหนดวงเงินให้กู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 2,500,000 บาท
ระยะเวลาผ่อน
- ไม่น้อยกว่า 10 ปี และสามารถขอกู้เกิน 40 ปีได้ โดยอายุของบุตรที่กู้ร่วมเมื่อรวมกับระยะเวลากู้ต้องไม่เกิน 70 ปี
อัตราดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียม
ปีที่ 1-2 คงที่ = 2.00% ต่อปี
ปีที่ 3-4 คงที่ = 3.10% ต่อปี
ปีที่ 5-6 = MRR -2.00% ต่อปี
ปีที่ 7 จนถึงตลอดอายุสัญญา
- กรณีรายย่อยทั่วไป = MRR-0.50% ต่อปี
- กรณีสวัสดิการไม่มีเงินฝาก = MRR-1.00% ต่อปี
หมายเหตุ: MRR ตามประกาศธนาคาร
คุณสมบัติ/เอกสารที่ใช้สมัคร
คุณสมบัติ
- ประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่เกิน 55 ปี และขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยโดยกู้ร่วมกับบุตรที่บรรลุนิติภาวะหรือยังไม่บรรลุนิติภาวะที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่มีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. และสถาบันการเงินอื่น
- บุตรที่กู้ร่วมต้องไม่มีภาระผูกพันกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
เอกสารส่วนบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน/บัตรข้าราชการ
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารทางการเงิน
พนักงานประจำ
- ใบรับรองเงินเดือน
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน/หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง)
- สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- รูปถ่ายกิจการ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
เอกสารหลักประกัน
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญาวางมัดจำ/สัญญาเช่าซื้อการเคหะและหนังสือรับรองยอดคงเหลือ (กรณีซื้อ)
- หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคาร
- สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน
- สำเนาโฉนดที่ดิน/นส.3ก /หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด/อช.2 ทุกหน้า
- ใบอนุญาตปลูกสร้าง/ต่อเติม
- แบบแปลน
- ใบประมาณการปลูกสร้าง/สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
หมายเหตุ ** ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการขอเอกสารต่าง ๆ ของผู้กู้เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบพิจารณาการให้สินเชื่อของธนาคาร **
ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมตั้งแต่วันนี้ 1 ธันวาคม 2563-30 ธันวาคม 2564 (ทั้งนี้ ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว เนื่องจากมีวงเงินจำกัด กำหนดเงื่อนไขการให้วงเงินลูกค้าที่ทำนิติกรรมก่อนได้สิทธิก่อน)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัย Two-Gen

กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มอบของขวัญปีใหม่
ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำของขวัญปีใหม่ปี 2564 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการ และลูกค้าสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. โครงการของขวัญปีใหม่ของธนาคารออมสิน
1) มอบเงินจำนวน 500 บาท ให้กับลูกค้าที่มีประวัติการส่งชำระหนี้ดีไม่น้อยกว่า 3 ปี ไม่มีประวัติการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือเป็นหนี้ NPLs โดยมีระยะเวลาโครงการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563-มกราคม 2564
2) เพิ่มรางวัลพิเศษของสลากออมสิน Digital “ฉลองปีใหม่ 2564” จำนวน 20 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท รวม 20 ล้านบาท สำหรับการออกรางวัลในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อธนาคารออมสิน โทร. 02-299-8000 หรือ 1115
2. โครงการของขวัญปีใหม่ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
1) โครงการชำระดีมีคืน สำหรับหนี้เงินกู้จัดชั้นปกติ โดยการโอนคืนดอกเบี้ยเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากให้แก่
- ลูกค้าเกษตรกรและบุคคลในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง รายละไม่เกิน 5,000 บาท
- ลูกค้ากลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตร สหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง รายละไม่เกิน 50,000 บาท
2) โครงการลดภาระหนี้ สำหรับหนี้เงินกู้ NPLs หรือมีดอกเบี้ยค้างชำระเกิน 15 เดือน โดยการคืนดอกเบี้ยให้แก่
- ลูกค้าเกษตรกรและบุคคลในอัตราร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
- ลูกค้ากลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตร สหกรณ์ นิติบุคคล กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในอัตราร้อยละ 10 ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง
ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้-31 มีนาคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 02-555-0555 หรือ 1593
3. โครงการของขวัญปีใหม่ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
