Latest News from DDproperty https://www.ddproperty.com/news-rss Latest News in DDproperty th-th Copyright (c) DDproperty All rights reserved. 5 Fri, 29 Mar 2024 22:47:17 +0700 <![CDATA[รีวิวโครงการ: ควอเตอร์ ทองหล่อ (Quarter Thonglor)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/107956/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%2597 www.ddproperty.com:news:107956 Wed, 16 Sep 2015 23:30:38 +0700 รีวิวโครงการ: ควอเตอร์ ทองหล่อ (Quarter Thonglor)
รีวิวโครงการ: ควอเตอร์ ทองหล่อ (Quarter Thonglor)

หลังจากประสบความสำเร็จในโครงการบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองอย่าง “พาร์ค พรีว่า” นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่แตกบริษัทลูกอย่าง “นายณ์ เอสเตท” ก็เดินหน้าจับมือกับบริษัท คูนแคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด เปิดโครงการนำร่องบ้านเดี่ยวสไตล์คลัสเตอร์โฮมอย่าง “Quarter 39” ที่มียอดขายกว่า 300 ล้านบาทหลังจากเปิดพรีเซลไปเมื่อช่วงต้นปี การตอบรับดังกล่าว ทำให้นายณ์ เอสเตทเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จในทันที ด้วยการเปิดตัวเพิ่มอีก 2  โครงการภายใต้ “Quarter Collection” ได้แก่ “Quarter 31” ที่ยังคงสไตล์คลัสเตอร์โฮม และอีกหนึ่งโครงการเป็นบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินในชื่อ “Quarter Thonglor” ซึ่งนับเป็นโครงการบ้านเดี่ยวใจกลางทองหล่อแห่งแรกในรอบ 10  ปี

จริงอยู่ที่ตลาดของคอนโดมิเนียมมีการขยายตัวอันเนื่องมาจากการพัฒนาผังเมืองของกรุงเทพมหานคร แต่ทั้งนี้อสังหาริมทรัพย์แนวราบอย่างบ้านเดี่ยวก็ได้รับอานิสงส์ที่ดีไปด้วย ยิ่งหากเป็นที่ดินในย่านสุขุมวิทที่แทบจะไม่มีพื้นที่ให้ปลูกบ้านเดี่ยวเหลืออยู่ ทำให้มูลค่าที่ดินในย่านนี้เพิ่มสูงขึ้นมาก โปรดักส์ “Quarter Thonglor” จึงกลายเป็นโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินที่กลุ่มนักลงทุนหรือกลุ่มครอบครัวขยายให้การจับตามอง เพราะหากเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรกับการหาซื้อที่ดินเองในย่านนี้ Quarter Thonglor ถือเป็นโปรดักส์ระดับท็อปเอนด์ที่มีความคุ้มค่าหากมองไปถึงอนาคต

2

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 10 กันยายน 2558)

ชื่อโครงการ: ควอเตอร์ ทองหล่อ (Quarter Thonglor)

ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด และ บริษัท คูน แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส จำกัด

ทำเลที่ตั้ง: สุขุมวิท 55 ซอยทองหล่อ 25

เว็บไซต์www.quarter-collection.com

โทร: 02-662-2366

3

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 2-3-35 ไร่

รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 3 ชั้น 4-5 ห้องนอน  จำนวน 8 ยูนิต

ที่ดินเริ่มต้น: 74 – 199 ตร.ว.

พื้นที่ใช้สอย: 388 – 485 ตร.ม.

กลุ่มเป้าหมาย: Super Luxury

สถานะการก่อสร้าง: เริ่มขึ้นไซส์งานเมื่อเดือนตุลาคม  2557 ที่ผ่านมา

คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ไตรมาสที่ 1 ปี 2560

ระบบความปลอดภัย: คีย์การ์ดรถยนต์เข้าออกโครงการ รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง CCTV

ลิฟท์: ลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้าน

สถานะการขาย: 80% ของโครงการ (เหลือเพียงบ้าน Type A3 เพียงหลังเดียว)

เงินกองทุนสำรอง: 5,000 บาทต่อตร.ว. ชำระครั้งเดียว

ค่าส่วนกลาง: 200 บาทต่อตร.ว. ชำระล่วงหน้า 2 ปี

ราคาเริ่มต้น: 58.8 ล้าน (ข้อมูลวันที่ 10 กันยายน 2558)

รูปแบบบ้าน บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต  แบ่งออกเป็น

4

Type A (จำนวน 5 ยูนิต): ที่ดิน 99 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอย 450 ตร.ม. (5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3-5 คัน)

5

Type B (จำนวน 2 ยูนิต): ที่ดิน 74 ตร.วา ขึ้นไป และพื้นที่ใช้สอย 397 ตร.ม. (4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน)

6

Type S (จำนวน 1ยูนิต): ที่ดิน 199 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอยแล้วแต่กำหนด  (ห้องนอน ห้องน้ำ ที่จอดรถ แล้วแต่กำหนด)

7

8.1

ภาพ via forums2.popcornfor2.com

 วิเคราะห์ศักยภาพทำเลย่านทองหล่อ

สำหรับทำเลในเมืองย่านทองหล่อ เรื่องรถติดถือเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้จะเชื่อมถนนสายหลักอย่างเพชรบุรีกับสุขุมวิท แต่ก็ต้องพบกับปัญหารถติด โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้า-เย็น แต่หากมองให้ลึกลงไปอีกชั้นการจราจรบนถนนที่เส้นหลักสองเส้นนี้ยังสามารถเลือกเส้นทางการเดินทางออกไปยังถนนพระรามสี่ได้หากต้องเดินทางบนสุขุมวิท และออกไปยังถนนพระรามเก้าได้หากออกไปยังเส้นเพชรบุรี ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ใช้รถใช้ถนนในย่านนี้ เนื่องด้วยย่านทองหล่อไม่ได้ใกล้กับทางด่วนมากนัก จึงจะเห็นได้ว่าสภาพการจราจรของคนย่านนี้จะขึ้นอยู่ถนนสี่เส้นนี้เป็นหลัก ถึงจะเป็นถนนสายหลักที่พบปัญหาการจราจรติดขัด แต่ก็ยังพอมีทางหนีทีไล่ ซอยสุขุมวิท 53 ที่เชื่อมต่อกับทองหล่อซอย 1, 5, 9 อาจเป็นทางลัดที่เลี่ยงปัญหารถติดช่วงทองหล่อตอนต้นได้

ส่วนในเรื่องของระบบขนส่งมวลชน ทางฝั่งสุขุมวิทสามารถเดินทางไปมาได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS ส่วนทางเส้นเพชรบุรีก็ยังมีรถไฟฟ้าใต้ดินวิ่งผ่าน ด้วยความที่เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย เส้นทางการคมนาคมตัดผ่านหลายสาย จึงส่งผลให้ทำเลย่านนี้รวบรวมเอาไว้ทั้งสถานที่แนวไลฟ์สไตล์ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงเรียนและโรงพยาบาล เป็นต้น

  9

 10

สุขุมวิท 39 ซอยที่ตั้งสำนักงานขาย เลี้ยวเข้าซอยตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายแยกพร้อมจิตจะพบกับ Ozono ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายโครงการต่างๆ ของ Quarter Collection  จากซอยนี้สามารถใช้ทางลัดไปยังตัวโครงการทองหล่อ 25 ได้

11.1

สำนักงานขาย Quarter Collection ระยะห่างจากปากซอยประมาณ 1.7 กม.

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ

จากสำนักงานขายซึ่งอยู่ในพื้นที่ Ozono ในซอยสุขุมวิท 39  สามารถเดินทางไปยังตัวโครงการ Quarter Thonglor ผ่านเส้นทางลัดโดยไม่ต้องออกไปถนนสายหลัก (สุขุมวิท) ได้ โดยโครงการตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 25 ซึ่งค่อนไปทางตอนปลายของทองหล่อติดกับถนนเพชรบุรีมากกว่า และตัวโครงการอยู่ในซอยแยกอีกที จากปากซอยทองหล่อ 25 ตรงเข้าไปตามทางถึงซอยแสงทองประมาณ 450 เมตร ซอยนี้เป็นซอยตันโดยตัวโครงการจะอยู่ช่วงท้ายซอยพอดี

พื้นที่โดยรอบของที่ตั้งโครงการ เป็นบ้านเดี่ยวไม่เกิน 4 ชั้นที่ปลูกติดกันตลอดแนว ต้นซอยจะมีโครงการคอนโดมิเนียม และอาคาร Montara ตั้งอยู่ติดกัน มีระยะห่างพอตัวกว่าจะถึงตัวโครงการ Quarter Thonglor ทำให้ไม่มีผลกระทบเรื่องวิวมากเท่าไหร่นัก

จากการสำรวจพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการปลูกสร้างคอนโดฯ อาคาร บ้านเดี่ยวส่วนมาก เรียกได้ว่ามีการพัฒนาแทบจะเต็มพื้นที่อยู่แล้ว ทำเลที่เหลืออยู่แม้จะไม่ได้ติดกับสุขุมวิท 55 แต่เป็นพื้นที่ใจกลางเมืองที่มีความเป็นส่วนตัว ราคาที่ดินในย่านนี้จึงพุ่งขึ้นเรื่อยๆ หากมองในแง่ของนักลงทุนถือเป็นโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินที่เหมือนเป็นสินค้าหายากของย่านนี้ไปแล้วในปัจจุบัน

12

13

14

15

หากวิ่งมาจากสุขุมวิท 39 หรือสำนักงานขาย เข้ามาทางสุขุมวิท 49 แล้วเลี้ยวซ้ายตรงซอยแสงทองจะพบกับตัวโครงการอยุ่สุดซอย

16

ทางเข้าจากปากซอยทองหล่อ 25 ถนนเป็นทางวิ่งรถ 2 เลนส์ ตรงเข้ามาแล้วเลี้ยวขวามือจะพบโครงการ

17

18

19

ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยแสงทองซึ่งเป็นซอยย่อยมาจาก ทองหล่อ 25

การเดินทาง

หากมาจากทางถนนสุขุมวิท สามารถเข้าซอย 31, 33, 35 ตรงผ่านแยกร้านอาหาร L’opera ก็จะเข้ามาทางซอยสุขุมวิท 49 ได้ซึ่งสามารถทะลุตรงผ่านโรงพยาบาลสมิติเวชเข้าสู้ทองหล่อ 25 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการได้

หากมาจากทางเพชรบุรี ให้กลับรถ เข้ามายังสุขุมวิท 55 เมื่อพบซอยทองหล่อ 20 ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงพยาบาลคามิลเลียน เลี้ยวเข้าซอยข้างโรงพยาบาล หรือซอยทองหล่อ 25 ตรงมาตามทางจะผ่านซอยแสงเงิน แล้วจะเจอซอยโครงการ

หากมาจากทางสุขุมวิทเลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ ผ่าน J Avenue ไปเกือบสุดถนนมองซ้ายมือจะเห็นซอยทองหล่อ 25

หากมาจากสำนักงานขายในซอยสุขุมวิท 39 ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านซอยสุขุมวิท 49 ประมาณ 800 เมตร เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปอีกประมาณ 400 เมตร แล้วเลี้ยวขวาจะพบกับซอยแสงทองซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ

 สถานที่แนวไลฟ์สไตล์

เอ็มควอเทียร์ และเอ็มโพเรี่ยม (เดอะ เอ็ม ดิสทริค)

 20

ภาพ via tripomatic.com/

21

ภาพ via painaidii.com

22

ภาพ via skyscrapercity.com

ศูนย์การค้าใจกลางเมืองใน “เดอะ เอ็ม ดิสทริค” ที่รวบรวมเอาแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ แบรนด์เนมใหม่ๆ เข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับหรู จนไปถึงฟิตเนสระดับเวิร์ลคลาส ทั้งนี้อีกสองปีข้างหน้าก็จะมี EmSphere ผุดขึ้นมาในย่านนี้อีกหนึ่งแห่ง

H1 Thonglor

23

ภาพ via th.soidb.com

24

ภาพ via bloggang.com

จุดเริ่มต้นไลฟ์สไตล์ย่านทองหล่อบนพื้นที่กว่า 1 ไร่ ดีไซน์ที่แปลกตา กับร้านแฮงเอาท์เก๋ๆ ไม่กี่ร้านในโครงการ โดยเฉพาะร้านดังๆ ของที่นี่ อาทิ  To Die For Bar & Restaurant ที่เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ยอดนิยมของผู้คนย่านนี้

J-Avenue

25

ภาพ via news.truelife.com

Lifestyle Center ที่จับกลุ่มทาร์เก็ตลูกค้าญี่ปุ่น ทำให้ทำเลย่านทองหล่อได้รับอานิสงส์จากสินค้าและบริการที่คัดสรรค์มาเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้านี้ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น วิลล่ามาร์เก็ต ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือคาราโอเกะใน Major Blow Hit

รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการ Quarter Thonglor พัฒนามาเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัวขยายภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดินใจกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ พร้อมการออกแบบตกแต่งระดับไฮเอนด์บนทำเลหายากย่านทองหล่อ

Layout บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 8 ยูนิต  ตัวบ้านออกแบบโดย The Office 0f Bangkok Architect (OBA)  โดยมี VV Desire เป็นผู้ออกแบบ Landscape ทั้งหมด และมี  PIA Interior เป็นผู้ออกแบบตกแต่งภายใน

26

ซอยทางเข้าโครงการสองฝั่งข้างทางส่วนมากเป็นบ้านเดี่ยวความสูงไม่เกินสองชั้น

26.1

ทางเข้าโครงการ พื้นที่โครงการเป็นพื้นที่เปล่าที่มีความสูงกว่าพื้นที่โดยรอบประมาณ 90 ซม. โดยไม่ต้องถมเพิ่ม

27

พื้นที่โดยรวมของโครงการ Quarter Thonglor

28

พื้นที่ที่จะขึ้นโครงสร้างบ้าน Type A1, A2, A3 ด้านหลังเป็นพื้นที่ตาบอด ที่ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ต่อได้

29

พื้นที่ของโครงการรวมไปถึงด้านในหลังกำแพงที่จะปลูกบ้านรูปแบบ Type S บนพื้นที่ 199 ตร.วา

30

ด้านหลังโครงการติดกับคลองแสนแสบ แต่มีการเซ็ตโครงการให้ห่างออกมาประมาณ 100 เมตร และมีโครงการคอนโด เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ ของค่ายเสนาฯ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่

 

 

ภาพรวมภายนอก

Floor Plan

Quarter Thonglor มีด้วยกัน 8 ยูนิต แบ่งออกเป็น Type A 5 ยูนิต Type B 2 ยูนิต และ Type S 1 ยูนิต

4

31

ตัอย่างถนนเข้าโครงการกว้าง 8 เมตร บนแลนด์สเคปเขียวชะอุ่มด้วยธรรมชาติสองข้างทาง

Plan Type A

32

ผัง1st Floor อำนวยความสะดวกด้วยที่จอดรถ 4 คัน ห้องนอน 1 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวโดยมีระบบระบายอากาศแบบธรรมชาติ ลิฟท์อยู่ใกล้บริเวณบันไดของบ้าน พร้อมห้องเมดที่เป็นเตียงคู่อีก 1 ห้อง

33

ผัง2nd Floor จัดเป็นโซนสำหรับพักผ่อนในครอบครัว ประกอบด้วยห้องครัวขนาดใหญ่พร้อม Dining Area และ Living Room

34

ผัง 3rd Floor โซนแห่งการพักผ่อนมีความเป็นส่วนตัวสูง ออกมาจากลิฟท์จะพบกับห้องนอนขนาดใหญ่ ประกอบด้วยห้องแต่งตัวที่มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์ค-อิน ทั้งสองห้อง โดยจะมีเพียงหนึ่งห้องที่ภายในห้องน้ำจะมี Bathtub ที่โครงการทำการออกแบบและจัดหล่อขึ้นเอง

Plan Type B

35

ผัง 1st Floor ด้วยพื้นที่ที่เล็กกว่า Type A จึงสามารถจอดรถได้เพียง 3 คันในพื้นที่จำกัด จากแปลนบ้านห้องนอนชั้นหนึ่งจะอยู่ด้านในสุด และมีห้องเมดเตียงเดี่ยวหนึ่งห้อง มีลิฟท์อยู่บริเวณหลังห้องครัว

36

ผัง 2nd Floor ประกอบด้วย 1 Master Bedroom พร้อมโซนรับประทานอาหารติดกับห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume Living Area

37

ผัง 3rd Floor  มี Spacious Bedroom 1 ห้อง และห้องนอนอีก 1 ห้อง มีห้องน้ำในตัวทั้งสองห้อง พร้อมพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้สอยอีกหนึ่งจุด

ภาพตัวอย่าง Type S

38

บ้านแฝดในรั้วเดียวกันบนที่ดิน 199 ตร.วา

39

สระว่ายน้ำความยาวประมาณ 10 เมตร

 

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

สระว่ายน้ำส่วนตัว (ส่วนเสริม)

ลิฟต์ส่วนตัว

ตู้เสื้อผ้าแบบ วอล์ค-อิน

เครื่องครัว Poggenpohl Kitchen

เครื่องใช้ไฟฟ้า Siemens

 

การวางทิศทางของโครงการ

ทิศเหนือ เป็นพื้นที่ตาบอดไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างได้ ระยะสายตาสามารถเปิดวิวในทิศนี้ได้ดี แต่หากมองออกไประยะไกลจะพบอาคารสูง

ทิศใต้ อยู่ติดกับซอยแสงเงิน ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวปลูกสร้างไม่เกิน 2-4 ชั้น วิวเปิดกว้างไปถึงถนนสุขุมวิท 55

ทิศตะวันออก ติดคลองแสนแสบ ถึงจะมีการเซ็ตกำแพงให้ห่างประมาณ 100 เมตร แต่ก็อาจได้รับมลภาวะทางกลิ่นหรือเสียงได้ ฝั่งตรงข้ามมีโครงการคอนโด เดอะ นิช ไพร์ ขึ้นไซส์อยู่ในอนาคต อาจบดบังวิวในทิศนี้

ทิศตะวันตก เป็นซอยทางเข้าโครงการ สองข้างทางเป็นบ้านเดี่ยวปลูกสร้างไม่เกินสองชั้น และเป็นซอยส่วนบุคคล

 

 รีวิวภายในบ้าน

ไฮไลท์ของ Quarter Thonglor คือโครงการบ้านเดี่ยวแรกในย่านทองหล่อที่นำเอาการตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูงผสมผสานกับภูมิทัศน์สีเขียวท่ามกลางธรรมชาติ บนความส่วนตัวที่มีเพียง 8 ยูนิต

40

พื้นที่ห้องนั่งเล่น โซนพักผ่อนจะอยู่บริเวณชั้นสองของบ้าน มีการซ่อนระบบแอร์ให้อยู่ภายในตัวผนัง

41

พื้นที่ห้องนอนปูด้วยพื้นไม้ Engineering Wood ที่ให้สัมผัสเทียบเท่าไม้จริง พร้อมขนาดห้องนอนที่สามารถเปลี่ยนเตียงเป็นคิงไซส์ได้ทุกห้อง

42

เพิ่มความหรูหราด้วยการบุผนังและพื้นด้วยหินอ่อน

*หมายเหตุ เฟอร์นิเจอร์ในภาพตัวอย่างเป็นแบบที่จำลองขึ้นมาเท่านั้น  

ตัวอย่างสิ่งที่จะได้รับจากโครงการ

43

44

45

46

ชั้นครัว Poggenpohl Kitchen เพียงสัมผัสเบาๆ ไม่ต้องออกแรงดึงหรือผลักเยอะ ก็สามารถเลื่อนเข้า เลื่อนออกได้

47

เตา Hob ของ Siemens ที่ Built – in กับเคาน์เตอร์ครัววัสดุ Ceramic ทนต่อความร้อน และสะดวกต่อการใช้งาน

48

เตาอบ Siemens ที่ Built – in ใต้เคาท์เตอร์ครัว ใช้งานสะดวกเปิด-ปิด เตาด้วยระบบสัมผัสของ Poggenpohl Kitchen

49

ก็อกน้ำและซิงค์ของ Franke ดีไซน์ฝังติดกับเคาท์เตอร์ครัว

50

ในส่วนของห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์ที่เป็นของ Toto ทั้งหมด

51

ก็อกน้ำสามารถปรับระดับน้ำอุ่นโดยการขยับซ้ายขวา โดยซ่อนระบบทำน้ำอุ่นไว้ภายใน

52

ชุดอ่างล้างหน้า มีด้วยกันสองชุดเพื่อความสะดวกสบายของครอบครัว ตกแต่งด้วยหินอ่อนในสไตล์โมเดิร์น

53

54

Bathtub ของทางโครงการซึ่งมีการออกแบบและหล่อขึ้นเอง

ตัวอย่างห้องนั่งเล่น

55

ตัวอย่างห้อง Dining

56

*หมายเหตุ รูปทั้งหมดเป็นห้องตัวอย่างจากทางโครงการ ทั้งนี้การตกแต่งเฟิร์นิเจอร์ขึ้นอยู่กับผู้อยู่อาศัย

 

สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ: ตามมาตรฐานโครงการ

พื้น: Engineering Wood

ผนัง: Gypsum Board

ความสูงพื้นจรดเพดาน: ชั้นหนึ่ง 2.80 เมตร ชั้นสองและชั้นสาม 2.90 เมตร

บันได: Solid Wood ไม้จริง

เฟอร์นิเจอร์: ขึ้นอยู่กับผู้อยู่อาศัยจะตกแต่ง

เครื่องปรับอากาศ: Toshiba หรือ เทียบเท่า

สุขภัณฑ์: Toto ทั้งหมด

ชุดครัว: Siemens  อาทิ เตาอบ ไมโครเวฟ ซิงค์ล้างจาน

ลิฟท์: KONE หรือ เทียบเท่า

ระบบไฟ: Panasonic หรือ เทียบเท่า

 

วิเคราะห์อัตรผลตอบแทนที่ได้รับ

ปัจจุบันที่ดินเปล่าในย่านทองหล่อค่อนข้างจะเหลือน้อย  ราคาประเมินที่ดินตั้งแต่ปี 55-58 จะตกอยู่ที่ตร.ว. ละ 520,000 บาท ซึ่ง 2-3 ปีที่ ผ่านมามีราคาที่พุ่งขึ้นสูงถึง 22% ในขณะที่ราคาซื้อจริงของพื้นที่ติดถนนอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินถึง 188.46% หากเปรียบเทียบกับราคาที่ดินโครงการโดยดูจากเนื้อที่ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงจากจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญา มีราคาเฉลี่ย 600,000 บาทต่อตร.ว. หากมองถึงการลงทุนในอนาคต ราคาในพื้นที่จะปรับขึ้นปีอย่างแน่นอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

โครงการ 749 Residence สุขุมวิท 49

57

ภาพ via living-estate.blogspot.com

749 Residence ทาวน์โฮมหรู ในซอยสุขุมวิท 49 โดย “พรรณพัฒน์ ดีเวลลอปเมนท์” พัฒนาบนพื้นที่ 339 ตร.ว. จำนวน 7 ยูนิต ด้วยฟังชั่นบ้าน 5 ชั้น ขนาด 35 – 43 ตร.ว. มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้งสระว่ายน้ำส่วนตัวและระบบควบคุมการทำงานในบ้านอัตโนมัติ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 60 ล้าน

 

โครงการ มิวส์ เย็นอากาศ

58

ภาพ via mews-yenakat.com

มิวส์ เย็นอากาศ โครงการแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ลิมิเต็ด เอดิชั่น” ของ “ไรมอนแลนด์” เน้นภาพลักษณ์หรูหราเหนือระดับ และตั้งอยู่ใจกลางเมืองซอยเย็นอากาศ 2 โดยมีพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่สถาปัตยกรรมภายนอกรวมกว่า 750 ตร.ม.ประกอบไปด้วยบ้านสไตล์เซมิดิแทช โฮมความสูง 4 ชั้นครึ่ง จำนวน 8 ยูนิต บนพื้นที่หลังละ 79 ตร.ว. และบ้านเดี่ยวอีกหนึ่งหลัง โดยมีบริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลการก่อสร้างโครงการ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2559 โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 75 ล้านบาท

บทสรุป

อย่างที่ทราบกันว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่ดินในทำเลในเมืองเมืองส่วนใหญ่จะใช้ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม  ถ้าจะพูดว่าคอนโดมิเนียมนั้นสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัยภายในเมืองทั้งหมดก็คงเป็นไปไม่ได้ หลายครอบครัวที่กำลังขยับขยายด้วยจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น การอาศัยบนคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่จำกัดอาจจะไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ ดังนั้น การมองหาที่อยู่อาศัยในแนวราบจึงเป็นทางออกที่ดี นอกจากกลุ่มครอบครัวขยายที่ต้องการความส่วนตัวในเมืองแล้ว ยังมีกลุ่มผู้อยู่อาศัยเดิมที่ต้องการอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวเก่าเช่นกัน พื้นที่ทำเลทองที่แนวโน้มราคาขยับขึ้นเฉลี่ย 5% ต่อปีกับที่ดินปลูกบ้านเดี่ยวที่แทบหาไม่ได้บนย่านทองหล่อใจกลางเมือง ดังที่เห็นในปัจจุบัน หากเป็นบ้านเดี่ยวที่ต้องการพื้นที่จะออกไปพัฒนาในทำเลรอบนอกเสียเป็นส่วนใหญ่ ปัจจัยเหล่านี้กลายเป็นทางเลือกในการตัดสินใจให้ผู้มีกำลังซื้อ กลุ่มครอบครัวขยาย หรือแม้แต่นักลงทุนก็หันมาให้ความสนใจกับโปรดักส์อย่าง Quarter Thonglor นี้

 

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: โดว์เช่ อุดมสุข (Dolce Udomsuk)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/107844/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%258a%25e0%25b9%2588-%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b8 www.ddproperty.com:news:107844 Tue, 15 Sep 2015 23:00:44 +0700

สิรยศ กรุ๊ป อาจจะเป็นดีเวลลอปเปอร์รายเล็กๆ แต่สะสมชั่วโมงบินในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มาพอสมควร หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการดูแลด้านการตลาดให้กับโครงการบูทีค รัชดา ล่าสุด บริษัทได้ส่งโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ “โดว์เช่ อุดมสุข” (Dolce Udomsuk) คอนโดมิเนียม Low Rise ความสูง 7 ชั้น ที่สร้างจุดต่างด้วยการเพิ่มความสูงเพดานภายในห้องถึง 2.85 เมตร ซึ่งให้ความรู้สึกโปร่งสบายคล้ายกับห้องชุดในโครงการตึกสูงๆ ในราคา 2 ล้านต้นๆ กับห้องชุดแบบ Fully Furnished ในทำเลที่สะดวกสบายที่กำลังได้อานิสงส์จากความเจริญจากแนวรถไฟฟ้า และห้างสรรพสินค้าชื่อดัง รวมถึงสามารถออกได้หลายเส้นทาง ทั้งฝั่งสุขุมวิท และบางนา-ตราด หลังจากเปิด Pre-sale ไปเมื่อช่วงต้นปี ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวมียอดขายไปแล้วกว่า 60%

Dolce Udomsuk

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กันยายน 2558)
• ชื่อโครงการ: โดว์เช่ อุดมสุข (Dolce Udomsuk)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท สิรยศ จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: :ซอยสุขุมวิท 103 / 2 ถนน สุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กทม.

Dolce Udomsuk

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 3 งาน 6.7 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น 79 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มวัยทำงาน และชาวญี่ปุ่นที่ต้องการอาศัยใกล้เมือง ในราคาที่จับต้องได้
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือนกุมภาพันธ์ปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคมปี 2559
ระบบความปลอดภัย: Digital Door Lock, Key Card Access Control เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 2 – 7
ส่วนกลาง: Lobby Double Volume and Library, Fitness และ Swimming Pool
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 และบริเวณโดยรอบอาคาร คิดเป็น 40 % (30 คัน ไม่รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 60 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 700 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 55 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.5 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 85,000 บาท / ตร.ม.
โปรโมชั่นพิเศษ : จองเท่าไหร่ลดเท่านั้น มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท รับส่วนลด ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
เว็บไซต์: http://www.dolcecondo.com/TH/dolce.php
รูปแบบห้องทั้งหมด: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
A1-1: 1 ห้องนอน 31.21 ตร.ม. (คิดเป็น 52% ของยูนิตทั้งหมด)
A1-2: 1 ห้องนอน 30.59 ตร.ม. (คิดเป็น 7.2% ของยูนิตทั้งหมด)
A1-3: 1 ห้องนอน 31.10 ตร.ม. (คิดเป็น 7.2% ของยูนิตทั้งหมด)
A1-4: 1 ห้องนอน 31.08 ตร.ม. (คิดเป็น 7.2% ของยูนิตทั้งหมด)
A1-5: 1 ห้องนอน 31.90 ตร.ม. (คิดเป็น 7.2% ของยูนิตทั้งหมด)
A1-6: 1 ห้องนอน 31.10 ตร.ม. (คิดเป็น 6% ของยูนิตทั้งหมด)
A2: 1 ห้องนอน 30.67 ตร.ม. (คิดเป็น 7.2% ของยูนิตทั้งหมด)
A3: 1 ห้องนอน 33.55 ตร.ม. (คิดเป็น 5% ของยูนิตทั้งหมด)
A4: 2 ห้องนอน 66.76 ตร.ม. (คิดเป็น 1% ของยูนิตทั้งหมด)

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

Dolce Udomsuk
ภาพ via mrta.co.th

โครงการตั้งอยู่ในย่านอุดมสุข หรือสุขุมวิท 103 ซึ่งในอดีตหลายคนอาจไม่ได้มองเห็นศักยภาพบริเวณนี้มากนัก เนื่องจากมีลักษณะความเป็นอยู่ในลักษณะชุมชนชานเมือง แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป การพัฒนาเมือง แหล่งธุรกิจทั้งหลายได้ขยายมาสู่แถบสุขุมวิทตอนปลาย จนถึงบางนา และคาดการณ์ว่าดีกรีความเจริญที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจะขยายไปยังพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ สังเกตได้จากผลลัพธ์ของโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ ซึ่ง ณ ขณะนี้สุดอยู่ที่แบริ่ง แต่ไม่เกินปี 2561 คนที่นิยมใช้บริการบีทีเอสสายนี้จะสามารถเดินทางไปถึงบริเวณช้างสามเศียรได้เลย ทำให้บรรดาผู้ประกอบการ นักลงทุนทั้งหลาย จึงต่างแห่ไปปักหมุดโครงการอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise (ตามกฎระเบียบของผังเมืองสีส้ม ย.6 ที่ควบคุมความสูงของอาคารในพื้นที่) กันอย่างหนาแน่น

โครงการโดว์เช่ อุดมสุข ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 103/2 แม้ว่าสภาพความเป็นอยู่ของคนในซอยนี้ยังคงเป็นลักษณะชุมชน แต่นับว่ามีศักยภาพด้านทำเลพอสมควร เนื่องจากเป็นซอยที่สามารถใช้เป็นทางลัดทะลุเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นซอยอุดมสุข หรือบางนา–ตราด ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพราะเป็นที่รู้กันว่าการจราจรช่วงเช้าและเย็นค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร แต่หากมองข้ามเรื่องนี้ไป จะพบว่าโครงการอยู่ใกล้กับบีทีเอสสถานีอุดมสุข และรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะBangkok Mall หรือ Community Mall ต่างๆ เหตุนี้เองที่ทำให้บรรดาชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นเริ่มหันมาให้ความสนใจที่พักอาศัยในย่านนี้มากขึ้น ในส่วนของระดับราคาที่ดินย่านนี้จากการสำรวจพบว่าสูงขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ 5%

การเดินทาง ไปสำนักงานขาย

เนื่องจากที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 103/2 ห่างจากปากซอยประมาณ 400 เมตร (หากเดินอาจจะมีเหงื่อซึมๆ) และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 50% ทำให้เจ้าของโครงการเลือกเช่าพื้นที่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 103/1 ติดกับถนนใหญ่สายสุขุมวิท ฝั่งมุ่งหน้าไปทางบางนาตราด เป็นสำนักงานขายชั่วคราว เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาชมห้องตัวอย่าง และสอบถามรายละเอียดได้สะดวกมากขึ้น เพียงใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เดินมาจากสถานีอุดมสุข ทางออกที่ 1 (ประมาณ 200 เมตร) จะพบสำนักงานตั้งอยู่ใกล้กับสะพานลอยโรงพยาบกล้วยน้ำไท 2

Dolce Udomsuk

หากเดินมาจากบีทีเอส สถานีอุดมสุข จะต้องข้ามสี่แยก และเดินตรงมาเรื่อยๆ (ประมาณ 200 เมตร) สังเกตป้ายซอยสุขุมวิท 103/1 จะพบสำนักงานขายอยู่ด้านซ้ายมือ ฝั่งเดียวกับที่เดิน

Dolce Udomsuk

สำนักงานขายจะอยู่ใกล้กับกับทางขึ้นสะพานลอยกล้วยน้ำไท 2

Dolce Udomsuk

สำนักงานขายโครงการโดว์เช่ อุดมสุข ติดกับถนนใหญ่สายสุขุมวิท ฝั่งมุ่งหน้าไปทางบางนา-ตราด

Dolce Udomsuk

ทางโครงการมีที่จอดรถไว้คอยให้บริการ


การเดินทางเข้าโครงการ

Dolce Udomsuk

แผนที่โครงการโดว์เช่ อุดมสุข

โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 103/2 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถทะลุไปได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางตลาด
อุดมสุข บางนา-ตราด หรือทางฝั่งเส้นสุขุมวิท แต่สำหรับผู้ที่นิยมใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ด้วยระยะทางระหว่างที่ตั้งโครงการ กับรถไฟฟ้าสถานีอุดมสุขประมาณ 600 เมตร จึงทำให้ทางโครงการได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัย ด้วยรถ Shuttle Bus รับ-ส่งบริเวณปากซอยสุขุมวิท 103/2

Dolce Udomsuk

– รถไฟฟ้า BTS
ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (เส้นสุขุมวิท) มาลงสถานีอุดมสุข ทางออกที่ 1 แล้วเดินออกกำลังกายมาประมาณ 200 เมตร จะเจอป้ายซอยสุขุมวิท 103/2 จากนั้นอาจจะเดินออกกำลังกายหรือเลือกนั่งวินมอเตอร์ไซค์ ต่อเข้ามาในซอย ประมาณ 400 เมตร โครงการจะตั้งอยู่ขวามือ

Dolce Udomsuk

ป้ายซอยสุขุมวิท 103/2

– รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 หากขับรถมาจากถนนสายสุขุมวิท ให้มุ่งหน้ามาทางเส้นออกบางนา-ตราด ซึ่งจะผ่านบีทีเอสอุดมสุข และให้สังเกตสะพายลอยกล้วยน้ำไท 2 จากนั้นเตรียมชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 103/2 และตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 400 เมตร จะพบที่ตั้งของโครงการทางขวามือ

Dolce Udomsuk

ป้ายบอกทางทะลุ บางนาตราด

ทางเลือกที่ 2 หากขับรถมาจากถนนบางนา – ตราด ให้เข้าซอยบางนา-ตราด 1 จากนั้นขับมาตามทาง เมื่อเจอแยกให้เลี้ยวขวา ตรงมาประมาณ 200 เมตร จะพบโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ

สถานที่แนว Lifestyle

Dolce Udomsuk

คอมมูนิตี้มอลล์ One Udomsuk

ย่านอุดมสุขถือเป็นลูกผสมของไลฟ์สไตล์แบบใหม่และแบบดั้งเดิม เนื่องจากเป็นย่านที่ยังมีลักษณะความเป็นชุมชนอยู่ ดังนั้นร้านค้าเก่าแก่ ตลาดสดสมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาวก็ยังคงมีให้เห็น อีกทั้งยังเป็นที่นิยมของคนในย่านนี้ด้วย และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป ระดับความเจริญต่างๆ ได้เข้ามาแทรกซึมย่านนี้มากขึ้น แหล่งไลฟ์สไตล์ อย่างศูนย์การค้าที่เดอะมอลล์กรุ๊ป กำลังจะมาเปิดอาณาจักร Bangkok Mall หรือรวมถึงร้านอาหารเก๋ๆ ก็เริ่มมีให้เลือกสรรมากขึ้น ตั้งแต่ต้นซอยจนถึงปลายซอย จนหลายคนยกย่านนี้ให้เป็น “ถนนเยาวราช 2” นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและญี่ปุ่น เริ่มหันมาใช้บริการร้านค้า แหล่งแฮงค์เอ้าท์ในบริเวณนี้ สร้างความคึกคักได้ตลอดวัน ยิ่งไปกว่านั้นคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง One Udomsuk ที่เป็นศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และคนญี่ปุ่น ที่เริ่มมาอาศัยในย่านอุดมสุขมากขึ้น

Bangkok Mall

ห้างสรรพสินค้า Bangkok Mall ห่างจากโครงการ 700 เมตร

Berkeley School

โรงเรียนนานาชาติเบิร์คลีย์ ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม.

ภาพ via schoolzone.momypedia.com

รีวิวภาพรวมโครงการ

โดว์เช่ อุดมสุข เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Riseที่สร้างจุดต่างด้วยจำนวนชั้นเพียง 7 ชั้น โดยยอมลดจำนวนชั้นลง เพื่อเพิ่มความสูงของเพดานในห้องชุดให้สูงถึง 2.85 เมตร จากปกติความสูงเพดานของห้องชุดในคอนโดฯ แบบนี้จะอยู่ที่ราว 2.3-2.4 เมตร อีกทั้งด้วยพื้นฐานความชอบศิลปะของเจ้าของโครงการ ดังนั้นการตกแต่งจึงเน้นในสไตล์เรียบหรู คลาสสิค พร้อมรองรับประโยชน์การใช้งานต่างๆ แบบเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะภายในห้องที่พักอาศัย หรือส่วนกลาง และเน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 79 ยูนิตเท่านั้น

Dolce Udomsuk

2nd Floor Plan – แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องพักอาศัยและส่วนกลาง โดยมีทั้งหมด 10 ยูนิต ซึ่งทั้งหมดเป็นขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำทั้งชั้น แต่แตกต่างที่ขนาดของยูนิต อันได้แก่ A1-1 จำนวน 6 ยูนิต A1-2 = 1 ยูนิต A1-3 =1 ยูนิต A1-4 = 1 ยูนิต และ A2= 1 ยูนิต (สำหรับ Type นี้จะอยู่ด้านมุมฝั่งทิศตะวันตกของตึก ทุกชั้น)

Dolce Udomsuk

3nd – 6th Floor Plan – มีทั้งหมด 14 ยูนิต โดยคละแบบห้องกัน แต่สำหรับ A4 ที่เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จะอยู่ด้านมุมทางฝั่งทิศเหนือของตึก ทุกชั้น

Dolce Udomsuk

7th Floor Plan – มีทั้งหมด 13 ยูนิต ซึ่งยังคละแบบห้องกัน ชั้นนี้มีห้องไฮไลท์ คือ A4 (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) โดยกินพื้นที่ถึง 66.76 ตารางเมตร และอยู่ทางด้านมุม ฝั่งทิศเหนือของตึก

Dolce Udomsuk

จากโมเดลจะเห็นว่า โครงการตั้งอยู่ในซอยสุมขุมวิท 103/2 โดยทางเข้าจะหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ใกล้กับซอยลัดไป
บางนา-ตราด ซึ่งสังเกตว่าจะมีลักษณะคล้ายๆ ทางสามแพร่ง ซึ่งหากเป็นคนที่ไม่ถือในเรื่องนี้ จะพบว่าห้องฝั่งนี้จะได้กำไรเรื่องวิวที่ไม่มีอะไรบดบัง

Dolce Udomsuk

บรรยากาศการก่อสร้างโครงการ ทางฝั่งนี้เป็นทางทิศใต้ หากสร้างเสร็จบริเวณนี้จะเป็นสระว่ายน้ำ โดยพื้นที่เดิมบริเวณนี้ เป็น
ที่โล่ง

Dolce Udomsuk

ถนนซอยสุขุมวิท 103 / 2 เป็นแบบสองเลน โดยสังเกตเห็นว่าฝั่งนี้จะมีอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ซึ่งอาจบล็อกวิวได้ แต่โชคดีด้านนี้ไม่มีระเบียงและหน้าต่าง

Dolce Udomsuk

ทางด้านทิศตะวันออกของโครงการ ไม่มีตึกสูงบดบังวิว เป็นเพียงอพาร์ทเม้นท์ และบ้านสูง 2 ชั้น เท่านั้น ซึ่งด้านนี้สามารถมองเห็นบีทีเอสสายสุขุมวิทวิ่งผ่าน

Dolce Udomsuk

บริเวณนี้เป็นทางฝั่งทิศตะวันตก ด้านนี้ไม่มีตึกสูง มีเพียงบ้านชั้นเดียวในลักษณะชุมชนท่านั้น โดยวิวที่ได้จะเป็นด้านซอย
อุดมสุข

Dolce Udomsuk

ทางทิศใต้ อาจโดนบดบังจากโครงการ High Rise เดอะสกาย สุขุมวิทที่อยู่ใกล้ๆ กัน แต่โชคดีด้านนี้ไม่มีระเบียงและหน้าต่าง


สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ด้วยแนวคิดการออกแบบส่วนกลางของโครงการ ที่เน้นความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ และคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก โครงการจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ห้องสมุด และล็อบบี้ แบบ Double Volume ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เช่นเดียวกับภายในห้องพักอาศัย พร้อมล้อมรอบด้วยกระจก สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และพื้นที่สวนสีเขียวด้านนอก นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่บริเวณชั้น 2 ให้เป็นมุมของ Fitness เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย

Dolce Udomsuk

แปลนชั้น 1 เป็นส่วนของที่จอดรถ Library & Lobby แบบ Double Volume สระว่ายน้ำ พร้อมสวนสีเขียวโดยรอบ

Dolce Udomsuk

การออกแบบ Library &Lobby แบบ Double Volume เน้นความคลาสสิคเป็นหลัก

Dolce Udomsuk

จากโมเดล จะเห็นว่าหน้าต่างสูงบริเวณทางเข้านั้นคือส่วนของ Library &Lobby และรูปกล่องสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมาคือส่วนของห้อง Fitness

Dolce Udomsuk

ห้อง Fitness เป็นแนวยาว โดยมีพื้นที่ให้ออกกำลังกาย ซึ่งขนาดความกว้างขวางอาจจะแตกต่างจากโครงการแบบไฮไรส์ แต่สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวจะรู้สึกว่าขนาดกำลังพอเหมาะ

Dolce Udomsuk

สระว่ายน้ำอยู่ติดกับรั้วกำแพงสูงกว่า 3 เมตร โดยจะอยู่ทางฝั่งทิศใต้

Dolce Udomsuk

จากภาพบรรยากาศจำลอง จะเห็นว่าบริเวณสระว่ายน้ำ ห้อง Fitness และ Library & Lobby นั้นจะเชื่อมต่อกัน

Dolce Udomsuk


สระว่ายน้ำ เป็นระบบเกลือ มีความกว้าง 3.5 เมตร ยาว 13 เมตร


รีวิวภายในห้องชุด

พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม. และกระเบื้องแกรนิตโต้ (เฉพาะบริเวณฝั่งห้องครัว)
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.85 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 60 ซม. ส่วนความยาวขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง
ประตู: Digital Door Lock จาก Hafele
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และซิ้งค์ล้างจาน จาก Hafele
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: American Standard
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished

dolce udomsuk

A1-1: 1 ห้องนอน 31.21 ตร.ม. (คิดเป็น 52% ของยูนิตทั้งหมด)

Dolce Udomsuk

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 31.21 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

Dolce Udomsuk

ประตูเป็นแบบ Digital Door Lock เพียงแค่แตะ Key Card ประตูจะเปิดออก

Dolce Udomsuk

เมื่อประตูเปิดออก จะพบส่วนของห้องครัว โดยบริเวณนี้จะปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีดำ

Dolce Udomsuk

เตาไฟฟ้า ระบบร้อนเร็วจาก Hafele โดยไม่ได้กรุผนังกันเปื้อนให้ เพราะฉะนั้นเวลาทำอาหาร อาจจะต้องระวังเล็กน้อย เพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาด

Dolce Udomsuk

บริเวณส่วนทำอาหาร ติดตั้งปลั๊กไฟ ไว้เพื่อรองรับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ

Dolce Udomsuk

ติดตั้งซิ้งค์ล้างจานจาก Hafele ท็อปเป็นแกรนิตโต้

Dolce Udomsuk

เคาน์เตอร์ครัว ได้รับการออกแบบจากซัพพลายเออร์เดียวกับ Ikea โดยเน้นรองรับการใช้งาน ด้วยตู้เก็บของในขนาดพอเหมาะ

Dolce Udomsuk

นอกจากนี้ทางโครงการได้ติดตั้งเครื่องดูดควันจาก Hafele ให้ด้วย พร้อมเพิ่มตู้เก็บของให้บริเวณด้านบน

Dolce Udomsuk

หน้าบานของตู้ และลิ้นชัก ใช้วัสดุวีเนียร์สีไม้

Dolce Udomsuk

บริเวณเคาน์เตอร์ครัว ยังออกแบบ ตู้เก็บของจิปาถะ ไว้ด้านบน และที่เก็บรองเท้าไว้ด้านล่าง

Dolce Udomsuk

ส่วนทางด้านหลังประตูห้อง ได้ออกแบบตู้เก็บของ และพื้นที่ให้สามารถวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าและบนได้ โดยสามารถยกแผ่นชั้นวางของขึ้นได้

Dolce Udomsuk

บริเวณนี้ทางโครงการยังคง Built-in ตู้เก็บของ ทางด้านบนของตู้เย็น ซึ่งสูงพอสมควร ดังนั้นเวลาจะหยิบอะไร อาจต้องต่อเก้าอี้เอื้อมนิดนึง เนื่องจากเพดานมีความสูงถึง 2.85 เมตร

Dolce Udomsuk

ทางโครงการได้ติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนสองชั้น เพื่อเป็นไอเดียในการแบ่งโซนห้องระหว่างมุมนั่งเล่นกับครัว ซึ่งจะช่วยเรื่องกลิ่นอาหารพอสมควร

Dolce Udomsuk

มุมด้านขวามือของโซนนั่งเล่น ทางโครงการได้ให้โต๊ะกินข้าวเข้ามุม ขนาดสองที่นั่ง

Dolce Udomsuk

ส่วนผนังห้องจริง ทาสีขาวธรรมดา ไม่มีวอลเปเปอร์และของตกแต่งให้เหมือนดังรูป

Dolce Udomsuk

แอร์เป็นแบบติดผนังจาก Trane และสำหรับยูนิตนี้ทางโครงการติดตั้งให้สองเครื่อง คือมุมนั่งเล่นและห้องนอน แต่ไม่ได้ drop ฝ้าเพื่อซ่อนรางม่าน เหมือนดังรูป

Dolce Udomsuk

ทางโครงการได้ Built-in โต๊ะวางทีวี ในขนาดพอเหมาะ โดยมีลิ้นชักให้สามารถเก็บของจิปาถะได้

Dolce Udomsuk


ผนังส่วนด้านบนโต๊ะวางทีวี สามารถออกแบบให้เป็นชั้นวางของหรือหนังสือ เหมือนดังรูป

Dolce Udomsuk

ในฝั่งนั่งเล่น ทางโครงการได้ติดตั้งโซฟาขนาดสองที่นั่งให้ (ไม่รวมโต๊ะกลาง)

Dolce Udomsuk

บริเวณนี้จะมีระเบียง ให้สามารถออกไปสูดอากาศข้างนอกได้ ประตูเป็นแบบบานเลื่อน

Dolce Udomsuk

ระเบียงปูพื้นด้วยกระเบื้อง และมีความยาว 60 เซนติเมตร

Dolce Udomsuk

ราวระเบียงกันตก เป็นซี่เหล็กดังรูป

Dolce Udomsuk

ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์จะแขวนไว้ด้านบน โดยมีระแนงบังดังรูป

Dolce Udomsuk


ในส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องตัวอย่างจะไม่มีบานประตู แต่ของจริงจะติดตั้งประตูหน้าบานวีเนียร์ให้

Dolce Udomsuk


ส่วนของห้องนอน เตียงที่ได้จะเป็นขนาด 5 ฟุต ไม่รวมที่นอน

Dolce Udomsuk

ผนังห้องนอนที่ได้ จะทาสีขาวธรรมดา

Dolce Udomsuk


โดยด้านปลายเตียง ทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟ ที่เสียบเสาอากาศให้ ไว้รองรับทีวีแบบแขวน

Dolce Udomsuk

ส่วนนี้จะไม่มีระเบียง แต่จะล้อมรอบด้วยกระจก และหน้าต่างบานกระทุ้ง

Dolce Udomsuk

ตู้เสื้อผ้าที่ได้ จะเป็นแบบสามบานเปิด ซึ่งมีความสูงจรดเพดาน

Dolce Udomsuk


เนื่องจากตู้เสื้อผ้า ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงออกแบบ puller ให้สามารถดึงที่แขวนเสื้อผ้าลงมาได้

Dolce Udomsuk

โต๊ะเครื่องแป้งที่ได้เป็นแบบ Built-in ดังรูป

Dolce Udomsuk

บริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง ทางโครงการได้ติดตั้งปลั๊กไฟ ไว้รองรับการใช้งาน

Dolce Udomsuk

ด้านข้างโต๊ะเครื่องแป้ง ยังออกแบบให้มีตู้เสื้อผ้าสองบาน ไว้รองรับหนุ่มสาว ที่รักการแต่งตัว

Dolce Udomsuk

ในส่วนของห้องน้ำ สุขภัณฑ์ทั้งหมดที่ได้ จะเป็นของ American Standard

Dolce Udomsuk


ส่วนของอ่างล้างหน้า จะติดตั้งแบบฝังลงบนท็อปหินแกรนิตสีดำ

Dolce Udomsuk

ชักโครกที่ได้จะเป็นของ American Standard ดังรูป

Dolce Udomsuk

ส่วนผนังด้านบนชักโครก จะมีพื้นที่เหลือให้สามารถติดตั้งชั้นวางของ จากไอเดียของโครงการ ดังรูป

Dolce Udomsuk

ส่วนของห้องอาบน้ำ จะกั้นส่วนเปียก-แห้ง ด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสามชั้น จาก Shower King


วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ

จากศักยภาพทำเลแถบเส้นสุขุมวิทตอนปลาย ตั้งแต่อ่อนนุช จนถึงบางนา มีการพัฒนาความเจริญอย่างต่อเนื่อง ด้วยอานิสงส์การขยายตัวของรถไฟฟ้าสายสีเขียว จึงทำให้พื้นที่แนวรถไฟฟ้ารายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ ในพื้นที่เริ่มมีดีมานด์ใหม่ๆ จากช่าวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่เริ่มมองหาที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ในทำเลที่เดินทางเข้าเมืองสะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารอย่างย่านอุดมสุข ดังนั้นจึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่าในระยะยาว โดยมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 15,500 บาท ต่อเดือน สำหรับห้อง 1 ห้องนอน ราคาขายเริ่มที่ 2 ล้านต้นๆ

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

The Unique Sukhumvit 62/1
คอนโดมิเนียมของบริษัท เท็น ไทย ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน 1 ตารางวา สูง 8 ชั้น 116 ยูนิต รูปแบบ 1 – 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ และ ทริปเพล็กซ์ พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 33 – 163 ตร.ม. ที่จอดรถ 62% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 87,000 บาท / ตร.ม.

The Unique
ภาพ via tenthai.com

Le Crique Sukhumvit 64/2
คอนโดมิเนียมของบริษัท ริชแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 1 งาน 39.60 ตารางวา สูง 8 ชั้น 169
ยูนิต รูปแบบ 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30.44 – 61.36 ตร.ม. ที่จอดรถ 42% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 80,000 บาท / ตร.ม.

Le Crique
ภาพ via lecriquecondo.com

Hasu Haus
คอนโดมิเนียมของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บนที่ดิน 4 ไร่ สูง 7 ชั้น แบ่งออกเป็น 2 อาคาร 324 ยูนิต รูปแบบ 1 – 3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 31 – 92.25 ตร.ม. ที่จอดรถ 50% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 90,000 บาท / ตร.ม. ddproperty.com

Hasu Haus
ภาพ via sansiri.com

บทสรุป

โครงการนี้ หลายคนอาจจะเพ่งเล็งถึงสภาพซอยที่ตั้ง ซึ่งก็คือซอยสุขุมวิท 103 / 2 ที่มีลักษณะความเป็นชุมชน ไม่มีร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายของชำอยู่ใกล้ๆ โครงการ มีเพียงช่วงปากซอย และบริเวณตลาดอุดมสุขเท่านั้น แต่หากมองข้ามจุดนี้ไป แล้วนึกถึงความเจริญของพื้นที่นี้โดยรวม ไม่น่าจะต่างกับทางสุขุมวิท 62 ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมตั้งอยู่หลายแห่ง โดยจุดขายจะเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ยิ่งไปกว่านั้น หากศูนย์การค้า Bangkok Mall สร้างเสร็จพร้อมให้บริการในปี 2560 เชื่อว่าระดับความคึกคักและดีมานด์ต่อที่อยู่อาศัยในย่านนี้จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน อีกทั้งศักยภาพในการเดินทางถือว่าสะดวก สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง สามารถใช้เป็นทางลัด ทะลุอุดมสุข บางนา-ตราด ได้ รวมถึงด้านการออกแบบ ตกแต่งยังโดดเด่นเรื่องความสูงของเพดานที่หาไม่ค่อยได้กับโครงการแบบ Low Rise นับเป็นจุดขายที่เป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของโครงการนี้

สำหรับการปล่อยเช่า โดว์เช่ ถือเป็นคอนโดฯ เพียงโครงการเดียวในซอยสุขุมวิท 103/2 ทำให้คู่แข่งในพื้นที่เดียวกันไม่มีเลย แต่ในใกล้บริเวณใกล้เคียงก็มีอยู่หลายโครงการให้เลือก อย่างไรก็ดี ด้วยต้นทุนของคอนโดฯ ในย่านนี้ยังต่ำกว่าโครงการในสุขุมวิทโซนในๆ โอกาสในการได้กำไรจากการปล่อยเช่าก็ถือว่ายังมีอยู่

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ดีมูระ รัชโยธิน (D’Mura Ratchayothin)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/107648/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b9%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b0-%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%258a www.ddproperty.com:news:107648 Mon, 14 Sep 2015 05:00:23 +0700

ในที่สุดส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตก็ได้ฤกษ์ก่อสร้างอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจาก บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เริ่มเบี่ยงเส้นทางการจราจรบนถนนพหลโยธินบางช่วงเพื่อเคลียร์พื้นที่สำหรับการก่อสร้าง เวลานี้ทำเลพหลโยธินจึงเป็นอีกทำเลหนึ่งที่ดีเวลลอปเปอร์หลายรายสนใจและเข้าไปลงทุน

“ดีเวล แกรนด์ แอสเสท” เป็นอีกหนึ่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าไปปักหมุดโครงการคอนโดมิเนียมในย่านนี้ โดยคว้าที่ดินในซอยพหลโยธิน 34 เพื่อพัฒนาโครงการ “ดีมูระ รัชโยธิน” ขณะที่ยอดขายโครงการก็คืบหน้าไปกว่า 50% หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้เพียง 2 เดือน

D'Mura Ratchayothin

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2558)
ชื่อโครงการ: ดีมูระ รัชโยธิน (D’Mura Ratchayothin)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ดีเวล แกรนด์ แอสเสท จํากัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยพหลโยธิน 34 ถ.พหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เว็บไซต์: www.dwell-group.com/dmura/
โทร: 082-843-3434

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 2 ไร่ 41.7 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 216 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่, คนทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง, ผู้ปกครองนักศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สถานะการก่อสร้าง: โครงการได้รับอนุมัติรายงานการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม (EIA) จะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Keycard Access แบบเข้าออกได้เฉพาะชั้นที่พัก, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง
ส่วนพักอาศัย: ชั้นที่ 1-8
ส่วนกลาง: Double Height Lobby Lounge, Fitness, Swimming Pool, Entertainment Room, Pool table, Bike Sharing, Bike Parking, Open Pantry and Party Room, Co-working Space, Pavilion Rooftop, Yoga deck, Reading Corner, Barbeque Area
ที่จอดรถ: 45% แต่ละยูนิตได้สิทธิ์จอดรถ 1 คันแบบไม่ระบุที่จอดรถ
ลิฟท์โดยสาร: 2 ตัว
สถานะการขาย: 50% (ข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2558)
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 350 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 35 บาท/ตร.ม./เดือน
ราคาเริ่มต้น: 1.89 ล้านบาท หรือ 70,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2558)

D'Mura Ratchayothin


รูปแบบห้อง:

1 ห้องนอน 25.03-32.77 ตร.ม.
2 ห้องนอน 49.09-53.61 ตร.ม.
ทุกยูนิตตกแต่งแบบ Fully Furnished

D'Mura Ratchayothin_RoomLayout

D'Mura Ratchayothin_RoomLayout

D'Mura Ratchayothin_RoomLayout

7_D'Mura Ratchayothin_RoomLayout

D'Mura Ratchayothin_RoomLayout

D'Mura Ratchayothin_RoomLayout

D'Mura Ratchayothin_RoomLayout
รูปเลย์เอาท์ห้องแบบต่างๆ


วิเคราะห์ศักยภาพทำเลย่านรัชโยธิน

ย่านรัชโยธิน (ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวจนถึงแยกเกษตร) เป็นอีกทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ เพราะนอกจากจะเป็นทำเลที่รองรับการขยายตัวของเมืองต่อมาจากย่านอารีย์-สะพานควายแล้วยังเป็นทำเลที่ดึงดูดกลุ่มทุนต่างๆ ให้เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สำนักงานให้เช่ารวมถึงอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม

เนื่องจากย่านนี้เป็นย่านที่มีการอยู่อาศัยหนาแน่นเพราะอยู่ใกล้แหล่งงานทั้งมหาวิทยาลัยและสำนักงานขนาดใหญ่หลายแห่ง ประกอบกับทำเลรัชโยธินเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกเพราะเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญไม่ว่าจะเป็นถนนวิภาวดี ถนนรัชดาภิเษก ถนนงามวงศ์วานและถนนเกษตร-นวมินทร์ ทั้งยังเป็นทำเลที่มีระบบขนส่งสาธารณะให้บริการตลอดเส้นทาง ทั้งยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า (MRT สถานีพหลโยธิน) ซึ่งเอื้อต่อการเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจด้วย

ในอนาคตย่านทำเลถนนพหลโยธินตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวจนถึงแยกเกษตรจะมีการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่จะเชื่อมต่อการเดินทางของย่านนี้เข้ากับรถไฟฟ้าสายหลัก (สายสุขุมวิท) ที่สถานีบีทีเอสหมอชิต ทำให้การเดินทางในย่านนี้สะดวกยิ่งขึ้นเพราะสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจได้โดยตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีอินเตอร์เชนจ์เหมือนสายสีลม

อย่างไรก็ตามถนนพหลโยธินตั้งแต่ห้ายแยกลาดพร้าวไปจนถึงแยกแกษตรก็มีข้อเสียที่หลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นคือการจราจรที่หนาแน่นมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน อีกทั้งในช่วง 3 ปีต่อจากนี้จะมีการรื้อถอนสะพานข้ามแยกเกษตรเพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าซึ่งจะส่งผลให้การจราจรติดขัดมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ

แม้ย่านรัชโยธินจะเป็นย่านที่มีที่อยู่อาศัยหนาแน่นแต่โครงการที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดจะตั้งอยู่ตามซอยต่างๆ สำหรับโครงการดีมูระ รัชโยธินตั้งอยู่ในซอยพหลโยธิน 34 หรือซอยเสนา 2 โครงการอยู่ลึกเข้าไปในซอยประมาณ 800 เมตร ที่ตั้งของโครงการถือว่าสะดวกต่อการเดินทางมากเพราะสามารถเข้าออกได้หลายทาง หากใช้เส้นทางพหลโยธินสามารถเข้าออกโครงการได้จากซอยพหลโยธิน 32 (ซอยเสนา 1) และพหลโยธิน 34 (ซอยเสนา 2) และสามารถใช้เส้นทางลัดผ่านถนนประเสริฐมนูกิจ 2 ไปยังถนนเกษตร-นวมินทร์ได้

D'Mura Ratchayothin
แผนที่โครงการ

D'Mura Ratchayothin
หน้าแปลงที่ดินโครงการ

ซอยพหลโยธิน 34 ถือเป็นซอยที่มีขนาดใหญ่ (ถนน 2 เลนและมีทางเท้าซึ่งจะขาดช่วงบริเวณกลางซอย) ที่ตั้งของโครงการแม้จะอยู่ในซอยแต่ก็อยู่ในโซนที่เป็นย่านชุมชน รอบๆ โครงการมีร้านสะดวกซื้อทั้งเซเว่น-อีเลฟเว่น, โลตัสเอ็กเพรสและตลาดศรีเสนาซึ่งเป็นตลาดสดขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านอาหารตามสั่งอยู่เป็นระยะๆ

 Phaholyothin34
บริเวณปากซอยพหลโยธิน 34

 Phaholyothin34
บรรยากาศภายในซอยค่อนข้างร่มรื่น

Phaholyothin34Yaek16
บริเวณซอยพหลโยธิน 34 แยก 16 เป็นสี่แยกที่มีความเป็นชุมชนสูง

 SriSena Market

 SriSena Market
ตลาดสดศรีเสนาตั้งอยู่ใกล้ๆ แยก 16

Soi Sawai
ซอยไสว เป็นทางลัดจากซอยพหลโยธิน 34 ไปถนนเกษตร-นวมินทร์ บริเวณนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกและร้านสะดวกซื้อ

Soi Sawai
โลตัส เอ็กเพรสในซอยไสว (เปิด 24 ชม.)

Soi Sawaiร้านสะดวกซื้อในซอยไสว

การเดินทาง
รถยนต์: หากใช้เส้นทางถนนพหลโยธินผ่านห้าแยกลาดพร้าวให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกรัชโยธิน เมื่อถึงแยกเสนาให้เลี้ยวขวาเข้าซอยเสนา 1 (พหลโยธิน 32) ขับตรงไปจากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ซอยเสนานิคม 1 แยก 11 ตรงไปจนสุดทางจะเจอสามแยกมีป้ายระบุว่าซฮยพหลโยธิน 34 แยก 2 ให้เลี้ยวขวา ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเห็นโครงการดีมูระอยู่ทางขวามือ แต่หากใช้เส้นทางจากแยกเกษตรให้ขับตรงมาเรื่อยๆ เมื่อเห็นร้านแม็กแวลูทางซ้ายมือก็ให้เตรียมเลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 34 เมื่อเข้าซอยแล้วให้ขับตรงไปประมาณ 800 เมตรจะเห็นโครงการตั้งอยู่ทางขวามือ

รถเมล์: 26, 39, 63, 177, 191, 503, 524, 545 ให้ลงป้ายโรงพยาบาลเมโยหรือแยกเสนาแล้วเดินมาบริเวณปากซอยพหลโยธิน 34 เพื่อต่อวินมอเตอร์ไซด์เข้าไปที่โครงการได้เลย

รถไฟฟ้า (อนาคต): ถ้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จสามารถขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีสยามและลงที่สถานีเสนานิคม จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์เพื่อเข้าไปที่โครงการ

Green Line Mass transit
รถไฟฟ้าสายสีเขียว ภาพ via mrta.co.th

สถานที่แนว Lifestyle

Central Ladprao
เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ภาพ via facebook.com/CentralPlazaLardpraofanpage

TescoLotus Ladprao
เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว ภาพ via GoogleMap

Major Avenue Ratchayothin
ดิ อเวนิว รัชโยธิน ภาพ via facebook.com/Avenue.Ratchayothin

box space
Box Space Ratchayothin ภาพ via boxspace-ratchayothin.com

HomeVillage Kasetsart
Home Village Kaset ภาพ  via facebook.com/Homevillagekasetsart

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ “ดีมูระ รัชโยธิน” เป็นโครงการคอนโดฯ ในรูปแบบโลวไรส์ที่ออกแบบในสไตล์โมเดิร์นเซน จุดเด่นของโครงการอยู่ที่พื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกจำนวนมากเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมโลวไรส์อื่นๆ ที่มีจำนวนยูนิตใกล้เคียงกัน เพราะโครงการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางโดยแยกอาคารที่เป็น Facility ออกจากอาคารพักอาศัย โดยอาคารที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกนี้มีชื่อเรียกว่า “Black Box” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของดีมูระ

D'Mura Ratchayothin
โมเดลอาคารสิ่งอำนวยความสะดวก
D'Mura Ratchayothin
Black Box Perspective

คอนเซ็ปต์หลักของ Black Box คือการพัฒนา Facility ให้เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ลูกบ้านมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแทนที่จะต่างคนต่างอยู่ตามคอนเซ็ปต์ “The Social Condominium” ของโครงการ ตัว Black Box เป็นอาคาร 3 ชั้น (รวมดาดฟ้า) ชั้นที่ 1 บริเวณนอกตัวอาคารออกแบบเป็นพื้นที่จอดรถและพื้นที่จอดรถจักรยาน ขณะที่ภายในออกแบบเป็น Double Volume Lobby หรือล็อบบี้เพดานสูงและ Co-working Space การตกแต่งเป็นสไตล์ Industrial Loft ซึ่งเป็นการตกแต่งแบบเรียบแต่เท่ มีกลิ่นอายแบบดิบๆ เน้นการเปิดผิวโครงสร้าง เช่น ผนังปูนเปลือย โครงสร้างเหล็ก ฯลฯ ชั้น 2 ออกแบบเป็นEntertainment Room, ห้องครัวแบบเปิดสำหรับปาร์ตี้เล็กๆ, มุมอ่านหนังสือ, ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำ ส่วนชั้น 3 ออกแบบให้เป็นสวนดาดฟ้าและลานสำหรับโยคะกลางแจ้ง

D'Mura Ratchayothin
Co-working Space

D'Mura Ratchayothin
Facility บนชั้น 2 ของ Black Box

D'Mura Ratchayothin
โต๊ะพูลและมุมอ่านหนังสือบนชั้น 2

D'Mura Ratchayothin
ครัวแพนทรีแบบเปิด

D'Mura Ratchayothin
ห้องฟิตเนส

D'Mura Ratchayothin
สระว่ายน้ำระบบเกลือ (กว้าง 6.5 เมตร ยาว 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร)

D'Mura Ratchayothin
สวนดาดฟ้าและลานโยคะ

D'Mura Ratchayothin
นอกจากสวนดาดฟ้าแล้วโครงการยังมีสวนพักผ่อนบริเวณด้านหลังของโครงการด้วย

D'Mura Ratchayothin
มาสเตอร์แปลนของโครงการ

ด้านหน้าของโครงการหันไปทางทิศเหนือ ตัวอาคารเป็นแนวยาวทอดไปตามทิศเหนือ-ใต้ โครงการจึงมียูนิตที่รับแดดเช้าและแดดบ่ายจำนวนเท่าๆ กัน

D'Mura Ratchayothin
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการเป็นคลังสินค้าที่ล้อมรั้วสูง

D'Mura Ratchayothin
ถนนด้านหน้าโครงการฝั่งมุ่งหน้าออกปากซอยพหลโยธิน 34

D'Mura Ratchayothin
ถนนด้านหน้าทางด้านซ้ายมือของตัวโครงการ

D'Mura Ratchayothin
ทิศใต้ของโครงการเป็นทาวโฮม 3 ชั้น

D'Mura Ratchayothin
ทิศตะวันออกของโครงการเป็นวิวย่านชุมชน (ถ่ายจากชั้น 2 ของสำนักงานขาย)

D'Mura Ratchayothin
รอบๆ โครงการถือว่าไม่มีการบล็อควิวจากพื้นที่รอบนอกเลย จะมีเฉพาะทิศตะวันตกเท่านั้นที่ติดบล็อคอพาร์ทเมนต์สูง 5 ชั้น แต่โครงการปรับทัศนียภาพของทิศนี้โดยสร้างอาคารพื้นที่ส่วนกลางขึ้นมาเพื่อบังตัวอพาร์ทเมนต์แล้วกั้นกำแพงสูงเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านที่จะเข้ามาใช้บริการพื้นที่ส่วนกลาง ทั้งยังช่วยแก้เรื่องวิวให้ห้องฝั่งทิศตะวันตกด้วย ห้องฝั่งนี้ก็จะได้เทควิวของสระว่ายน้ำแทน

D'Mura Ratchayothin
แปลนชั้น 2

D'Mura Ratchayothin
แปลนชั้น 3-8

รีวิวห้องตัวอย่าง
ห้องของโครงการเป็นแบบตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินแบรนด์SB Furnitureตามแบบในห้องตัวอย่าง ทุกห้องมาพร้อมกับประตูทางเข้าไซส์พิเศษ (กว้าง 90 เซนติเมตร สูง 2.4 เมตร) ห้องตัวอย่างมี 3 แบบ ได้แก่

1) ห้องแบบ 1 ห้องนอน 30.93 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท

41_D'Mura Ratchayothin_

42_D'Mura Ratchayothin_

ห้องตัวอย่างแบบนี้ถือเป็นห้องขนาดกลางๆ ของโครงการ ตัวห้องตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเซน ให้ความรู้สึกทันสมัยแต่เรียบง่าย เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์โดยเพิ่มลูกเล่นเรื่องพื้นที่เก็บของรูปแบบต่างๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นเลย์เอาท์ห้องตามแบบนี้
D'Mura Ratchayothin
มุมห้องเมื่อมองจากห้องนอนไปยังประตูห้องทางเข้า

D'Mura Ratchayothin
มุมห้องนั่งเล่น โซฟาเป็นบิลท์อินมีลูกเล่นเป็นลิ้นชักเก็บของให้ด้วย

D'Mura Ratchayothin
บิลท์อินชั้นวางทีวีบริเวณโซนนั่งเล่น

D'Mura Ratchayothin
ตู้ที่อยู่ด้านข้างชั้นวางทีวีเป็นตู้บานเลื่อนบิลท์อินความสูงจากพื้นจรดเพดานสำหรับวางรองเท้าและเก็บของต่างๆ ภายในออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานค่อนข้างหลากหลาย

D'Mura Ratchayothin
ขณะที่โซนห้องนอนกั้นด้วยบานสไลด์อลูมิเนียมสีดำเป็นแบบ 3 ตอนซึ่งจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นไม่อึดอัด หน้าต่างห้องนอนเป็นบานใหญ่ มีบานกระทุ้ง 2 บานสำหรับระบายอากาศ บิลท์อินเตียงขนาด 5 ฟุตไว้ให้

D'Mura Ratchayothin
สำหรับเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินในห้องนอนถือว่าโครงการทำได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะบิลท์อินโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมชั้นวางของที่อยู่บริเวณปลายเตียง

D'Mura Ratchayothin
ข้างๆ ชั้นวางของจะเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนขนาดใหญ่ ฟังก์ชั่นการใช้งานมีลูกเล่นและลงตัวมาก

D'Mura Ratchayothin
ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะมีมุมทำงานเล็กไว้ให้ด้วย

D'Mura Ratchayothin
ขณะที่ห้องครัวถูกจัดสรรด้วยเลย์เอาท์ห้องให้อยู่บริเวณมุมทางที่จะออกสู่ระเบียง ตัวห้องครัวตั้งอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี

D'Mura Ratchayothin
เคาน์เตอร์ครัวเป็นแพนทรี ท็อปด้วยลามิเนตกันความร้อนแบรนด์ลิกซิล (Lixil) ไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้ มีแต่อ่างล้างจานและก็อกน้ำจากแบรนด์ American Standard ให้

D'Mura Ratchayothin
ขณะที่ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์และก็อกน้ำแบรนด์American Standardมีกระจกแบบบานเปิดกั้นส่วนเปียกและส่วนแห้ง โซนอาบน้ำโครงการเดินสายสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้ให้แล้ว พื้นปูกระเบื้องกันลื่น ตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องสีขาว (ที่วางของเหนือสุขภัณฑ์โครงการทำเป็นชั้นโชว์เพื่อความสวยงาม สเปคห้องจริงไม่มีแบบนี้)

D'Mura Ratchayothin
เป็นมุมระเบียงที่อยู่ถัดจากห้องครัวประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ 3 ตอน บริเวณระเบียงเดินท่อสำหรับต่อเข้าเครื่องซักผ้าไว้ให้แล้ว เหนือเครื่องซักผ้าขึ้นไปจะเป็นที่สำหรับแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์

2) ห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 53.22 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท

D'Mura Ratchayothin
ห้องไซส์นี้ถือเป็นห้องไซส์ใหญ่ที่สุดของโครงการ หากดูตามแปลนชั้นแล้วจะเห็นว่าห้อง 2 ห้องนอนทุกห้องจะเป็นห้องมุมทั้งหมด

D'Mura Ratchayothin
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็จะเห็นการจัดเลย์เอาท์ห้องตามแบบนี้ โซนนั่งเล่นจะอยู่หน้า Master Bedroom ประตูทางเข้าห้องนอนเล็กจะอยู่ทางด้านขวามือ อีกฝั่งของห้องนั่งเล่นก็จะเป็นโซนทานอาหาร

D'Mura Ratchayothin
ยูนิต Type นี้จะมีระเบียง โดยโครงการออกแบบโซนนั่งเล่นให้ติดกับระเบียง

D'Mura Ratchayothin
บิลท์อินชั้นวางทีวีของโซนนั่งเล่น ด้านขวามือสุดของบิลท์สามารถประยุกต์ใช้เป็นโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้

D'Mura Ratchayothin
เมื่อมองจากระเบียงเข้ามาในตัวห้องก็จะเห็นประตูทางเข้าห้องนอนเล็ก โซนทานอาหาร ตู้เก็บของและโซนครัว

D'Mura Ratchayothin
หลังโต๊ะทานข้าวจะมีตู้เก็บของวางอยู่ข้างประตูทางเข้า ฟังก์ชั่นหลักของตู้นี้คือเป็นชั้นวางรองเท้าและเก็บของอเนกประสงค์

D'Mura Ratchayothin
ตู้เก็บของใหญ่ตั้งอยู่หน้าข้องน้ำและอยู่ระหว่างโซนครัวกับโซนทานอาหาร

D'Mura Ratchayothin
โซนครัวมีระเบียงบานสไลด์สำหรับระบายกลิ่น

D'Mura Ratchayothin
เคานต์เตอร์ครัวท็อปลามิเนตกับตู้แขวนผนังที่โครงการจะบิลท์อินมาให้

D'Mura Ratchayothin
มุมของห้องครัวเมืองมองเข้ามาจากระเบียงก็จะเห็นตำแหน่งของห้องน้ำด้วย

D'Mura Ratchayothin
ระเบีบงบริเวณห้องครัว โครงการวางฟังก์ชั่นเป็นระเบียงซักล้างและเดินท่อน้ำสำหรับเครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย

D'Mura Ratchayothin
มาสเตอร์เบดรูมออกแบบให้โปร่งด้วยการกรุกระจกบาใหญ่ โครงการให้บานกระทุ้ง 2 บานสำหรับระบายอากาศ บิลท์อินเตียงขนาด 5 ฟุต

D'Mura Ratchayothin
ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินภายในห้องนอนออกแบบเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมความสูงเต็มพื้นที่จากพื้นจรดฝ้าเพดาน ด้านข้างบิลท์อินชั้นวางของมาให้ด้วย

D'Mura Ratchayothin
ชั้นวางของตกแต่งบริเวณทางเข้ามาสเตอร์เบดรูม

D'Mura Ratchayothin
บิลท์อินชั้นวางทีวีภายในห้องนอน

D'Mura Ratchayothin
ห้องนอนเล็กบิลท์อินเตียงขนาด 3 ฟุต ชั้นวางที่อยู่บนหัวเตียงทำเพื่อความสวยงามเท่านั้นยูนิตจริงไม่มีให้

D'Mura Ratchayothin
ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินพร้อมชั้นวางของในห้องนอนเล็ก

3) ห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส 27.57 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

D'Mura Ratchayothin
ห้อง Type นี้เป็นห้องส่วนใหญ่ของโครงการแต่ตัวอย่างห้องที่โครงการโชว์ให้ดูนั้นเป็นห้องเปล่าและตกแต่งผนังห้องด้วยสีและสติ๊กเกอร์เพื่อให้ลูกค้าดูว่าพื้นที่บริเวณไหนจะตกแต่งอะไรบ้าง

D'Mura Ratchayothin
เลย์เอาท์ของห้องจากประตูทางเข้า โซนแรกที่เห็นคือโซนนั่งเล่น ถัดไปมีมุมทำงานเล็กๆ ก่อนที่จะถึงโซนห้องนอน

D'Mura Ratchayothin
เลย์เอาท์ของห้องเมื่อมองจากห้องนอนมายังประตูทางเข้า

D'Mura Ratchayothin
โซนนั่งเล่น

D'Mura Ratchayothin
จุดนี้โครงการจะบิลท์อินชั้นวางทีวีสำหรับโซนนั่งเล่านมาให้

D'Mura Ratchayothin
โซนห้องนอน มีบิลท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้

D'Mura Ratchayothin
โซนครัวและระเบียง

D'Mura Ratchayothin
ตำแหน่งห้องน้ำอยู่หน้าห้องครัวเหมือนยูนิตอื่นๆ

สรุปสิ่งที่จะได้รับ
พื้น: ไม้ลามิเนตหนา 8 มม.
ผนัง: ฉาบเรียบทาสีขาว
เพดาน: สูง 2.5 เมตร
ประตูทางเข้า: ประตูกว้าง 90 ซม. สูง 2.4 เมตร พร้อมมือจับแบบก้าน
หลอดไฟ: ใช้หลอด LED ทั้งหมด
เครื่องปรับอากาศ:
ห้องแบบ 1 ห้องนอนเครื่องปรับอากาศ Panasonic ขนาด 9,000 BTU 2 เครื่อง
ห้องแบบ 2 ห้องนอนได้เครื่องปรับอากาศ Panasonic ขนาด 12,000 BTU 2 เครื่อง และ 9,000 BTU 1 ห้อง
เฟอร์นิเจอร์: แพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์แต่ละห้องจะมีความแตกต่างกัน

D'Mura Ratchayothin
เซ็ตเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน 27 ตารางเมตร

D'Mura Ratchayothin
เซ็ตเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร

D'Mura Ratchayothin
เซ็ตเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน 53 ตารางเมตร

ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัวบิลท์อิน ท็อปลามิเนตทนความร้อน 200 องศาเซลเซียสแบรนด์ Lixil ฝังซิงค์ล้างจานพร้อมก็อกน้ำแบรนด์ American Standard
ห้องน้ำ: ปูพิ้นด้วยกระเบื้องเซรามิคกันลื่น ปูผนังด้วยกระเบื้องเซรามิคสีขาว บานเปิดแยกโซนเปียก-แห้งเป็นกระจกเทมเปอร์ สุขภัณฑ์และก็อกน้ำจากแบรนด์ American Standard

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
สำหรับคนที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมที่เพื่อลงทุนปล่อยเช่าทำเลซอยพหลโยธิน 34 นี้ถือว่าดึงดูดผู้เช่าได้พอสมควรเนื่องจากเป็นซอยที่อยู่ใกล้แหล่งงานและสถาบันการศึกษา ทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย ฯลฯ อีกทั้งซอยพหโยธิน 34 ยังเป็นซอยที่เงียบสงบ ร่มรื่นแต่ก็ยังมีความเป็นชุมชนและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยและการเดินทางด้วย

โดยทั่วไปอัตราค่าเช่าอพาร์ทเมนต์ (ไม่มี Facility ส่วนกลาง) ในย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 5,000-8,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่ค่าเช่าคอนโดมิเนียมแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร เริ่มต้นที่ 10,000 บาทต่อเดือน สำหรับโครงการดีมูระ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถปล่อยเช่าได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือนสำหรับยูนิตแบบ 1 ห้องนอน 27 ตารางเมตรคิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 6% อย่างไรก็ตามบริเวณซอยพหลโยธิน 34 และบริเวณใกล้เคียงมีอพาร์ทเมนต์ให้เช่าและโครงการคอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก ดังนั้นนักลงทุนต้องเข้าใจด้วยว่าในทำเลนี้ก็การปล่อยเช่าก็มีการแข่งขันและผู้บริโภคก็มีทางเลือกค่อนข้างมาก

เปรียบเทียบโครงการใกล้เคียง
โครงการคอนโดมิเนียมในละแวกนี้มีค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่เป็นโครงการแบบโลวไรส์และอยู่ตามซอยเล็กๆ ที่แตกกิ่งออกไปจากซอยพหลโยธิน 34 อีกทีหนึ่ง ส่วนโครงการที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 34 เลยมีเพียง 3 โครงการคือ โครงการดีมูระ รัชโยธิน, โครงการศุภาลัย คิวบ์ รัชโยธิน และโครงการเดอะคีย์ พหลโยธิน

1. โครงการศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน

Supalai Cute Ratchayotin

คอนโดมิเนียมจาก บมจ.ศุภาลัย ออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร 887 ยูนิต บนที่ดินขนาด 10-1-14 ไร่ ห่างจากปากซอยพหลโยธิน 34 ประมาณ 600 เมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2559 โครงการมียูนิตเหลือขาย 30% เป็นยูนิตแบบสตูดิโอ 33.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.95 ล้านบาท และแบบ 1 ห้องนอน 40.5 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.40 ล้านบาท

2.โครงการเดอะคีย์ พหลโยธิน

The Key Paholyothin_sm

คอนโดมิเนียมโลวไรส์จาก บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ออกแบบอาคารสูง 8 ชั้น 4 อาคาร 505 ยูนิต บนที่ดินขนาด 6-1-87 ไร่ ห่างจากปากซอยพหลโยธิน 34 ประมาณ 500 เมตร โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จมาตั้แต่ปี 2554 และปิดการขายเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันราคารีเซลห้องแบบ 1 ห้องนอน 33 ตารางเมตร เริ่มต้นที่ประมาณ 2.4 ล้านบาทต่อยูนิต

3.โครงการแชปเตอร์วัน เดอะแคมปัส เกษตร

ChapterOne Kaset Campus

คอนโดมิเนียมโลวไรส์จาก บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้น 7 อาคาร 768 ยูนิต บนที่ดินขนาด 7-3-60 ไร่ ห่างจากแยกเษตรประมาณ 100 เมตร (แม้โครงการจะไม่ได้อยู่ในซฮยพหลโยธิน 34 แต่ก็เป็นโครงการโลวไรส์ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใกล้เคียงกัน) ปัจจุบันโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ทุกยูนิตตกแต่งแบบ Fully Furnished โครงการมียูนิตเหลือขายประมาณ 20 ยูนิต เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 46 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 3.99 ล้านบาท/ยูนิต

บทสรุป
สำหรับโครงการดีมูระ รัชโยธินถือเป็นอีกโครงการที่น่าสนใจและเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมาองหาที่อยู่อาศัยเนื่องจากราคาขายของโครงการอยู่ที่ 67,600-68,200 บาทต่อตารางเมตร ราคาดังกล่าวรวมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินแล้วถือว่าสมราคา อีกทั้ง facility ของโครงการถือว่าเยอะและหลากหลายเมื่อเทียบกับขนาดของโครงการ ทั้งยังเป็นส่วนกลางที่คิดเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ค่อนข้างดี จากการสอบถามเซลล์พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่เอง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงานในพื้นที่อยู่แล้วเพราะมองว่าเดินทางสะดวก ขณะที่กลุ่มซื้อลงทุนปล่อยเช่ามีประมาณ 20% อัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าคาดว่าจะอยู่ที่ 5-6% ซึ่งยังถือว่าอยู่เกณฑ์ดี

อย่างไรก็ตามแม้ทำเลของโครงการจะเดินทางสะดวกแต่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น แม้ว่าในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าตัดผ่านบริเวณหน้าปากซอยของโครงการแต่กว่าจะสร้างเสร็จก็ใช้เวลไม่น้อยกว่า 4 ปี ในขณะที่โครงการมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปลายปีหน้า (2559) ดังนั้นในช่วงเวลาที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าการเดินทางอาจไม่สะดวกสบายนัก แต่เมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่ารถไฟฟ้าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของผู้อยู่อาศัยและเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการอย่างแน่นอน

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: โนเบิล เพลินจิต (Noble Ploenchit)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/107219/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a5-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a5 www.ddproperty.com:news:107219 Wed, 09 Sep 2015 23:00:15 +0700

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่เจ้าหนึ่งที่มักจะคว้าที่ดินแปลงงามในทำเลศักยภาพมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือโครงการโนเบิล เพลินจิต (Noble Ploenchit) ซึ่งเป็นที่จับตาของคนกรุงเทพฯ เมื่อเปิดตัวในปี 2554 ด้วยการพลิกที่ดินแปลงใหญ่ขนาดกว่า 9 ไร่ผืนสุดท้ายในย่านไพร์มอย่างเพลินจิตมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตกว่า 1,400 ยูนิตและจุดขายที่ถือเป็นไฮไลท์อย่างการมีลิฟท์ส่วนตัวสำหรับทุกยูนิต แม้จะเริ่มสร้างไปตั้งแต่ปี 2555 แต่ความร้อนแรงของโครงการก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งของโครงการมีจุดเด่นอยู่ใจกลางเมือง และมีบีทีเอสสถานีเพลินจิตตั้งอยู่ด้านหน้า รวมถึงยังรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ อย่างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น ดังนั้นจึงทำราคาขยับขึ้นตามลำดับ

noble ploenchit

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2558)
• ชื่อโครงการ: โนเบิล เพลินจิต (Noble Ploenchit)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ถนน เพลินจิต แขวง ลุมพินี เขต ปทุมวัน กทม.

noble ploenchit

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 9 ไร่ 92.4 ตารางวา
รูปแบบ: อาคารแบ่งออกเป็น ตึก A ความสูง 14 ชั้น 110 ยูนิต ตึก B 51 ชั้น 621 ยูนิต ตึก C 45 ชั้น 713 ยูนิต รวมห้องชุดทั้งหมด 1,444 ยูนิต และตึก D 4 ชั้น เป็นส่วนของร้านค้าและอาคารสำนักงาน
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างสิ้นปี 2555 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมกราคมปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Key Card Access Control เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: ตึก A เริ่มที่ชั้น 4 – 14 ตึก B เริ่มที่ชั้น 2 – 51 และ ตึก C เริ่มที่ชั้น 2 – 45
ส่วนกลาง: อยู่บริเวณตึก A ทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็น สนามบาสเก็ตบอล สระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็กและจากกุชชี่ ขนาดกว่า 45 เมตร ระหว่างตึก A และ B ฟิตเนส ห้องสตรีม ห้องอเนกประสงค์บนชั้น 3 พร้อมทั้งสวนลอยฟ้าและสกายเลาท์ ณ ชั้นดาดฟ้าของตึก A
ลิฟท์: แบ่งออกเป็น ลิฟท์ส่วนตัว ในอัตราส่วน 2 : 1 (ยูนิตติดกัน ใช้ลิฟท์ร่วมกัน โดยลิฟท์สามารถเปิดได้ 2 ฝั่งแต่จะล็อกห้อง ล็อกชั้น) และลิฟท์ส่วนกลาง 2 ตัว ต่ออาคาร
ที่จอดรถ: ชั้นใต้ดิน ชั้น B1 – B4 แบบไม่ Fix (คิดเป็น 70 % หรือ 700 คัน ไม่รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 70 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 600 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น: 10.75 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 250,000 บาท / ตร.ม.
โปรโมชั่นเดือนกันยายน : พบข้อเสนอพิเศษสูงสุดมูลค่า 2,200,000 บาท ภายในงาน Noble Twin Peaks 17-20 กันยายนนี้ ที่สยามพารากอน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://goo.gl/iJ489c และ http://goo.gl/DwXOxY
รูปแบบห้องทั้งหมด: ตกแต่งแบบ Fully Furnished และ Room Only
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43 –61 ตร.ม. (ตึก A 10 % B 40% และ C 40%)
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 69 – 73 ตร.ม. (ตึก B 20% และ C 20%)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 74 – 92 ตร.ม. (ตึก B 20% และ C 20 %)
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 110 – 114 ตร.ม. (Sold Out)
เพนท์เฮ้าส์ 139 – 178 ตร.ม. (Sold Out)
ดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ 144 – 199 ตร.ม. (Sold Out)
รูปแบบห้องที่เหลือขาย:
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43 –61 ตร.ม. (ตึก A B ยูนิต และ C)
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 69 – 73 ตร.ม. (ตึก B และ C)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 74 – 92 ตร.ม. (ตึก B และ C)

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ

noble ploenchit

พื้นที่ใจกลางเมือง แหล่งเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ อย่างย่านเพลินจิต ชิดลม ยังคงเป็นที่ตั้งยอดนิยมของคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ เช่นเดียวกับโปรเจคใหญ่อย่างโครงการ โนเบิล เพลินจิต ที่ปักหลักอยู่ติดถนนใหญ่เส้นสุขุมวิทชั้นใน บริเวณสี่แยกเพลินจิต ซึ่งเป็นจุดตัดเข้าสู่ถนนวิทยุและเพชรบุรี รายล้อมด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอและระดับพรีเมี่ยม อาทิ ปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ รวมถึงแหล่งไลฟ์สไตล์คนเมือง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าสุดหรู เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่, เซ็นทรัล ชิดลม หรือร้านอาหารเก๋ๆ น่านั่ง เพื่อรองรับวิถีชีวิตกลุ่มคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติที่มักนิยมมาปักหลักอาศัยและทำงานบริเวณนี้มากขึ้น ด้วยศักยภาพของพื้นที่ในเขตศูนย์กลางธุรกิจ หรือ CBD ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนทำให้ที่ดินว่างๆ สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ เริ่มจะหมดไป แต่เมื่อระดับความต้องการในการครอบครองผืนดินในย่านนี้ยังคงมีอยู่ไม่ได้น้อยลง ส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านนี้สูงขึ้นจนน่าตกใจ โดยราคาต่อแปลงได้พุ่งทยานไปถึง 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาตั้งแต่ปี 2553 และปัจจุบันเตะอยู่ที่ 1.75 ล้านบาทต่อตารางวา หรือ ไร่ละ 700 ล้านไปแล้ว โดยมีการประเมินจาก ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA แล้วว่าเป็นทำเลที่มีที่ดินราคาแพงที่สุดในกรุงเทพมหานคร

การเดินทางไปสำนักงานขาย

noble ploenchit

เนื่องจากบริเวณที่ตั้งโครงการ (ริมถนนใหญ่ ใกล้สี่แยกเพลินจิต) อยู่ในระหว่างเร่งการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปแล้ว 70% ดังนั้นสำนักงานขายโนเบิล เพลินจิต จึงย้ายเข้าไปอยู่ในอาคารปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 16 เพราะฉะนั้น การเดินทางมาชมห้องตัวอย่างด้วยบีทีเอสจะสะดวกสุด โดยไม่ต้องไปเผชิญสภาพการจราจรที่หนาแน่นตลอดวัน เพียงใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิทมาลงที่สถานีเพลินจิต ทางออกที่ 2 แล้วเดินบน Sky Walk เพื่อเชื่อมเข้าสู่อาคาร ซึ่งก่อนกดลิฟท์ขึ้นไปชม จะต้องแลกบัตรกับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์บริเวณชั้น G เพื่อรับ Access Key Card

การเดินทางเข้าโครงการ

noble polenchit

noble ploenchit

แม้ทำเลทองอย่างย่านเพลินจิต ที่ตั้งของโครงการ จะได้รับอานิสงส์ความเจริญที่อัดแน่นอยู่แทบทุกตารางเมตร อย่างการคมนาคมขนส่งสุดสะดวกสบายอย่างบีทีเอส (สถานีเพลินจิตตั้งอยู่ด้านหน้า ห่างจากอาคารพักอาศัยประมาณ 30 เมตร โดยทางโครงการได้สร้างทางเชื่อม Sky Walk เข้าสู่โครงการโนเบิล เพลินจิต บริเวณตึก D) จนนำไปสู่การเป็นข้อดีของการเดินทาง แต่ถ้าหากวันไหนเกิดอยากขับรถขึ้นมา อาจต้องทำใจสักนิด เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าสภาพจราจรย่านนี้หนาแน่นตลอดวัน อีกทั้งถนนด้านหน้าโครงการ แม้จะมีถึงสามเลน แต่เปิดให้วิ่งสวนกันได้แค่หนึ่งเลนเท่านั้น หากมุ่งหน้ามาจากทางฝั่งเซ็นทรัล ชิดลม ต้องใช้ทักษะความรอบรู้เส้นทาง เพราะไม่สามารถขับตรงผ่านแยกเพลินจิตเพื่อเข้าสู่โครงการได้ แต่ต้องอ้อมเลี้ยวเข้าถนนวิทยุ (ฝั่งเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่) เพื่อเข้าซอยนายเลิศด้านขวามือ แล้วขับตรงมาเรื่อยๆ เพื่อทะลุถนนเพลินจิต เข้าสู่โครงการ

noble ploenchit
ภาพ via bts.co.th

– รถไฟฟ้า BTS
สะดวกสบายกับการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท โดยลงสถานีเพลินจิต ใช้ทางออกที่ 4 เดินบน Sky Walk ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 30 เมตร ใช้ทางเชื่อมในอนาคตของโครงการโนเบิล เพลินจิต เข้าสู่ตึก D บริเวณชั้น 4 (สามารถใช้ทางเชื่อมนี้ เมื่อโครงการเสร็จ 100% ดังนั้น ณ ตอนนี้สามารถใช้ทางเชื่อมเข้าสู่ตึก เวฟ เพลส เพื่อไปโนเบิล เพลินจิตจะสะดวกสุด)

noble ploenchit
รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีเพลินจิต ตั้งอยู่ด้านหน้าโครงการโนเบิล เพลินจิต

noble ploenchit
หากเดินมาตามทางออกที่่ 4 สามารถใช้ทางเชื่อมเข้าตึก เวฟ เพลส เพื่อไปโนเบิล เพลินจิตจะสะดวกสุด

– รถยนต์ส่วนตัว
หากลงมาจากทางด่วน ให้ลงเพลินจิตฝั่งเหนือ จากนั้นเลี้ยวขวาฝั่งเดียวกับโครงการ เพื่อสะดวกต่อการเข้าส่วนที่พักอาศัย โดยไม่ต้องไปกลับรถบริเวณหน้าตึกออลซีซั่น ถนนวิทยุ

noble ploenchit
สภาพการจราจรฝั่งขาเข้าบนถนนสายเส้นสุขุมวิท ย่านเพลินจิต ในช่วงเวลาบ่าย ถือว่ายังพอไปได้ ไม่หนาแน่นมากนัก

noble ploenchit
ส่วนฝั่งด้านหน้าโครงการ จะสังเกตเห็นว่าสามารถวิ่งสวนกันได้เลนเดียว

noble ploenchit
การจราจรบริเวณสี่แยกเพลินจิต ฝั่งถนนวิทยุ ยังค่อนหนาแน่น

noble ploenchit
ขณะเดียวกัน ถนนวิทยุ ที่มุ่งหน้าไปทางเพชรบุรี ซึ่งเป็นในลักษณะ One Way ยังถือว่าคล่องตัวอยู่ในช่วงบ่าย

noble ploenchit
โดยหากเลี้ยวขวามาจากฝั่งถนนวิทยุ ที่ตั้งของโครงการโนเบิล เพลินจิต (อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง) ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกเพลินจิต ติดถนนใหญ่ ข้างตึก เวฟ เพลส ตรงข้ามตึกปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์

สถานที่แนว Lifestyle

The Girl and The Pig
ภาพ via facebook.com/thegirlandthepig

เมื่อที่อยู่อาศัยตั้งอยู่ใจกลางเมือง ดังนั้นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตอบสนองของคนพื้นที่นี้ จึงหนีไม่พ้นความเก๋ไก๋ ของห้างร้านศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ (ห่างจากโครงการ 200 เมตร) แหล่งรวมความสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงร้านอาหารชั้นนำ อันได้รับความนิยมจากทั่วโลก

Ippudo Ramen
ภาพ via facebook.com/dintaifungsg                            ภาพ via facebook.com/Ippudo

ไม่ว่าจะเป็น Ippudo Ramen, The Girl and The Pig, Din Tai Fung รวมถึงแหล่งรวมของหวานถูกใจบรรดาสาวๆ อย่างร้าน Paul และ Love Eat Bistro อีกทั้งหากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว สถานที่ยอดนิยมสำหรับหนุ่มสาวสมัยนั้น คงหนีไม่พ้นความอมตะของเซ็นทรัล ชิลม (ห่างจากโครงการ 300 เมตร) แหล่งรวมสินค้ามากคุณภาพ อีกทั้งยังเป็นห้างฯ ที่มีเซเลบฯ และดารานิยมมาช้อปปิ้งอีกด้วย

market ploenchit
ภาพ via xn--22cap5dwcq3d9ac1l0f.com

นอกจากนี้ แทบทุกตารางเมตรของย่านเพลินจิตยังอัดแน่นไปด้วยออฟฟิศเกรดเออย่าง ปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ (ตรงข้ามโครงการ) ที่ตั้งของสำนักงาน Club 21 รวมถึงสำนักงานขายของโนเบิล หรือตึกออล ซีซันส์ (ห่างจากโครงการ 400 เมตร) แหล่งรวมบริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น CPN และ BMW ซึ่งภายในตึกต่างเป็นแหล่งรวมร้านกาแฟ และร้านอาหารชิคๆ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่หากใครอยากได้บรรยากาศของตลาดนัด ใช่ว่าใจกลางเมืองจะไม่มี เพียงเดินไปประมาณ 200 เมตรจากโครงการ จะพบแหล่งรวมของกิน เสื้อผ้า มากมาย ข้างธนาคารกรุงศรีฯ (ขณะนี้อยู่ระหว่างการรีโนเวท) ในราคาถูก อร่อย และเหมาะกับหนุ่มสาวออฟฟิศอย่างมาก

noble ploenchit
อาคารปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ (ตรงข้ามโครงการ)

Central Embassy
ภาพ via edtguide.com
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ (ห่างจากโครงการ 200 เมตร)

All Season
ภาพ via allseasonsplace.net
ตึกออล ซีซันส์ (ห่างจากโครงการ 400 เมตร)

รีวิวภาพรวมโครงการ

โนเบิล เพลินจิต ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ที่สานต่อแนวคิดหลัก Minimalism เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย น้อยชิ้น แต่มีคุณภาพ และรองรับประโยชน์การใช้งานสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายในห้อง ที่มาพร้อมลิฟท์ส่วนตัว

noble ploenchit

Master Plan – แปลนโครงการถูกออกแบบให้อยู่ในอาณาจักรกว่า 9 ไร่ โดยแบ่งออก 4 อาคาร ได้แก่ อาคาร A B C เป็นส่วนที่อยู่อาศัย และ D อาคารร้านค้าและสำนักงาน พร้อมรอบพื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองกว่า 7 ไร่

noble ploenchit

Tower A – อาคารนี้มีทั้งหมด 14 ชั้น มีส่วนของ Facility และส่วนที่พักอาศัย 110 ยูนิต โดยมีจำนวน 10 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งทั้งตึกเป็นยูนิตประเภท 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

noble ploenchit

Tower B – อาคารนี้มีทั้งหมด 51 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 621 ยูนิต โดยมีจำนวน 14 ยูนิตต่อชั้น ยกเว้นชั้น 2 42, 43 มี 10 ยูนิต 44 – 48 มี 8 ยูนิต (แต่ละชั้นจะคละแบบห้องกัน) และ 49 – 51 มี 7 ยูนิต (เป็นส่วนของห้องพักแบบตูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ และ เพนท์เฮาส์ หากเลือกชั้น 50 จะมีจุดเด่นที่สระว่ายน้ำบริเวณระเบียง )

noble ploenchit

Tower C – อาคารนี้มีทั้งหมด 45 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 713 ยูนิต โดยมียูนิตต่อชั้น คิดเป็นชั้น 2  12ยูนิต 3,5-37 17ยูนิต และ 45-46 8 ยูนิต (เปป็นส่วนของห้องตูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ ซี่งชั้น 45 จะมีจุดเด่นที่มีสระว่ายน้ำบริเวณระเบียงด้วย)

noble ploenchit

ทิศเหนือ – เป็นฝั่งของตึก A ทิศนี้จะได้วิวฝั่งถนนเพชรบุรี โดยด้านหลังตึกเป็นสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นอาคารเตี้ยๆ ดังนั้นด้านนี้จึงหมดปัญหาเรื่องตึกสูงบล็อกวิว

noble ploenchit

ทิศใต้ – ทางฝั่งตึก D จะเป็นส่วนอาคารร้านค้าและสำนักงาน วิวที่ได้จะเป็นทางฝั่งเพลินจิต ถนนวิทยุ อาจโดนบังวิวเล็กน้อยจากอาคารปาร์ค เวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์

noble ploenchit

ทิศตะวันออก – ด้านข้างของตึก C ซึ่งจะหันไปทางฝั่งนานา ด้านนี้อาจถูกบังวิวจากตึก 33 ชั้น ของโรงแรมโรสวู้ด แบงคอก ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

noble ploenchit

ทิศตะวันตก – คือทางฝั่งชิดลม ด้านนี้หากอยากได้วิวเมืองแบบไม่มีตึกเวฟ เพลส บดบัง ให้เลือกพักอาศัยชั้น 33 ขึ้นไป

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ด้วยความเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์กลางเมือง ดังนั้นจึงออกแบบ Facility ให้รองรับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน และกลุ่มกำลังสร้างครอบครัวเป็นหลัก โดยโครงการพยายามออกแบบสวนธรรมชาติขนาดใหญ่ เพื่อใส่ความร่มรื่นและเงียบสงบสู่ที่พักอาศัย อีกทั้งยังแบ่งพื้นที่ส่วนกลางออกเป็น สนามบาสเก็ตบอล สระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็กและจากุชชี่ ขนาดกว่า 45 เมตร บริเวณตึก A และ B รวมทั้งห้องสตีม ห้องอเนกประสงค์บนชั้น 3 พร้อมทั้งสวนลอยฟ้าและสกายเลาจน์ บริเวณ ชั้นดาดฟ้าของตึก A

noble ploenchit

ภาพรวมโครงการตอนนี้สร้างไปแล้ว 70%

noble ploenchit

สังเกตว่าตึก C ใกล้เสร็จ 100 % แล้ว

noble ploenchit  ทางเชื่อม Sky Walk ในอนาคต เมื่อโครงการเสร็จ 100% จะเชื่อมเข้าสู่ตึก D บนชั้น 4

noble ploenchit

ระหว่างทางเดินสู่ตึกที่อยู่อาศัยทั้ง A B C และ D ทางโครงการจะทำหลังคาไม้ระแนงสีขาวให้เพื่อบังแดด พร้อมความร่มรื่นของสวนกว่า 7 ไร่

noble ploenchit

พื้นที่สวนระหว่างตึก A และ B จะมีสวน สระว่ายน้ำ และสนามบาส

noble ploenchit

สังเกตบริเวณหลังไม้ระแนงสีขาว คือ ส่วนของทางเข้าที่จอดรถชั้นใต้ดิน

noble ploenchit

ภาพ Perspective –  บรรยาการศส่วนของล็อบบี้โครงการโนเบิล เพลินจิต

noble ploenchit

ภาพ Perspective – บรรยาการศของสวน พื้นที่สีเขียวกว่า 7 ไร่

noble ploenchit

ภาพ Perspective – สระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็กและจากุชชี่ ขนาดกว่า 45 เมตร

รีวิวภายในห้องชุด

พื้น: ลามิเนตหนา 10 มม. (บริเวณโถงทางเข้า เฉพาะยูนิต 1 ห้องนอน) และเอ็นจิเนียริ่ง วูด
พื้นจรดเพดาน: เฉลี่ยอยู่ที่ 2.65 เมตร
ระเบียง: ความกว้างประมาณ 0.5 เมตร ส่วนความยาวขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง โดยเริ่มต้นที่ 2 เมตร
ประตู: เป็นแบบก้านโยก ระบบล็อก 2 ชั้น
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก SMEG หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Kohler หรือเทียบเท่า
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished

noble ploenchit

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43 –61 ตร.ม. ตึก C คิดเป็น 40% ของยูนิตทั้งหมด

noble ploenchit

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 44. 67 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

noble ploenchit

เนื่องจากบริเวณทางเข้า โครงการออกแบบให้มีลิฟท์ส่วนตัวถึงภายในห้อง ดังนั้นจึงออกแบบประตูให้มีลักษณะเป็นก้านโยก พร้อมระบบล็อกสองชั้น จาก Hafele

noble ploenchit

ผลักประตูเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วนพื้นที่ของโถงทางเข้า

noble ploenchit

สวิทช์เปิด – ปิดไฟ หน้าตาดังรูป

noble ploenchit

ส่วนของลิฟท์ส่วนตัว ถูกออกแบบให้อยู่ภายในห้อง โดยสามารถขึ้นจากล็อบบี้มาถึงห้องพักของผู้อยู่อาศัยได้เลย โดยจะใช้ระบบ Access Key Card ในการล็อกชั้น ซึ่งยูนิตติดกันจะใช้ร่วมกัน เนื่องจากสามารถเปิด – ปิด ได้ทั้งสองฝั่ง อีกทั้งทางโครงการยังได้ Built-in ตู้เก็บรองเท้าและของจิปาถะ ไว้ให้บริเวณโถงหน้าลิฟท์ด้วย

noble ploenchit

เมื่อเดินเข้ามาด้านใน จะเป็นส่วนของห้องครัว ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง โดยออกแบบให้เป็นลักษณะที่นั่งยาวติดกับผนัง พร้อมโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นทางโครงการให้ทั้งหมด ยกเว้นของตกแต่ง ดังรูป

noble ploenchit

ในส่วนของปลั๊กไฟ บริเวณโต๊ะกินข้าวมีหนึ่งจุด เพื่อรองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัย

noble ploenchit

เคาน์เตอร์ครัว เป็นในลักษณะ Built-in โดยออกแบบให้รองรับการใช้งาน สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มักไม่นิยมทำกับข้าวมื้อหนักๆ เท่าไหร่นัก

noble ploenchit

ทางโครงการได้ออกแบบเครื่องดูดควัน จาก SMEG หรือเทียบเท่า โดยด้านข้างเป็นพื้นที่ของตู้หน้าบาน ผิวไฮกลอส ให้สามารถเก็บอุปกรณ์ทำอาหารต่างๆ ได้

noble ploenchit

ในส่วนของพื้นที่ทำอาหาร ทางโครงการได้ Built-in เตาไฟฟ้าขนาดสองหัว และซิงค์ล้างจานจาก SMEG หรือเทียบเท่า พร้อมกรุผนังกันเปื้อนจากหินธรรมชาติ เพื่อให้สะดวกต่อการทำความสะอาด

noble ploenchit

ขนาดของเตาไฟฟ้าเซรามิคสองหัวจาก SMEG หรือเทียบเท่า

noble ploenchit

ซิงค์ล้างจานจาก SMEG หรือเทียบเท่า นั้นได้ถูกออกแบบให้ฝังใต้ท๊อปหินธรรมชาติ พร้อมระบบน้ำร้อน น้ำเย็น

noble ploenchit

เตาอบไมโครเวฟ 25 ลิตร เป็นลักษณะฝังตู้

noble ploenchit

ตู้ช่วงล่าง หน้าบานปิดผิวลามิเนตลายไม้ โดยซ้อนส่วนของถังขยะไว้ใต้ซิงค์ล้างจาน

noble ploenchit

วอลเปเปอร์ที่ได้ ของจริงจะเป็นสีไม้

noble ploenchit

ตู้เก็บของบริเวณส่วนของห้องครัว เป็นหน้าบานเปิดผิวลามิเนตลายไม้

noble ploenchit

ส่วนของห้องครัวและห้องนอน ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน สองชั้น กรอบอลูมิเนียม ทำสี

noble ploenchit

ส่วนของเตียงนอนที่ได้จะเป็นขนาด 6 ฟุต พร้อมที่นอน 1 ชุด และโต๊ะข้างเตียง 2 ตัว ดังรูป

noble ploenchit

โดยบริเวณปลายเตียง จะเป็นส่วนของมุมนั่งเล่น ประกอบด้วยโซฟาบุผ้าขนาด 2 ที่นั่ง โต๊ะกลาง 1 ตัว และตู้วางโทรทัศน์ 1 ตู้ โทรทัศน์แอลอีดี ขนาด 40 นิ้ว ที่เห็นในรูป ทางโครงการได้ให้ด้วย

noble ploenchit

ในส่วนของตู้วางโทรทัศน์ จะมีลิ้นชัก ไว้ให้สามารถเก็บของได้

noble ploenchit

ส่วนของห้องน้ำ จะอยู่ทางด้านขวามือของฝั่งห้องนอน โดยทางโครงการได้ใช้สุขภัณฑ์จาก Kohler หรือเทียบเท่า ทั้งหมด

noble ploenchit

ก๊อกน้ำ ถูกออกแบบให้รองรับระบน้ำร้อน น้ำเย็น ซึ่งโครงการได้ฝังเครื่องทำร้อนขนาด 6000 วัตต์ ให้ 1 เครื่อง

noble ploenchit

ชักโครกที่ได้ จะค่อนข้างเล็ก และเตี้ย ดังนั้นอาจจะนั่งลำบากหน่อยสำหรับญาติผู้ใหญ่ ที่เป็นผู้สูงอายุ

noble ploenchit

ส่วนของห้องอาบน้ำ จะแบ่งส่วนเปียก-แห้ง พร้อมติดตั้ง Rain Shower ให้

noble ploenchit

ตู้เสื้อผ้าสามบาน ตัวบานปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ โดยออกแบบให้อยู่ภายในห้องน้ำ เพราะฉะนั้นเวลาอาบน้ำ หรือทำกิจกรรมต่างๆ อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะคุณสมบัติของลามิเนต เมื่อโดนน้ำแล้วจะบวม

noble ploenchit

นอกจากนี้ภายในตู้เสื้อผ้า ได้ติดไฟส่องสว่าง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน

noble ploenchit

ส่วนของระเบียงจะอยู่บริเวณห้องนอน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสามตอน โดยทางโครงการได้ติดตั้งผ้าม่านให้ทั้งหมดดังรูป

noble ploenchit

ประตูระเบียงเป็นลักษณะบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม พร้อมกระจกตัดแสง ที่มีความหนาพอสมควร เพราะฉะนั้นจึงช่วยเรื่องปัญหาเสียงรบกวนจากภายนอกได้พอสมควร เนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนเพลินจิต ซึ่งเป็นย่านที่พลุกพล่านตลอดวัน

noble ploenchit

ความกว้างของระเบียงทุกห้องอยู่ที่ 0.5 เมตร ส่วนความยาวจะขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง

noble ploenchit

โดยตัวราวระเบียงกันตก เป็นขอบอลูลิเนียม พร้อมกระจกนิรภัยซึ่งมีความหนาพอสมควร

noble ploenchit

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43 –61 ตร.ม. ตึก B คิดเป็น 40% ของยูนิตทั้งหมด

noble ploenchit

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 57. 96 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

noble ploenchit

เปิดประตูห้องมา จะพบโถงทางเข้า ซึ่งคล้ายกับยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ในตึก C

noble ploenchit

ยังคงเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ ในการออกแบบลิฟท์ส่วนตัว ไว้ในห้อง

noble ploenchit

โดยส่วนหน้าลิฟท์ ได้ออกแบบตู้รองเท้าไว้ให้รองรับการใช้งาน ซึ่งสำหรับยูนิตนี้จะแตกต่างจากตึก B บริเวณตู้ช่วงบน หน้าบานเป็นผิวไฮกลอส

noble ploenchit

และหากเมื่อเดินเข้ามาข้างใน จะพบส่วนของโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง อยู่ด้านฝั่งขวาของห้อง

noble ploenchit

โดยทางโครงการได้ติดตั้งตู้เก็บของบานกระจก เข้ามุมดังรูป

noble ploenchit

ส่วนทางฝั่งซ้าย เป็นมุมทำอาหาร พร้อมตู้เย็น Built-in 1 ตู้

noble ploenchit

เตาไฟฟ้าเซรามิค 2 หัว ที่ได้จาก SMEG หรือเทียบเท่า

noble ploenchit

ซิ้งค์ล้างจานเป็นแบบชนิดฝั่งใต้ท๊อปหินธรรมชาติ พร้อมก๊อกน้ำรองรับระบบน้ำร้อน – เย็น 1 ชุด ซึ่งทางโครงการได้กรุผนังกันเปื้อนหินธรรมชาติ เพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาดหลังใช้งาน

noble ploenchit

นอกจากนี้ตู้ช่วงล่าง ยังออกแบบให้มีลิ้นชักเก็บของใช้ในครัว พร้อมติดตั้งเตาอบไมโครเวฟ 25 ลิตร ชนิดฝังในตู้ 1 เครื่อง

noble ploenchit

ส่วนตู้ช่วงบน หน้าบานเป็นผิวไฮกลอส พร้อมติดตั้งเครื่องดูดควันไฟฟ้าจาก SMEG หรือเทียบเท่า 1 ชุด

noble ploenchit

มุมของห้องนั่งเล่น โซฟาที่ได้จะเป็นแบบบุผ้า ขนาด 2 ที่นั่ง

noble ploenchit

ตู้วางโทรทัศน์ที่ได้ หน้าบานบุลามิเนตลายไม้ โดยโทรทัศน์แอลอีดี 40 นิ้ว ในรูป ทางโครงการได้ให้ผู้อยู่อาศัยด้วย

noble ploenchit

นอกจากนี้ยังมีตู้โชว์ หน้าบานกระจก ไว้ให้เก็บของจิปาถะได้เพิ่มเติม

noble ploenchit

ส่วนของหน้าต่าง และประตูบานเลื่อนบริเวณระเบียง มีความสูงจากพื้นถึง 2.65 เมตร

noble ploenchit

ประตูบานเลื่อน เป็นแบบสองชั้น พร้อมกรอบอลูมิเนียม และกระจกตัดแสง

noble ploenchit

ถัดจากมุมนั่งเล่น จะมีทางเดินเข้าไปในส่วนของห้องนอน

noble ploenchit

สวิทช์ไฟภายในห้องนอน จะอยู่มุมซ้ายของห้อง ดังรูป

noble ploenchit

เตียงที่ได้จะเป็นขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียง 2 ตัว

noble ploenchit

บริเวณปลายเตียง ได้ Built-in ตู้โชว์ในลักษณะเดียวกับมุมนั่งเล่น

noble ploenchit

ส่วนด้านข้างตู้โชว์ มีพื้นที่เหลือให้สามารถนำเก้าอี้อาร์มแชร์ มานั่งชมวิวผ่านหน้าต่างกระจกสูงจรดเพดาน

noble ploenchit

ระเบียงบริเวณห้องนอน มีความกว้าง 0.5 เมตร ความยาวตามขนาดของยูนิตห้อง

noble ploenchit

ตู้เสื้อผ้าสองบาน มีทั้งในส่วนของห้องเล่นและภายในห้องน้ำ โดยออกแบบหน้าบาน ปิดผิวลามิเนตลายไม้ พร้อมไฟส่องสว่างภายใน

noble ploenchit

ห้องน้ำมีพื้นที่การใช้งานค่อนข้างกว้าง และเป็นสัดส่วน โดยแบ่งส่วนเปียก แห้ง ชัดเจน

noble ploenchit

ยูนิตนี้ยังคงมี Rain Shower พร้อมระบบน้ำร้อน-เย็น ในตัว

noble ploenchit

ชักโครก สุขภัณฑ์ทั้งหมด ยังเป็นของ Kohler หรือเทียบเท่า

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ

ย่านเพลินจิต ซึ่งเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยอาคารสำนักงานเกรดเอ ห้างสรรพสินค้าไฮเอนด์ แหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย แน่นอนว่ามักจะได้รับความสนใจในหมู่ชาวต่างชาติ ที่มาปักหลักทำงานอยู่เมืองไทย และต้องการหาที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน พร้อมเดินทางได้สะดวกสบายด้วยบีทีเอส ดังนั้นอัตราค่าเช่าในการลงทุนจึงอยู่ที่ 1,000 บาท ต่อตารางเมตร หรือเริ่มต้น 30,000 บาท สำหรับยูนิตหนึ่งห้องนอน ในขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 30 กว่าตารางเมตร

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Sindhorn Residence
คอนโดมิเนียมระดับมาสเตอร์พีช ของบริษัท สยามสินธร จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 อาคาร อาคาร A สูง 35 ชั้น และอาคาร B 10 ชั้น รวมทั้งหมด 200 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 35 – 345 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 210,000 บาท / ตร.ม.

sindhorn

ภาพ via sindhornresidence.com

Magnolias Ratchadamri Boulevard
คอนโดมิเนียมหรูของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บนที่ดิน 6 ไร่ อาคารสูง 60 ชั้น รวมทั้งหมด 200 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 – 2 ห้องนอน เพนท์เฮ้าส์ และดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ พื้นที่ห้องชุดโครงการ 48 – 360 ตร.ม. ที่จอดรถ 80 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 220,000 บาท / ตร.ม.

magnolias ratchadamri boulevard

ภาพ via magnolias-ratchadamri.com

185 Rajadamri
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน 62.9 ตารางวา อาคารสูง 35 ชั้น รวมทั้งหมด 268 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 – 4 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ และเพนท์เฮ้าส์ พื้นที่ห้องชุดโครงการ 70 – 874 ตร.ม. ที่จอดรถ 60 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 250,000 บาท / ตร.ม.

185 Rajadamri

ภาพ via 185rajadamri.com

บทสรุป
แม้ว่าหลายคนจะเอะใจกับจำนวนของยูนิตที่มีมากถึงหลักพัน ซึ่งอาจทำให้ประชากรโนเบิล เพลินจิตนั้นค่อนข้างหนาแน่น อีกทั้งสภาพการจราจรในเมือง นั้นเป็นที่รู้กันว่าติดตลอดวัน เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ค่อยสะดวกสำหรับบุคคลที่จำเป็นต้องเดินทางด้วยรถยนต์ นอกจากนี้เรื่องเสียงรบกวน หลายคนอาจจะกำลังกังวล แต่หากได้ชมห้องตัวอย่างจะเห็นว่า ใช้วัสดุคุณภาพดี คำนึงถึงการใช้งาน เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก พร้อมทั้งยังเพิ่มความมีระดับด้วยการออกแบบอ็อพชั่น ลิฟท์ส่วนตัวถึงภายในห้องพัก ยิ่งไปกว่านั้นยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในโครงการให้ลูกบ้านได้สัมผัสธรรมชาติกลางกรุงในพื้นที่กว่า 7 ไร่ รายล้อมไปด้วยความสะดวกสบายต่างๆ ที่มารองรับการใช้ชีวิตของคนเมือง ก็อาจจะมาคานกับข้อด้อยที่กล่าวถึงในข้างต้น และหากใครที่กำลังคิดจะซื้อเพื่อลงทุน แม้ว่าจะเหนื่อยกับการมีคู่แข่งค่อนข้างมาก (ทั้งภายในโครงการเดียวกันและโครงการใกล้เคียง) แต่ด้วยที่ดินที่มีอยู่จำกัด ก็เป็นสิ่งที่การันตีได้ว่าจะไม่มีโครงการใหม่ๆ ในย่านนี้ผุดขึ้นมาอีก ถ้ามีจริงก็ต้องสู้กับราคาต้นทุนที่สูงมาก ดังนั้น คนที่ได้เป็นเจ้าของในโครงการนี้จึงมั่นใจได้ว่ามูลค่าของห้องชุดที่ถือว่าจะเพิ่มขึ้นไปตามการเวลาและดีมานด์ที่มีอย่างต่อเนื่องแน่นอน

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:ศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่น(Supalai Loft Talatphu Station)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/107159/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a8%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%25a0%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%25a2-%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%259f www.ddproperty.com:news:107159 Wed, 09 Sep 2015 06:45:25 +0700

สถานีตลาดพลู เป็นสถานีส่วนต่อขยายที่ฮอตมากที่สุดของรถไฟฟ้าสายสีลม เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ระหว่างขายและที่เตรียมจะเปิดตัวใหม่ เรียกว่าแข่งกันดุเดือดไม่แพ้ทำเลอื่นเลย โดยจุดขายของทำเลใกล้สถานีตลาดพลู นอกจากจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และใกล้ทางเข้าเมืองทั้งสีลม สาทร พระราม 3 แล้ว ยังมีองค์ประกอบการอยู่อาศัยค่อนข้างครบ เพราะความเป็นชุมชนเก่าแก่ที่เติบโตมานาน ประกอบกับยังมีซัพพลายที่ดินให้ผู้ประกอบการนำพัฒนาเป็นโครงการใหม่ๆ ได้ จึงมีโครงการใหม่ๆ เปิดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ก็คือ โครงการศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่น (Supalai Loft Talatphu Station) ของผู้ประกอบการชื่อดังอย่างศุภาลัยนั่นเอง

Supalai Loft Talat Phlu


เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2558)

ชื่อโครงการ: ศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่น (Supalai Loft Talatphu Station)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนรัชดาภิเษก ใกล้กับเดอะมอลล์ ท่าพระ

Supalai Loft Talat Phlu Station

รายละเอียดโครงการ:
พื้นที่โครงการรวมประมาณ 6-1-84.8 ไร่
อาคารความสูง 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร (รวมดาดฟ้า)
ห้องพักอาศัย 879 ยูนิต/ 4 ร้านค้า
ชั้น 1-3 ที่จอดรถ ที่ว่าง 528 คัน
ชั้น 4 สิ่งอำนวยความสะดวก: สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องออกกำลังกาย (Fitness) Sky Lounge และ Roof Garden
ชั้น 4-34 ที่พักอาศัย โดยชั้น 4 มี 23 ยูนิต/ชั้น ส่วนชั้น 5-33 มี 29 ยูนิต/ ชั้น
ชั้น 34 จะเป็นชั้นยูนิตขนาดใหญ่พิเศษ มี 15 ห้อง รูปแบบ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใหญ่สุด คือ 120 ตร.ม.
ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว

รูปแบบห้องชุด
สตูดิโอ [33-35 ตร.ม.]
1 ห้องนอน [39-46.5 ตร.ม.]
แฟมิลี่ 2 ห้องนอน [63.5-65 ตร.ม.]

เริ่มก่อสร้าง: คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง กลางปี 2559
กำหนดแล้วเสร็จ: ประมาณปลายปี 2561
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 350 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 35 บาท/ ตร.ม. / เดือน
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 2.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2558)
ราคาขายเริ่มต้น: 63,000-64,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2558)
ราคาขายเฉลี่ย: 72,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค. 2558)
• ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 50% โดยห้องที่ขายดีที่สุด คือแบบสตูดิโอ และแบบ 1 ห้องนอน

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล BTS ตลาดพลู
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าทำเลเกาะสถานี BTS ตลาดพลูฮอตมากในเวลานี้ แต่ก่อนจะวิเคราะห์ถึงทำเลนี้ ต้องขอย้อนไปยังทำเลบริเวณสถานีกรุงธนบุรีและสถานีวงเวียนใหญ่ก่อน โดยทั้ง 2 สถานีนี้เปิดให้บริการทดลองวิ่งมาตั้งแต่กลางปี 2552 เป็นทำเลที่ฮอตมากๆ มาก่อน เพราะใกล้สาทรมาก แค่ไม่กี่สถานีก็ถึงใจกลางเมืองแล้ว แต่บริเวณที่ฮอตมากจะจำกัดแค่ตามแนวถนนราชพฤกษ์ พอเข้าถนนรองที่รถไฟฟ้าไม่ผ่านก็ไม่หวือหวาเลย

ขณะที่ซัพพลายที่ดินเกาะ 2 สถานีนี้ตามถนนราชพฤกษ์มีจำกัดมาก ราคาขยับค่อนข้างมาก ส่งผลให้คอนโดมิเนียมเกาะ 2 สถานีนี้ราคาจึงสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 1-1.2 แสนบาท/ ตร.ม.แล้ว เมื่อมีการเปิดให้บริการอีก 2 สถานีถัดมา คือ สถานีโพธิ์นิมิตรและสถานีตลาดพลูในช่วงต้นปี 2556 การพัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่ๆ จึงเริ่มขยับมาอยู่บริเวณสถานีโพธิ์นิมิตรและสถานีตลาดพลูมากขึ้น

แต่ปัจจัยที่ทำให้สถานีตลาดพลูมีคอนโดมิเนียมเปิดใหม่มากกว่าสถานีโพธิ์นิมิตร เพราะสถานีตลาดพลูจะอยู่ขยับมาบริเวณแยกรัชดาภิเษกตัดกับถนนราชพฤกษ์ ซึ่งจะใกล้กับถนนรัชดาภิเษกที่เป็นถนนสายหลักที่มีรถบริการสาธารณะต่างๆ มีศูนย์การค้า มีตลาดนัด มีร้านขายอาหาร ใกล้รถเมล์ด่วน BRT ที่วิ่งเส้นพระราม 3 ถึงช่องนนทรี แต่บริเวณใกล้กับสถานีโพธิ์นิมิตรจะไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าว ประกอบการที่ดินใกล้สถานีตลาดพลูที่สามารถนำมาพัฒนาได้ยังมีมากกว่า การพัฒนาจึงกระจุกตัวอยู่บริเวณรอบสถานีตลาดพลูเป็นหลัก

สำหรับภาพรวมของทำเลใกล้สถานีตลาดพลูและโพธิ์นิมิตรในช่วง 5-7 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายแล้ว 14 โครงการ (ยังไม่นับรวมโครงการที่ยังไม่เปิดตัวอีก 2-3 โครงการ) แต่ละโครงการจะมีห้องชุดประมาณ 500-1,000 ยูนิต ซึ่งล้วนเป็นโครงการของผู้ประกอบการอันดับต้นๆ ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย

เริ่มด้วย โครงการที่ก่อสร้างและโอนกรรมสิทธิ์ครบไปแล้ว 9 โครงการ คือ 1. ไลฟ์ ท่าพระ 2. ลุมพินี เพลส รัชดา ท่าพระ 3. คาซ่า คอนโด รัชดา-ท่าพระ 4. คาซ่า รัชดา-ราชพฤกษ์ 6. เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม-ท่าพระ 7. เดอะ พาร์คแลนด์ สาทร-ตากสิน 8. เดอะ พาร์คแลนด์ แกรนด์ ตากสิน-ท่าพระ 9. เดอะ รูม สาทร-ตากสิน

โครงการที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จและยังมียูนิตเหลือขาย มี 2 โครงการ คือ 1. แบงค์คอก ฮอไรซอน รัชดา-ท่าพระ และ 2. ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ส่วนโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง มี 3 โครงการ คือ 1. ยู ดีไลท์ @ ตลาดพลู สเตชั่น (ยังมียูนิตเหลือขาย) 2. ศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่น (ยังมียูนิตเหลือขาย) และ 3. โครงการแอสปาย สาทร-ท่าพระ (ยูนิตของโครงการขายหมดแล้ว เหลือแต่ยูนิตที่มีกลุ่มคนที่ซื้อไปแล้วประกาศขายใบจอง)

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ อีกอย่างน้อย 2 โครงการ คือ 1. วิสซ์ดอม รัชดา – ท่าพระ ซึ่งจะเป็นโครงการใหญ่มาก และ 2. เดอะ เบส รัชดา-ท่าพระ

การเดินทาง:
จากถนนพระราม 3
มุ่งหน้าตรงมายังสะพานพระราม 3 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ลงสะพานเข้าถนนรัชดาภิเษก ตรงมาประมาณ 1 กม. สังเกตห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ อยู่ด้านขวามือ ให้ชิดขวาเพื่อตรงมากลับรถที่สี่แยกถนนรัชดาฯ-ตัดถนนราชพฤกษ์ กลับรถแล้วตรงผ่านหน้าห้างเดอะมอลล์ ท่าพระอีกครั้ง แล้วชิดซ้ายตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ทางซ้ายมือ

Ratchapruk Road

จากวงเวียนใหญ่
มาทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน วิ่งตรงมาผ่านสี่แยกตัดกับถนนราชพฤกษ์ แล้วให้ชิดขวาเพื่อกลับรถที่จุดกลับรถ กลับรถแล้วให้ตรงมาประมาณ 300 เมตร เบี่ยงซ้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชพฤกษ์ ตรงมาผ่านสถานีรถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร ให้ตรงมาอีกประมาณ 800 เมตร และเบี่ยงออกเส้นถนนคู่ขนานด้านนอกชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษก ตรงมาประมาณ 200 เมตรจะเห็นห้างเดอะมอลล์ ท่าพระอยู่ซ้ายมือ ชิดซ้ายตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ทางซ้ายมือ

จากถนนเพชรเกษม
มาจากถนนเพชรเกษมให้ขับมุ่งตรงมาสี่แยกท่าพระ ตัดถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงมาข้ามสะพาน เจอสี่แยก BTS สถานีตลาดพลู ตรงมาเข้าถนนรัชดาภิเษก ประมาณ 200 เมตร เจอห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ อยู่ซ้ายมือ ชิดซ้ายตรงมาอีก 200 เมตร โครงการอยู่ทางซ้ายมือ

เดินทางด้วยรถไฟฟ้า

Talat Phlu BTS station

ลง BTS สถานีตลาดพลู เดินทางออก 3-4 เดินตรงมาทางสกายวอล์ค ลงบันได เดินตามทางรถวิ่ง ผ่านหน้าเดอะมอลล์ ท่าพระไปเล็กน้อย ก็จะเจอตัวโครงการ หรือถ้าจะนั่งมอเตอร์ไซค์มีทางเลือก 2 ทางเลือก คือ ให้ลง BTS สถานีตลาดพลู เดินตรงมาทางสกายวอล์ค ลงบันไดมาปัจจุบันมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ ประมาณ 10 บาท หรือจะลง BTS สถานีโพธิ์นิมิตร บันไดสุดท้ายของทางที่จะมุ่งหน้าไปถนนรัชดาภิเษก จะมีวินมอเตอร์ไซด์ใหญ่ให้บริการ ประมาณ 15-20 บาท

Talat Phlu BTS station

สถานที่สำคัญที่ใกล้กับโครงการ
-เดอะมอลล์ ท่าพระ 200 ม.

Talat Phlu BTS station
-รถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู 450 ม.

BRT
-BRT สถานีราชพฤกษ์ 550 ม.

-โรงพยาบาลกรุงธน 2.0 กม.
-รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีท่าพระ 2.1 กม.
-โรงพยาบาลพญาไท 3 3.6 กม.

Asiatique The Riverfrontภาพ via facebook.com/Asiatique.Thailand

-เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟรอนท์ 3.6 กม.
-สะพานตากสิน (สาทร) 3.7 กม.

สถานที่แนว Lifestyle

The Mall Tha Pra

เดอะมอลล์ ท่าพระ ศูนย์การค้าเก่าแก่ของฝั่งธนบุรี ห่างจากโครงการศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่นราว 200 เมตร สามารถเดินถึงสะดวกมาก ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร เครื่องดื่ม สถาบันการเงิน ร้านแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ ที่ให้คนฝั่งธนบุรีสามารถเลือกช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องเข้าไปในเมือง

Talat Phlu marketภาพ via chillpainai.com

สตรีท ฟู้ด ตลาดพลู เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบกินอาหารสตรีทฟู้ดเลยทีเดียว เพราะเป็นย่านค้าขาย มีร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดังๆ ทั้งอาหารคาว และอาหารหวาน รวมถึง กุ้ยช่ายตลาดพลูด้วย โดยสตรีท ฟู้ด ตลาดพลู อยู่ใกล้กับแยกตลาดพลู และใกล้กับสถานีรถไฟสายเก่าตลาดพลู จริงๆ แล้ว สตรีท ฟู้ด ตลาดพลู ไม่ได้ใกล้กับตัว BTS สถานีตลาดพลูมากนัก แต่บริเวณนั้นจะมีทั้งวินมอเตอร์ไซด์ หรือจะรถสองแถวตลาดพลู-วัดปากน้ำ นั่งมาเล็กน้อยก็เจอแล้ว ซึ่งถ้าจะมาจากตัวโครงการเลย ไม่ยาก ข้ามสะพานลอยหน้าเดอะมอลล์ ท่าพระไปยังตลาดไทยช่วยไทย รอรถสองแถวที่เขียนว่าไปตลาดพลู-วัดปากน้ำ (ให้สังเกตรถสองแถวดีๆ จะมีทั้งที่ไปตลาดพลู-วัดปากน้ำกับที่วิ่งเข้าถนนเทอดไท 33 วิ่งไปทางบิ๊กซี พระราม 2)

Talad Soi 13

ตลาดไทยช่วยไทยพลาซ่าและตลาดซอย 13 ตลาดนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ ท่าพระ และเยื้องๆ กับโครงการ มีของขายตลอดทั้งวัน ทั้งของสด ผัก ผลไม้ เครื่องครัวต่างๆ ร้านค้าไอที สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า ร้านอาหาร เรียกว่าครบมาก โดยในช่วงเย็นๆ จะมีรถเข็นขายของกินเยอะมาก มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเจ้าเก่าแก่ เจ้าใหม่ แต่ตลาดนี้ ถือเป็นตลาดใหม่ เมื่อเทียบกับสตรีท ฟู้ด ตลาดพลู

Thai Chuay Thai market


รีวิวภาพรวมโครงการ

แนวความคิดในการออกแบบโครงการนี้เป็นแบบสไตล์ Modern Loft ที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนเมือง ด้วยจังหวะและเส้นสายที่เรียบง่ายมาบรรจงสรรสร้างตัวอาคารผ่านโทนสีเข้ม อย่างสีเทาที่ให้ความรู้สึกมั่นคง หนักแน่น สลับกับลวดลายสีขาวที่อ่อนโยน เพื่อให้อาคารดูโดดเด่นอย่างมีมิติ พร้อมเปิดรับทุกมุมมองในบรรยากาศที่รื่นรมย์ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

Supalai Loft Talat Phlu Station

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยระบบกล้อง CCTV, ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

Supalai Loft Talat Phlu Station

สระว่ายน้ำระบบเกลือ 25×21 เมตร, ห้องซาวน่า, ห้องออกกำลังกาย 115 ตร.ม., สวน, Sky Lounge และ Roof Garden เพื่อเป็นที่พักผ่อนแบบลอยฟ้า

Supalai Loft Talat Phlu Station

Supalai Loft Talat Phlu Station

ผังโครงการ

Supalai Loft Talatphu Station
ชั้น Ground Floor

Supalai Loft Talatphu Station
ชั้น 4 สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ห้องออกกำลังกาย (Fitness), Sky Lounge และ Roof Garden รวมถึงมีพื้นที่บางส่วนเป็นห้องชุดพักอาศัยด้วย

Supalai Loft Talatphu Station
ชั้น 5-33 ชั้นที่พักอาศัย
(ไม่มี Plan ของชั้น 34 ซึ่งเป็นชั้นยูนิตขนาดใหญ่พิเศษ มี 15 ห้อง รูปแบบ 1-3 ห้องนอน พื้นที่ใหญ่สุด คือ 120 ตร.ม.)

แปลนห้องชุด

Supalai Loft Talatphu Station
Loft Suite Type a (Studio : 33 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Loft Suite Type b (Studio : 33 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Loft Suite Type c (Studio : 33 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Loft Suite Type d (Studio : 34.5 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Loft Suite Type e (Studio : 35 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type a (1 bedroom : 39 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type b (1 bedroom : 43.5 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type c (1 bedroom : 43.5 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type d (1 bedroom : 43.5 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type e (1 bedroom : 44 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type F (1 bedroom : 46.5 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type FS (2 bedroom: 63.5 sqm.)

Supalai Loft Talatphu Station
Executive Suite Type FS (s) (2 bedroom : 65 sqm.)

รีวิวภายในห้องชุด
เพดาน: ความสูง 2.6 เมตร
เฟอร์นิเจอร์: ได้ครบตามห้องตัวอย่าง ยกเว้นอุปกรณ์ตกแต่ง (ถ้าเลือกไม่รับเฟอร์นิเจอร์จะได้ส่วนลดตามเงื่อนไขของโครงการ)
วอลล์เปเปอร์: ติดให้แบบมาตรฐาน
เครื่องปรับอากาศ: ติดตั้งให้
พื้นห้องทั่วไป (มุมนั่งเล่นและห้องนอน): ไม้ลามิเนต
พื้นห้องน้ำ พื้นห้องครัว พื้นระเบียง: กระเบื้อง

บรรยากาศจำลองห้องชุดแบบสตูดิโอ Type LS (a) พื้นที่ใช้สอย 33.0 ตร.ม.

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ประตู: ไม้ สีขาว และตัวจับแบบก้าน

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• มุมนั่งเล่น: เปิดประตูมาจะเจอมุมนั่งเล่น ประตูจะเปิดไปทางชั้นวางทีวี โดยมุมนี้ ห้องตัวอย่างจะออกแบบให้ด้านข้างเป็นมุมรับประทานอาหาร (คั่นกลางระหว่างมุมนั่งเล่นกับมุมห้องนอน)

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• มุมห้องนอน: ถัดจากมุมรับประทานอาหาร เป็นมุมห้องนอนที่มีโต๊ะเครื่องแป้ง ตู้และเตียง เสื้อผ้าแบบบิลท์อิน และหน้าต่างบานเลื่อน

Supalai Loft Talatphu Station

ถัดจากมุมห้องนอน จะเป็นทางเดินไปห้องครัว ห้องน้ำ และระเบียง

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ห้องครัว : ได้ครบชุด ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ออกแบบให้วางตู้เย็นไว้บริเวณนี้ โดยห้องครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ล้างจาน (ไม่ได้มีเตาไฟฟ้าและไม่ได้ออกแบบให้ทำครัวหนัก เพราะไม่มีฮูดระบายอากาศ) พร้อมด้วยตู้ด้านบน ตู้ด้านล่าง บริเวณครัวจะอยู่กึ่งกลางระหว่างระเบียงกับห้องน้ำ

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ระเบียง: มีพื้นที่ให้ใช้งานได้เล็กน้อย และแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station_studio_bath_7

Supalai Loft Talatphu Station_studio_bath_8

Supalai Loft Talatphu Station

• ห้องน้ำ : มีอ่างล่างหน้า กระจก สุขภัณฑ์+ที่แขวนทิชชู และราวจับ มีฉากกั้น มีพัดลมระบายอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่น

บรรยากาศจำลองห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน Type EX (b) พื้นที่ใช้สอย 43.5 ตร.ม.

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ประตู: ไม้ สีขาว และตัวจับแบบก้าน

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ห้องนั่งเล่น: Type นี้ เปิดประตูมาจะเจอห้องนั่งเล่น (เพราะจะเน้นพื้นที่ห้องนอน จึงขยับให้ห้องนั่งเล่นติดกับประตู) ประตูจะเปิดไปทางชั้นวางทีวี โดยมุมนี้ห้องตัวอย่างจะออกแบบให้ด้านข้างเป็นมุมรับประทานอาหาร

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• มุมเอนกประสงค์/ มุมรับประทานอาหาร: พื้นที่นี้จะอยู่ถัดจากมุมนั่งเล่น โดยห้องตัวอย่างออกแบบให้เป็นมุมรับประทานอาหาร

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ห้องครัว : ได้ครบชุด ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ออกแบบให้วางตู้เย็นไว้บริเวณนี้ โดยห้องครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ล้างจาน (ไม่มีเตาไฟฟ้าและไม่ได้ออกแบบให้ทำครัวหนัก เพราะไม่มีฮูดระบายอากาศ) พร้อมด้วยตู้ด้านบน ตู้ด้านล่าง บริเวณครัวจะอยู่ติดกับมุมเอนกประสงค์/มุมรับประทานอาหารและติดกับระเบียง

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ระเบียง: มีพื้นที่ให้ใช้งานได้เล็กน้อย และแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ห้องนอน: ห้องนี้ให้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด ได้แก่ โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้าแบบบิลท์อิน เตียง พร้อมหน้าต่างบานเลื่อน
Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

Supalai Loft Talatphu Station

• ห้องน้ำ : มีอ่างล่างหน้า กระจก สุขภัณฑ์+ที่แขวนทิชชู และราวจับ มีฉากกั้น มีพัดลมระบายอากาศ และเครื่องทำน้ำอุ่น

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
ปัจจุบันคอนโดมิเนียมใกล้สถานีตลาดพลู ถ้าเป็นห้องชุด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30-35 ตร.ม. ปล่อยเช่าอยู่ที่ 10,000-15,000 บาท/เดือน ถ้าได้ต้นทุนห้องชุด 2.3 ล้านบาท มีโอกาสได้อัตราผลตอบแทน (ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย และคาดการณ์จากปล่อยเช่าได้ 12 เดือน) อยู่ที่ 5.21-7.8%

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ อัตราค่าเช่าดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมที่ใกล้กับสถานีตลาดพลูมากกว่าโครงการศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่น ซึ่งอาจทำให้โครงการนี้ได้อัตราค่าเช่าน้อยกว่า อีกทั้ง ซัพพลายห้องชุดปล่อยเช่าย่านนี้มีจำนวนมาก ยังไม่นับอพาร์ทเมนต์ อัตราค่าเช่า 3,500-4500 บาท/เดือนอีกหลายตึก ทำให้ผู้สนใจลงทุนควรตัดสินใจอย่างรอบคอบ

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น (ที่ยังมียูนิตเหลือขาย)

Bangkok Horizon Ratchada-Thapra

1. แบงค์คอก ฮอไรซอน รัชดา-ท่าพระ ของกลุ่มบริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC บนพื้นที่โครงการ 3-2-75.8 ไร่ แบ่งเป็น 2 อาคาร คือ อาคาร 8 ชั้น 1 อาคาร (Lite) จำนวน 145 ยูนิต และอาคาร 30 ชั้น 1 อาคาร (Hite) จำนวน 565 ยูนิต ที่จอดรถรวม 253 คัน รูปแบบห้องชุด มีแบบสตูดิโอ แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 24-62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นเมื่อปี 2552 ประมาณ 1.45-1.55 หรือเฉลี่ยประมาณ 64,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

Ideo Sathorn-Thapra

2. ไอดีโอ สาทร-ท่าพระ ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บนพื้นที่ 5-3-19 ไร่ เป็นอาคารความสูง 31 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,339 ยูนิต + ร้านค้า 5 ยูนิต จำนวนห้องชุดต่อชั้นสูงสุด 53 ยูนิต ที่จอดรถประมาณ 454 คัน คิดเป็น 34% ไม่รวมจอดซ้อนคัน รูปแบบห้องชุด สตูดิโอ 21 ตร.ม. 1 ห้องนอน 30 – 31 ตร.ม. 2 ห้องนอน 45 ตร.ม. เปิดตัวเมื่อปี 2556 ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.9 ล้านบาท ราคา 90,000 – 120,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ราคาเริ่มต้น 2.69 ล้านบาท

U Delight @Talat Phlu Station_1-4

3. ยู ดีไลท์ @ ตลาดพลู สเตชั่น ของบริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดตัวปี 2557 อยู่บนพื้นที่ที่ดินประมาณ 5-3-72 ไร่ มีด้วยกัน 2 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร A สูง 34 ชั้น และอาคาร B สูง 27 ชั้น จำนวนห้องชุด 973 ยูนิต + 3 ร้านค้า (ตึก A = 548 ยูนิต และ ตึก B = 425 ยูนิต) จำนวนห้องชุดต่อชั้นสูงสุด 17 ยูนิตเหมือนกันทั้ง 2 อาคาร ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ 45% รูปแบบห้องชุด มีแบบ 1 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 30 – 45.5 ตร.ม.) และแบบ 2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 51 – 72 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.19 ล้านบาทหรือประมาณ 73,000 บาท/ตร.ม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จ มี.ค. 2559

Aspire Sathorn-Thapra

4. แอสปาย สาทร-ท่าพระ (ยูนิตของโครงการขายหมดแล้ว เหลือแต่ยูนิตที่มีกลุ่มคนที่ซื้อไปแล้วประกาศขายใบจอง) ของบริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)หนึ่งในโครงการร่วมทุนกับกลุ่มทุนญี่ปุ่น เปิดตัวปี 2557 บนพื้นที่ที่ดินประมาณ 5-1-20.4 ไร่ อาคารความสูง 30 ชั้น จำนวน 1,219 ยูนิต 1 ร้านค้า 1 และ 1 สำนักงาน ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 53 ยูนิต ที่จอดรถประมาณ 443 คันคิดเป็น 36% รวมจอดซ้อนคัน 40% รูปแบบห้องชุด มีแบบสตูดิโอ (พื้นที่ใช้สอย 23.5 ตร.ม.) แบบ 1 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 26.5 – 30.5 ตร.ม.) และแบบ 2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 38 – 53 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น 1.98 ล้านบาทหรือประมาณ 84,255 บาท/ตร.ม. ราคาเฉลี่ย 95,000 บาท/ตร.ม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จ มกราคม 2560

5. วิสซ์ดอม รัชดา – ท่าพระ ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด คาดว่าจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 4 ของปี 2558 ราคาขายประมาณ 1 แสนบาท/ตร.ม. อยู่ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์ ท่าพระ มูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท โดยโครงการนี้กลุ่มแมกโนเลียฯ ซื้อที่ดินแปลงใหญ่โอบล้อมโครงการ คาซ่า รัชดา-ราชพฤกษ์ยาวจนใกล้กับทางขึ้น-ลงบันไดสถานี BTS ตลาดพลูฝั่งที่ใกล้กับถนนเทอดไท 33

6. เดอะ เบส รัชดา-ท่าพระ ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) อยู่ห่างจากสถานีตลาดพลูพอสมควร ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้กับโครงการไลฟ์ รัชดา-ท่าพระ ทางไปตลาดพลู คาดว่าจะเปิดตัวประมาณไตรมาส 4 ของปี 2558 เบื้องต้นจะมีห้องชุดจำนวน 1,606 ยูนิต ปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นขอ EIA

บทสรุป
ภาพรวมของทำเลตลาดพลู ถือว่าเป็นทำเลที่ดี มีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยครบ เหมาะกับการอยู่อาศัยมาก ซึ่งเวลานี้ถือเป็นโอกาสทองของคนที่อยากมีที่อยู่อาศัยย่านนี้ เพราะซัพพลายจำนวนมาก ทำให้การแข่งขันดุเดือด แต่ละโครงการที่ยังมียูนิตเหลือขายอัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจคนซื้อ แต่หากสนใจซื้อเพื่อลงทุน ต้องพิจารณาอย่างรอบ

ที่ตั้งของโครงการศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่น ถือว่าใกล้เคียงกับโครงการยู ดีไลท์ @ ตลาดพลู สเตชั่นและโครงการแบงค์คอก ฮอไรซอน รัชดา-ท่าพระ แต่อาจจะดร็อปกว่าโครงการไอดีโอ สาทร-ท่าพระและโครงการแอสปาย สาทร-ท่าพระที่ใกล้รถไฟฟ้ามากกว่า

แต่จุดเด่นของ โครงการนี้อยู่ที่ รูปแบบห้องชุดและของที่ได้ภายในห้องชุด ค่อนข้างดีกว่าเมื่อเทียบกับโครงการไอดีโอ สาทร-ท่าพระและโครงการแอสปาย สาทร-ท่าพระ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าต้องการซื้อเพราะทำเล หรือฟังก์ชั่นห้องชุด

ถ้าเป็นซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง โครงการศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู สเตชั่นก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ได้ใกล้จากรถไฟฟ้ามากและใกล้ห้าง+ตลาด+ของกินมากกว่า แต่ถ้าซื้อเพื่อลงทุน โครงการไอดีโอ สาทร-ท่าพระและโครงการแอสปาย สาทร-ท่าพระ ซึ่งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากกว่าอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า


อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: เลอ ครีก สุขุมวิท 64/2 (Le Crique Sukhumvit 64/2)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/106610/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25ad-%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%2581-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b8 www.ddproperty.com:news:106610 Thu, 03 Sep 2015 23:00:10 +0700 รีวิวโครงการ: เลอ ครีก สุขุมวิท 64/2 (Le Crique Sukhumvit 64/2)
รีวิวโครงการ: เลอ ครีก สุขุมวิท 64/2 (Le Crique Sukhumvit 64/2)

หลังจากที่ได้ชิมลางในการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม Mayfair Place Sukhumvit 64 ล่าสุด ผู้ประกอบการหน้าใหม่ แต่ประสบการณ์ค่อนข้างคร่ำหวอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่าง “ริชแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์” ได้ก้าวข้ามจากการเป็นผู้ลงทุนมาสู่การเป็นผู้พัฒนาโครงการแบบเต็มตัวกับโครงการนำร่องอย่าง “เลอ ครีก สุขุมวิท 64/2” (Le Crique Sukhumvit 64/2) คอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์เพื่อรองรับกลุ่มกำลังซื้อคนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวไต้หวัน) ภายใต้แนวคิด “เปิดสู่ชีวิตที่เป็นคุณ” จากการอยู่อาศัยที่สามารถเปิดประตูจากโลกส่วนตัวในห้อง สู่สีสันของกรุงเทพฯ แถบเส้นสุขุมวิทตอนปลาย ได้ผ่านหน้าระเบียงห้อง พร้อมดึงธรรมชาติมาใกล้ๆ รายล้อมตึก และจุดขายที่ขาดไม่ได้ของคอนโดฯ ที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่คือตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีปุณณวิถี) ได้ภายใน 5 นาที

Le Crique

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2558)

• ชื่อโครงการ: เลอ ครีก สุขุมวิท 64/2 (Le Crique Sukhumvit 64/2)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ริชแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนน สุขุมวิท 64/2 แขวง บางจาก เขต พระโขนง กทม.

Le Crique

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 1 งาน 39.60 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 169 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ทั้งชาวไทยและไต้หวัน
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างปลายเดือนกันยายนปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคมปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Key Card Access Control เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 2 – 8
ส่วนกลาง: ชั้น 1 ล็อบบี้ และ ชั้น 8 ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ และสวน
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้นใต้ดิน ชั้น 1 และบริเวณโดยรอบอาคาร คิดเป็น 42 % ไม่รวมซ้อนคัน
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 48 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.35 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 79,000 บาท / ตร.ม.
โปรโมชั่นเดือนกันยายน : จอง 20,000 – 50,000 บาท พร้อมทำสัญญา รับทันที Samsung Galaxy S6 Edge
รูปแบบห้องทั้งหมด: ตกแต่งแบบ Fully Fitted
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) 30.44 – 31.50 ตร.ม. (จำนวน 111 ยูนิต)
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 41.31 – 51.59 ตร.ม. (จำนวน 33 ยูนิต)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 61.08 – 61.36 ตร.ม. (จำนวน 18 ยูนิต)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (Type 2) 61.36 ตร.ม. (จำนวน 7 ยูนิต)

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

Le Crique

การเดินหน้าโครงการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช-สมุทรปราการ) ส่งผลให้ทำเลในแถบสุขุมวิทตอนปลายได้รับการพัฒนาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการเกิดโปรเจคต่างๆ มากมาย ไฮไลท์ในย่านปุณณวิถีคงหนีไม่พ้นการที่ค่าย MQDC มีแผนที่จะทำ Sky Walk เชื่อมจากสถานีปุณณวิถีมาถึงหน้าปากซอยสุขุมวิท 101 /1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการมิกซ์ยูสอย่าง วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน และแว่วมาว่าแผนดังกล่าวได้รับการอนุมัติแล้ว ก่อนที่จะเริ่มก่อสร้างในปี 2560 โดยคอนโดมิเนียม เลอ ครีก เองก็ได้รับอานิสงส์ความสะดวกสบายตรงนี้ไปด้วย เนื่องจาก Sky Walk จะผ่านหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/2 ที่ตั้งของโครงการพอดี

นอกจากนี้ บริเวณคอมมูนิตี้มอลล์อย่างปิยรมย์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ตั้งโครงการ จะแปลงสภาพกลายเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร แหล่งแฮงค์เอาท์ขนาดใหญ่ และการก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Bangkok Mall ของเดอะมอลล์กรุ๊ปตรงแยกบางนา ซึ่งเมื่อทุกอย่างสร้างเสร็จ พร้อมให้บริการ รับรองว่าย่านนี้จะมีองค์ประกอบสำหรับการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย ครบครัน ส่งผลให้ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในโซนนี้เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ปัจจุบัน ราคาขายที่ดินในบริเวณนี้ปล่อยขายอยู่ที่ 320,000 บาท ต่อตารางวา

การเดินทาง

Le Crique

ด้วยศักยภาพที่ตั้งโครงการที่อยู่ใกล้ถนนสุขุมวิท และรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีปุณณวิถี เพียง 300 เมตร จึงทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย อีกทั้งซอยสุขุมวิท 64/2 ยังสามารถเป็นทางลัดทะลุไปขึ้นทางด่วนบริเวณสุขุมวิท 62 ได้ จึงสามารถเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนได้ เนื่องจากเป็นที่รู้กันของคนย่านนี้ว่าช่วงเวลา 07.00 – 10.00 น. เป็นเวลาที่สาหัสมากสำหรับคนที่เลือกเดินทางด้วยยวดยานพาหนะ เนื่องจากบริเวณนี้มีความเป็นชุมชนที่ค่อนข้างหนาแน่น ล้อมรอบไปด้วยโรงเรียน หมู่บ้าน คอนโดฯ และคอมมูนิตี้ มอลล์

Le Crique

– รถไฟฟ้า BTS
ใช้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ส่วนต่อยขยายอ่อนนุช-สมุทรปราการ มาลงที่สถานีปุณณวิถี เลือกทางออกที่ 6 แล้วเดินต่อมาประมาณ 270 เมตร ผ่านโรงเรียนนานาชาติแองโกลสิงคโปร์ เจอโชว์รูมเชฟโรเลต ให้สังเกตป้ายสุขุมวิท 64/2 เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 30 เมตร โครงการตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ

Le Crique

– รถยนต์ส่วนตัว
หากมาจากถนนสุขุมวิท ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านปิยรมย์ เลยแยกสุขุมวิท 101/1 เตรียมชิดขวา เพื่อกลับรถ สังเกตป้ายซอยสุขุมวิท 64/2 เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 30 เมตร โครงการตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ

Le Crique

การจราจรบนถนนสุขุมวิทขาเข้า ช่วงบ่าย ยังถือว่าคล่องตัว ไม่หนาแน่นเท่ากับช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน

Le Crique

โปรดสังเกตป้ายปิยรมย์ สปอร์ตคลับ จะอยู่ตรงข้ามที่ตั้งโครงการ ซอยสุมวิท 64/2

Le Crique

ทางเข้าซอยสุขุมวิท 64/2 โปรดสังเกตป้ายโครงการ

Le Crique

ซอยสุขุมวิท 64/2 เป็นถนนสองเลน ที่ค่อนข้างกว้าง และขับตรงไปประมาณ 30 เมตร ที่ตั้งโครงการอยู่ด้านซ้ายมือ

Le Crique

และหากตรงมาจนสุดซอย จะพบทางแยก ซึ่งเชื่อมไปซอยสุขุมวิท 64/1 โดยเส้นทางนี้สามารถทะลุไปสุขุมวิท 62 ได้

สถานที่แนว Lifestyle

Osk Valley Wine Bar and Restaurant
ภาพ via oakvalleywinebar.com

หากถามถึงแหล่งไลฟ์สไตล์ในย่านสุขุมวิท 64 หลายคนคงนึกภาพไม่ออกถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และต่างตั้งคำถามว่าถ้าอยู่แถวนี้จะไปแฮงค์เอาท์กันที่ไหน ความสงสัยนี้จะหมดไป หากรู้ว่าซอยที่เต็มไปด้วยโครงการคอนโดมิเนียมแห่งนี้มีร้านอาหารน่านั่ง เก๋ๆ แทรกตัวอยู่มากมาย เพื่อรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน รวมถึงชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น ที่เริ่มหันมาจับจองที่อยู่อาศัยแถวนี้กันมากขึ้น ด้วยเหตุผลเดินทางสะดวก แถมซอยสุขุมวิท 64 ยังสามารถใช้เป็นทางลัดทะลุไปได้หลายเส้นทาง ที่สำคัญยังเชื่อมไปถึงซอย 62 ได้อีกด้วย

Freshhour auto cafe
ภาพ via facebook.com/freshhourautocafe

เริ่มต้นสถานที่แรก ด้วยการเอาใจคอกาแฟ กับร้าน a cup @ Sukhumvit 64 (ห่างจากโครงการ 300 เมตร )ที่แม้ว่าจะเล็ก แต่เต็มไปด้วยบรรยกาศอบอุ่น ด้วยการตกแต่งร้านโทนสีไม้ พร้อมกลิ่นหอมของกาแฟสด และเบเกอร์รี่สดใหม่จากเตา แต่สำหรับใครที่ต้องการฝากท้องยามเช้า และเลือกเดินทางไปทำงาน ผ่านเส้นสุขุมวิท 62 อยู่แล้ว แนะนำให้แวะร้าน Fresh Hour Auto Café (ห่างจากโครงการ 1 กม.)เพราะที่นี่มีอาหารเช้าน่าทาน ไม่ว่าจะเป็นไข่กะทะ วาเฟิล หรือกับข้าวแบบไทยๆ โดยเปิดบริการตั้งแต่ 07.00 – 23.00 น.

นอกจากนี้หากใครอยากปลดปล่อยความเครียดจากการทำงานมาตลอดวัน ลองข้ามถนนไปฝั่งซอยสุขุมวิท 101 / 1 แล้วอินกับบรรยากาศรื่นรมย์ ท่ามกลางธรรมชาติ เคล้าคลอเสียงเพลง และเครื่องดื่มแก้วได้ที่ Osk Valley Wine Bar and Restaurant (ห่างจากโครงการ 500 เมตร)

รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการเลอ ครีก เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise พัฒนาภายใต้แนวคิด “เปิด…สู่ชีวิตที่เป็นคุณ” ต่อยอดความเป็นส่วนตัวในห้อง กับการตกแต่งภายในที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง ที่สามารถเปิดประตูออกมาชื่นชมบรรยากาศของธรรมชาติพื้นที่สีเขียว อันแทรกด้วยบ่อปลาโดยรอบ กับวัตถุประสงค์ของโครงการ เพื่อให้ผู้อาศัยรู้สึกประหนึ่งเหมือนอยู่บ้านสวนใจกลางเมืองสุขุมวิท 64/1

Le Crique

Ground Floor Plan – แปลนชั้น G ซึ่งเป็นส่วนของที่จอดรถ และพื้นที่สีเขียวโดยรอบ

Le Crique

2nd Floor Plan – แปลนชั้น 2 จะสังเกตว่ามียูนิตทั้งหมด 25 ยูนิตต่อชั้น (สีเหลือง = 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) สีเขียวอ่อน = 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ สีเทา = 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (ติดวบันไดหนีไฟ) และสีเขียวเข้ม = 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) โดยห้องมุมซ้าย ใกล้กับลิฟท์ ถูกออกแบบให้เป็นส่วนของล็อบบี้

Le Crique

3rd Floor Plan – แปลนชั้น 3 มีทั้งหมด 25 ยูนิต โดยขนาด2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จะมีเพียง 4 ยูนิตต่อชั้น และมักจะเป็นห้องมุม

Le Crique

8th Floor Plan – แปลนชั้น 8 มีทั้งหมด 20 ยูนิต โดยขนาด2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จะมีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดยชั้นนี้จะเป็นชั้นที่ตั้งของส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวน

Le Crique

ทิศเหนือ – ทัศนียภาพของด้านนี้ หากเลือกอาศัยตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป จะสามารถมองเห็นวิวเมืองฝั่งอ่อนนุช

Le Crique

สำนักงานขายโครงการ ตั้งอยู่พื้นที่จริงของโครงการ โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ

Le Crique

ทิศใต้ – ด้านนี้ค่อนข้างโปร่ง แต่อาจโดนบังวิว (ทางฝั่งหน้าต่างห้องนอน) จากจากบิลบอร์ด ถ้าหากผู้ประกอบการ สยามพาราไดซ์ ไนท์บาซาร์ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 101 /1 ไม่ได้รื้อออก

Le Crique

ด้านหลังของสำนักงานขาย หันไปทางทิศใต้ ซึ่งออกแบบให้เป็นลักษณะสวน เหมือนกับบรรยากาศจริงของโครงการ และหากสังเกตดีๆ จะเห็นบิลบอร์ดตั้งตระหงาดอยู่ด้านหลัง

Le Crique

ทิศตะวันออก – ฝั่งนี้สามารถมองเห็นรถไฟฟ้าบีทีเอส และชุมชนฝั่งสุขุมวิท 101 / 1 หากเลือกอาศัยตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป

Le Crique

ทิศตะวันตก – ด้านนี้อาจโดนบังวิวจากคอนโดมิเนียม The Muse ความสูง 7 ชั้น ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 9 เมตร

Le Crique

จะเห็นได้ชัดเจนจากภาพถ่ายบรรยากาศจริงของโครงการ ว่าทางทิศตะวันตกนั้นจะอยู่ติดกับโครงการ The Muse ซึ่งจะถูกบล็อกวิวได้ แต่หากใครเลือกยูนิตฝั่งนี้ จะมีราคาถูกกว่าด้านอื่น

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ภายในโครงการเลอ ครีก จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในระดับมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น ล็อบบี้ บริเวณชั้น 2 หรือ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่สวนสีเขียว บนชั้น 8 ภายใต้คอนเซปต์ Access To Your Lifestyle

Le Crique

บริเวณโดยรอบโครงการ ถูกออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียว และบ่อปลา เพื่อให้ได้บรรยากาศร่มรื่น เหมือนอยู่บ้าน

Le Crique

ล็อบบี้จะอยู่บริเวณชั้น 2 ออกแบบในสไตล์คลาสสิค

Le Crique

ชั้น 8 – เป็นส่วนของห้องฟิตเนส ที่ล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้ออกกำลังกายไปพร้อมกับชมวิวเมืองโดยรอบ

Le Crique

ชั้น 8 – มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่ค่อนข้างยาว สามารถมองวิวทิวทัศน์ได้ 180 องศา

รีวิวภายในห้องชุด

พื้น: ลามิเนต หนา 9 มม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.45 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 3 เมตร
ประตู: ประตูแบบก้านโยก ระบบล็อก 2 ชั้น
ระบบไฟ: Downlight
ชุดครัว: Built-in ชุดเครื่องครัว ซิ้งค์ล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Teka
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: American Standard
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: Samsung

le crique

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) 30.44 – 31.50 ตร.ม. (จำนวน 111 ยูนิต)

Le Crique

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) 31.50 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Le Crique

ประตูเป็นแบบก้านโยก มีระบบล็อกสองชั้น

Le Crique

เมื่อเปิดประตูมา จะพบส่วนของครัวเปิดอยู่ด้านซ้ายมือ

Le Crique

ทางโครงการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว และเครื่องดูดควัน แบบ Built-in

Le Crique

เตาไฟฟ้าที่ได้ เป็นแบบสองหัวจาก Teka โดยทางโครงการได้เคลือบผนังส่วนครัว ด้วยไฟเบอร์กลอส ที่มีคุณสมบัติทนไฟ ง่ายต่อการทำความสะอาด พร้อมทั้งยัง Built-in ตู้และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ทำอาหารให้เพียงพอกับความต้องการของผู้พักอาศัย

Le Crique

บริเวณด้านล่างเคาน์เตอร์ครัว มีปลั๊กไว้รองรับ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

Le Crique

สวิทช์ไฟ ฝั่งห้องครัว อยู่บริเวณส่วนทำอาหาร

Le Crique

ซิ้งค์ล้างจานที่ได้จาก Teka

Le Crique

ฝั่งด้านขวามือ ตรงข้ามกับครัว เป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งปูกระเบื้องเซรามิค ขนาด 15 x 60 ซม.

Le Crique

บริเวณอ่างล้างหน้า ด้างล่างเป็นลักษณะตู้เก็บของ โดยสุขภัณฑ์ทั้งหมดจาก American Standard

Le Crique (107)

นอกจากนี้ ส่วนของกระจกส่อง ยังสามารถเปิดออกมาเป็นตู้เก็บของใช้จิปาถะได้

Le Crique

ส่วนของห้องอาบน้ำ เป็นแบบตู้กระจก Klaffle Tempered Glass แบ่งส่วนเปียก-แห้ง ชัดเจน ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบให้มีที่วางแชมพู สบู่ และอื่นๆ ด้านฝั่งซ้ายของฝักบัว อีกทั้งยังเพิ่ม Rain Shower ให้อีกด้วย

Le Crique

ออกมาจากห้องน้ำ จะเป็นส่วนของมุมนั่งเล่น เล็ก ๆ ซึ่งทางโครงการ แบ่งพื้นที่ด้านผนังแขวนทีวีให้สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งได้

Le Crique

พร้อมทั้งยังสามารถจัดวางโซฟาขนาดพอเหมาะได้ จากไอเดียการตกแต่งดังรูป

Le Crique

สังเกตแอร์จะเป็นแบบติดผนัง และไฟ ในลักษณะ Downlight

Le Crique

โดยส่วนของมุมนั่งเล่น และห้องนอน ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน

Le Crique

ในส่วนของห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ซึ่งบริเวณนี้ ทางโครงการได้ออกแบบแปลนให้ล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด

Le Crique

บริเวณปลายเตียง สามารถวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง ได้ดังรูป

Le Crique

แอร์สำหรับยูนิตนี้จะได้ 2 เครื่อง คือส่วนของห้องนั่งเล่น และห้องนอน

Le Crique

ฝั่งห้องนอน มีระเบียงยาว ให้สามารถออกไปสูดอากาศข้างนอกได้

Le Crique

ประตูส่วนของระเบียง เป็นแบบบานเลื่อน

Le Crique

ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค สีน้ำตาล พร้อมราวเหล็กกันตก ติดกระจก Safety Glass 2 แผ่น
โดยสำหรับยูนิตนี้มีความกว้าง 1 เมตร ยาว 5 เมตร

Le Crique

นอกจากนี้บริเวณระเบียง ยังมีระแนงบังคอมเพรสเซอร์แอร์ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยหากมองมาจากด้านนอก

le crique

1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 41.31 – 51.59 ตร.ม. (จำนวน 33 ยูนิต)

Le Crique

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 41.31 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Le Crique

ผลักประตูไป สิ่งแรกที่พบจะเป็นส่วนของครัว ด้านขวามือของห้อง คล้ายกับยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) แต่แตกต่างตรงขนาดพื้นที่ใช้สอย

Le Crique

บริเวณด้านข้างเคาน์เตอร์ครัว ถูกออกแบบให้สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ดังรูป

Le Crique

ตู้เก็บอุปกรณ์เครื่องครัว และของจิปาถะได้ดังรูป

Le Crique

พื้นที่ทำอาหาร ยังคงได้เตาไฟฟ้า 2 หัวและซิ้งค์ล้างจานจาก Teka

Le Crique

นอกจากนี้ส่วนด้านข้างเคาน์เตอร์ ยังออกแบบแปลน ให้มีพื้นที่สามารถวางโต๊ะกินข้าว ขนาด 2 ที่นั่งได้

Le Crique

ฝั่งตรงข้ามครัว ถูกออกแบบให้เป็นส่วนพื้นที่ว่าง ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นส่วนของห้องนั่งเล่น มุมทำงาน หรือแม้แต่ห้องนอนเล็กได้

Le Crique

โดยฝั่งผนังสามารถออกแบบให้เป็นชั้นวางหนังสือ เหมือนที่โครงการได้ให้ไอเดียในการตกแต่งดังรูป

Le Crique

ยูนิตนี้ มีพื้นที่ส่วนของมุมนั่งเล่น ดังรูป โดยจะติดกับระเบียงห้อง

Le Crique

ประตูระเบียง จะเป็นแบบบานเลื่อน

Le Crique

ระเบียงยูนิตนี้มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ยาว 3 เมตรครึ่ง ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิคสีน้ำตาล

Le Crique

สำหรับยูนิตนี้ ห้องน้ำ อยู่ระหว่างห้อง Extra และห้องนอน โดยแบ่งส่วนเปียก-แห้ง เช่นเดียวกับยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S)

Le Crique

ต้องยอมรับว่า ปลั๊กไฟสำหรับโครงการนี้ มีรองรับการใช้งานมากพอสมควร เหมือนดังรูปที่ติดตั้งไว้ด้านหน้าห้องนอน

Le Crique

ส่วนของห้องนอน ยังรายล้อมด้วยหน้าต่าง บานเลื่อน ซึ่งสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้ดังรูป

Le Crique

ทางโครงการได้ออกแบบหัวเตียงให้สามารถเป็นตู้เก็บของ โดยใช้พื้นที่ด้านข้างให้เป็นประโยชน์ ด้วยการนำโต๊ะเครื่องแป้งขนาดพอเหมาะมาวาง ไว้เป็นไอเดียให้กับผู้อยู่อาศัย

Le Crique

ส่วนด้านข้างอีกฝั่ง มีพื้นที่เหลือ ให้สามารถวางตู้เสื้อผ้าประตูสองบานเลื่อน ขนาดตามรูปได้

le crique

2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 61.08 – 61.36 ตร.ม. (จำนวน 18 ยูนิต)

Le crique

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 61.08 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Le Crique

ยูนิตนี้เมื่อเปิดประตูมา จะพบห้องน้ำอยู่ด้านขวา ส่วนห้องนอนเล็กและ Master Bedroomจะอยู่ด้านซ้าย ตรงกลางเป็นส่วน นั่งเล่น และครัวเปิด

Le Crique

ห้องน้ำของยูนิตนี้ ค่อนข้างแคบ และไม่มีตู้กระจกเก็บของ บริเวณอ่างล้างหน้า แต่ยังคงแบ่งแยกส่วนเปียก-แห้ง ชัดเจนเหมือนเดิม

Le Crique

ห้องนอนเล็ก เตียงที่สามารถวางได้ จะเป็นขนาดเตียงเดียว จนถึงประมาณ 5 ฟุต พร้อมล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด

Le Crique

โดยส่วนด้านข้างสามารถวางตู้เสื้อผ้า ได้ขนาดดังรูป

Le Crique

กระจกล้อมรอบห้อง สามารถเปิดได้ ในลักษณะบานกระทุ้ง

Le Crique

พื้นที่ปลายเตียง มีไม่มากนัก ดังนั้นหากต้องการวางทีวี สามารถทำได้ด้วยวิธีแขวนผนังเท่านั้น แต่ยังมีพื้นที่ว่างบริเวณด้านหน้าประตู ซึ่งสามารถนำโต๊ะเครื่องแป้งหรือชั้นหนังสือมาวางได้ในขนาดพอเหมาะ เพื่อไม่ทำให้ห้องดูแคบเกินไป

Le Crique

หน้าตาของส่วนของห้องนั่งเล่น ทางโครงการได้ออกแบบไว้เป็นไอเดียดังรูป

Le Crique

สำหรับส่วนทำอาหาร เคาน์เตอร์ครัวจะเป็นแบบเข้ามุมดังรูป โดยมีพื้นที่เหลือให้สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาดพอเหมาะได้

Le Crique

มุมนั่งเล่น ยังคงอยู่ติดระเบียง โดยสามารถนำโซฟาขนาดดังรูปมาวางได้ดังรูป

Le Crique

ห้องนอนมาสเตอร์ ล้อมรอบด้วยกระจก โดยมีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ได้

Le Crique

หน้าต่างเป็นแบบบานเลื่อนดังรูป

Le Crique

โดยพื้นที่ส่วนปลายเตียง สามารถนำไอเดียทางโครงการ ในการแต่งผนังให้เป็นชั้นวางหนังสือ มุมทำงาน หรือที่วางของจิปาถะได้ นอกจากนี้ส่วนด้านข้างเตียง สามารถใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการแปลงสภาพเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

Le Crique

โต๊ะเครื่องแป้ง อาจ Built-in ให้เป็นชั้นวางของ

Le Crique

หรือปรับเปลี่ยนเป็นชั้นวางหนังสือ

Le Crique

นอกจากนี้ทางโครงการ ยังออกแบบแปลนห้อง ให้มีพื้นที่เหลือด้านหน้าห้องน้ำ โดยสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าเข้ามุมดังรูป

Le Crique

ห้องน้ำในห้องนอน มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ดังนั้นส่วนของตู้อาบน้ำจึงเป็นลักษณะเข้ามุม โดยทางโครงการได้ติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง เพื่อช่วยในการระบายอากาศ

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
ด้วยความเจริญของพื้นที่ ซึ่งรายล้อมด้วยการคมนาคมสะดวกสบาย ใกล้แหล่งชุมชน ทำให้ซอยสุขุมวิท 64 มีโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise ขึ้นอยู่หลายแห่ง นั่นหมายถึงว่าหากซื้อเพื่อปล่อยเช่าจะมีการแข่งขันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เจ้าของห้องจึงต้องหาจุดขายของตัวเองเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้เช่า โดยอัตราค่าเช่าในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 500 บาท ต่อ ตารางเมตร หรือ 15,500 บาท ต่อเดือนสำหรับยูนิตขนาดหนึ่งห้องนอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

The Muse
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บนที่ดิน 482.2 ตารางวา อาคารสูง 7 ชั้น 79 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ 1 – 2 ห้องนอน และ Duplex พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30 – 150 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 70,000 บาท / ตร.ม.

the_muse
ภาพ via magnolia.co.th

Mayfair Place
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท พีทีเอฟ เรียลตี้ จำกัด บนที่ดิน 3 ไร่ 51 ตารางวา แบ่งออกเป็น 3 อาคาร สูง 8 ชั้น 365 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 23 – 74.6 ตร.ม. ที่จอดรถ 55 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 77,000 บาท / ตร.ม.

Mayfair
ภาพ via mayfairplace64.com

Chateau In Town Sukhumvit 64
คอนโดมิเนียม ของบริษัท พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือ CMC บนที่ดิน 2 งาน 35 ตารางวา อาคารสูง 8 ชั้น 79 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 28 – 42.27 ตร.ม. ที่จอดรถ 47 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 70,000 บาท / ตร.ม.

Chateau in Town
ภาพ via chateauintown.com

บทสรุป
เลอ ครีก สุขุมวิท 64/1 ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low Rise ที่มีทั้งจุดเด่น และด้อยพร้อมกัน เริ่มจากข้อดีในการออกแบบตัวตึกให้รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว สร้างบรรยากาศให้รู้สึกอบอุ่น ร่มรื่น มีบ่อปลาขนาดใหญ่ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน อีกทั้งที่ตั้งของโครงการอยู่เข้ามาในซอย (จากถนนใหญ่) เพียงเล็กน้อยเท่านั้นสามารถเดินได้ โดยไม่ต้องมาต่อมอเตอร์ไซด์หรือแท็กซี่ให้ยุ่งยาก สำหรับ ซอยสุขุมวิท 64/2 เองถือว่าสะดวกสบายเพราะสามารถลัดเลาะซอยต่างๆ ไปทะลุสุขุมวิท 62 ขึ้นทางด่วนได้เลย ไม่ต้องเผชิญสภาพการจราจรอันหนาแน่นในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วน

แต่การที่โครงการมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านหน้าโครงการในช่วงที่รถไฟฟ้าให้บริการก็จะได้ยินเสียงรถไฟฟ้าเป็นระยะๆ และในซอยยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนศรีวัฒนา ในช่วงเช้าและเย็นของวันจันทร์-ศุกร์ก็อาจจะมีการจราจรเข้า-ออกในซอยจอแจอยู่ แต่หากมองข้ามตรงจุดนี้ และคิดถึงความเจริญที่กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์การค้า ร้านอาหาร รวมถึงการสร้าง Sky Walk ผ่านหน้าโครงการ และรายล้อมด้วยแหล่งแฮงค์เอาท์ต่างๆ ก็ถือว่าโครงการนี้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในแบบฉบับคนเมืองได้ดีในระดับหนึ่ง

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: พอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ (Point Yamu Villas by Como)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/9/106306/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b9 www.ddproperty.com:news:106306 Mon, 31 Aug 2015 23:00:02 +0700

โคโม โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เป็นเครือโรงแรมที่มีบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งก็คือ โคโม กรุ๊ป ซึ่งมีไลน์ธุกิจมากมาย แต่ที่โด่งดังและถือว่ามีประสบการณ์มากเป็นพิเศษ คงหนีไม่พ้น ธุรกิจโรงแรม- รีสอร์ท ระดับห้าดาว ที่มีมากกว่า 13 แห่งทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย อย่าง โรงแรมเมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ และพอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ ภูเก็ต โดยยึดคอนเซ็ปต์ความหรูหรา มีระดับ ภายใต้การดูแลจัดการมาตราฐานระดับโลก

ด้วยระดับความนิยมในที่พักอาศัยประเภทวิลล่าบ้านพักตากอากาศที่มีอย่างต่อเนื่องของกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติกระเป๋าหนักในเมืองท่องเที่ยวอย่างจังหวัดภูเก็ต โคโม กรุ๊ป จึงได้ต่อยอดความเป็นตัวตนในธุรกิจโรงแรมหรู นำมาถ่ายทอดลงบนโครงการวิลล่าหรูขนาด 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน บนทำเลที่มีจุดขายเรื่องวิวทิวทัศน์อย่างแหลมยามู ในชื่อ “พอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่” ซึ่งได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลีในการตกแต่งโครงการ โดยทุกตารางเมตรนั้นรังสรรค์ออกมาเฉกเช่นเดียวกับโรงแรม ด้วยราคาขายแตะ 8 หลัก พร้อมมัดใจกลุ่มเป้าหมายด้วยข้อเสนอ Fully Furnished ชนิดลากกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: พอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ (Point Yamu Villas by Como)
• ผู้พัฒนาโครงการ: โคโม โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท
• ตัวแทนขาย: บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนน เทพกระษัตรี ตำบล ป่าคลอก อำเภอ เมือง ภูเก็ต

point yamu by como

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 80 ไร่
รูปแบบ: วิลล่า จำนวน 20 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มชาวไทยและต่างชาติที่มองหาไลฟ์สต์ที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัว
สถานะก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557
ระบบความปลอดภัย: Key Card Access Control, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ: สระว่ายน้ำ และฟิตเนส
สถานะการขาย: ขายไปแล้ว 4 ยูนิต คือ ขนาด 2 ห้องนอน 3 ยูนิต และ 3 ห้องนอน 1 ยูนิต
ราคาเริ่มต้น: 61.84 ล้านบาท / ยูนิต
เว็บไซต์: http://www.comohotels.com/pointyamu/villa-ownership
โทร: 076-689-900
รูปแบบห้องทั้งหมด: ตกแต่งแบบ Fully Furnished

วิลล่า 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 248 ตารางเมตร

point yamu by como

วิลล่า 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 427 – 705 ตารางเมตร

point yamu villas by como

point yamu villas by como

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล แหลมยามู

point yamu villas by como

แหลมยามู เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง เล็กๆ ที่มีชื่อเรียกว่า “ยามู” มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล และเป็นที่รู้กันว่าทัศนียภาพที่นี่สวยงาม สามารถมองเห็นเกาะน้อย ใหญ่ของอ่าวพังงา และความงามที่ร่ำลือกันปากต่อปากมานี่เอง ทำให้ทำเลนี้เป็นที่ใฝ่ฝันของบรรดานายทุนต่างชาติ รวมถึงเศรษฐีเมืองไทยที่อยากมาจับจองพื้นที่บริเวณนี้และพัฒนาเป็นที่พักอาศัย และเมื่อที่ดินตกไปอยู่ในมือของโคโม่ กรุ๊ป ก็มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างอาณาจักรแห่งการพักผ่อนและอยู่อาศัย รวมถึงมีโรงแรม-รีสอร์ทมารองรับกลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยหรือชาวต่างชาติกระเป๋าหนัก ไปพร้อมกับยกระดับการใช้ชีวิตในระดับไฮเอนด์ โดยคาดการณ์กันว่าในอนาคตจะมีการก่อสร้างท่าเรือยามู ให้มีขนาดใหญ่เทียบเท่ากับท่าเรือมารีนา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติการก่อสร้าง และแผนการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวนี้เองจึงส่งให้ดีมานด์ในบริเวณแหลมยามูเพิ่มมากขึ้นไปพร้อมๆ กับราคาที่ดินซึ่งปัจจุบันเตะระดับไร่ละ 10 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ

point yamu villas by como

พอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ ตั้งอยู่บริเวณปลายแหลมยามูพอดี จึงมีข้อได้เปรียบในเรื่องของวิวที่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์โดยรอบได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว อีกทั้งยังสามารถมองเห็นเกาะรังใหญ่ เกาะรังน้อย รวมถึงทัศนียภาพวิถีชีวิตชาวประมง โดยจะมีเรือหางยาววิ่งผ่านระเบียงหน้าวิลล่าในเวลา 10 โมง และบ่ายโมงพอดี นับว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยากในชุมชนเมือง ยิ่งไปกว่านั้นด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นแบบเทือกเขา จึงทำให้การก่อสร้างโครงการตั้งอยู่บนเนิน ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวของป่าอนุรักษ์ อีกทั้งด้วยทำเลที่ตั้งที่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองภูเก็ต (ประมาณ 20 กม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ประมาณ 25 กม.) รวมถึงท่าเรือเอเชียมารีนา (ระยะทางกว่า 15 กม. ) จึงทำให้กลุ่มผู้อยู่อาศัยที่มีกำลังซื้อวิวล่าพักตากอากาศนี้ ได้รับความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าศักยภาพด้านคมนาคมจะมีจุดด้อยก็ตาม

การเดินทาง

point_yamu_map

โครงการวิลล่าบ้านพักตากอาศสุดหรู ตั้งอยู่สุดปลายแหลมยามู ลักษณะเป็นแนวเชิงเขา แม้ว่าจะได้กำไรเรื่องบรรยากาศแบบส่วนตัวไปเต็มๆ แต่สำหรับเรื่องการเดินทางนั้น ค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมือง และสนามบินภูเก็ตพอสมควร ซึ่งใช้เวลาการเดินทางจากสนามบินประมาณ 20 นาที โดยยึดเส้นทางหลักถนนเทพกระษัตรี จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงชนบท ภก. 4003 และมุ่งหน้าตรงมาเรื่อยๆ สังเกตป้ายแหลมยามู และโรงแรมบ้านยามูอยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ประมาณ 500 เมตร ถึงโรงแรมพอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ ซึ่งโครงการวิลล่า จะอยู่ในอาณาเขตเดียวกับโรงแรม

สถานที่แนว Lifestyle

point yamu villas by como

ภาพ via thailog.org

ด้วยความที่จังหวัดภูเก็ต เป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ดังนั้นทุกอณูพื้นที่จึงถูกแปรสภาพให้รองรับนักท่องเที่ยว เช่นเดียวกับบริเวณแหลมยามู สถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนัก เนื่องจากต่างเรียงรายไปด้วยโรงแรม รีสอร์ท หมู่บ้านวิลล่าตากอากาศสุดหรู ในทางตรงกันข้ามวิถีความเป็นอยู่ในลักษณะชุมชนบริเวณนี้ ยังคงพบเห็น แทรกซึมอยู่ในตารางเมตรของความไฮโซ สืบเนื่องจากชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและประกอบอาชีพชาวประมง ทำสวนยาง ยังคงปักหลักอาศัยอยู่ ด้วยเหตุนี้ทางด้านฝั่งทิศใต้ของแหลม จึงยังคงอนุรักษ์การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เพราะเต็มไปด้วยพื้นที่ป่าชายเลน ดังนั้นสถานที่ไลฟ์สไตล์ จึงเป็นในลักษณะสัมผัสธรรมชาติ เสน่ห์ของทะเล ภูเขา มากกว่าความเจริญของศูนย์การค้าแบบในเมือง ทำให้บรรดาผู้ประกอบการโรงแรม-รีสอร์ทในย่านนี้ จึงต้องหากิจกรรมสันทนาการอื่นๆ มาเสริม อย่างการปั่นจักรยาน มามัดใจนักท่องเที่ยว และสร้างเสน่ห์ให้กับแหลมยามูมากขึ้น

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบอัญมณีแห่งท้องทะเล อย่างไข่มุก สามารถนั่งเรือหางยาว บริเวณท่าเรือแหลมหินไปประมาณ 15 นาที ข้ามไปเกาะรังใหญ่ ฟาร์มเลี้ยงไข่มุก สุดขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ต พร้อมสัมผัสธรรมชาติอันสวยงาม บนหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีคราม เหมาะกับกิจกรรมดำน้ำ ดูประการังและปลาหลากหลายชนิด หรือหากใครต้องการความสงบ เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง แนะนำให้ไปเกาะรังน้อย ซึ่งมีหาดทรายและน้ำทะเลสวยไม่แพ้กัน

รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการวิลล่า พอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ เป็นโปรเจคที่ได้รับการดูแลจากแบรนด์ที่มีประสบการณ์ด้านโรงแรมห้าดาวอย่าง COMO โดยนำเสนอแนวคิดการออกแบบในสไตล์คอนเทมโพรารี่ ภายใต้การรังสรรค์จาก Paola Navone อินทีเรียดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอิตาลี ซึ่งเน้นเอกลักษณ์การผสมผสานเสน่ห์งานดีไซน์ของยุคเก่าและใหม่รวมกัน เน้นโทนสีสบายตา อย่าง ขาว ฟ้า อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนเล็กๆ รอบวิลล่า เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศธรรมชาติของแหลมยามู

point yamu villas by como

ทิศเหนือ – สัมผัสธรรมชาติพื้นที่สีเขียวของแหลมยามู

point yamu villas by como

ทิศใต้ และทิศตะวันตก – มุมนี้สามารถมองเห็น วิวทิวทัศน์ของเกาะมะพร้าว

point yamu villas by como

ทิศตะวันออกเฉียงใต้ – ได้ทัศนียภาพของทะเลอันดามัน สามารถมองเห็นความสวยงามของเกาะรังใหญ่ และเกาะรังน้อย

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

โครงการยึดคอนเซ็ปต์ความเป็นส่วนตัว หรูหรา มีระดับ ในสไตล์บ้านพักตากอากาศ เป็นอันดับแรกในการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกจึงอยู่ในส่วนของอาคารโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น Aqua Bar สถานที่นั่งจิบเครื่องดื่มสุดโปรด พร้อมชมพระอาทิตย์ตก หรือ Facility อีกมากมายไว้รองรับ อาทิ Kid’s Club, Game Room, Meeting Room, Como Shambhala Retreat, Yoga Studio, Fitness, Infinity Edge Pool, Nahmyaa Restaurant และห้องอาหารเพื่อสุขภาพ La Sirera

point yamu villas by como

ชั้น 2 – Kid’s Club and Game Room

point yamu villas by como

ชั้น 2 – Meeting Room

point yamu villas by como

ชั้น 3 – Como Shambhala Retreat

point yamu villas by como

ชั้น 3 – Yoga Studio

point yamu villas by como

ชั้น 3 – Fitness

point yamu villas by como

ชั้น 3 – Aqua Bar

point yamu villas by como

ชั้น 3 – La Sirera

point yamu villas by como

ชั้น 3 – Infinity Edge Pool

รีวิวภายในวิลล่า
พื้น: พื้นไม้เนเชอร์วูด (Nature wood)
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.75 เมตร (ห้องแบบ 2 ห้องนอน) และ 3 เมตร (ห้องแบบ 3 ห้องนอน)
ระเบียง: กว้าง 6.5 เมตร ยาว 16.50 เมตร (แบบ 2 ห้องนอน) และ กว้าง 8.10 เมตร ยาว 15.17 เมตร (แบบ 3 ห้องนอน)
ประตู: ระบบล็อก Access Key Card
ชุดครัว: Built-in เคาน์เตอร์ครัว ชุดเครื่องครัว จาก Zara Home และ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน เครื่องใช้ไฟฟ้า จาก Ericsson
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Cotto และ Toto
เฟอร์นิเจอร์: Full Furnished
เครื่องปรับอากาศ: Trane

point yamu villas by como

บรรยากาศวิลล่าตัวอย่าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ 248 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

point yamu villas by como

ตัววิลล่าจะเป็นแนวคอนเทมโพรารี่ โดยแต่งผนังด้วยหิน พร้อมเพิ่มพื้นที่สวนสีเขียวเล็กๆ หน้าบ้าน ด้วยที่ตั้งเป็นแบบเนินเขา จึงทำให้บางยูนิตยกสูงตามพื้นที่ พร้อมเพิ่มบันไดบริเวณทางเข้า โดยไม่มีรั้วรอบขอบชิด

point yamu villas by como

ประตูเข้าบ้าน เป็นระบบล็อก Access Key Card

point yamu villas by como

เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะพบส่วนของ Living room โดยมีโต๊ะกินข้าวขนาดสี่ที่นั่ง ตั้งอยู่ตรงกลาง ซึ่งด้านหลังโต๊ะ จะมีโซฟาเข้ามุมไว้ให้นั่งดูทีวีแบบชิลๆ โดยเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งทั้งหมด นั้นถูกออกแบบให้เหมือนกับโรงแรม

point yamu villas by como

ส่วนฝั่งโซฟา อุปกรณ์ที่เห็นในรูปได้หมดทุกอย่าง แม้กระทั่งหมอนอิง ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี เรียกได้ว่า ลากกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย

point yamu villas by como

เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนบริเวณส่วน Living Room ออก จะพบกับสระว่ายน้ำขนาด 38.96 ตารางเมตร

point yamu villas by como

ห้อง Master Bedroom จะอยู่ฝั่งขวาของตัวบ้าน เตียงที่ได้จะเป็นขนาดคิงไซส์ ทีวีของตกแต่งทั้งหมดได้ตามรูป

point yamu villas by como

ตู้เสื้อผ้าจะเป็นแบบม่านบัง ซึ่งออกแบบให้อยู่หน้าห้องน้ำ

point yamu villas by como

ผลักประตูห้องน้ำเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นคืออ่างจากุชชี่ โดยใช้กระเบื้องสีขาวปูส่วนพื้นและผนังของห้องน้ำ

point yamu villas by como

โซนอาบน้ำ กับส่วนชำระล้าง จะแบ่งแยกห้องกันอย่างชัดเจน

point yamu villas by como

ของตกแต่งทั้งหมดที่เห็นในห้องน้ำขนาดพื้นที่ 12.65 ตารางเมตร ทางโครงการให้หมด

point yamu villas by como

กลับมาที่ฝั่งซ้ายของวิลล่า จะเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก ขนาดพื้นที่ 16.12 ตารางเมตร

point yamu villas by como

โดยส่วนของตู้เสื้อผ้า จะอยู่บริเวณปลายเตียง ซึ่งมีลิ้นชักบริเวณด้านล่างทีวีให้เก็บของเพิ่มเติม

point yamu villas by como

ประตูห้องน้ำในห้องนอนเล็ก เป็นแบบบานเลื่อน พร้อมตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีน้ำเงิน ในขนาดพื้นที่ 16.21 ตารางเมตร

point yamu villas by como

ห้องน้ำ ติดตั้งหน้าต่าง 2 บานเพื่อระบายอากาศ ของตกแต่งที่เห็นได้หมดทุกอย่าง

point yamu villas by como

ส่วนของห้องน้ำ ยังถูกแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งอย่างชัดเจน

point yamu villas by como

ปุ่มกดชักโครก ถูกออกแบบ Built-in ติดกับฝาผนัง

point yamu villas by como

ฝักบัวที่ได้ มีทั้งแบบธรรมดากับ Rain Shower

point yamu villas by como

บรรยากาศวิลล่าตัวอย่าง 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ 427 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

point yamu villas by como

สำหรับยูนิตนี้ จะเพิ่มส่วนของสวนหน้าวิลล่า ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามพื้นที่

point yamu villas by como

โดยเมื่อเปิดประตูมา จะเป็นส่วนของโต๊ะกินข้าวขนาด 8 ที่นั่ง

point yamu villas by como

ซึ่งด้านหลังของโต๊ะ จะเป็นส่วนของ Living Room ตกแต่งด้วยโซฟาสีขาว ยาว เข้ามุม พร้อมเก้าอี้เสริมให้นอนเอนกาย ดูวิวด้านนอก

point yamu villas by como

ฝั่งของห้องนั่งเล่น มีส่วนผนังให้สามารถแขวนทีวีขนาดใหญ่ได้

point yamu villas by como

เมื่อผลักประตูส่วนของ Living Room นี้ จะพบกับสระว่ายน้ำขนาด 38.96 ตารางเมตร

point yamu villas by como

ยูนิตนี้ บริเวณสระว่ายน้ำ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเกาะมะพร้าว

point yamu villas by como

ด้านมุมสระว่ายน้ำ มีโต๊ะ ไว้ให้นั่งชิลๆ กินบรรยากาศ หรือไว้สำหรับจัดงานปาร์ตี้ริมสระ แบบส่วนตัว

point yamu villas by como

ฝั่งซ้ายมือของตัวบ้าน ส่วนของชั้นบนนี้ เป็นห้องนอนเล็ก เป็นเตียงแบบ Twin Bed

point yamu villas by como

ด้านปลายเตียงออกแบบให้เป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า โดยไม่มีบานประตู เป็นเพียงม่านกั้น

point yamu villas by como

ห้องน้ำในส่วนห้องนอนนี้ ตกแต่งด้วยกระเบื้องหินสีเทอร์ควอยซ์ ของตกแต่งทั้งหมด ได้ตามรูป

point yamu villas by como

กลับมาส่วนโต๊ะกินข้าว ด้านหลังจะเป็นครัวเปิดขนาดใหญ่ โดยออกแบบเคาน์เตอร์ครัวจากแบรนด์ Zara Home เตาเป็นระบบแก๊ส เครื่องดูดควัน เครื่องล้างจาน อุปกรณ์ทำอาหาร ทางโครงการให้หมด และหากสังเกตดีๆ จะมีห้องสำหรับแม่บ้าน อยู่ทางด้านมุมซ้ายมือ

point yamu villas by como

ตู้เย็นขนาดใหญ่ที่เห็นดังรูป ทางโครงการก็ให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย

point yamu villas by como

เดินออกจากห้องครัว จะมีบันไดลงไปชั้นล่าง

point yamu villas by como

ลงไปจะเจอส่วนของห้องนั่งเล่น มีระเบียงให้สามารถรับชมชายหาดแหลมยามู

point yamu villas by como

โดยมีการกั้นห้องแบ่งเป็นทางเดิน เข้าไปส่วนของห้อง Master Bedroom ซึ่งอยู่ด้านในถึงสองห้อง

point yamu villas by como

หน้าตาของห้อง Master Bedroom จะได้เตียงขนาด 6 ฟุต ดังรูป

point yamu villas by como

ส่วนของตู้เสื้อผ้า อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ

point yamu villas by como

ห้องน้ำ ตกแต่งด้วยกระเบื้องสีเทอร์ควอยซ์ โดยมีอ่างจากุชชี่อยู่ด้านหน้า และยังคงแบ่งโซนเปียกและแห้ง

point yamu villas by como

ห้องน้ำอีกห้อง ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องสีขาวสบายตา

point yamu villas by como

อ่างจากุชชี่ ติดตั้งไว้ด้านหน้าห้องอาบน้ำ

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ

ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยมที่ชาวต่างชาติทั่วโลกรู้จักกันดี และมักจะแวะเวียนมาเที่ยวเป็นประจำทุกปี ซึ่งจะมีบางกลุ่มเลือกปักหลักอยู่นาน โดยมักเป็นนักธุรกิจต่างชาติกระเป๋าหนักที่นิยมเลือกเช่าวิลล่า มากกว่าโรงแรมหรือรีสอร์ท เนื่องจากไม่สะดวกต่อการพักอาศัยเป็นครอบครัว อีกทั้งคนกลุ่มนี้มักเลือกสถานที่เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ดังนั้นช่องทางในการลงทุนปล่อยเช่าวิลล่าในภูเก็ตจึงค่อนข้างได้รับความนิยม โดยอัตราปล่อยเช่าวิลล่าหรู ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ บนทำเลดี รายล้อมวิวทิวทัศน์สวยงาม ใกล้สถาที่ท่องเที่ยวหมู่เกาะต่างๆ อย่างแหลมยามู เริ่มต้นที่ 20,000 บาท / คืน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

The Bay @ the Yamu
อีกหนึ่งโครงการบ้านพักตากอากาศ สไตล์วิลล่า โดยบริษัท แคมพ์เบลล์ เคน (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่บริเวณแหลมยามู หมู่ที่ 7 ต. ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ เป็นบ้านสไตล์วิลล่า 2 ชั้น จำนวน 15 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยประมาณ 250 – 500 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ ห้องแม่บ้าน จอดรถ 2 คัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ สระว่ายน้ำ สวน ฟิตเนส เป็นต้น

The Bay @ Yamu

ภาพ via yamubay.com

Baan Yamu
โครงการคอนโดมิเนียมสไตล์วิลล่า เน้นรองรับกลุ่มไฮเอนด์ โดยบริษัท ภูเก็ต พาร์ม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ตั้งอยู่บริเวณแหลมยามู หมู่ที่ 7 ต. ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พื้นที่โครงการประมาณ 2 ไร่ แบ่งออกเป็น 2-3 ห้องนอน และเพ้นท์เฮาส์ จำนวน 18 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยประมาณ 168 – 255 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ สระว่ายน้ำ คลับเฮาส์ ร้านอาหาร เป็นต้น

baan yamu
ภาพ via baanyamu.com

บทสรุป

โครงการนี้ ถือเป็นวิลล่า บ้านพักตากอากาศ ในระดับไฮเอนด์ ที่เน้นรองรับกลุ่มกำลังซื้อสูงทั้งชาวไทย และต่างชาติเป็นหลัก เนื่องจากราคาขายค่อนข้างสูงถึง 8 หลัก แต่ถ้าหากมองถึงจุดคุ้มทุน ถือว่าได้กำไรพอสมควร เนื่องจากที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดินราคาแพงอย่างแหลมยามู และจะมีแผนการพัฒนาในพื้นที่ซึ่งเป็นปัจจัยที่จะผลักดันให้มูลค่าของอสังหาฯ ในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นต่อไป ในขณะเดียวกันพื้นที่ดังกล่าวยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และมีจุดขายเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นทะเลอันดามันได้แบบ 360 องศา ยิ่งไปกว่านั้นบริเวณ พอยท์ ยามู วิลล่า บาย โคโม่ ยังอยู่บริเวณปลายแหลมพอดี จึงทำให้ได้ชมทิวทัศน์ของเกาะรังใหญ่ รังน้อย ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่หากมีกำลังทรัพย์เพียงพอและมองหาที่พักตากอากาศวันหยุดในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:แอมมิตี้ บางนา-เทพารักษ์ (Amity Bangna–Thepharak)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/106251/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2589-%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b2 www.ddproperty.com:news:106251 Mon, 31 Aug 2015 07:22:30 +0700

เมื่อเมืองขยายตัว เป็นแหล่งรวมนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แน่นอนว่าความต้องการที่อยู่อาศัยย่อมเกิดตามมา เช่นเดียวกับพื้นที่ปริมณฑลใกล้กรุงเทพฯ อย่างจังหวัดสมุทรปราการที่เชื่อมต่อกับย่านบางนา ซึ่งถือเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตและการขนส่ง มีแหล่งงานนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และโรงงานของบริษัทใหญ่ๆ มาตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลเชิงบวกให้อัตราความต้องการที่อยู่อาศัยมีเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้ราคาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ใน จ.สมุทรปราการรวมถึงแถบปริมณฑลอื่นๆ อ้างอิงจากฝ่ายวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่าไตรมาส 2 ปี 2558 ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการมีค่าดัชนีเท่ากับ 111.6 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557 เฉพาะดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ มีค่าดัชนีเท่ากับ 111.8 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557

ส่วนไตรมาส 2 ปี 2558 ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการมีค่าดัชนีเท่ากับ 113.1 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557 เฉพาะดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในนนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ มีค่าดัชนีเท่ากับ 112.7 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2557

จะเห็นได้ว่าราคาขายทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ขยับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่หยิบชิ้นปลามันมาเปิดตลาดในย่านนี้และผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ยึดหัวหาดในย่านนี้มานานสิบกว่าปีก็ยังเดินหน้าเปิดตัวโครงการกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่สร้างที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อพาร์ทเมนต์และเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์

ทั้งนี้ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ เปิดตัวโครงการอย่างต่อเนื่อง เช่นกลุ่ม กัลปพฤกษ์ กรุ๊ป ผู้พัฒนาโครงการแนวราบทั้งทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยว ที่ชื่ออาจไม่คุ้นหูคนกรุงสักเท่าไร แต่สำหรับคนต่างจังหวัดในโซนตะวันออกถือว่า ผู้ประกอบการท้องถิ่นรายนี้มีผลงานให้เห็นอยู่หลายจังหวัดทั้งชลบุรี ระยอง และโดยเฉพาะสมุทรปราการย่านบางพลี บางบ่อ ด้วยเหตุผลเพราะย่านนี้คนต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบทำเลดีๆ แต่ไม่มีใครตอบสนอง จึงเป็นช่องว่างให้เข้ามาพัฒนาโครงการในย่านนี้นั่นเอง ซึ่งล่าสุดเปิดตัวโครงการ “แอมมิตี้ บางนา-เทพารักษ์” (Amity Bangna – Thepharak) ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยวขึ้น บนถนนเทพารักษ์ กม.27

Amity Thepharak KM27

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2558)
ชื่อโครงการ: โครงการแอมมิตี้ บางนา – เทพารักษ์ (Amity Bangna-Thepharak)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท กัลปพฤกษ์ แอสเสท จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเทพารักษ์ กม. 27 อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 45 ไร่
รูปแบบ: ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จำนวน 210 ยูนิต, บ้านเดี่ยวใหญ่ 60 ยูนิตและบ้านแฝด (บ้านเดี่ยวเล็ก) 64 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: อายุเฉลี่ย 25 ปีขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเมื่อต้นปี 2557 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2559
สถานะการขาย: ยอดขายทาวน์เฮ้าส์ประมาณ 51 ยูนิต สร้างไปแล้วกว่า 80% และบ้านเดี่ยวยอดขายประมาณ10 ยูนิต(ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2558)
ค่าส่วนกลาง: 25 บาท / ตารางวา (จ่ายล่วงหน้า 3 ปี)
ระบบรักษาความปลอดภัย: 24 ชั่วโมง
ราคาเริ่มต้น: ทาวน์เฮ้าส์ เริ่มต้น 2.05 ล้านบาท,บ้านเดี่ยวเริ่มต้น 3.66 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2558)
เว็บไซต์: www.kgroup.co.th
โทร: 02 338 1333

รูปแบบบ้าน แบ่งเป็น
ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น 3 แบบ ได้แก่
1. Amity Aspire หน้ากว้าง 5 ม. ขนาดเริ่มต้น 18.70 ตร.ว. เศษ พื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถ 1 คัน ราคา 2.3 ล้านบาท (โซนด้านหน้าโครงการ)
2. Amity Inspire หน้ากว้าง 5 ม. ขนาดเริ่มต้น 18.70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 108 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถ 1 คัน ราคา 2.05 ล้านบาท (โซนด้านในโครงการ)
3. Amity Admire หน้ากว้าง 6 ม. ขนาดเริ่มต้น 22.50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถ 2 คัน ราคา 2.65 ล้านบาท

บ้านแฝด (บ้านเดี่ยวเล็ก) 2 แบบ ได้แก่

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

1. Aliya ขนาด 36.70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถ 2 คัน ราคา 3.66 ล้านบาท

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

2.Alisa ขนาด 36.70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 136 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถ 2 คัน ราคา 3.66 ล้านบาท
หมายเหตุ: ทั้ง 2 แบบต่างกันที่แปลนบ้าน( ดูจากหัวข้อ Layout)

บ้านเดี่ยว (ใหญ่) 1 แบบ คือ

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

Aileen ขนาด 50.70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 154 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก จอดรถ 2 คัน ราคา 4.4 ล้านบาท

 

 

 

Bangna-Trad Road
ถนนบางนาตราด มุ่งหน้าไปเทพารักษ์

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล บางนา – เทพารักษ์
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าทำเลบางนาครอบคลุมไปถึงจังหวัดสมุทรปราการย่านเทพารักษ์ ถือเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีการเติบโตทั้งทางด้านอุตสาหกรรมโรงงานขนาดใหญ่ และการท่องเที่ยว ทำให้หลายทำเลในจังหวัดนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยิ่งจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ยิ่งทำให้เกิดการลงทุน ก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น อย่างถนนเปร็งที่เชื่อมต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทราได้นั้น มีแผนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมใหม่ขึ้น มีบริษัทยักษ์ใหญ่หลายราย อาทิ ฤทธา, ช. การช่าง มาตั้งหลักปักฐานการผลิตที่นี่ เป็นต้น ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยเกิดการขยายตัวตามไปด้วย

Theparak Road

Theparak Road
ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการ

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
ทั้งนี้ที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นทำเลที่ดีแห่งหนึ่ง โครงการตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ค่อนมาทางอำเภอบางบ่อ ติดถนนหลัก ซึ่งใกล้กับแหล่งความเจริญหลายแห่ง อาทิ นิคมอุตสาหกรรมบางพลี, ตลาดบางบ่อ, มหาวิทยาลัยเอแบค บางนา เป็นต้น สามารถเชื่อมต่อกับถนนได้หลายสาย และเชื่อมต่อไปยังจังหวัดฉะเชิงเทราได้ ทั้งนี้โดยรอบโครงการเป็นร้านค้า และอพาร์ทเมนต์ หลังโครงการอยู่ติดท้ายคลองดูสงบเงียบ ไม่วุ่นวายพลุกพล่านมากนัก หากแต่ถนนบางจุดอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จึงเป็นอุปสรรคในการเดินทางบ้างโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน

Amity Thepharak KM27
แผนที่

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว: เข้าออกได้หลายเส้นทาง และเชื่อมต่อกับถนนหลายสาย อาทิ ถนนบางนาตราด, ถนนศรีนครินทร์, ถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง, ถนนเทพารักษ์, ถนนกิ่งแก้ว – บางพลี, ถนนรัตนราช, ถนนเปร็ง และยังเชื่อมต่อไปยัง จ. ฉะเชิงเทราได้

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

Bangna Road

 
เส้นทางจาก ทางด่วนบางนา – โครงการ

ทั้งนี้หากมาจากทางด่วน ลงด่านบางนา ให้วิ่งมาเรื่อยๆ ตามป้ายทางไปชลบุรี ซ้ายมือจะเป็นโรงงานของบริษัทชื่อดังต่างๆ อาทิ YAMAHA, S&P, วาโก้, TOA เป็นต้น จนเจอปั๊ม Shell ขับซ้ายมาอีกนิดก็เจอสะพานกลับรถ พอกลับรถให้วิ่งซ้ายผ่าน รพ.บางนา 2 มาจะเจอทางเลี้ยวเข้านิคมอุตสาหกรรมบางพลี ขับตรงมาเรื่อยๆ เจอวงเวียนให้เลี้ยวซ้าย ทางไปบางบ่อ ขับไปอีกราว 3-4 กม. เจอทางกลับรถ เข้าโครงการ

หากมาจากทางด่วนบูรพาวิถี ลงด่านบางบ่อ ให้ขับตรงมาผ่านทางเข้าเอแบค บางนา ขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆ ให้ขึ้นสะพานเกือกม้ากลับรถมาจะเจอปั๊ม ปตท. มาเรื่อยๆ เจอ ซอยทางเข้าบางบ่อ ให้ตัดเข้าถนนเทพารักษ์จะมีป้ายโครงการบอกตลอดทาง

2. มอเตอร์ไซด์รับจ้าง: เลี้ยวซ้ายจากโครงการ 100 ม. อยู่หน้า 7-11
3. รถสองแถว: เทพารักษ์ – บางนา, เทพารักษ์ – สุขุมวิท
4. รถเมล์: สาย 1285 บางบ่อ – คลองด่าน
5. รถตู้: สำโรง – บางบ่อ

สถานที่แนว Lifestyle
หากเป็นที่กินที่ช้อปทั่วไป ใกล้ๆ โครงการคือ ตลาดบางบ่อ ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากโครงการไปเพียง 2 นาที และตลาดนัดหน้าหมู่บ้านวโรชา แต่หากต้องการเดินห้างและนั่งชิลในร้านอาหาร คนส่วนใหญ่จะขับรถไปทางถนนบางนาตราดซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างยักษ์อย่างเมกาบางนาและอิเกีย, Homepro Village Market, บิ๊กซี, เทสโก้โลตัส, เซ็นทรัล บางนา รวมถึงเส้นศรีนครินทร์ ที่มีทั้งซีคอนสแควร์,พาราไดซ์ พาร์ค และตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ เป็นต้น

Ikea Bangna

Megabangna

Paradise Park

Tarad Rodfai Srinakarin
ตลาดรถไฟ ศรีนครินทร์ ภาพ via facebook.com/taradrodfi


รีวิวภาพรวมโครงการ

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27
ถนนทางเข้าด้านหน้าโครงการ ซ้ายมือเป็น Sale Office

Amity Thepharak KM27
พื้นที่ส่วนกลางเป็นสวนสาธารณะ

Amity Thepharak KM27
โซนบ้านเดี่ยวกำลังก่อสร้างและพื้นที่ว่างที่เป็นทราย เตรียมสร้างเป็นสระว่ายน้ำและฟิตเนส

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak_p37
โซนทาวน์เฮ้าส์ แล้วเสร็จแล้วกว่า 80%

ภาพรวมของโครงการถือว่ามีความโปร่ง โล่ง แบ่งกั้นพื้นที่เขตการก่อสร้างเป็นสัดส่วนดีโดยถนนด้านหน้าโครงการกว้าง 18 ม. ถัดเข้ามาเป็นทางเข้าโครงการ 12 ม. และในซอย 8 ม. ซึ่งแต่ละซอยมีบ้านประมาณ 12 ยูนิต /1 ซอยบรรยากาศร่มรื่น มีลมพัดผ่านเหมือนลมทะเล หากต้นไม้ที่ปลูกไว้เติบโตเต็มที่คาดว่าจะร่มรื่นมากขึ้น

ทั้งนี้ ณ วันรีวิว การก่อสร้างอาคารทาวน์เฮ้าส์คืบหน้าไปแล้วกว่า 80% มีผู้เข้าอยู่อาศัยแล้วบางส่วน ส่วนบ้านเดี่ยวเริ่มก่อสร้างแล้วคาดว่าจะเสร็จกลางปีหน้า ส่วนคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำซึ่งอยู่บริเวณกลางโครงการยังไม่ได้เริ่มก่อสร้าง

Concept: Life is about Harmony

Layout: สำหรับบ้านแบบทาวน์เฮ้าส์ทั้งหน้ากว้าง 5ม. และ 6 ม. ใช้การก่อสร้างแบบ Precast (พรีคาส) คอนกรีตโครงสร้างสำเร็จรูป ซึ่งข้อดีคือ ภายในบ้านดูเรียบร้อย ไม่มีเสาคานใหญ่ ทำให้บ้านดูโล่งและกว้างขึ้น ส่วนบ้านเดี่ยวยังคงใช้โครงสร้างแบบอิฐมวลเบา ซึ่งข้อดีคือสามารถทุบรื้อ ต่อเติมได้ง่าย รับน้ำหนักบ้านหลังใหญ่ๆ ได้ดี

ทั้งนี้ ทาวน์เฮ้าส์ หน้ากว้าง 5 ม. มี 2 แปลน ต่างกันที่การจัดวางแปลนห้องนอน คือ แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนอนที่ 2 จะเล็กกว่าแบบ 2 นอน 2 น้ำ เพื่อให้มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้น ซึ่งหากใครต้องการทำเป็นห้องพระ ห้องเก็บของหรือทำห้องนอนที่ 3 ก็สามารถทำได้

-ทาวน์เฮ้าส์ หน้ากว้าง 6 ม. เพิ่มพื้นที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขึ้น เป็นทาวน์เฮ้าส์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านเดี่ยว

-บ้านแฝด (บ้านเดี่ยวเล็ก) 2 แบบ ต่างกันที่แบบ Aliya จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบห้องน้ำใต้บันได ก็จะได้ห้องน้ำที่กว้างขึ้น ส่วนแบบ Alisa จะเหมาะกับคนที่อยากให้พื้นที่ครัวดูกว้างขึ้น ห้องน้ำก็จะอยู่ใต้บันไดนั่นเอง

-บ้านเดี่ยวใหญ่ เป็นแบบที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด สามารถจัดสรรเป็นพื้นที่ห้องนอน และพื้นที่เอนกประสงค์ได้มากและห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว

สิ่งที่จะได้รับ:
พื้น: ไม้ลามิเนต, กระเบื้องแกรนิตโต้
ผนัง: ทาสี ไม่มีวอลล์เปเปอร์
เฟอร์นิเจอร์: Index
สุขภัณฑ์: American Standard (ได้จริงตามบ้านตัวอย่าง )
บันไดและราวบันได: พื้นไม้ลามิเนต ราวเหล็ก (ได้จริงตามบ้านตัวอย่าง )

หมายเหตุ: ทุกยูนิตได้บ้านเปล่า พร้อมรายละเอียดข้างต้น

Amity Thepharak KM27
ภาพจำลองคลับเฮ้าส์

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: คลับเฮ้าส์ที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำและห้องเอนกประสงค์สำหรับจัดกิจกรรม, สวนสาธารณะ

การวางทิศทางบ้าน: วางผังบ้านตามทิศเหนือและทิศใต้ โดย
ทิศใต้: ได้วิวท้ายคลอง อยู่ด้านหลังโครงการ
ทิศเหนือ: ได้วิวถนนเทพารักษ์ เป็นที่โล่ง มีบ้านเรือน และอพาร์ทเมนต์ที่ไม่สูงบังตา

รีวิวภายในบ้าน (รายละเอียดแต่ละแบบดูจากหัวข้อ Layout ) เริ่มจาก

Amity Thepharak KM27

1.ทาวน์เฮ้าส์ หน้ากว้าง 5ม.

Amity Thepharak KM27
หน้าบ้านมีที่เก็บขยะให้เรียบร้อย

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27
ชั้นล่างเปิดโล่ง ตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีม ให้หน้าต่างและประตูกระจกบานใหญ่เพื่อให้บ้านดูกว้างขึ้น จัดไว้เป็นส่วนรับแขก, ห้องน้ำ, โต๊ะรับประทานอาหาร และครัวซึ่งเหมาะกับการหุง อุ่น ต้ม ไม่เหมาะกับครัวไทย

Amity Thepharak KM27
ด้านนอกเป็นที่โล่ง สามารถทำเป็นครัวไทยได้ และเป็นส่วนซักล้างได้ด้วย

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27
โถงชั้นบน จัดเป็นมุมทำงานและห้องพระได้

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak_p46

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27
ห้องนอนใหญ่ ทำให้ห้องกว้างขึ้นได้ด้วยการทำตู้เสื้อผ้าบิวท์อินติดผนัง พร้อมระเบียงที่มีประตูกระจกบานเลื่อนให้

Amity Thepharak KM27
ห้องนอนเล็ก

Amity Thepharak KM27
ห้องน้ำชั้นบน (ได้จริงตามภาพ)

Amity Thepharak KM27

2.ทาวน์เฮ้าส์ หน้ากว้าง 6ม.

Amity Thepharak KM27
ด้านข้างของบ้านจริง เป็นปูนฉาบเรียบ เราสามารถตกแต่งด้วยไม้ระแนงทำเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนได้

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak_p55

Amity Thepharak_p56

Amity Thepharak_p57
ภายในบ้านชั้นล่าง บ้านจริงเป็นบ้านเปล่า โล่งๆ ไม่ได้กั้นแบ่งพื้นที่ให้ แต่ในบ้านตัวอย่างใช้การกั้นแบ่งพื้นที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวยี่ห้อ Index และกั้นด้านหลังด้วยเคาน์เตอร์ครัว ส่วนห้องน้ำจะอยู่ด้านข้างครัว

Amity Thepharak KM27
หลังบ้านเป็นส่วนซักล้าง หรือจะทำเป็นครัวไทยก็ได้ (ได้จริงตามภาพ)

Amity Thepharak KM27
ห้องน้ำชั้นล่าง (ได้จริงตามภาพ)

Amity Thepharak KM27
บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนต (ได้จริงตามภาพ)

Amity Thepharak KM27
โถงชั้น 2 ทำเป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือได้

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27
ห้องนอน 2 และ3

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak_p66

Amity Thepharak_p67
ห้องนอนใหญ่ ดูโล่ง กว้าง ตกแต่งด้วยการเล่นระดับ ยกพื้นเตียงสูงกว่าปกติ สามารถนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือได้ แต่งผนังด้วยการซ่อนไฟไว้ใต้ฝ้าเพดาน และประหยัดพื้นที่ด้วยการทำตู้เสื้อผ้าบิวท์อินติดผนังสูงถึงเพดานเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บได้มากขึ้น พร้อมระเบียงขนาด 40 ซม. x 6 ม.

Amity Thepharak KM27
ห้องน้ำชั้น 2 (ได้จริงตามภาพ)

3. บ้านเดี่ยวใหญ่ 154 ตร.ม.

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27
ภายในบ้านชั้นล่าง โล่ง กว้าง ดูโอ่โถง ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ และฝังดาวน์ไลท์บนเพดานให้เรียบร้อย เข้าบ้านไปจะเจอห้องรับแขก โต๊ะรับประทานอาหาร ส่วนฝั่งขวาถัดจากบันไดเป็นส่วนของห้องครัว และห้องน้ำ

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak_p72
ด้านข้างภายนอกบ้าน มีถังเก็บน้ำ และปั๊มน้ำให้

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak KM27

Amity Thepharak_p75
ชั้นบน เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด

Amity Thepharak KM27
ห้องน้ำชั้นบน(ได้จริงตามภาพ)


เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

หากเป็นในโซนนี้ โครงการที่สามารถเปรียบเทียบได้และอยู่ระหว่างการพัฒนาเช่นกันมี 1 โครงการ ได้แก่

โครงการดิโอโซน เทพารักษ์ – บางบ่อ

The Ozone Thepharak
ตั้งอยูในซอย วโรชา – บางเพรียง เข้าไปในซอยประมาณ 1 กม.จากถนนเมนเทพารักษ์ พัฒนาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นทั้งหมด หน้ากว้าง 4 ม. และ 5.7 ม. จำนวน 184 ยูนิต ทางเข้าโครงการสองข้างทางยังเป็นทุ่งนาอยู่ และเป็นโครงการที่ไม่มีคลับเฮ้าส์ ราคาขายเริ่มต้น 1. 5 ล้านบาท

บทสรุป
โดยรวมถือว่าเป็นโครงการที่โดดเด่นเรื่องทำเล เพราะสามารถเดินทางเข้าออกไปได้หลายเส้นทาง เหมาะกับคนที่ต้องทำงาน และใช้ชีวิตอยู่ในย่านนี้เป็นประจำ ภายในโครงการและบ้านตัวอย่างเหมาะกับคนเริ่มมีครอบครัวใหม่ หรือต้องการย้ายเปลี่ยนบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้น แม้จะเป็นโครงการท้องถิ่นที่มีจำนวนยูนิตไม่มากนัก แต่มีพื้นที่ส่วนกลางทั้งคลับเฮ้าส์และสระว่ายน้ำให้ ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาและความเจริญในอนาคตถือว่าคุ้มค่า อีกอย่างถือว่าคู่แข่งยังมีไม่มากนัก

ทั้งนี้โครงการเป็นการขายเพื่อผู้อยู่อาศัยจริง จึงไม่เน้นเรื่องการเก็งกำไรเพื่อปล่อยเช่า แต่เมื่อเทียบราคาขายที่ดินในย่านนี้ก็ถือว่าเติบโตต่อเนื่อง

หากแต่เส้นทางการคมนาคมในย่านนี้ครอบคลุมไปถึงถนนบางนาตราด และจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นเส้นทางอุตสาหกรรม ซึ่งมีระบบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกอยู่ตลอดเวลา มีปริมาณรถที่หนาแน่น ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง และเผื่อเวลาให้ทันนัด

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:อาร์เด้น พัฒนาการ20(Arden Phatthanakan 20)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/106134/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%258c%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599-%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b1 www.ddproperty.com:news:106134 Fri, 28 Aug 2015 12:00:47 +0700

ดูเหมือนว่าธุรกิจที่อยู่อาศัยแนวราบประเภททาวน์โฮมจะมาแรงไม่แพ้ที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ด้วยเพราะครอบครัวใหม่มีเพิ่มมากขึ้น สมาชิกใหม่ในครอบครัวเกิดขึ้น จึงทำให้คนที่เคยอยู่คอนโดฯ หรืออพาร์ทเมนต์ต่างต้องการพื้นที่ที่กว้างขึ้น อีกทั้งรูปแบบของทาวน์โฮมในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยวตามไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หลายแบรนด์ชูจุดขายเรื่องงานดีไซน์ แนวคิดและรูปลักษณ์เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า ซึ่งก็ได้ผลเพราะหน้าตาของอาคาร สิ่งแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านที่ทันสมัย และใช้งานได้จริง ยิ่งเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์การสร้างเรื่องราวที่โดดเด่น มีอัตลักษณ์เป็นของตนเองอาจได้เม็ดเงินจากลูกค้าที่มีกำลังซื้ออยู่แล้วได้สบายๆ พอๆ กับเรื่องของทำเลเลยทีเดียว คือ ไม่เกี่ยงเรื่องราคานั่นเอง

ค่ายอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เน้นเรื่องการดีไซน์ มีแนวคิดคอนเซ็ปต์ และความเป็นตัวตนที่เด่นชัดมาโดยตลอด อย่างแบรนด์ “Arden” ซึ่งถือเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ของที่อยู่อาศัยประเภททาวน์โฮมก็เช่นกัน โดยล่าสุดได้ฟอร์มทีมเปิดตัวโครงการภายใต้แบรนด์ดังกล่าวในปี 2558 นี้ถึง 3ทำเล คือ ลาดพร้าว 71, พระราม 3 และพัฒนาการ 20 ซึ่งทั้งหมดเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย แต่ทำเลหลังสุดที่เราได้ไปรีวิวมานั้น เปิดขายก่อนสร้างเสร็จ เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้านั่นเอง

Arden Patthanakan
ภาพจำลองบรรยากาศโครงการ

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2558)
ชื่อโครงการ: อาร์เด้น พัฒนาการ20 (Arden Phatthanakan 20)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยพัฒนาการ 20 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 14-3-69.9 (ไร่-งาน- ตารางวา)
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น จำนวน 159 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้านหลังแรก อายุเฉลี่ย 25 ปีขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มสร้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน ธ.ค.ปี 2557 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนเม.ย. ปี 2560
ค่าส่วนกลาง: 100 บาท/ ตารางวา (จ่ายล่วงหน้า 2 ปี)
ระบบคีย์การ์ด: ระบบ Smart Pass Main Gate
ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV ออนไลน์
ราคาเริ่มต้น: 7.79 ล้านบาท /ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2558)
เว็บไซต์: www.ananda.co.th
โทร: 02 316 2222

Arden Patthanakanแปลนชั้น 1

Arden Patthanakanแปลนชั้นลอย

Arden Patthanakanแปลน ชั้น 2

Arden Patthanakanแปลนชั้น 3

รูปแบบบ้าน มี 1 แบบ คือ
1.ทาน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 ม. ลึก 16 ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 20 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 185 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พร้อมชั้นลอยยกระดับด้านหน้า ราคาเริ่มต้น 7.79 ล้านบาท

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลพัฒนาการ

Pattanakarn road

ทำเลถนนพัฒนาการ ครอบคลุมถึงศรีนครินทร์ และพระราม 9 นี้ ถือเป็นทำเลทองแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมในเรื่องการอยู่อาศัย สถานศึกษาและห้างสรรพสินค้า เพราะเมื่อมีการปรับผังเมืองใหม่ขยายพื้นที่ควบคุมการสร้างที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เปลี่ยนมาเป็นหนาแน่นปานกลาง โดยเพิ่มจาก 2,000 ตร.ม. เป็นไม่เกิน 10,000 ตร.ม. ถนนต้องกว้างเกิน 30 ม. และให้สิทธิพัฒนาได้เพิ่มในรัศมี 500 ม. จากแนวรถไฟฟ้า ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยดูคึกคักขึ้นเป็นเท่าตัว

ส่วนใหญ่ที่อยู่อาศัยในย่านนี้เป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม รองรับครอบครัวขยาย และเนื่องจากถนนพัฒนาการสามารถเชื่อมต่อกับถนนย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) อย่างสุขุมวิท ทองหล่อ เพชรบุรีและเอกมัยได้ จึงทำให้ถนนพัฒนาการคึกคักตามไปด้วย

Arden Pattanakarn

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ในซอยซึ่งเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ ห่างจากเส้นทางหลักถนนพัฒนาการประมาณ 1 กม.เศษ ซึ่งสามารถทะลุไปยังถนนสุขุมวิท 77 ได้ เป็นถนน 2 เลนรถสวนกันได้ ชุมชนในซอยส่วนใหญ่ดูพลุกพล่าน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือน อพาร์ทเมนต์ และร้านค้าในอาคารพาณิชย์ ผู้คนส่วนใหญ่สัญจรด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

ทั้งนี้พื้นที่โครงการตั้งอยู่ติดกับคอมมูนิตี้มอลล์ พาร์ค พลาซ่า ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารพาณิชย์ แต่ส่วนพักอาศัยสร้างอยู่ด้านในจึงถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่หลบหนีจากความวุ่นวายภายนอกได้ชนิดที่เรียกว่า อยู่คนละโลกก็ว่าได้

Arden Pattanakarn Map
แผนที่

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว: สามารถเข้าออกได้หลายทาง โครงการห่างจากทางด่วนพัฒนาการประมาณ 1.5 กม. และทะลุไปยังซอยสุขุมวิท 77, ถนนศรีนครินทร์ได้ รวมถึงเชื่อมต่อกับซอยทองหล่อ, เอกมัย, สุขุมวิท, เพชรบุรีและพระราม 9ได้ด้วย เช่น หากมาทางถนนอ่อนนุชให้เข้า ซอยอ่อนนุช 17 ขับมาเรื่อยๆ ก็จะเจอโครงการอยู่ทางซ้ายมือ หรือหากมาจากทางถนนเพชรบุรี, ถนนพระราม 9 หรือ ถนนรามคำแหง ให้ขับผ่านแยกคลองตันมุ่งหน้าเข้าถนนพัฒนาการ จากนั้นขับไปถึงซอยพัฒนาการ 25 (สน.คลองตัน) ให้กลับรถใต้อุโมงค์ แล้วเลี้ยวขวาเพื่อไปซอยพัฒนาการ 20 เข้าซอยไปเรื่อยๆ ก็จะเจอโครงการอยู่ทางขวามือ

Pattanakarn Road

Pattanakarn Road

Pattanakarn Road

Pattanakarn Road

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

ทั้งนี้เราเดินทางจากทางด่วน ลงด่วนพัฒนาการเข้าถนนพัฒนาการ ให้วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอทางรถไฟ ข้ามมาจะมีป้ายบอกทางว่า ถนนพัฒนาการ (แยกคลองตัน) ให้เลี้ยวขวา ขับตรงมาเรื่อยๆ ซ้ายมือจะเจอบริษัททรู ขับมาอีกเจอซอยพัฒนาการ 20 ปากซอยเป็นที่ตั้งธนาคารกสิกรไทย เข้าซอยตามทางมาเรื่อยๆ โครงการจะอยู่ทางขวามือ

2. มอเตอร์ไซค์รับจ้าง: ในซอยมีถึง 3 จุดด้วยกัน
3. รถไฟฟ้า: โครงการห่างจาก BTS สถานีอ่อนนุชประมาณ 5 กม. ,BTS สถานีทองหล่อประมาณ 3 กม. และแอร์พอร์ตลิงค์ สถานีรามคำแหงประมาณ 2.2 กม.

Park Plaza Pattanakarn
พาร์ค พลาซ่า ติดกับด้านขวามือของโครงการ

London Street Pattanakarn
London Street พัฒนาการ ภาพ via facebook.com/LondonStreetPattanakarn

สถานที่แนว Lifestyle
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์ใกล้สุดคือ พาร์ค พลาซ่าที่อยู่ติดกับโครงการทางด้านขวามือ มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และ MaxValu 24 ชม. ส่วนบนถนนพัฒนาการก็มี London Street คอมมูนิตี้มอลล์ ฟู้ดมอลล์ ที่จำลองบรรยากาศถนนในลอนดอนมาไว้ที่นี่ หากเป็นร้านของกินขึ้นชื่อ ห้ามพลาดกับร้านเย็นตาโฟฟ้าผ่าตรงซอยพัฒนาการ 1 รวมทั้งร้านฉั่วคิมเฮงที่ขึ้นชื่อในเรื่องห่านพะโล้รสอร่อยที่เปิดมานานถึง 4 ชั่วคน พิกัดอยู่ตรงข้ามกับซอยพัฒนาการ 6 หรือเดินทางไปในโซนกลางเมืองอย่างเอกมัย, ทองหล่อ, ชิดลม หรือสยามสแควร์

นอกจากนี้ถ้ามาทางถนนศรีนครินทร์ก็จะมีห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ ซีคอนสแควร์, พาราไดซ์ พาร์ค เป็นต้น หรือไม่อย่างนั้นก็เลยไปถนนบางนาตราดซึ่งก็มีห้างเซ็นทรัล พลาซา บางนา, อิเกีย และเมกาบางนา เป็นต้น

chua kim heng klongton
ฉั่วคิมเฮง ร้านอาหารจีนที่ขึ้นชื่อระดับตำนานเรื่องห่านพะโล้ ตั้งอยู่ริมถนน ตรงข้ามซอยพัฒนาการ 6  ภาพ via maechoice.com

รีวิวภาพรวมโครงการ

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
บริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ และพื้นที่ว่างอีกหนึ่งแปลงด้านซ้ายมือ

Arden Pattanakarn
ส่วนงานก่อสร้าง ภายในที่มีรถเคนตั้งอยู่ คือ พื้นที่ของคลับเฮ้าส์ซึ่งวันที่ไปรีวิวยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคาร ยังไม่ได้สร้างคลับเฮ้าส์ ถนนหลักของโครงการกว้าง 12 ม. ถนนในโครงการกว้าง 9 ม. ที่ดินด้านหน้าเป็นที่ดินเปล่าที่ในอนาคตอาจขึ้นโครงการแต่ยังไม่สรุปว่าเป็นที่อยู่อาศัยประเภทใด โดยรวมถนนเข้าโครงการดูร่มรื่น โล่งกว้าง มีการปลูกต้นสนฉัตรเป็นระยะๆ ซุ้มประตูทางเข้าดูอลังการ และสวยงาม ด้านในโครงการซึ่งก่อสร้างอยู่แบ่งกั้นพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนดี

Arden Pattanakarn
ภาพจำลองบรรยากาศคลับเฮ้าส์

Arden Pattanakarn
ภายใน Sale Office ก็จำลองบรรยากาศให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโครงการ

Concept: แนวคิดโครงการ Urban Home ภายใต้แบรนด์ “Arden” (Art +Eden) มีจุดเริ่มต้นมาจากแรงบันดาลใจของสวน Eden บนสรวงสวรรค์ อันร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ผสมผสานกับ Art มิติทางศิลปะซึ่งส่งเสริม และเพิ่มสุนทรียภาพในการอยู่อาศัย

ลูกบ้านจะสัมผัสได้ถึงพื้นที่สีเขียวที่กระจายอยู่โดยรอบบริเวณโครงการ ซึ่งเน้นการปลูกต้นไม้ประเภทยืนต้น (ต้นสนฉัตร) เพื่อที่จะได้เติบโตและให้ความร่มรื่นกับโครงการในระยะยาว บริเวณทางเข้าโครงการถูกออกแบบเป็นทางยาว ขนาบด้วยแนวต้นไม้สีเขียว เสมือนอุโมงค์ที่พาข้ามผ่านความเร่งรีบและวุ่นวายของชีวิตในเมือง เข้าสู่พื้นที่ในโครงการที่มีความสงบร่มเย็น สร้างความประทับใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยตั้งแต่ก้าวแรก

Layout: มีการจัดวางผังโครงการตั้งแต่ทางเข้าให้เป็นเสมือนอุโมงค์ มีทิศเหนือ-ใต้ ให้ทุกทิศทางได้รับโดยเริ่มตั้งแต่ภายนอกตัวอาคาร ที่เน้นรูปทรงสี่เหลี่ยม จบมุมทรงแหลม (Taper Façade) ให้เกิดเป็นรูปทรงเรียบง่ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะลักษณะ (Time less Iconic Form) มีการใช้โทนสีเทาและสีไม้ตัดกัน เพิ่มความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติและยังขับสีเขียวของต้นไม้อีกด้วย ทางโครงการกำหนดให้ระบบวิศวกรรมไฟฟ้าโครงการทั้งหมดลงใต้ดิน เพื่อทัศนียภาพที่ปลอดโปร่ง ปราศจากเสาไฟ และสายไฟรกสายตา

สิ่งที่จะได้รับ:
พื้น: กระเบื้องแกรนิตโต้
สุขภัณฑ์: Cotto
บันไดและราวบันได
ประตูกระจกบานเลื่อน
ปลั๊กไฟ

หมายเหตุ: โปรโมชั่นส่วนลด 200,000 บาท และของแถมพิเศษช่วง Persale เท่านั้น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง , วอลล์เปเปอร์,ฉากกั้นอาบน้ำ, ปั้มน้ำพร้อมถังเก็บน้ำ,จัดสวนหลงบ้าน, เครื่องทำน้ำร้อนสำหรับห้อง Master Bedroom และชุดครัวยี่ห้อ Novart พร้อม Hood เตาไฟฟ้ายี่ห้อ MEX (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2558)

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สระว่ายน้ำ, สระเด็ก (ระบบเกลือ), ห้องออกกำลังกาย, ลู่วิ่งจักรยาน, สวน, สนามเด็กเล่น, ห้องสมุด, โซเชียลคลับและห้องประชุม

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
ตัวอย่างวิวรอบโครงการฝั่งทิศใต้ เป็นบ้านเรือน และสวน

การวางทิศทางบ้าน: วางผังบ้านตามทิศเหนือและทิศใต้ หน้าบ้านหันออกไปถนนโครงการ
ทิศเหนือ: วิวคลับเฮ้าส์
ทิศใต้: วิวแปลงปลูกผัก
ทิศตะวันออก: วิวคลองตัน
ทิศตะวันตก: วิวด้านหน้าโครงการ

รีวิวภายในบ้าน

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
รูปแบบภายนอกของบ้านมาตรฐาน และบ้านที่ตกแต่งเหมือนกัน

บ้านตัวอย่างมีทั้งบ้านมาตรฐาน และบ้านที่ตกแต่งให้ดูไอเดียเป็นบ้านแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 5 เมตร มีชั้นลอยยกระดับด้านหน้าบ้าน โดยบ้านมาตรฐานเป็นบ้านโล่ง มีวัสดุมาตรฐานให้ เช่น ประตู หน้าต่าง พื้น ผนัง บันได ปลั๊กไฟและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

เริ่มจากการรีวิว บ้านมาตรฐาน ทางเข้าบ้าน (ได้จริงตามภาพ ) เป็นพื้นที่จอดรถ 2 คัน ด้านหลังเป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของ ด้านขวาเป็นบันไดทางเข้าบ้านที่ยกระดับขึ้นเพื่อบดบังแสงสว่างจากรถยนต์ที่จอดหน้าบ้าน หรือเพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมา ติดไฟดาวน์ไลท์ส่องสว่าง และสวิตซ์เปิด-ปิดไว้ข้างผนังให้เรียบร้อย รวมถึงมีก๊อกน้ำไว้สำหรับซักล้าง หรือต่อสายยางรดน้ำต้นไม้หรือล้างรถไว้ให้เรียบร้อย

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
พื้นที่หลังบ้านขนาด 2×3.3 ม. สามารถจัดเป็นสวนหย่อมนั่งเล่นได้ (บริการจัดสวนอยู่ในโปรโมชั่น ของจริงเป็นพื้นที่โล่ง)

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
ชั้นลอย มีโครงเหล็กกั้นแบ่งพื้นที่ให้ บันได และราวบันไดขึ้นชั้น2 ได้จริงตามภาพ

ชั้น 1 มี Double Volume ความสูงจากพื้นถึงเพดานประมาณ 4.7 ม. เพื่อความโปร่ง โล่ง สบาย พื้นที่ในบ้านเล่นระดับเพื่อความเป็นส่วนตัว และแบ่งสัดส่วนให้ชัดเจนแต่ยังสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ โดยชั้นล่างเปิดโล่ง กั้นแบ่งส่วนครัว ห้องน้ำ และระเบียงหลังบ้าน รวมถึงในส่วนของชั้นลอยที่ยกระดับด้านหน้ามีขนาด 3×4.85ม. ก็เปิดโล่งเช่นกัน

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
บริเวณห้องทำงานซึ่งปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
บริเวณห้องนอน และประตูบันไดขึ้นไปชั้น 3

ชั้น2 บ้านเปล่า จากบันไดทางขึ้นซ้ายมือเป็นห้องอเนกประสงค์ขนาด 3.45×2.75 ม. สามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานได้ มีห้องน้ำในตัว ส่วนขวามือเป็นห้องนอนกลางขนาด 4.85×2.75 ม. มีระเบียงขนาด 3×0.8 ม. และห้องน้ำในตัว ทั้งนี้บันไดทางขึ้นบริเวณชั้น 2 ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวคือ กั้นแยกบริเวณบันไดวนขึ้นชั้น 3 กับส่วนของห้องนอนชั้น 2 ไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัว

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarnห้องนอน penthouse

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
พื้นที่ Semi outdoor

ชั้น 3 บ้านเปล่าขนาด 4.75×3.45 ม. ถือเป็นจุดเด่นคือ ห้อง Master Bedroom ที่เป็นแบบ Penthouse ทั้งชั้น มีห้องน้ำในตัวโดยมี Semi outdoor ขนาด 2.75×1.3 ม. ด้านนอกเพื่อให้นั่งเล่นชิลๆ ได้

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
ชั้นล่าง

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
ชั้นลอย

บ้านที่ตกแต่งนั้นเน้นการตกแต่งแบบ Borderless เป็นการใช้ Space ที่มีให้แตกต่าง ออกแบบให้เกิดการ contrast อย่างลงตัวด้วยโทนสีที่มาจากธรรมชาติ อาทิเช่น สีเทา หรือสีเอิร์ธโทนเพื่อให้ดูเท่ และเรียบ นิ่ง

ชั้น 1 แบ่งเป็นมุมรับประทานอาหารที่ติดกับห้องครัวแบบบิวท์อิน โดยมีห้องน้ำอยู่ติดกับห้องครัว และกั้นแบ่งระเบียงด้านนอกซึ่งจัดสวนหย่อมไว้เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน ทั้งนี้ภายในบ้านเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดกระจก เพื่อช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่งขึ้น

นอกจากนี้บริเวณชั้นลอยที่จัดไว้เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน ใช้พื้นที่ของผนังอย่างคุ้มค่าด้วยชั้นวางของแบบบิวท์อินติดผนัง วางกระถางต้นไม้ขนาดเล็กไว้เพิ่มบรรยากาศให้บ้านดูเขียวสดใส รับกับคอนเซ็ปต์ของโครงการ

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn
บรรยากาศห้องทำงาน

Arden Pattanakarn
กระจกระหว่างทางเดินขึ้นลงบันได

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn_p95
ชั้น2 ขึ้นบันไดมาฝั่งซ้ายมือตกแต่งไว้เป็นห้องทำงานที่มีห้องน้ำในตัว และผนังระหว่างช่องทางเดินห้องทำงานไปห้องนอนเพิ่มลูกเล่น และใช้ประโยชน์จากการติดกระจกเงาที่ผนัง ทำให้สามารถมองเห็นได้ว่ามีใครกำลังเดินขึ้นเดินลงบันไดบ้าง

ส่วนห้องนอนตกแต่งด้วยโทนสีที่เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโครงการคือมีสีเทา ดำ มีระเบียงกว้าง ตู้เสื้อผ้าเปิดโล่งโชว์ของ แต่ในความเป็นจริงถ้าเปิดโล่งอาจมีฝุ่นจับติดเสื้อผ้าได้ อาจใช้เป็นประตูกระจกใสบานเลื่อนได้ ถัดกั้นเป็นโต๊ะแต่งตัว และห้องน้ำในตัว

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

Arden Pattanakarn

ชั้น 3 เป็นห้อง Penthouse ที่ตกแต่งด้วยโทนสี ขาว ดำ เทา และครีม เน้นความโปร่ง โล่ง จัดมุมแต่งตัวและตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน โชว์ของเหมือนห้องนอนชั้น 2 ไว้ใกล้กับห้องน้ำซึ่งห้องน้ำให้พื้นที่กว้างเลยทีเดียว ส่วนเตียงนอนเชื่อมต่อกับ Semi out door คือเวลานอนเปิดม่านปลายเตียงก็สามารถมองเห็นด้านนอกได้แบบชิลล์ ๆ

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
หากจะเทียบกับโครงการที่พอจะสูสีกับโครงการอาร์เดน พัฒนาการได้ ในทำเลพัฒนาการเช่นกันก็คงเป็นโนเบิล คิวบ์ ของค่ายโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ แต่ปัจจุบันโครงการดังกล่าวปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่หากเลยมาในโซนใกล้เคียงอย่างซอยอ่อนนุชก็จะมี

อารียา แมนดารีนา สุขุมวิท 77

Areeya Mandarina Sukhumvit 77

ทาวน์โฮม 4 ชั้นติดถนนใหญ่ในซอยสุขุมวิท 77 ของค่ายอารียา พร็อพเพอร์ตี้ พัฒนาเป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่มี 4 ห้องนอนใหญ่ 5 ห้องน้ำ และห้องรับแขกขนาดใหญ่ พื้นที่จอดรถ 2-4 พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 6 ล้านต้นๆ

ส่วนโครงการในเส้นพัฒนาการหากเป็นทาวน์โฮม/ ทาวน์เฮ้าส์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3-5 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่

บทสรุป
โครงการนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องของคอนเซ็ปต์ ดีไซน์ และแนวคิดโครงการที่มีรายละเอียดมาก การออกแบบมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนซึ่งจุดนี้ถือว่า เรียกแรงจูงใจจากลูกค้าได้ดีไม่แพ้เรื่องของทำเลที่เข้าออกได้หลายเส้นทางคือ หากหลุดจากถนนในเมือง อย่างสุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย เพชรบุรีหรือจากถนนศรีนครินทร์มา ก็จะคลายเรื่องปัญหารถติดไปได้บ้าง เพราะถนนพัฒนาการยังไม่ติดหนักเท่าเส้นทางที่กล่าวมา

อย่างไรก็ตามภายในซอยที่ตั้งของโครงการเป็นแหล่งชุมชนเก่าแก่ เป็นถนน 2 เลน รถสวนกันได้ แต่อาจต้องระมัดระวังในการขับขี่เนื่องจากมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างมากถึง 3 จุดทำให้พลุกพล่านสักหน่อย

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:พราว แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 23(Proud3)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/105756/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a7-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1 www.ddproperty.com:news:105756 Thu, 27 Aug 2015 00:00:12 +0700