1) กลุ่มที่ 1 ได้รับสิทธิของขวัญปีใหม่ เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท สำหรับผู้มีเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีประวัติการชำระดี 48 เดือน และชำระเงินค่างวดผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL ในเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563
2) กลุ่มที่ 2 ได้รับสิทธิของขวัญปีใหม่ เป็นเงินจำนวน 500 บาท จำนวนไม่เกิน 100,000 ราย สำหรับลูกค้าที่ไม่เป็นผู้รับสิทธิในกลุ่มที่ 1 มีการสมัครใช้งานแอปพลิเคชัน GHB ALL และผูกบัญชีเงินฝากในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2563 และชำระเงินค่างวดผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL ในเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563
ทั้งนี้ ธอส. จะดำเนินการโอนเงินตั้งแต่วันนี้-4 มกราคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 02-645-9000
4. โครงการของขวัญปีใหม่ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
1) เสริมสภาพคล่อง SMEs ไทย โดยลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์โครงการ (Front End Fee) ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดสำหรับโครงการสินเชื่อจำนวน 3 โครงการ ได้แก่
- โครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan)
- โครงการสินเชื่อ Smart SMEs
- โครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง SME D Happy แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2564
2) โครงการ “จ่ายดี มีเติม” สำหรับลูกค้าเดิมที่มีวงเงินสินเชื่อประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Term Loan) และมีประวัติชำระหนี้ดีจนถึง 31 ธันวาคม 2563 ธพว. จะเติมทุน เพื่อเสริมสภาพคล่องเพิ่มเติมสูงสุดเท่ากับวงเงินสินเชื่อเดิม ทั้งนี้ เมื่อรวมกับวงเงินสินเชื่อเดิมจะต้องไม่เกินวงเงินสูงสุด 15 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โทร. 02-265-3000 หรือ 1357
5. โครงการของขวัญปีใหม่ของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
1) ช่วยจัดสรรการผ่อนชำระ สำหรับลูกหนี้ค่าประกันชดเชยขออนุมัติประนอมหนี้ครั้งแรก ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 โดยผ่อนชำระค่างวด ปีที่ 1-2 มากกว่าร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยประจำเดือน และปีที่ 3-5 มากกว่าร้อยละ 50 ของดอกเบี้ยประจำเดือน
2) ช่วยลดอัตราดอกเบี้ย สำหรับลูกหนี้ประกันชดเชยที่มีศักยภาพ ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 โดยผ่อนชำระค่างวดไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของดอ กเบี้ยปกติ (ผ่อนชำระภายใน 5 ปี)
3) ช่วยลดค่างวดผ่อนชำระ สำหรับลูกหนี้ค่าประกันชดเชยก่อนฟ้องและหลังฟ้อง ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 โดยผ่อนชำระค่างวด ปีที่ 1-2 มากกว่าร้อยละ 20 ของดอกเบี้ยประจำเดือน และปีที่ 3-5 มากกว่าร้อยละ 50 ของดอกเบี้ยประจำเดือน
ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564-31 ธันวาคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โทร. 02-890-9999
6. โครงการของขวัญปีใหม่ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
1) ด้านสินเชื่อ สำหรับผู้ประกอบการเริ่มต้นธุรกิจส่งออก สามารถยื่นขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี เป็นเวลา 3 เดือน วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย และสำหรับผู้ประกอบการ SMEs สามารถยื่นขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดร้อยละ 4 ต่อปี สำหรับ 1 ปีแรก วงเงินสินเชื่อสูงสุด 8 ล้านบาทต่อราย
2) ด้านรับประกันการส่งออก สำหรับผู้เอาประกันรายใหม่จำนวน 100 รายแรก จะได้รับฟรี ค่าวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อ ธนาคารผู้ซื้อ และผู้ซื้อสินค้า 1 ราย และสำหรับผู้เอาประกันรายเดิม จะได้รับส่วนลดค่าวิเคราะห์ข้อมูลผู้ซื้อ ธนาคารผู้ซื้อ และผู้ซื้อสินค้า 2 ราย เหลือร้อยละ 50
ทั้งนี้ ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้-28 กุมภาพันธ์ 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร. 02-271-3700
7. โครงการของขวัญปีใหม่ของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
สำหรับลูกค้าที่ขอใช้บริการสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล จะได้รับฟรีค่าธรรมเนียมนิติกรรมสัญญาและค่าประเมินหลักประกัน และสำหรับลูกค้าทั่วไป ธอท. จะให้อัตรากำไรพิเศษในช่วงเดือนมกราคม 2564 โดยระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 02-650-6999 หรือ 1302
8. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2
ภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันเช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่ง โดยโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 นี้ แบ่งกลุ่มผู้ใช้สิทธิเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย
1) ผู้ได้รับสิทธิเดิมตามโครงการคนละครึ่ง ไม่เกิน 10 ล้านคน จะได้รับสิทธิวงเงินสนับสนุนจากรัฐเพิ่มเติมคนละ 500 บาท ในวันที่ 1 มกราคม 2564 ซึ่งเมื่อรวมกับวงเงินตามสิทธิที่มีอยู่เดิม 3,000 บาท เท่ากับจะมีวงเงินรวม 3,500 บาท สามารถใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564
2) ผู้ลงทะเบียนใหม่ ไม่เกิน 5 ล้านคน จะได้รับสิทธิวงเงินสนับสนุนจากรัฐคนละ 3,500 บาท สำหรับใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02-273-9020 ต่อ 3697, 3527, 3548, 3509
9. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2
ภาครัฐช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02-273-9020 ต่อ 3514, 3513, 3697
10. การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ
ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถหักรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จัดขึ้นให้แก่ลูกจ้าง หรือรายจ่ายที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อการอบรมสัมมนาภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 กันยายน 2564 เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02-273-9020 ต่อ 3512, 3509, 3529, 3525
11. โครงการกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ 10 บาท นิวนอร์มอลพลัสของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
สำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มปีใหม่ 10 บาท นิวนอร์มอลพลัส ที่ให้ความคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุและโรค COVID-19 ในคราวเดียวกัน ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน
อัตราเบี้ยประกันภัย 10 บาท/ราย (ผู้ประกอบการสามารถซื้อเพื่อมอบความคุ้มครองให้กับพนักงาน และลูกค้าของตนได้ และสำหรับบุคคลทั่วไปสามารถรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป) ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุดถึง 100,000 บาท และคุ้มครองกรณีโรค COVID-19 แบบ “เจอ-จ่าย-จบ” 3,000 บาท
ทั้งนี้ สามารถซื้อกรมธรรม์ได้โดยตรงกับบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2564
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โทร. 02-016-4888 กด 9
12. มาตรการเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระทางการเงิน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่จากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีมาตรการเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระทางการเงิน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2564 ดังนี้
1) มาตรการลดเบี้ยปรับ อัตราร้อยละ 100 สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี
2) มาตรการลดเบี้ยปรับอัตราร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีที่มาชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)
3) มาตรการลดอัตราการคิดเบี้ยปรับจากเดิมอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีเหลืออัตราร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
4) เพิ่มอัตราการลดเงินต้นจากเดิมร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 5 กรณีชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว กรณีผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้มาชำระหนี้คืนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย โทร. 02-515-3999 หรือ 1186
13. โครงการของขวัญปีใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
จัดทำไมโครไซต์ Start to Grow (www.sec.or.th/starttogrow) เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลและความรู้ที่จำเป็นในการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผู้ประกอบการใหม่ (Start-Up) และประชาชนที่สนใจ
รวมถึงวิธีการสำรวจความพร้อมและรูปแบบการระดมทุนที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน ขั้นตอนและช่องทางติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการระดมทุน ข่าวสารกิจกรรมการให้ความรู้ และช่องทางการขอรับคำปรึกษาฟรีผ่านคลินิกระดมทุนโดยเปิดใช้งานไมโครไซต์ดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันนี้
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โทร. 02-033-9999 หรือ 1207

ธ.อิสลาม ออกแคมเปญปีใหม่ ลดอัตรากำไรสินเชื่อบ้านลงอีก 0.25% ในปีแรก
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ออกแคมเปญสำหรับผู้ที่สนใจสมัครสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงปีใหม่ ด้วยการปรับลดอัตรากำไร (ดอกเบี้ย) ลงจากอัตรากำไรของแต่ละโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยลดลงอีก 0.25% ต่อปี ในปีแรก และในปีต่อไปคิดอัตรากำไรตามโครงการสินเชื่อที่ลูกค้าขอสมัครใช้ โดยโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ร่วมแคมเปญมีดังนี้
1. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยบ้านใหม่ Ibank