แม้ว่าบางช่วงจังหวะเวลาตลาดที่อยู่อาศัยในย่านแจ้งวัฒนะจะชะลอตัวลงไปบ้าง แต่เมื่อถึงจังหวะที่ใช่ก็กลับพลิกฟื้นและเติบโตขึ้นได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน ในย่านนี้เรียกว่าเงียบเหงาและมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่มาก แต่เมื่อเริ่มมีข่าวการย้ายสถานที่ตั้งของหน่วยงานราชการหลายแห่งมาไว้ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ก็ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายตาลุกวาวและเร่งสร้างโครงการที่อยู่อาศัยขึ้น แต่ก็กลับผิดคาดเพราะคนยังไม่ตอบรับเท่าที่ควรบวกกับสภาวะทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ตลาดเลยซบเซาไปช่วงหนึ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อมีแผนการปรับผังเมืองบวกกับแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) เกิดขึ้นก็ทำให้ความคึกคักเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม ทั้งนี้หากอ้างอิงข้อมูลจากบริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่เปิดเผยการสำรวจตลาดคอนโดฯ ในย่านนี้ ณ เดือน มิถุนายน 2558 ว่า ในช่วงปี 2553-2554 มีโครงการเปิดขายมาก ส่งผลให้ปี 2555 มีคอนโดสร้างเสร็จมากกว่า 4,500 ยูนิต จากนั้นก็ทยอยลดลง

ในปี 2555 เริ่มมีหน่วยงานบางส่วนย้ายมาที่ศูนย์ราชการและเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2556 ทำให้คอนโดฯ เปิดขายเพิ่มขึ้นเป็น 4,957 ยูนิต แต่ตลาดก็ซบเซาลง และกลับมาคึกคักในปี 2557 ซึ่งปัจจัยบวกอย่างที่กล่าวไปคือ การปรับผังเมืองใหม่ และแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั่นเอง

ทั้งนี้สำหรับราคาขายห้องชุดต่อตารางเมตรในย่านนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว หากติดถนนหลักจะอยู่ที่ประมาณ100,000 บาท/ ตร.ม.ขึ้นไป และในซอยประมาณ 50,000 -100,000 บาท/ ตร.ม. ปัจจุบันหากโครงการที่อยู่ติดถนนหลักราคาขยับเป็น 200,000 บาท/ ตร.ม. และในซอยขยับเป็น 80,000 บาท/ ตร.ม. ซึ่งคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าราคาจะขยับขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปัจจุบันผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่ตบเท้าเดินหน้าผุดโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดรายเก่าอย่างบริษัท ไตร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ผุดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ แบรนด์ “Proud” ขึ้นเป็นแห่งที่ 3 ภายใต้ชื่อ “พราว แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 23” (Proud3) หลังจากที่เปิดตัวโครงการ พราวออฟแจ้งวัฒนะ ไปเมื่อปี 2552 และโครงการ พราวเอ็กซ์ทู ไปเมื่อปี 2553

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: พราวแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 23 (Proud3)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ไตร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 23
เว็บไซต์: www.triproperty.co.th
โทร: 02 789 9978

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 1-89-40 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 170 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ อายุประมาณ 25 ปีขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารเดือน ต.ค. 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2559
ระบบคีย์การ์ด: One Card Access (แบบใช้บัตร 1 ใบได้ทั้งระบบ) เป็นระบบปลอดภัย 3 ชั้น คือ ใช้ผ่านเข้าออกโครงการและประตูทางเข้า Lobby, ระบบลิฟท์ระบุชั้นและแตะผ่านประตูห้องแบบดิจิตอล (Digital Door Lock)
ลิฟท์ใช้งาน: จำนวน 2 ตัว
สถานะการขาย: ยอดขาย 30% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 38 บาท / ตารางเมตร/ เดือน (จ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 1.39 ล้านบาท/ ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
ราคาเฉลี่ย: 60,000 บาท/ ตารางเมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)

รูปแบบห้อง มี 6 แบบ คือ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
1.แบบ Studio Groove 23-25 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท

Proud3

2.แบบ One-bed Soul 26 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท

Proud3

3.แบบ One-bed chill 31 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท

Proud3

4.แบบ One-bed Solo 34 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 1.75 ล้านบาท

Proud3

5. แบบ Duplex Swing 42 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.21 ล้านบาท

 

6. แบบ Two-bed Duo แบบ 2 ห้องนอน 54 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท

Proud3

หมายเหตุ: แบบห้องที่มีหลากหลายถึง 6 แบบนั้นเพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกัน และแต่ละแบบออกแบบให้มีลูกเล่น มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่ามากที่สุด (ดูรายละเอียดจากรีวิวห้องตัวอย่าง)

Chaeng Wattana Road

Chaeng Wattana Roadถนนแจ้งวัฒนะ

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลแจ้งวัฒนะ
ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่าปัจจุบันทำเลแจ้งวัฒนะถือว่ามีความคึกคักขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเพราะอานิสงส์ของการปรับผังเมืองใหม่และแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ทั้งนี้ข้อมูลอ้างอิงจากฝ่ายวิจัยของบริษัท ไตร พร็อพเพอร์ตี้ ได้วิเคราะห์ทำเลแจ้งวัฒนะว่ามีศักยภาพมาก เพราะเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ที่มีทั้งศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะและห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ รวมถึงมีโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ยิ่งทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม บวกกับคนที่ต้องทำงานในย่านนี้ทุกวัน แต่บ้านอยู่ไกล ย่อมต้องการที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน แล้วค่อยกลับบ้านในวันหยุด อีกทั้งสนามบินดอนเมืองก็กลับมาคึกคัก มีเที่ยวบินมากขึ้น ก็ส่งผลดีต่อย่านนี้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้มีข้อมูลการสำรวจทำเลแจ้งวัฒนะซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 โซนหลักๆ คือ โซนที่ 1 หลักสี่ (ถนนวิภาวดีรังสิต) -ศูนย์ราชการ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานราชการ ตามแนวถนนในช่วงนี้จึงไม่มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย

โซนที่ 2 แจ้งวัฒนะ 14 – ทางด่วนศรีรัช หรือโซนเมืองทองธานี ส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านเก่า จึงเป็นตลาดของบ้านมือสอง

โซนที่ 3 ทางด่วนศรีรัช – ห้าแยกปากเกร็ด หรือโซนเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ถือเป็นโซนที่เรียกว่า Hilight Spot คือเป็นโซนที่ดีที่สุดในย่านนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผังเมืองสีแดงที่เอื้ออำนวยให้พัฒนาโครงการได้หลากหลาย จึงทำให้มีศูนย์การค้าและโครงการเชิงพาณิชย์เกิดมากขึ้นนั่นเอง

Proud 3 Sales office

Proud 3 Sales office
สำนักงานขายพร้อมห้องตัวอย่าง (อนาคตคาดว่าจะทำเป็นพื้นที่ร้านกาแฟหรือร้านอาหาร)

Proud 3 site
พื้นที่ก่อสร้างโครงการ อยู่ด้านหลัง สำนักงานขาย ปัจจุบันเป็นที่จอดรถของร้าน ส.กุ้งเผา

Soi Chaengwattana_Pakkred23

Soi Chaengwattana_Pakkred23

Soi Chaengwattana_Pakkred23
บรรยากาศในซอยแจ้งวัฒนะ –ปากเกร็ด 23 โดยรอบโครงการ

Soi Chaengwattana_Pakkred23
ท้ายซอย 23 สามารถทะลุเข้าออก ซอย 21 และซอย 19 ซึ่งมีโครงการเก่า พราว ออฟ แจ้งวัฒนะ กับพราวเอ็กซ์ทูตั้งอยู่

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 23 ห่างจากถนนหลักประมาณ 250 ม. ในซอยถือว่าเงียบสงบ ไม่พลุกพล่านมากนัก ฝั่งตรงข้ามโครงการยังเป็นพื้นที่โล่งอยู่ และข้างโครงการเป็นโรงกลึง และอพาร์ทเมนต์ ท้ายซอยสามารถทะลุไปซอย 21 และ19 ได้ โดยเป็นซอยที่ตั้งโครงการเก่าคือ พราวออฟแจ้งวัฒนะ และพราวเอ็กซ์ทู

ทั้งนี้โดยรวมก็ถือว่าโครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เจริญ เดินทางสะดวก ใกล้ห้างสรรพสินค้า และร้านค้ามากมาย โดยจากโครงการห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู(ในอนาคต) 350 ม. ห่างจากทางด่วน 1 กม. และห่างจากสนามบินดอนเมืองประมาณ 8 กม. ซึ่งเหมาะแก่การซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และเพื่อการลงทุนในอนาคต

Proud 3 map
แผนที่

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road
เส้นทางจากฝั่งห้าแยกปากเกร็ดถึงโครงการ

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road
เส้นทางจากฝั่งหลักสี่ถึงโครงการ

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว: เดินทางเข้าออกได้หลายเส้นทาง สามารถเชื่อมไป จ.นนทบุรีได้ และยังตัดไปถนนติวานนท์, ถนนพหลโยธิน, ถนนเลียบคลองประปา และถนนวิภาวดีรังสิต เป็นต้น

ทั้งนี้หากตั้งต้นมาจากห้าแยกปากเกร็ดให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ถึงถนนแจ้งวัฒนะ วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านร้านอาหาร Yes Indeed ฝั่งตรงข้ามเป็นเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ วิ่งตรงมาอีกนิด โครงการจะอยู่ซ้ายมือ

หากมาจากทางหลักสี่มุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ด ลงสะพานมาจะเจอห้างแมคโครซ้ายมือ ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ แล้วเบี่ยงขวาดูป้ายที่เขียนว่า ปากเกร็ดให้ขึ้นสะพาน พอลงสะพานเจอเซ็นทรัลฯ ให้วิ่งตรงเรื่อยๆ แล้วเบี่ยงขวาเพื่อกลับรถ ฝั่งตรงข้ามตรงโชว์รูม Mini กลับรถเสร็จให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านร้าน Yes Indeed เช่นเดียวกับทางข้อ 1ก็จะเจอซอยเข้าโครงการ

2. รถไฟฟ้า: รถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย –มีนบุรี) ในอนาคต โครงการอยู่ห่างจากสถานี 350 ม.
3. รถเมล์: สาย 51 ,52,166,356 เป็นต้น
4. มอเตอร์ไซค์รับจ้าง: ผ่านหน้าปากซอยทั้งแจ้งวัฒนะ -ปากเกร็ด 23, 21 และ 19
5. แท็กซี่: ผ่านถนนหลักและเข้ามาในซอย
6. รถตู้: มีนบุรี- ปากเกร็ด ,อนุสาวรีย์ – ปากเกร็ด, สวนจตุจักร-ปากเกร็ดและ ม.ราม1 –ปากเกร็ด เป็นต้น

CentralPlaza Chaengwattana

CentralPlaza Chaengwattana
ห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

Chaengwattana
บริเวณปากซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 19 มีเต็นท์ขายอาหารหลายร้าน

Chaengwattana
ถัดเข้าไปในแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 19 เป็นตลาดนัดขายของกินของใช้มากมายทีเดียว

สถานที่แนว Lifestyle
ย่านนี้ถือว่ามีแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าอยู่มากพอสมควร หลักๆ คือห้างเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ , The Avenue แจ้งวัฒนะ, Big C, Tesco Lotus และร้านอาหาร Yes Indeed ที่นั่งชิลได้เพลินๆ ในช่วงค่ำๆ หรือจะไปช้อปเพลินๆ ที่ตลาดนัดในซอย 19 หรือตึกจัสมิน ช่วงกลางวันของวันทำการได้

The Avenue Chaengwattana
The Avenue แจ้งวัฒนะ ภาพ via facebook.com/Avenue.Chaengwattana

Waft Me Pakkret
ร้าน Waft Me Pakkret ใกล้ๆ กับ Health Land แจ้งวัฒนะ เยื้องกับเซ็นทรัล เเจ้งวัฒนะ ภาพ via facebook.com/waftme

Yes Indeed Chaengwattana
Yes Indeed Chaengwattana ร้านอาหารและบาร์ริมถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้า ก่อนถึงเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ภาพ via facebook.com/YesIndeedChaengwattana

นอกจากนี้ หากขยับไปทางห้าแยกปากเกร็ดก็มีร้านให้นั่งชิล เช่น ร้านเล็กๆ แต่อาหารอร่อยชื่อร้าน “ท่าน้ำ” อยู่ข้างเมเจอร์ ปากเกร็ด, หากเป็นอาหารรสแซ่บก็แวะได้ที่ร้านไก่ตะกร้า เลยห้าแยกปากเกร็ดขึ้นมาทางเส้นแจ้งวัฒนะนิดเดียว (ก่อนถึง Big C แจ้งวัฒนะ) หรือไม่ก็ขยับไปทางหลักสี่ วิภาวดีฯ หรือเส้นลาดพร้าวก็ได้เช่นกัน แต่ต้องเผื่อเวลา ฝ่าด่านรถติดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนด้วยเพราะเส้นทางที่กล่าวมานั้น รถติดมากไม่แพ้กัน

Proud3

รีวิวภาพรวมโครงการ
Concept: Live at your own place ใช้ชีวิตอิสระได้ทุกนิยาม

Layout: อาคารจำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น 170 ยูนิต ก่อสร้างแบบอิฐมวลเบา ออกแบบให้แต่ละชั้นสามารถรับแสงในองศาที่ต่างกัน เกิดเป็นแสงและเงาที่ต่างกันไปในแต่ละช่วงวัน ซึ่งทุกครั้งที่มองจะให้ความรู้สึกใหม่ไม่ซ้ำเดิม โดยมีบริษัท พรีณ สตูดิโอ จำกัด (Preen Studio) เป็นผู้ออกแบบอาคาร และบริษัท LWD ออกแบบตกแต่งภายใน

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3
Lobby ชั้น 1 และ2

ทั้งนี้ชั้นใต้ดินคือ ที่จอดรถ, ชั้น1 เป็น Lobby ตกแต่งในสไตล์ “ Modern Loft Lobby ” ที่เป็น Double Space (2 ชั้น) โดยเชื่อมพื้นที่ชั้นบน (Another Place = พื้นที่อิสระที่สามารถทำกิจกรรมส่วนตัวหรือเป็นกลุ่มได้) ให้เป็นส่วนเดียวกันกับชั้นล่าง รวมถึงระเบียงที่เปิดรับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

Proud3

Proud3

Proud3
ผังชั้น 2 -8

ส่วนชั้นที่ 2 เป็นส่วนของห้องพักอาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวก (Energy Zone) คือ สามารถเลือกออกกำลังกายได้ในฟิตเนสหรือผ่อนคลายกับ Water Therapy ในสระว่ายน้ำ ที่เป็นสระเกลือยาว 34 ม. แบ่งเป็นสระเด็กยาว 9 ม.และสระผู้ใหญ่ยาว 25 ม.

ชั้น 3 -8 คือส่วนของห้องพักอาศัยทั้งหมด ทั้งนี้แต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องพักแตกต่างกัน โดยจำนวนยูนิต มากสุดคือ 26 ยูนิตต่อชั้น

Proud3
ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้รับจากทางโครงการ

Proud3
ตัวอย่างประตูห้องพัก แบบ Digital Door Lock

สิ่งที่จะได้รับ: ตามมาตรฐานของโครงการ
พื้น: ไม้สำเร็จรูปลามิเนต
ผนัง: อิฐมวลเบา ฉาบเรียบ
พื้นจรดเพดาน: สูง 2.50 เมตร
บันได: ไม้จริง
เฟอร์นิเจอร์ : ทางโครงการออกแบบเอง และสั่งทำจาก Index เป็นแบบ (Fully Furnished) เช่น โต๊ะ, ตู้, เตียง, เก้าอี้, ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ เป็นต้น
เครื่องปรับอากาศ: ยี่ห้อ Panasonic ขนาดตั้งแต่ 9,000-18,000 BTU ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง
สุขภัณฑ์: ยี่ห้อ Mogen และของตกแต่งยี่ห้อ American Standard
ชุดครัว: อาทิ เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์, ซิ้งค์ล้างจาน, Hood, ชั้นวางของ เป็นต้น

หมายเหตุ: โปรโมชั่น ห้อง Studio และ One bedroom จอง 10,000 บาท, Duplex และ Two bedroom จอง 20,000 บาท

Studio ทำสัญญา 45,000 บาท, One-bedroom 26 ตร.ม. ทำสัญญา 55,000 บาทและขนาด 34 ตร.ม. ทำสัญญา 65,000 บาท, Duplex และ Two-bedroom ทำสัญญา 95,000 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)

การวางทิศทางห้อง: แต่ละห้องได้วิว ดังนี้
1. ทิศเหนือ ได้วิว ด้านหน้าโครงการ บริเวณ Sale Office
2. ทิศใต้ ได้วิว พื้นที่ก่อสร้าง( ณ ปัจจุบัน)
3. ทิศตะวันออก ได้วิว ฝั่งตรงข้ามโครงการ เป็นพื้นที่โล่ง
4. ทิศตะวันตก ได้วิว สระว่ายน้ำ

Proud3

Proud3
ภาพจำลองสระว่ายน้ำ และฟิตเนสบริเวณชั้น 2

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ:
Lobby บริเวณชั้น 1 แบบ Double Space (2 ชั้น) รวมถึงห้อง Laundry, พื้นที่ Energy Zone บริเวณชั้น2 ที่มีฟิตเนส, Water Therapy ที่จะช่วยบำบัดและคลายความเมื่อยล้า พร้อมมุมนั่งเล่นบริเวณสระว่ายน้ำ และนั่งชิลในสวนแบบ Semi Outdoor ด้านข้าง พร้อม Wifi ให้ฟรี
ที่จอดรถ: 31% (รวมซ้อนคัน)

รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างมี 3 แบบ เริ่มจาก

Proud3

แบบห้อง One-bed Solo 34 ตารางเมตร
ไฮไลท์คือ เพิ่มความเป็นส่วนตัวทั้งสเปซและรายละเอียดชีวิต ออกแบบเคาน์เตอร์ครัวเป็น 2 ฝั่ง ชุดครัวลอยตัวพร้อมชั้นวางของด้านล่าง Multipurpose-Kitchen Island สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งาน เพิ่มพื้นที่เก็บของรวมกับตู้เก็บรองเท้าที่ออกแบบมาให้เป็นตู้โชว์เท่ห์ๆ

Proud3

Proud3
ภาพรวมภายในห้อง

Proud3

Proud3
ผนังด้านข้างทำแบ่งเป็นล็อคๆ สำหรับเก็บของไว้ให้ เว้นพื้นที่ว่างด้านล่างสามารถเก็บ Slipper ( รองเท้าแตะที่สวมใส่ในบ้าน) ได้ และตู้เก็บรองเท้าสามารถปรับระดับได้

Proud3
ครัวลอยตัวแบ่งเป็น 2 ฝั่ง พร้อมชั้นวาง ด้านล่างสามารถเก็บ Slipper ได้

Proud3

Proud3
เคาน์เตอร์ครัว Top เป็นหินสังเคราะห์ พร้อมลิ้นชักเก็บช้อนส้อม ใช้การเปิด-ปิดแบบ Soft Close และส่วนพื้นครัวเป็นกระเบื้อง (ได้จริงตามภาพ)

Proud3

Proud3
ผนังข้างเตาเป็นกระเบื้องเพื่อง่ายต่อการทำความสะอาด พร้อม Hood ดูดควัน (ได้จริงตามภาพ)

Proud3

Proud3
โต๊ะรับประทานอาหารแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถปรับพับขึ้นต่อจากเคาน์เตอร์ครัวและพับเก็บได้ จะให้เป็นแบบเดี่ยวหรือแบบคู่ก็ได้ เพียงเลื่อนพับขึ้นลงและยึดด้วยแกนขาเหล็กสีดำตรงกลาง ขนาดยาว 1.80 ม. พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว (ได้จริงตามภาพ)

Proud3

Proud3

Proud3
มุมรับแขกและนั่งเล่น มีโซฟาแบบ 3 ที่นั่งแบบยกได้ พร้อมโต๊ะข้างและที่เก็บของใต้โซฟา พร้อมตู้วางทีวีและชั้นวางของ

Proud3

Proud3
เตียงนอนขนาด 5 ฟุต มีลิ้นชักเก็บของให้ด้วย และตำแหน่งของเตียงก็สามารถเดินได้รอบเตียง เพื่อง่ายต่อการทำความสะอาดและปูผ้าปูที่นอน

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3
เซ็ตโต๊ะแต่งตัวพร้อมกระจกและเก้าอี้สตูลที่เก็บของใต้เบาะได้ อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าที่สูงจากพื้นจรดเพดาน ดีไซน์ฟังก์ชั่นพิเศษชั้นวางของข้างตู้ให้ใช้งานได้มากขึ้น ด้านในแบ่งเป็นชั้นแขวนและเก็บของไว้ให้ ที่สำคัญตำแหน่งไฟที่ติดไว้สามารถส่องสว่างทั่วถึงในมุมนี้

Proud3

Proud3

Proud3
ห้องน้ำได้จริงตามภาพ แบ่งส่วนแห้ง เปียกไว้ด้วยธรณีประตูสูง 10 ซม.เรียบร้อยแล้ว เครื่องทำน้ำอุ่นสามารถติดตั้งได้เลยบริเวณที่ว่างด้านบนข้างกับฝักบัว

แบบห้อง Duplex Swing 42 ตารางเมตร ที่มีเพียง 6 ยูนิต
ห้อง 2 ชั้นแบบ Double Space สอดรับกับการใช้ชีวิตจริง มี 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3
ภาพรวมภายในห้องตัวอย่าง

Proud3

Proud3
ตู้รองเท้าแขวนลอยจากพื้น เพิ่มพื้นที่ด้านข้างสำหรับวางหรือโชว์ของ และทำที่แขวนกุญแจไว้ พร้อมที่ว่างด้านล่างไว้เก็บของได้เช่นกัน

Proud3

Proud3

Proud3
เคาน์เตอร์ครัวยาวติดผนัง (ดูได้จาภาพรวมด้านบน) พร้อมพื้นที่วางเครื่องซักผ้าและชั้นวางของ (ได้จริงตามภาพยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า)

Proud3

Proud3
ห้องน้ำชั้นล่างไม่มีที่อาบน้ำ (ได้จริงตามภาพ)

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3
มุมนั่งเล่นและรับแขก จัดโต๊ะกลางแบบมัลติฟังก์ชั่นปรับระดับได้

Proud3

Proud3
ใช้พื้นที่ว่างใต้บันไดเป็นมุมทำงาน ด้วยโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ (ได้จริงตามภาพ )

Proud3
พื้นที่ว่างข้างบันได ออกแบบให้เป็นที่เก็บของ จะเปิดโล่งหรือทำประตูกั้นก็ได้ แต่ของจริงไม่ได้ทำที่กั้นไว้ให้จะเปิดโล่งและฉาบผนังเรียบเท่านั้น

Proud3

Proud3
ทางขึ้นชั้น2 ผนังติดกระจกบริเวณห้องนอนชั้นบน สามารถมองเห็นชั้นล่างได้ทั่ว ส่วนบันไดของจริงเป็นไม้จริง แต่ที่เห็นทางโครงการทาสีไว้

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3
เตียงและที่นอนขนาด 5 ฟุต พร้อมลิ้นชักเก็บของใต้เตียง, โต๊ะหัวเตียงพร้อมที่เก็บของ ตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นวางของด้านข้าง และเซ็ตโต๊ะแต่งตัวกระจกและเก้าอี้สตูลเช่นเดียวกับแบบ 1 ห้องนอน

Proud3

Proud3

Proud3
ห้องน้ำชั้นบนมีที่อาบน้ำ (ได้จริงตามภาพ)

แบบห้อง Studio Groove 23 -25 ตร.ม.

Proud3

เป็นห้องที่ใช้การดีไซน์เฟอร์นิเจอร์แบบพิเศษ แบ่งพื้นที่พักผ่อนกับส่วนครัวให้เป็นสัดส่วนด้วยบานสไลด์แบบเลื่อน เก็บได้ (แบบ 3 ตอน)

Proud3
ภาพรวมภายในห้องตัวอย่าง

Proud3

Proud3

Proud3
ครัวลอยตัวพร้อมชั้นวาง ด้านล่างสามารถเก็บ Slipper ได้ พร้อมบานประตูสไลด์ แบบ3 ตอน แยกส่วนครัวกับพื้นที่พักผ่อนไว้อย่างเป็นสัดส่วน และป้องกันกลิ่นรบกวนอีกด้วย

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3

Proud3
ภายในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าด้วยตู้วางทีวีพร้อมชั้นวาง, โซฟา 2 ที่นั่งเก็บของได้พร้อมโต๊ะข้างสามารถใช้เป็นโต๊ะหัวเตียงไปในตัว พร้อมโต๊ะกลาง, เตียงและที่นอน 5 ฟุต ที่มีลิ้นชักเก็บของด้านล่างและตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นวางของด้านข้างรวมถึง เซ็ตโต๊ะแต่งตัวเช่นเดียวกับ 2 ห้องข้างต้น

Proud3

Proud3
ฝั่งตรงข้ามโต๊ะแต่งตัวเป็นประตูเปิดปิดไประเบียงด้านนอก ที่เป็นส่วนซักล้างได้

Proud3
ห้องน้ำได้จริงตามภาพ

Proud3

Proud3
ระเบียงของห้องตัวอย่างทั้ง 3 แบบ ถ่ายจากด้านนอกสำนักงานขาย

Proud3

Proud3
บรรยากาศภายในสำนักงานขาย ที่จำลองมาจาก Lobby

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
อัตราค่าเช่ารายเดือน
-ห้อง Studio ขนาดเริ่มต้น 23 ตร.ม. ราคา 1.39 ล้านบาท ราคาค่าเช่า 6,500 –7,000 บาท/ เดือน
-ห้อง One-bedroom ขนาดเริ่มต้น 26 ตร.ม. ราคา 1.75 ล้านบาท ราคาเช่า 15,000 บาท/ เดือน
-ห้อง Duplex ขนาดเริ่มต้น 42 ตร.ม. ราคา 2.72 ล้านบาท ราคาเช่า 20,000 บาท/ เดือน
-ห้อง Two-bedroom ขนาดเริ่มต้น 54 ตร.ม. ราคา 3.19 ล้านบาท ราคาเช่า 22,000 บาท/ เดือน
ทั้งนี้อัตราค่าเช่าของห้องแต่ละแบบจะมากกว่าราคาขายเกิน 5%

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Hallmark Chaengwattana

1.โครงการฮอล์มาร์ค แจ้งวัฒนะ (Hallmark Cheangwattana) ของ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บนถนน แจ้งวัฒนะ ซ.แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 17 บนเนื้อที่รวม 3-1-75 ไร่ สูง 8 ชั้น2 อาคาร จำนวน 427 ยูนิต ขนาดเริ่มต้น 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

Supalai City Resort Chaeng Wattana

2. ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท แจ้งวัฒนะ ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) บนเนื้อที่ประมาณ 5–0–17.1 ไร่ สูง 24 ชั้น (รวมดาดฟ้า) 1 อาคาร จำนวน 752 ยูนิต / ร้านค้า จำนวน 6 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาทเศษ

บทสรุป
โครงการนี้ถือว่ามีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งเรื่องของทำเลที่ตั้งที่สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง และในอนาคตยังมีแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูด้วย รวมถึงมีแหล่งงานราชการหลายแห่งมารวมไว้ในย่านนี้

ที่สำคัญตัวโครงการและห้องพักอาศัยได้รับการออกแบบให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งพื้นที่การจัดเก็บ และการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในห้องให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะตัดสินใจซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนในระยะยาว เพราะปัจจุบันราคาขายห้องชุดต่อ ตร.ม. ติดถนนราคาขยับเป็น 200,000 บาท/ ตร.ม. และในซอยขยับเป็น 80,000 บาท/ ตร.ม. ซึ่งคาดว่าอีก 5 ข้างหน้าราคาจะพุ่งขึ้นอีกแน่นอน

แต่อย่างไรก็ตามถนนแจ้งวัฒนะถือว่ามีการจราจรที่หนาแน่นและติดขัดมากในชั่วโมงเร่งด่วน จึงต้องเผื่อเวลาการเดินทาง ซึ่งอนาคตหากรถไฟฟ้าแล้วเสร็จคาดว่าคนจะหันมาใช้บริการรถไฟฟ้ามากขึ้น ทั้งนี้ ถนนหลักมีความจอแจ และพลุกพล่าน แต่หากเทียบกับในซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 23 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการ ห่างจากถนนหลัก 250 ม. ถือว่าไม่วุ่นวายมากนัก

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: โกลเด้น ทาวน์ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา (Golden Town Suksawat – Phuttha bucha)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/105451/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%2599-%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25b2 www.ddproperty.com:news:105451 Tue, 25 Aug 2015 23:00:47 +0700 รีวิวโครงการ: โกลเด้น ทาวน์ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา (Golden Town Suksawat – Phuttha bucha)
รีวิวโครงการ: โกลเด้น ทาวน์ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา (Golden Town Suksawat – Phuttha bucha)

หลังจากที่แตกบริษัทออกมาเพื่อโฟกัสการพัฒนาโครงการในแนวราบอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว  บริษัท โกลเด้น แลนด์ เรสซิเด้นซ์ จํากัด ในเครือบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันอย่างคุ้นหูในนามโกลเด้นแลนด์ ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการแตกแบรนด์บ้านจัดสรรออกเป็น 3 แบรนด์ย่อย ประกอบด้วย “โกลเด้น วิลเลจ” สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดขนาด 2-3 ชั้น  เจาะกลุ่มครอบครัวขนาดกลางรวมถึงครอบครัวขยายที่มองหาบ้านหลังที่ 2 ราคาเริ่มต้นที่ 3.5-10 ล้านบาท, “โกลเด้น ทาวน์” สำหรับการพัฒนาโครงการทาวน์โฮมขนาด 2-3 ชั้น เจาะกลุ่มวัยทำงานตอนต้น-กลาง ซึ่งเป็นวัยเริ่มต้นมีครอบครัว ราคาเริ่มต้นที่ 1.9-5 ล้านบาท และ “โกลเด้น อเวนิว” ที่เป็นการผสมของ 2 แบรนด์แรก คือจะมีทั้งทาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวภายในโครงการเดียวกัน

ในวันนี้เราจะมารีวิวเจาะกับโครงการภายใต้แบรนด์ “โกลเด้น ทาวน์” ในทำเลที่ได้รับความนิยมในการอยู่อาศัยมากแห่งหนึ่งอย่างย่านสุขสวัสดิ์-พุทธบูชา กับจุดเด่นของโครงการ ที่พยายามเปลี่ยนความคุ้นเคยเดิมๆ จากที่เราเคยสัมผัสกับทาวน์โฮม 2 ชั้นส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบ 2-3 ห้องนอนเท่านั้น แต่ทาวน์โฮม ของโครงการภายใต้แบรนด์ “โกลเด้นทาวน์” นั้นมีสูงสุดถึง 4 ห้องนอน  อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องของโถงเพดานห้องที่ค่อนข้างสูง แตกต่างจากซีรี่ส์ของทาวน์โฮม 2 ชั้นโดยทั่วๆ ไป และมีฟังก์ชั่นเสริมขึ้นมาคือ ในเรื่องของชั้นลอยที่มีความสูงถึง 4 เมตรให้ความรู้สึกโปร่งสบายเหมือนกับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ ทั้งๆ ที่เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นเท่านั้นเอง

โดยโครงการภายใต้แบรนด์ “โกลเด้นทาวน์” ที่เปิดขายไปแล้วก่อนหน้านี้จะมีทำเลวัชรพล – สุขาภิบาล 5 แต่โครงการที่ทำให้โกลเด้นทาวน์เป็นที่รู้จักคือทำเล ปิ่นเกล้า – จรัญสนิทวงศ์ และที่กำลังเปิดขายอยู่ในตอนนี้คือทำเลบริเวณงามวงศ์วาน – ประชาชื่น และที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ ได้แก่ โกลเด้น ทาวน์ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา ที่มียอดขายไปแล้วกว่า 80% และยังเป็นที่สนใจอยู่อย่างต่อเนื่อง  โดยในวันนี้เราจะมารีวิวโครงการนี้กันแบบเจาะลึกเพื่อให้รู้ว่าทำไมโครงการนี้ถึงเป็นที่น่าสนใจ

Goden-Area-1

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2558)

ชื่อโครงการ: โกลเด้น ทาวน์ สุขสวัสดิ์ – พุทธบูชา (Golden Town Suksawat – Phuttha bucha)

ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท โกลเด้น แลนด์ เรสซิเด้นซ์ จํากัด

ทำเลที่ตั้ง : ซอยสุขสวัสดิ์ 30 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

Goden-plan-3รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 16-0-76.7 ไร่

รูปแบบ: ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต

เจาะกลุ่มเป้าหมาย: คนในพื้นที่, คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้านที่เดินทางเข้าใจกลางเมืองได้สะดวก

สถานะการก่อสร้าง: สร้างเสร็จเรียบร้อย

สถานะการขาย: ยอดขาย 80 % ของจำนวนยูนิตทั้งหมด

ค่าส่วนกลาง: 35 บาท/ ตารางวา

ระบบรักษาความปลอดภัย : รปภ. 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV

ส่วนกลาง: สวนส่วนกลาง , สนามเด็กเล่น

ราคาเริ่มต้น: 2.69 – 4.5 ล้านบาท /ยูนิต

เว็บไซต์:www.goldenlandresidence.co.th

โทร: 096-240-5155

พิกัดโครงการ : 13.667226 , 100.495048

หมายเหตุ : ที่ดินแปลงหัวมุม / ติดสวน ราคาที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 72,000 บาท

รูปแบบบ้าน มี 2 แบบ คือ

  1.  Amethyst (อเมทิสต์) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร เนื้อที่ 18.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 101 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน รวม 51 ยูนิตAmethystแพลนห้องแบบ 1 ที่จอด
  2. Turquoise Plus (เทอร์ควอยซ์ พลัส) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 6 เมตร เนื้อที่ 21.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน รวม 95 ยูนิต Turquoise Plus Turquoise Plusแพลนห้องแบบ 2 ที่จอดรถวิเคราะห์ศักยภาพทำเลอย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นว่าความเจริญที่เกิดขึ้น ทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการคมนาคมที่ขยายตัวออกมายังบริเวณรอบนอก ทำให้พื้นที่ใหม่ๆ บริเวณใกล้ทางด่วนเส้นต่างๆ ที่สามารถมุ่งเข้าสู่ใจกลางเมืองได้เป็นที่สนใจและถูกจับจองเป็นจำนวนมากทำให้ราคาที่ดินในบริเวณเหล่านี้ถีบตัวสูงขึ้นจากเดิมหลายเท่าตัวอีกทั้งสิ่งที่ทำให้ทำเลบริเวณนี้มีความน่าสนใจนั่นก็คือการอยู่ใกล้กับทำเลอย่างสาทร สีลม และใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนหลายสายทำเลที่ตั้งของโครงการสามารถเชื่อมได้ถึง 4 เส้นทาง คือ สุขสวัสดิ์, พุทธบูชา, ประชาอุทิศ, พระราม 2 ซึ่งถือเป็นทำเลรอบนอกที่มีความครบเครื่องทีเดียวแค่ออกจากบริเวณหน้าโครงการมุ่งหน้าตรงไปประมาณ 1-2 กิโลเมตรก็จะเจอ 4 แยก เลี้ยวซ้ายสามารถวิ่งไปตามทางเส้นพระราม 2 ได้เลย เลี้ยวขาวก็จะไปเส้นประชาอุทิศ ตรงไปไม่กี่กิโลเมตรก็จะเจอทางด่วน ซึ่งคนแถวนี้เรียกว่าทางด่วนกิโล 9 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะเข้าสู่กลางเมืองที่คนในพื้นที่จะใช้กันอยู่ประจำหรือจะข้ามสะพานภูมิพล 1 และ 2 ก็สามารถข้ามไปได้ทั้งเส้นพระราม 3 สาทร โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสียค่าทางด่วน ทำให้ทำเลฝั่งธนอย่างเส้นสุขสวัสดิ์, พุทธบูชา, ประชาอุทิศ, พระราม 2 เป็นอีกหนึ่งทำเลที่คาดว่าจะมีการพัฒนาแบบบก้าวกระโดดอย่างแน่นนอนสังเกตได้จากจำนวนโครงการต่างๆ ที่ผลุดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด แล้วลองคิดดูสิว่าถ้าหากเรานำจำนวนยูนิตของโครงการเหล่านี้มารวมกันคูณสาม ซึ่งเป็นจำนวนห้องต่อหลังในบ้านทาวน์โฮมแบบมาตรฐานทั่วไป ก็จะได้จำนวนคนหลายพันคนทีเดียวที่จะมาอยู่อาศัยในพื้นที่นี้ ทำให้บริเวณนี้สามารถเป็นเขตเศรษฐกิจย่อมๆ ที่หนึ่งเลยก็ว่าได้  ประกอบกับในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะเป็นความจริงจะทำให้ให้บริเวณนี้กลายเป็นฮับแห่งการอยู่อาศัยย่อมๆ ของกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
    GOLDEN1440409671785ทำเลของโครงการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการแต่เดิมที่ดินบริเวณนี้เป็นป่าจาก และพื้นที่สวนของคนในพื้นที่ ซึ่งยังสามารถเห็นความเป็นธรรมชาติอยู่อย่างครบถ้วน สังเกตุได้จากตลอดสองข้างทางของทางเข้าโครงการ  และเนื่องจากพื้นที่ดินเดิมยังคงเป็นธรรมชาติไม่เคยถูกเปลี่ยนแปลงทำให้ถมดินเพิ่มไม่ถึงเมตรที่ดินก็แน่นไม่เกิดการทรุดตัวแน่นอนทางโครงการถึงกับออกตัวโชว์ในจุดนี้ตัวโครงการเข้ามาจากบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 30 ลึกพอสมควร จากการลงพื้นที่สอบถามคนในย่านดังกล่าวบอกว่าที่ตั้งของโครงการนี้ตั้งอยู่ช่วงกลางซอย ซึ่งเป็นบริเวณที่ถูกพัฒนาใหม่สามารถเข้าออก และเดินทางได้คล่องตัวกว่าช่วงต้นซอยที่เป็นถนนทางวันเวย์ที่ตัดผ่านชุมชนเดิมที่มีความหนาแน่พอสมควรทำให้พื้นที่บริเวณช่วงกลางซอยตั้งแต่ซอยสุขสวัสดิ์ 26 กับ 30 กลายเป็นอีกหนึ่งทำเลทางที่บรรดาดีเวลลอปเปอร์ให้ความสนใจ สังเกตุได้จากป้ายโฆษณาของโครงการต่างๆ ที่มีให้เห็นอยู่ตลอดเส้นทางกว่า 80 % ของผู้ซื้อโฮมทาวน์ของโครงการเป็นคนในพื้นที่ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ประกอบกับบริเวณโดยรอบยังคงมีความเป็นธรรมชาติทำให้เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง แต่ต้องบอกว่าคนที่อยู่ย่านนี้น่าจะมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะถ้าต้องใช้บริการรถสาธารณะอาจจะต้องเดินทางหลายต่อ และการเข้าซอยคงต้องพึ่งบริการจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือแท็กซี่
    แบบแปลนโครงการ

    แบบแปลนโครงการ

    หน้าทางเข้าโครงการ

    หน้าทางเข้าโครงการ

    ป้ายหน้าโครงการ

    ป้ายหน้าโครงการ

    เลี้ยวซ้ายด้านหน้าโครงการ สามารถออกไปเส้นพุทธบูชา

    เลี้ยวซ้ายด้านหน้าโครงการ สามารถออกไปเส้นพุทธบูชา

    เลี้ยวขาวด้านหน้าโครงการ สามารถออกไปหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์

    เลี้ยวขาวด้านหน้าโครงการ สามารถออกไปหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์

    สี่แยกห่างจากที่ตั้งโครงการ 1 กม.

    สี่แยกห่างจากที่ตั้งโครงการ 1 กม.

    ถ้าหากมาจากทางหน้าปากซอยตรงผ่านโครการจะไปเส้น "พุทธบูชา"

    ถ้าหากมาจากทางหน้าปากซอยตรงผ่านโครการจะไปเส้น “พุทธบูชา”

    บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 30

    บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 30

    ถนนสุขสวัสดิ์เส้นขาเข้า

    ถนนสุขสวัสดิ์เส้นขาเข้า

    เส้นทางไปพระประเเดง

    เส้นทางไปพระประเเดง

    เป็นเส้นทางเดียวกันกับไปสะพานภูมิพล 1-2

    เป็นเส้นทางเดียวกันกับไปสะพานภูมิพล 1-2

    การเดินทาง

    1. รถยนต์ส่วนตัว: สามารถเข้าออกได้ถึง 4 เส้นทาง คือ สุขสวัสดิ์, พุทธบูชา, ประชาอุทิศ, พระราม 2 เชื่อมต่อกับสะพานภูมิพล 1 – 2 สามารถไปได้ทั้ง สาทร และสีลม ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนเฉลิมหานคร (สุขสวัสดิ์)  ประมาณ 5 กิโลเมตi
    2. มอเตอร์ไซค์รับจ้าง: หน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 30
    3. รถเมล์: สาย 140, 141, 20, 82 และรถเมล์สายที่วิ่งผ่านถนนสุขสวัสดิ์อีกมากมาย
    4. รถตู้: จากปากซอยสุขสวัสดิ์ 30 ไปท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ และ ท่าน้ำดินแดง
    5. เรือ: ท่าเรือโดยสารที่ท่าน้ำดินแดง ข้ามฝั่งไปท่าน้ำราชวงศ์
    6. บีทีเอส: ลงสถานี BTS วงเวียนใหญ่

    สถานที่แนว Lifestyle
    เนื่องจากพื้นที่ของโครงการนั้นอยู่บริเวณรอยต่อของกรุงเทพมหานครกับจังหวัดสมุทรปราการทำให้พื้นที่ไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจส่วนใหญ่อยู่ที่สมุทรปราการ  ถือเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ ของการพักผ่อนให้กับคนเมืองได้มากทีเดียว1389533507-00JPG-oภาพ : f.ptcdn.info

    ป้อมพระจุลจอมเกล้า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2436 และได้ใช้เป็นที่มั่นในการรบกับเรือรบฝรั่งเศสในวิกฤติการณ์ ร.ศ.112 และยังเป็นจุดชมวิวที่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลมาบรรจบกับอ่าวไทย 1374660793-O2180220-oภาพ : f.ptcdn.info

    สถานตากอากาศบางปู เป็นสถานที่พักผ่อนที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน มีทั้งร้านอาหารริมทะเลให้ได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติ และที่พักไว้คอยบริการนักเที่ยว รวมทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียวimg_0292copyภาพ : upic.me

    ตลาดบางน้ำผึ้ง ตลาดเก่าวิถีชีวิตริมน้ำของคนสมุทรปราการเชื้อสายมอญ ซึ่งไม่ต้องข้ามเมืองไปไกลถึงอัมพวาหรือเกาะเกร็ด ที่นี่ก็มีความสวยงามดั้งเดิมไม่แพ้กันเลยทีเดียว6e509460-5c33-c26a-31c4-528c8e2b4483ภาพ : thetrippacker.com

    ฟาร์มจระเข้ สมุทรปราการ ถือได้ว่าไปอีกหนึ่งไฮไลท์ของจังหวัดเลยที่เดียวถึงขนาดมีชื่ออยู่ในคำขวัญประจำจังหวัดขนาดนี้ถ้าไม่แวะมาเที่ยวสักครั้งก็เหมือนไม่ได้เป็นคนแถวนี้place5-MajorHollywoodภาพ : checkraka.com

    แต่ถ้าคุณยังคงติดกับความสบายแบบเดิมๆ ก็ยังมีโรงหนัง Major Hollywood สุขสวัสดิ์ อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 4 กม. เท่านั้นเอง

    รีวิวภาพรวมโครงการ 

    ป้อมยาม และระบบรับษาความปลอดภัย 24  ชม. และกล้อง CCTV

    ป้อมยาม และระบบรับษาความปลอดภัย 24 ชม. และกล้อง CCTV

    ระบบรับษาความปลอดภัย 24  ชม. และกล้อง CCTV ด้านหน้าทางเข้า

    ระบบรับษาความปลอดภัย 24 ชม. และกล้อง CCTV ด้านหน้าทางเข้า

    ด้านทางเข้าสนามเด็กเล่น

    ด้านทางเข้าสนามเด็กเล่น

    สนามเด็กเล่น และพื้นที่สวนส่วนกลางรอบโครงการ

    สนามเด็กเล่น และพื้นที่สวนส่วนกลางรอบโครงการ

    ถนนภายในโครงการ

    ถนนภายในโครงการ

    สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

    สุขยิ่งกว่าด้วยกับสวนสวยบนพื้นที่ส่วนกลาง 34.6 ตารางวา ที่ร่มรื่นรอบโครงการ อีกทั้งยังมีพื้นที่สนามเด็กเล่นบริเวณด้านหน้าโครงการ และระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรงปิด CCTV

    รีวิวภายในบ้าน

    สำหรับบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง มี 2 แบบ โดยทั้งสองแบบต่างกันที่ขนาดที่ดินเล็กน้อย ทำให้พื้นที่ใช้สอยมีความต่างกัน และการวางแปลนบ้าน แต่ทั้งสองแบบจะมีพื้นที่หน้ากว้าง 5.6 เมตร เท่ากันต่างกันที่ความลึก  ทำให้มีความแตกต่างกันในเรื่องของที่จอดรถ

    *หมายเหตุ: เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทั้งหมดเป็นเพียงการตกแต่งเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ซื้อเท่านั้น บ้านที่ซื้อจริงผู้ซื้อจะได้แค่เพียงตัวบ้านเท่านั้น

    Amethyst (อเมทิสต์) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.6 เมตร เนื้อที่ 18.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 101 ตารางเมตร 3ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 1 คัน

    ตัวอย่างห้องแบบ อเมทิสต์

    ตัวอย่างห้องแบบ อเมทิสต์

    อเมทิสต์ หลังหัวมุม   อเมทิสต์ หลังหัวมุม กับพื้นที่ติดสวน
    อเมทิสต์ หลังหัวมุม                                                    พื้นที่ติดสวน

    ด้านหน้าตึกแบบ อเมทิสต์

    ด้านหน้าตึกแบบ อเมทิสต์

    ห้องนั่งเล่น พื้นที่ 3x7 เมตร

    ห้องนั่งเล่น พื้นที่ 3×7 เมตร

    ห้องโถ่งกลาง

    ห้องโถ่งกลาง

    ความสูงประมาณ 3.5 เมตร    เพดานยกสูง

    ความสูงประมาณ 3.5 เมตร                                    พื้นที่ห้องนั่งเล่น

    มุมห้องครัว

    มุมห้องครัว

    พื้นที่ห้องโถงกลาง 3 x 7 เมตร

    พื้นที่ห้องโถงกลาง 3 x 7 เมตร

    มุมพื้นที่ด้านหลัง

    มุมพื้นที่ด้านหลัง

    ห้องอเนกประสงค์   เพดานยกสูงให้ความรู้สึกที่โปร่ง  ห้องอเนกประสงค์                                                        เพดานยกสูงให้ความรู้สึกที่โปร่งสบาย

    ห้องอเนกประสงค์ขนาดพื้นที่ 2.5 x 3 เมตร

    ห้องอเนกประสงค์ขนาดพื้นที่ 2.5 x 3 เมตร

    พื้นที่ด้านหลัง

    พื้นที่ด้านหลัง

    พื้นที่ด้านหลังขนาด 2.5 x 5.6   เมตร

    แบบห้องครัวที่ทางโครงการจัดให้ดูเป็นตัวอย่าง

    แบบห้องครัวที่ทางโครงการจัดให้ดูเป็นตัวอย่าง

    มุมกว้างจากห้องครัว

    มุมกว้างจากห้องครัว

    ห้องโถง

    ห้องโถง

    ห้องน้ำอยู่ใต้บันได   พื้นที่ห้องน้ำ 1.5 x 1.85 เมตร ห้องน้ำอยู่ใต้บันได                                                   พื้นที่ห้องน้ำ 1.5 x 1.85 เมตร
       กว้าง 1 เมตร ตัวของวัสดุที่โครงการเลือกใช้มีความสวยงาม               พื้นที่มีความกว้าง 1 เมตร  
    บริเวฯชั้น 2   ห้องน้ำไม่แตกต่างจากชั้น 1 บริเวณพื้นที่ชั้น 2                                                 ห้องน้ำบนชั้น 2 ไม่แตกต่างจากชั้น 1 เท่าไหร่นัก

    ห้องนอน 1 กว้าง 2.6 x 2.7 ม.

    ห้องนอน 1 กว้าง 2.6 x 2.7 ม.

    Goden-Room-42   Goden-Room-44   ความสูงของเพดานช่วยให้ดูไม่แคบตามพื้นที่          มีพื้นที่วางภายในห้องทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด
    Goden-Room-46   ห้องนอน 1 กว้าง 2.8 x 3 ม. ห้องนอนที่ 2 ติดกับห้องนอน 1                               ห้องนอน 2 กว้าง 2.8 x 3 ม. 
    พื้นที่เพื่มขึ้นมาได้มาจากพื้นที่ทางเดิน   การจัดสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง พื้นที่เพื่มขึ้นมาได้มาจากพื้นที่ทางเดิน                    การจัดสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง

    ห้องนอน 2 อยู้ตรงข้างกับห้องนอนใหญ่

    ห้องนอน 2 อยู่ตรงข้างกับห้องนอนใหญ่

    ห้องนอนใหญ่ โปร่งสบาย ด้วยความสูงถึง 4 เมตร

    ห้องนอนใหญ่ โปร่งสบาย ด้วยความสูงถึง 4 เมตร

    พื้นที่ห้องนอนใหญ่ ขนาด 3 x 4 เมตร

    พื้นที่ห้องนอนใหญ่ ขนาด 3 x 4 เมตร

    มุมมองภายในห้อง

    มุมมองภายในห้อง

    เสีดายที่ไม่มีห้องน้ำในตัว

    เสีดายที่ไม่มีห้องน้ำในตัว

    ระเบียงไม่ค่อยกว้างสักเท่าไหร่

    ระเบียงไม่ค่อยกว้างสักเท่าไหร่

    เพดานยกสูงช่วยในเรื่องของพื้นที่และความสวยงามได้มากทีเดียว

    Turquoise Plus (เทอร์ควอยซ์ พลัส) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.6 เมตร เนื้อที่ 21 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน 

    ด้านหน้า Turquoise Plus

    ด้านหน้า Turquoise Plus

    Turquoise

    Turquoise

    Goden-Turquoise-1    Goden-Turquoise-3
    ห้องมุมกับพื้นที่ติดสวนสวนกลาง                              Turquoise Plus มีพื้นที่ด้านหน้ากว้าง 5.6 ม.

    พื้นที่สวนของบริเวณห้องมุม

    พื้นที่สวนของบริเวณห้องมุม

    มุมมองห้องโถงใหญ่

    มุมมองห้องโถงใหญ่

    ห้องนั่งเล่นขนาด 3 x 5.6 ม.

    ห้องนั่งเล่นขนาด 3 x 5.6 ม.

    ความสูงพื้นจรดเพดานสูง 4 ม.

    ความสูงพื้นจรดเพดานสูง 4 ม.

    พื้นห้องเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่

    พื้นห้องเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่

    ตัวอย่างพื้นที่โต๊ะอาหาร

    ตัวอย่างพื้นที่โต๊ะอาหาร

    มุมมองบริเวณโต๊ะทานอาหาร

    มุมมองบริเวณโต๊ะทานอาหาร

    Goden-Turquoise-13    Goden-Turquoise-14 ตัวอย่างของห้องครัวที่ทางโครงการออกแบบไว้ให้เป็นแนวทาง เพราะบริเวณด้านหลังถือว่าเป็นส่วนต่อเติมทางโครงการจะให้มาเป็นโครงสร้างเท่านั้น แต่ตัวโครงสร้างจะใช้เสาเข็มขนาดเดียวกับตัวบ้านเพื่อป้องกันการทรุดตัว อีกทั้งยังมีโครงสร้างเห็นเพื่อสะด้วยในการต่อเติมGoden-Turquoise-16    Goden-Turquoise-17พื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนซักล้าง                                     ตัวอย่างเป็นหลังคากระจกสามารถเปิดปิดได้ 

    ออกแบบแยกสัดส่วนแบบบิวท์อินอย่างลงตัว

    ออกแบบแยกสัดส่วนแบบบิวท์อินอย่างลงตัว

    ห้องนอนด้านล่างติดกับพื้นที่สักล้างด้านหลัง

    ห้องนอนด้านล่างติดกับพื้นที่สักล้างด้านหลัง

    ความกว้างของห้องนอนนี้ 2.50 x 2.75 ม.

    ความกว้างของห้องนอนนี้ 2.50 x 2.75 ม.

    Goden-Turquoise-24                                          ตัวห้องนอนชั้น1 มีความใกล้เคียงกับห้องอเนกประสงค์ของอีกแบบมาก 

    ห้องน้ำชั้นหนึ่ง

    ห้องน้ำชั้นหนึ่ง

    Goden-Turquoise-26    Goden-Turquoise-27 ตัวของทั้งวัสดุและตัวของเครื่องใช้ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก        บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กปูทับด้วยไม้ 

    เมื่อขึ้นบันไดมาก็จะเจอกับอีก 2 ห้องนอน

    เมื่อขึ้นบันไดมาก็จะเจอกับอีก 2 ห้องนอน

    ห้องนอนที่ 2 อยู่ติดกับบันได

    ห้องนอนที่ 2 อยู่ติดกับบันได

    การจัดสัดส่วนที่ลงตัวทำให้ห้องมีพื้นที่ว่างสำหรับการใช้สอย

    การจัดสัดส่วนที่ลงตัวทำให้ห้องมีพื้นที่ว่างสำหรับการใช้สอย

    ตัวห้องมีขนาด 2.65 x 3 ม.

    ตัวห้องมีขนาด 2.65 x 3 ม.

    การเลือกเลื่อใช้กระจกบานใหญ่เป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้ห้องรู้สึกกว้างขวาง

    การเลือกเลื่อใช้กระจกบานใหญ่เป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้ห้องรู้สึกกว้างขวาง

    Goden-Turquoise-29    Goden-Turquoise-35 ความสูงข้างห้องด้านบน                                         ห้องนอนที่ 2 ชั้นบน มีความสูงใกล้เคียงกัน 

    ขนาดของห้อง 2.85 x 4 ม.

    ขนาดของห้อง 2.85 x 4 ม.

    เรื่องของความกว้างไม่ต่างจักหน้านอนก่อนหน้านี้มากนัก

    เรื่องของความกว้างไม่ต่างจักหน้านอนก่อนหน้านี้มากนัก

    พื้นที่ด้านหน้ามีขนาดใกล้เคียงกัน

    พื้นที่ด้านหน้ามีขนาดใกล้เคียงกัน

    รูปแบบการจัดห้องแนวชาวช่วยให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยมากทีเดียว

    รูปแบบการจัดห้องแนวชาวช่วยให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยมากทีเดียว

    Goden-Turquoise-43    Goden-Turquoise-44 ห้องน้ำส่วนกลางด้านบน                                          มุมมองห้องนอนใหญ่ 

    ความกว้าง 3.40 เมตร

    ความกว้าง 3.40 เมตร

    พื้นที่บริเวณหัวเตียงกว้าง 3,45 เมตร

    พื้นที่บริเวณหัวเตียงกว้าง 3,45 เมตร

    พื้นที่ว่างบริเวณข้างเตียงขนาด คิงไซส์

    พื้นที่ว่างบริเวณข้างเตียงขนาด คิงไซส์

    มีพื้นที่ใช้สอยมากที่เดียวสำหรับห้องนอนใหญ่

    มีพื้นที่ใช้สอยมากที่เดียวสำหรับห้องนอนใหญ่

    พื้นที่ด้านหน้าจากมุมมองบนเตียง

    พื้นที่ด้านหน้าจากมุมมองบนเตียง

    ตัวห้องมีความยาวขนาด 5.6 ม.

    ตัวห้องมีความยาวขนาด 5.6 ม.

    พื้นที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบน็อกดาวน์ มีห้องน้ำในตัว

    พื้นที่จัดวางเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบน็อกดาวน์ มีห้องน้ำในตัว

    Goden-Turquoise-53    Goden-Turquoise-55 ห้องน้ำภายในห้องนอนใหญ่                                         วัสดุที่ใช้เหมือนกับห้องน้ำในส่วนอื่นๆ  Goden-Turquoise-57
    เพดานสูง 4 เมตรไฮไลของโครงการ
    Goden-Turquoise-59    Goden-Turquoise-60
    ผลพวงที่ได้จากตัวเพดานยกสูง                                       พื้นที่ชั้นลอยอเนกประสงค์ 

    มุมมองจากชั้นลอย

    มุมมองจากชั้นลอย

    วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
    อัตราค่าเช่ารายเดือน : 20,000 – 30,000 บาท/ เดือน                                                       ปัจจุบันที่ดินเปล่าติดถนนใหญ่ย่านนี้มีราคาขายเฉลี่ย 80,000 – 100,000 บาท/ ตารางวาขึ้นไป ส่วนในซอยราคาขายเฉลี่ย 70,000 บาท/ ตารางวา ในอนาคตคาดว่าหากรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะเริ่มตอกเสาเข็ม ราคาที่ดินจะปรับขึ้นแน่นอน

    เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

    บ้านกลางเมือง สุขสวัสดิ์ ในเครือบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5 เมตร  พื้นที่ 18.00 – 20 ตารางวา 3ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน จำ บนพื้นที่โครงการประมาณ 31-2-68.88 ไร่ ใกล้จุดขึ้นลงสะพานภูมิพล เชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจพระราม 3, สาทร และสีลม เพียง 700 ม. เริ่มต้นที่ 4.69 ล้านบาท  S-home

    ภาพ : apthai.com

    กัสโต้ สุขสวัสดิ์ 26 (Gusto Suksawat 26) ของกัสโต้ วิลเลจ ในเครือควอลิตี้เฮ้าส์ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ฝ้าเพดานสูงเกือบ 3 เมตร พื้นที่ตั้งแต่ 18.5 ถึง 21.2 ตารางวา บนพื้นโครงการประมาณ 25 ไร่ เดินทางเข้าออกได้หลายทาง ทั้งสุขสวัสดิ์ และ พระราม 2 ราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาทgusto-สุขสวัสดิ์26

    ภาพ : gusto.qh.co.th

    เดอะ คอนเนค สุขสวัสดิ์ 26 (2) (The Connect Suksawat 26 (2)) ของ พฤกษา เรียวเอสเต ทาวน์โฮมสไตล์โมเดิร์น 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนรับประทานอาหาร 1 ห้องครัว จอดรถ 1-2 คัน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 100 – 119 ตารางเมตร บนพื้นที่โครงการ 46 ไร่ 1 งาน 23.32 ตร.ว. ราคาเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท3103afaa06d6c6690d7af194e59dae9b

    ภาพ : pruksa.com

    บทสรุป

    โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบายใกล้กับจุดขึ้น – ลงทางด่วนมาก อีกทั้งยังมีอีกหลายเส้นทางที่สามารถมุ่งตรงเข้าไปยังใจกลางของกรุงเทพฯ อย่างสาทร และ สีลมได้ไม่ยาก มีทางเข้าออกตัวโครงการถึง 4 เส้นทาง และยังเดินทางด้วยวิธีอื่นรวมแล้วกว่า 7 วิธี (ดูได้จากหัวข้อ: การเดินทาง) อีกทั้งตัวโครงการยังเป็นพื้นที่ที่มีความธรรมชาติทำให้เหมาะกับการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก

    แต่ที่สำคัญของคนที่จะเลือกซื้อโฮมทาวน์ของที่นี่ควรมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะตัวโครงการเข้ามาในซอยพอสมควร ถ้าหากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวอาจจะลำบากเวลาจะออกไปไหนเพราะบริเวณโดยรอบของโครงการไม่มีอะไรเลยต้องออกไปที่เส้นหลักหรือรอบนอกเท่านั้น

    หากมองในแง่ของการลงทุนถือว่าราคานี้ไม่สูงเลยถ้าหากเทียบกับโครงการอื่นในทำเลเดียวกัน อีกทั้งยังมีเรื่องของฟังก์ชั่นพิเศษของตัวโครงการทั้ง 4 ห้องนอน จอดรถได้ 2 คัน เพดานยกสูง ถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับทาวน์โฮม 2 ชั้น  อีกทั้งทำเลสุขสวัสดิ์ที่นับวันจะเป็นศูนย์รวมความเจริญที่ครบครันและมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งถ้าหากรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะเริ่มเดินเครื่องเมื่อไหร่ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้ต้องขยับพุ่งขึ้นอีกแน่นอน เพราะถ้าหากเทียบจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วซื้อขายกันตารางวาไม่กี่พันบาท แต่ตอนนี้ราคาโดดขึ้นไปถึงเฉลียที่ 70,000 บาท โดยประมาณ อีกทั้งยังมีอีกหลายๆ โครงการโดยรอบแล้วทำให้ที่ดินบริเวณนี้เกิดการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดอย่างไม่ต้องสงสัย

    เรื่องข้างต้นเขียนโดย วัชระ วงศ์สง่า Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ watchara@ddproperty.com

    อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ–เพชรบุรี (The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/105436/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0-%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%258a-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259e www.ddproperty.com:news:105436 Tue, 25 Aug 2015 07:00:11 +0700

ทำเลถนนเพชรบุรีในอดีตอาจถูกมองว่าเป็นทำเลที่ตายแล้ว เพราะถูกพัฒนาจนเกือบเต็มพื้นที่ อีกทั้ง ยังมีสถานบันเทิงเกิดขึ้นจำนวนมากบนถนนสายนี้ และไม่มีรถไฟฟ้าผ่านตามแนวถนน แต่ถนนเพชรบุรีเป็นถนนที่คู่ขนานกับถนนสุขุมวิท เมื่อฝั่งถนนสุขุมวิท มีการพัฒนาคอนโดมิเนียมจำนวนมาก และราคาที่ดินแพงปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มมองหาความเป็นไปได้ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมบนถนนเส้นนี้ เพราะถนนเพชรบุรีเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิทได้สะดวก

สำหรับถนนเพชรบุรีช่วงประตูน้ำ-ราชเทวี ราคาที่ดินจะสูงมาก เพราะใกล้เมือง ใกล้ย่านการค้า ราคาขายคอนโดมิเนียมจะค่อนข้างสูง คอนโดมิเนียมระดับกลาง-บน เริ่มต้นประมาณ 2-3 ล้านบาทจึงขยับมาอยู่ช่วงแยกเพชรบุรี-อโศกยาวไปจนถึงเพชรบุรี-ทองหล่อ ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่แล้วมีคอนโดมิเนียมหลายโครงการเปิดตัวบนถนนเส้นนี้ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีซัพพลายใหม่เข้าสู่ตลาดเลย เพราะหาที่ดินยาก

จนล่าสุดมี 2 โครงการที่เกิดขึ้นพร้อมกันบนถนนเส้นสายนี้ คือ ไลฟ์ อโศก (Life Asoke) ของบริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่บริเวณถนนเพชรบุรี-อโศก ใกล้กับ MRT เพชรบุรี และเดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี (The Niche Pride Thonglor-Phetchaburi) ของบริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งอยู่บริเวณเพชรบุรี-ทองหล่อ ใกล้กับทางที่เชื่อมต่อไปพร้อมพงษ์และทองหล่อ โดยวันนี้จะพาไปชมโครงการ “เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี” กันก่อน

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค. 2558)
ชื่อโครงการ : เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี (The Niche Pride Thonglor-Petchaburi)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเพชรบุรี (ติดริมถนนใกล้เพชรบุรี ซอย 40 ใกล้ทางลัดเข้าสุขุมวิท 39)
เยื้อง รพ.กรุงเทพ ห่างจากปากซอยทองหล่อ 280 เมตร แต่ต้องกลับรถ หรือจะไปทองหล่อจากทางลัดซอย 39 ก็ได้

• รายละเอียดโครงการ:
พื้นที่โครงการรวมประมาณ 3-2-71 ไร่
อาคารความสูง 33 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
รวมห้องชุดทั้งหมด 667 ยูนิต
ชั้น 1-4 ที่จอดรถ คิดเป็นสัดส่วน 42%
ชั้น 5 ชั้นสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 5-33 ที่พักอาศัย
ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว
ลิฟท์บริการ 1 ตัว
คีย์การ์ด ล็อคชั้น
ห้องชุดต่อชั้น: สูงสุด 26 ยูนิต
เริ่มก่อสร้าง: คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2558
กำหนดแล้วเสร็จ: ประมาณปลายปี 2560
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท/ ตร.ม. / เดือน
ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 2.59 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค. 2558)
ราคาขายเฉลี่ย: 97,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ส.ค. 2558)

รูปแบบห้องชุด (ส่วนใหญ่เป็น 1 ห้องนอน)
1 ห้องนอน Type A1 พื้นที่ใช้สอย 30.9 ตร.ม.
The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
1 ห้องนอน Type A2 พื้นที่ใช้สอย 30.4 ตร.ม.

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
1 ห้องนอน Type A3 พื้นที่ใช้สอย 33.7 ตร.ม.

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
1 ห้องนอน Type B1 พื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม.

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
1 ห้องนอน Type B3 พื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม.

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

1 ห้องนอน Type B4 พื้นที่ใช้สอย 44.6 ตร.ม. / 44.79 ตร.ม. / 45 ตร.ม.

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

2 ห้องนอน Type C พื้นที่ใช้สอย 59 ตร.ม.
The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

วิเคราะห์ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมย่านเพชรบุรี
บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด รายงานว่า ระดับราคาคอนโดบริเวณถนนเพชรบุรี-รัชดา และย่านสุขุมวิท-พระโขนงในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนซัพพลายและราคา โดยคอนโดฯ ย่านสุขุมวิท-พระโขนงมีราคาเฉลี่ยสูงถึง 226,000 บาท/ ตร.ม.ในปี 2558 ราคาปรับเพิ่มสูงกว่าปี 2557 ถึง 50% ขณะที่คอนโดฯ บริเวณถนนเพชรบุรี-รัชดา มีราคาเฉลี่ยสูงถึง 111,000 บาท/ ตร.ม.ในปี 2558 ราคาปรับเพิ่มสูงกว่าปี 2557 ถึง 28% สำหรับยอดขายโครงการเปิดใหม่ยังมีอัตราการขายที่ดีไม่ปรับตัวลดลง

บริเวณพื้นที่เพชรบุรี-รัชดา มีจำนวนหน่วยคอนโดมิเนียมที่เปิดขายโครงการตั้งแต่ปี 2551 ถึงครึ่งแรกของปี 2558 รวม 46,363 ยูนิต โดยช่วงหกเดือนแรกของปี 2558 นี้ มีจำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ประมาณ 4,593 ยูนิต ระดับราคาขายคอนโดมิเนียมใหม่ปีนี้ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ราว 110,454 บาท/ตร.ม. ปรับขึ้นจากปีที่แล้ว 28% (ปี 2557 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 86,486 บาท/ ตร.ม.)

ยอดขายเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดขายในปี 2558 (ถึงกลางปี) อยู่ที่ 29.37% เปรียบเทียบกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมายังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ลดลงตามภาวะตลาดรวม (ยอดขายโครงการเปิดขายใหม่แต่ละปีตั้งแต่ปี 2554 จะอยู่ในช่วง 52-62% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายใหม่)

ราคาขายคอนโดมิเนียมเกรดเอในย่านเพชรบุรี-รัชดา อยู่ในช่วง 116,667-159,173 บาท/ตร.ม. โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 137,365 บาท/ตร.ม. ส่วนคอนโดเกรดบีราคาขายอยู่ระหว่าง 66,429 – 112,857 บาท ต่อ ตารางเมตร โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 92,135 บาท/ตร.ม.

ขณะที่คอนโดมิเนียมบริเวณสุขุมวิทจากสุขุมวิทซอย 1 ถึงพระโขนง มีจำนวนยูนิตที่เปิดขายใหม่ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2558 จำนวน 1,974 ยูนิต ซึ่งใกล้เคียงกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ราคาขายโครงการใหม่เฉลี่ยกลับมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 50% เทียบกับราคาขายปีที่ผ่านมา โดยราคาขายเฉลี่ยในปี 2558 มีราคาอยู่ที่ประมาณ 226,344 บาท/ตร.ม. (ปี 2557 มีราคาขายโครงการใหม่เฉลี่ย 151,396 บาท/ ตร.ม.)

ปัจจุบันคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ใน สุขุมวิทจากสุขุมวิทซอย 1 ถึงพระโขนง ตั้งแต่ปี 2551ถึงปัจจุบันมีจำนวนสะสมรวม 19,481 ยูนิต จำนวนคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในบริเวณนี้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,800 ยูนิตต่อปี ในส่วนระดับราคาขายเฉลี่ยมีการปรับเพิ่มสูงขึ้นทุกปีแต่ปี 2558 ระดับราคาขายเฉลี่ยปรับเพิ่มสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 50% ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากโครงการที่เปิดขายส่วนมากเป็นโครงการในระดับเกรดเอและระดับพรีเมียมที่มีราคาขายเกิน 250,000 บาท/ ตร.ม.

ราคาขายคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ในย่านสุขุมวิทมีระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 262,628 บาท/ตร.ม. มีราคาขายอยู่ระหว่าง 211,765 – 324,950 บาท/ตร.ม. ขณะที่คอนโดเกรดเอมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 161,870 บาท/ตร.ม.

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโซนเพชรบุรี-อโศก และเพชรบุรี-ทองหล่อ
ตัวทำเลถนนเพชรบุรี เป็นหนึ่งในถนนที่ใกล้เมือง เชื่อมต่อระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนรัชดาภิเษก เป็นถนนคั่นกลางที่มีศักยภาพไม่น้อย โดยจะเห็นว่าในเวลานี้ความบูมของทำเลจะข้ามจากถนนสุขุมวิทไปแยกพระราม 9-รัชดาภิเษกเลย เพราะบริเวณเส้นพระราม 9-รัชดาภิเษก มีรถไฟฟ้าใต้ดินผ่านตรงๆ และยังมีศูนย์การค้าชั้นนำ มีอาคารสำนักงานของบริษัทชั้นนำหลายแห่ง และในอนาคตตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังจะข้ามมาตั้งอยู่ที่ถนนเส้นนี้ ทำให้ถนนรัชดาภิเษกบูมกว่าถนนเพชรบุรี

ทีนี้ กลับมาที่ถนนเพชรบุรีต่อ โดยหากวิเคราะห์เฉพาะโซนเพชรบุรี-อโศก และเพชรบุรี-ทองหล่อ (ไม่นับรวมโซนเพชรบุรี-ราชเทวี) ช่วงเพชรบุรี-อโศก ใกล้เมืองมากสุด กำลังจะบูมรองรับการเติบโตจากฝั่งอโศก-สุขุมวิทและฝั่งถนนพระราม 9-รัชดาภิเษก ซึ่งปัจจุบันบริเวณนี้ ราคาที่ดินปรับขึ้นสูงมาก ทำให้ราคาคอนโดมิเนียมบริเวณนี้สูงมากเช่นกัน แต่ราคาก็ยังถูกกว่าทั้งฝั่งอโศก-สุขุมวิท และฝั่งถนนพระราม 9-รัชดาภิเษกพอสมควร

ขณะที่ช่วงเพชรบุรี-ทองหล่อ จะขยับออกมาเล็กน้อย เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรีได้ แต่อาจจะสะดวกน้อยกว่าช่วงเพชรบุรี-อโศก (อาจจะนั่งมอเตอร์ไซค์ หรือแท็กซี่มาเชื่อมต่อได้) แต่ถ้าขับรถยนต์ส่วนตัวสามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองทั้งฝั่งถนนสุขุมวิท และฝั่งถนนรัชดาภิเษกได้สะดวกมาก จึงอาจกล่าวได้ว่า คนที่เลือกคอนโดมิเนียมช่วงเพชรบุรี-อโศก อาจจะสะดวกกับคนมีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่า แต่ด้วยความที่ไกลออกจากมา MRT พอสมควร ราคาที่ดินย่านนี้จึงไม่ร้อนแรงมมาก ราคาคอนโดมิเนียมช่วงเพชรบุรี-ทองหล่อจึงถูกกว่าคอนโดมิเนียมช่วงเพชรบุรี-อโศกมาก

Petchaburi Road

สำหรับข้อเสียของถนนเพชรบุรี คือ การจราจรที่คับคั่ง โดยเฉพาะช่วงเพชรบุรี-ทองหล่อที่ไกลจากรถไฟฟ้าสักหน่อย อย่างไรก็ตาม ในข้อเสีย ย่อมมีข้อดี นั่นคือ การที่ราคาที่ดินบริเวณนี้ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับถนนสุขุมวิทและถนนรัชดาภิเษก และเทียบกับช่วงเพชรบุรี-อโศก ราคาคอนโดมิเนียมช่วงเพชรบุรี-ทองหล่อย่านนี้ จึงยังจับต้องได้ และถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

ด้านทำเลที่ตั้งของโครงการเดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี ซึ่งอยู่ติดถนนใกล้กับเพชรบุรี ซอย 40 อยู่ฝั่งเลขคู่ ซึ่งถนนเพชรบุรี มีความแปลกจากถนนสุขุมวิท คือ ถ้าเป็นถนนสุขุมวิท ฝั่งเลขคี่ หรือฝั่งออกเมือง จะได้รับความนิยมมากว่าฝั่งเลขคู่ หรือฝั่งเข้าเมือง แต่ถ้าเป็นถนนเพชรบุรี ต้องเป็นฝั่งเลขคู่ หรือฝั่งเข้าเมืองจึงจะได้รับความนิยมมากกว่า เพราะสะดวกในการเดินทางมากกว่า

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้ อยู่ใกล้กับทางลัดที่เชื่อมเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 39 หรือพร้อมพงษ์-สุขุมวิทมาก แม้ว่าโครงการจะมีจุดขายว่าอยู่ห่างจากปากซอยทองหล่อ-เพชรบุรีประมาณ 280 เมตร แต่ในความเป็นจริง เนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่เลยปากทางดังกล่าวมาทางเข้าเมือง ทำให้หากจะเข้าทองหล่อ ต้องไปกลับรถ ดังนั้น หากจะไปทองหล่อ เข้าทางลัดที่เชื่อมเข้าสู่ซอยสุขุมวิท 39 แล้วค่อยหาทางไปทองหล่อ อาจจะสะดวกกว่า
ทำเลของโครงการนี้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกมาก แต่ถ้ารถไฟฟ้า ไม่ได้ลำบาก แต่ต้องอาศัยบริการรถสาธารณะ

การเดินทาง:
เดินทางด้วยรถยนต์
1. ถ้ามาจากถนนเพชรบุรีทางประตูน้ำ ตรงมาเรื่อยๆ เลยแยกอโศก-เพชรบุรีมาเรื่อยๆ หาที่กลับรถ ตรงมาเล็กน้อย ก็จะเจอโครงการอยู่ริมถนนซอยเพชรบุรี 40
2. ถ้ามาจากพระราม 9 ตรงมาทางแยกอโศก-เพชรบุรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรบุรี ตรงมาเรื่อยๆ หาที่กลับรถ ตรงมาเล็กน้อย ก็จะเจอโครงการอยู่ริมถนน ซอยเพชรบุรี 40
3. ถ้ามาจากอโศก เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรบุรี ตรงมาเรื่อยๆ หาที่กลับรถ ตรงมาเล็กน้อย ก็จะเจอโครงการอยู่ริมถนน ซอยเพชรบุรี 40
4. มาจากถนนสุขุมวิท จะเข้าซอยทองหล่อ หรือซอยเอกมัยก็ได้ ตรงมาจนถึงทางที่จะทะลุถนนเพชรบุรี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนเพชรบุรี โดยถ้าเป็นจากปากซอยทางหล่อจะอยู่ห่างจากโครงการ 280 เมตร แต่ถ้าเอกมัยก็จะไกลนิดหนึ่ง แต่ตรงมาก็จะเจอโครงการเลย

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

ด้วยรถไฟฟ้า
1. MRT สถานีเพชรบุรี ทางออก 1 ต่อรถสาธารณะ แท็กซี่ หรือมอเตอร์ไซค์ไปอีกสัก 5-10 นาที หรือจะจอดรถส่วนตัวไว้ที่สถานีนี้แล้วขับกลับบ้านก็ได้ (แต่ต้องตรวจสอบอัตราค่าเช่าจอดรถด้วย)

MRT_Petchaburi

2. Airport Rail link สถานีมักกะสัน ให้เดินสกายวอล์คมาทาง MRT สถานีเพชรบุรี ทางออก 1 แล้วก็ต่อรถไปโครงการ

Airport Rail Link_Makkasan

3. BTS ลงสถานีทองหล่อ หรือเอกมัยก็ได้ แต่ทองหล่อจะใกล้กว่า ให้ออกทางออกที่จะเข้าสู่ถนนทองหล่อ หรือเอกมัย ต่อรถวิ่งยาวมาจนสุดถนนซอยทองหล่อ ทะลุเข้าสู่ถนนเพชรบุรี เลี้ยวขวา วิ่งตรงไปเล็กน้อย ก็จะเจอโครงการ

สถานที่แนว Lifestyle
สถานีที่กิน-ดื่ม-เที่ยว-ช้อปปิ้งแบบชิคๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งพระราม 9 และฝั่งสุขุมวิทมากกว่า

เริ่มจากฝั่งสุขุมวิท

The Emquartier

เอ็มควอเทียร์ และเอ็มโพเรี่ยม หนึ่งในศูนย์การค้าในโครงการ “ดิ เอ็ม ดิสทริค” ที่นอกจากจะมีร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารนานาชาติ ร้านแฮงเฮ้าท์เก๋ๆ แล้ว ยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิง เช่น โรงภาพยนตร์ระดับโลกขนาด 7 โรง และ IMAX “ควอเทียร์ ซีเนอาร์ท” ของกลุ่มเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, โรงภาพยนตร์ระดับ 6 ดาว “เอ็มโพเรี่ยม ซีเนม่า” ของกลุ่มเอสเอฟ ซีนีม่า ซิตี้, เวอร์จิ้น แอคทีฟ ฟิตเนสระดับเวิลด์คลาส, คิดส์ ครีเอทีฟ เพลย์กราวด์ ฯลฯ เรียกว่า มาที่เดียวก็ครบ

jones the grocer
ร้าน jones the grocer @ ดิ เอ็มควอเทียร์

ถ้าอยู่โครงการเดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี ก็มาไม่ยากเลย เพราะสามารถทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 39 ได้สะดวกมาก

ทองหล่อ / เอกมัย
เรียกได้ว่าเป็นแหล่งชิลเอ้าท์สุดชิคของคนโซนนี้ เลย ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของกรุงเทพฯ ถ้าอยากหาที่ชิลๆ กลางเมือง ก็ต้องทองหล่อ เอกมัย โดยในส่วนของทองหล่อ มีทั้งร้านอาหารไทย อาหารญี่ปุ่น กินดื่มเที่ยว มีคอมมูนิตี้มอลล์ชั้นนำ เช่น Market Place, Seen Space, J Avenue ทั้งร้านอาหารและร้านแฮงค์เอ้าท์ เช่น Audrey, Wine Republic, Arena 10, Funky Villa, Muse, Hobs, Mellow เป็นต้น

Mellow Thonglor
ร้าน Mellow Thonglor via facebook.com/mellowbangkok

ถ้าเป็นเอกมัย ก็มีเพียบเช่นกัน คอมมูนิตี้มอลล์ “Park Lane” (พาร์ค เลน) คอมมูนิตี้มอลล์ที่รวมร้านอาหารชื่อดัง ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านให้บริการต่างๆ เช่น สปา ร้านทำเล็บ บิวตี้ซาลอน ร้านเสื้อผ้า กระเป๋า สินค้าแฟชั่นต่างๆ หรือสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ของทองหล่อ ก็ “เกตเวย์ เอกมัย” ไลฟ์สไตล์มอลล์ขนาดใหญ่ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่ให้เป็นศูนย์กลางกิน ดื่ม ช้อปปิ้ง โดยเฉพาะศูนย์กลางอาหารทะเลใจกลางเมือง และเมืองหิมะ “สโนว์ทาวน์ เกตเวย์ เอกมัย”

Park Lane Bangkokภาพ via facebook.com/PLBKK

จากโครงการเดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี จะกลับรถแล้วเลี้ยวขวาเข้าทองหล่อก็ได้ หรือจะทะลุเข้าซอยสุขุมวิท 39 แล้วทะลุต่อไปยังทองหล่อ หรือเอกมัยก็ได้

เทอร์มินัล 21

Terminal 21 ฺBangkok

ช้อปปิ้งมอลล์บริเวณใกล้แยกอโศกที่นับเป็นเทรนด์ใหม่ของศูนย์การค้าที่รวบรวมบรรยากาศแบบ Market Street ทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่นี่ ภายใต้แนวคิด “ท่าอากาศยานช้อปปิ้ง” ที่ยกโลกทั้งใบมาไว้ในที่เดียว จากแรงบันดาลใจของ 7 มหานครแห่งการช้อปปิ้งระดับโลก ทั้งแคริบเบียน โรม, ปารีส, โตเกียว, ลอนดอน, อิสตันบูล, ซานฟรานซิสโก และฮอลลีวู้ด มีครบทั้งร้านอาหาร กินดื่ม ร้านสินค้าแฟชั่น ไอที

เซ็นทรัล แกรนด์ พระราม 9
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 9 ถือเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งใหม่ของย่านพระราม 9 ที่มีครบทั้งในด้านร้านค้าบริการ สินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ชั้นนำ และร้านอาหาร โดยมีห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ท็อปส์ มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ไวน์ เซลล่า, ออฟฟิตเมต, บีทูเอส, โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ ซีนีม่า, ฟิตเนสเฟิร์ส, The Rink Ice Skate, สวนสนุก Fun Planet, ศูนย์เสริมความงาม, โรงเรียนสอนพิเศษ

The Rink Ice Skate
The Rink Ice Skate via therink-icearena.com

รีวิวภาพรวมโครงการ
จุดขายโครงการนี้ คือ Unblock View คือออกแบบให้ทุกมุม มีวิวที่เคลียร์ โล่ง ไม่มีตึกบัง ไม่ว่าจะอยู่ทิศไหน หรือมุมไหนก็สามารถเต็มอิ่มกับวิวเมืองของกรุงเทพฯ ได้

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ชูจุดขายโมเดิร์น ลักซ์ชัวรี ด้วย 4 Iconic designs inspired by nature เน้นการออกแบบที่นำความงดงามจากธรรมชาติ มาผสมผสานอย่างลงตัว ภายนอกอาคารออกแบบด้วยลวดลายเปลือกไม้ Cedar Crust เพิ่มอารมณ์แห่งการพักผ่อน

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

– สวนสวยสไตล์ Tropical ขนาดใหญ่ภายในโครงการ
– สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 35 เมตรพร้อมจากุซชี่ และสระเด็ก
– ฟิตเนสพร้อมวิวเมือง, ซาวน่า, ห้องสมุด, เอ็กซ์คลูซีฟ เลาจ์น
– Solar Panel ด้านบน Roof Top เพื่อดึงพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

รีวิวภายในห้องชุด
เพดาน: ความสูง 2.75 เมตร
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted ชุดครัว และชุดห้องน้ำ
เครื่องปรับอากาศ: ติดตั้งให้
ประตู: ไม้ Digital Door lock และที่จับแบบก้าน
พื้นห้อง: ลามิเนต
พื้นห้องครัว พื้นห้องน้ำ และพื้นระเบียง: กระเบื้อง

บรรยากาศจำลองห้องชุด 1 ห้องนอน [พื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม.] จะคล้ายกับแปลนห้อง Type B1

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• บรรยากาศในห้อง: จากห้องตัวอย่างเมื่อเดินเข้ามา ด้านซ้ายมือจะเป็นห้องครัว ซึ่งกั้นสัดส่วนอย่างดี ด้านขวาออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ อาจจะบิลท์อินให้เป็นตู้เก็บของต่างๆ

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
• ห้องครัวแบบปิด : ได้อุปกรณ์ครบชุด เคาน์เตอร์ครัว ที่มีเตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดครัว อ่างล้างจาน และตู้ด้านบน วางระบบให้วางตู้เย็นบริเวณนี้

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• มุมอเนกประสงค์ : ตรงข้ามกับห้องครัว ตามห้องตัวอย่างออกแบบเป็นให้มุมรับประทานอาหาร ซึ่งมุมนี้ ห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของผู้อยู่อาศัย

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• ห้องนั่งเล่น: ห้องนั่งเล่นติดระเบียง ออกแบบให้วางทีวี ตามห้องตัวอย่างจะมีโซฟา ชุดวางทีวี แต่ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่า

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• พื้นห้อง: ภาพตัวอย่างพื้นห้องลามิเนต ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องนอน

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• ระเบียง : พื้นที่ระเบียง ถือว่าค่อนข้างกว้าง ส่วนหนึ่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์ และยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนเอ้าท์ดอร์ หรือจะเป็นมุมตากผ้าก็ได้

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• ห้องนอน: ถัดจากห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องนอน มีประตูกั้นห้อง ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือตู้เสื้อผ้าให้ ส่วนห้องตัวอย่าง ออกแบบไว้ครบทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และชุดเตียง ส่วนหน้าต่างห้องนอน ถือเป็นไฮไลท์ เพราะเป็นบานกว้างและสูง มีบานผลัก 1 บาน

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor_1bed_34. (19)

• ห้องน้ำ : แปลนห้องชุดของโครงการนี้ส่วนใหญ่ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน โดยห้องน้ำจะได้ครบชุดตามแบบห้องตัวอย่าง แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง อ่างล้างหน้า กระจก และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ พื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุด เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

• พื้นห้องน้ำ เป็นพื้นกระเบื้อง คล้ายกับห้องครัว

บรรยากาศจำลองห้องชุด 1 ห้องนอน [พื้นที่ใช้สอย 30.4 ตร.ม.] จะคล้ายกับแปลนห้อง Type A1, A2 และ A3/C

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• บรรยากาศในห้อง: จากห้องตัวอย่างเมื่อเดินเข้ามา ด้านซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ครัว ด้านขวาออกแบบให้เป็นที่วางเครื่องซักผ้า (ติดตั้งระบบไว้ให้) และออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ที่อาจจะบิลท์อินเป็นตู้เก็บของแบบห้องตัวอย่าง

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• ห้องครัว : ได้อุปกรณ์ครบชุด เคาน์เตอร์ครัว ที่มีเตาไฟฟ้าพร้อมที่ดูดครัว อ่างล้างจาน และตู้ด้านบน วางระบบให้วางตู้เย็นบริเวณชิดฝั่งประตู

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• มุมอเนกประสงค์ : ถัดจากห้องครัว ตามห้องตัวอย่างออกแบบเป็นให้มุมรับประทานอาหาร ซึ่งมุมนี้ ห้องจริงจะเป็นพื้นที่โล่ง สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของผู้อยู่อาศัย

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
• ห้องนั่งเล่น: ห้องนั่งเล่นติดระเบียง ออกแบบให้วางทีวี ตามห้องตัวอย่างจะมีโซฟา ชุดวางทีวี แต่ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่า

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
• พื้นห้อง: ภาพตัวอย่างพื้นห้องลามิเนต ซึ่งจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องนอน

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi
• ระเบียง : พื้นที่ระเบียง ค่อนข้างกว้าง ส่วนหนึ่งวางคอมเพรสเซอร์แอร์ และยังมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนเอ้าท์ดอร์ หรือจะเป็นมุมตากผ้าก็ได้

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• ห้องนอน: ถัดจากห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องนอน มีประตูกั้นห้อง ห้องจริงจะเป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หรือตู้เสื้อผ้าให้ ส่วนห้องตัวอย่าง ออกแบบไว้ครบทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และชุดเตียง ส่วนหน้าต่างห้องนอน ถือเป็นไฮไลท์

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• ห้องน้ำ : แปลนห้องชุดของโครงการนี้ส่วนใหญ่ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน โดยห้องน้ำจะได้ครบชุดตามแบบห้องตัวอย่าง แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง อ่างล้างหน้า กระจก และสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ พื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุด ฝักบัวเป็นแบบเรน ชาวเวอร์

The Niche Pride Thonglor-Petchaburi

• พื้นห้องน้ำ เป็นพื้นกระเบื้อง คล้ายกับห้องครัว

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
จากการสำรวจการปล่อยเช่าห้องชุดบริเวณใกล้เคียงกับโครงการเดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี ส่วนใหญ่เป็นห้องชุด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30-35 ตร.ม. อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 18,000-25,000 บาท/เดือน

ราคาห้องชุดเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท เทียบกับอัตราค่าเช่าที่คาดว่าจะได้รับ คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนประมาณ 8.33-11.58% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนขึ้นอยู่กับราคาห้องชุด ส่วนอัตราเช่าจะไม่แตกต่างกันมาก หากได้ห้องชุดในราคาที่สูงกว่านี้ อาจจะได้อัตราผลตอบแทนต่อปีน้อยกว่านี้

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
สำหรับโครงการที่เปิดขายในปัจจุบันที่ถือว่าเป็นคู่แข่งกันกับโครงการ เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี อย่างเลี่ยงไม่ได้ คือ ไลฟ์ อโศก ของบริษัท เอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพราะเปิดขายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ในทำเลใกล้กัน แต่ไลฟ์ อโศก จะอยู่ใกล้กับ MRT เพชรบุรี และ Airport Rail Link มักกะสันมาก ราคาของไลฟ์ อโศก จึงสูงกว่า เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี พอสมควร

Life Asoke

ไลฟ์ อโศก (Life Asoke) ของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่บนเนื้อที่โครงการขนาดประมาณ 6-2-85 ไร่ เป็นอาคารความสูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 1,642 ยูนิต และร้านค้า 3 ร้าน ที่จอดรถประมาณ 675 คันคิดเป็น 41 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน รูปแบบห้อง: สตูดิโอ (24 ตร.ม.), 1 ห้องนอน 29-35 ตร.ม., 2 ห้องนอน 54 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.98 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จในช่วงไม่กี่ปีและเป็น 3 โครงการที่อยู่ใกล้กับเดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรีที่สุด เป็นหนึ่งในทางเลือกของคนที่ต้องการคอนโดมิเนียมบริเวณนี้ มีดังนี้

Thru Thonglor

ทรู ทองหล่อ (Thru Thonglor) ของบริษัท พลู แอสเซท จำกัด บนที่ดินประมาณ 2-3-72 ไร่อาคารความสูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 515 ยูนิต + 18 ร้านค้า รูปแบบห้องชุด: 1-2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 31 – 65 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นที่เปิดขายช่วงปี 2553 ประมาณ 2.5 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการยังมีห้องชุด 2 ห้องนอน ขาย 4.2 ล้านบาท ส่วนห้องชุดรีเซล (เจ้าของห้องชุดขายเอง) พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. เสนอขายเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท

The Capital Ekamai-Thonglorภาพ via facebook.com/thecapitalcondo

เดอะ แคปปิตอล เอกมัย-ทองหล่อ(The Capital Ekamai-Thonglor) ของบริษัท เคพีเอ็น จำกัด บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ เป็นอาคารความสูง 27 ชั้น จำนวน 281 ยูนิต ที่จอดรถ 70% ไม่รวมจอดซ้อนคัน รูปแบบห้องชุด : 1-2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 30 – 175 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นที่เปิดขายช่วงปี 2555 ประมาณ 2.7 ล้านบาท ปัจจุบันห้องชุดรีเซล (เจ้าของห้องชุดขายเอง) พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. เสนอขายเริ่มต้น 3.15 ล้านบาท

Supalai Park Ekkamai-Thonglor
ภาพ via  facebook.com/supalaiekkamaithonglor

ศุภาลัย พาร์ค เอกมัย-ทองหล่อ (Supalai Park Ekkamai-Thonglor) ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บนที่ดินประมาณ 5-1-21 ไร่ อาคารความสูง 44 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 660 ยูนิต และร้านค้า 10 ยูนิต รูปแบบห้องชุด: สตูดิโอ, 1-2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 34.5 – 74 ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นในช่วงเปิดตัวปี 2554 ประมาณ 1.79 ล้านบาท ปัจจุบันห้องชุดรีเซล (เจ้าของห้องชุดขายเอง) 1 ห้องนอน เสนอขายเริ่มต้น 2.519 ล้านบาท

บทสรุป
ทำเลที่ตั้ง อยู่ในระดับปานกลาง สำหรับคนมีรถยนต์ถือว่าสะดวก โดยเฉพาะคนที่ต้องเข้าเมืองฝั่งสุขุมวิท หรืออโศก แต่ข้อเสีย คือ การจราจรจะหนาแน่นมาก โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

ตัวโปรดักส์ หรือฟังก์ชั่นห้องชุด พื้นที่ใช้สอยถือว่าอยู่ได้จริง โดยห้องชุดที่ขายดี คือ ห้องชุด 1 ห้องนอนที่เป็นครัวแยกแบบครัวปิด ซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบของผู้อยู่อาศัย เพราะรูปแบบห้องชุด 1 ห้องนอนแบบที่ไม่ใช่ครัวแยก (30.4 ตร.ม.) จะดูกว้าง และโล่งกว่า ส่วนห้องชุด 1 ห้องนอนแบบครัวปิด แม้จะมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า แต่ดูแคบกว่า

หากวิเคราะห์จากทำเล โปรดักส์ และราคา ถือว่าคุ้มค่า จับต้องได้ แต่ราคาในอนาคตอาจจะขยับขึ้นได้ไม่มาก (วิเคราะห์จากการปรับขึ้นของราคา 3 โครงการในบริเวณใกล้เคียงกัน) ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้ามาก
ขณะที่หากเทียบกับโครงการไลฟ์ อโศกที่เปิดตัวไล่เลี่ยกัน ต้องยอมรับว่าทำเลของโครงการไลฟ์ อโศกดีกว่า แต่ความคุ้มค่าของโปรดักส์ เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี ดีกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าต้องการ “ทำเล” หรือ “โปรดักส์”

อาจกล่าวได้ว่า คนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เอง เดอะ นิช ไพรด์ ทองหล่อ – เพชรบุรี เหมาะกว่า ส่วนซื้อลงทุน ก็ยังมีโอกาส เพราะถือว่าราคายังไม่สูงมาก แต่ถ้าคนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุน และคาดว่าจะมีโอกาสปล่อยได้เร็วกว่า โครงการไลฟ์ อโศก อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: พอส สุขุมวิท 103 (Pause Sukhumvit 103)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/105317/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25aa-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:105317 Mon, 24 Aug 2015 05:00:27 +0700

หากพูดถึงผู้ประกอบการที่รั้งตำแหน่งเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมในโซนสุขุมวิทตอนปลาย “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” คือหนึ่งในชื่อที่ผุดขึ้นมาแบบไม่ต้องออกแรงคิดมาก ด้วยจำนวนโครงการที่เข้าไปปักหมุด อย่างเมื่อช่วงต้นปี 2558 ออริจิ้นฯ ได้ประกาศเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ในชื่อ “พอส” (Pause) เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise จำนวนชั้นไม่สูงมาก และที่สำคัญคือยังอยู่ในรัศมีรถไฟฟ้า

สำหรับโครงการที่จะมารีวิวในวันนี้ ได้แก่ “พอส สุขุมวิท 103” (Pause Sukhumvit 103) โครงการใกล้สถานี BTS อุดมสุข ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 โครงการเปิดตัวของแบรนด์พอส ร่วมกับพอส สุขุมวิท 107 (Pause Sukhumvit 107) และพอส สุขุมวิท 115 (Pause Sukhumvit 115) โดยแบรนด์ดังกล่าวออกมาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มชาวญี่ปุ่น กับราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: พอส สุขุมวิท 103 (Pause Sukhumvit 103)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ซอย สุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ถนน สุขุมวิท แขวง บางนา เขต บางนา กทม.

Pause Sukhumvit 103

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 2 งาน 53 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 268 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งคนไทยและชาวญี่ปุ่น
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างสิ้นปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Key Card Access Control, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 2 – 8
ส่วนกลาง: อาคาร A และ B ชั้น 1 Lobby & Library ชั้น 8 Fitness Room, Infinity Edge Pool และชั้นดาดฟ้า BBQ Zone, Rooftop Garden
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร
ที่จอดรถ: ชั้น 1 และบริเวณโดยรอบอาคาร คิดเป็น 30 % ไม่รวมซ้อนคัน
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 50 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 380 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 38 บาท / ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: 1.69 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 80,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้องทั้งหมด: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
Type Bs 20.74 – 24.30 ตร.ม.
Type B 25.60 – 32.78 ตร.ม.
Type B Plus 33.52 – 39.46 ตร.ม.
Type B Plus3 44.73 ตร.ม.
Type C 40.97 – 43.42 ตร.ม.

รูปแบบห้องที่เหลือขาย:
Type Bs 20.74 – 24.30 ตร.ม.
Type B 25.60 – 32.78 ตร.ม.
Type B Plus 33.52 – 39.46 ตร.ม. (อาคาร A เหลือเพียง 3 % และ อาคาร B 11 %)

pause sukhumvit 103

pause sukhumvit

pause sukhumvit

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

ด้วยอานิสงส์การขยายตัวของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช – สมุทรปราการ) จึงทำให้พื้นที่แถบสุขุมวิทตอนปลายตั้งแต่ซอย 101 (ปุณณวิถี), 103 (อุดมสุข) จนถึงบางนา ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการเกิดโครงการใหญ่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรเจควิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน (Whizdom 101) ของค่าย MQDC (บริเวณปากซอยสุขุมวิท 101 / 1), Bangkok Mall ของเดอะมอลล์กรุ๊ป และอาคารสำนักงานภิรัชบุรี แอทไบเทค (บริเวณแยกบานา) ที่แว่วมาว่าจะเปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่เกินปี 2560 นี้ ซึ่งเป็นช่วงที่โครงการพอส สุขุมวิท 103 สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่พอดี

ทำเลที่ตั้งของโครงการพอส สุขุมวิท 103 ปักหมุดอยู่บริเวณกลางซอยอุดมสุข 7 ซึ่งเป็นซอยที่สามารถเดินทางทะลุได้ทั้งทางฝั่งสุขุมวิท 103 และ 101/1 หรือซอยวชิรธรรมสาธิต 6 นั่นเอง อีกทั้งบริเวณนี้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นที่ยังคงเป็นแบบชุมชนดั้งเดิม (คล้ายคลึงกับย่านพระโขนง) ดังนั้นจึงรายล้อมไปด้วยตลาดสด ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง One Udomsuk สถานที่นัดหมายที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานของย่านนี้ ซึ่งหากเป็นเมื่อหลายสิบปีก่อน แหล่งรวมตัวของวัยรุ่นคงหนีไม่พ้นโรงหนังอุดมสุขเธียเตอร์ ที่ปัจจุบันปิดกิจการไปเรียบร้อยแล้ว อันเป็นผลจากความนิยมของคนที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

การเดินทาง ไปสำนักงานขาย

เนื่องจากสำนักงานขายพอส สุขุมวิท 103 ไม่ได้ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับตัวโครงการ ซึ่งอยู่ซอยอุดมสุข 7 หรือวชิรธรรมสาธิต 6 ดังนั้นหากใครต้องการเข้าไปชมห้องตัวอย่าง จึงจำเป็นต้องนั่งบีทีเอสมาลงสถานีปุณณวิถี หรือขับรถยนต์ แล้วมุ่งหน้าเข้าซอยสุขุมวิท 101 / 1 มาประมาณ 700 เมตร ให้สังเกตโครงการคอนโดมิเนียม S&S Sukhumvit และป้ายร้านกาแฟ Full in Love Café ทางฝั่งขวามือ ให้เลี้ยวเข้าไปจอดรถ ติดต่อสำนักงานขายได้เลย

ร้านกาแฟ Full in Love Café อยู่ในบริเวณเดียวกับสำนักงานขาย

Pause Sukhumvit 103

สำนักงานขายพอส สุขุมวิท 103 อยู่ใกล้กับโครงการคอนโดมิเนียม S&S Sukhumvit

Pause Sukhumvit 103

การเดินทาง เข้าโครงการ

pause sukhumvit

จากทำเลที่ตั้งโครงการ ที่สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดทะลุเข้า-ออก สุขุมวิท 103 (อุดมสุข) และ 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) ได้ ดังนั้นจึงทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกสบายขึ้น แม้ว่าจะเลือกขับรถยนต์ส่วนตัว ในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าทั้งสองซอยนี้การจราจรค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากเป็นพิกัดของเหล่าหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงเรียน และวัด แต่สำหรับผู้ชอบความรวดเร็ว ทันใจ สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ได้ โดยทางโครงการอำนวยความสะดวกให้ ด้วยรถรับส่ง วันละ 3 รอบ ในเวลาช่วงเช้าและเย็น ถึงรถไฟฟ้าสถานีอุดมสุข และปุณณวิถี

– รถไฟฟ้า BTS
ทางเลือกที่ 1 ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีอุดมสุข ทางออกที่ 1 แล้วเดินออกกำลังกายชมตลาด ของกินข้างทาง มาประมาณ 400 เมตร จะเจอป้ายซอยอุดมสุข 7 จากนั้นเข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร โครงการอยู่ฝั่งขวา เยื้อง เซเว่น อีเลฟเว่น

BTS สถานีอุดมสุข ตั้งอยู่บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 103 พอดี ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง

Pause Sukhumvit 103

บรรยากาศสองข้างทางระหว่างเดินไปโครงการ เต็มด้วยร้านขายของกินละลานตา

Pause Sukhumvit 103

ทางเลือกที่ 2 ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS มาลงสถานีปุณณวิถี ทางออกที่ 3 เดินออกกำลังกายมาเรื่อยๆ ผ่านปิยรมย์สปอร์ตคลับ (ประมาณ 500 เมตร) เข้าซอยสุขุมวิท 101 /1 จะเจอป้ายวชิรธรรมสาธิต 6 อยู่ฝั่งขวา จากนั้นเดินไปประมาณ 50 เมตร โครงการตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

– รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 หากมาจากถนนสุขุมวิท ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านปิยรมย์ฯ ให้ชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 101/1 จากนั้นตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตร สังเกตป้ายวชิรธรรมสาธิต 6 ด้านขวามือ ให้เลี้ยวเข้าซอยประมาณ 50 เมตร โครงการอยู่ซ้ายมือ ติดกับอพาร์ทเมนต์ 5 ชั้น

ซอยวชิรธรรมสาธิต 6 อยู่ด้านขวามือ หากมาจากเส้นสุขุมวิท

Pause Sukhumvit 103

ที่ตั้งโครงการ ตอนนี้ยังไม่เริ่มก่อสร้างและทำการปรับพื้นที่ มีเพียงรั้วสังกะสี และป้ายล้อมไว้ให้เป็นจุดสังเกตเท่านั้น

Pause Sukhumvit 103

ทางเลือกที่ 2 หากขึ้นทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร ให้เลือกลงบางนา เพื่อเลี้ยวตามทางมาทะลุปากซอยสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ตรงมาประมาณ 400 เมตร ป้ายอุดมสุข 7 อยู่ฝั่งซ้าย ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 50 เมตร โครงการตั้งอยู่ฝั่งขวามือ

การจราจรบริเวณสี่แยกไฟแดงอุดมสุข ช่วงเวลา 10 โมง ยังคล่องตัวดีอยู่

Pause Sukhumvit 103

ในทางตรงข้าม ฝั่งเส้นขาออกจากซอย ติดยาวใช้ได้เลยทีเดียว

Pause Sukhumvit 103

ระหว่างเดินทางไปโครงการ สังเกตดีๆ จะเห็นร่มสีเขียวของพอส สุขุมวิท 103 เต็มสองข้างทาง

Pause Sukhumvit 103

ตรงไปประมาณ 400 เมตร ป้ายซอยอุดมสุข 7 อยู่ทางด้านซ้ายมือ

Pause Sukhumvit 103

เลี้ยวเข้าซอย 50 เมตร โครงการอยู่ด้านขวามือ

Pause Sukhumvit 103

สถานที่แนว Lifestyle

ด้วยวิถีชีวิตของคนในพื้นที่เป็นไปในแบบลักษณะชุมชน ดังนั้นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่มารองรับจึงเป็นในรูปแบบสมัยเก่าและใหม่ผสมผสานกัน อย่างอดีตหากใครผ่านไปมาบริเวณนี้มักจะต้องแวะช้อปตลาดสดอุดมสุขก่อนกลับบ้าน เพราะมีของให้เลือกหลากหลาย แถมตลาดยังกินเนื้อที่ถึงสองฝั่งถนน ส่วนบรรดาวัยรุ่น ก็นิยมนัดพบกันที่โรงหนังอุดมสุข แต่เมื่อเวลาผ่านไปย่านนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตั้งแต่ต้นจนถึงท้ายซอย ต่างอัดแน่นไปด้วยร้านอาหาร แหล่งแฮงค์เอาท์ ที่เปิดให้บริการตลอดวัน และจะคึกคักในช่วงกลางคืนจนถึงรุ่งสาง อีกทั้งยังมีศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง One Udomsuk ที่เข้ามาเปิดอาณาจักรศูนย์รวมร้านอาหาร ร้านค้าแถบนี้ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน ที่เริ่มนิยมอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมในย่านอุดมสุขมากขึ้น

One Udomsuk (ห่างจากโครงการประมาณ 400 เมตร)

Pause Sukhumvit 103

Bangkok Mall (ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม.)

Pause Sukhumvit 103

อาคารสำนักงานภิรัชบุรี แอทไบเทค (ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กม.)

Pause Sukhumvit 103

รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการพอส สุขุมวิท 103 นำเสนอแนวคิดคอนโดมิเนียม Low Rise ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวประหนึ่งเหมือนอยู่บ้าน จากพื้นที่สีเขียวโดยรอบ และการใช้สีโทนอบอุ่น อย่าง เทา น้ำตาล ในการออกแบบสถาปัตยกรรมตึกทั้งอาคาร A และ B ภายใต้คอนเซ็ปต์ Modern Habitat อันสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย และสอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นที่ และเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับตลาด โรงเรียน วัด ดังนั้นทัศนียภาพหน้าระเบียงของแต่ละยูนิต จึงเป็นวิวของชุมชนที่อยู่โดยรอบนั่นเอง

ทิศเหนือ – ฝั่งอาคาร A อาจโดนบดบังวิวด้วยอพาร์ทเมนต์ 5 ชั้น ส่วนอาคาร B ชั้น 1 และ 2 จะติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น
ทิศใต้ – ฝั่งอาคาร A ชั้น 1 และ 2 จะติดกับบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เช่นเดียวกับอาคาร B แต่ยูนิตที่โดนบังจะอยู่ทางแทบปลายตัว L ของตึก ตามรูป
ทิศตะวันออก – เป็นวิวชุมชนเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวทางฝั่งซอยวชิรธรรมสาธิต 6
ทิศตะวันตก – วิวชุมชนเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวทางฝั่งซอยวชิรธรรมสาธิต 8 ซึ่งเป็นซอยตัน

Pause Sukhumvit 103

ทางเข้าออกของโครงการ มีทางเดียวคือฝั่งอาคาร A

Pause Sukhumvit 103

สังเกตว่า บริเวณรั้วจะปลูกต้นไม้ เพื่อพื้นที่ชีวิต เข้ากับบรรยากาศโดยรอบ

Pause Sukhumvit 103

ฝั่งอาคาร B ถูกออกแบบให้เป็นในลักษณะตัว L ตึกนี้จะดีหน่อย ตรงส่วนของที่จอดรถเพิ่มมากขึ้น สามารถจอดได้ทั้งใต้อาคาร และรอบตัวตึก

Pause Sukhumvit 103

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ทางโครงการคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงออกแบบ Facility ในสไตล์ Minimal เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเป็นหลัก โดยสิ่งอำนวยความสะดวกจะแยกออกเป็นสองอาคารคือ อาคาร A และ B ซึ่งประกอบไปด้วย Lobby & Library บริเวณชั้น 1 Fitness Room, Infinity Edge Pool ชั้น 8 BBQ Zone และ Rooftop Garden บนชั้นดาดฟ้า

ชั้น 1 – Lobby & Library

pause sukhumvit

ชั้น 8 – Fitness Room

pause 103

 

ชั้น 8 – Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำ มาพร้อมจากุชชี่ ระบบน้ำเกลือ โดยอาคาร A กว้าง 16 ยาว 2.5 เมตร ส่วนอาคาร B กว้าง 14 ยาว 2.5 เมตร

pause 103

 

ชั้นดาดฟ้า – BBQ Zone และ Rooftop Garden

pause sukhumvit

รีวิวภายในห้องชุด

พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม. พร้อมเชิงบัวสำเร็จรูป
ความสูงพื้นจรดเพดาน: ห้องนั่งเล่น และห้องนอน 2.40 เมตร ส่วนห้องน้ำ 2.30 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความยาวประมาณ 1.50 เมตร
ประตู: Digital Door Lock จาก Samsung
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และซิ้งค์ล้างจานจาก Teka
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: American Standard
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: ติดผนังจาก Daikin Inverter

บรรยากาศห้องตัวอย่าง Type Bs 20.8 – 21.8 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

Pause Sukhumvit 103

สำหรับยูนิตนี้ จะเป็นในลักษณะของสตูดิโอ แต่มีการแบ่งกันห้องนอน กับห้องนั่งเล่นให้ ซึ่งสิ่งแรกที่เห็นเมื่อผลักประตูไป จะเป็นส่วนของมุมแต่งตัว และทำอาหาร

Pause Sukhumvit 103

สำหรับคุณสุภาพสตรี จะมีมุมที่ถูกออกแบบให้เป็นตู้เก็บของจิปาถะ หรือจะแปรสภาพเป็นตู้เก็บรองเท้าได้

Pause Sukhumvit 103

ประตูบานเลื่อนที่เห็นดังรูป เป็นส่วนของห้องน้ำ โดยติดตั้งกระจกฝ้าให้ ซึ่งลูกบ้านสามารถนำสติ๊กเกอร์มาแปะ เพื่อความสวยงามได้

Pause Sukhumvit 103

ส่วนของฝั่งอ่างล้างหน้า จะไม่มีตู้เก็บของให้ แต่สิ่งที่ได้คือกระจกส่องที่ค่อนข้างกว้างและสูงถึงเพดาน

Pause Sukhumvit 103

ฝารองนั่งชักโครกที่ได้ จะเป็นระบบ Washlet

Pause Sukhumvit 103

ส่วนอาบน้ำ ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ชั้น

Pause Sukhumvit 103

ความกว้างที่ได้ ประมาณ กระเบื้อง 2 แผ่นครึ่ง สำหรับยูนิตนี้

Pause Sukhumvit 103

ฝักบัวที่ให้จาก American Standard เช่นเดียวกับสุขภัณฑ์ชิ้นอื่น โดยติดตั้งตัวช่วยถ่ายเทอากาศให้บริเวณฝ้า

Pause Sukhumvit 103

มาดูฝังของมุมครัว เครื่องดูดควันจะเป็นของ Teka

Pause Sukhumvit 103

สำหรับยูนิต มุมครัว จะเป็นในลักษณะ ไว้สามารถทำอาหารเบาๆ เพราะค่อนข้างเล็ก มีเนื้อที่จำกัด

Pause Sukhumvit 103

โดยใต้ลิ้นชักใส่อุปกรณ์เครื่องครัว มีช่องไว้สามารถนำไมโครเวฟมาวางได้

Pause Sukhumvit 103

นอกจากนี้ส่วนชั้นบน จะมีตู้ให้เก็บของเพิ่มเติม

Pause Sukhumvit 103

ซึ่งช่องว่างระหว่างโต๊ะเครื่องแป้งกับมุมทำอาหาร สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้

Pause Sukhumvit 103

ถัดมา จะเป็นส่วนของโซฟานั่งเล่น โดยปรับมาเป็นส่วนนั่งกินข้าวได้ ซึ่งจะกั้นด้วย ประตูกระจกเขียวใสขนาด 6 มม.

Pause Sukhumvit 103

ที่วางทีวี เป็นแบบแขวน แต่อาจจะลำบากนิดนึง เนื่องจากอยู่ใกล้เตาทำอาหาร

Pause Sukhumvit 103

ใต้ทีวี มีส่วนของชั้นและตู้ให้เก็บของ รวมถึงสามารถวางรองเท้าเพิ่มเติมได้

Pause Sukhumvit 103

เข้ามาด้านในส่วนของห้องนอน เตียงที่ได้จะเป็นขนาด 5 ฟุต

Pause Sukhumvit 103

ปลายเตียง ยังคงมีชั้นวางทีวี พร้อมจุดเชื่อมต่อเสาอากาศ

Pause Sukhumvit 103

แอร์ที่ได้จะเป็นแบบติดผนัง นอกจากนี้ยังมีลำโพง ระบบ Sound System ให้ทั้งในส่วนของห้องนอน และมุมนั่งเล่น

Pause Sukhumvit 103

ยังคงอยู่ในส่วนของห้องนอน ซึ่งบริเวณมุมห้อง ถูกออกแบบให้เป็นโต๊ะทำงาน สามารถมองวิวผ่านหน้าต่างบานกระทุ้งได้

Pause Sukhumvit 103

ตู้เสื้อผ้าขนาดสองบาน จะวางไว้บริเวณมุมด้านซ้ายของหัวเตียง ติดกับประตูบานเลื่อน ออกไปส่วนของระเบียง

Pause Sukhumvit 103

ประตูตรงระเบียง เป็นในลักษณะบานเลื่อน ขอบอลูมิเนียม กระจกเขียวใส ช่วยตัดแสง ความหนาขนาด 6 มม.

Pause Sukhumvit 103

ส่วนของบริเวณระเบียง สำหรับยูนิตนี้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ และมีราวกันตกแบบซี่เหล็ก

Pause Sukhumvit 103

บรรยากาศห้องตัวอย่าง Type B 26.5 – 28.9 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

Pause Sukhumvit 103

ประตูหน้าห้องของทุกยูนิต จะกรุผิวลามิเนต พร้อมตาแมวและ Digital Door Lock จาก Samsung

Pause Sukhumvit 103

นอกจากนี้ทุกยูนิตจะติดตั้งระบบ Sound System ให้ พร้อมลำโพงบริเวณส่วนของมุมนั่งเล่นและห้องนอน โดยสามารถเชื่อมต่อกับโทรทัศน์ อุปกรณ์มือถือได้

Pause Sukhumvit 103

ผลักประตูมา สำหรับยูนิตยอดนิยมนี้ จะพบส่วนของมุมนั่งเล่น โดยจะมีส่วนให้สามารถวางรองเท้าได้ ใต้ชั้นวางทีวี

Pause Sukhumvit 103

ชั้นวางทีวีค่อนข้างยาวและกว้างกว่า Type Bs ดังนั้นจึงสามารถนำทีวีขนาดใหญ่มาวางได้

Pause Sukhumvit 103

โซฟาส่วนนี้ ขนาดที่ได้ค่อนข้างกว้าง และสามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาดสองที่นั่งได้ โดยมีประตูบานเลื่อน กระจกเขียวใส ขนาด 6 มม. แบ่งกั้นโซนห้อง

Pause Sukhumvit 103

ครัวสำหรับยูนิตนี้ เป็นแบบปิด และสามารถทำอาหารมื้อหนัก มีกลิ่น อย่างอาหารไทยได้

Pause Sukhumvit 103

ตู้และชั้นเก็บของ ได้ตามรูป

Pause Sukhumvit 103

เตาไฟฟ้าที่ได้ 2 หัว จาก Teka

Pause Sukhumvit 103

ซิ้งค์ล้างจานจาก Teka

Pause Sukhumvit 103

ในห้องครัว ยังติดตั้งเต้าเสียบปลั๊ก ไว้เพื่อรองรับการใช้งานของผู้พักอาศัย

Pause Sukhumvit 103

ออกมาจากส่วนครัว สำหรับยูนิตนี้ โต๊ะทำงานจะอยู่ระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ

Pause Sukhumvit 103

ส่วนของตู้เก็บของด้านบนโต๊ะหนังสือ สามารถแปรสภาพเป็นตู้เก็บเสื้อผ้าเพิ่มได้

Pause Sukhumvit 103

เข้ามาในส่วนของห้องนอน ประตูจะเป็นแบบบานเลื่อน เมื่อเปิดมาสามารถนำกระจกหรือโต๊ะเครื่องแป้งมาทำเป็นมุมแต่งตัวได้ บริเวณส่วนปลายเตียง

Pause Sukhumvit 103

เตียงที่ได้ขนาด 5 ฟุต

Pause Sukhumvit 103

ห้องนอนยูนิตนี้ ความพิเศษอยู่ที่ รายล้อมด้วยกระจก และเป็นแบบเข้ามุม

Pause Sukhumvit 103

แอร์ที่ได้ ยังคงเป็นแบบติดผนัง

Pause Sukhumvit 103

หน้าต่างกระจกส่วนของห้องนอน เป็นแบบบานเลื่อน

Pause Sukhumvit 103

ตู้เสื้อผ้าขนาดสองประตู อยู่บริเวณหัวเตียงฝั่งขวา มีความสูงถึงเพดาน

Pause Sukhumvit 103

ออกมาจากห้องนอน ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ยูนิตนี้แถมอ่างอาบน้ำให้ด้วย

Pause Sukhumvit 103

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ

สำหรับผู้ที่มองหาการลงทุนคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise แถบเส้นสุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะแถบเอเซีย อย่างญี่ปุ่น กำลังให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นย่านที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมจะเริ่มต้นที่ประมาณ 10,000 บาท ต่อเดือนสำหรับห้องแบบสตูดิโอ และจะสูงขึ้นถึง 20,000 บาท ต่อเดือนสำหรับยูนิตขนาด 2-3 ห้องนอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

@ City Sukhumvit 101/1
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท สยาม โฮม ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดิน 7 ไร่ 23 ตารางวา แบ่งออกเป็น 2 อาคาร อาคาร A สูง 12 ชั้น และ อาคาร B สูง 14 ชั้น รวมทั้งหมด 799 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 34 – 54 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 43,000 บาท / ตร.ม.

@ city
ภาพ via atcitycondo.com

iCondo
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท ไบรท์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุงเทพ ในเครือ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด บนที่ดิน 9 ไร่ 1 งาน 43.50 ตารางวา อาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร 840 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30 – 47 ตร.ม. ที่จอดรถ 65 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 52,000 – 62,000 บาท / ตร.ม.

iCondo
ภาพ via www.pf.co.th

The Series
คอนโดมิเนียม ของบริษัท บี ที วาย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน 14 ตารางวา อาคารสูง 8 ชั้น 167 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 34.27 – 50.84 ตร.ม. ที่จอดรถ 65 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 52,000 – 62,000 บาท / ตร.ม.

the series
ภาพ via theseriescondo.com

บทสรุป
โครงการนี้ แม้ว่าอาจจะมีจุดด้อยในเรื่องของวิวทิวทัศน์ เนื่องจากเป็นคอนโดมิเนียม Low-rise ที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชน ดังนั้นจึงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ให้สำคัญกับเรื่องวิวทิวทัศน์ แต่หากมองกันดีๆ ถือว่าพอส สุขุมวิท 103 ค่อนข้างสะดวกสบายในเรื่องของการเดินทาง เนื่องจากสามารถลัดเลาะได้หลายเส้นทาง ทะลุได้ถึงสองซอยคือ สุขุมวิท 101 / 1 (วชิรธรรมสาธิต) และ 103 (อุดมสุข) อีกทั้งยังอยู่ห่างจากสถานี BTS (อุดมสุข) ในระยะราว 500 เมตร สามารถเดินได้ พร้อมชมของกินละลานตาตลอดข้างทาง นอกจากนี้ความเจริญของพื้นที่ในย่านนี้ที่ได้รับการยกระดับแบบเต็มพิกัดอย่างต่อเนื่อง แม้ช่วงนี้อาจจะยังมองไม่เห็นภาพชัดเจน แต่เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2561 ซึ่งไล่เลี่ยกับกำหนดแล้วเสร็จของโปรเจคใหญ่ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ทั้ง วิสซ์ดอม วันโอวัน, Bangkok Mall หรือแม้กระทั่งเฟสใหม่ๆ ของไบเทคบางนาและอาคารสำนักงานภิรัชบุรี แอทไบเทค เชื่อว่าความเจริญดังกล่าวจะส่งให้มูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับการลงทุน แน่นอนว่าคอนโดฯ ในโซนนี้ราคาไม่สูงเท่ากับสุขุมวิทชั้นในซึ่งห่างออกไปเพียงไม่กี่สถานี BTS เท่านั้น

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ (Maestro 01 Yen Akat)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/104345/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%25a1%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25aa%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25a3-01-%25e0%25b9%2580 www.ddproperty.com:news:104345 Wed, 19 Aug 2015 03:45:30 +0700 รีวิวโครงการ: มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ (Maestro 01 Yen Akat)
รีวิวโครงการ: มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ (Maestro 01 Yen Akat)

เมื่อที่ดินทำเลใจกลางเมืองเริ่มหายากขึ้นสำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ โดยเฉพาะที่ดินในแนวรถไฟฟ้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปมาก จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เริ่มมองหาทำเลทดแทน ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทำเลที่ยังคงอยู่ในเมือง เดินทางสะดวกสบาย และยังคงไว้ซึ่งความเงียบสงบเป็นส่วนตัว

หนึ่งในผู้ประกอบการที่เริ่ม พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ผุดแบรนด์ “มาเอสโตร” (Maestro) ออกมาเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเป็นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวนยูนิตน้อย ในทำเลศักยภาพ ห่างจากแนวรถไฟฟ้าในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร โดยยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นเมเจอร์ฯ ที่มีกลุ่มเป้าหมายในระดับกลาง-บน

โดยหนึ่งในคอนโดฯ แบรนด์มาเอสโตรที่เราจะพามารีวิวแบบเจาะลึกในวันนี้ก็คือ “มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ” (Maestro 01 Yen Akat) ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเย็นอากาศ มีจุดขายอยู่ที่เป็นซอยเส้นทางลัดออกไปยังถนนต่างๆ ได้หลากหลายเส้นทาง

Maestro 01

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม 2558)
ชื่อโครงการ: มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ (Maestro 01 Yen Akat)
ผู้พัฒนาโครงการ: บจก. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท (Major Development Estate)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยเย็นอากาศ 1 ถนนเย็นอากาศ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร
เว็บไซต์: MDE.co.th โทร: 02-287-2299

Maestro 01
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 0-3-98.3 ไร่
รูปแบบ: อาคารโลว์ไรส์ความสูง 8 ชั้น ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย และมองหาที่อยู่ย่านสาทร – พระราม 4
สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2559
ระบบความปลอดภัย: รปภ. 24 ชม. , CCTV, Key Card ล็อกชั้น
ส่วนที่พักอาศัย: ชั้น 1-8
ส่วนกลาง: ชั้น 2, ชั้นดาดฟ้า
ลิฟท์บริการ/ ใช้งาน: 2 ตัว
ที่จอดรถ: 80 คัน คิดเป็น 91% ของจำนวนห้อง
จำนวนยูนิต : 88 ยูนิต
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท / ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น: 4.5 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 135,000 บาท / ตร.ม.

Maestro 01 Yen Akat

รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า)
1. แบบ 1 ห้องนอน : พื้นที่ใช้สอย 33.5-50.5 ตร.ม. ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว
2. แบบ 2 ห้องนอน : พื้นที่ใช้สอย 68-70.5 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว
3. แบบ 2 ห้องนอน : (ดูเพล็กซ์) พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว
4. แบบ 3 ห้องนอน : (ดูเพล็กซ์) พื้นที่ใช้สอย 135-165 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมระเบียงส่วนตัว
แบบ 1 ห้องนอน

0009a4 0009a5 0009a6 0009a7 0009a8 0009a9 0009aa 0009eb0009ac 0009ad 0009ae  0009bf

แบบ 2 ห้องนอน

0009af 0009b0 0009b3 0009b4 0009b5 0009b6 0009b7 0009b9 0009ba  0009f9 0009fa
0009c0

แบบ 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์

0009bb 0009c2

แบบ 3 ห้องนอน ดูเพล็กซ์

0009bc 0009bd 0009be 0009c5 0009c6 0009c7

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น โครงการ มาเอสโตร 01 เย็นอากาศตั้งอยู่ที่ซอยเย็นอากาศ 1 ทำเลที่ยังคงอยู่ในโซนกลางเมือง ใกล้กับย่านธุรกิจอย่างสาทร สีลม และพระราม 4 เพียงแค่ปลีกออกมาจากพื้นที่ที่มีความหนาแน่นเ ซอยนี้ค่อนข้างเงียบสงบและเป็นส่วน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะพิจารณาเพื่อการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก
แต่สิ่งที่ตามมาของการอยู่ในเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือในช่วงของชั่วโมงเร่งด่วน เส้นนี้ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ประกอบกับเป็นถนนที่อยู่ในซอยแม้จะเป็นถนนที่วิ่งสวนกันได้ แต่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เลนขาเข้าพระราม 4 จะค่อนข้างหนาแน่นทีเดียว แต่ก็ยังพอที่จะสามารถลัดเลาะไปได้

แต่เดิมแล้วบริเวณโดยรอบโครงการเป็นย่านชุมชุนเก่าที่ไม่หนาแน่นมากนัก แต่เมื่อเริ่มมีนายทุนเข้ามาจับจองพื้นที่ ทำให้เกิดการพัฒนาของย่านนี้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีอยู่ออกไปโดยรอบของตัวโครงการแต่ไม่ถึงกับกระจุกตัวจนแออัดเสียทีเดียว

จากการตรวจสอบข้อมูลเก่าของพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทำให้ถ้าช่วงเวลาที่ฝนตกหนักๆ อาจจะมีน้ำท่วมขังบ้างในบางจุดของซอย เนื่องจากท่อน้ำมีขนาดที่เล็กทำให้อาจจะระบายน้ำไม่ทันไปบ้าง แต่จากการลงพื้นที่สำรวจเส้นทางของทีมงานพบว่าบริเวณปากท่อระบายน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นไม่แน่ว่าปัจจุบันอาจมีการปรับปรุงแก้ไขปัญหานี้แล้วก็เป็นได้

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ

แผนที่โครงการ แผนที่โครงการ

หน้าแปลงที่ดินโครงการ หน้าแปลงที่ดินโครงการ

ซอยตรงข้ามโครงการซอยตรงข้ามโครงการ

Sale Gallery Sale Gallery อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการไปประมาณ 700 เมตร ก่อนถึงท็อปส์ นางลิ้นจี่

สามแยกบริเวณถนนนางลิ้นจี่ ตัดกับถนนจันทร์ สามแยกบริเวณถนนนางลิ้นจี่ตัดกับถนนจันทร์อยู่บริเวณเยื้องๆ กับปากซอยเย็นอากาศ

แยกหน้าปากซอย เส้นถนนนางลิ่นจี่แยกหน้าปากซอย เส้นถนนนางลิ่นจี่

Top Market อยู่หน้าปากซอย เย็นอากาศTop Market อยู่หน้าปากซอย เย็นอากาศ

ทางลัดทะลุออกไปเส้นพระราม 4 ผ่านหน้าโครงการทางลัดทะลุออกไปเส้นพระราม 4 ผ่านหน้าโครงการ

ปากซอยงามดูพลีปากซอยงามดูพลี

เส้นทางขาเข้าตรงไป สีลม - สาธรเส้นทางขาเข้าตรงไป สีลม – สาธร

เส้นทางขาออกไปพระราม 4เส้นทางขาออกไปพระราม 4

การเดินทาง
เรื่องของการเดินทางบริเวณโดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เนื่องจากยังคงอยู่ในบริเวณกลางเมือง อีกทั้งอยู่ห่างจากระบบขนส่งมวลชนไม่ถึงกิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็น MRT สถานีลุมพินี และสีลม รวมไปถึง BTS ศาลาแดง และ ช่องนนทรี ที่มีอยู่โดยรอบ ประกอบกับเป็นเป็นเส้นทางที่ผู้คนใช้เป็นทางลัดเพื่อสัญจรกันเป็นประจำทำให้สภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน ถ้าหากนอกเหนือจากช่วงเวลานั้นก็สามารถใช้สัญจรได้อย่างปกติ

รถยนต์: เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักที่ใครหลายคนใช้ลัดออกไปเส้นทางอื่นกันอยู่เป็นประจำ อย่างเช่น สาทรซอย 1,3 นาราธิวาสซอย 17 ถนนนางลิ้นจี่ ถนนจันทน์ อีกฟากหนึ่งสามารถออกไปทางปากซอยงามดูพลี ก็จะเป็นเส้นพระราม 4 สามารถไปได้ทั้งสวนลุมพินี, สีลม และตัดขึ้นทางด่วนพระราม 4 ออกไปอีกทางก็เป็นเส้นพระราม 3 เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องเส้นทางทีเดียว
รถไฟฟ้า : MRT สถานีลุมพินี และสีลม รวมไปถึง BTS ศาลาแดง อยู่ห่างจากโครงการโดยประมาณ 1 กิโลเมตร
มอเตอร์ไซค์วิน : จากรถไฟฟ้า MRT สถานีลุมพินี ค่ารถ 30 บาท จากปากซอยงามดูพลี 20 บาท
รถตุ๊กๆ: มีท่าจอดอยู่บริเวณ ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต ปากซอยเย็นอากาศ
แท็กซี่ : วิ่งผ่านในซอยตลอดทั้งวัน

แผนที่เส้นทางโดยรอบแผนที่เส้นทางโดยรอบ

สถานที่แนว Lifestyle
จากการสำรวจบริเวณโดยรอบโครงการเริ่มจาก ถ้าเข้ามาทางสาทรซอย 3 วิ่งเส้นถนนนางลิ้นจี่ทางซ้ายมือบริเวณสี่แยกจะมีปั๊มบางจาก และมีบริการล้างรถ ขวามือเป็นท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต เข้าซอยไปไม่ถึง 100 เมตร เป็นศูนย์ฝึกสุนัก และพื้นที่ลานกีฬาขนาดใหญ่ทีเดียว ช่วงกลายซอยจะเป็นโซนบ้านเดี่ยว มีร้านอาหารบรรยากาศน่านั่ง ผุดให้เห็นอยู่ตลอดสองข้างทาง อีกทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติการ์เด้นอยู่ใกล้ๆ กับโครงการ เลยไปหน่อยตรงบริเวณสามแยกก็มี 7-11 ใหญ่ ตรงออกไปออกหน้าซอยงามดูพลีจะมีของกินขายริมถนนอยู่ตลอดแนว ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ ไปหน่อยเป็นสวนลุมพินี ตรงไปอีกนิดก็เป็นถนนเส้นสีลม – สาทร

วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย
วินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย

เป็นทางลัดออกไปได้หลายเส้นทาง
เป็นทางลัดออกไปได้หลายเส้นทาง

Top Market หน้าปากซอย เย็นอากาศ
อยู่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 300 เมตร

เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์   ภาพ : tourdulichthailand.net

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการ มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ พัฒนาภายใต้แนวคิดที่เน้นตอบสนองความต้องการของคนเมือง บนทำเลศักยภาพที่ครบครันแต่ไม่แออัด สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่เงียบสงบส่วนตัวกับใจกลางย่านธุรกิจของเมืองได้อย่างลงตัว โดยรูปแบบของตัวโครงการได้รับการออกแบบตามแนวสถาปัตยกรรมยุโรปให้ความรู้สึกที่ดูหรูหราในสไตล์คลาสสิก ผสมผสานเข้ากันกับความทันสมัยของเมือง

ด้านหน้าด้านหน้า
ด้านขาวด้านขาว
ด้านซ้ายด้านซ้าย
ด้านหลังด้านหลัง
RoofRoof พื้นที่ส่วนกลางเพื่อการพักผ่อน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ชั้น G แกรนด์ล้อบบี้, ตู้จดหมาย, สวนพักผ่อน, ลู่เก็บจักรยาน, ห้องพักรปภ., ห้องซักรีด
ชั้น 2 สระว่ายน้ำ, ห้องสตีม และซาวน่า, ห้องแต่งตัว
ชั้นบนสุด คลับรูม, ฟิตเนส, ลานโยคะ, สนามเด็กเล่น, ลานบาร์บีคิว, ศาลาพักผ่อน
อื่นๆ บริการรถรับส่ง, อินเตอร์เน็ทไร้สายตลอด 24 ชั่วโมง, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง


maestro01 pool
สระว่ายน้ำ
maestro01 Fit
ฟิตเนส
maestro01 Lounge
คลับรูม
maestro01 top
สวนพักผ่อน


Floor Plan ชั้น 1 – Roof  
GROUND
GRound
LEVEL 2 สระว่ายน้ำจะตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร ตัวสระ กว้าง 4.5 เมตร ยาว 12 เมตร ลึก 1.2 เมตร
L2
LEVEL 3 ส่วนพักอาศัย
L3
LEVEL 4 ส่วนพักอาศัย
L4
LEVEL 5 ส่วนพักอาศัย
L5
LEVEL 6 ส่วนพักอาศัย
L6
LEVEL 7 ส่วนพักอาศัย
L7
LEVEL 8 ส่วนพักอาศัย
L8
ROOF TOP พื้นที่พักผ่อน
Roof

รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
IMG_3039
ห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายมีให้ดู 1 แบบ ก็คือห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 68 ตารางเมตร เนื่องจากตัวโครงการเน้นไปทางกลุ่มของครอบครัวที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย
IMG_3040
ห้องของโครงการเป็นแบบตกแต่งแบบบิลท์อินตามแบบในห้องตัวอย่าง ส่วนตัวของเฟอร์นิเจอร์จะมีความแตกต่างกันนิดหน่อยตามแบบของห้องนอนที่เลือก
IMG_3042
บรรยากาศภายในห้องโถงกลาง

มุมมองของวิวจากบริเวณของโซฟาห้องโถงกลาง
โซฟาสีขาวสะอาดตาตัดกับสวดลายสีดำดูหรูหรา แต่เรียบง่าย
โซฟาสีขาวสะอาดตาตัดกับสวดลายสีดำดูหรูหรา แต่เรียบง่าย
โต๊ะทานอาหารดูหรูหราดี แต่ติดกับโซนฟาไปหน่อย
โต๊ะทานอาหารดูหรูหราดี แต่ติดกับโซนฟาไปหน่อย
พื้นที่ระเบียงกว้างขวาง มีโซฟาเบดไว้พักผ่อน
พื้นที่ระเบียงกว้างขวาง มีโซฟาเบดไว้พักผ่อนวัสดุเรียบหรูดูสวยงามลงตัว วัสดุเรียบหรูดูสวยงามลงตัวห้องครับเป็นรูปตัว u แบ่งเป็นสัดส่วนสะดวกต่อการใช่งาน
ห้องครับเป็นรูปตัว u แบ่งเป็นสัดส่วนสะดวกต่อการใช่งาน
ห้องครัวบิ้วอินท์ แบบยกลอยเป็นสัดส่วน ดูกว้างขวาง
ห้องครัวบิ้วอินท์ แบบยกลอยเป็นสัดส่วน ดูกว้างขวาง
มุมมองจากภายห้องครัว
มุมมองจากภายห้องครัว

ห้องน้ำด้านนอก แบ่งโซนแห้งกับเปี้ยกด้วยกระจกใสบานใหญ่
ห้องน้ำด้านนอก แบ่งโซนแห้งกับเปี้ยกด้วยกระจกใสบานใหญ่

มุมมองจากห้องอาบน้ำออกมาด้านนอก
มุมมองจากห้องอาบน้ำออกมาด้านนอก
บรรยากาศห้องนอนเล็ก แต่รู้สึกว่ากว้างขวางไม่เล็กเหมือนชื่อเลย
บรรยากาศห้องนอนเล็ก แต่รู้สึกว่ากว้างขวางไม่เล็กเหมือนชื่อเลย
ห้องดูกว้างขาวง สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆ
ห้องดูกว้างขวาง สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายๆมุมมองจากโซฟาเบด
มุมมองจากโซฟาเบด
โซฟาเบดนอนได้อีกคนมีขนาดเท่ากับตัวที่อยู่บริเวณระเบียง
โซฟาเบดนอนได้อีกคนมีขนาดเท่ากับตัวที่อยู่บริเวณระเบียง
เสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของแบบบิลท์อิน
เสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของแบบบิลท์อิน
เตียงนุ่มสบายเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น
เตียงนุ่มสบายเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น
โต๊ะหนังสือดูจะพอดีกับระยะของประตูตู้เสื้อผ้า
โต๊ะหนังสือดูจะพอดีกับระยะของประตูตู้เสื้อผ้าพอดิบพอดี
โต๊ะหนังสือรู้สึกว่าจะเล็กไปนิด แต่ก็ใช้โซฟาเบดแทนได้
โต๊ะหนังสือรู้สึกว่าจะเล็กไปนิด แต่ก็ใช้โซฟาเบดแทนได้
ชั้นวางของกว้างขวางใช้งานได้อย่างเต็มที่
ชั้นวางของกว้างขวางใช้งานได้อย่างเต็มที่
บรรยากาศห้องนอนใหญ่
บรรยากาศห้องนอนใหญ่
รู้สึกว่าจะมีพื้นที่น้อยบริเวณห้องนอนกว่าห้องนอนเล็กอย่างเห็นได้ชัด
รู้สึกว่าจะมีพื้นที่น้อยบริเวณห้องนอนกว่าห้องนอนเล็กอย่างเห็นได้ชัด
เตียงสีขาวเรียบๆ คุมโทนผนังห้องสีเทา
เตียงสีขาวเรียบๆ คุมโทนผนังห้องสีเทา
มีโซฟาเบดเช่นกัน
มีโซฟาเบดเช่นกัน
ทางข้างห้องถูกแบ่งส่วนพื้นที่ไปกับห้องน้ำ และห้องแต่งตัว
ทางข้างห้องถูกแบ่งส่วนพื้นที่ไปกับห้องน้ำ และห้องแต่งตัว
เปิดห้องนอนให้เข้ามาเจอตู้เสื้อผ้าบิลท์อินเลย
เปิดห้องนอนให้เข้ามาเจอตู้เสื้อผ้าบิลท์อินเลย
บริเวณหน้าห้องน้ำเป็นห้องแต่งตัว มีตัวเสื้อผ้าอีก 2 ตู้
บริเวณหน้าห้องน้ำเป็นห้องแต่งตัว มีตัวเสื้อผ้าอีก 2 ตู้
มองมองจากห้องแต่งตัว
มองมองจากห้องแต่งตัว
วัสดุเหมือนกันกับห้องน้ำด้านนอกทุกอย่าง
วัสดุเหมือนกันกับห้องน้ำด้านนอกทุกอย่าง
เรียบง่ายสวยงามเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานสะดวกสบาย
เรียบง่ายสวยงามเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานสะดวกสบาย
มุมมองจากบริเวณระเบียง
มุมมองจากบริเวณระเบียง
มองโต๊ะหนังสือห้องนอนเล็ก
มองโต๊ะหนังสือห้องนอนเล็ก
มองจากห้องครัวไปห้องนอน
มองจากห้องครัวไปห้องนอน
ภาพรวมของโต๊ะอาหาร
ภาพรวมของโต๊ะอาหาร
โฟซาห้องโถงกลาง
โฟซาห้องโถงกลาง
พื้นที่บริเวณห้อง
พื้นที่บริเวณห้อง
จบการรีวิวห้อง มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ
จบการรีวิวห้อง มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ

สรุปสิ่งที่จะได้รับ
พื้น: ไม้ลามิเนต
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.45 เมตร
ระเบียง: ขนาดประมาณ 1.2 x 3 เมตร
ผนัง : ฉาบเรียบเน้นสีขาวกับเทา
ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัวบิลท์อินฝังเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจานพร้อมก็อกน้ำจาก Electrolux
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: กระเบื้องผนังลายโมเสส กระจกบานใหญ่ สุขภัณฑ์และก็อกน้ำจากแบรนด์ American Standard
เครื่องปรับอากาศ: Trane
เฟอร์นิเจอร์: รูปแบบตามห้องที่เลือก

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน

โครงการเป็นแบบโลว์ไรส์ ตั้งอยู่ในย่านชุมชนที่เงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัยในทำเลเมืองราคาขายเฉลี่ยของโครงการอยู่ที่ 135,000 บาท / ตร.ม. ประกอบกับยูนิตที่มีจำนวนไม่มากทำให้ได้ในเรื่องความเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย แต่ถ้าหากคิดจะปล่อยเช่า โดยประเมินแล้ว ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 33.5 ตร.ม ค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท/ เดือน แบบ 2 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 68-70.5 ตร.ม. ค่าเช่าจะตกอยู่ที่ประมาณ 35,000 บาท ส่วนห้องใหญ่แบบ 2 ห้องนอน แบบดูเพล็กซ์ และ 3 ห้องนอน แบบดูเพล็กซ์ ทางโครงการบอกว่าคนจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยมากกว่าที่จะซื้อเพื่อลงทุน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ในซอยเย็นอากาศ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว ส่วนคอนโดมิเนียมพอมีให้เห็นอยู่บ้างแต่จะกระจายตัวกันอยู่โดยรอบ โดยจะเป็นโครงการโลว์ไรส์ทั้งหมด

รีสอร์ทต้า เย็นอากาศ (Resorta Yen-Akat)
126785-1
ภาพ : thaihometown.com

คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ของ บริษัท โกลด์แมน จำกัดอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวม 308 ยูนิต บนเนื้อที่ 3-2-22 ไร่ (1,422 ตร.วา) คอนโดฯสไตล์รีสอร์ท ด้วยพื้นที่สวนส่วนกลางที่ร่มรื่นสไตล์บาหลี บรรยากาศเงียบสงบ แบ่งเป็น 1 ห้องนอน ขนาด 39-55 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.39 ล้านบาท จนไปถึง แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 88-104 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 6 ล้านบาท

บริดจ์ สาทร-นราธิวาส (Bridge Sathorn Narathiwas)
1439292304341
คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ของ ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 91 ยูนิต ออกแบบสไตล์ Modern Loft Luxury พร้อมกระจกบ้านใหญ่ที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง แบ่งห้องเป็นสัดส่วนชัดเจนด้วยการกั้นส่วนห้องพักอาศัยและส่วนของห้องครัว สะดวกสบายสำหรับการเดินทาง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนพระราม3 BRT สถานีจันทน์ ราคาเริ่มต้น 3,490,000 บาท

บทสรุป
มาเอสโตร 01 เย็นอากาศ เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย ทำเลที่ตั้งอยู่ในเมืองเดินทางสะดวก ด้วยตัวของโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยทำให้เหมาะกับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัวหรือผู้ที่ต้องสัญจรผ่านบริเวณนี้เพื่อเข้าเมืองเป็นประจำ รวมไปถึงคนที่ชอบมีไลฟ์สไตล์อยู่ในเมือง แต่การเดินทางไม่ได้จำกัดอยู่ที่รถยนต์ส่วนบุคคลเท่านั้น เพราะทางโครงการยังมี Shuttle Service พาลูกบ้านไปดร็อปตามจุดต่างๆ ของซอยรวมไปถึงตามสถานีรถไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าสะดวกสบายทีเดียว

อีกทั้งตัวโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่บนชั้นบนสุดทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้สัมผัสกับชีวิตในเมืองในมุมมองที่ต่างออกไป สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการเองก็มีอยู่อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ ห้องสตีม และซาวน่า ห้องแต่งตัว ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ชั้นบนสุดมีทั้ง คลับรูม ฟิตเนส ลานโยคะ สนามเด็กเล่น ลานบาร์บีคิว ศาลาพักผ่อน ฯลฯ โดยรวมแล้วถือเป็นโครงการที่ถือว่าครบเหมาะกับคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย

ส่วนใครที่คิดจะซื้อเพื่อการลงทุนนั้น โครงการมีราคาที่ค่อนข้างสูง ถ้าคิดจะลงทุนเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินระยะยาวแนะนำให้เลือกแบบ 2 ห้องนอนน่าจะดีกว่า แต่ถ้าต้องการซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่าแล้ว แบบ 1 ห้องนอนน่าจะดีกว่า ส่วนแบบอื่นๆ นั้นเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยมากกว่าไม่แนะนำสำหรับการลงทุน

เรื่องข้างต้นเขียนโดย วัชระ วงศ์สง่า Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ Kittikom@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:ไอคอน วงแหวน-พระราม 9 (Icon Wongwean–Rama 9)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/102776/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:102776 Wed, 19 Aug 2015 02:25:06 +0700

หากเอ่ยถึงแบรนด์ “เนอวานา” ต้องยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งมากในตลาดบ้านแนวราบ โดยเฉพาะโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก เพราะมีโครงการในย่านนี้หลายโครงการ ซึ่งก่อนหน้านี้ หลายคนอาจจะเคยได้ชมบรรยากาศของโครงการบ้านเดี่ยว บียอนด์ ไลท์ (Beyond Lite) ไปแล้ว รอบนี้ เป็นคิวของโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 (Icon Wongwean–Rama 9) อีกหนึ่งโครงการที่อยู่ในทำเลใกล้เคียงกัน

สำหรับโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 เป็นบ้านเดี่ยว 2 บริเวณใกล้เคียงกับโครงการบียอนด์ ไลท์ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า Airport Link บ้านทับช้าง 800 เมตร มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมสำหรับครอบครัว เช่น คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. กล้อง CCTV ในราคาประมาณ 10-18 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หากมาถึงตัวโครงการแล้วเจอป้ายโครงการณุศาศิริ พระราม 9-วงแหวน ด้วย ไม่ต้องแปลกใจ เพราะโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 อยู่บนพื้นที่เดียวกับโครงการณุศาศิริ พระราม 9-วงแหวน เป็นนิติบุคคลหมู่บ้านเดียวกัน โดยหากรวมที่อยู่อาศัยของทั้ง 2 โครงการแล้วมีประมาณ 200 ยูนิต เป็นส่วนของไอคอน วงแหวน-พระราม 9 จำนวน 60 ยูนิต

Icon Wongwaen-Rama9

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: ไอคอน วงแหวน-พระราม 9 (Icon Wongwean–Rama 9)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เนอวานา พระราม 9 จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
เนื้อที่โครงการ: ประมาณ 60 ไร่
รายละเอียดโครงการ
จำนวน 60 ยูนิต (ขายไปแล้ว 45 ยูนิต)
สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ คลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, โซนคิดส์คลับ, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม., กล้องวงจรปิด CCTV, และรถกอล์ฟส่งที่ Airport Link สถานีบ้านทับช้าง

สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างก่อสร้าง (ปัจจุบันมี 2 ยูนิตที่พร้อมอยู่ มีสระว่ายน้ำในตัวบ้าน)
ค่าส่วนกลาง: 25 บาท/ ตร.ว./ เดือน เก็บล่วงหน้า 2 ปี และค่าแรกเข้า 30,000 บาท ชำระครั้งเดียว
บ้านที่อยู่ระหว่างขายปัจจุบัน ราคาเริ่มต้น 10.5 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558)

รูปแบบบ้าน มีด้วยกัน 6 แบบ
แบบบ้านในโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 มีให้เลือก 6 แบบ คือ
-SPIRIT พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน
-SPIRIT SPECIAL พื้นที่ใช้สอย 210 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน
-ELEMENT พื้นที่ใช้สอย 225 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน
-LIFE & SOUL พื้นที่ใช้สอย 265 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน 1 ห้องแม่บ้าน
-INSPIRATION พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้า ที่จอดรถ 2 คัน 1 ห้องแม่บ้าน
-NEW INSPIRATION พื้นที่ใช้สอย 277 ตร.ม. ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้านที่จอดรถ 2 คัน

Icon Wongwaen-Rama9

สำหรับแบบบ้านที่พามารีวิววันนี้ คือ แบบ NEW INSPIRATION ซึ่งเป็นแบบบ้านใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ขนาดที่ดิน 80-144 ตร.ว. ฟังก์ชั่นตัวบ้าน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท (ปัจจุบันเหลือแค่ 7 ยูนิต) เน้นการปรับเปลี่ยนพื้นที่ภายในบ้านได้ตามต้องการ

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
อย่างที่กล่าวแล้วว่าโครงการ ไอคอน วงแหวน-พระราม 9 อยู่ใกล้กับโครงการบียอนด์ ไลท์ ซึ่งอยู่ย่านพระราม 9-มอเตอร์เวย์ จุดเด่นสำคัญของย่านนี้ คือ การเดินทางที่สะดวก ทั้งเข้าเมือง หรือทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะออกไปทางชลบุรีก็มีความสะดวกมาก และปัจจุบันมีรถไฟฟ้า Airport Link ผู้อยู่อาศัยย่านนี้จึงมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยรถยนต์ หรือจะเดินทางด้วย Airport Link ก็สะดวกไม่แพ้กัน

ในส่วนของการเดินทางเข้าตัวโครงการ ฝั่งที่ใกล้กับมอเตอร์เวย์ เมื่อลงทางด่วนมาจากทางพระราม 9 เข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์ ชิดซ้าย ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งด้านซ้ายมือ ก่อนถึงโค้งวงแหวนกาญจนาภิเษก เข้าสู่โครงการที่อยู่ฝั่งนี้ได้เลย จึงถือว่ามีความสะดวกมาก ขณะที่ช่วงเช้า ก็สามารถขับวนเกือกม้า ข้ามฝั่งไปขึ้นทางด่วนเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวกเช่นกัน

นอกจากนี้ โครงการยังใกล้กับ Airport Link สถานีบ้านทับช้างมาก (อยู่ฝั่งตรงกันข้าม) สามารถเดินจากตัวโครงการมาทางมอเตอร์เวย์ และข้ามสะพานลอยไปยัง Airport Link สถานีบ้านทับช้างได้อย่างสะดวกมาก โดยโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 ก็มีบริการรถกอล์ฟส่งลูกบ้านไปยังปากซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ฝั่งมอเตอร์เวย์ เพื่อขึ้นสะพานลอยข้ามไป Airport Link สถานีบ้านทับช้างได้

Airport Link station
ภาพ via srtet.co.th

การเดินทาง
1. ด้วยรถยนต์ ลงทางด่วนเข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์ ตรงมาเล็กน้อย สังเกตทางเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 32 หรือมีข้อสังเกตง่ายๆ คือ ปากทางเข้าจะมีสะพานลอยคนข้ามเพื่อไป Airport Link สถานีบ้านทับช้าง เลี้ยวเข้าซอยไปเล็กน้อย (จะเจอกับโครงการบียอนด์ ไลท์ก่อน ให้เลี้ยวไปทางขวา ตรงไปเล็กน้อยจะเจอโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 ซึ่งใช้ทางเข้าเดียวกับโครงการณุศาศิริ พระราม 9-วงแหวน หรือวิ่งเส้นเลียบมอเตอร์เวย์เลยสะพานลอยตรงสถานีบ้านทับช้างประมาณ 800 เมตรก่อนถึงโค้งวงแหวนกาญจนาภิเษก จะเจอทางเข้าโครงการฝั่งด้านซ้าย

Airport Link

2. ด้วย Airport Link ค่อนข้างสะดวก นั่งมาลงสถานีบ้านทับช้าง แล้วข้ามสะพานลอยมา เข้าสู่ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ซึ่งในช่วงเวลาเช้าๆ และเย็นๆ จะมีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ หรือหากเป็นลูกบ้านเนอวานา สามารถเรียกบริการรถกอล์ฟรับส่งที่ Airport Link ได้ฟรี

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ
1. Airport Link สถานีบ้านทับช้าง
2. ตลาดกรุงเทพกรีฑา
3. เทสโก้ โลตัส
4. โรงพยาบาลสิรินธร

Smitivej Srinakarin
ภาพ via samitivejhospitals.com

5. โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
6. โรงพยาบาลวิภาราม
7. ยูนิโก้ แกรนด์ กอล์ฟ คอร์ส
8. กรุงเทพกรีฑา สปอร์ต คลับ

Stamford Intl University Bangkok
ภาพ via stamford.edu

9. มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตกรุงเทพฯ


สถานที่แนว Lifestyle ย่านวงแหวน-พระราม 9

The Nine Rama 9
ภาพ via thenine.co.th

เดอะ ไนน์ พระราม 9 ไลฟ์สไตล์มอลล์ย่านพระราม 9 ฝั่งมุ่งหน้าศรีนครินทร์ มอเตอร์เวย์ มีร้านอาหารครบทั้งไทย ญี่ปุ่น จีน ฟู้ดคอร์สสไตล์ตลาดสด มีซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสินค้าแฟชั่นต่างๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่กิน ดื่ม แฮงค์เอาท์สำหรับคนเมืองฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก

Seacon Square Pattanakarn
ภาพ via facebook.com/SeaconSquareFanPage

ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 77 ไร่ ริมถนนศรีนครินทร์ ระหว่างแยกสวนหลวงและแยกศรีอุดม ห่างจากถนนบางนา-ตราด 2 กิโลเมตร และห่างจากทางหลวงกรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ 3 กิโลเมตร ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงภาพยนตร์ สินค้าแฟชั่น ไอที แม้จะไม่ใช่ที่แฮงค์เอาท์แบบกินดื่มเที่ยว แต่ก็เป็นแหล่งช้อปปิ้งแบบครบวงจร รวมถึง มีสถาบันการเงินเปิดให้บริการเกือบครบทุกราย

Paradise Park
ภาพ via facebook.com/paradiseparkfanpage

พาราไดซ์พาร์ค เป็นศูนย์การค้าเต็มรูปเหมือนกับซีคอนสแควร์ โดยเดิมเป็นศูนย์การค้าเสรีเซ็นเตอร์ จนเมื่อปี 2551 กลุ่มสยามพิวรรธ์และเอ็มบีเค ดีเวลอปเมนท์ ได้เข้ามาบริหารเทคโอเวอร์พร้อมกับปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เป็นศูนย์การค้าระดับกลาง และปัจจุบันยังดึงห้างสรรพสินค้าโตคิว ซึ่งมีสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเอ็มบีเค มาเป็นที่ พาราไดซ์ พาร์ค เป็นแห่งที่สองในประเทศไทยด้วย

รีวิวบ้านในโครงการไอคอน วงแหวน-พระราม 9 แบบบ้าน NEW INSPIRATION

Icon Wongwaen-Rama9

สิ่งที่โครงการติดตั้งให้: สัญญาณกันขโมย, ปั๊มน้ำ+แท้งค์น้ำ, วอลล์เปเปอร์, จัดสวนมาตรฐาน และเครื่องปรับอากาศ 3 ตัว (แบบบ้าน ELEMENT และแบบบ้าน SPIRIT มีสระว่ายน้ำ ส่วนแบบบ้าน NEW INSPIRATION ตามบ้านตัวอย่างที่มีสระว่ายน้ำเป็นเพียงไอเดียที่โครงการออกแบบไว้ให้ แต่ในช่วงโปรโมชั่นจะมี Gift Voucher ต่อเติมสระว่ายน้ำฟรี)

Icon Wongwaen-Rama9

บรรยากาศบ้านตัวอย่างแบบ บ้าน NEW INSPIRATION
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินขนาด 80.3-144 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม. ฟังก์ชั่นตัวบ้าน 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 ส่วนครัว, 1 ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 2-3 คัน โดยพื้นที่รอบบริเวณบ้านจะมีสวนที่ทางโครงการจัดไว้ให้เรียบร้อย

Icon Wongwaen-Rama 9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

เริ่มด้วย:
ชั้นล่าง รับแขก ทำครัว ห้องนั่งเล่น

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

เมื่อเดินเข้าสู่ตัวบ้านจะเจอมุม ซึ่งจะเรียกว่าเป็นมุมห้องนั่งเล่น หรือมุมอเนกประสงค์ก็ได้ แต่ทางโครงการออกแบบให้เป็นมุมนั่งทำงาน และมุมนั่งเล่นติดกัน ซึ่งเป็นส่วนที่ค่อนข้างกว้าง ประกอบกับ ความสูงเพดาน 2.6 เมตร จึงทำให้เป็นมุมพักผ่อนขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของแบบบ้าน NEW INSPIRATION

Icon Wongwaen-Rama9

ห้องน้ำ

Icon Wongwaen-Rama9   Icon Wongwaen-Rama9

ใกล้กับห้องนั่งเล่น จะเห็นห้องน้ำ ที่ให้อุปกรณ์ครบชุด แยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง จะเป็นอ่างล้างหน้า กระจก มีตู้เก็บของเล็กๆ มีสุขภัณฑ์อยู่ด้านข้าง และราวแขวนผ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างหน้า ส่วนพื้นที่เปียก มีฝักบัว พร้อมด้วยหน้าต่างกระจกบานเลื่อน สำหรับรับแสงธรรมชาติ และระบายอากาศ

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9  Icon Wongwaen-Rama9

ถัดจากห้องน้ำ จะเป็นห้องนอนด้านล่างหรือห้องอเนกประสงค์ โดยห้องนี้สามารถปรับได้ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน จะเป็นห้องสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ หรือจะเป็นห้องทำงานเหมือนกับที่บ้านตัวอย่างออกแบบไว้

ห้องครัวมาตรฐาน และห้องแม่บ้าน

ห้องครัวจะเป็นห้องเปล่า ให้เจ้าของบ้านเลือกรูปแบบของครัวได้ตามความต้องการ ซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ ที่ออกแบบไว้เผื่อจะทำเป็นห้องรับประทานอาหารไปในตัวด้วย โดยตามแบบบ้านตัวอย่าง จะมีมุมรับประทานอาหารที่เห็นวิวด้านนอก ที่อยู่ด้านข้างมุมครัวที่ออกแบบไว้เป็นเคาน์เตอร์ครัวก่อปูน ปิดหน้าเคาน์เตอร์ด้วยแกรนิตโต้สีครีม

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

สำหรับบริเวณหลังบ้าน ด้านหลังห้องครัว จะเป็นห้องแม่บ้าน พร้อมด้วยห้องน้ำอุปกรณ์พื้นฐานครบ เพื่อสะดวกในการอยู่อาศัยและทำงานภายในบ้าน

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

ชั้น 2 ห้องมาสเตอร์เบดรูม และอีก 2 ห้องนอนกลาง

สำหรับชั้น 2 จะแบ่งเป็น Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่, ห้องนอนขนาดกลางอีก 2 ห้อง และมีพื้นที่ที่เป็นมุมอเนกประสงค์ หรือมุม Family Room

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9   Icon Wongwaen-Rama9

เมื่อเดินขึ้นบันไดไม้เคลือบมันมายังชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่โล่ง ซึ่งเรียกว่าเป็นมุมมอเนกประสงค์ โดยบ้านตัวอย่างออกแบบไว้เป็นมุมทำงานเล็กๆ และมุมพักผ่อน ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถปรับเป็นมุมที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองได้

มาสเตอร์เบดรูม +ห้องน้ำ

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

Icon Wongwaen-Rama9

อีกหนึ่งจุดเด่นของแบบบ้านในเครือเนอวานาคือ ห้องนอนใหญ่หรือมาสเตอร์เบดรูมจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยแบบบ้าน NEW INSPIRATION ทางเดินเข้าสู่ห้องมาสเตอร์เบดรูม จะเป็นโถงทางเดิน ที่ด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ส่วนขวามือ ตามบ้านตัวอย่างออกแบบไว้เป็นตู้เสื้อผ้าบิลท์อินเพื่อเป็นไอเดียตกแต่งสำหรับลูกค้า

Icon Wongwaen-rama9

Icon Wongwaen-rama9

ในส่วนของห้องน้ำ ได้อุปกรณ์ครบ แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยส่วนแห้ง มีกระจก อ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ พื้นที่ตรงข้ามชุดอ่างล้างหน้าเป็นอ่างอาบน้ำ ส่วนพื้นที่เปียก มีอุปกรณ์ฝักบัว จะเห็นว่า ห้องน้ำในห้องมาสเตอร์เบดรูม ออกแบบไว้ให้โปร่ง โล่ง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความผ่อนคลายมากขึ้น

Icon Wongwaen-rama9

ห้องนอนกลาง พร้อม Walk- in Closet และห้องน้ำภายในตัว

สำหรับห้องนี้ เรียกว่าเป็นน้องๆ Master Bedroom เลย แตกต่างกันตรงที่ห้องมาสเตอร์เบดรูมจะไม่ได้ออกแบบให้มีส่วนที่เป็น Walk-in Closet แต่จะได้ห้องน้ำขนาดใหญ่และมีอ่างอาบน้ำ ส่วนห้องนอนกลาง ถูกออกแบบให้มีพื้นที่ที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้

ห้องนอนนี้ก็ถือว่ามีความกว้าง และโปร่งโล่ง ไม่แพ้ห้องมาสเตอร์เบดรูม มีพื้นที่วางเตียงนอน และพื้นที่โล่ง ที่สามารถทำเป็นมุมพักผ่อนก็ได้ หรือมุมนั่งทำงานก็ได้ ส่วนทางเดินไปห้องน้ำ จะออกแบบให้มีพื้นที่ที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet เหมือนกับบ้านตัวอย่าง ซึ่งไอเดียนี้เรียกว่าสร้างความสนใจให้กับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการพอสมควร

Icon Wongwaen-rama9

Icon Wongwaen-rama9

Icon Wongwaen Rama9

Icon Wongwaen-rama9 Icon Wongwaen Rama9

ห้องน้ำ ได้อุปกรณ์ครบ แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยส่วนแห้ง มีกระจก อ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่เปียก มีอุปกรณ์ฝักบัว

Icon Wongwaen Rama9

ห้องนอนเล็ก และห้องน้ำในตัว
จากบ้านตัวอย่าง ห้องนี้ออกแบบตกแต่งให้เป็นห้องเด็ก เน้นโทนสีฟ้า ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถปรับใช้ห้องนี้ได้ตามความต้องการ เพราะบ้านจริง ห้องนี้จะเป็นห้องเปล่า มีบานหน้าต่างกว้าง และแม้จะเป็นห้องนอนเล็กที่มีพื้นที่ไม่มากเท่ากับ 2 ห้องนอนก่อนหน้านี้ แต่ก็พื้นที่ว่างให้ทำประโยชน์ได้ ซึ่งตามบ้านตัวอย่างทำเป็นมุมทำเลงานเล็กๆ ส่วนพื้นที่ปลายเตียง ตามมบ้านตัวอย่าง ออกแบบให้เป็นตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน

Icon Wongwaen-rama9

Icon Wongwaen-Rama9

ห้องน้ำเล็ก ได้อุปกรณ์ครบ แยกพื้นที่ส่วนแห้ง และส่วนเปียก โดยส่วนแห้ง มีกระจก อ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่เปียก มีอุปกรณ์ฝักบัว

Icon Wongwaen-rama9  Icon Wongwaen-Rama9

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม 9-ศรีนครินทร์

Bangkok Boulevard Rama9-Srinakarin

บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดเริ่มต้นที่ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ของค่ายเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑา ใกล้กับสถานี Airport Link บ้านทับช้าง และทางด่วนพระราม 9 จำนวน 161 ยูนิต ประกอบด้วยบ้าน 3 แบบ พื้นที่ใช้สอย 209-272 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 8.99-12 ล้านบาท

ลลิล กรีนวิลล์ พระราม9-อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ

Lalin Greenville Rama9_OnNut_Suvarnabhumi

บ้านเดี่ยว 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ติดสถานี Airport Link บ้านทับช้าง จากค่ายลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่โครงการ 118 ไร่ จำนวน 425 ยูนิต ประกอบด้วยบ้าน 7 แบบ เนื้อที่ตั้งแต่ 54-100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 180-300 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 7-13 ล้านบาท

บทสรุป
โครงการนี้ มีจุดเด่นด้านที่ทำเลที่ตั้ง ในราคาที่ถือว่าคุ้มค่า เพราะเดินทางเข้าเมืองสะดวก ใกล้กับถนนมอเตอร์เวย์ จะออกนอกเมืองไปทางชลบุรีก็ง่าย หรือจะเข้าเมืองก็สะดวกมาก โดยหากเทียบกับโครงการบ้านหรู บริเวณคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ฝั่งแนว Airport Link ส่วนใหญ่จะมีราคาที่สูงกว่าโครงการฝั่งนี้ ดังนั้น ไอคอน วงแหวน-พระราม 9 ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจของคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้เมืองในราคาที่คุ้มค่า

ขณะที่หากวิเคราะห์ในเชิงฟังก์ชั่นตัวบ้าน แบบบ้าน NEW INSPIRATION แม้จะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แต่ขนาดที่ดินของตัวบ้านใหญ่ เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ที่มีหลายเจนเนอเรชั่น เพราะมีเพียง 2 ชั้น และยังออกแบบให้มีห้องด้านล่าง ซึ่งสามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานก็ได้

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: วิลล่า อโศก (Villa Asoke)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/104900/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25a5%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%25b2-%25e0%25b8%25ad%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25a8 www.ddproperty.com:news:104900 Tue, 18 Aug 2015 02:26:25 +0700

เมื่อ “ทำเล” คือสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการสร้างจุดขายของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ความน่าสนใจของโครงการนั้นๆ ก็ยิ่งได้รับการจับตา อย่างย่านธุรกิจอย่างบริเวณถนนอโศก-เพชรบุรี ซึ่งนอกจากจะรายล้อมไปด้วยอาคาร สำนักงาน ร้านค้าแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ แถมด้วยการเดินทางที่สะดวก เชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ทั้งรถไฟฟ้า BTS, MRT, แอร์พอร์ตลิ้งค์ หรือแม้แต่การโดยสารทางเรือ (เส้นทางคลองแสนแสบ) และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอที่ทำให้บรรดาดีเวลลอปเปอร์หลายรายต่างพาเหรดเข้ามาจับจองที่ดินเพื่อปักหมุดโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือคอนโดมิเนียม โดยหนึ่งในนั้นคือ ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ อสังหาฯ รายใหญ่ของตระกูลศิริวัฒนภักดีของเจ้าสัวเจริญ  ที่แม้ช่วงหลังจะไม่ค่อยได้มีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ พัฒนาออกมา แต่โครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้าก็ล้วนแต่ยึดทำเลที่เรียกว่า “ไพร์ม” ไปครอง ไม่ว่าจะเป็น โครงการแอทธินี เรสซิเด้นซ์ บนถนนวิทยุ, วิลล่า สาทร, วิลล่า ราชเทวี, ดิ เอ็มโพริโอ เพลส สุขุมวิท 24 รวมทั้ง “วิลล่า อโศก” โครงการที่เราจะพามารีวิวกันแบบเจาะลึกในวันนี้

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: วิลล่า อโศก (Villa Asoke)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ทีซีซี แคปปิตอล แลนด์ จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (ใกล้แยกอโศก – เพชรบุรีตัดใหม่) แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กทม.