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 2.00% ต่อปี
2. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยบ้านพรีเมี่ยม
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 2.00% ต่อปี
3. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยกลุ่มอาชีพมั่นคง
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 2.00% ต่อปี
4. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยกลุ่มรายได้ยั่งยืน
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 2.00% ต่อปี
5. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยกลุ่มลูกค้ามุสลิม
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 2.00% ต่อปี
6. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่อาศัยรีไฟแนนซ์
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 2.00% ต่อปี
7. โครงการสินเชื่อบ้านมือสอง
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 3.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 3.00% ต่อปี
8. โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยบ้านชายแดนใต้
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 3.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 3.00% ต่อปี
9. โครงการสินเชื่อสวัสดิการสำหรับบุคคลภายนอก (MOU) หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ, บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Listed Companies) และนิติบุคคลอื่น ๆ (เฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัย)
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 2.10% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 1.85% ต่อปี
10. สินเชื่อที่อยู่อาศัยมาตรฐาน
- อัตรากำไรเริ่มต้น ปีแรกปกติ 4.25% ต่อปี
- อัตรากำไรเริ่มต้นปีแรก แคมเปญของขวัญปีใหม่ 2564 ลด 0.25% ต่อปี = 4.00% ต่อปี
นอกจากนี้ยังฟรีค่าประเมินหลักประกัน (กรณีลูกค้าได้รับการอนุมัติ) พร้อมฟรีค่านิติกรรมสัญญา โดยผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ไอแบงก์ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ibank Call center 1302 ตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2564
บ้านล้านหลัง ขยายวงเงินกู้เป็น 1.2 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 4,500 บาท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข “โครงการบ้านล้านหลัง” กรณีลูกค้ารายย่อย (Post Finance) โดยปรับเพิ่มราคาซื้อขายและวงเงินกู้ที่อยู่อาศัยเป็นไม่เกิน 1.2 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับราคาซื้อขายของอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน เพิ่มโอกาสให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น
ทั้งนี้ โครงการบ้านล้านหลัง กำหนดกรอบวงเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อย จำนวน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยแบ่งเป็น
กรณีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน ปีที่ 1-5 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียม (4 ฟรี) ได้แก่
1. ฟรีค่าธรรมเนียมการยื่นกู้
2. ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน
3. ฟรีค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
4. ฟรีค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง
ส่วนกรณีรายได้เกิน 25,000 บาท/คน/เดือน อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ 3.00% ต่อปี
กรณีลูกค้ากู้ 1.2 ล้านบาท จะผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงแค่ 4,500 บาท/เดือนเท่านั้น
ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2564
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage: ธนาคารอาคารสงเคราะห์
สินเชื่อบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน ดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก
ธอส. สนับสนุนนโยบายรัฐบาลร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างโอกาสให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้มีบ้าน เตรียมวงเงิน 20,000 ล้านบาท จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ “โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน”
อัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี คงที่นานถึง 2 ปีแรก ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี ปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ย MRR-2% ต่อปี (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.150% ต่อปี) หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ให้กู้สำหรับบุคคลในครอบครัวของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการเราไม่ทิ้งกันของรัฐบาล (มาตรการเงินเยียวยา 5,000 บาท) หรือบุคคลในครอบครัวของลูกค้า ธอส. ที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการบรรเทาผลกระทบจากปัญหาโควิด-19 ทั้ง 10 มาตรการ