Villa Asoke

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 4 ไร่ 1 งาน 15 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 42 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 525 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงาน และครอบครัวสมัยใหม่
สถานะก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมอยู่ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2551 แล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2555
ระบบความปลอดภัย: ควบคุมการเข้าออกโดย Access Key Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 6 – 42
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็น ชั้น 6 (Kid’s Club, Game Room, Swimming Pool, Fitness, Sauna และ Mini Golf), และ ชั้น 39 (Sky Lounge, Sky Library, Mini Home Theater และ Sky Garden)
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น G – 5 สามารถจอดได้ 381 คัน (คิดเป็น 70 % ไม่รวมซ้อนคัน) โดยยูนิตขนาด 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 3 ห้องนอน และ เพนท์เฮาส์ ได้รับสิทธิจอดแบบ Fix ได้ในชั้น 2 (ค่าจอดรถยนต์ 120 บาท / เดือน)
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 95 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 520 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท / ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: 6.6 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 126,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้องทั้งหมด: ตกแต่งแบบ Fully Fitted
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ                      40 – 52  ตร.ม.
1 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 2 ห้องน้ำ        78.5 – 79 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ                      81.5 – 86.5 ตร.ม.
2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ 2 ห้องน้ำ        91.5 – 97 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาดใหญ่ 2 ห้องน้ำ      90 – 121 ตร.ม.
3-4 ห้องนอน                                 143.5 – 175 ตร.ม.
เพนท์เฮ้าส์                                     293 – 307 ตร.ม.

รูปแบบห้องที่เหลือขาย:
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ                      52 ตร.ม.
1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ดูเพล็กซ์        78.5 – 79 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ห้องมุม)        81.5 – 86.5 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ดูเพล็กซ์        91.5 – 97 ตร.ม.
เพนท์เฮ้าส์                                    293 – 307 ตร.ม.

Villa Asoke

Villa Asoke

Villa Asoke

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

Villa Asoke
ภาพ via wikipedia.org

วิลล่า อโศก ตั้งอยู่บนถนนเส้นเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มุ่งหน้าไปทางประตูน้ำ โดยอยู่ใกล้สี่แยกเพชรบุรีตัดใหม่ตัดกับอโศก ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรี (ประมาณ 100 เมตร) และแอร์พอร์ตลิงค์สถานีมักกะสัน (ประมาณ 500 เมตร) อีกทั้งบริเวณด้านหลังของโครงการยังติดกับคลองแสนแสบ ท่าเรือสะพานอโศก (ระยะ 150 เมตร) โดยในอนาคตข้างหน้า (ราวปี 2563) หากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเปิดให้บริการ (ระยะทางกว่า 39.6 กม. โดยเริ่มต้นที่สถานีตลิ่งชัน เชื่อม MRT สายเฉลิมรัชมงคล ณ สถานีศูนย์วัฒนธรรม แล้วเบี่ยงเข้าถนนพระราม 9) จะทำให้ทางเลือกในการเดินทางของคนที่อยู่อาศัยในย่านนี้เพิ่มมากขึ้น สะดวกสบายขึ้น และสามารถหลีกเลี่ยงการจราจรอันคับคั่งได้ ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (ตั้งแต่เวลา 07.00 – 10.00 น. และ 16.00 – 19.00 น.) เนื่องจากย่านนี้ต่างรายล้อมไปด้วยโรงเรียนและสำนักงาน

อีกทั้งตามผังเมืองอโศก – รัชดาภิเษก ทำให้เห็นว่าบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่นั้น เป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวความเจริญของเมือง ต่อจากศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) จากทั้งฝั่งอโศก ดั้งนั้นจึงทำให้ทำเลนี้ สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งสุขุมวิทชั้นใน ราชประสงค์ ประตูน้ำ หรือแม้กระทั่งรัชดาภิเษก ทั้งนี้แว่วมาว่ากระทรวงคมนาคม จะปรับแผนพัฒนาพื้นที่มักกะสันใหม่ ให้กลายเป็นปอดของคนกรุงเทพฯ พร้อมจัดสรรที่ดินกว่า 497 ไร่ เป็นทั้งสวนสาธารณะ พื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงแหล่งสร้างความรู้อย่างพิพิธภัณฑ์ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในปีหน้า ด้วยเหตุนี้จึงทำดีกรีความร้อนแรงของทำเลดังกล่าวไม่เคยลดลง แต่ในทางกลับกัน เป็นที่จับตาทั้งผู้ที่ต้องการลงทุนและซื้อเพื่ออยู่อาศัยเพราะอยู่ใกล้กับความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตนั่นเอง

การเดินทาง

Villa Asoke

เนื่องจากเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยการคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบาย ทั้งรถไฟฟ้า MRT สถานีเพชรบุรี แอร์พอร์ตลิงค์สถานีมักกะสัน หรือแม้กระทั่งเรือที่วิ่งในคลองแสนแสบ ทำให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง

– รถไฟฟ้า MRT
มุ่งหน้ามาลงสถานีเพชรบุรี โดยใช้ทางออกที่ 2 แล้วเดินต่อมาประมาณ 100 เมตร ถึงโครงการเลย หรือจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ได้ 10 บาท ถึงที่หมาย

Villa Asoke

Villa Asoke

– แอร์พอร์ตลิงค์
มาลงที่สถานีมักกะสัน จากนั้นแนะนำให้นั่งวินมอเตอร์ไซค์ หรือแท๊กซี่ ต่อมาที่โครงการ เนื่องจากหากเดินมาจะค่อนข้างลำบาก แม้ว่าระยะห่างจากโครงการจะเพียง 500 เมตร แต่บริเวณนั้นเป็นสี่แยกใหญ่ และเป็นถนนสี่เลน การข้ามถนนจึงอาจจะลำบากสักหน่อย

– เรือโดยสารคลองแสนแสบ
ให้เลือกใช้ทางท่าเรือโดยสารคลองแสนแสบ – สายนิด้า ซึ่งจะผ่านท่าสะพานอโศกพอดี ค่าโดยสารไม่เกิน 20 บาท จากนั้นให้เดินต่อมาประมาณ 150 เมตร ถึงตัวโครงการ

Villa Asoke

Villa Asoke

– รถยนต์ส่วนตัว
หากจำเป็นต้องขับรถ แนะนำให้ใช้เส้นถนนเพชรบุรี สะดวกสุด ไม่ต้องฝ่าฝันรถติดบริเวณถนนอโศก โดยถ้ามาจากฝั่งเส้นสุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้าสมคิด เมื่อเจอแยกไฟแดงให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าถนนเพชรบุรี จากนั้นมุ่งหน้าตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 กิโล จะเจอโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือ

การจราจรบริเวณสี่แยก อโศก-เพชรบุรี
Villa Asoke

สภาพจราจร ถนนเพชรบุรี หน้าโครงการ ช่วงสายยังคล่องตัวดี
Villa Asoke

โครงการวิลล่า อโศก ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี
Villa Asoke

สถานที่แนว Lifestyle

ด้วยพื้นที่บริเวณถนนเพชรบุรี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ดังนั้นจึงรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ โดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของศูนย์การค้า เนื่องจากใกล้อโศก และ ประตูน้ำ เพียงเลี้ยวขวาจากแยกเพชรบุรีเข้าถนนเส้นอโศกมนตรี จะพบกับอาณาจักรไลฟ์สไตล์คนเมืองอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าเทอร์มินอล แหล่งรวมตัวของวัยรุ่น คนทำงาน และชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน เนื่องจากร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังเป็นที่ตั้งของแหล่งแฮงเอาท์ ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ถ้ามุ่งหน้าไปทางฝั่งประตูน้ำ ที่เที่ยวทางฝั่งทางแถบนี้จะเน้นความต้องการของคนช้อปปิ้งเป็นหลัก อาทิ พันธุ์ทิพย์ ศูนย์รวมอุปกรณ์ไอทีขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ ถัดมาจะเป็นอาณาจักรของแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับทั้งแบบค้าปลีกและส่ง อย่าง แพลตตินั่ม หรือประตูน้ำคอมเพล็กซ์ เป็นต้น

โรงเรียนวัฒนา วิทยาลัย (สามารถเดินจากโครงการ เลาะคลองแสนแสบไปได้ ประมาณ 700 เมตร)
Villa Asoke
ภาพ via wattana.ac.th

โรงเรียนนานาชาติ NIST (สามารถเดินจากโครงการ เลาะคลองแสนแสบไปได้ ประมาณ 500 เมตร)
Villa Asoke
ภาพ via nist.ac.th

ศูนย์การค้าเทอร์มินอล (ห่างจากโครงการ 1.6 กม.)
Villa Asoke

ประตูน้ำคอมเพล็กซ์ (ห่างจากโครงการ 2 กม.)
Villa Asoke
ภาพ via bangkok.com

เดอะ แพลตตินั่ม แฟชั่นมอลล์ (ห่างจากโครงการ 2 กม.)
Villa Asoke
ภาพ via bangkok.com

รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการวิลล่า อโศก นำเสนอแนวคิดคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ด้วยสไตล์การออกแบบ “Style Art Décor Skyscrapers of New York” เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง โครงการตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งงาน โรงเรียน ศูนย์การค้า รวมถึงยังอยู่ติดกับคลองแสนแสบ ดังนั้นทัศนียภาพที่ได้ในแต่ละทิศ จึงเป็นลักษณะวิวเมืองและชุมชน

ทิศเหนือ – คือด้านหน้าของโครงการ ซึ่งจะเห็นตึก The Address แต่ไม่ถึงกับบล็อกวิว เพราะห่างกันพอสมควร ประมาณ 170 เมตร โดยมีถนนสี่เลนกั้น

Villa Asoke

ทิศใต้ – วิวที่ได้จะเป็น City View ทางฝั่งอโศก สามารถมองเห็นสวนเบญจสิริ

Villa Asoke

ทิศตะวันตก – มุมมองทัศนียภาพด้านนี้จะหันไปทางฝั่งประตูน้ำ ซึ่งจะได้ทิวทัศน์ City View แบบเต็มๆ

Villa Asoke

ทิศตะวันออก – ฝั่งนี้จะสามารถมองเห็นยูนิตพักอาศัยของโครงการ Q Asoke โดยมีระยะห่างกัน 50 เมตร

Villa Asoke

ทางเข้าหน้าโครงการ ค่อนข้างกว้างพอสมควร แบ่งทางเข้า – ออก ชัดเจน

Villa Asoke

เมื่อเลี้ยวเข้ามา ไปทางบังคับให้วนขึ้นอาคารจอดรถ

Villa Asoke

ด้านล่างมีจุดจอดรถ สำหรับผู้มาติดต่อ

Villa Asoke

อาคารจอดรถ เทียบเท่าได้กับห้างสรรพสินค้า

Villa Asoke

โดยที่จอดรถชั้น G มีประตูทะลุเข้าส่วนของล็อบบี้ และห้อง Mail Box

Villa Asoke

Mail Box ถูกแบ่งเป็นล็อกห้องต่างๆ ในโครงการ

Villa Asoke

Access Key Card แตะตั้งแต่เข้าไปในส่วนรอลิฟท์ขึ้นห้องพัก

Villa Asoke

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

ทางโครงการแบ่ง Facility ออกเป็น 2 ชั้น คือ บริเวณชั้น 6 และ ชั้น 39 โดยออกแบบในโทนสีอบอุ่นโทนน้ำตาล สไตล์ New York Art Deco เพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่ประกอบไปด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัวเป็นหลัก

ส่วนของ Lobby ชั้น G ตกแต่งในแนวคลาสสิค พร้อมติดตั้งกระจกล้อมรอบ ทำให้รู้สึกโปร่ง

Villa Asoke

ห้อง Meeting ชั้น G หากต้องการใช้บริการ ต้องแจ้งล่วงหน้า ค่าบริการชั่วโมงละ 300 บาท

Villa Asoke

ขึ้นมาชั้น 39 สิ่งอำนวยความสะดวกจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นส่วนของ Sky Lounge ซึ่งบริเวณด้านหน้า ทางโครงการได้ติดระเบียบการใช้อย่างละเอียด

Villa Asoke

เมื่อผลักประตูไป ด้านขวามือจะมีปุ่มเปิด-ปิดไฟ ซึ่งหากใช้บริการแล้วต้องปิดทุกครั้ง

Villa Asoke

เข้ามาด้านใน บริเวณนี้ ถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล พร้อมล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้เห็นทัศนียภาพด้านนอก

Villa Asoke

โดยมีมุมตู้แช่เครื่องดื่มไว้ให้บริการ แต่เครื่องดื่มลูกบ้านต้องนำมาเอง

Villa Asoke

ภายในนี้ยังมีครัว และมุมส่วนตัวไว้ให้รองรับจัดงานปาร์ตี้ แต่เมื่องานจบแล้ว ต้องช่วยกันทำความสะอาดด้วย

Villa Asoke Villa Asoke

นอกจากนี้ ยังมีมุมสวนเล็กๆ Sky Lounge ไว้ให้ออกไปสูดอากาศ

Villa Asoke

ส่วนฝั่งขวา จะเป็นโซนของ Sky Library และ Mini Home Theater

Villa Asoke

ส่วนของห้องสมุด มีหนังสือไว้คอยบริการมากพอสมควร โดยตกแต่งโทนสีน้ำตาลเข้ม

Villa Asoke

พร้อมมีโต๊ะและโซฟา รองรับผู้อยู่อาศัย

Villa Asoke

ส่วนด้านในจะเป็นมุม Mini Home Theater หากลูกบ้านคนไหน ต้องการใช้บริการ ต้องแจ้งทางโครงการล่วงหน้า

Villa Asoke

เต็มอิ่มกับ Facility ชั้น 6 แล้ว กดลิฟท์มาชั้น 39 บริเวณนี้จะตอบโจทย์กลุ่มครอบครัว

Villa Asoke

เข้ามาด้านใน ทางโครงการมีห้อง Kids’ Room ไว้ให้น้องๆ หนูๆ ได้เพลิดเพลินกับของเล่น หนังสือนิทาน ตลอดวัน

Villa Asoke

ถัดมาจะเป็นส่วนของ Fitness ที่มีห้องสคอวชไว้ให้บริการด้วย

Villa Asoke

บริเวณเดียวกับ Fitness จะมีบันไดให้ลงไป Sauna (แบ่งชาย-หญิง) ได้

Villa Asoke

สระว่ายน้ำเป็นระบบน้ำเกลือ ประกอบไปด้วยสระเด็ก กับผู้ใหญ่ ลึก 1.40 เมตร ยาว 25 เมตร

Villa Asoke

โดยมีมุมเตียงให้อาบแดดด้วย

Villa Asoke

หรือหากใครต้องการจัดปิกนิก บริเวณนี้ยังมีสวนหย่อมเล็กๆ พร้อมโต๊ะ เก้าอี้ ไว้รองรับ

Villa Asoke

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: กระเบื้องแกรนิตโต้ และ พื้นไม้วีเนียร์ (เฉพาะส่วนของห้องนอน)
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.70 เมตร ส่วนครัว 2.40 เมตร และสำหรับห้องดูเพล็กซ์ 6 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร
ประตู: ระบบล็อก Access Key Card
ชุดครัว: Built-in ชุดเครื่องครัวจาก Index เตาไฟฟ้า จาก Mex และเครื่องดูดควัน จาก Best
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Mogen
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: Samsung

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 52 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Villa Asoke

ประตู เป็นระบบล็อคแบบ Access Key Card

Villa Asoke

เมื่อผลักประตูไป จะเป็นส่วนของ Living Room โดยทางโครงการติดตั้งระบบไฟ และปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ให้

Villa Asoke

ด้านหลังประตู เป็นโซนของห้องครัว มีการแบ่งสัดส่วนชัดเจน โดยพื้นที่ทำอาหาร ได้ตามขนาดห้อง

Villa Asoke

มุมในสุดของครัว ทางโครงการ ออกแบบให้สามารถวางเครื่องซักผ้าได้

Villa Asoke

ส่วนของห้องนอน มีหน้าต่างบานเลื่อน โดยทางโครงการได้ปูพื้นไม้วีเนียร์ให้

Villa Asoke

ส่วนของห้องน้ำ จะแบ่งส่วนเปียก – แห้งอย่างชัดเจน สุขภัณฑ์ที่ใช้จาก Mogen

Villa Asoke

ฝักบัว ทางโครงการติดตั้งระบบน้ำร้อน น้ำเย็นให้

Villa Asoke

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ดูเพล็กซ์ 79 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Villa Asoke

สำหรับยูนิตนี้ มีความพิเศษอยู่ที่ห้องเก็บของใต้บันได ไว้สำหรับให้ลูกบ้านเก็บของจิปาถะ

Villa Asoke

อีกทั้งยังเป็นที่ติดตั้งเบรคเกอร์ ระบบไฟภายในห้องต่างๆ

Villa Asoke

บรรยากาศของห้องชั้นล่าง เป็นโซนของ Living Room ทางโครงการติดตั้งแอร์แบบติดผนังให้

Villa Asoke

หน้าต่างที่ได้ จะเป็นแบบบานเลื่อน

Villa Asoke

หน้าต่างบริเวณระเบียงจะสูงตั้งแต่พื้น จนเกือบถึงฝ้า

Villa Asoke

ระเบียงกันตก เป็นซี่เหล็ก พร้อมปูพื้นกระเบื้องให้

Villa Asoke

ครัวเป็นแบบเข้ามุม ในรูปตัว L

Villa Asoke

เตาไฟฟ้าที่ได้ เป็น 2 หัว จาก Mex

Villa Asoke

เครื่องดูดควันที่ได้จาก beat

Villa Asoke

พื้นที่ว่างด้านข้างส่วนทำอาหาร ทางโครงการเว้นไว้ให้วางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้

Villa Asoke

ใต้ซิ้งค์ล้างจาน สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยโครงการติดตั้งระบบท่อน้ำไว้ให้

Villa Asoke

ภายในห้องน้ำชั้นล่างของยูนิตนี้ ยังคงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ และใช้สุขภัณฑ์จาก Mogen แต่ไม่มีส่วนอาบน้ำให้

Villa Asoke

ส่วนของบันไดทางขึ้นไปชั้นบน ปูด้วยพื้นไม้วีเนียร์ และติดตั้งกระจกนิรภัยกันตก

Villa Asoke  Villa Asoke

เมื่อขึ้นมาชั้นบน สิ่งแรกที่เห็น คือประตูทางออกอีกหนึ่งชั้น เป็นออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัย กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น โดยเปิดออกได้อย่างเดียว เข้าไม่ได้

Villa Asoke

ถัดมา ทางฝั่งขวามือ เป็นส่วนของห้องนอน พื้นปูด้วยไม้วีเนียร์เช่นกัน

Villa Asoke

ความพิเศษของห้องน้ำชั้นบน คือมีอ่างอาบน้ำให้ โดยมุมหน้าห้องน้ำ ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

Villa Asoke

ห้องนอน ติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้งให้สองบาน

Villa Asoke

นอกจากนี้ทางฝั่งผนังอีกข้าง ยังติดตั้งกระจกให้สามารถมองลงไปชั้นล่างได้ อีกทั้งยังเป็นการออกแบบ ที่ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้นด้วย

Villa Asoke

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 86.5 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Villa Asoke

ยูนิตนี้ หากผลักประตูมา สิ่งแรกที่เห็นคือมุมส่วนของครัว และห้องนั่งเล่น

Villa Asoke

พื้นที่ของครัว จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามตารางเมตรของห้อง โดยจะเป็นในลักษณะรูปตัว L อยู่

Villa Asoke

ชั้นจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำอาหาร เรียกได้ว่า สามารถมัดใจกลุ่มเป้าหมายที่เป็นแม่บ้าน พ่อบ้าน ได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว เนื่องจากออกแบบให้ตู้และลิ้นชักมากพอสมควร

Villa Asoke

สำหรับยูนิตนี้จะได้เตาถึงสี่หัว พร้อมติดไฟเบอร์กลอส บริเวณผนังส่วนทำอาหาร ทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ซึ่งพื้นที่ว่างด้านข้าง สามารถวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้

Villa Asoke  Villa Asoke

ถัดมาจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น ซึ่งยังคงมีประตูบานเลื่อน ให้สามารถออกไปสูดอากาศบริเวณระเบียงได้

Villa Asoke

ราวกันตกบริเวณระเบียงจะเป็นในลักษณะซี่เหล็ก ซึ่งยูนิตนี้ทัศนียภาพที่ได้ อาจจะโดนบล็อกวิวจากตึก The Address

Villa Asoke

เข้ามาดูส่วนของ ห้องนอน Master จะอยู่ด้านใน ส่วนฝั่งขวามือ จะเป็นห้องนอนเล็ก ซึ่งจะปูพื้นด้วยไม้วีเนียร์ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้เหมือนกันทั้งสองห้อง

Villa Asoke

และอีกเช่นเคย โครงการนี้เน้นเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก ดังนั้นในห้องนอนทุกยูนิต จะมีการติดตั้งตัวลำโพงแจ้งเตือน หากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น

Villa Asoke

ส่วนของห้องน้ำ จะมีลักษณะคล้ายกับยูนิต 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ดูเพล็กซ์ ซึ่งภายในห้อง Master เท่านั้น ที่มีอ่างอาบน้ำ แต่สำหรับยูนิตนี้ อาจพิเศษตรงที่ มีหน้าต่างให้สามารถแช่น้ำ ไปพร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ทางฝั่งทิศตะวันตก ได้

Villa Asoke  Villa Asoke

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ

ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ ซึ่งรายล้อมด้วยระบบคมนาคมขนส่ง แหล่งงงาน โรงเรียน ความเป็นชุมชนใจกลางเมือง และแหล่งไลฟ์สไตล์ อีกทั้งกำลังจะเกิดการพัฒนาเพิ่มเติมในพื้นที่ในอนาคตอันใกล้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เหล่านักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่างปักหมุดจับจองหากำไรจากอสังหาฯ ในย่านนี้ โดยราคาปล่อยเช่ายูนิต 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 22,000 บาท/ เดือน ส่วน 2 ห้องนอน อยู่ที่ 40,000 – 50,000 บาท/ เดือน และ 2 ห้องนอนแบบดูเพล็กซ์อยู่ที่ราว 50,000 บาท / เดือน

The Address Asoke
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด บนที่ดิน 3 ไร่ 3 งาน 77 ตารางวา เป็นอาคารสูง 44 ชั้น 574 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 39.5 – 89 ตร.ม. ที่จอดรถ 72 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 100,000 – 125,000 บาท / ตร.ม.

the address
ภาพ via apthai.com

The Parkland Grand Asoke – Phetchaburi
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน 86 ตารางวา เป็นอาคารสูง 26 ชั้น 295 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 35 – 61.70 ตร.ม. ที่จอดรถ 60 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 114,000 บาท / ตร.ม.

The Parkland Grand - Phetchaburi
ภาพ via naraiproperty.com

Q Asoke
คอนโดมิเนียม ของบริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด บนที่ดิน 3 ไร่ 35 ตารางวา เป็นอาคารสูง 41 ชั้น 482 ยูนิต รูปแบบห้อง สตูดิโอ และ 1-4 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 30 – 269 ตร.ม. ที่จอดรถ 60 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 140,000 – 170,000 บาท / ตร.ม.

Q Asoke
ภาพ via qh.co.th

บทสรุป
แม้ว่าผู้พักอาศัยบางคน อาจเล็งเห็นถึงจุดด้อยของทำเล ซึ่งติดกับคลองแสนแสบ บริเวณด้านหลังของโครงการและมักจะส่งกลิ่นบ้างในช่วงฝนตก แต่หากมองข้าม แล้วหันมาให้ความสนใจกับจุดแข็งเรื่องศักยภาพการเดินทางอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า MRTสถานีเพชรบุรีเพียง 100 เมตร แอร์พอร์ตลิ้งสถานีมักกะสัน 500 เมตร หรือแม้แต่ท่าเรือโดยสารทางด้านหลังของตึก ในระยะ 150 เมตร รวมทั้งในอนาคตจะเกิดโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีส้ม ตัดผ่านถนนเพชรบุรี ที่แยกยมราช ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ย่านนี้ กลายเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวความเจริญของเมือง ต่อจากศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) จากทั้งฝั่งอโศก อีกทั้งยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์มากมาย และกลายเป็นจุดสนใจของเหล่านักลงทุนอสังหาฯ รวมถึงผู้มองหาแหล่งที่พักอาศัย ที่เพียบพร้อมเรื่องความสะดวกสบาย ทั้งชาวไทยและต่างชาติ

โครงการนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวไฮไลท์ของค่ายทีซีซีฯ ที่แม้จะสร้างเสร็จมาเป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว ราคาก็ยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของทำเลที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นกัน หากใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมในทำเลที่เดินทางได้สะดวก ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป (หากเทียบกับโครงการที่เกิดใหม่ กับต้นทุนที่ดินที่สูงลิ่ว) วิลล่า อโศก ก็ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่น่าสนใจ

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

]]>
<![CDATA[พรีวิวโครงการใหม่:คิว เทอร์ตี้วัน (Q 31)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/104604/%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2597 www.ddproperty.com:news:104604 Tue, 11 Aug 2015 15:46:16 +0700 พรีวิวโครงการใหม่:คิว เทอร์ตี้วัน (Q 31)
พรีวิวโครงการใหม่:คิว เทอร์ตี้วัน (Q 31)

ปีนี้ต้องบอกว่า ค่ายอนันดาฯ มาแรงมากๆ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวพร้อมกันถึง 4 โครงการ ทั้ง คิว ชิดลม เพชรบุรี, ไอดีโอ โอทู, ไอดีโอ สุขุมวิท 115 และส่งท้ายปลายปีกับ คิว เทอร์ตี้ วัน (Q 31) ซึ่งเป็นโครงการที่เราจะพูดถึงในพรีวิวโครงการใหม่ครั้งนี้ โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1-0-18 ไร่ในซอยสุขุมวิท 31

ถ้าเรามาดูเซ็กเมนต์ของสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมของค่ายอนันดาฯ แบรนด์ “แอชตัน” (Ashton) จะเป็นเซ็กเมนต์ที่ Luxury ที่สุด ทั้งในด้านสินค้า และทำเล ส่วนแบรนด์ “คิว” (Q) จะเป็นเซ็กเมนต์ที่รองลงมา แต่จะมีความพรีเมียมกว่า “ไอดีโอ โมบิ” (IDEO Mobi) โดยส่วนตัวมองว่าแบรนด์ “คิว” ค่อนข้างคุ้มค่ากับทั้งราคาและคุณภาพ ราคาของแบรนด์ คิว ที่เปิดตัวมาในปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 150,000-180,000 บาท/ ตร.ม. ในขณะที่ราคาของสินค้าภายใต้แบรนด์ แอชตัน จะอยู่ที่ 180,000 บาท/ ตร.ม. เป็นต้นไป

แม้เจ้าของโครงการยังไม่เผยรายละเอียดของโครงการ Q 31 ออกมามากนัก แต่ข้อมูลเบื้องต้น ที่พอทราบก็คือ โครงการนี้มีมูลค่าราว 577 ล้านบาท ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1-0-18 ไร่ในซอยสุขุมวิท 31 ใกล้กับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) หรือ มศว โดยพัฒนาเป็นอาคารแบบ Low Rise จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตประมาณ 80 ยูนิต แต่เรามองว่าเป็นหนึ่งโครงการที่น่าจับตา ด้วยจำนวนยูนิตที่น้อย ตึกแบบ Low Rise น่าจะใกล้เคียงกับ Ashton Residence 41 ซึ่งถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากๆ ในระดับซูเปอร์ พรีเมียม

Q31_preview

 

รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: คิว เทอร์ตี้ วัน (Q 31)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยสุขุมวิท 31 ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์และอโศก MRT สถานีสุขุมวิทและเพชรบุรี
รายละเอียดโครงการ
คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 1 อาคารรวม 80 ยูนิต
ประกอบไปด้วยห้องแบบ สตูดิโอ, 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
สิ่งอำนวยความสะดวก
สระว่ายน้ำ
ห้องออกกำลังกาย
ร้านค้า
ภูมิทัศน์ และสวนพักผ่อน
ที่จอดรถ
ลิฟต์โดยสาร
กล้องวงจรปิด CCTV
อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย
ระบบรักษาความปลอดภัย
คาดว่าจะเปิดตัว: ไตรมาส 4 ปี 2558
เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการครั้งแรกในงาน “ANANDA URBAN PULSE” ระหว่างวันที่ 12-16 สิงหาคม 2558 นี้ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

การเดินทาง  
เส้นทางที่ 1 และ 2 โดย MRT เพชรบุรี

Q31_preview
ประตูลัดข้างโรงพยาบาลจักษุรัตนิน

Q31_preview
ทางเข้า มศว ถนนอโศก บริเวณนี้จะมีตลาดนัดชื่อดังทุกวันอังคารและพฤหัสบดี

ออกจาก MRT สถานีเพชรบุรีทางออกที่ 2 เดินลงมาตามถนนอโศก และข้ามถนนหน้าโรงพยาบาลจักษุรัตนิน เข้าซอยลัดข้างโรงพยาบาล ก็สามารถเดินผ่านมหาวิทยาลัยไปยังตัวโครงการได้ ระยะทางโดยประมาณคือ 1 กิโลเมตร สามารถเดินได้เพราะบรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยร่มรื่น ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยมาก หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือออกจากสถานีเพรชบุรี เดินเลยมาอีกหน่อยตามเส้นทางที่ 2 ก็สามารถเข้า มศว ได้ ซึ่งเส้นทางนี้เป็นทางเข้าที่ใหญ่กว่า มีร้านค้า ร้านกาแฟ Starbucks และร้านหนังสือซีเอ็ด ให้เราแวะก่อนเข้าโครงการได้

นอกจากนั้นเส้นทางนี้เราจะเดินผ่านโรงอาหาร (ใกล้ๆ ประตู3) ของ มศว ด้วย เราสามารถแวะซื้อข้าวราคาถูกก่อนเข้าโครงการ Q 31 ได้อีกด้วย อย่าลืมว่า ประตู 3 ของ มศว จะปิดเวลา 21.00น. – 05.00 น. เราไม่สามารถเดินผ่านเส้นทางนี้ได้ในเวลาดังกล่าว

เส้นทางที่ 3 และ 4 โดยท่าเรือประสานมิตร

เมื่อขึ้นเรือโดยสารคลองแสนแสบ ท่าประสานมิตร ก็เดินลัดมาตาม เส้นทางที่ 3 ผ่านมหาวิทยาลัย ทะลุไปประตู 3 ก็ถึงโครงการแล้ว เส้นทางนี้มีระยะเดินประมาณ 650 เมตร บรรยากาศภายใน มศว ร่มรื่นทำให้เดินไม่เหนื่อยมาก และเช่นกัน ประตู 3 นี้มีเวลาเปิด-ปิดด้วย สำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเรือโดยเรือโดยสารคลองแสนแสบจะมีอีกหนึ่งทางเลือกให้ไปยังโครงการคือ เส้นทางที่ 4 จะเป็นทางเดินเลียบคลองมาทะลุเข้าซอยสวัสดีด้านหลังได้

Q31_preview

Q31_preview
ปากซอย สุขุมวิท 23

การเดินทางด้วย BTS และ MRT
โครงการ Q 31 นี้สามารถเดินทางด้วย BTS (สามารถเลือกลงได้ทั้งสถานีอโศกและพร้อมพงษ์) และ MRT (ลงสถานีสุขุมวิท) โดยเมื่อออกจากสถานี BTS ในที่นี่เราจะเลือกลงที่สถานีอโศก หรือ MRT สุขุมวิท ซึ่งใกล้กว่า ให้ขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างราคาประมาณ 15 บาทจากหน้าปากซอยสุขุมวิท23 มอเตอร์ไซค์จะสามารถพาเราไปโครงการได้สองเส้นทางคือทางที่ 1 และ 2 เส้นทางนี้สบายๆ เพราะเราสามารถแวะเดิน Terminal21 ก่อน จึงค่อยเข้าโครงการได้ มีมอเตอร์ไซค์รับจ้างคอยบริการถึงดึกแน่นอน (เพราะปากซอย 23 เป็นที่ตั้งของ ซอยคาวบอย เป็นแหล่งเที่ยวกลางคืนชื่อดังในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ)

Q31_preview

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว มีทางเข้าให้เลือกจาก 3 ถนนหลัก

เส้นทางที่ 1 จากถนนเพชรบุรี ระยะทาง 2.6 กิโลเมตร อาจจะอ้อมนิดหน่อยเพราะทางนั้นเป็น One Way แต่ตลอดเส้นทางนี้เราสามารถแวะรับประทานอาหารได้หลายร้านครับ เพราะซอยนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นเด็ดๆ ทั้งนั้น หากใครเดินทางมาทางถนนสุขุมวิทก็เข้าได้ทั้งซอยสุขุมวิท 23 และ 31 ก็จะมาเจอกับเส้นทางที่ 1 ไปถึงตัวโครงการ Q31 ได้ และสุดท้ายหากใครเข้าทางอโศก ก็ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ก็จะมาเจอกับเส้นทางที่ 1 ครับ

สถานที่ท่องเที่ยวแนว Lifestyle
Q31_preview

1. โครงการ The Green Connect ระยะห่าง 350 เมตร

WHAT IF the green connect sukhumvit 31
ร้าน WHAT IF @ โครงการ The Green Connect Sukhumvit 31/ ภาพ via facebook.com/whatifdecor

2. UFM Fuji Super ระยะ 900 เมตร

3. ศูนย์การค้า Terminal21 ระยะทาง 1.4 กิโลเมตร

Terminal 21 Bangkok

4. ศูนย์การค้า EmQuartier และ Emporium ระยะ 1.8 กิโลเมตร

The Emquartier

ติดตามรีวิวโครงการ Q 31 ฉบับเต็มได้ที่ DDproperty หรือดูรีวิวโครงการใหม่อื่นๆ ที่เปิดตัวในครึ่งหลังปี 2558 ของอนันดาฯ

รีวิวโครงการ: ไอดีโอ โอทู (IDEO O2) 
– รีวิวโครงการ:คิว ชิดลม-เพชรบุรี(Q Chidlom-Phetchaburi)
– รีวิวโครงการ: ไอดีโอ สุขุมวิท 115(Ideo Sukhumvit 115)

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: บี รีพับบลิค (B Republic)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/104262/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b5-%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a5 www.ddproperty.com:news:104262 Tue, 11 Aug 2015 03:30:45 +0700 รีวิวโครงการ: บี รีพับบลิค (B Republic)
รีวิวโครงการ: บี รีพับบลิค (B Republic)

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นหนึ่งในเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมโซนสุขุมวิทตอนปลาย ที่เข้าไปปักหมุดคอนโดมิเนียมแบบ Low-rise ไว้หลายโครงการในพื้นที่ตั้งแต่สถานี BTS ปุณณวิถี อุดมสุข แบริ่ง ยาวไปจนถึงส่วนต่อขยายสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ที่จะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้อย่าง สถานีสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย และสถานีเอราวัณ พลิกโฉมพื้นที่จากย่านชุมชนที่เงียบสงบ กลายเป็นทำเลที่มีความคึกคักขึ้นอันเป็นหนึ่งในอานิสงส์ที่ได้รับจากโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

โครงการของออริจิ้นฯ ในโซนสุขุมวิทตอนปลายนี้ มีอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น พอส คอนโด (Pause Condo), ไนท์บริดจ์ (Knight Bridge), บี-ลอฟท์ (B-Loft), น็อตติ้งฮิลล์ (Notting Hill), วิลล่าลาซาล (Villalasalle) และ บี รีพับบลิค (B Republic) ซึ่งเป็นโครงการที่เราจะพาไปรีวิวกันแบบเจาะลึกในครั้งนี้ โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 ทำเลที่ขึ้นชื่อเรื่องทางลัดสามารถเชื่อมต่อไปได้ในหลายเส้นทาง ทั้งสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) 103 (อุดมสุข) อ่อนนุช บางนา-ตราด และเส้นศรีนครินทร์

โครงการนี้ เป็นหนึ่งในโปรเจคระดับราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 2 ล้านบาท ที่เจ้าของโครงการอย่างออริจิ้นฯ ได้ออกโปรโมชั่นผ่อนถูกกว่าเช่า เริ่มต้นล้านละ 1,000 บาทในช่วง 2 ปีแรก เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานที่ต้องการเป็นเจ้าของห้องชุดในทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบาย

B Republic

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: บี รีพับบริค (B Republic)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนสุขุมวิท 101/1 ซอยวชิรธรรมสาธิต 34 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: 2 ไร่ 69 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมรูปตัว L ความสูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 318 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ และวัยทำงาน
สถานะก่อสร้าง: คาดว่าจะแล้วเสร็จ 100 % ในเดือนตุลาคม 2558
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 3 – 8
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็นอาคาร B ชั้น 1 (Lobby Double Volume, Mailbox Room, Library, Business Room and Free Wifi, Modern Play Room), ชั้น 2 (Fitness, Steam Room) ชั้นดาดฟ้าของอาคาร A และ B (Sky garden and Yoga) และ สระว่ายน้ำ อยู่ระหว่างอาคาร A และ B บริเวณชั้น 1
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร
ที่จอดรถ: บริเวณโดยรอบโครงการ คิดเป็น 38 % รวมซ้อนคัน
สถานะการขาย: ขายไปแล้วประมาณ 70 – 80 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 380 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 38 บาท / ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: 1.7 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 68,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 25.15 – 33.20 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 37.82 – 50.84 ตารางเมตร

B Republic

B Republic

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

B Republic
ภาพ via bts.co.th

โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101 / 1 หรือวชิรธรรมสาธิต โดยชื่อซอยนั้นเป็นชื่อวัดวชิรธรรมสาธิต (ตั้งอยู่บริเวณท้ายซอย) และคนแถวนั้นมักจะเรียกว่าวัดทุ่ง เนื่องจากเดิมพื้นที่บริเวณนี้เมื่อสมัยก่อนเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ ไม่ได้เจริญเหมือนกับทุกวันนี้ที่พลิกโฉมมาเป็นชุมชนขนาดใหญ่มีสิ่งปลูกสร้างอย่างอาคารพาณิชย์และหมู่บ้านจัดสรรที่พาเหรดกันเข้ามาปักหมุดในย่านนี้กันอย่างหนาแน่น อีกทั้งเมื่อโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ส่วนต่อขยายอ่อนนุช – แบริ่ง แล้วเสร็จเมื่อปี 2550 จึงทำให้บรรดาดีเวลลอปเปอร์พร้อมใจกันช่วงชิงพื้นที่ เพื่อสร้างคอนโดมิเนียมทั้งแบบ High Rise และ Low Rise โดยนำคอนเซปต์ใกล้รถไฟฟ้าและแหล่งไลฟ์สไตล์มาดึงเป็นจุดขายล่อใจผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย และนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งล่าสุดมูลค่าที่ดินย่านสุขุมวิท 101 / 1 จากการประเมินของกรมธนารักษ์อยู่ที่ 60,000 – 100,000 บาท / ตารางวา ในขณะที่ราคาตลาดคาดว่าจะสูงกว่าราคาประเมินอยู่ที่ประมาณ 10 -15 %

การเดินทาง

B Republic

เรื่องการเดินทางของโครงการนี้ ถือว่ามีทั้งจุดเด่นและจุดด้อย เนื่องจากเป็นซอยถนนสองเลนที่สามารถใช้เป็นทางลัด ทะลุได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นสุขุมวิท 101 (ปุณณวิถี) 103 (อุดมสุข) อ่อนนุช บางนา-ตราด และเส้นศรีนครินทร์ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของหลายโครงการหมู่บ้าน โรงเรียน รวมถึงตลาด ดังนั้นสภาพการจราจรจึงค่อนข้างหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น เพราะฉะนั้นหากจำเป็นต้องเข้าไปสุขุมวิทชั้นในเพื่อทำงานหรือธุระต่างๆ แนะนำให้ใช้บริการรถตู้รับส่งจากโครงการ ไปลงที่สถานี BTS ปุณณวิถี จะสะดวกสุด โดยอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร

– รถไฟฟ้า BTS
เพียงมุ่งหน้ามาลงสถานีปุณณวิถี หรืออุดมสุข แล้วแนะนำให้ใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ (30 บาท) ถึงหน้าโครงการเลย ถ้าเป็นในช่วงเช้า-เย็นจะมีบริการรถตู้รับ-ส่งของโครงการวิ่งให้บริการ

– รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 หากมาจากถนนสุขุมวิท ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านปิยรมย์ ให้ชิดซ้าย เพื่อเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 101/1 จากนั้นตรงเข้าไปประมาณ 1.4 กิโลเมตร สังเกตป้ายซอยวชิรธรรมสาธิต 34 ด้านขวามือ ให้เตรียมตัวเลี้ยวเข้าโครงการ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามปั้มน้ำมันซัสโก้

ทางเลือกที่ 2 หากมาจากถนนศรีนครินทร์ ให้เลี้ยวเข้าซอยศรีนครินทร์ 42 แล้วขับมาตามทาง เจอแยกแรกเลี้ยวซ้าย จากนั้นขับมาตามทางแยกที่สอง เลี้ยวขวา สังเกตหมู่บ้านพรไพลินอยู่ซ้ายมือ เจอแยกที่สาม เลี้ยวขวา ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ สังเกตป้ายซอยวชิรธรรมสาธิต 34

ปากซอยวชิรธรรมสาธิต 34 มีวินมอเตอร์ไซค์คอยให้บริการ

B Republic

สภาพการจราจรช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

B Republic

สถานที่แนว Lifestyle
ด้วยความเป็นอยู่ของคนย่านนี้เป็นในลักษณะชุมชน ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์สอดคล้องตาม อีกทั้งในซอยนี้มีตลาดสดถึง 2 แห่งเพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยในลักษณะครอบครัว อาทิ ตลาดมหาสิน (กินพื้นที่ซอยวชิรธรรมสาธิต 22, 24, 26 และ 28) แหล่งช้อปปิ้งของสด ของแห้ง ที่ไฮไลท์อยู่ตอนเวลาประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป บริเวณนี้จะแปรสภาพเป็นเหมือนเยาวราชขนาดย่อม เต็มไปด้วยของกินโต้รุ่ง แบบละลานตา ส่วนอีกแห่งจะอยู่บริเวณท้ายซอย คือ ตลาดหน้าวัดทุ่ง โดยจะเปิดบริการในช่วงเช้าตั้งแต่ 05.00 – 10.00 น. เท่านั้น แต่หากใครอยากเดินเก๋ๆ ในคอมมูนิตี้มอลล์ แนะนำให้เดินเล่นปิยรมย์ (ปากซอยสุขุมวิท 101 / 1) ไปก่อนที่จะปิดทำการถาวร เนื่องจากกำลังจะมีบิ๊กโปรเจคของค่าย MQDC เกิดขึ้น นอกจากนี้บรรดานักช้อป ยังสามารถเดินทางไปศูนย์การค้าขนาดใหญ่ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็น ซีคอนสแควร์ พาราไดซ์ เซ็นทรัล บางนา หรือแม้กระทั่งเมกา บางนา เนื่องจากซอยสุขุมวิท 101 / 1 สามารถลัดเลาะไปได้หลายเส้นทาง

ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ (ห่างจากโครงการ 3 กม.)

B Republic
ภาพ via seaconsquare.com

ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค (ห่างจากโครงการ 3.5 กม.)

B Republic
ภาพ via paradisepark.co.th

รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการบี รีพับบลิค พัฒนาโครงการภายใต้คอนเซปต์ B Chic, B Smart, B Scandi ด้วยสถาปัตยกรรมของตัวตึกในสไตล์โมเดิร์น จากการออกแบบเป็นรูปตัว L เพื่อช่วยให้ถ่ายเทอากาศได้ดี พร้อมจัดสรรพื้นที่โดยรอบให้สามารถจอดรถได้เพียงพอกับจำนวนผู้อยู่อาศัย ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้การตกแต่งในรูปแบบสแกนดิเนเวียนที่เน้นความเรียบแต่ดูดีมีสไตล์มาถ่ายทอดผ่านพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงภายในยูนิต ที่ให้ความรู้สึกสบายเหมือนอยู่บ้าน เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของคนย่านนี้ที่อยู่กันแบบชุมชน และด้วยความที่เป็นตึกแบบ Low Rise แน่นอนว่าจุดขายของโครงการคงจะไม่ใช่ City View หรือ River View อย่างคอนโดฯ แบบ High Rise อื่น แต่เป็นเรื่องของความเป็นส่วนตัว กับจำนวนยูนิตทั้งโครงการที่มีทั้งสิ้น 318 ยูนิตนั่นเอง

ทิศเหนือ – ใครที่เลือกอยู่ฝั่งนี้ แล้วเลือกยูนิตชั้น 1-3 อาจจะถูกบล็อกวิวด้วยปั้มน้ำมันซัสโก้

B Republic

ทิศใต้ – วิวมุมนี้ดีหน่อย ไม่มีอะไรบัง สามารถมองได้ไปถึงเซ็นทรัล บางนาเลย เพราะส่วนใหญ่ฝั่งนี้เป็นบ้านเดี่ยวตลอดทั้งซอย

B Republic

ทิศตะวันออก – สำหรับทิศนี้ คนที่อยู่ยูนิตชั้น 1-3 อาจจะถูกบังวิวโดยบ้านเดี่ยว 2 ชั้นที่อยู่ติดกับโครงการ

B Republic

ทิศตะวันตก – ส่วนฝั่งนี้วางใจได้ เพราะพื้นที่โล่งด้านข้าง ทางโครงการได้ซื้อไว้เพื่อทำเป็นที่จอดรถ ไม่ได้มีแผนผุดโครงการตึกสูงแต่อย่างใด

B Republic

การออกแบบอาคารเป็นรูปตัว L

B Republic

Lobby ของโครงการ อยู่ติดกับริมฟุตบาทถนน

B Republic

เมื่อเข้ามาด้านใน จะเจอที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้รอบโครงการ

B Republic

ส่วนลิฟท์ ที่จะพาไปดูส่วนต่างๆ ของโครงการนั้น เป็นระบบ Access Key Card จาก Schindler

B Republic B Republic

เมื่อลิฟท์เปิดออก จะพบทางเดินภายในโครงการดังรูป

B Republic

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการถูกออกแบบให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น Lobby แบบ Double Volume, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำระบบเกลือ หรือสวนลอยฟ้า และพื้นที่สำหรับเล่นโยคะบริเวณชั้นดาดฟ้า โดยส่วนของ facility จะอยู่บริเวณชั้น 1, 2 และชั้นดาดฟ้าของอาคาร A และ B

ชั้น 1 อาคาร A – โครงการได้ออกแบบ Lobby แบบ Double Volume ในลักษณะ 2 ชั้น เพื่อให้ดูทันสมัย และโปร่งโล่งสบาย โดยบริเวณนี้มี Wifi ฟรีไว้ให้บริการสำหรับลูกบ้านที่ต้องการใช้เป็น The Third Place ในการทำงานหรือนั่งอ่านหนังสือ

B Republic

ส่วนชั้น 2 ของ Lobby มีห้อง Mail Box ไว้ให้ลูกบ้าน

B Republic

ชั้น 2 อาคาร A – Fitness ขนาดย่อม ล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้บริหารร่างกายไปพร้อมชมทิวทัศน์ด้านนอกโครงการ

B Republic

ชั้น 1 ระหว่างอาคาร A และ B – พื้นที่ถูกยกสูง เพื่อทำเป็น สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 4.2 x 16 เมตร

B Republic

ชั้นดาดฟ้า อาคาร A และ B – Sky garden and Yoga อยู่ในระหว่างาก่อสร้าง แต่เมื่อแล้วเสร็จแล้วหน้าตา Facility นี้ จะออกมาใกล้เคียงกับในรูปด้านล่าง

B Republic

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.45 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความยาวประมาณ 1.75 เมตร
ประตู: Digital Door Lock จาก Samsung
ชุดครัว: Built-in ชุดเครื่องครัวและ ซิ้งค์ล้างจานจาก Hafele
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Cotto
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: ติดผนังจาก Daikin Inverter

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 25.70 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

B Republic

ประตูติดตั้งระบบ Digital Door Lock ให้ จาก Samsung

B Republic

ผลักประตูมา จะเป็นส่วนของโซนห้องนั่งเล่น ยูนิตนี้เป็นห้องมุม ซึ่งจะได้หน้าต่างรับลม เพิ่มเข้ามา

B Republic B Republic

โดยระหว่างห้องครัว กับโซนนั่งเล่นนั้น ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อน ทำให้ช่วยเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหารได้พอสมควร

B Republic

โต๊ะกินข้าวที่ได้ เป็นขนาด 2 ที่นั่ง ตามรูป

B Republic

ชุดเครื่องครัวที่ได้ เป็นของ Hafele ความกว้าง ยาว ขึ้นอยู่กับขนาดของยูนิตห้อง ซึ่งโครงการ ไม่ได้ติดตั้งเตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาให้ อาจจะต้องใช้ไมโครเวฟ (รับหลังวันโอน) ทำอาหารไปก่อน ตู้เย็น ที่เห็นในรูป ก็ได้ด้วย

B Republic B Republic

ระเบียง อยู่ในส่วนของห้องครัว มีความยาว 1.75 เมตร ส่วนราวระเบียงเป็นแบบโครงเหล็ก

B Republic

หากวางเครื่องซักผ้า จะทำให้ได้พื้นที่นั่งชิลตรงระเบียงได้ไม่มากนัก

B Republic

ส่วนของห้องนอน ประตูที่ได้ เป็นประตูไม้ตามรูป เมื่อผลักไป จะเจอเตียงขนาด 5 ฟุต

B Republic

ข้อดีของห้องนอนยูนิตนี้ อยู่ที่หน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถเปิดรับลม ถ่ายเทอากาศได้

B Republic

ปลายเตียง ทางโครงการทำปลั๊กเต้าเสียบ และที่เสียบเสาอากาศ ไว้รองรับการติดตั้งโทรทัศน์ในห้อง

B Republic

ตู้เสื้อผ้าที่ได้ เป็นแบบบานเลื่อน 2 บาน มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน โดยบริเวณข้างๆ สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้

B Republic

แอร์เป็นแบบติดฝาผนัง จาก ไดกิ้น

B Republic

พื้นที่พนัง สามารถทำเป็นที่แขวนกระเป๋า หรือ หมวก ได้ตามใจชอบ

B Republic

ส่วนของห้องน้ำ ทุกยูนิตจะหน้าตาเหมือนกันดังรูป โดยจะได้สุขภัณฑ์จาก Cotto แต่จะแตกต่างกันตรงพื้นที่ใช้สอย ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดห้อง

B Republic B Republic

สำหรับฝั่ง Shower จริงๆ แล้วของจริง จะมีตู้อาบน้ำให้ พร้อมแบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้ง

B Republic

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 50.84 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

B Republic

สำหรับยูนิต 2 ห้องนอน ด้วยพื้นที่ขนาด 50.84 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างพอสมควร จึงทำให้สามารถมองหาเฟอร์นิเจอร์มาตกแต่งเพิ่มจากที่โครงการแถมให้ ได้ค่อนข้างเยอะ เหมือนอย่างชั้นวางของในรูป

B Republic

การออกแบบยูนิตนี้ ห้องนอนจะถูกแบ่งออกเป็นซ้าย – ขวา มีโซนนั่งเล่น ครัวเปิด และโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่ง อยู่ตรงกลาง

B Republic

ส่วนของเคาน์เตอร์ทำอาหารจาก Hafele เป็นแบบเข้ามุม รูปตัว L พร้อมตกแต่งกระเบื้องให้บริเวณฝาผนัง เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

B Republic

ครัวของโครงการ สิ่งที่ได้ยังเหมือนกับห้องที่รีวิวก่อนหน้านี้ คือ Built-in ซิ้งค์อ่างล้างจาน ให้ไมโครเวฟ และตู้เย็น (หลังวันโอน) แต่ไม่ได้เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน

B Republic

ไมโครเวฟที่ได้เป็นของซัมซุง

B Republic

โซนห้องนั่งเล่น ออกแบบให้สามารถวางโซฟายาวตรงกลางได้ ซึ่งจะจัดวางติดกับระบียงที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือทางโซนนั่งเล่น และพื้นที่โต๊ะทำงาน โดยมีขนาดความยาว 1.85 เมตร ตามแปลนห้อง

B Republic

ผนังโซนห้องนั่งเล่น สามารถตั้งโต๊ะวางทีวีได้ขนาดใหญ่กว่าห้องแรก

B Republic

โต๊ะทำงาน ยังอยู่ในโซนนั่งเล่น โดยทางโครงการได้จัดวางติดกับโซฟา เพื่อใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ โดยยังคงอยู่ติดระเบียง

B Republic

ขนาดของโต๊ะทำงานที่วางได้ ถือว่าขนาดพอเหมาะ

B Republic

ประตูห้อง Master Bedroom เป็นประตูไม้ แบบลูกบิด

B Republic

ห้อง Master Bedroom เตียงที่ได้เป็นขนาด 5 ฟุต มีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศ

B Republic

ส่วนผนัง ผู้อยู่อาศัยสามารถตกแต่งเป็นชั้นวางของได้

B Republic

ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน 2 ประตู แต่ความพิเศษของยูนิตนี้ คือ เป็นบานกระจก

B Republic

มาดูห้องนอนเล็ก ซึ่งอยู่ทางฝั่งขวามือ เตียงที่ได้จะเป็น เตียงเดี่ยว

B Republic

ตู้เสื้อผ้าห้องนอนเล็ก จะเป็นแบบบานเลื่อน ตามขนาดห้อง ซึ่งข้างตู้มีพื้นที่เหลือให้สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้

B Republic

หน้าต่างที่ได้ยังคงเป็นแบบบานกระทุ้ง เหมือนกับห้อง Master Bedroom

B Republic

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ

หากนักลงทุนกำลังมองหาคอนโดมิเนียม Low Rise ในย่านสุขุมวิท 101/1 นั้น ระดับราคาค่าเช่าบริเวณนี้ค่อนข้างแตกต่างกัน เพราะมีโครงการผุดขึ้นในซอยอย่างมาก โดยอัตราค่าเช่าเริ่มที่ประมาณ 10,000 บาท ต่อเดือนสำหรับห้องสตูดิโอ และจะสูงขึ้น 18,000 – 24,000 บาทต่อเดือนสำหรับยูนิต 1-3 ห้องนอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Pause Sukhumvit 103
อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียม ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน 53 ตารางวา แบ่งเป็นอาคาร A และ B 8 ชั้น 250 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 20.71 – 44.19 ตร.ม. ที่จอดรถ 65 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 78,000 บาท / ตร.ม.

Pause Sukhumvit 103
ภาพ via pausecondo.com

The Series
คอนโดมิเนียม ของบริษัท บี ที วาย ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน 14 ตารางวา อาคารสูง 8 ชั้น 167 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 34.27 – 50.84 ตร.ม. ที่จอดรถ 65 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 52,000 – 62,000 บาท / ตร.ม.

The Series
ภาพ via theseriescondo.com

The Escape
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท พรไพลิน จำกัด บนที่ดิน 10 ไร่ 3 งาน แบ่งออกเป็น 6 อาคารสูง 8 ชั้น 794 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30 – 59 ตร.ม. ที่จอดรถ 70 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 45,000 บาท / ตร.ม.

the escape
ภาพ via pornpailin.net

บทสรุป
โครงการนี้ แม้ว่าจะเข้าไปในซอยค่อนข้างลึก และต้องเผชิญกับสภาพการจราจรในซอย ที่ค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรในชั่วโมงเร่งด่วน เนื่องจากเป็นซอยลัดได้หลายเส้นทาง แต่ด้วยการดีไซน์ตัวโครงการที่พัฒนาออกมาในแนวร่วมสมัย กับตึกรูปตัว L ดึงจุดเด่นของความเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ที่เน้นระบบถ่ายเทอากาศ ทำให้สามารถรับลมได้ตลอดวัน และด้วยจำนวนยูนิตที่ไม่มากเท่าโครงการคอนโดฯ ตึกสูงๆ สิ่งที่ผู้อยู่อาศัยในโครงการจะได้รับคือความเป็นส่วนตัว ไม่จอแจ

อีกทั้งระดับความเจริญของย่านนี้ค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอานิสงส์ของรถไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนาในพื้นที่ ทำให้ความน่าสนใจของโครงการนี้ก็ยังมีอยู่ แต่ด้วยโลเคชั่นที่ต้องเข้าซอยลึก ผู้ซื้อโครงการนี้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองมากกว่าซื้อเพื่อลงทุน

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:บียอนด์ ไลท์(Beyond Lite)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/102353/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%258c-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2597 www.ddproperty.com:news:102353 Tue, 11 Aug 2015 00:00:39 +0700

ทำเลกรุงเทพฯ ตะวันออกเป็นหนึ่งในโซนที่อยู่อาศัยแนวราบยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ เพราะการเดินทางเข้าเมืองสะดวกมาก และยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะหลังน้ำท่วมปลายปี 2554 ที่โซนนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่เลย ยิ่งทำให้ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออกได้รับความสนใจจากคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้เมืองมากขึ้น โดยหลายโครงการย่านนี้ นิยมใช้ชื่อทำเลต่อท้ายว่าพระราม 9 เพราะสามารถขึ้นทางด่วนเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างพระราม 9 ได้สะดวก

บริเวณแนวมอเตอร์เวย์ ฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑา โครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบระดับกลาง-บน ยิ่งติดถนนฝั่งมอเตอร์เวย์ จะยิ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง แตะๆ 10 ล้านบาทขึ้นไป เพราะราคาที่ดินย่านนี้สูงมาก

ขณะที่ผู้ประกอบการที่พัฒนาโครงการในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่มีกลุ่มเนอวานาที่ถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายกลางที่ปลุกปั้นแบรนด์ที่อยู่อาศัยในย่านนี้จนแข็งแกร่งสามารถสู้กับแบรนด์ที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ปักธงในย่านนี้ได้

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: บียอนด์ ไลท์ (Beyond Lite)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เนอวานา พระราม 9 จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ
เนื้อที่โครงการ: 34-3-72.8 ไร่
รายละเอียดโครงการ:
แนวคิดของบียอนด์ ไลท์ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นที่มาจากประสบการณ์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยของกลุ่มเนอวานา ซึ่งรูปแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้น เป็นสิ่งที่เนอวานาถนัดที่สุด ด้วยแรงบันดาลใจจากทุกมุมโลก ผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิตของคนกรุงเทพฯ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และด้วยวัสดุอุปกรณ์การตกแต่งทุกอย่างที่ผ่านการคัดสรรจากทีมงานและสถาปนิก เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน

จำนวน:
156 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, คลับเฮ้าส์, สนามเด็กเล่น, สวนส่วนกลาง, กล้องวงจรปิด CCTV, ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. และรถกอล์ฟส่งที่ Airport Link สถานีบ้านทับช้าง
• สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างก่อสร้าง
กำหนดแล้วเสร็จ: มีทั้งแบบสร้างเสร็จและสั่งสร้าง
ค่าส่วนกลาง: 20 บาท/ ตารางวา/ เดือน เก็บล่วงหน้า 2 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
ราคาเริ่มต้น 12.4 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558)
รูปแบบบ้าน
แบบบ้านในโครงการบียอนด์ ไลท์ มี 4 แบบหลัก ได้แก่
JUST SO: เริ่มต้น 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
KEEN: เริ่มต้น 51.8 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
LIVE: เริ่มต้น 63.5 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 350 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
MOST: เริ่มต้น 76.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 418 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ

สำหรับแบบบ้านที่พามารีวิววันนี้ คือ แบบ JUST-SO ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ห้องมาสเตอร์เบดรูมขนาดใหญ่ ปัจจุบันเหลือแค่ 14 ยูนิต

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
จุดเด่นของโครงการย่านพระราม 9-มอเตอร์เวย์ คือ การเดินทางที่สะดวก ทั้งเข้าเมือง หรือทำงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะออกไปทางชลบุรี ก็มีความสะดวกมาก และปัจจุบันมีรถไฟฟ้า Airport Link ผู้อยู่อาศัยย่านนี้ก็มีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยรถยนต์ หรือจะเดินทางด้วย Airport Link ก็สะดวกไม่แพ้กัน

Beyond Lite Map

สำหรับโครงการบียอนด์ ไลท์ ตั้งอยู่ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 ฝั่งที่ใกล้กับมอเตอร์เวย์ ซึ่งข้อดีของที่อยู่อาศัยฝั่งนี้ คือเมื่อลงทางด่วนมาจากทางพระราม 9 เข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์เพียงไม่นาน ก็สามารถชิดขวาเข้าสู่โครงการที่อยู่บริเวณฝั่งนี้ได้เลย ขณะที่ช่วงเช้า ก็สามารถชิดซ้ายขับวนเกือกม้า ข้ามฝั่งไปขึ้นทางด่วนเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวกเช่นกัน ซึ่งหากเทียบกับโครงการที่อยู่อีกฝั่งของถนนมอเตอร์เวย์ (ฝั่งตามแนวรถไฟฟ้า Airport Link) อาจจะมีความซับซ้อนในการเข้าถึงมากกว่า

Airport Link station
ภาพ via srtet.co.th

นอกจากนี้ ตัวโครงการยังใกล้กับ Airport Link สถานีบ้านทับช้างมาก (อยู่ฝั่งตรงกันข้าม) สามารถเดินจากตัวโครงการมาทางมอเตอร์เวย์ และข้ามสะพานลอยไปยังสถานีบ้านทับช้างได้สะดวกมาก ปัจจุบันโครงการมีบริการรถกอล์ฟส่งลูกบ้านไปยังปากทางกรุงเทพกรีฑา 32 ฝั่งมอเตอร์เวย์ เพื่อขึ้นสะพานลอยข้ามไปสถานีบ้านทับช้างได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน การจราจรบริเวณทางกลับรถเข้าเมืองจะมีปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่น

Beyond Lite Rama 9

การเดินทาง
1. ด้วยรถยนต์ ลงทางด่วนเข้าสู่ถนนมอเตอร์เวย์ ตรงมาเล็กน้อย สังเกตทางเข้าซอยกรุงเทพกรีฑา 32 หรือมีข้อสังเกตง่ายๆ คือ ปากทางเข้าจะมีสะพานลอยคนข้ามเพื่อไป Airport Link สถานีบ้านทับช้าง เรียกว่า ซอยนี้อยู่ฝั่งตรงข้าม Airport Link สถานีบ้านทับช้างเลย เลี้ยวเข้าซอยไปเล็กน้อย ก็จะเจอตัวโครงการบียอนด์ ไลท์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวโครงการได้ทันที

Airport Link

2. ด้วย Airport Link ค่อยข้างสะดวก นั่งมาลงที่สถานีบ้านทับช้าง แล้วข้ามสะพานลอยมา เข้าสู่ซอยกรุงเทพกรีฑา 32 อาจจะใช้เวลาเดินจากปากทางสักระยะหนึ่ง จึงจะถึงตัวโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ
คมนาคม: Airport Link สถานีบ้านทับช้าง, ทางด่วนบางนา-สุวรรณภูมิ, วงแหวนรอบนอก (บางปะอิน-บางนา)
ห้างสรรพสินค้า: เดอะไนน์ พระรามเก้า, เดอะ พาซิโอ มอลล์, เดอะมอลล์ บางกะปิ

The Nine Rama 9
ภาพ: เดอะไนน์ พระราม 9 via thenine.co.th

The Paseo

สถานศึกษา: มหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด วิทยาเขตกรุงเทพฯ, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

abac university
ภาพ: มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ via abactoday.com

สถานพยาบาล:  เช่น รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์

Smitivej Srinakarin
ภาพ via samitivejhospitals.com


รีวิวบ้านในโครงการบียอนด์ ไลท์ แบบบ้าน JUST-SO

สิ่งที่โครงการติดตั้งให้: ประตูรีโมท, สัญญาณกันขโมย, ปั๊มน้ำ+แท้งค์น้ำ, วอลล์เปเปอร์ (ไม่มีม่าน) จัดสวน และเครื่องปรับอากาศ 4 ตัว

Beyond Lite

บรรยากาศบ้านตัวอย่างแบบ JUST SO
เริ่มต้น 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 270 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ และมี สวนรอบตัวบ้าน ที่ทางโครงการจัดสวนไว้ให้

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

เริ่มด้วย:
ชั้นล่าง รับแขก ทำครัว

Beyond Lite

เมื่อเดินเข้าสู่ตัวบ้านชั้นล่าง จะเจอห้องนั่งเล่น ซึ่งบ้านตัวอย่างออกแบบไว้อย่างเป็นสัดส่วน เหมาะกับการพักผ่อน และรับแขก

Beyond Lite

ห้องน้ำรับแขก ได้อุปกรณ์ครบตามบ้านตัวอย่าง

Beyond Lite

ห้องครัว เป็นห้องเปล่า กั้นห้องให้ ซึ่งแม้ว่าจะออกแบบเป็นครัวฝรั่งไว้ให้ แต่เจ้าของบ้านสามารถปรับเป็นครัวไทยได้ (โครงการได้เดินตำแหน่งท่อน้ำดีและท่อน้ำทิ้งไว้ให้แล้ว)

Beyond Lite

Beyond Lite

มุมอเนกประสงค์ บ้านจริง มุมนี้จะเป็นพื้นที่เปล่า ส่วนบ้านตัวอย่างจะออกแบบให้มุมนี้เป็นมุมรับประทานอาหาร

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

 

ห้องเมด หรือห้องแม่บ้าน ออกแบบให้อยู่ชั้นล่างด้านหลังลานจอดรถ ซึ่งจะเข้าห้องจากบริเวณสวนด้านนอก

Beyond Lite_maid room  Beyond Lite_maid room

ชั้น 2 ห้องมาสเตอร์เบดรูม

Beyond Lite

มุมอเนกประสงค์ (ช่องเว้นว่าง) เมื่อเดินขึ้นมาชั้น 2 ของตัวบ้าน จะเจอมุมช่องที่เว้นว่างไว้ให้ ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถทำเป็นมุมอเนกประสงค์ มุมนั่งเล่นเหมือนบ้านตัวอย่างได้

ห้องนอนใหญ่หรือห้องมาสเตอร์เบดรูม ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแบบบ้าน JUST SO ที่มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 53 ตร.ม. (ไม่รวมช่วงบันได) คล้ายกับห้องเพ้นท์เฮ้าส์หรูของคอนโดมิเนียม โดยห้องมาสเตอร์เบดรูม ยังมีห้องน้ำใหญ่ในตัว พร้อมออกแบบให้มีห้อง Walk-In Closet ด้วย

Beyond Lite

Beyond Lite

สำหรับห้องมาสเตอร์เบดรูม ชั้น 2 จากบ้านตัวอย่าง ออกแบบอย่างมีสัดส่วน ให้มีทั้งมุมนั่งทำงาน (ติดฝั่งระเบียง)
ส่วนที่เป็นเตียงนอน และโซนห้องน้ำและห้องแต่งตัว ซึ่งในภายในห้องน้ำ มีอุปกรณ์ในห้องน้ำครบ แยกส่วนแห้งส่วนเปียก มีอ่างอาบน้ำ มีมุมเล็กๆ ไว้จัดสวนได้

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite (30)

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

ส่วนห้องแต่งตัวบ้านจริงจะเป็นห้องเปล่า แต่ออกแบบไว้เผื่อเป็นตู้เสื้อผ้า ดีไซน์แบบ Walk-In Closet ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของแบบบ้านนี้

Beyond Lite

Beyond Lite

พื้นที่ระเบียงเป็นรูปตัวแอล กว้าง 5.1×1.3 เมตร

Beyond Lite

ชั้น 3 ชั้นของ 2 ห้องนอน

Beyond Lite

Beyond Lite

เมื่อขึ้นมาสู่ชั้น 3 จะเจอมุมอเนกประสงค์ (ช่องเว้นว่าง) เช่นเดียวกับทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งเจ้าของบ้านสามารถทำเป็นมุมอเนกประสงค์ มุมนั่งเล่นเหมือนบ้านตัวอย่างได้ มุมอเนกประสงค์เล็กๆ ช่องเว้นว่าง

ห้องนอนใหญ่+ห้องน้ำ ชั้นนี้แยกส่วนเป็น 2 ห้องนอน โดยห้องนอนแรกจะเป็นห้องนอนใหญ่บวกด้วยห้องน้ำในตัว โดยพื้นที่ของห้องนี้ประมาณ 32 ตร.ม. เท่ากับห้องชุด 1 ห้องนอนในคอนโดมิเนียม พื้นที่ห้องขนาดใหญ่ สามารถแบ่งส่วนเป็นพื้นที่โต๊ะทำงานหรือทำการบ้านได้ ส่วนพื้นที่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ ออกแบบเป็น Walk-In Closet ขนาดกลาง ส่วนของห้องน้ำจะได้อุปกรณ์ครบชุดตามแบบบ้านตัวอย่าง แยกส่วนแห้ง-เปียก เพื่อความสะดวกในการใช้งาน


Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

ห้องนอนเล็ก+ห้องน้ำเล็ก ห้องนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 18 ตร.ม. อาจจะมีมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้ โดยพื้นที่ก่อนทางเข้าห้องน้ำ ออกแบบเป็นตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน ส่วนห้องน้ำเล็กได้อุปกรณ์ครบชุดตามแบบบ้านตัวอย่าง แยกส่วนแห้งเปียก

Beyond Lite

Beyond Lite

Beyond Lite

เปรียเทียบกับโครงการอื่น
ไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด วงแหวน-พระราม 9

Life Bangkok Boulevard Rama 9

บ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์นจากค่ายเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น บนเนื้อที่โครงการ 45 ไร่ ติดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 รูปแบบขนาดตั้งแต่ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ส่วนทานอาหาร 1 ครัวไทย 2 ที่จอดรถไปจนถึงขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องรับแขก 1 ส่วนพักผ่อน 1 ส่วนทานอาหาร 1 ครัวไทย 1 ห้องแม่บ้าน + 1 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 160-207.0 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 5.39 – 8 ล้าน

ลลิล กรีนวิลล์ พระราม9-อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ

Lalin Greenville Rama9_OnNut_Suvarnabhumi

บ้านเดี่ยว 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ติดสถานี Airport Link บ้านทับช้าง จากค่ายลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่โครงการ 118 ไร่ จำนวน 425 ยูนิต ประกอบด้วยบ้าน 7 แบบ เนื้อที่ตั้งแต่ 54-100 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 180-300 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 7-13 ล้านบาท

ไอคอน วงแหวน-พระราม 9

Icon Rama 9

บ้านเดี่ยว 2 ชั้นหลังใหญ่อีกหนึ่งโครงการจากค่ายเนอวานา ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า Airport Link บ้านทับช้างประมาณ 800 เมตร ตั้งอยู่บนเนื้อที่โครงการ 67-26.5-0 ไร่ จำนวน 72 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือก 6 แบบ ขนาดที่ดิน 72-144 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 185-277 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 10-18 ล้านบาท

บทสรุป
สำหรับกลุ่มกำลังซื้อสูงที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวใกล้เมือง โครงการบียอนด์ ไลท์ ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีจุดเด่นที่ทำเลที่ตั้ง ในราคาที่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นที่ได้รับและทำเลที่ตั้ง โดยโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นโครงการใหม่ๆ บริเวณมอเตอร์เวย์ฝั่งถนนกรุงเทพกรีฑาที่ใกล้กับถนนมอเตอร์เวย์เลย มีไม่มาก เพราะโครงการส่วนใหญ่ หากไม่อยู่ฝั่งตรงข้าม (ตามแนว Airport Link) ก็จะอยู่ด้านในถนนกรุงเทพกรีฑา การเดินทางที่สะดวกสบายทั้งเข้าและออกเมือง รวมทั้งอยู่ไม่ไกลจากศูนย์การค้า สถานศึกษาและโรงพยาบาลทำให้มีปัจจัยที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ครบถ้วน

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ดิ เอดิเตอร์ (The Editor)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/103736/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2595%25e0%25b8%25ad www.ddproperty.com:news:103736 Wed, 05 Aug 2015 23:00:53 +0700

ในบรรดาทำเลแนวรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ฝั่งมุ่งหน้าสู่หมอชิต บริเวณสถานีสะพานควายดูจะเป็นย่านที่ยังคงความเป็นชุมชนแบบดั้งเดิมไว้อยู่มากที่สุดแห่งหนึ่ง หากเทียบกับย่านอารีย์ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 1 สถานีจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของบรรยากาศระหว่าง 2 บริเวณ ในขณะที่โซนอารีย์จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร มอลล์ ออฟฟิศสำนักงานสไตล์โมเดิร์น และโครงการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมจากผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ ย่านสะพานควายจะมีความคึกคักในแบบที่แตกต่างออกไป ร้านค้า ร้านอาหารในย่านนี้จะยังคงกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่น มีตลาด และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและใช้ชีวิตครบครันเช่นกัน และเมื่อพฤกษา เรียลเอสเตท เข้ามาปักหมุดโครงการ “ดิ เอดิเตอร์” (The Editor) ในย่านที่มีความคลาสสิคอย่างสะพานควาย ก็เลือกที่จะคงเสน่ห์ความดั้งเดิมของย่านชุมชนแห่งนี้ไว้ แต่ก็ยังพ่วงฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยครบครัน โดยนอกจากคอนเซ็ปต์ที่เป็นจุดขายแล้ว โครงการนี้ยังมีไฮไลท์คือทำเลที่อยู่ห่างจากสถานี BTS สะพานควายเพียง 10 เมตรเท่านั้น

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 24 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: ดิ เอดิเตอร์ (The Editor)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนพหลโยธิน แขวง สามเสนใน เขต พญาไท กทม.

The Editor

รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: โดยรวมประมาณ 1 ไร่ 1 งาน 73 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 240 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุ 25 – 40 ปี
สถานะก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มตั้งแต่ชั้น 7 – 22
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็น ชั้น 23 (Exclusive Modernist Lounge, Blue Horizon Pool, Club Vital Fitness, Wisdom Library และ Squash) และชั้น 24 (Sky Arena Amphitheatre และ Serenity Yoga)
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: อาคารจอดรถ 6 ชั้น (คิดเป็น 55 % รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: วันที่ 9 สิงหาคมนี้ เตรียมพบกับ Open House Party เปิดตัว Sky Facility บนชั้น 23 พร้อมรับส่วนลดพิเศษ
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท / ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: 4.29 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 150,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 27.21 – 45.91 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 52.19 ตารางเมตร

The Editor

The Editor

The Editor

The Editor

The Editor

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

The Editor
ภาพ via bts.co.th

ทำเลที่ตั้งของโครงการดิ เอดิเตอร์นั้นอยู่ติดถนนพหลโยธิน ฝั่งมุ่งหน้าไปถนนวิภาวดี โดยย่านนี้เป็นที่ตั้งของหน่วยงานของรัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงการคลัง สรรพากร ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ โรงพยาบาล รวมถึงอาคารสำนักงานที่มีอัตราการเช่าสูง แสดงให้เห็นถึงความคึกคักของย่านดังกล่าวได้เป็นอย่างดี และจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดีมานด์สำหรับที่อยู่อาศัยในย่านนี้จึงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่โครงการใหม่ๆ ที่ขึ้นมาจะค่อนข้างจำกัด เนื่องจากที่ดินที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาโครงการเริ่มหายากขึ้น และมีราคาขยับสูงขึ้น โดยล่าสุดอยู่ที่ 120,000 – 200,000 บาท/ ตร.ว.

นอกจากนี้ศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีสะพานควายเลยนั้น ทำให้โครงการนี้ ได้รับความสนใจจากทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เองหรือลงทุน โดยในอนาคตอันใกล้ที่จะมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ยาวออกไปถึงสะพานใหม่-คูคต ดีมานด์ในย่านดังกล่าวอาจจะไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้ที่ทำงานอยู่ภายในเมืองเท่านั้น แต่ขยายไปสู่ผู้ที่ทำงานนอกเมืองในตอนเหนือของกรุงเทพฯ แต่ยังคงชื่นชอบการใช้ชีวิตในเมือง

การเดินทาง
The Editor

จากจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดกับสถานี BTS การเดินทางเข้าเมืองโดยระบบขนส่งมวลชนจึงไม่ใช่ปัญหา สามารถเดินขึ้น BTS สถานีสะพานควายได้ตั้งแต่หน้าโครงการ แต่สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องขับรถอาจจะต้องเผชิญกับสภาพจราจรสักหน่อย เพราะถนนพหลโยธินนี้จะขึ้นชื่อเรื่องการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน แต่ข้อดีของการอยู่อาศัยในย่านนี้คือสามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง ทั้งวิภาวดีรังสิต รัชาดาภิเษก พระราม 6 และทางด่วนกำแพงเพชร มุ่งหน้าเข้าเมืองหรือออกไปต่างจังหวัดได้

– รถไฟฟ้า BTS
ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ลงสถานีสะพานควาย ใช้ทางออกที่ 3 เดินย้อนขึ้นมาไม่กี่ก้าว ถึงโครงการเลย

เมื่อลงจากบันได BTS ให้เดินย้อนขึ้นมาประมาณ 10 เมตร

The Editor

เดินไปยังไม่ทันเหนื่อย จะสังเกตเห็นรั้วของโครงการอยู่ด้านขวามือ และช่วงนี้ทาง BTS กำลังสร้างลิฟท์สำหรับผู้พิการ บริเวณด้านหน้าโครงการ

The Editor

– รถยนต์ส่วนตัว
หากมาจากฝั่งถนนสุขุมวิท ให้ใช้ทางด่วนมาลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และวนวงเวียนเพื่อมุ่งหน้าไปถนนพหลโยธิน โดยให้สังเกตป้ายสถานีรถไฟฟ้า BTS เป็นหลัก จากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆ เมื่อเห็นสำนักงานไปรษณีย์นครหลวงเหนืออยู่ด้านซซ้ายมือ เป็นอันรู้กันว่าถึงโครงการแล้ว

ในช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันธรรมดาอย่างนี้ ถือว่าการจราจรยังไม่หนาแน่นเท่าไหร่นัก

The Editor

หากขับรถมาจากสุขุมวิท ผ่านอนุสาวรีย์ ตรงมาเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นสำนักงานไปรษณีย์นครเหนืออยู่ซ้ายมือ ติดกับโครงการ

The Editor

เห็นป้ายทางเข้าโครงการ The Editor เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย

The Editor

สถานที่แนว Lifestyle
สำหรับใครที่เคยชินกับการเที่ยวอยู่แต่ในตัวเมือง อย่างเส้นสุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ สยามฯ จนนึกภาพไม่ออกว่าสะพานควาย มีแหล่งไลฟสไตล์อะไรเด็ดๆ บ้าง ลองย้อนเวลากลับไปสมัยพ่อแม่เรายังสาว สถานที่ชมภาพยนตร์อันได้รับความนิยมไม่แพ้ ดิโอลด์ สยาม คงหนีไม่พ้นโรงหนังมงคลรามา ซึ่งปัจจุบันด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ระดับความนิยมลดลงจึงทำให้ต้องถูกรื้อถอนไป และถูกแทนที่ด้วยห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ตอบโจทย์เป้าหมายกลุ่มครอบครัวอย่างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ นั้นได้กลายเป็นจุดนัดพบของคนย่านนี้ไปแล้ว เพราะเนื่องจากใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก แต่ถ้าหากอยากเดินห้างสรรพสินค้าแนวเก๋ไก๋ เหมาะกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ อย่าง La Villa Ari คอมมูนิตี้มอลล์ขนาดย่อมประกอบด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อมากมาย รวมถึงวิลล่ามาร์เก็ต ศูนย์รวมสินค้าอิมพอร์ต ที่มีมากมายให้เลือกสรร นอกจากนี้สำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือน ในย่านแหล่งงานบริเวณนี้ต่างไม่พลาดตลาดนัดข้างธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ แหล่วรวมของกิน เสื้อผ้า ของจิปาถะในราคาถูกกว่า 30 ร้าน โดยเปิดให้เข้าช้อปได้ทุกวันพฤหัส ตั้งแต่เวลา 10.00 – 14.00 น.

โรงพยาบาลเปาโล (ห่างจากโครงการ 100 เมตร)

The Editor
ภาพ via paolohealthcare.com

Big C ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสะพานควาย (ห่างจากโครงการ 200 เมตร)

The Editor
ภาพ via konrakmeed.com

ตลาดนัดข้างธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ (ห่างจากโครงการ 500 เมตร)

The Editor
ภาพ via xn--22cap5dwcq3d9ac1l0f.com

La Villa Ari (ห่างจากโครงการ 1.3 กม.)

The Editor
ภาพ via facebook.com/SF.Lavilla

รีวิวภาพรวมโครงการ
ดิ เอดิเตอร์ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจในการดีไซน์ด้วยการนำเสนอความคลาสสิค มาผสมผสานกับมุมมองแบบโมเดิร์นนิสต์ จนเป็นบทสรุปของหน้าตาสถาปัตยกรรมตัวอาคารสูงในคอนเซปต์ Classic with a Twist โดยใช้โทนสีอบอุ่น เทา ดำ น้ำตาล พร้อมเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยรอบ จึงทำให้รู้สึกเหมือนพักอาศัยอยู่ในบ้าน อีกทั้งด้วยตัวตึกติดกับถนนพหลโยธินและบีทีเอส จึงทำให้วิวโดยรอบ เป็นในลักษณะ City View
ทิศเหนือ – วิวทางฝั่งสวนจตุจักร
ทิศใต้ – ได้ทัศนียภาพทางฝั่งอนุสาวรีย์ ทิศนี้อาจได้วิวตึกเล็กน้อย
ทิศตะวันออก – ด้านนี้อาจถูกบล็อกวิวเล็กน้อย จากตึกไอดีโอ มิกซ์
ทิศตะวันตก – มุมนี้ไม่มีอะไรมาบล็อก สามารถมองได้ไปถึงฝั่งบางโพเลย

ตัวสถาปัตยกรรมตึกถูกออกแบบในสีเทา ดำ โทนอบอุ่น ล้อมรอบด้วยรั้วต้นไม้สีเขียวสูง 2.5 เมตร

The Editor

ส่วนของชั้นล่างทางโครงการให้เป็นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อ

The Editor

ส่วนผู้พักอาศัยจะต้องเอารถขึ้นไปจอดบนอาคาร

The Editor

โครงการได้เนรมิตพื้นสีเขียว สวนเล็กๆ อยู่ด้านหน้าโครงการ

The Editor

สวนนี้ยังมีประตูรั้วในสไตล์คลาสสิคด้วย

The Editor

หากมองมาจากด้านในโครงการ จะเห็น BTS สถานีสะพานควายอยู่ด้านหน้าพอดี

The Editor

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
โครงการชูจุดเด่นความสะดวกสบายระดับโรงแรม 5 ดาว ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการตกแต่งในสไตล์คลาสสิคโมเดิร์น ซึ่งแบ่งออกเป็นชั้น 23 และ 24 โดยเน้นตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยกลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นหลัก

ก่อนที่จะขึ้นไปดู Facilities ในชั้น 23 และ 24 มาชมส่วนของ Lobby บริเวณชั้นล่างที่ถูกตกแต่งในสไตล์คลาสสิค กับเฟอร์นิเจอร์โทนสีอบอุ่น อย่างน้ำตาล สอดแทรกสีขาวทำให้สบายตา

The Editor

หลังจากนั่งพักบริเวณ Lobby ไปแล้ว แตะ Access Card แล้วกดลิฟท์ขึ้นไปดู Facilities กันเลย

The Editor

ส่วนกลางชั้น 23 นั้นถูกแบ่งออกเป็นฝั่งซ้าย Blue Horizon Pool และ Exclusive Modernist Lounge ส่วนฝั่งขวาเป็น Club Vital Fitness และ Wisdom Library Squash

The Editor

ก่อนจะไปใช้บริการสระว่ายน้ำ อ่านกฎระเบียบสักนิด

The Editor

ส่วนนี้ถูกตกแต่งให้เป็นในแนวคลาสสิคผสมโมเดิร์น โทนสีฟ้า น้ำเงิน ขาว โดยออกแบบให้มีเตียงริมสระ ประหนึ่งเหมือนโรงแรม 5 ดาว

The Editor

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ กว้าง 20 ยาว 4.5 เมตร

The Editor

ถัดเข้ามาด้านในเป็นมุมนั่งชิล ตกแต่งในสไตล์คลาสสิค ล้อมรอบด้วยบานกระจก เพื่อเปิดรับลม ชมวิว

The Editor

ออกมาจากส่วนของสระว่ายน้ำ จะพบ Exclusive Modernist Lounge

The Editor

Exclusive Modernist Lounge ถูกออกแบบในโทนสี น้ำเงิน ฟ้า ขาว ล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง เหมาะกับการนั่งทำงาน

The Editor

ส่วนฝั่งขวา เป็นโซน Wisdom Library Squash ที่ยังคงออกแบบให้ล้อมรอบด้วยกระจกเช่นเคย โดยมีมุมส่วนตัวให้นั่งอ่านหนังสือ

The Editor

บนโต๊ะอ่านหนังสือ หากมองผ่านออกไป จะเห็นวิวตึกไอดีโอ มิกซ์ พหลโยธิน อย่างชัดเจน ซึ่งอยู่ในทางทิศตะวันออก

The Editor

ห้องสมุด ถูกตกแต่งให้ดูโปร่งโล่ง สบายดี เหมาะกับนั่งอ่านหนังสืออย่างมาก

The Editor

นอกจากนี้ในโซนนี้ยังสามารถจัดปาร์ตี้ได้ โดยทางโครงการได้เตรียมอุปกรณ์ไว้ให้เรียบร้อย

The Editor

ส่วนใหญ่หนังสือในห้องสมุด เป็นหนังสือต่างประเทศ

The Editor

เดินเข้ามาด้านในจะเป็นโซนของ Club Vital Fitness

The Editor

 

ไฮไลท์ของฟิตเนส อยู่ที่ห้องสวอตช์ขนาดมาตรฐาน

The Editor

หากรู้สึกส่วนกลางชั้น 23 ยังไม่จุใจ ให้เดินขึ้นบันไดมาชั้น 24 เพื่อพบพื้นที่ของสวนสีเขียว

The Editor

บริเวณนี้มักถูกใช้เป็นสถานที่ฝึกเล่นโยคะ และทำกิจกรรมกันในครอบครัว

The Editor

The Editor

The Editor

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม.
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.6 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 1.2 เมตร ยาว 1.5 เมตร
ประตู: ประตูแบบก้านโยก ระบบล็อก 2 ชั้น
โคมไฟ: LED Downlight
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า ซิ้งล้างจาน และเครื่องดูดควัน จาก Mex
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Kohler
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: ติดผนังจาก Daikin Inverter

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 28.26 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

The Editor

บานประตูเป็นแบบก้านโยก มีระบบล็อก 2 ชั้น

The Editor

โดยเมื่อผลักประตูไปจะเจอตู้เก็บของ Built-in สามารถแปรสภาพเป็นที่เก็บรองเท้าได้ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นส่วนของครัว

The Editor The Editor

ชุดเครื่องครัวยังคงคอนเซ็ปต์ของโครงการอยู่ โดยใช้โทนสีเทาจาก Mex

The Editor

มุมทำอาหารทางโครงการติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน จาก Mex แต่ไม่ได้เคลือบผนังด้วยไฟเบอร์กลอส เพราะฉะนั้นจึงต้องดูแลเรื่องทำความสะอาดพอสมควร

The Editor

ความพิเศษของห้องนี้ อยู่ที่การแบ่งโซนห้องอย่างชัดเจน ด้วยประตูบานเลื่อน

The Editor

มุมส่วนของห้องนั่งเล่น ห้องนอน และโต๊ะกินข้าว จะอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยเตียงที่ได้จะเป็นขนาด 5 ฟุต

The Editor

ด้านปลายเตียง ทางโครงการ Built-in โต๊ะวางทีวีขนาดพอเหมาะ พร้อมช่องเสียบเสาอากาศ และปลั๊กเต้าเสียบ

The Editor

บางคนอาจจะสงสัยว่าช่องสี่เหลี่ยมนี้คืออะไร มันช่องซ่อนสายไฟของบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทั้ง ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี เป็นต้น

The Editor

เครื่องปรับอากาศไดกิ้น ทางโครงการให้ 1 เครื่อง สำหรับยูนิตนี้ โดยเป็นแบบติดผนัง

The Editor

ตู้เสื้อผ้าของโครงการนี้แม้จะขนาดเล็ก แต่ได้แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง โดยทำประตูกั้นระหว่างโซนแต่งตัวกับห้องน้ำด้วย

The Editor The Editor

สุขภัณฑ์ทั้งหมดที่เห็นในรูปเป็นของ Kohler

The Editor

จุดเด่นของโครงการอีกหนึ่งสิ่งคือฝักบัวคลาสสิค ที่ทางโครงการบอกว่าไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้อีก

The Editor

มาดูฝั่งระเบียงห้อง ประตูจะเป็นกระจกบานเปิด แบบก้านโยก

The Editor

เมื่อผลักไป จะพบพื้นที่สีเขียวซึ่งโครงการออกแบบไว้ หน้าระเบียงกว้าง 1.2 ยาว 1.5 เมตร

The Editor

ตรงส่วนระเบียงมีการติดตั้งก๊อกน้ำ และปลั๊กไว้รองรับเครื่องซักผ้า

The Editor

วิวของยูนิตนี้หันไปทางตะวันออก ได้วิวบีทีเอสสถานีสะพานควาย ไปแบบเต็มๆ

The Editor

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 27.21 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

The Editor

ผลักประตูไป จะเจอโซนครัว ซึ่งยูนิตนี้จะได้พื้นที่มากกว่าห้องแรก แต่จะไม่มีส่วนของประตูบานเลื่อน แบ่งสัดส่วนห้อง

The Editor

ฝั่งตรงข้ามโซนทำอาหาร จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งค่อนข้างแคบ จะมีตู้เก็บของอยู่ด้านหน้า

The Editor The Editor

เตียงยังคงเป็นขนาด 5 ฟุต

The Editor

ตู้เสื้อผ้ายูนิตนี้จะได้ 3 บาน

The Editor

มุมโซนนั่งเล่น และที่กินข้าว ยังคงอยู่ในส่วนของห้องนอน เหมือนห้องแรก

The Editor

โต๊ะวางทีวี ยูนิตนี้ได้กว้างกว่าเดิม

The Editor

ประตูระเบียง เป็นแบบบานเลื่อน

The Editor

ที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ ยูนิตนี้ พิเศษตรงมีบานประตูเปิด – ปิด เก็บของจิปาถะได้

The Editor The Editor

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
ดังที่กล่าวข้างต้นว่าโซนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ทำให้มีดีมานด์ในที่อยู่อาศัยจากทั้งคนที่อยู่ในพื้นที่เดิมเองแต่ต้องการขยับขยายและผู้ที่อยู่นอกเมืองและต้องการที่พักในทำเลที่สะดวกสบายใกล้แหล่งงาน หรือเดินทางไปสู่ใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่โครงการใหม่ๆ ในย่านนี้เกิดขึ้นใหม่ไม่มากนัก ผู้ที่คิดลงทุนปล่อยเช่าในคอนโดมิเนียมระดับราคาขาย 100,000 -200,000 บาท / ตร.ม. เช่นนี้ จะได้ผลตอบแทนประมาณ 5% ต่อปี หรือ ประมาณ 20,000 บาท / เดือน สำหรับ 1 ห้องนอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Onyx Phaholyothin
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บนที่ดิน 3 ไร่ 2 งาน 77 ตารางวา อาคารสูง 26 ชั้น 620 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ 1 ห้องนอน และ Duplex พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 25 – 67.50 ตร.ม. ที่จอดรถ 60 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 156,000 บาท / ตร.ม.

 Onyx Phaholyothin
ภาพ via sansiri.com

Ideo Mix Phaholyathin
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บนที่ดิน 2 ไร่ 3 งาน 25 ตารางวา อาคารสูง 23 ชั้น 449 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30 – 58 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 120,000 บาท / ตร.ม.

 Ideo Mix Phaholyathin
ภาพ via ananda.co.th

The Signature by Urbano
อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ในย่านสะพานควาย ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บนที่ดิน 2 ไร่ เป็นอาคารสูง 31 ชั้น 253 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 34 – 85 ตร.ม. ที่จอดรถ 70 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 150,000 บาท / ตร.ม. โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2560

The Signature by Urbano
ภาพ via .thesignaturebyurbano.com

บทสรุป
จุดขายหลักของโครงการนี้ นอกจากจะชูศักยภาพทำเลติดรถไฟฟ้าสถานีสะพานควายแล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นอันสามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายผู้อยู่อาศัยได้ดี ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลางที่ออกแบบในสไตล์คลาสสิคผสมผสานแนวโมเดิร์น เทียบเท่าโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือรูปแบบห้อง ที่เน้นตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก อีกทั้งยังเน้นเรื่องความสะดวกสบายด้วยการเลือกทำเลที่รายล้อมด้วยร้านค้า ห้างค้าปลีกชื่อดัง รวมถึงแหล่งงาน และโรงพยาบาล ด้วยเหตุนี้จึงทำให้โครงการนี้จึงได้รับความนิยมจากทั้งผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ในขณะที่บรรดานักลงทุนจะค่อนข้างได้กำไรหากปล่อยเช่า เนื่องจากแนวโน้มราคาคาดว่าจะสูงขึ้นตามอัตราราคาที่ดินและมูลค่าของโครงการในย่านนี้ที่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหากโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต แล้วเสร็จในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:ไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่(KnightsBridge SkyCity Saphan Mai)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/103572/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%2597%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%258c www.ddproperty.com:news:103572 Wed, 05 Aug 2015 05:00:58 +0700

ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีกค่ายที่กำลังเป็นที่จับตามองเพราะนอกจากอยู่ระหว่างเตรียมตัวเพื่อขาย IPO หรือเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้แล้วยังเป็นบริษัทที่กล้าเปิดหน้าดินทำเลใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับกลางอีกด้วย

ล่าสุดบริษัทเปิดตัวโครงการ “ไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่” คอนโดมิเนียมติดถนนพหลโยธินในย่านสะพานใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพเนื่องจากในอนาคตจะมีการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพิ่งจะลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการกับ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ ผู้ชนะประมูลรับเหมาก่อสร้างโครงการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาและมีกำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2562 โดยที่ตั้งของโครงการไนท์บริดจ์ฯ จะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีสายหยุดแบบที่เรียกว่าลงจากสถานีก็ถึงโครงการทันที

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: ไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่ (KnightsBridge SkyCity Saphan Mai)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ติดถนนพหลโยธิน (ระหว่างซอยพหลโยธิน 48 และซอยพหลโยธิน 50) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
เว็บไซต์: www.knbcondo.origin.co.th
โทร: 092-716-7070

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 2 ไร่ 3 งาน 56 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 15 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 490 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่, ผู้บริหารระดับกลาง, คนทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง, ผู้ที่กำลังหาบ้านหลังที่ 2, ผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นทรัพย์สิน
สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างดำเนินการรายงานการวิเคราะห์สิ่งแวดล้อม (EIA) จะเริ่มก่อสร้างไตรมาส 4 ปี 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จ ไตรมาส 3 ปี 2560
ระบบความปลอดภัย: Keycard Access แบบเข้าออกได้เฉพาะชั้นที่พักและพื้นที่ส่วนกลาง, ระบบ Digital Door Lock, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิด 24 ชั่วโมง
ส่วนพักอาศัย: ชั้นที่ 5-14
ส่วนกลาง: ชั้น 1 (Double Volume Lobby, Business Lounge, Green Canopy Terrace, English Modern Garden), ชั้น 15 (Private Sky Garden, Jacuzzi, Pool Terrace, Infinity Edge Pool, BBQ Corner, Sky fitness, Playground, Putting Green, Tea Conner, Freeform Jogging Track)
ที่จอดรถ: 245 คัน (รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50%) แต่ละยูนิตได้สิทธิ์จอดรถ 1 คันแบบไม่ระบุที่จอดรถ
ลิฟท์โดยสาร: 4 ตัว (ฝั่งซิตี้โซน 3 ตัวและฝั่งไพรเวทโซน 1 ตัว)
ลิฟท์บริการ: 1 ตัว
สถานะการขาย: 80% (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 45 บาท/ตร.ม./เดือน
ราคาเริ่มต้น: 2.39 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)
ราคาเฉลี่ย: 98,500 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2558)

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

รูปแบบห้อง:
1 ห้องนอน 22.50-23.10 ตร.ม.
1 ห้องนอน 24.00-34.80 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 34.10-34.70 ตร.ม.
2 ห้องนอน 40.70-48.40 ตร.ม.
ทุกยูนิตตกแต่งแบบ Fully Furnished

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai     KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai    KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
รูปเลย์เอาท์ห้องแบบต่างๆ

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลย่านสะพานใหม่
แม้หลายคนจะมองว่าสะพานใหม่เป็นทำเลที่อยู่ในย่านชานเมืองแต่ก็เป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีศักยภาพสูงเพราะถือว่าเป็นศูนย์กลางของความเจริญของโซนกรุงเทพฯ เหนือ เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ใกล้แหล่งงานทั้งหน่วยงานราชการ สถานศึกษา โรงพยาบาล ตลอดจนเป็นย่านการค้าสำคัญโดยมีตลาดยิ่งเจริญเป็นแม่เหล็กใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นโซนที่เป็นย่านชุมชน มีที่อยู่อาศัยแนวราบค่อนข้างหนาแน่นอีกด้วย โดยเราจะเริ่มเห็นความเป็นชุมชนอย่างชัดเจนเมื่อผ่านวงเวียนหลักสี่มาแล้ว เนื่องจากถนนพหลโยธินตั้งแต่แยกเกษตรจนถึงวงเวียนหลักสี่นั้นเต็มไปด้วยหน่วยงานราชการและสถานศึกษาไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม แต่พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่เขตทหารภายใต้กรมทหารราบที่ 11

ดังนั้นถนนพหลโยธินตั้งแต่วงเวียนหลักสี่เป็นต้นมาจะมีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น มีอาคารพาณิชย์และย่านการค้าต่างๆ ตลอดสองฝั่งถนน มีไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่อย่างเทสโก้ โลตัสและบิ๊กซีเข้ามาเปิดสาขา แต่ย่านการค้าที่ถือเป็นหัวใจของย่านนี้อยู่ที่ตลาดยิ่งเจริญซึ่งเป็นตลาดสดที่เปิดให้บริการมากว่า 60 ปี โดยตลาดแห่งนี้เป็นตัวดึงทราฟฟิกเข้ามาสู่ย่านนี้โดยมีรถยนต์เข้าออกตลาดแห่งนี้ไม่น้อยกว่า 5,000-7,000 คันต่อวัน หากเลยจากตลาดยิ่งเจริญไปความคึกคักจะค่อยๆ ลดลงเพราะจะเข้าสู่เขตฐานทัพอากาศและโรงพยาบาลภูมิพล

ในอนาคตทำเลย่านสะพานใหม่จะมีศักยภาพสูงขึ้นไปอีกเมื่อการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เสร็จสิ้นตามกำหนดในปี 2562 โดยรถไฟฟ้าสายนี้ถือเป็นรถไฟฟ้าสายหลักที่จะเชื่อมการเดินทางจากย่านนี้เข้าสู่ CBD หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจโดยตรง (ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถเหมือนสายสีลม)

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
แผนที่โครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
หน้าแปลงที่ดินโครงการ

โครงการตั้งอยู่ระหว่างซอยพหลโยธิน 48 กับพหลโยธิน 50 ตรงข้ามซอยพหลโยธิน 69 ตัวโครงการถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีมาก เพราะนอกจากจะติดถนนใหญ่แล้วยังอยู่ในย่านชุมชน มีตึกแถว ร้านค้าแผงลอยตั้งอยู่ในระยะเดินได้
KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ภาพถ่ายจากฝั่งตรงข้าม
Saphan Mail Gas Station
ทางขวาของโครงการอยู่ติดปั๊มน้ำมัน ปตท. และปั้มน้ำมัน Esso

Saphan Mai NissonShowroom
ด้านซ้ายติดกับโชว์รูมรถยนต์ สยามนิสสัน กรุงเทพฯ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ฝั่งตรงข้ามของโครงการเป็นตึกแถวและร้านคาราโอเกะ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ภาพเมื่อมองออกมาจากโครงการ

ตัวโครงการยังตั้งอยู่ระหว่างป้ายรถเมล์และสะพานลอยและอยู่ตรงกลางระหว่างที่ตั้งของเทสโก้ โลตัสสาขาหลักสี่และบิ๊กซี สะพานใหม่ ส่วนตลาดยิ่งเจริญอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัลด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ถนนพหลโยธินฝั่งออกเมือง

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ถนนพหลโยธินฝั่งเข้าเมือง การจราจรบนถนนพหลโยธินค่อนข้างหนาแน่น

การเดินทาง
รถยนต์: หากมาจากถนนพหลโยธินขาออกผ่านห้าแยกลาดพร้าวให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกรัชโยธิน แยกเกษตรและวงเวียนหลักสี่ ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งตรงข้ามซอยพหลโยธิน 69 ให้ใช้ทางกลับรถหน้าโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล หากมาจากถนนพหลโยธินฝั่งข้าเข้าให้ตรงมาตามถนนผ่านอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เทสโก้ โลตัส รังสิต โรงพยาบาลบีแคร์ ผ่านกองบัญชาการกองทัพอากาศ โรงพยาบาลภูมิพล ขับรถมาเรื่อยๆ ผ่านบิ๊กซี สะพานใหม่ โรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ตรงไปอีกประมาน 1 กิโลเมตรจะถึงตัวโครงการทันที

รถเมล์: ตัวโครงการอยู่ระหว่างป้ายรถเมล์ 2 ป้าย สายรถเมล์ที่วิ่งผ่านหน้าโครงการ ได้แก่ สาย 34, 39, 114, 522, ปอ.3, ปอ.21

รถไฟฟ้า (อนาคต): ถ้าการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จสามารถขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีสยามและลงที่สถานีสายหยุด

Green Line Mass Transit
ภาพ via  mrta.co.th

สถานที่แนว Lifestyle
เทสโก้ โลตัส หลักสี่ (ห่างจากโครงการ 1.1 กิโลเมตร)

Tesco Lotus Saphan Mai
ภาพ via Google StreetView

บิ๊กซี ซุปเปอร์ เซ็นเตอร์ สะพานใหม่ (ห่างจากโครงการ 1.3 กิโลเมตร)

Big C Saphan Mai
ภาพ via Google StreetView

ตลาดยิ่งเจริญ (ห่างจากโครงการ 1.5 กิโลเมตร)

Ying Charoen Market
ตลาดเก่าแก่ที่อยู่คู่กับย่านนี้มากว่า 60 ปี ภายในแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ 1.ตลาดสด ขายอาหารสดและวัตถุดิบสำหรับปรุงอาหาร 2.ตลาดอาหารสำเร็จรูป เป็นโซนที่ขายอาหารปรุงสำเร็จ มีฟู้ดคอร์ทเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และ 3.เป็นโซนขายเสื้อผ้าราคาถูกทั้งปลีกและส่ง

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “พื้นที่ชีวิตที่บรรจบเส้นขอบฟ้า” ยกสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ส่วนกลางขึ้นไปไว้ที่ชั้นดาดฟ้าทั้งหมดเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยซึ่งคุ้นเคยกับแนวราบได้สัมผัสชีวิตบนอาคารสูงอย่างแท้จริง ตัวอาคารออกแบบในสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก เรียบหรู ไม่ล้าสมัย ด้านหน้าโครงการหันไปทางทิศตะวันตก ที่ดินด้านหน้าอาคารกว้าง 32 เมตร ตัวอาคารจึงมีลักษณะยาวและลึกเข้าไปตามแปลงที่ดินที่อยู่ด้านหลัง ห้องชุดจึงแทบจะไม่มีห้องไหนรับแดดเช้า-แดดบ่ายแบบเต็มๆ เลย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
สวนสไตล์อังกฤษที่อยู่บริเวด้านหลังของโครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ภาพจำลองสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในโครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 1-สวนสไตล์อังกฤษ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 15-ฟิตเนสลอยฟ้า

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 15-สวนดาดฟ้า

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 15-สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 15-ลู่จ๊อกกิ้ง

วิวรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นวิวอาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่มีมาแต่เดิมแล้ว แต่อาคารพาณิชย์ดังกล่าวจะไม่บล็อกวิวของโครงการเนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยเริ่มที่ชั้น 5 ส่วนความเป็นไปได้ของโครงการอาคารสูงในอนาคตมีน้อยมาก เนื่องจากที่ดินในย่านนี้อยู่ใกล้ฐานทัพอากาศ ติดข้อจำกัดเรื่องพื้นที่เขตการบินทำให้สร้างอาคารสูงได้ไม่เกิน 40.4 เมตรหรือประมาน 15 ชั้น ขณะเดียวกันที่ดินที่มีทำเลติดถนนใหญ่และขนาดใหญ่พอสำหรับพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมหายากและมีราคาค่อนข้างสูงและที่ดินส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่ห่างจากโครงการไนท์บริดจ์ฯ มากพอที่จะไม่บล็อควิวจนทำให้ลูกบ้านรู้สึกอึดอัดและไม่เป็นส่วนตัว

Floor Plan ชั้น 1-15

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
มาสเตอร์แปลนของโครงการ ถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตร มีสวนพักผ่อนอยู่ด้านหลังโครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
แปลนของ Facility ต่างๆ บนดาดฟ้า ชั้น 15

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 3-4 มีห้องชุดบางส่วนอยู่ด้านหน้าของตัวอาคาร ด้านหลังจะเป็นส่วนของที่จอดรถ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ชั้น 5-14 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด แบ่งออกเป็น ซิตี้โซนและไพรเวทโซน

รีวิวห้องตัวอย่าง
ห้องของโครงการเป็นแบบตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินตามแบบในห้องตัวอย่าง ทุกห้องมาพร้อมกับประตูทางเข้าไซส์พิเศษ (กว้าง 90 เซนติเมตร สูง 2 เมตร) และมือจับเป็น Digital Doorlock ของซัมซุง หรือเทียบเท่า

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai   KnightsBridge SkyCity Saphan Mai

ห้องตัวอย่างมี 3 แบบ ได้แก่
1) ห้องแบบ 1 ห้องนอน 22.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นเลย์เอาท์ห้องตามแบบนี้

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
เมื่อมองจากห้องนอนไปยังประตูห้อง

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
มุมนั่งเล่น โครงการให้โซฟาตามแบบห้องตัวอย่างด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
บิลท์อินชั้นวางทีวีบริเวณโซนนั่งเล่น

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
โซนห้องนอนกั้นด้วยบานสไลด์อลูมิเนียมสีดำเป็นแบบ 3 ตอนซึ่งจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นไม่อึดอัด มีบานกระทุ้ง 1 บานสำหรับระบายอากาศ มีเตียงนอนบิลท์อินขนาด 5 ฟุตพร้อมลิ้นชักเก็บของด้านข้างของเตียง (โต๊ะทำงานข้างเตียงไม่รวมอยู่ในชุดเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการแถมให้)

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
บิลท์อินชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียมสีดำ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
เคาต์เตอร์ครัวบิลท์อินหน้าบานเคลือบไฮกลอสตามสเป็คเดียวกับห้องตัวอย่างมาพร้อมกับเตาไฟฟ้าและฮู้ดดูดควันแบรนด์ Teka มีกระจกสีดำปูให้ตรงผนังของเคาน์เตอร์เพื่อสะดวกต่อการทำความสะอาดด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ห้องน้ำได้ตามสเปคนี้ทั้งหมด ก็อกน้ำสุขภัณฑ์เป็นแบรนด์ American Standard มีบานเลื่อนกระจกนิรภัยกั้นโซนเปียกและโซนแห้ง ผนังด้านหนึ่งปูกระเบื้องลายโมเสส ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้แต่โครงการเดินสายไฟรองรับการติดตั้งในอนาคตไว้เรียบร้อยแล้ว

2) ห้องแบบ 1 ห้องนอน 28.41 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท เป็นห้องขนาดกลางของโครงการ

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
เลย์เอาท์ของห้อง type นี้แบ่งออกเป็นสัดส่วนลงตัว ส่วนห้องนอนกั้นด้วยบานสไลด์ 3 ตอน ห้องครัวก็มีบานสไลด์กั้นป้องกันกลิ่น โต๊ะกินข้าวอยู่หน้าครัวพอดี

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ห้อง Type นี้ห้องน้ำอยู่ด้านในห้องให้ความเป็นส่วนตัวกว่าแบบแรกและมีพื้นที่ทำงานให้ด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
โซนห้องนอนมาพร้อมบิลท์อินตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ไม่มีระเบียงแต่เป็นกระจกบานใหญ่พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
มุมทำงานมาพร้อมโต๊ะทำงานและชั้นวางของแบบบิลท์อิน

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ฝั่งตรงข้ามกับมุมทำงานเป็นโต๊ะกินข้าว (ไม่รวมอยู่ในลิสต์เฟอร์นิเจอร์ของโครงการ) ถัดไปเป็นมุมนั่งเล่นให้โซฟา 1 ตัวตามแบบห้องตัวอย่าง

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ห้อง Type นี้มีบิลท์อินชั้นวางทีวีและตู้เก็บรองเท้าที่อยู่ด้านข้างของประตูทางเข้าไว้ให้ด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ห้องครัวกั้นเป็นสัดส่วนด้วยบานสไลด์ เคาน์เตอร์ครัวได้สเปคตามที่เห็น (ห้องนี้จะเคลือบลามิเนตธรรมดาไม่ใช่บานไฮกรอส) มาพร้อมกับเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ส่วนกระจกที่ผนังของเคาน์เตอร์ครัวห้องนี้เป็นกระจกฝ้า ระเบียงอยู่ติดกับห้องครัวแต่ขนาดของระเบียงค่อนข้างเล็ก

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai   KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
(ซ้าย) ห้องน้ำก่อธรณีประตูและกั้นกระจกนิรภัยแยกโซนเปียกและแห้ง (ขวา) ผนังด้านหนึ่งใช้กระเบื้องลายโมเสส สุขภัณฑ์และก็อกน้ำเป็นของแบรนด์ American Standard และให้กระจกเงาบานใหญ่เหมือนห้องแรก

3) ห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส (1 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์) ขนาด 34.15 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท

ห้องแบบ One Bed Plus ถือเป็นแบบห้องที่ออริจิ้นฯ ดีไซน์ขึ้นมาเป็นพิเศษ (ดีไซน์ใช้กับทุกโครงการจนถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้) โดยห้องที่เสริมออกมาสามารถปรับเป็นห้องนอน ห้องทำงานหรือห้องอื่นๆ ได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
เลย์เอาท์ของห้องถือว่าเป็นสัดส่วน แต่บริเวณครัวจะแคบและไม่ได้มีกระจกกั้นเป็นสัดส่วน

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
โซนนั่งเล่น ทางโครงการให้โซฟาแบบเดียวกับห้องตัวอย่าง

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai   KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
(ซ้าย) บิลท์อินชั้นวางทีวีบริเวณห้องนั่งเล่นและชั้นวางรองเท้าหลังประตู (ขวา) ห้องนอนกั้นด้วยบานสไสด์อลูมิเนียมสีดำ 3 ตอน พร้อมบิลท์อินตู้เสื้อผ้าและเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ตัวห้องไม่มีระเบียงแต่เป็นกระจกบานใหญ่พร้อมบานกระทุ้ง 2 บาน

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ห้อง Type นี้มีบิลท์โต๊ะข้างเตียงให้ด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai   KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
(ซ้าย) ห้องอเนกประสงค์ ห้องตัวอย่างปรับเป็นห้องนอนโดยยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อวางที่นอน ห้องจริงจะเป็นพื้นปูลามิเนตปกติ แต่ให้ตู้แขวนบิลท์อินตามภาพ (ขวา) นอกจากนี้ยังมีเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินที่มีลูกเล่นพับเก็บได้ให้ด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai   KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
(ซ้าย) ระเบียงของห้อง Type นี้จะอยู่ที่ห้องอเนกประสงค์ เป็นระเบียงค่อนข้างยาว (ขวา) ด้านหน้าของห้องอเนกประสงค์เป็นโซนครัว มีเคาน์เตอร์หน้าบานไฮกรอสครัวมาพร้อมเตาไฟฟ้า ฮู้ดดูดควันและกระจกฝ้า โซนครัวมีไอร์แลนด์หรือเคาน์เตอร์ลอยให้ด้วย

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
ด้านข้างของไอร์แลนด์สามารถเปิด-ปิดเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้

KnightsBridge SkyCity Saphan Mai   KnightsBridge SkyCity Saphan Mai
(ซ้าย) ด้านในของไอร์แลนด์เป็นที่วางเครื่องซักผ้า (ขวา) ห้องน้ำได้ตามแบบสเปคเหมือนกับ 2 ห้องแรก

สรุปสิ่งที่จะได้รับ
พื้น: ไม้ลามิเนตหนา 12 มม.
ผนัง: ฉาบเรียบทาสีขาว
เพดาน: สูง 2.4 เมตร
ประตูทางเข้า: ประตูกว้าง 90 ซม. สูง 2 เมตร พร้อมระบบ Digital Door lock จาก SAMSUNG
เครื่องปรับอากาศ: DAIKIN INVERTER ขนาด 9,000 BTU จำนวน 2 เครื่อง (ห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส จะได้เครื่องปรับอากาศขนาด 13,000 BTU เพิ่มอีก 1 เครื่อง)
เฟอร์นิเจอร์:
โซฟา (รูปแบบตามห้องที่เลือก)
บิลท์อินชั้นวางทีวีบริเวณห้องนั่งเล่น
บิลท์อินชั้นวางรองเท้า (สำหรับห้อง 28 ตร.ม. ขึ้นไป)
บิลท์อินเตียงขนาด 5 ฟุต
บิลท์อินตู้เสื้อผ้า
บิลท์อินชั้นวางทีวีในห้องนอน (เฉพาะห้อง 22.5 ตร.ม.)
บิลท์อินโต๊ะทำงานและชั้นวางของ (เฉพาะห้องแบบ 28 ตารางเมตร)
บิลท์อินโต๊ะข้างเตียง (เฉพาะห้องวันเบดพลัส)
บิลท์อินตู้แขวน (เฉพาะห้องวันเบดพลัส)
ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัวบิลท์อินฝังเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ซิงค์ล้างจานพร้อมก็อกน้ำจาก Teka
ห้องน้ำ: กระเบื้องผนังลายโมเสส กระจกบานใหญ่ สุขภัณฑ์และก็อกน้ำจากแบรนด์ American Standard

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
ในย่านนี้ถือว่ามีคอนโดมิเนียมไม่มากนักแต่มีอพาร์ทเมนต์อยู่ในซอยค่อนข้างมาก จากการสำรวจของบริษัทบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ วัน เรียลเอสเตท จำกัด พบว่าอัตราค่าเช่าอพาร์มเมทนต์พื้นที่ใช้สอยประมาณ 30 ตร.ม. อยู่ที่ห้องละ 6,000-7,000 บาทต่อเดือน โดยอพาร์ทเมนต์ในย่านดังกล่าวมักเป็นอพาร์ทเมนต์เก่าและไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโครงการคอนโดมิเนียม คาดการณ์ว่าเมื่อโครงการไนทบริดจ์ฯ ก่อสร้างเสร็จจะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าได้ประมาณ 5-6% หรือสามารถปล่อยเช่าได้ประมาณ 12,000-13,000 บาทต่อเดือน โดยดีมานด์หลักน่าจะมาจากผู้เช่าในพื้นที่และผู้ที่ทำงานในย่านนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อรถไฟฟ้าก่อสร้างเสร็จก็เป็นไปได้ว่าจะมีดีมานด์จากกลุ่มคนทำงานในเมืองมากขึ้น

เปรียบเทียบโครงการใกล้เคียง
โครงการคอนโดมิเนียมในละแวกใกล้เคียงกันแทบจะไม่มีให้เห็นเนื่องจากที่ดินค่อนข้างหายาก พื้นที่รอบๆ ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวของชุมชนที่มีมาแต่เดิม โครงการใหม่ๆ ที่เข้ามาเปิดตัวส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ คอนโดมิเนียมที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกัน 3 โครงการ ได้แก่

ซิลค์ เพลส พหลโยธิน-หลักสี่

Silk Place Phaholyotin-Laksi
ภาพ via silkcondominium.com

คอนโดมิเนียมไฮไรส์ของบริษัท เคเอเอสซี ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดินขนาด 1 ไร่เศษ ออกแบบเป็นคอนโดสูง 15 ชั้น 1 อาคาร 274 ยูนิต ปัจจุบันเหลือขายเฉพาะยูนิตแบบ 1 ห้องนอนขนาด 33-40 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.35 ล้านบาท/ยูนิต หรือประมาน 71,200 บาท/ตร.ม.

เอสต้า พหลโยธิน-สะพานใหม่

ESTA
ภาพ via esta-condo.com

คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ของบริษัท 39 เอสเตท จำกัด ออกแบบเป็นอาคารสูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1 ไร่ ประกอบด้วยห้องชุด 150 ยูนิต รูปแบบเป็น 1-2 ห้องนอน ปัจจุบันปิดการขายแล้ว แต่อาจจะมีรีเซลยูนิตประกาศขาย

เอพพิโซด พหลฯ-สะพานใหม่

EpisodeCondo
ภาพ via facebook.com/episodecondo

คอนโดมิเนียมที่เตรียมเปิดตัวช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2558 นี้ของบริษัท 39 เอสเตท จำกัด ออกแบบเป็นคอนโดไฮไรส์สูง 15 ชั้น ห้องชุดแต่ละห้องตกแต่งแบบ Fully Furnished ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

บทสรุป
ไนท์บริดจ์ สกายซิตี้ สะพานใหม่ ถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมโครงการเดียวในย่านนี้เนื่องจากราคาเปิดตัวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโครงการในย่านเดียวกัน โดยเจ้าของโครงการดึงไฮไลท์ในเรื่องทำเลของโครงการซึ่งอยู่ในโซนที่มีศักยภาพ เป็นย่านชุมชน ติดถนนใหญ่และในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้า (สถานีสายหยุด) อยู่ด้านหน้าของโครงการเลย

นอกจากนี้โครงการยังให้พื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างเยอะ ไม่ได้มีแค่ฟิตเนส สระว่ายน้ำและสวนพักผ่อนตามมาตรฐานของโครงการคอนโดมิเนียมทั่วไปแต่ยังให้ลู่จ็อกกิ้ง ห้องอเนกประสงค์ ลานบาร์บีคิว พัตติ้งกรีนสำหรับฝึกซ้อมกอล์ฟด้วย อีกทั้ง โครงการยังมีทีมงานดูแลเรื่องการบริหารนิติบุคคลและการให้บริการแบบโรงแรม เช่น บริการทำความสะอาดห้องฟรีเดือนละ 2 ครั้ง บริการสั่งอาหาร ฯลฯ โดยรวมแล้วถือเป็นคอนโดฯ ที่ถือว่าครบเหมาะกับคนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย

ส่วนใครที่คิดจะซื้อเพื่อลงทุนและเก็บเป็นทรัพย์สินในระยะยาว โครงการนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ เมื่อรถไฟฟ้าก่อสร้างเสร็จส่งผลให้การเดินทางในย่านนี้สะดวกสบายมากขึ้นประกอบกับที่ดินที่เหมาะกับการพัฒนาโครงการในโซนนี้มีไม่มากนักก็เป็นปัจจัยที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับห้องชุดของโครงการขึ้นไปอีก

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]> <![CDATA[รีวิวโครงการ:คิว ชิดลม-เพชรบุรี(Q Chidlom-Phetchaburi)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/102502/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25ad-%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:102502 Mon, 03 Aug 2015 01:34:22 +0700

ย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพมหานครที่เปรียบเสมือนฟันเฟือนใหญ่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้า และกระตุ้นให้มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติหมุมเวียนภายในประเทศได้อย่างต่อเนื่องนั้นคือ ย่านชิดลม –เพชรบุรี และด้วยความเจริญทางด้านพาณิชยกรรมต่างๆ ทำให้ทำเลนี้เป็นที่หมายปองของเหล่าผู้ประกอบการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม ที่ต่างตบเท้าเข้ามาชิงเค้กส่วนแบ่งที่ดินแปลงงามที่หาได้ยากยิ่งกว่าทองคำ เพื่อผุดโครงการขึ้นมา

โดยผู้ประกอบรายใหญ่อย่าง อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ก็ลงชิงตำแหน่งผู้นำที่อยู่อาศัยในย่านนี้ด้วยเช่นกัน ด้วยการผุดโครงการแบรนด์ Q (คิว) คือ Ideo Q พญาไทเมื่อปี 2550 ตามด้วยโครงการ Ideo Q ราชเทวีและ Ideo Q จุฬา-สามย่านเมื่อปี 2556 รวมถึง Ideo Q สยาม-ราชเทวี เมื่อปี 2557 และล่าสุดกับ Ideo Q ชิดลม – เพชรบุรี โครงการที่เป็นการร่วมทุนกันระหว่างอนันดาฯ กับพันธมิตรจากแดนปลากดิบอย่าง บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด ที่จะเริ่มก่อสร้างโครงการในเดือนตุลาคมนี้

Ideo Q Ratchathewee
ตัวอย่างโครงการของอนันดา(โครงการ Ideo Q ราชเทวี) อยู่ในระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะพร้อมเข้าอยู่ต้นปี 2559 บนถนนเพชรบุรี

Ideo Q Siam - Ratchatewi
อีกหนึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือ Ideo Q สยาม-ราชเทวี ซึ่งคาดว่าจะเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในปี 2560

ทั้งนี้เนื่องจาก โครงการยังไม่มีห้องตัวอย่างจริงให้ดู โดยประมาณการช่วงเวลาที่สามารถเข้าชมห้องตัวอย่างคือด้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ที่ Q Gallery บริเวณสี่แยกราชเทวี ณ สานักงานขายไอดีโอคิว สยาม-ราชเทวี ที่กำลังปรับเปลี่ยนโฉมใหม่เป็น Q Gallery เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เราจึงต้องการเน้นให้เห็นศักยภาพของทำเลในภาพรวม ว่าเพราะเหตุใดอนันดาถึงเชื่อมั่นกับการผุดโครงการคอนโดมิเนียมขึ้นในย่านนี้

Q Gallery

Q Gallery

Petchburi Road
บรรยากาศ ถนนเพชรบุรี

Chidlom Road
บรรยากาศ ถนนชิดลม

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลชิดลม – เพชรบุรีและที่ตั้งโครงการ
ด้วยเพราะย่านนี้ถือว่าเป็นแหล่งรวมพาณิชยกรรมใหญ่ของกรุงเทพฯ ที่แม้ว่าหลายครั้งหลายคราจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้บางช่วงเวลากระทบกับสภาวะทางเศรษฐกิจในแง่ลบ แต่เราก็ยังเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเดินขวักไขว่จับจ่ายใช้สอยในย่านนี้อย่างไม่ขาดสาย

Pantip Plaza
พันธุ์ทิพย์ พลาซ่ากำลังปรับปรุงใหม่

Shibuya plaza
ฝั่งตึกชิบูญ่า

Platinum Mall
ศูนย์การค้าแพลตตินั่ม

Ratchadamri Road
ทางไปเซ็นทรัลเวิลด์

Central World
เซ็นทรัลเวิลด์

Central Chidlom
ห้างเซ็นทรัลชิดลม

หลักใหญ่ใจความคงต้องยอมรับว่าทำเลนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง เริ่มตั้งแต่ ถ.เพชรบุรี, ถ.ราชดำริ, ถ.พระราม1, ถ.เพลินจิต และถนนชิดลม อาทิ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า, ศูนย์การค้าแพลตตินั่ม, ชิบูญ่า, กรุงทองพลาซ่า, ประตูน้ำ, เซ็นทรัลเวิลด์, บิ๊กซี ราชดำริ, เกษร พลาซ่า, สยามสแควร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัล ชิดลม และเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ เป็นต้น และล่าสุดกับแผนพัฒนาศูนย์การค้าแห่งใหม่ “สไมล์ สแควร์” บนถนนเพชรบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 350 ม. อยู่ใกล้กับไทยพาณิชย์ประกันชีวิต

the berkeley hotel pratunam

Manhattan Chidlom

InterContinental Bangkok

Renaissance Hotel Bangkok
โรงแรมชั้นดีในย่านนี้

ไม่เพียงแต่ห้างสรรพสินค้าเท่านั้น ย่านนี้เป็นแหล่งรวมโรงแรมชื่อดังหลายแห่ง อาทิ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล, โรงแรมเดอะ เบิร์กลีย์, โรงแรมเรอเนสซองส์, โรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ และโรงแรมอมารี วอเตอร์เกท เป็นต้น

Chidlom area

Amarin Plaza

รวมถึงสถานที่ทางราชการสำคัญๆ และอาคารสำนักงานต่างๆ หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ทีโอที, การไฟฟ้านครหลวง, โรงพยาบาลตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ และสถานศึกษาชื่อดัง อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนสาธิตปทุมวันและโรงเรียนมาแตร์เดอี เป็นต้น

MEA Chidlom

เขตพื้นที่ก่อสร้างสวนสาธารณะ “ปทุมวนานุรักษ์” ติดกับอิเซตัน

Park near CentralWorld

Isetan

นอกจากความเจริญเหล่านี้แล้ว ในอนาคตยังมีแผนการพัฒนาทำเลนี้อีกหลายด้าน อาทิ สวนสาธารณะแห่งใหม่ขนาด 40 ไร่ และเส้นทางลัดเชื่อมต่อถนนสายหลักเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร ที่อยู่ติดกับห้างเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งเดียวกับอิเซตัน ซึ่งส่วนนี้เป็นพื้นที่ของสำนักงานส่วนพระมหากษัตริย์ภายใต้ชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีว่า “ ปทุมวนานุรักษ์” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดใช้ได้ในปีนี้ โดยอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 400 ม. นอกจากนี้คือ The market ของกลุ่มแพลตตินั่ม, Luxury Complex ของกลุ่มเกษร พลาซ่า ,สำนักงานใหญ่ Express,โรงพยาบาล RSU , โครงการมักกะสัน และ King Place Market เป็นต้น

Pathumwananurak Park
ภาพจำลองสวนปทุมวนานุรักษ์

เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าย่านนี้เป็นแหล่งรวมบุคคลากรทั้งพนักงานออฟฟิศ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ, พนักงานห้างสรรพสินค้ารวมถึงพ่อค้าแม่ขาย, นักเรียนนักศึกษาทั้งไทยและชาวต่างชาติไว้เป็นอย่างมาก และโครงการที่อยู่อาศัยที่ผุดขึ้นในย่านนี้ก็เพื่อสนองตอบความต้องการของคนที่ต้องการอยู่อาศัยในย่านนี้จริงๆ
Ideo Q Chidlom-Petchburi map
แผนที่โครงการ

การเดินทาง
โครงการไอดีโอ คิว ชิดลม-เพชรบุรีตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี ไม่ต้องเข้าซอย อยู่ห่างจากแยกประตูน้ำเพียง 300 ม. ซึ่งเดินทางได้หลายช่องทาง คือ

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ภาพมุมสูงจากสะพานลอยหน้าโครงการ เลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปทางแยกประตูน้ำ

Pratunam Intersection
บริเวณแยกประตูน้ำ

1.รถยนต์ส่วนตัว: ทั้งนี้หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากโครงการสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง คือหากเลี้ยวซ้าย จากโครงการวิ่งเส้นเพชรบุรี ผ่านแยกประตูน้ำ ไปเส้นราชเทวี, อุรุพงษ์, พญาไท, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และทะลุไปถนนวิภาวดีรังสิตได้

Chidlom area
สะพานข้ามไปถนนชิดลม (ออกจากโครงการเลี้ยวขวามาสุดทางแยกแล้วเลี้ยวขวาจะเจอสะพานนี้)

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ขับมาตามทางเรื่อยๆ จะเจอแยกชิดลม ซ้ายมือจะเป็นห้างเซ็นทรัลชิดลม ตรงไปเป็นทางไปหลังสวน

และจากโครงการเลี้ยวขวา สามารถเข้าถนนชิดลม ตรงไปหลังสวนทะลุออกสวนลุมพินีได้ หรือจะไปทางเพลินจิต อโศก ตรงไปถนนบางนา-ตราดได้ทั้งเส้นสุขุมวิทและเพชรบุรี นอกจากนี้สามารถขึ้นทางด่วนซึ่งใกล้กับแยกวิทยุ – เพชรบุรีได้อีกเช่นกัน

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi
สกายวอล์คเชื่อมจากสยามฯ เซ็นทรัลเวิลด์ สามารถเดิมมาถึงชิดลมได้

2.รถไฟฟ้า :
-จากโครงการถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลมประมาณ 650 ม.
-จากโครงการถึง Airport Rail Link สถานีราชปรารภ ประมาณ 900 ม.
-และในอนาคตยังมีรถไฟฟ้า BTS สายสีส้ม (ตลิ่งชัน – มีนบุรี) สถานีประตูน้ำ ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 400 ม.

Ideo Q Chidlom-Petchburi
วินมอเตอร์ไซด์ใกล้โครงการ

3.มอเตอร์ไซค์รับจ้าง: ปากซอย เพชรบุรี 32 ข้างโครงการแมนฮัตตัน ชิดลม

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ฝั่งตรงข้ามโครงการ

4.รถเมล์: ป้ายรถเมล์อยู่ฝั่งเดียวกับโครงการ ห่างจากโครงการประมาณ 150 ม. หรือกรณีต้องข้ามฝั่งก็ขึ้นสะพานลอยไปฝั่งตรงข้ามจะมีป้ายรถเมล์อยู่ใต้สะพาน สาย 140, 508 และ 23 เป็นต้น

Pratunam Pier

Pratunam Pier
ท่าเรือประตูน้ำ

Chidlom pier

Chidlom pier
ท่าเรือชิดลม

5.เรือ: ท่าเรือประตูน้ำ (บริเวณสะพานเฉลิมโลก) ห่างจากโครงการประมาณ 350 ม. และท่าเรือชิดลมห่างจากโครงการประมาณ 200 ม.

6.แท็กซี่: ผ่านหน้าโครงการ
Platinum Mall

Platinum Mall

Platinum Mall
ช้อปสินค้าด้านในแพลตตินั่มได้ และด้านหน้า มีนักท่องเที่ยวนานาชาติพลุกพล่านทุกวัน

Pratunam

Pratunam
ร้านชื่อดัง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ

สถานที่แนว Lifestyle
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์ของคนที่มาในย่านนี้คงหนีไม่พ้นห้างสรรพสินค้าต่างๆที่มีทั้งของกิน ของใช้ให้เลือกหลากหลายทั้งแบบเอาใจวัยรุ่นอย่างสยามสแควร์ และตลาดสามย่าน เป็นต้น หรือจะเป็นศูนย์ค้าส่งแพลตตินั่มที่คนทุกเพศทุกวัยมาเลือกซื้อเสื้อผ้า รวมถึงร้านอาหารชื่อดังที่ใครมาแถวย่านประตูน้ำก็ต้องมากินคือ ร้านข้าวมันไก่ประตูน้ำ นอกจากนี้ในโรงแรมชั้นดีย่านนี้ก็มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกกันอีกมากมายเลยทีเดียว

นอกจากเรื่องกินเรื่องเที่ยวแล้ว สถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะก็เป็นส่วนสำคัญ ขยับไปไกลหน่อยก็คือ สวนลุมพินี แต่ในอนาคตอย่างที่ได้เกริ่นไปสวนสาธารณะติดกับเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งอิเซตันก็อยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งหากแล้วเสร็จก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะได้มานั่งพักผ่อนหย่อนใจกัน

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ด้านหน้าโครงการ บริเวณที่ล้อมรั้วสีเขียว อยู่ระหว่างการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อปรับหน้าดิน

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: โครงการคิว ชิดลม-เพชรบุรี (Q Chidlom – Phetchaburi)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด(Ananda MF Asia Company Limited)
ทำเลที่ตั้ง: ติดถนนเพชรบุรี (ใกล้แยกชิดลมตัดเพชรบุรี)
เว็บไซต์: www.ananda.co.th
โทร: 02 316 2222

Ideo Q Chidlom-Petchaburi

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1-2-80.9  ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 42 ชั้น (ไม่รวมดาดฟ้า) 1 อาคาร รวมทั้งสิ้น 354 ยูนิต แบ่งเป็นที่พักอาศัย 352 ยูนิตและร้านค้า 2 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: ผู้ที่มีรายได้ต่อคนเฉลี่ยที่ 100,000 บาทต่อเดือน
สถานะการก่อสร้าง: ล่าสุดอยู่ระหว่างการปรับพื้นที่ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเดือน ต.ค. 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งประมาณ เดือนธ.ค. 2560
ระบบคีย์การ์ด: คีย์การ์ด เข้าออกได้ภายในชั้นที่พัก และชั้นพื้นที่ส่วนกลาง
ลิฟท์บริการ: จำนวน 1 ตัว/ 1 อาคาร
ลิฟท์ใช้งาน: จำนวน 3 ตัว/ 1 อาคาร
สถานะการขาย: เปิดขายครั้งแรก Urban Pulse ชั้น 1 สยามพารากอน วันที่ 12-16 สิงหาคม 2558 นี้
ค่าส่วนกลาง: N/A
ราคาเริ่มต้น: 5.5 ล้านบาท/ ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2558)
ราคาเฉลี่ย: 160,000 บาทต่อตารางเมตร (ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2558)

รูปแบบห้อง มี 4 แบบ คือ
1.แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 35 – 47 ตร.ม.
2.แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 63 ตร.ม. (มีอ่างอาบน้ำในห้อง Master Bedroom)
3.แบบ Duplex 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 62-81.5 ตร.ม. (มีอ่างอาบน้ำในห้อง Master Bedroom)
4.แบบ Duplex 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 109.5 ตร.ม. (มีอ่างอาบน้ำในห้อง Master Bedroom)

หมายเหตุ: แต่ละยูนิต มีความพิเศษตรงระเบียงด้านนอก ที่ติดตั้งหน้าต่างกระจกลามิเนตแบบบานสไลด์ 2 ชั้นไว้ให้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อกันลมแรง แดดจัด และฝนสาดเข้ามา

Ideo Q Chidlom-Petchaburi

Layout: โครงการมี 1 อาคาร ออกแบบโดยทีมงานของอนันดาฯ ร่วมกับบริษัท อะตอม ดีไซน์ จำกัด ในเครือสถาปนิก 49 หรือ a49 และตกแต่งโดย dwp โดยแบ่งเป็น

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Q Chidlom-Petchaburi
ภาพจำลองล็อบบี้

Q Chidlom-Petchaburi
ภาพจำลองโถงลิฟท์

ชั้น 1 เป็นล็อบบี้, ห้องเก็บจดหมาย, สำนักงานนิติอาคารชุด, สวน, ที่จอดรถ, Cloak room, ร้านค้า ซึ่งความพิเศษอยู่ที่ล็อบบี้ที่ตกแต่งด้วยการใช้วัสดุหินอ่อน และวัสดุที่สะท้อนแสงเงาเพื่อความหรูหรา รวมถึงมีพื้นที่สำหรับรับฝากสิ่งของของลูกบ้านด้วย ตอบสนองความต้องการผู้ประกอบการย่านประตูน้า

ชั้น 2 – 9 เป็นพื้นที่จอดรถ

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ชั้น 10 – 31 เป็นส่วนของห้องพักอาศัย

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ชั้น 32 เป็นห้องพักและสวน

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ชั้น 33 เป็นห้องพัก

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ชั้น 34-39 เป็นโซนห้องพักแบบ Duplex เท่านั้น สาหรับผู้ที่ต้องการห้องพักขนาดใหญ่และสัมผัสวิวเมือง

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ชั้น 40 เป็นห้องสมุด และ Social Club และ Garden

Q Chidlom-Petchaburi
ภาพจำลองห้องสมุด

Q Chidlom-Petchaburi
ภาพจำลอง Social Club

Ideo Q Chidlom-Petchburi

ชั้น 41 เป็นTurkish hot tub อ่างแช่น้ำร้อนที่ได้รับแรงบันดาลใจแบบตุรกี (Turkish Bath) มีสายน้ำอุ่นไหลจากด้านบนลงแท่นหิน แยกชาย หญิง เฉพาะลูกบ้านคิว ชิดลมเท่านั้น, Changing Rooms และห้องซักรีด

Q Chidlom-Petchaburi

Q Chidlom-Petchaburi
ภาพจำลอง Turkish Bath

Ideo Q Chidlom-Petchaburi

Ideo Q Chidlom-Petchaburi

Ideo Q Chidlom-Petchaburi

ชั้น 42 ถือเป็นจุดขายหลัก คือ สระว่ายน้ำแบบ 360 องศา พร้อมฟิตเนสที่อยู่บนชั้นลอย ซึ่งลูกบ้านจะเห็นวิว 360 องศาแบบโล่ง ไม่มีสิ่งปลูกสร้างบังตา เพราะโครงการนี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในระแวกนี้ อีกทั้งยังมีสระเด็กและสวน

Q Chidlom-Petchaburi

Q Chidlom-Petchaburi

 

 

ทั้งนี้ส่วนของห้องพัก จะมี 14 ห้อง/ 1 ชั้น ซึ่งห้องแบบ Duplex จะเริ่มจากชั้น 34 – 39

สิ่งที่จะได้รับ: ตามมาตรฐานของโครงการ
พื้น: ไม้เอ็นจีเนียร์
เครื่องปรับอากาศ:
แบบ 1 นอน ได้ 2 เครื่อง
แบบ 2 นอน ได้ 3 เครื่อง
แบบ Duplex 1 นอน ห้องขนาด 62 –74 ตร.ม. ได้ 3 เครื่อง และ ห้องขนาด78 – 81.5 ตร.ม. ได้ 4 เครื่อง
แบบ Duplex 2 นอน ได้ 5 เครื่อง
ชุดครัว: ไม่ระบุยี่ห้อ

หมายเหตุ: โปรโมชั่น จอง + ทำสัญญา ในวันเดียวกัน ผ่อน 0% นาน 10 เดือน (ธนาคารที่ร่วมรายการ คือ ธ.กรุงเทพ,ธ.กสิกรไทย,ธ.ไทยพาณิชย์และธ. กรุงไทย นอกจากนี้โครงการจะเปิดตัวในวันที่ 12 -16 ส.ค. นี้ ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 สยามพารากอน ซึ่งหากจอง +ทำสัญญาภายในงาน รับโทรศัพท์มือถือ Samsung S6 ฟรี 1 เครื่อง

ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้องชุด

Q Chidlom-Petchaburi

Q Chidlom-Petchaburi

หมายเหตุ: ภาพจำลองทั้งหมดยังเป็นเพียงภาพดราฟท์ที่พอให้เห็นบรรยากาศที่ทางโครงการมุ่งที่จะพัฒนาคร่าวๆ ของจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

การวางทิศทางของอาคาร: ได้วิว ดังนี้

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ทิศเหนือ:
ถนนเพชรบุรี ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ สูงประมาณ 5 ชั้น

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ทิศใต้: ติดกับคลองแสนแสบ ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ว่างเปล่า และอาคารพาณิชย์บางส่วน เห็นห้างเซ็นทรัลชิดลม ,เซ็นทรัลเวิลด์

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ทิศตะวันออก:
อยู่ติดกับอาคาร KPI สูง 24 ชั้น และ อาคารกิจศิริ

Ideo Q Chidlom-Petchburi

Ideo Q Chidlom-Petchburi
ทิศตะวันตก: ติดกับโครงการแมนฮัตตัน ชิดลม สูง 34 ชั้น

หมายเหตุ: โครงการหันหน้าทิศเหนือ และทิศใต้ ซึ่งได้วิวที่ดีที่สุด และสูงกว่าทุกอาคาร จึงไม่มีปัญหาเรื่องตึกสูงบังตา

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: สวน, ที่ฝากของบริเวณล็อบบี้, ห้องสมุด, อ่างน้ำร้อน บ่อน้ำอุ่นแยกชาย หญิง, สระว่ายน้ำและฟิตเนสแบบ 360 องศา

ที่จอดรถ: 224 คัน คิดเป็น 63% (ให้สิทธิ์ 1 ยูนิต / 1 คัน)

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

The Line logo

1. โครงการเดอะไลน์ เพชรบุรี 18 ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนกับบีทีเอส กรุ๊ปตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี ซอย 18 ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเปิดตัวประมาณไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยราคาเริ่มต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่าประมาณ 200,000 บาท/ ตร.ม.
Wish Signature Midtown Siam

2. โครงการวิช ซิกเนเจอร์ มิดทาวน์ สยาม ของ บริษัท สยามนุวัตร จำกัด ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี ระหว่างซอย 18-20 จำนวน 1 อาคาร สูง 45 ชั้น จำนวน 623 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้น 27 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท โครงการอยู่ระหว่างขออนุมัติ EIA

บทสรุป
โครงการตั้งอยู่ในทำเลกลางเมือง ย่านเขตเศรษฐกิจของประเทศ ติดถนนหลักมีเส้นทางการเดินทางที่หลากหลายช่องทางในอนาคตมีแผนพัฒนารอบบริเวณโครงการหลายด้าน ทั้งสวนสาธารณะ ห้างร้านต่างๆ รวมถึงสถานที่สำคัญหลายแห่ง สามารถซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือเพื่อเก็งกำไรได้ อีกทั้งในอนาคตจะมีรถไฟฟ้า BTS สายสีส้มผ่าน โดยโครงการอยู่ใกล้สถานีประตูน้ำเพียง 400 ม. ซึ่งเชื่อแน่ว่าราคาจะขยับขึ้นจากเดิมเป็นแน่

แต่ต้องยอมรับว่าย่านนี้มีการจราจรที่หนาแน่นมาก ผู้คนพลุกพล่านทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จอแจตลอดวันตลอดคืนทั้งวันทำการและวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตามหากเผื่อเวลาในการเดินทางไว้ และใช้วิธีการเดิน แล้วใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ หรือทางเรือก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหารถติดลงได้บ้าง

 

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ไอดีโอ โอทู (IDEO O2)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/102504/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25ad-%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2597 www.ddproperty.com:news:102504 Mon, 03 Aug 2015 01:00:56 +0700

อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ถือเป็นหนึ่งในเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ที่เน้นจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้ง ดีไซน์ของตัวโครงการที่ดูทันสมัย และคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ที่เน้นตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณเมือง Gen C ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของผู้ประกอบการรายนี้ ล่าสุด อนันดาฯ เตรียมสร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับตลาดคอนโดฯ ย่านบางนาอีกครั้ง กับการเปิดตัว “ไอดีโอ โอทู” (IDEO O2) พลิกทำเลชุมชนย่านถนนสรรพาวุธให้กลายเป็นแลนด์มาร์คที่อยู่อาศัย รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่และไฮไลท์สระว่ายน้ำยาวกว่า 75 เมตร อีกทั้งยังเอาใจคนรุ่นใหม่ผู้ใส่ใจในสุขภาพกับ Bike Park และยังไม่ละทิ้งเรื่องรีเทล ร้านสะดวกซื้อ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัย

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: ไอดีโอ โอทู (IDEO O2)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ซอยสรรพาวุธ 1 ถนนสรรพาวุธ แขวง บางนา เขต บางนา กทม.

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: โดยรวมประมาณ 14 ไร่ 3 งาน 18.69 ตารางวา
รูปแบบ: อาคารแบ่งออกเป็น ตึก A ความสูง 34 ชั้น 419 ยูนิต ตึก B ความสูง 34 ชั้น 579 ยูนิต ตึก C ความสูง 33 ชั้น 561 ยูนิต และ ตึก D 2 ชั้น 4 ยูนิต (สำหรับร้านค้า)
สถานะก่อสร้าง: กำหนดเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนมิถุนายน 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2561
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: ตึก A และ B เริ่มที่ชั้น 6 – 34 ส่วนตึก C เริ่มที่ชั้น 2 – 33
ส่วนกลาง: พื้นที่สวนและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่, Co-Working Space, ฟิตเนส, Bike Park และสนามฟุตบอล
ลิฟท์: ตึก A ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว ส่วนตึก B และ C ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: อาคารจอดรถ 6 ชั้น เป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างตึก B และ C สามารถจอดได้ 700 คัน (คิดเป็น 45 % ไม่รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: เปิด Pre-sale ตึก C อาคารแรก วันที่ 12 – 16 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): N/A
ค่าส่วนกลาง: N/A
ราคาเริ่มต้น: 2.2 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 84,600 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished
สตูดิโอ                    26.2 ตารางเมตร
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 32.4 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 46.2 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 53 ตารางเมตร

Ideo O2

Ideo O2 Bangna

Ideo O2 Bangna

Ideo O2 Bangna

Ideo O2 Bangna

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลบางนา

Ideo O2 Bangna
ภาพ via office.bangkok.go.th

จากอานิสงฆ์การปรับผังเมืองใหม่ของกรุงเทพฯ ส่งผลให้ย่านบางนาเริ่มที่จะพลิกโฉมจากพื้นที่ชานเมือง มาสู่ความเป็นเมืองมากขึ้น นับตั้งแต่โครงการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (อ่อนนุช – สมุทรปราการ) หรือการเกิดขึ้นของสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งแผนการพัฒนาโครงการรถไฟรางคู่ขนาดเบา (Light Rail) สายแยกบางนา – สุวรรณภูมิที่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหารถติด ด้วยเหตุนี้เอง เหล่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จึงต่างตบเท้าเข้ามาในพื้นที่และปักหมุดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม ยิ่งไปกว่านั้นศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคยังเร่งขยายเฟส 2 พร้อมเปิดอาคารสำนักงานภิรัชบุรี แอทไบเทค ในปีหน้า รวมถึงโครงการไฮไลท์ Bangkok Mallของเดอะมอลล์กรุ๊ป ที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่เกินปี 2560 นั้น จึงทำให้หลายคนมองว่าย่านนี้กำลังเป็นฮับธุรกิจของย่านบางนาในอนาคต และต่างคาดการณ์กันว่าราคาที่ดินบริเวณนี้จะพุ่งทยานขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 140,000 – 170,000 บาท / ตารางวา (ข้อมูลจากสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ปี 2558)

แผนเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว จากกทม.

Ideo O2 Bangna

ภาพ via mrta.co.th

เส้นทางโครงการรถไฟรางคู่ขนาดเบา (Light Rail) สายแยกบางนา – สุวรรณภูมิ

Ideo O2 Bangna
ภาพ via office.bangkok.go.th

ศูนย์นิทรรศการและการประชุมเฟส 2 สำนักงานภิรัชบุรี แอทไบเทค อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะเสร็จทันปีหน้า

Ideo O2 Bangna

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ

โครงการตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพเรื่องการเดินทาง เพราะนอกจากจะใกล้กับด่านทางด่วนบางนา – ดาวคะนอง ถนนทางรถไฟสายเก่า บางนา – ตราด และทางพิเศษบูรพาวิถีแล้ว ยังสามารถใช้เส้นทางนี้ไปท่าเรือบางนา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือมุ่งหน้าไปทางใต้จนสุดเขตกรุงทพฯ เพื่อข้ามฝั่งพระประแดง (ทางใต้) ได้

นอกจากนี้ทำเลนี้ยังรายล้อมด้วยลักษณะของความเป็นชุมชม ไม่ว่าจะเป็น ตลาด โรงเรียน วัด คลองบางนา หรือแม้กระทั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทำให้ผู้ที่เลือกพักอาศัยชั้นบนๆ จะได้ชมทัศนียภาพของวิวแม่น้ำ ในทิศทางที่หันไปบริเวณโค้งบางกระเจ้า (ฝั่งสมุทรปราการ) ซึ่งเป็นแนวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศตะวันตก บริเวณนี้มีลักษณะเหมือนเกาะ อันอุดมไปด้วยแหล่งธรรมชาติ พื้นที่สีเขียว ประหนึ่งเป็นแหล่งผลิตออกซิเจนของกรุงเทพฯ

ใกล้ทางขึ้นทางด่วนแยกบางนา (ดินแดง – ถนนพระราม 9 และดาวคะนอง – แจ้งวัฒนะ) เพียง 250 เมตร

Ideo O2 Bangna

ตรงข้ามโครงการมีธนาคารไทยพาณิชย์ สะดวกสบายเรื่องการทำธุรกรรมการเงิน

Ideo O2 Bangna

โครงการรายล้อมด้วยความเป็นชุมชน ดังนั้นที่ตั้งบริเวณซอยสรรพาวุธ 1 จึงมีทั้งตลาดสี่แยกบางนา วัดบางนาใน และโรงเรียน

Ideo O2  Bangna

ป้ายตลาดสี่แยกบางนา แหล่งรวมอาหารสด และของกิน ซึ่งทุกวันอังคารจะมีตลาดนัด หากสังเกตในรูป ตลาดจะติดกับด้านหลังคอนโด The Coast Bangkok

Ideo O2  Bangna

เดินตรงมาเกือบสุดซอยสรรพาวุธ 1 มีโรงเรียนวัดบางนาใน อยู่ฝั่งขวามือ

Ideo O2  Bangna

บริเวณนี้เป็นที่ตั้งชุมชนบางนาใน รักษาศีล 5

Ideo O2  Bangna

สุดซอย เป็นที่ตั้งของวัดบางนาใน พระอารามหลวง ซึ่งใกล้กับโครงการ โดยเฉพาะโซนตึก B และ C แต่ได้ออกแบบให้ไม่ติดกับวัด ด้วยการสร้างอาคารในแนวเฉียง

Ideo O2  Bangna  Ideo O2  Bangna

ข้างประตูเข้าวัด จะมีซอยเล็กๆ เป็นทางลัดไปพื้นที่โครงการ

Ideo O2  Bangna

พื้นที่โครงการ เป็นในลักษณะแนวยาว ตั้งแต่ด้านหน้าที่ติดถนนสรรพาวุธ ส่วนด้านข้างจะติดกับโรงเรียนรุ่งเรืองวิทยา

Ideo O2  Bangna

ด้านหลังโครงการ ติดกับคลองบางนา ซึ่งในอนาคตถนนที่เห็นในรูป จะทำเป็นทางเดินมีหลังคา เรียบคลอง เชื่อมไปถึงบีทีเอสสถานีบางนา โดยเป็นความร่วมมือระหว่างโครงการกับ กทม.

Ideo O2  Bangna

หน้าตาของคลองบานา ที่ทอดยาวถึงสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส บางนา

Ideo O2  Bangna

การเดินทาง

Ideo O2  Bangna

ในอนาคตอันใกล้ จาก BTS สถานีบางนาทางโครงการได้ทำทางเดินเลียบคลองบางนาติดหลังคาเพื่อให้ลูกบ้านสามารถเดินเข้าโครงการได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งขณะนี้ได้รับอนุมัติจาก กทม. แล้ว และอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ระยะทางประมาณ 300 เมตร ถึงด้านหลังโครงการเลย (บริเวณตึก C)

– รถยนต์ส่วนตัว
หากขับมาจากเส้นสุขุมวิท ให้ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกไฟแดงอุดมสุข จนถึงสี่แยกบางนา รอสัญญาณไฟ แล้วเตรียมเลี้ยวขวา สังเกตป้ายตลาดบางนา วัดบางนาใน หรือซอยสรรพาวุธ 1 ให้เตรียมชิดซ้าย พร้อมเลี้ยวเข้าโครงการ

ขับรถมาจากเส้นถนนสุขุมวิท ให้ตรงมาเรื่อยๆ และสังเกตป้ายบอกทางไปบางนา

Ideo O2  Bangna

เมื่อมาถึงใกล้แยกบางนา ให้สังเกตป้ายบอกทาง ให้เลี้ยวขวาไปถนนสรรพาวุธ

Ideo O2  Bangna

สภาพถนนสี่แยกบางนา ช่วงสาย รถค่อนข้างคล่องตัว

Ideo O2  Bangna

เมื่อเลี้ยวขวามายังถนนสรรพาวุธ ให้เตรียมตัวชิดซ้ายเลย

Ideo O2  Bangna

สังเกตป้ายซอยสรรพาวุธ 1 เป็นอันรู้กันว่าถึงโครงการ ไอดีโอ โอทูแล้ว

Ideo O2  Bangna

ตอนนี้รอบโครงการไอดีโอ โอทู มีรั้วสังกะสีกั้น ซึ่งอยู่ในระหว่างก่อสร้าง

Ideo O2  Bangna

สุดรั้วสังกะสี พื้นที่ของโครงการ จะติดกับรั้วโรงเรียนรุ่งเรืองวิทยา

Ideo O2  Bangna

เข้าไปข้างใน ตอนนี้โครงการกำลังเร่งก่อสร้างสำนักงานขายอยู่ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเสร็จประมาณเดือนตุลาคม แต่หากใครอยากชมตัวอย่างของจริงก่อน สามารถไปดูได้ห้องตัวอย่างได้ที่สำนักงานขายโครงการเอลลิโอ เดลเรย์ สุขุมวิท 64 (BTS อุดมสุข) ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมในเร็วๆ นี้

Ideo O2  Bangna

– รถไฟฟ้า BTS
ลงสถานีบางนา ทางออกที่ 2 แล้วเดินต่อมาประมาณ 300 เมตร เข้าทางลัดทะลุดวัดบางนาใน (กรณีทางเชื่อมยังไม่เสร็จ) เพื่อเข้าโครงการ แต่หากเมื่อย สามารถนั่งรถเมล์ ต่อมาป้ายเดียว หรือใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ 20 บาทได้ และหากโครงการเสร็จแล้ว จะมีรถตู้รับส่ง แต่คาดว่าน่าจะเป็นเส้นทางมาที่ BTS สถานีอุดมสุข

หากนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงสถานีบางนา ให้ใช้ทางออกที่ 2

Ideo O2  Bangna

ทางลงรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ในอนาคต ลงมาปุ๊ป เจอทางเชื่อมเลียบคลองเข้าโครงการเลย

Ideo O2  Bangna

สถานที่แนว Lifestyle
ถ้าคนไหนกำลังตั้งคำถามอยู่ในใจว่า ย่านถนนบางนา-ตราด หรือสรรพาวุธ จะมีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจบ้าง เชื่อหรือไม่ว่าย่านนี้เต็มไปด้วยไลฟ์สไตล์ทั้งแบบสมัยใหม่ และแบบคลาสสิกในลักษณะชุมชนผสมผสานกัน เริ่มตั้งแต่ Bangkok Mall (ห่างจากโครงการ 500 เมตร) ศูนย์การค้าไฮไลท์ของเดอะมอลล์กรุ๊ปบริเวณแยกบางนาที่จะพลิกโฉมพื้นที่ขนาด 100 ไร่ให้เป็นแหล่งช้อปปิ้ง ชิม ชิล สวนน้ำ และอาคารสำนักงาน ภายใต้แนวคิด City within the City แต่ต้องรอไปอีกนิด เพราะคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2560
ถัดมาอีกประมาณ 1 กม. จะพบกับห้างตัวยืนของย่านบางนาอย่าง เซ็นทรัลพลาซ่า บางนา ซึ่งพื้นที่ด้านหลังห้าง ตอนนี้กลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ และร้านอาหารชั้นนำ อย่าง สำราญเริงใจ หรือบางหวาน เป็นต้น

ส่วนสำหรับคอแต่งบ้าน รู้กันอยู่ถนนตลอดเส้นนี้ เต็มไปด้วย สถานที่จำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้คนที่อยู่อาศัยทั้งในย่านนี้และจากทั่วเมือง อาทิ Chic Republic (บริเวณกม.4) ที่เป็นแหล่งรวมของแต่งบ้านเก๋ๆ เลยไปอีกนิดจะพบกับศูนย์การค้าแนวราบขนาดใหญ่ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ และร้านค้ากว่า 400 ร้าน อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของ Ikea ศูนย์รวมของแต่งบ้านยักษ์ใหญ่จากประเทศเนเธอร์แลนด์อีกด้วย

แต่หากใครเบื่อกับการช้อปปิ้งในห้างแล้ว อยากไปแหล่งท่องเที่ยวแบบตื่นตา ตื่นใจ แนะนำให้ใช้บริการ BTS ลงสถานีแบริ่ง สัมผัสความหนาวเย็นของเมืองหิมะ อย่าง Harbin Ice Wonderland รับรองสนุกทั้งครอบครัว หรือสัมผัสแหล่งธรรมชาติที่เปรียบเสมือนปอดของกรุงเทพฯ ที่บางกระเจ้า เพียงใช้บริการโป๊ะเรือข้ามฟากไปสูดโอโซนให้เต็มที่ ระหว่างทางอย่าลืมแวะเข้าไปอุดหนุนสินค้า ฝีมือทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่ได้รับบาดเจ็บ พิการ ในมูลนิธิสายใจไทย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธ ทางไปขึ้นโป๊ะพอดี

มูลนิธิสายใจไทย (ห่างจากโครงการ 1 กม.)

Ideo O2 Bangna
ภาพ via saijaithai.or.th

Harbin Ice Wonderland (ห่างจากโครงการ 3 กม.)

Ideo O2  Bangna
ภาพ via harbin-icewonderland.com

เซ็นทรัล บางนา (ห่างจากโครงการ 3.1 กม.)

Ideo O2  Bangna
ภาพ via facebook.com/CentralPlazaBangnafanpage

บางกระเจ้า (ห่างจากโครงการ 3.8 กม.)