เช็ก 10 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
วงเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหลักประกัน เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
พิเศษ!! ธนาคารยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และคิดค่าประเมินราคาหลักประกันอัตราพิเศษ ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ โทร. 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage: ธนาคารอาคารสงเคราะห์

สินเชื่อบ้านออมสิน ผ่อนล้านละ 10 บ. ดอกเบี้ย 0.01%
ธนาคารออมสินออก "สินเชื่อบ้านผ่อนต่ำ ล้านละ 10 บาท" ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ทั้งเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ ปลูกสร้างบ้านบนที่ดิน ต่อเติม ซ่อมแซม หรือต้องการรีไฟแนนซ์
ให้กู้ตามความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าแต่ละราย โดยไม่จำกัดวงเงินสูงสุด คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ คือ อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 0.01% ปีที่ 2-3 เท่ากับ 4.35% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-0.5% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารฯ ปัจจุบัน = 6.745% ต่อปี) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี = 2.903%
โดยวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 20 ปี ในปีแรกคิดเป็นเงินงวดผ่อนชำระ 10 บาทต่อเดือน ปีที่ 2-3 ผ่อนชำระ 3,700 บาทต่อเดือน และปีที่ 4 เป็นต้นไป ผ่อนชำระ 8,300 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ยังได้รับการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อที่อยู่อาศัยตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งให้ลดหย่อนค่าธรรมเนียนจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% อีกด้วย รวมทั้งธนาคารฯ ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้สามารถผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 40 ปี เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกผ่อนชำระได้ยาวนานขึ้น
ผู้สนใจสามารถแจ้งความจำนงได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ โดยต้องอนุมัติและจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หรือจนกว่าครบจำนวนเงินโครงการตามที่กำหนด อย่างใดอย่างหนึ่งที่ถึงก่อน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารออมสิน โทร.1115 หรือ www.gsb.or.th, Facebook: GSB Society
กรมธนารักษ์-ออมสิน-ธอส. จัดสินเชื่อ "บ้านคนไทยประชารัฐ" ดอกเบี้ยต่ำ 2.75% ต่อปี
กรมธนารักษ์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน จัดสินเชื่อโครงการ "บ้านคนไทยประชารัฐ" บนที่ดินราชพัสดุ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งกำหนดให้สร้างที่อยู่อาศัยเป็น บ้านแฝด บ้านแถว อาคารชุดพักอาศัย มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร พื้นที่ส่วนกลางไม่เกิน 30% ของพื้นที่โครงการฯ เพื่อรองรับกิจกรรม
โดยเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในระดับราคา 350,000-700,000 บาท/หน่วย ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 30 ปี พร้อมได้รับการผ่อนปรนการกำหนดอัตราส่วนการชำระหนี้ต่อรายได้ต่อเดือน สำหรับ 3 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่
1. ประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐกับกระทรวงการคลัง
2. ประชาชนที่่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาท/เดือน
3. ประชาชนทั่วไป
หมายเหตุ: ใช้สิทธิพิจารณาผู้เข้าร่วมโครงการจากประชาชนที่อยู่ในทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐกับกระทรวงการคลังเป็นลำดับแรก
อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ปีที่ 1-4 เท่ากับ 2.75% ต่อปี และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีลูกค้ารายย่อย MRR-0.75% ต่อปี ส่วนลูกค้าสวัสดิการหักเงินเดือน MRR-1% (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. อยู่ที่ 6.75% ต่อปี
เมื่อนำวงเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยมาประมาณการเงินงวด พบว่า
- ถ้าวงเงินกู้ 350,000 บาท 1-4 ปีแรก จะต้องจ่าย 1,700 บาท/เดือน ปีที่ 5-30 รายย่อยจ่าย 2,300 บาท/เดือน และสวัสดิการหักเงินเดือนจ่าย 3,300 บาท/เดือน
- ถ้าวงเงินกู้ 700,000 บาท 1-4 ปีแรก จะต้องจ่าย 3,300 บาท/เดือน ปีที่ 5-30 รายย่อยจ่าย 4,500 บาท/เดือน และสวัสดิการหักเงินเดือนจ่าย 4,400 บาท/เดือน
ปัจจุบันได้ดำเนินการใน 5 พื้นที่ ได้แก่ ขอนแก่น ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย และประจวบคีรีขันธ์
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือธนาคารออมสินทุกสาขา ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมได้ตั้งแต่วันนี้-2 มกราคม 2566
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า