Ideo O2  Bangna
ภาพ via bikeforlifethai.com

รีวิวภาพรวมโครงการ
อนันดาฯ โชว์ศักยภาพในการที่จะมุ่งพัฒนาโครงการไอดีโอ โอทูให้เป็นที่อยู่อาศัยคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เรียกว่า Zero Carbon Residence ให้กลายเป็นแลนด์มาร์คสีเขียว เปรียบดั่งปอดแห่งย่านสรรพาวุธ ซึ่งย่านนี้ยังคงมีวิถีชีวิตในรูปแบบชุมชน ในส่วนของโครงการนั้น จะมุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่รักอิสระ ไม่ชอบความวุ่นวาย ด้วยรูปแบบอาคารอยู่ห่างจากถนนใหญ่กว่า 100 เมตร และรายล้อมธรรมชาติอย่างน้ำตก หรือสระว่ายน้ำที่ทอดยาวตั้งแต่หน้าโครงการของแต่ละตึก พร้อมเชื่อมตึก B และ C ให้ติดกันด้วยอาคารจอดรถกว่า 6 ชั้น แถมยังเพิ่มตึก D เพื่อเป็นแหล่งรวมอำนวยความสะดวกสบายด้วยร้านค้าจำนวน 4 ยูนิต โดยคาดว่าจะมี MaxValue และ ร้านกาแฟ Amazon สำหรับคนที่เน้นในเรื่องของวิว หากเลือกห้องในชั้น 20 ขึ้นไปจะได้เห็นวิวเมือง ในแต่ละทิศ โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ที่มีจุดขายวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โค้งบางกระเจ้า

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
โครงการนี้ให้พื้นที่สำหรับส่วนกลางขนาดกว่า 14 ไร่เพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัย อาทิ สระว่ายน้ำ Lap Pool ขนาด75 เมตรซึ่งยาวกว่าสระมาตรฐานโอลิมปิก อีกทั้งยังมีเลนสำหรับวิ่งจ๊อกกิ้งและปั่นจักรยาน ตอบโจทย์คนที่รักสุขภาพ ซึ่ง Bike Park นี้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสนามจำลองเสือภูเขา ที่ได้รับความนิยมในหมู่สิงห์นักปั่นอย่าง Peppermint Bike Park มาเป็นผู้ออกแบบให้ นอกจากนี้ ในแต่ละตึกยังมีฟิตเนสแยกต่างหาก และมีการเพิ่ม Co-Working Space, โซเชียล คลับ และห้องสมุดให้กลายเป็น The Third Place แก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

แปลนพื้นที่สระว่ายน้ำล้อมรอบตึก B และ C

Ideo O2  Bangna

สระว่ายน้ำ 3 โซน ยาวตลอดต่อเนื่องทั้งโครงการ ประมาณ 200 เมตร โดยช่วง Lap pool ยาว 75 เมตร ยาวกว่าสระโอลิมปิค

Ideo O2  Bangna

Bike Park ที่ได้รับการออกแบบจาก Peppermint Bike Park

Ideo O2  Bangna

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม.
พื้นจรดเพดาน: ห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีความสูงจากพื้น 2.5 เมตร ส่วนห้องน้ำ 2.4 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 60 เซนติเมตร
ประตู: Digital Door Lock
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Mex หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: American Standard หรือเทียบเท่า
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
เนื่องจากย่านบางนากำลังได้รับการพัฒนาให้มีลักษณะเป็นศูนย์กลางเขตธุรกิจ (CBD) ใหม่ของกรุงเทพฯ อันเป็นผลมาจากการพัฒนาผังเมือง ทำให้เกิดโครงการสำคัญๆ ซึ่งพัฒนาโดยทั้งภาครัฐและเอกชน เกิดขึ้นในบริเวณนี้มากมาย รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ต่างชูจุดขายทั้งเรื่องการเดินทางสะดวกสบาย ใกล้ห้างสรรพสินค้า แหล่งงาน หรือแม้กระทั่งการเชื่อมต่อแหล่งที่อยู่อาศัยเข้ากับธรรมชาติพื้นที่สีเขียว ที่หาได้ยากในแหล่งความเจริญ ปัจจุบัน คอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีราคาขายเริ่มต้นประมาณ 80,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 5-7 % ต่อปี หากปล่อยเช่า

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

The Coast Bangkok
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท บีเคเค แกรนด์ เอสเตท จำกัด บนที่ดิน 8 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A 39 ชั้น 412 ยูนิต อาคาร B 35 ชั้น 408 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน และ Duplex พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30 – 212.35ตร.ม. ที่จอดรถ 70 % โดยโครงการมีส่วนของรีเทลอยู่ตรงด้านหน้าด้วย ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 110,000 บาท / ตร.ม.

The Coast Bangkok
ภาพ via facebook.com/CoastBangkok

The Sky Sukhumvit
คอนโดมิเนียมไฮไรส์ หนึ่งใน The Sky Collection ของบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด ตั้งอยู่บนที่ดิน 9 ไร่ 3 งาน 66 ตารางวา ประกอบด้วย 5 อาคาร แบ่งเป็น ตึก A ความสูง 26 ชั้น และตึก B, C, D, E 22 ชั้น รวมห้องชุดทั้งหมด 898 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน Moff Design และ Duplex พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 22.65 – 85 ตร.ม. ที่จอดรถ 50 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 125,000 บาท / ตร.ม.

The Sky Sukhumvit
ภาพ via pf.co.th

Whizdom Connect Sukhumvit
หนึ่งในสามโครงการคอนโดมิเนียมภายในโปรเจควิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน ของ MQDC โดยโครงการนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 5 ไร่ 4 ตารางวา พัฒนาเป็นอาคารสูง 41 ชั้น 673 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน และ Flexi Room พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 26.90 – 81.60 ตร.ม. ที่จอดรถ 55 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 111,600 บาท / ตร.ม.

Wizdom Connect Sukhumvit
ภาพ via mqdc.com

บทสรุป
โครงการนี้ แม้ว่าจะตั้งอยู่ในทำเลที่หลายคนยังมองว่าเป็นชานเมือง แต่ด้วยการพัฒนาในหลายๆ ด้าน เมื่อโครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในปี 2561 โฉมหน้าของพื้นที่นี้จะคึกคักกว่านี้แน่นอน ด้วยอานิสงส์จากศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่าง Bangkok Mall การเปิดเฟสใหม่ของศูนย์ประชุมไบเทค บางนาที่ทำให้รองรับการจัดอีเวนท์ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งแผนพัฒนาคมนาคมเพิ่มเติมอย่างโครงการรถไฟฟ้ารางคู่บางนา – สุวรรณภูมิ และเมื่อความเจริญประดังกันเข้ามา ก็กลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่ามูลค่าราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยในย่านนี้จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นหากใครสนใจลงทุนปล่อยเช่า คาดการณ์ว่าน่าจะได้กำไรตามดีมานด์เพิ่มขึ้น ด้วยเช่นกัน

รีวิวโครงการอื่นๆจาก อนันดา

รีวิวคอนโด ไอดีโอ โมบิ พญาไท
รีวิวคอนโด คิวชิดลม เพชรบุรี

 

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 (The Line Sukhumvit 71)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/8/103299/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%25aa www.ddproperty.com:news:103299 Sun, 02 Aug 2015 23:00:47 +0700

แสนสิริต่อยอดความสำเร็จแบรนด์เดอะไลน์ คอนโดมิเนียมภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส กรุ๊ป ด้วยการเปิดตัวโครงการต่อเนื่อง โดยโครงการล่าสุด “เดอะไลน์ สุขุมวิท 71” (The Line Sukhumvit 71) ปักหมุดในซอยปรีดีพนมยงค์ 3 ห่างจากสถานี BTS พระโขนงประมาณ 400 เมตร หลังโครงการชิมลางการร่วมทุนแห่งแรกที่จตุจักร – หมอชิตสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 วันทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมชูจุดเด่นความเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ แต่งครบ พร้อมอยู่ มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 (The Line Sukhumvit 71 )
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ทรี จำกัด (มหาชน)
• ผู้ร่วมทุนโครงการ: บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ซอยปรีดี พนมยงค์3 สุขุมวิท71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม.

The Line Sukhumvit 71

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1.3 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 24 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 240 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 30 – 40 ปี รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม 2558 คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคม 2559 (โดยขณะนี้สร้างถึงชั้น 10 แล้ว)
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 6 – 28
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็น บริเวณ Lobby ด้านล่าง, ชั้น 6 และชั้นดาดฟ้า
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 -5 และบริเวณด้านล่างโดยรอบโครงการ (คิดเป็น 50 % ไม่รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: Pre-sale ที่ The Line Sales Center (สำนักงานขายเดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต) วันที่ 8 – 9 ส.ค. 2558 และ Pre-sale แบบ Global launch ประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน วันที่ 1 – 2 ส.ค. 2558
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 75 บาท/ ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: 4 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 150,000 – 160,000 บาท/ ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished โดยแต่ละชั้นคละแบบห้องกัน
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ 29.75 – 44.75 ตารางเมตร (คิดเป็น 75% ของยูนิตทั้งหมด)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ 57.25 – 62.75 ตารางเมตร (คิดเป็น 20 – 25 % ของยูนิตทั้งหมด)

The Line Sukhumvit 71

 

The Line Sukhumvit 71

 

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

The Line Sukhumvit 71

ศักยภาพทำเลสุขุมวิท 71 หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่าพระโขนงนั้นเป็นย่านชุมชนเก่าที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อันเป็นอานิสงส์จากความเจริญจากหัวเมืองชั้นในอย่างทองหล่อ เอกมัย ซึ่งแผ่ขยายมาถึงย่านนี้ รวมถึงปัจจัยสำคัญอย่างการคมนาคมสะดวกสบาย จากรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท สถานีพระโขนง จอดเทียบป้ายหน้าปากซอย จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้อัดแน่นด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ร้านค้า สถานที่แฮงค์เอาท์ และแหล่งงาน ด้วยเหตุนี้บรรดาชาวต่างชาติต่างพากันเข้ามาปักหลักอาศัยอยู่บริเวณนี้มากขึ้น จนมีชาวฮ่องกงถึงกับเอ่ยปากว่า พระโขนงนั้นคล้ายกับย่านโซโห ศูนย์รวมความบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกงอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ซึ่งในที่สุดอัตราราคาที่ดินของทำเลนี้ได้พุ่งสูงขึ้นตามความเจริญ โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 200,000 – 250,000 บาท / ตารางวา

นอกจากนี้ ทำเลดังกล่าวถือว่ายังมีซัพพลายน้อยกว่าบริเวณสถานีบีทีเอสอ่อนนุชมาก โดยโครงการคอนโดมิเนียมอีกโครงการของแสนสิริที่ตั้งอยู่ในย่านนี้ ได้แก่ วายน์ บาย แสนสิริ เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ตั้งอยู่บริเวณสามแยกบริเวณซอยสุขุมวิท 71

การเดินทาง

The Line Sukhumvit 71

ด้วยศักยภาพของโครงการอันรายล้อมด้วยความสะดวกสบายเรื่องคมนาคม ทั้งใกล้บีทีเอสสถานีพระโขนง ซึ่งอยู่ในระยะที่เดินถึง (ประมาณ 400 เมตร) หรือถ้าอยากจะขับรถ เส้นทางปรีดี พนมยงค์ นั้นเปรียบเสมือนศูนย์กลางการเดินทางเข้าหรือออกนอกเมือง ไม่ว่าจะลัดเลาะไปเอกมัย ทองหล่อ คลองตัน เพชรบุรี ทางด่วนสุขุมวิท 62 (4.7 กิโล) ทางด่วนท่าเรือ (4.5 กิโล) หรือแม้กระทั่งสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 20 นาทีถึง โดยไม่ต้องฝ่าฟันรถติดในเส้นทางหลักให้เสียเวลา

– รถไฟฟ้า BTS
ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท ลงสถานีพระโขนง ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 400 เมตร หรืออาจใช้ทางลัดของซอยปรีดี พนมยงค์ 3 ข้างสำนักงานไปรษณีย์เขตพระโขนง (ติดถนนสุขุมวิท) จะสามารถทะลุมาถึงโครงการได้ใกล้กว่า

– รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1: หากมาจากฝั่งถนนสุขุมวิท ให้ขับมุ่งหน้าตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวเข้าซอยปรีดี พนมยงค์ โครงการตั้งอยู่บริเวณซอย 3 ซ้ายมือ ติดถนนเส้นสุขุมวิท 71 (พระโขนง) หรืออาจใช้ทางลัดจากฝั่งทองหล่อ เข้าซอย 10 ซึ่งสามารถทะลุมาเอกมัย 12 (ซอยเจริญใจ) และปรีดี พนมยงค์ 31 ขับย้อนขึ้นมา โครงการตั้งอยู่ขวามือ
ทางเลือกที่ 2: หากมาจากเส้นเพชรบุรี ให้จับเส้นทางที่จะมุ่งหน้ามาคลองตัน เมื่อถึงสี่แยก ให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าถนนเส้นสุขุมวิท 71 (พระโขนง) ขับตรงมาเรื่อยๆ โครงการตั้งอยู่ขวามือ ซอยปรีดี พนมยงค์ 3

The Line Sukhumvit 71

สถานที่แนว Lifestyle
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อสมัยห้างสรรพสินค้ายังเข้าไม่ถึงแหล่งชุมชนมากดั่งเช่นในปัจจุบัน ส่งผลให้แถบสุขุมวิทตอนปลายอย่างย่านพระโชนง นั้นคึกคักมากพอสมควร อันเนื่องมาจากบริเวณนี้เป็นจุดนัดพบ ของเหล่านักช้อปเสื้อผ้า ทั้งแบบสำเร็จรูป และสั่งตัด ที่มีอุปกรณ์ตัดเย็บให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตดีไซเนอร์หน้าใหม่จากสถาบันสอนตัดเย็บที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น รวมถึงยังมีโรงหนังพระโขนง ศูนย์รวมวัยรุ่นสมัยคุณพ่อคุณแม่ยังสาว แต่แล้วเมื่อเวลาเปลี่ยน ความเจริญเริ่มแผ่ขยายตัวมายังสุขุมวิท 71 จึงทำให้ตลาดพระโขนงแปรสภาพเป็นเพียงสถานที่จับจ่ายใช้สอยธรรมดา ซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มGen B เท่านั้น ส่วนคนรุ่นใหม่จะนิยมไปเดินตามคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหาร และแหล่งแฮงค์เอาท์ที่ทันสมัยมากขึ้น สถานที่แฮงค์เอาท์ที่น่าสนใจในบริเวณนี้ อาทิเช่น W District แหล่งรวมศิลปะและไลฟ์สไตล์ของค่ายวรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 71 หรืออาคาร Taisin Square ศูนย์รวมอาหารญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อย เช่นเดียวกับย่านเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ นอกจากนี้จากพื้นที่ฝั่งซอยปรีดี พนมยงค์3 ที่เคยเป็นตึกแถวนั้นถูกแปรเปลี่ยนให้เป็น ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-11, MaxValu หรือแม้กระทั่งตลาดโต้รุ่งเป็นที่เรียบร้อย

W District (ห่างจากโครงการ 200 เมตร)

The Line Sukhumvit 71
ภาพ via http://www.w-district.com/

Taisin Square (ห่างจากโครงการ 500 เมตร)

The Line Sukhumvit 71
ภาพ via] thailandholidayclub.com

รีวิวภาพรวมโครงการ
เดอะไลน์ สุขุมวิท 71 ชูจุดเด่นโครงการภายใต้แนวคิด Change อันเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมย่านพระโขนงผนวกกับความทันสมัย โดยเลือกใช้การตกแต่ง Facade แบบ Unitized ที่ใช้หินอ่อนหายาก ส่งตรงจากอิตาลีมาเป็นเสน่ห์ของการออกแบบ อีกทั้งยังสามารถสัมผัสความสงบสบายผ่าน Wide Span Living และ Full Height Window นอกจากนี้ พื้นที่ใกล้เคียงยังมีตึกสูงรายรอบ อาจทำให้มีตึกบล็อกวิวบางส่วน

ทิศตะวันออก – เต็มอิ่มกับวิวทางด่วน
The Line Sukhumvit 71

ทิศใต้ – หากเลือกพักชั้นสูงๆ จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
The Line Sukhumvit 71

ทิศตะวันตก – เต็มอิ่มกับ City View ฝั่งเอกมัย ยิ่งเป็นช่วงเวลากลางคืนจะดูสวยมาก
The line Sukhumvit 71

ทิศเหนือ – ทัศนียภาพจากทางฝั่งเพชรบุรี และพระราม 9
The Line Sukhumvit 71

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
พื้นที่สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการนี้ แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่บริเวณชั้น 1 ชั้น 6 และดาดฟ้า พร้อมโชว์จุดเด่นด้วยสระว่ายน้ำคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่สามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ แม้ขณะอยู่ในน้ำ

แปลนชั้น 1 ของโครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 71 สังเกตว่ารายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว
The Line Sukhumvit 71

ล็อบบี้มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 6 เมตร จึงทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย พร้อมตกแต่งหินอ่อนจากอิตาลี ให้ความรู้สึกหรูหรา
The Line Sukhumvit 71

แปลนพื้นที่ยูนิตส่วนที่อยู่อาศัย และส่วนกลาง ซึ่งมีจุดขายที่สระว่ายน้ำ และ มีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 3.2 เมตร
The Line Sukhumvit 71

ส่วนของห้องสมุด ที่ล้อมรอบด้วยกระจก เพื่อให้พักสายตากับบรรยากาศธรรมชาติและสระว่ายน้ำข้างนอก
The Line Sukhumvit 71

สระว่ายน้ำติดตั้งลำโพงไว้ใต้น้ำ เพื่อให้ได้อรรถรสกับเสียงเพลง
The Line Sukhumvit 71

แปลนส่วนกลางชั้นดาดฟ้า ที่ถูกเนรมิตให้เป็นพื้นที่สีเขียว
The Line Sukhumvit 71

สัมผัสธรรมชาติ ณ สวนลอยฟ้า กลางเมือง

The Line Sukhumvit 71

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 12 มม. และกระเบื้องแกรนิตโต้หรือเทียบเท่า (เฉพาะห้องครัวและห้องน้ำ)
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 2.7 เมตร และ 3.2 เมตร (เฉพาะยูนิตในชั้น 6)
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 950 เซนติเมตร
ประตู: Digital Door Lock
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Smeg
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Cotto
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: ติดฝาผนัง และแบบฝังสำหรับยูนิต 2 ห้องนอน

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 29.75 – 30.25 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

The Line Sukhumvit 71

ทุกห้องติดตั้ง Digital Door Lock จากซัมซุง

The Line Sukhumvit 71

เปิดประตูมา จะพบกับแสงนีออนของไฟโทนสีฟ้า ภายใต้แนวคิดของ Motorcycle ในการตกแต่งโซนของห้องนั่งเล่น ที่สามารถวางโซฟา และโต๊ะกินข้าวขนาดสองที่นั่งได้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นในรูป ทางโครงการให้หมด ยกเว้นของตกแต่ง

The Line Sukhumvit 71

ฝาผนังทางโครงการออกแบบเป็นชั้นวางของ และตกแต่งด้วยแสงไฟนีออนสีฟ้า ซึ่งเป็นเพียงไอเดียตกแต่งเท่านั้น

The Line Sukhumvit 71

บริเวณส่วนของที่วางทีวี ได้ตามรูปเลย ยกเว้ยของตกแต่ง สังเกตว่าออกแบบให้มีตู้เก็บของด้วย

The Line Sukhumvit 71

ตู้เก็บของบริเวณโต๊ะวางทีวี ถูกออกแบบให้เป็นที่เก็บรองเท้า และของจิปาถะ

The Line Sukhumvit 71 The Line Sukhumvit 71

ส่วนของโซนนั่งเล่นและห้องนอน ถูกแบ่งด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ที่ทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น

The Line Sukhumvit 71

ห้องนอน: สิ่งที่ได้ เตียง 5 ฟุต ผ้าปูที่นอน ม่าน ตามรูป ยกเว้นของตกแต่ง

The Line Sukhumvit 71

ในห้องนอน ทางโครงการติดตั้งที่เสียบอากาศ กับเต้าเสียบไว้รองรับโทรทัศน์แบบแขวน

The Line Sukhumvit 71

ตู้เสื้อผ้าได้ตามรูปเลย ส่วนแอร์ในยูนิต 1 ห้องนอนจะเป็นแบบติดผนัง

The Line Sukhumvit 71 The Line Sukhumvit 71

ห้องครัวจะเป็นแบบปิด ช่วยคุมเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหาร แม้กระทั่งตู้เย็นโครงการก็ให้

The Line Sukhumvit 71 The Line Sukhumvit 71

ระเบียงของยูนิตนี้มีความกว้าง 1.5 เมตร เมื่อวางเครื่องซักผ้าแล้ว โดยมีประตูบานเลื่นแบบ 3 ตอน กระจกเป็นสีชา เพื่อช่วยไม่ให้ห้องร้อน

The Line Sukhumvit 71

สวิตซ์ไฟระเบียงอยู่ในโซนของห้องครัว

The Line Sukhumvit 71

เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า มีระบบอบผ้าแห้ง หน้าตาในรูป โครงการให้ในโอนกรรมสิทธิ์

The Line Sukhumvit 71

อีกหนึ่งจุดขายของโครงการนี้ คือห้องน้ำถูกตกแต่งด้วยหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลี และแยกส่วนเปียก-แห้ง อย่างชัดเจน

The Line Sukhumvit 71

สุขภัณฑ์จาก Cotto แบบระบบ ECO

The Line Sukhumvit 71

บริเวณซิ้งค์อ่างล้างหน้า ออกแบบให้เป็นตู้เก็บของ

The Line Sukhumvit 71

ห้องน้ำติดตั้งฝักบัว และ Rain Shower ให้

The Line Sukhumvit 71 The Line Sukhumvit 71

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
ปัจจุบันในพื้นที่สุ ขุมวิท 71 ย่านพระโขนง ได้รับการพลิกโฉมให้มีความเจริญ อัดแน่นไปด้วยร้านค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียน โรงพยาบาล ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงอาคารสำนักงาน ซี่งช่วยส่งเสริมให้บริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้อย่างดี ทั้งการคมนาคมแสนสะดวกสบาย สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง เลี่ยงรถติด หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส (สถานีพระโขนง) ทำให้เป็นจุดดึงดูดให้คนอยากจะเข้ามาอาศัยในย่านนี้ได้มากพอสมควร โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่กำลังมองหาคอนโดฯ ใกล้ทองหล่อ เอกมัย ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ซึ่งคอนโดมิเนียมย่านนี้มีระดับราคามากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป โดยจะได้รับตอบแทนค่อนข้างสูงประมาณ 17,000 – 20,000 บาท/ เดือน หากปล่อยเช่าในยูนิต 1 ห้องนอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

The Room Sukhumvit 69
คอนโดมิเนียมของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด บนที่ดิน 3 ไร่ 1 งาน 6 ตารางวา เป็นอาคารสูง 27 ชั้น 375 ยูนิต รูปแบบ 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 34.2 – 82.2 ตร.ม. ที่จอดรถ 70 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 163,000 บาท / ตร.ม.

The Room
ภาพ via lh.co.th

Rhythm Sukhumvit 44/1
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด บนที่ดิน 3 ไร่ 75 ตารางวา เป็นอาคารสูง 34 ชั้น 486 ยูนิต รูปแบบ1 – 2 ห้องนอน และ Duplex พื้นที่ห้องชุดโครงการ 35.2 – 55.2 ตร.ม. ที่จอดรถ 60 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 136,000 บาท / ตร.ม. ddproperty.com

The Line Sukhumvit 71

Sky Walk & Weltz Residence
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท ดับเบิลยู พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และ บริษัท วรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 9 ไร่ แบ่งออกเป็น อาคาร A (Le Luk Condominium) สูง 27 ชั้น 285 ยูนิต และ อาคาร B (Sky Walk Condominium) สูง 50 ชั้น 531ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1 – 3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 31.56 – 150 ตร.ม. ที่จอดรถ 50 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 131,000 บาท / ตร.ม.

Sky Walk
ภาพ via w-property.com

บทสรุป
โครงการนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสำหรับการอยู่อาศัย รองรับการขยายตัวของพื้นที่ชั้นในอย่างทองหล่อ – เอกมัย ถือเป็นย่านที่กำลังเติบโตทั้งเศรษฐกิจและสังคม ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยจุดเด่นในเรื่องของการคมนาคมที่สามารถเลือกได้ทั้งรถไฟฟ้า (แต่อาจจะเดินเมื่อยนิดนึงเพราะอยู่ห่างจากบีทีเอสสถานีพระโขนง 400 เมตร) หรือรถส่วนตัว โดยมีเส้นทางเชื่อมต่อไปยังหลายทำเลทั้งถนนพระราม 4 อ่อนนุช – บางนา และรามคำแหง รวมถึงยังสามารถเดินทางออกนอกเมืองจากจุดขึ้นลงทางด่วนได้หลายจุด อีกทั้งยังรายล้อมแหล่งไลฟ์สไตล์ เหตุนี้เองจึงทำให้โครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 71 แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุน และจากทั้งกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติ

รีวิวโครงการอื่นๆจาก แสนสิริ

รีวิวคอนโด The Line จตุจักร หมอชิต
รีวิวคอนโด ฮาลุ เฮาส์

รีวิวโครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต

รีวิวโครงการ hasu HAUS

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

 

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:เมโทร สกาย ประชาชื่น(Metro Sky Prachachuen)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/103163/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2597%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2 www.ddproperty.com:news:103163 Fri, 31 Jul 2015 05:17:24 +0700

จุดเปลี่ยนของราคาที่ดินและที่อยู่อาศัยในเมืองกรุง ปัจจัยหลักที่แหล่งข่าวหลายสำนักต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันนั้นคงหนีไม่พ้นการที่ทำเลนั้นๆ มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ตัวอย่างเช่น โซนกลางกรุงอย่างถนนสุขุมวิท สีลม สาทรที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่านมากว่าสิบปีก็ทำให้โซนนี้กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศจนถึงทุกวันนี้ ราคาที่ดินแพงลิบลิ่วสูงสุดแตะตารางวาละล้านกว่าบาท ที่พักอาศัยก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เป็นต้น

ในขณะที่น้องใหม่อย่างโซนเหนือ ย่านเตาปูน –บางซื่อเอง ณ ปัจจุบัน ด้วยแผนการพัฒนาสถานีกลางบางซื่อ บนเนื้อที่ขนาด 487 ไร่ เพื่อเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สายคือ รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รวมถึงเป็นสถานีสำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงนั้น ทำให้ 3-5 ปีที่ผ่านมา ย่านนี้เติบโตขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ราคาที่ดินพุ่ง 20-50% อาคารที่พักอาศัยโดยเฉพาะประเภทคอนโดมิเนียมเรียงแถวกันผุดขึ้นไม่เว้นแต่ละปี เห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ซึ่งราคาขายของคอนโดฯ จะขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้ง หากตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าราคาก็จะสูงกว่าสถานีที่อยู่ห่างไป โดยราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 ล้านต้นๆ เฉลี่ยแล้วคิดเป็น 80,000 -100,000 บาทต่อ ตร.ม. ทั้งนี้คาดว่าหากมีการเปิดใช้รถไฟฟ้าอย่างเป็นทางการในปี 2560 ราคาจะขยับขึ้นอีกเป็นแน่

ย่านที่เห็นได้ชัด อย่าง ถนนประชาชื่นมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการยูดีไลท์ 1, 2, 3 และ 4 ของค่ายแกรนด์ยู, โครงการเดอะนิช โมโน รัชวิภา จากค่ายเสนาฯ, โครงการศุภาลัย เวอรันด้า จากศุภาลัย และล่าสุด โครงการเมโทร สกาย ประชาชื่น ของค่ายพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่เตรียมสร้างโครงการขนาดใหญ่พันกว่ายูนิตที่มีไฮไลท์อยู่ที่รูปแบบการสร้างแต่ละอาคารที่แตกต่างกันออกไป

ooooo

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2558)
ชื่อโครงการ: เมโทร สกาย ประชาชื่น (Metro Sky Prachachuen)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF
ทำเลที่ตั้ง: ปากซอยประชาชื่น 22 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.
เว็บไซต์: www.pf.co.th
โทร : 1375

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 7-2-33 ไร่
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม 3 อาคาร คือ A, B และC รวมทั้งสิ้น 1,356 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ อายุประมาณ 35 ปี รายได้ต่อคนเฉลี่ยที่ 40,000 บาทต่อเดือน
สถานะการก่อสร้าง : ล่าสุดตอกเสาเข็มแล้ว เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารเดือน ส.ค. 2558 ทั้ง 3 อาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดพร้อมกันประมาณ เดือนธ.ค. 2560
ระบบคีย์การ์ด : คีย์การ์ด เข้าออกได้ภายในชั้นที่พัก และชั้นพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละอาคาร
ลิฟท์บริการ : จำนวน 1 ตัว ต่ออาคาร
ลิฟท์ใช้งาน : จำนวน 3 ตัว ต่ออาคาร
สถานะการขาย : ยอดขาย 50% (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม 2558)
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 35 บาท / ตร.ม. (จ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
ราคาเริ่มต้น : 2.16 ล้านบาท/ ยูนิต (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม2558)
ราคาเฉลี่ย : 87,000 บาท/ ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 16 กรกฎาคม2558)

รูปแบบห้อง มี 3 แบบ คือ
1. แบบ Moff Design ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 35.56 ตร.ม. (4 x 7.07 ม.) ราคาเริ่มต้น 3.3 ล้านบาท
2. แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 24 ตร.ม. (4.90 x 5.65ม.) ราคาเริ่มต้น 2.1 ล้านบาท
3. แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 43 ตร.ม. (7.2 x 5.8 ม.) ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท

หมายเหตุ: โดยปกติขายห้องเปล่า แต่มีเพียงบางยูนิตที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ (ดูรายละเอียดจากการรีวิวห้องตัวอย่าง)

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลบางซื่อ– เตาปูน
อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น ทำเลนี้ถือว่ามีศักยภาพและมาแรงมากอีกทำเลหนึ่ง ปัจจัยหลักคือมีการวางแผนให้เป็นจุดเชื่อมต่อขอรถไฟฟ้าหลายสาย คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ – บางใหญ่) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ –ท่าพระ) และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ –รังสิต) ซึ่งอย่างหลังสุดสร้างเสร็จแล้วรอเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเท่านั้น

Prachachuen area
ทางไปก่อนถึงแยกประชานุกูล

Krungthep-Non Road
ถนนกรุงเทพนนท์ ก่อนถึงแยกบิ๊กซีวงศ์สว่าง

ทั้งนี้การเป็นศูนย์กลางที่สามารถเชื่อมต่อไปยังที่ต่างๆ ได้สะดวก ส่งผลดีกับการขยายการลงทุนกว้างไปถึงกรุงเทพฯ ตอนเหนืออีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าส่งขนาดใหญ่ใกล้ดอนเมือง และการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทของกลุ่มเซ็นทรัล เป็นต้น

Metro Sky Prachachuen
ด้านหน้าทางเข้าโครงการ ติดถนนประชาชื่น ซอย22

Metro Sky Prachachuen
ด้านฝั่งขวาของโครงการคือ ธนาคารกสิกรไทย

Metro Sky Prachachuen
ทางรถไฟใกล้โครงการ

Metro Sky Prachachuen
สภาพการจราจร บางช่วงที่ติดขัด โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่บริเวณปากซอยประชาชื่น 22 หากมาจากทางแยกประชานุกูล จะอยู่ก่อนถึงทางรถไฟ แต่หากมาทางแยกเตาปูน จะอยู่เลยทางรถไฟ ที่ตั้งโครงการถือว่าเป็นทำเลที่ดีมากทำเลหนึ่ง แต่เดิมเป็นชุมชนเก่าแก่ เป็นถนนที่เงียบสงบ ไม่จอแจ เป็นถนน 4 เลนแบบไม่มีเกาะกลาง รถสวนกันได้ แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าคนที่สัญจรโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวต้องยอมรับกับสภาพการจราจรที่หนาแน่นมากๆในช่วงเช้า และเย็น อาจต้องเลือกใช้บริการรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าแทน ซึ่งด้านหลังโครงการนี้ใกล้สถานีบางซ่อน เพียง 80 เมตร

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
บริเวณใกล้โครงการ ฝั่งตรงข้ามเป็นคลองประปา และศูนย์เอกสาร ธอส.

ทั้งนี้หากพูดถึงสภาพโดยรวมแล้วถ้าไม่อยู่ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนถือว่าทำเลนี้ยังน่าอยู่มาก เพราะฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการเป็นคลองประปา ไม่มีตึกสูงบดบังทัศนียภาพแต่อย่างใด

Metro Sky Prachachuen
แผนที่

การเดินทาง
1. รถยนต์ส่วนตัว: เข้าออกได้หลายเส้นทางคือ จากโครงการมุ่งหน้าไปแยกประชานุกูลเลี้ยวขวาไปรัชวิภา รัชโยธิน วิภาวดีรังสิตได้ และห่างจากถนนรัชดาภิเษกเพียง 900 เมตร อีกทั้งยังใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนประชานุกูลด้วย อีกทางหนึ่งคือ จากหน้าโครงการเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปสุดทาง เลี้ยวซ้ายก็จะไปขึ้นสะพานข้ามไปบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยฯ (SCG) ที่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อได้ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ถ้าเราไม่ขึ้นสะพานก็จะทะลุไปแยกเกียกกายได้ หรือหากสุดทางเลี้ยวขวาก็จะตรงไปทางแยกบางโพได้

2. รถไฟฟ้า: สายสีม่วง (บางซื่อ –บางใหญ่) สถานีบางซื่อ ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร
สายสีแดงอ่อน (บางซื่อ -ตลิ่งชัน) สถานีบางซ่อน ห่างจากอาคาร B ประมาณ 80 เมตร แต่ถ้านับจากหน้าโครงการก็ประมาณ 200 เมตร

3.มอเตอร์ไซค์รับจ้าง: อยู่บริเวณธนาคารกสิกรไทย (ข้างโครงการ), ทางรถไฟและ 7-11 (ฝั่งซ้ายของโครงการ)

4.รถเมล์: สาย 70, 66

5.แท็กซี่: ผ่านหน้าโครงการ

สถานที่แนว Lifestyle
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์ทั้งกลางวัน-กลางคืนในรัศมีถนนเตาปูน ถนนประชาชื่นที่ใกล้กับโครงการ อย่างฝั่งตรงข้ามโครงการริมคลองประปา มีร้านอาหาร SIP ที่บรรยากาศน่านั่ง และล่าสุดที่โดนใจขาช้อปสุดแนวคือ ตลาดนัด “สยามยิปซี” ที่เปิดช่วงค่ำๆ บริเวณเรียบแนวทางรถไฟสถานีบางซ่อนในวันพุธ-อาทิตย์ แต่สินค้าจะมีมากในวันศุกร์-อาทิตย์ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งของคนรักสินค้ามือสอง สินค้าแฮนด์เมด อารมณ์คล้ายๆตลาดนัดรถไฟ ถ้าไปเดินช่วงที่ลมพัดเย็นๆ ช่วงหน้าหนาวจะชิลล์สุดๆ

Siamgypsy market

Siamgypsy market
ตลาดนัดสยามยิปซี ภาพ via facebook.com/Siamgypsy

นอกจากนี้ ย่านนี้ยังมีที่กินที่เที่ยว นั่งชิลล์ให้เลือกมากอยู่เหมือนกัน คนทั่วไปก็ไปเดินเล่น ซื้อของ กินข้าวกันที่เทสโก้ โลตัส ประชาชื่น หรือบิ๊กซี วงศ์สว่างเสียเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเป็นร้านอาหารอร่อยๆ ก็ต้องผ่านแยกประชานุกูลไปทาง รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เช่น ร้านเจ๊ไข่ อาหารซีฟู๊ด ข้าวต้มสมพงศ์ เป็นต้น หรือจะเลี้ยวเข้าทางไปวัดเสมียนนารี แวะตลาดบองมาเช่ก็ได้ ถนนเส้นนี้มีที่กินที่เที่ยวเพียบ

Bon Marche Prachachuen
ตลาดบอง มาเช ภาพ via facebook.com/bonmarche.marketpark

Saduak Yothin Pub
ร้านสะดวกโยธิน ภาพ via FB สะดวกโยธิน

ส่วนร้านนั่งชิลล์ตอนเย็นก็จะอยู่ทางถนนวงศ์สว่างระแวกเดียวกับมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และเส้นรัชวิภาเหมาะกับนั่งท่องราตรี คนที่ชอบสังสรรค์โดยเฉพาะในวันศุกร์และเสาร์ เช่น Lizm@ประชาชื่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถข้ามสะพานรัชวิภาไปทางรัชโยธินที่มีเมเจอร์ รัชโยธิน, ร้านเสวนาพาเพลิน, ร้านสะดวกโยธินให้นั่งกินดื่ม หรือไม่ก็ขยับไปทางถนนรัชดาภิเษกและลาดพร้าวเลยเพราะมีแหล่งรวมความบันเทิงครบครัน

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างอาคาร แต่มีการตอกเสาเข็มแล้ว ส่วนสำนักงานขายและห้องตัวอย่างอยู่ในพื้นที่ด้านหน้าติดถนนหลัก ส่วนพื้นที่สร้างอาคารอยู่ด้านหลัง หากพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้วถือว่าเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน และหากดูจากภาพจำลองโครงการข้างต้นจะเห็นว่ามีสวนหย่อม และต้นไม้รอบโครงการ ซึ่งหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงผังโครงการใดๆ ก็ถือว่าร่มรื่น และเงียบสงบ เป็นส่วนตัวดี

Metro Sky Prachachuen
ภายในโครงการ ด้านหลังที่ปิดกั้นไว้เป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการ

Layout: เป็นอาคาร ประเภท Hise Rise 3 อาคาร ก่อสร้างแบบอิฐมวลเบา จำนวนทั้งสิ้น 1,356 ยูนิต คือ

Metro Sky Prachachuen
ผังอาคาร A ทั้งหมด

อาคาร A สูง 24 ชั้น จำนวน 491 ยูนิต อยู่ด้านหน้าโครงการติดถนนประชาชื่น สร้างห้องแบบ Moff Design (ลักษณะแบบห้อง Duplex) เกือบทั้งหมด ซึ่งชั้น 1 เป็นร้านค้า ชั้น 2 -11 เป็นแบบ 1 ห้องนอน (ยังไม่เปิดจอง) และชั้น 12 – 24 เป็นห้องแบบ Moff ทั้งหมด ชั้นดาดฟ้าเป็นสกายเลาจ์น

Metro Sky Prachachuen
อาคาร B ชั้น 1-6 เป็นที่จอดรถ

Metro Sky Prachachuen
ชั้น 7 เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

Metro Sky Prachachuen
ชั้น 8 ห้องพัก

Metro Sky Prachachuen
ชั้น 9-14 ห้องพัก

อาคาร B สูง 21 ชั้น จำนวน 370 ยูนิต เป็นอาคารกลาง รวมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดของโครงการไว้ที่นี่ มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน เท่านั้น ชั้น 1-6 เป็นที่จอดรถ ไฮไลท์อยู่ที่ชั้น 7 เป็นสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และซาวน่า และชั้น 8-21 เป็นส่วนของห้องพัก
Metro Sky Prachachuen
ผังอาคาร C ชั้น 1

Metro Sky Prachachuen
ชั้น 2

Metro Sky Prachachuen
ชั้น 3-8

Metro Sky Prachachuen
ชั้น9-12

Metro Sky Prachachuen
ชั้น 14 -15

อาคาร C สูง 22 ชั้น จำนวน 495 ยูนิต เป็นอาคารด้านในสุด มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน เท่านั้นเช่นกัน ชั้น 1-22 เป็นห้องพักทั้งหมด ชั้นดาดฟ้าเป็นสวนและห้องสมุด

หมายเหตุ: อาคารที่ขายดีที่สุด ณ วันรีวิว คือ อาคาร B เนื่องจากเป็นอาคารกลาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างรวมไว้ในที่เดียว อีกตึกที่ขายดีคือ อาคาร A เพราะลูกค้าชอบรูปแบบห้อง Moff Design

สิ่งที่จะได้รับ: ตามมาตรฐานของโครงการ
พื้น: ไม้สำเร็จรูป
ผนัง: อิฐมวลเบา มีวอลล์เปเปอร์สีขาว-ครีม
พื้นจรดเพดาน: แบบ Moff สูง 4.50 ม., แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน สูง 2.60 เมตร
เครื่องปรับอากาศ: ห้อง Moff ได้ 3 เครื่อง, 1 ห้องนอน ได้ 2 เครื่อง และ 2 ห้องนอนได้ 3 เครื่อง
สุขภัณฑ์: ยี่ห้อ Cotto และทุกอย่างตามห้องตัวอย่าง
เครื่องทำน้ำอุ่น: ยี่ห้อ MEX
ชุดครัว: ซิงค์ล้างจาน เคาน์เตอร์และชั้นเก็บของ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า

การวางทิศทางห้อง : แต่ละอาคารได้วิว ดังนี้
1. อาคารA ทิศเหนือ – วิวเมือง, ทิศใต้ – วิวเมือง
2. อาคารB ทิศเหนือ –วิวสระว่ายน้ำ, ทิศใต้ – รถไฟฟ้า
3. อาคาร C ทิศเหนือ –ทางด่วน, ทิศใต้ – สระว่ายน้ำของอาคาร B

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ : หลักๆ อยู่ที่ชั้น 7 อาคาร B คือ สระว่ายน้ำ (เป็นสระเกลือ ขนาด 10×33 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กยาว 8 เมตร และสระผู้ใหญ่ยาว 25 เมตร) และฟิตเนส ที่เหลืออยู่บนดาดฟ้าของอาคาร A โดยเป็นสกายเลาจ์นและ C เป็นสวนและห้องสมุด
ที่จอดรถ: อาคาร B ชั้น 1-6 ประมาณ 40% (ให้สิทธิ์ 1 ยูนิต/ 1 คัน ไม่ได้ล็อคที่จอดไว้ให้ห้องใดห้องหนึ่ง) แต่หากนับรวมกับพื้นที่ว่างทั้งหมดในโครงการจะมีประมาณ 50%

รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างมีทั้ง 3 แบบ เริ่มจาก

แบบ Moff Design

Metro Sky Prachachuen

จะมีเฉพาะอาคาร A เท่านั้นโดยปกติแล้วจะขายห้องเปล่า ราคา 3.3 ล้านบาท เริ่มที่ชั้น 13 เป็นต้นไป เป็นแบบห้องที่คล้ายๆกับห้อง Duplex คือมี 2 ชั้น จากพื้นจรดเพดานสูง 4.5 เมตร ชั้นล่างขนาด 10 ตร.ม. ชั้นบน 25 ตร.ม. ซึ่งชั้นบนจะมีเพียงพื้นที่นั่งเล่นไม่ได้เปิดโล่งเป็นห้องนอน แต่ความต่างอยู่ที่ชั้น12 และ 16 จะบิวท์อินให้เป็นห้องนอน รวมถึงทำประตูกั้นห้องให้ รวมถึงมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เช่น โต๊ะ ตู้ เตียงให้พร้อม แต่ราคาจะสูงกว่าอยู่ที่ 3.6 ล้านบาท โดยรวมแล้วเป็นแปลนห้องที่มีลูกเล่นมากกว่าห้องแบบอื่น

Metro Sky Prachachuen
พื้นที่ชั้นล่างเล็กกว่าชั้นบน ทำเป็นมุมนั่งพักผ่อน ห้องนอนและครัวพร้อมระเบียงด้านหลังห้อง เหมาะสำหรับคนที่มีข้าวของเครื่องใช้น้อยชิ้น เพราะพื้นที่เก็บของค่อนข้างจำกัด

Metro Sky Prachachuen
พื้นที่ว่างใต้บันได สามารถทำเป็นที่เก็บของหรือนั่งเล่นได้

Metro Sky Prachachuen
ชุดครัวบิวท์อินได้เคาน์เตอร์และชั้นเก็บของ แต่ไม่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้า

Metro Sky Prachachuen
ห้องน้ำได้ตามภาพ

Metro Sky Prachachuen
บันไดทางขึ้นชั้น 2 ได้จริงตามภาพ

Metro Sky Prachachuen
พื้นที่โล่งทำเป็นมุมพักผ่อน สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวจริง ๆ เพราะปกติแล้วมุมนั่งเล่นแบบนี้จะอยู่ด้านล่าง เพื่อรับแขก

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
ห้องนอนนี้มีแค่ชั้น 12 กับ 16 เท่านั้น และจะได้ประตูกั้นห้องให้ด้วย แต่ชั้นอื่นเป็นพื้นที่ปิดทึบไม่ได้เปิดโล่ง

Metro Sky Prachachuen


Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
ห้องนอน และชั้นเก็บของแนวสูงถ่ายภาพจากชั้นบน เพื่อให้เห็นความโปร่งโล่ง จากพื้นจรดเพดาน 4.50 เมตร

แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

Metro Sky Prachachuen
มีทั้งอาคาร B และ C แบบนี้จะเป็นแปลนห้องแบบมาตรฐานทั่วไป คือ เข้าประตูมาเจอห้องรับแขก ซ้ายเป็นห้องครัว ขวาเป็นห้องน้ำ ถัดไปคือห้องนอน

Metro Sky Prachachuen
ห้องนี้ตกแต่งแบบเรียบง่าย หวานๆ สไตล์วินเทจ

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen  Metro Sky Prachachuen
มุมรับแขกกับห้องครัวอยู่ฝั่งเดียวกัน แบ่งกั้นห้องเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ใช้กระจกมาตกแต่งผนังเพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น (แต่ขายจริงเป็นห้องเปล่าไม่มีประตูกระจก หรือผนังกระจก)

Metro Sky Prachachuen Metro Sky Prachachuen
ห้องน้ำได้จริงตามภาพทั้งหมด

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
ห้องนอนเหมาะกับคนพร็อพน้อยชิ้นเช่นกัน ตู้เสื้อผ้าออกแบบแนวสูง ติดผนังจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บได้มากขึ้น

แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ

Metro Sky Prachachuen

มีทั้งอาคาร B และ C เช่นกัน แบบนี้มีแปลนห้องที่ยกห้องครัวมาไว้ด้านขวามือประตูทางเข้าห้อง (ข้อดีคือ มีประตูกระจกกั้นแบ่งห้องครัวไว้ให้) ส่วนด้านซ้ายจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ถัดไปเป็นห้องนอนอยู่ 2 ฝั่งตรงข้ามกัน โดยห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กใช้ร่วมกันกับห้องน้ำรับแขก ส่วนโถงกลางด้านในจัดไว้เป็นมุมรับแขก

Metro Sky Prachachuen
ห้องนี้ตกแต่งให้อารมณ์แบบปาร์ตี้ๆ

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen

แปลนห้องก็ต่างจาก 2 ห้องแรกเพราะเปิดประตูมากก็เจอห้องครัว และโต๊ะรับประทานอาหารเลย สอดรับกับคนที่ชอบทำอาหารและพร้อมจะปาร์ตี้

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
ห้องนอนใหญ่ มีห้องน้ำในตัว ให้ไอเดียการจัดเก็บสิ่งของติดผนัง

Metro Sky Prachachuen
ห้องนอนเล็ก ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ด้วยไอเดียที่เก็บของติดผนังเช่นกัน

Metro Sky Prachachuen
ห้องน้ำได้จริงตามภาพ

Metro Sky Prachachuen
มุมนั่งเล่น รับแขกที่แต่งผนังด้วยวัสดุอะคริลิกเงาเพิ่มลูกเล่น และเลือกใช้โซฟาหนังเพิ่มความหรูหรา

Metro Sky Prachachuen

Metro Sky Prachachuen
ตัวอย่างพื้น และผนังติดวอลล์เปเปอร์ที่ให้จริงตามภาพ หรืออาจใกล้เคียงมากที่สุด

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
อัตราค่าเช่ารายเดือน
1.แบบ Moff Design ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 35.56 ตร.ม. (4×7.07ม.) ปล่อยเช่า 14,000 บาท/ เดือน
2. แบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 27 ตร.ม. (4.90x 5.65 ม.) ปล่อยเช่า 9,000 บาท/ เดือน
3.แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 43 ตร.ม. (7.2×5.8 ม.) ปล่อยเช่า 15,000 บาท/ เดือน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

U Delight @ Bangson Station
1.โครงการยูดีไลท์ @บางซ่อน สเตชั่น หรือ ยูดีไลท์ 4 เจ้าของโครงการ บริษัทแกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด ที่ตั้งโครงการอยู่ติด MRT บางซ่อน พื้นที่โครงการ3-0-92 ไร่ เป็นอาคารพักอาศัยสูง 26 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 527 ยูนิต ขนาดเริ่มต้น 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จ ธันวาคม 2558

The Niche Mono Ratchavipha

2.โครงการเดอะนิช โมโน รัชวิภา  เจ้าของโครงการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกประชานุกูล พื้นที่โครงการ 6-1-52.6 ไร่ อาคารที่พักอาศัย 27 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 840 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน 30.08-39.57 ตร.ม./ 2 ห้องนอน 53.49-62.23 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.18 ล้านบาท

บทสรุป
โดยรวมแล้วโครงการนี้เด่นในเรื่องทำเลที่ตั้ง เพราะถนนประชาชื่นถือว่าเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นได้หลายเส้นทาง อีกทั้งมีรถไฟฟ้าผ่านถึง 3 สาย รวมถึงใกล้แหล่งความเจริญ สถานที่ไลฟ์สไตล์มากมาย เหมาะทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเก็งกำไร ยิ่งหากรถไฟฟ้าเปิดใช้อย่างเป็นทางการราคาที่ดินจะยิ่งขยับขึ้น 20-50% ส่วนราคาห้องพักประเภทคอนโดมิเนียมโดยเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่ 80,000 – 100,000 บาท/ ตร.ม. ในอนาคตจึงมองว่าโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นอีกมีแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของโครงการนั้นมีจำนวนยูนิตที่มากกว่าพันยูนิต และพื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดไปกระจุกตัวอยู่ที่อาคาร B เพียงอาคารเดียว ฉะนั้นจึงต้องมีระบบการจัดการที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นอกจากนี้ในเรื่องของการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนคงต้องคำนวณเวลาให้ดี เพราะถนนเส้นนี้ก็ขึ้นชื่อในเรื่องการจราจรที่หนาแน่นไม่แพ้ใคร

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[พรีวิวโครงการ:เดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี (The Niche Pride Thonglor – Phetchaburi)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/102847/%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%258a-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259e www.ddproperty.com:news:102847 Wed, 29 Jul 2015 11:51:07 +0700

ปีนี้โครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในโซน CBD หรือใจกลางเมือง ราคาเปิดตัวไม่มีต่ำกว่า 120,000 ต่อตารางเมตร โดยเฉพาะในทำเลที่ไพร์มมากๆ ราคาทะลุ 200,000 บาทต่อตารางเมตรเสียด้วยซ้ำ วันนี้ เสนา ดีเวลลอปเมนท์เตรียมเปิดตัวโครงการล่าสุด “เดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรี” (The Niche Pride Thonglor – Phetchaburi) ด้วยราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาทสำหรับห้องขนาด 30 ตารางเมตร หรือเพียง 80,000 กว่าๆ ต่อตารางเมตรเท่านั้น ถึงแม้ทำเลที่ตั้งโครงการจะอยู่บนเส้นเพชรบุรีตัดใหม่แต่ด้วยราคาแบบนี้ ทำให้เป็นโครงการที่น่าสนใจในกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อที่อยากอยู่อาศัยใกล้โซนทองหล่อ-เอกมัย ในราคาจับต้องได้ เพราะถ้าลองเปรียบเทียบกับโครงการใหม่ๆ ในเส้นทองหล่อ จะพบว่าราคาแตะ 200,000 บาทต่อตารางเมตรกันหมด เพียงแค่ไม่กี่นาทีจากใจกลางทองหล่อ (ไม่ถึง 5 นาที ถ้ารถไม่ติด) ราคาต่อตารางเมตรถูกลงมากว่าครึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าในการ Trade-off

The Niche Pride Thonglor -€“ Phetchaburi

รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ก.ค. 58)
ชื่อโครงการ: เดอะ นิช ไพร์ด ทองหล่อ – เพชรบุรี (The Niche Pride Thonglor – Petchaburi)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเพชรบุรีตัดใหม่
รายละเอียดโครงการ
ที่ดินประมาณ 3-2-71 ไร่
1 อาคาร สูง 33 ชั้น จำนวน 667 ยูนิต
จำนวนลิฟท์โดยสาร 4 ตัว
รูปแบบห้องชุด
1 ห้องนอน พื้นที่ 30.4 – 44.4 ตร.ม.
2 ห้องนอน พื้นที่ 59 ตร.ม.
• ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.59 ล้านบาท หรือประมาณ 86,500 บาท/ ตร.ม.
• เว็บไซต์: www.sena.co.th/form/theniche-pride

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
โครงการเดอะ นิช ไพร์ด ทองหล่อ – เพชรบุรี ตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถ้าออกมาจากซอยทองหล่อให้เลี้ยวซ้าย โดยจะผ่านโครงการ Thru Thonglor ก่อน จึงจะเจอโครงการ ถ้าเทียบระยะห่างจากทองหล่อ โครงการนี้จะอยู่ห่างจากปากซอยทองหล่อฝั่งเพชรบุรีมากกว่า Thru Thonglor และ The Capital ของค่าย KPN ซึ่งอยู่ใกล้ปากซอยทองหล่อทางซ้ายและขวาตามลำดับ

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

การเดินทาง
หากเดินทางด้วยรถยนต์จะค่อนข้างสะดวก เพราะมีเส้นทางทะลุไปได้หลายเส้นทาง แต่ถ้าเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลักอาจต้องพึ่งวินมอเตอร์ไซค์เป็นหลักโดยระยะทางจากโครงการถึงสถานี BTS ทองหล่อและ MRT เพชรบุรี ใกล้เคียงกัน คือเกือบๆ 2 กิโลเมตรโดยประมาณ แม้ว่าจะระยะทางจะค่อนข้างไกลจากสถานีรถไฟฟ้า แต่สำหรับผู้ที่ทำงานในละแวกนี้หรือชอบไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ย่านทองหล่อ-เอกมัย ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ วันนี้ต้องถือว่าทองหล่อ-เอกมัย เป็นหนึ่งในทำเลที่น่าอยู่อาศัยที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยจำนวนร้านอาหาร, คาเฟ่และบาร์เก๋ๆ มากมาย รวมทั้ง Lifestyle community mall ทั้ง J-Avenue, Seen Space, Market Place และยังจะมี Community mall ทยอยเปิดตัวมาเรื่อยๆ อีก นอกจากนี้ทองหล่อ-เอกมัย ยังเป็นทำเลยอดนิยมของชาวต่างชาติ ไม่ได้จำกัดเฉพาะแต่ชาวญี่ปุ่นเท่านั้นที่มีความต้องการเช่าห้องในทำเลนี้

สำหรับทำเลนี้ ถือว่ายังมีซัพพลายไม่มากนัก มีเพียงโครงการ Thru Thonglor, The Capital และศุภาลัย พาร์ค เอกมัย-ทองหล่อ เท่านั้น

สถานที่ใกล้เคียงเด่นๆ
• J-Avenue
• Seen-Space
• รพ. กรุงเทพ
• รพ. คามิลเลี่ยน

วิเคราะห์โครงการ
โครงการนี้เป็นอาคารสูง 1 อาคารความสูง 33 ชั้น จำนวน 667 ยูนิต มีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1 ไร่ ดีไซน์ร่มรื่นสไตล์ Tropical มีความสะดวกสบาย ด้วยการมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 อยู่ภายในโครงการ ซึ่งจุดนี้ใครที่อยู่คอนโดฯ จะรู้ดีว่า การมีร้านสะดวกซื้อในโครงการ นี่คือสวรรค์ชัดๆ ด้านสิ่งแวดล้อม ทางโครงการมีการใช้ Solar Panel บน Rooftop เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้สำหรับส่วนกลางในโครงการ

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi
สระว่ายน้ำเกลือ ยาว 35 เมตร
The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi
ห้องพักอาศัยเริ่มจากชั้น 5 เป็นต้นไป โดยมีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, เลาจ์น และห้องสมุดตั้งอยู่บนชั้น 5 นี้เช่นกัน
The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi
สำหรับการวางผังตึก มีการออกแบบให้เป็นรูปตัว L

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi
อาคารมีการดีไซน์ แบบขั้นบันได เพื่อตอบโจทย์ การ Set back ของอาคารฝั่งที่ติดกับถนน ทำให้จำนวนยูนิตต่อชั้นจะลดลงในชั้นที่สูงขึ้น

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi
ถ้าดูจาก Floorplan ยูนิตที่น่าสนใจ น่าจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนวิวสระ-สวน ฝั่งทิศเหนือ ไม่ร้อน วิวฝั่งนี้นอกจากวิวสระ-สวนแล้ว ยังจะได้เห็น Super Tower ซึ่งจะเป็น Iconic Landmark ในอนาคตอีกด้วย แต่ขอแนะนำว่าควรเลือกห้องชั้น 10 ขึ้นไป เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงทั้งจากสระว่ายน้ำและถนนใหญ่ ส่วนสำหรับคนไหนที่ไม่กลัวแดดฝั่งตะวันออกวิวสระก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในแง่ของราคาเพราะขนาดห้องเล็กกว่าและไม่มีเสียงรบกวนจากถนนใหญ่
สำหรับการออกแบบ ดูจากงานดีไซน์ โครงการนี้ค่อนข้างให้ความใส่ใจกับการดีไซน์ โดยออกแบบให้ดูมีความ Luxury มากๆ ตั้งแต่ โถงล็อบบี้, โถงลิฟท์, ห้องสมุด, ห้องประชุมและพื้นที่ในส่วนกลางอื่นๆ ซึ่งเมื่อเทียบกับโครงการคอนโดมิเนียมที่ราคาระดับเดียวกัน โครงการนี้ถือว่าจัดเต็มมากๆ

ตัวอย่าง Layout ห้องแบบ 30 ตร.ม.

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

สำหรับโครงการนี้ ห้องแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้น ปัจจุบันโครงการส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยขนาดห้องไม่ถึง 30 ตร.ม. ซึ่งต้องบอกว่าเวลาอยู่จริงอาจจะรู้สึกคับแคบบ้าง ส่วน 30 ตร.ม. ถือว่าเป็นขนาดที่อยู่ได้จริงแบบสบายๆ สำหรับอยู่ 1-2 คน แบบห้องเป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งหน้ากว้างพอสมควรทำให้ดูกว้าง
สำหรับห้องขนาด 35 ตร.ม. มีข้อดีตรง แยกส่วนครัวไปต่างหาก สำหรับคนที่ทำอาหารบ่อยๆ แบบนี้จะดีมากเพราะสามารถป้องกันกลิ่นอาหารให้ออกมารบกวน

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน มีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นยูนิตหายาก และตำแหน่งของ 2 ห้องนอนจะอยู่ตำแหน่งเดียวกันหมด คือหันทิศใต้ วิวทองหล่อ

The Niche Pride Thonglor-“ Phetchaburi

บทสรุป
โครงการนี้ ถือเป็นโครงการที่เรียกว่า Value for Money ด้วยทำเลบวกกับคุณภาพที่ได้รับ โดยเฉพาะคนที่กำลังต้องการมองหาคอนโดมิเนียมราคาจับต้องได้ ในทำเลใกล้ทองหล่อ-เอกมัย และไม่ได้เน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก สำหรับโครงการเปรียบเทียบ ปัจจุบันมี Thru Thonglor ซึ่งสร้างเสร็จแล้ว ปัจจุบันราคาขึ้นแตะๆ 1 แสนบาทต่อตร.ม. โดยประมาณ, The Capital จาก KPN ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีนี้ ราคารีเซลอยู่ประมาณแสนต้นๆ ต่อตร.ม. โดยประมาณ และสุดท้ายโครงการศุภาลัย พาร์ค ทองหล่อ-เอกมัย กำลังอยู่ในช่วงโอน ซึ่งหลังโอนหมดราคาต่อ ตร.ม. ก็น่าจะขึ้นไปแตะ 1 แสนบาทต่อ ตร.ม. เช่นกัน

ติดตามรีวิวฉบับเต็มของโครงการเดอะนิช ไพรด์ ทองหล่อ-เพชรบุรีได้ที่นี่ เร็วๆ นี้

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[พรีวิวโครงการใหม่:เดอะไลน์ สุขุมวิท 71(The Line Sukhumvit 71)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/102295/%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b9%2584 www.ddproperty.com:news:102295 Thu, 23 Jul 2015 22:47:09 +0700

หลังจากแสนสิริเปิดตัวโครงการเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการร่วมทุนกับบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) และสามารถปิดการขายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง ล่าสุด แสนสิริประกาศเดินหน้าต่อกับการเปิดตัวโครงการภายใต้การร่วมทุนแห่งที่สองโดยจะปักหมุดโครงการ “เดอะไลน์ สุขุมวิท 71” (The Line Sukhumvit 71) ในทำเลที่อยู่ห่างจากสถานี BTS พระโขนง ประมาณ 400ม ก่อนที่จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ แสนสิริได้มีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนออกมาแล้ว ส่วนราคาอย่างเป็นทางการ คงต้องรอประกาศอีกที แต่ที่แน่ๆ คงจะไม่หนีจากเดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต ที่เริ่มต้นที่ประมาณ 170,000-180,000 ต่อตรม ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้โครงการนี้เปิดตัวในราคาที่สูงที่สุดในทำเลใกล้ BTS พระขโนงเลยทีเดียว แต่ถ้าพิจารณาจากคุณภาพและแบรนด์แสนสิริด้วยแล้ว ก็ถือว่าราคายังสมเหตุสมผลอยู่สำหรับซื้อเพื่อการอยู่อาศัยมากกว่าการลงทุนเพื่อปล่อยเช่าระยะยาว

The Line Sukhumvit 71

รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ: เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 (The Line Sukhumvit 71)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ทรี จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยปรีดี พนมยงค์ 3 (สุขุมวิท 71) เขตวัฒนา ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนงประมาณ 400 เมตร
รายละเอียดโครงการ
คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ความสูง 28 ชั้น จำนวน 1 อาคารรวม 291 ยูนิต
คาดว่าจะแล้วเสร็จ: ไตรมาส 4 ปี 2559
รูปแบบห้องชุด
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 29.75 – 34.00 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 40.00 – 44.75 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 57.25 – 62.75 ตร.ม.
• ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว (อัตราส่วน 72.75 ยูนิต ต่อลิฟท์ 1 ตัว – ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี)
• www.sansiri.com/condominium/the_linesukhumvit71


วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

The Line Sukhumvit 71_map

สำหรับทำเลของโครงการเดอะไลน์ สุขุมวิท 71 ตั้งอยู่ในซอยปรีดีพนมยงค์ 3 ซอยสุขุมวิท 71 โดยอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพระโขนง 400 เมตร ซึ่งถือว่ายังเป็นระยะที่ยังพอรับได้ในการเดิน สำหรับทำเลที่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าพระโขนงนี้ ห่างจากทองหล่อเพียง 2 สถานีและปัจจุบันชาวต่างชาติที่อยากอาศัยอยู่ย่านทองหล่อ-เอกมัยแต่งบไม่ถึงก็จะมาหาที่อยู่อาศัยย่านพระโขนงก่อนไปถึงอ่อนนุช ในทำเลนี้ถือว่าซัพพลายยังถือว่าน้อยกว่าบริเวณสถานี BTS อ่อนนุชมาก

ในโซนนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ อาทิ โครงการไลฟ์ สุขุมวิท ของค่ายเอพี ไทยแลนด์ และสกายวอล์คของค่ายดับเบิ้ลยู พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งสร้างเสร็จมาไล่เลี่ยกัน นอกจากนี้ ยังมี โครงการริทึ่ม 44/1 อีกหนึ่งโครงการของค่าย เอพี ซึ่งอยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเลยและโครงการ วายน์ บาย แสนสิริ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามแยกระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนสุขุมวิท 71 รวมไปถึงโครงการที่กำลังก่อสร้างอย่าง เดอะรูม สุขุมวิท 69 ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งจะแล้วเสร็จในปีเดียวกับ เดอะไลน์ สุขุมวิท 71 เลย หากพูดถึงเรื่องความคึกคัก ทำเลนี้อาจจะสู้บริเวณสถานีรถไฟฟ้าเอกมัยหรืออ่อนนุชไม่ได้

วิเคราะห์โครงการ
โครงการนี้เป็นโครงการที่แสนสิริเริ่มก่อสร้างก่อนที่จะเริ่มเปิดขาย ซึ่งทำให้ระยะเวลาในการเปิดตัวถึงวันที่สร้างแล้วเสร็จมีระยะสั้นเพียง 1 ปี ซึ่งจุดนี้อาจทำให้มีสัดส่วนของผู้ที่จะซื้อเพื่ออยู่เองมากกว่านักลงทุนเก็งกำไร ซึ่งต่างจาก เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุน

The Line Sukhumvit 71

โครงการนี้จะพัฒนาเป็นอาคารแบบไฮไรส์ความสูง 28 ชั้น และมีจำนวนยูนิต เพียง 291 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่กำลังดีมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ไม่พลุกพล่านจนเกินไป สำหรับโปรเจคนี้ถ้าวัดกันแค่ระยะห่างจากสถานีบีทีเอสอาจจะเดินเหนื่อยหน่อยเมื่อเทียบกับริทึ่ม 44/1 ซึ่งติดกับสถานีรถไฟฟ้าเลย และเดอะ รูม สุขุมวิท 69 ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าราว 100 เมตร แต่ถ้าภาพรวมเชื่อว่า แสนสิริจัดมาเต็มสำหรับฟีเจอร์ ดีไซน์ และคุณภาพ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่พื้นที่ส่วนกลางของแสนสิริมักทำออกมาได้ตื่นตาตื่นใจ โดยขณะนี้แสนสิริได้แง้มมาแล้วว่าจะมีการตกแต่งโครงการนี้ด้วยหินอ่อนซึ่งเป็นลายหายาก และหน้าต่างแบบ Full Height Window ซึ่งแสดงถึงความพรีเมียม และทำให้ดื่มด่ำกับวิวได้มากขึ้น

The Line Sukhumvit 71

สำหรับสระว่ายน้ำ ก็มีความพิเศษตรงที่ สามารถฟังเพลงขณะอยู่ใต้น้ำได้ด้วย

The Line Sukhumvit 71

The Line Sukhumvit 71

The Line Sukhumvit 71

The Line Sukhumvit 71_masterplan

ที่จอดรถอยู่บริเวณชั้น 1-5 และห้องพักอาศัยเริ่มจากชั้น 6 เป็นต้นไป โดยมีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และห้องสมุดตั้งอยู่บนชั้น 6 นี้เช่นกัน

The Line Sukhumvit 71

The Line Sukhumvit 71

The Line Sukhumvit 71

สำหรับการวางผังตึก จะทำให้ห้องหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันตกเฉียงใต้ ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้จะได้วิวแนวรถไฟฟ้าและในชั้นสูงๆ (20 ชั้นเป็นต้นไป) น่าจะได้เห็นวิวคุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย ส่วนอีกฝั่งน่าจะได้เห็นซุปเปอร์ทาวเวอร์ (บริเวณพระราม 9)

หากจะเปรียบเทียบโครงการอื่นๆ ในละแวกหรือระดับราคาใกล้เคียงกัน คงต้องนำมาเปรียบเทียบกับ ริทึ่ม สุขุมวิท 44/1 และเดอะรม สุขุมวิท 69

ในส่วนของราคา ริทึ่ม สุขุมวิท 44/1 ราคารีเซลจะอยู่ที่ 160,000บาทต่อตร.ม. ขึ้นไปโดยประมาณ ส่วนเดอะรูม สุขุมวิท 69 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 160,000 บาทต่อตรม โดยประมาณ ซึ่งถ้าทางเดอะไลน์ สุขุมวิท 71 เปิดราคามาที่ 160,000-170,000 บาทต่อตร.ม. ก็ต้องถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับ 2 โครงการนี้

บทสรุป
สุดท้าย โครงการนี้ก็ยังเป็นหนึ่งโครงการที่น่าสนใจที่หลายๆ คนกำลังรอลุ้นราคาอยู่ และที่สำคัญต้องมาดูว่าโครงการนี้จะร้อนแรงเหมือนโครงการแรกหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวมองว่าด้วยจำนวนยูนิตที่มีไม่มาก เพียงแค่ 291 ยูนิตและจะมีการแบ่งห้องไปขายที่ต่างประเทศทั้งฮ่องกงและสิงค์โปร์เช่นเดิม ถ้าระดับราคาไม่หนีริทึ่ม หรือ เดอะรูม มากเกินไป โครงการนี้ น่าจะปิดการขายได้อย่างรวดเร็วเหมือนเดิม ใครอยากได้คงต้องรีบหน่อย

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[พรีวิวโครงการใหม่:เดอะลอฟท์ อโศก(The Loft Asoke)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/102130/%25e0%25b8%259e%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2583%25e0%25b8%25ab%25e0%25b8%25a1%25e0%25b9%2588%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25a5 www.ddproperty.com:news:102130 Tue, 21 Jul 2015 23:00:27 +0700

หลังจากที่เปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการที่ 3 ภายใต้แบรนด์ “เดอะลอฟท์” (The Loft) ไปเมื่อ 2 ปีก่อน ปีนี้ไรมอนแลนด์กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับคอนโดมิเนียมแบรนด์เดอะลอฟท์ลำดับที่ 4 โดยยังคงคอนเซ็ปต์ทำเลใจกลางเมืองกับการปักหมุดในย่านอโศกของโครงการที่มีชื่อว่า “เดอะลอฟท์ อโศก” (The Loft Asoke)

เดอะลอฟท์ อโศก ซึ่งมีแผนที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ตั้งอยู่บนถนนอโศกมนตรี ฝั่งถนนเพชรบุรี ใกล้กับแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี MRT เพชรบุรี ประมาณ 200 เมตร ซึ่งทำเลนี้ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทำเลมาแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้มีโครงการที่เริ่มมาปักหมดจุดพลุให้กับทำเลนี้ คือโครงการแอชตัน อโศก ของค่ายอนันดา ดีเวลลอปเมนท์ และโนเบิล รีโคล ของค่ายโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเปิดตัวและปิดการขายได้อย่างรวดเร็วทั้งสองโครงการ

The Loft Asoke
ภาพในหน้าลงทะเบียนโครงการเดอะ ลอฟท์ อโศก  www.theloftsasoke.com

ส่วนในทำเลใกล้เคียงกันกับเดอะลอฟท์ อโศก ยังมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่อย่าง วิลล่า อโศก ของทีซีซี แคปปิตอล แลนด์, ดิ แอดเดรส อโศก ของค่ายเอพี ไทยแลนด์, ศุภาลัย พรีเมียร์ อโศกของค่ายศุภาลัย

ในขณะที่โครงการที่กำลังสร้างอยู่และใกล้แล้วเสร็จ อาทิ คิว อโศก ของคิวเฮ้าส์ ซึ่งโครงการนี้อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า MRT เพชรบุรีเลยทีเดียว ส่วนอีก 2 โครงการที่เปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ได้แก่ ไลฟ์ อโศก ของเอพีฯ และ เอคิว อาเรีย อโศก ของเอคิว เอสเตท ซึ่งทั้งสองโครงการปิดการขายไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ดังนั้นทำเลนี้จึงเป็นที่จับตาของทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนอสังหาฯ

The Loft Asoke_site

สำหรับศักยภาพของทำเลนี้ มีตัวไดรฟ์ที่สำคัญอย่างบิ๊กโปรเจคมูลค่ากว่าหมื่นล้านของ สิงห์ เอสเตท ในชื่อ “สิงห์ คอมเพล็กซ์” ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 11 ไร่ บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งเดิมของสถานฑูตญี่ปุ่นและออฟฟิศของ Japan International Cooperation Agency หรือ JICA โดยจะพัฒนาเป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสที่ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน, คอนเวนชั่นฮอลล์, โรงแรม, พื้นที่ค้าปลีก และคอนโดมิเนียม ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 2558 นี้และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 5 ปี ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวสร้างเสร็จสมบูรณ์จะทำให้ย่านดังกล่าวมีความคึกคักและครบครันสำหรับ Work-Live-Play

The Loft Asoke
ภาพ via www.theloftsasoke.com

Singha Complex
ภาพจำลองโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์

Singha Complex

สำหรับรายละเอียดโครงการเดอะลอฟท์ อโศก ทางไรมอนแลนด์ยังไม่เผยรายละเอียดออกมาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับโครงการเดอะลอฟท์ เอกมัย และคงความเป็น The Loft คือ ดีไซน์ทันสมัย และเพดานสูง 2.8 เมตร ส่วนเรื่องคุณภาพวัสดุและการออกแบบ ต้องบอกว่าหายห่วงเพราะไรมอนแลนด์ค่อนข้างใส่ใจกับรายละเอียดส่วนนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญจำนวนยูนิตไม่น่าจะเยอะเหมือนโปรเจคอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน ส่วนราคาคงต้องมารอลุ้นกันว่าจะออกมาเท่าไหร่ แต่ไม่น่าจะหนีแสนปลายๆ ต่อตร.ม. หรือน่าจะทะลุขึ้นไปกว่าสองแสนบาทต่อ ตร.ม. และที่สำคัญโครงการนี้เป็นโครงการที่ตั้งติดกับถนนอโศกจริงๆ ไม่เหมือนกับบางโครงการที่ต้องเข้าไปในซอยอย่าง ดิ เอดจ์ ของแสนสิริ หรือ โนเบิล รีโคล

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

The Loft Asoke map

• 200 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เพชรบุรี และวินมอเตอร์ไซค์
• 150 เมตร จากท่าเรืออโศก
• 400 เมตร แอร์พอร์ตลิงค์สถานีมักกะสัน
• ใกล้จุดขึ้นทางด่วน
• ใกล้สถานศึกษาชั้นนำ 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, โรงเรียนวัฒนา วิทยาลัย และเซนต์ดอมินิก
• 1 สถานี MRT ถึงศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 และซุปเปอร์ทาวเวอร์ ซึ่งจะเป็นตึกที่สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2562
• 1 สถานี MRT ถึง Terminal 21 และเชื่อมต่อสถานี BTS สุขุมวิท

ทำเลนี้ถ้าไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ต้องบอกว่าก็ยังสะดวกมาก เพราะอยู่ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า MRT, ท่าเรือ, วินมอเตอร์ไซค์ ทางเลือกค่อนข้างเยอะ ไปต่อ BTS ก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน 1 สถานี ส่วนถ้าใช้รถเป็นหลัก ถนนอโศกมนตรี เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเป็นถนนที่รถติดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่ยังดีที่ตำแหน่งโครงการตั้งอยู่ปลายถนนใกล้กับถนนเพชรบุรี จึงไม่น่าใช้เวลานานเวลาในการหลุดจากรถติดบนถนนอโศกฯ ออกมาบนถนนเพชรบุรี

อีกอย่างที่สะดวก คือไม่ไกลจากจุดขึ้นทางด่วน
เปรียบเทียบโครงการใกล้เคียง

The Loft Asoke_nearby projects

โดยสรุปแล้ว โครงการเดอะลอฟท์ อโศกถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ สำหรับรายละเอียดลึกๆ คงต้องรอตอนใกล้ๆ เปิดตัวจากทางไรมอนแลนด์ แต่เมื่อพิจารณาในเรื่องของทำเล ถือว่าเป็นทำเลศักยภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านี้ ด้วยโปรเจคใหญ่ๆ ในบริเวณใกล้เคียง อาทิ เช่น ซุปเปอร์ทาวเวอร์, สิงห์ คอมเพล็กซ์, มักกะสัน คอมเพล็กซ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยบวกที่จะผลักดันความเจริญ รวมถึงอัตราการเพิ่มของมูลค่าอสังหาฯ ในย่านนี้และดีมานด์การอยู่อาศัยและเช่า ทั้งนี้เมื่อเริ่มเข้าสู่ยุคประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อย่างจริงจัง ทำเลอโศก-พระราม 9 จะเป็นย่านใจกลางธุรกิจแห่งใหม่หรือ CBD อย่างเต็มตัวเพราะได้เปรียบเรื่องการเดินทางสู่สนามบินนั่นเอง

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: เอคิว อาเรีย อโศก (AQ Aria Asoke)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/101940/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7-%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a3 www.ddproperty.com:news:101940 Mon, 20 Jul 2015 05:51:04 +0700

เอคิว เอสเตทประเดิมคอนโดมิเนียมโครงการแรกของปี 58 ด้วยโครงการที่สร้างความฮือฮาให้กับตลาดด้วยจุดขายเพดานสูงถึง 360 เซนติเมตร และเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนตลอดทั้งตึกกับ “เอคิว อาเรีย อโศก” (AQ Aria Asoke) โดยปักหมุดบนถนนอโศก-ดินแดน ทำเลที่สามารถเชื่อมต่อไปยังโซนต่างๆ ของเมือง ไม่ว่าจะเป็นอโศก-สุขุมวิท หรือแม้แต่ทำเลดาวรุ่งอย่างรัชดา-พระราม  9 ที่หลายๆ คนมองว่ากำลังจะกลายเป็น CBD แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ด้วยจุดขายดังกล่าวที่ถือเป็นเรื่องใหม่ส่งผลให้โครงการดังกล่าวมียอดจองเต็ม 100% หลังจากที่เปิดพรีเซลในหนึ่งสัปดาห์ โดยวันนี้ DDproperty จะพาคุณมาทำความรู้จักกับโครงการเอคิว อาเรีย อโศกแบบเจาะลึกกัน

AQ Aria Asoke

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: เอคิว อาเรีย อโศก (AQ Aria Asoke)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: ถนนอโศก – ดินแดง แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กทม.

AQ Aria Asoke

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 29 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 315 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20 – 40 ปี และผู้ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่ 2
สถานะก่อสร้าง: กำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ศ. 2561
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 8 – 28
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็น ชั้น 1 (Welcome Hall, Mailbox Room ห้องนิติบุคคลฯ และสวน), ชั้น 7 (Co-Working Lounge, Chilling Area, Athletic Club, Kids Stadium สระว่ายน้ำ ห้องอบไอน้ำ และสวน) และ ชั้น 29 (Sunset Lounge, Barbecue Terrace, Cigar Lounge และสวน)
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น P1 – P6 สามารถจอดได้ 140 คัน (คิดเป็น 44 % ไม่รวมซ้อนคัน) โดยแต่ละห้องได้รับสิทธิจอดได้ 1 คัน แบบไม่ Fix (ค่าจอดรถยนต์ 500 บาท / เดือน และปีละ 6,000 บาท / เดือน ส่วนมอเตอร์ไซค์ 200 บาท / เดือน และปีละ 2,400 บาท / เดือน )
สถานะการขาย: ขายหมด 100 % แต่คาดว่าจะมียูนิต Resale ออกมาในเร็วๆ นี้
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 1,000 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 80 บาท / ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: 3.98 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 166,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Furnished ทุกชั้นเป็นยูนิต 1 ห้องนอนทั้งโครงการ
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 28 – 34 ตารางเมตร

AQ Aria Asoke

AQ Aria Asoke

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

AQ Aria Asoke  AQ Aria Asoke
ภาพ via bangkokmetro.co.th

โครงการ เอคิว อาเรีย อโศก ตั้งอยู่บนถนนอโศก – ดินแดง ฝั่งเส้นทางมุ่งหน้าสู่ถนนพระราม 9 ซึ่งตลอดเส้นทางนี้ จนถึงทางเข้าโครงการ สภาพจราจร (ในปัจจุบัน) ค่อนข้างหนาแน่นตลอดวัน อันเป็นอานิสงส์จากความเจริญของพื้นที่โดยรอบ นับตั้งแต่ออฟฟิศสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรมชั้นนำ รวมถึงโครงการคอนโดมิเนียม ต่างเข้ามาปักหมุดในบริเวณนี้กันอย่างหนาแน่นส่งผลให้กลายเป็นทำเลที่ค่อนข้างครบครันสำหรับการใช้ชีวิต

ศักยภาพทำเลที่ตั้งของโครงการประกอบด้วย จุดเด่น ในด้านการคมนาคมที่เข้าแถวมารองรับความเป็นย่านธุรกิจ ทำให้ผู้คนแถวนี้เดินทางสะดวกสบายขึ้น แม้จะหนาแน่นไปนิด แต่หลีกเลี่ยงได้ด้วยการใช้ทางด่วนศรีรัช หรือถนนจตุรทิศ ที่ไม่ต้องเสียเวลา ฝ่าสภาพจราจรมหาโหด ไปกลับรถถึงดินแดง (ถ้ามุ่งหน้ามาจากพระราม 9) เพื่อเข้าโครงการ แต่หากอยากรวดเร็วทันใจสามารถใช้บริการขนส่งมวลชน อย่าง MRT และแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ได้ นอกจากนี้ ราคาที่ดินในโซนนี้พุ่งทยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาประเมินล่าสุดในปี 2558 อยู่ที่ 250,000 บาท / ตร.ว. (ที่มา: สำนักประเมินทรัพย์สิน กรมธนารักษ์)

การเดินทาง

AQ Aria Asoke

ทำเลถนนอโศก – ดินแดง ถือว่าเป็นศูนย์รวมของการคมนาคมที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง โดยไม่ต้องพึ่งยวดยานพาหนะอย่างรถยนต์ให้เสียเวลากับสภาพจราจรที่หนาแน่นแทบจะตลอดวัน เนื่องจากตัวโครงการอยู่ใกล้ MRT ถึง 2 สถานี คือ สถานีพระราม 9 และเพชรบุรี ในระยะห่างที่ค่อนข้างพอๆ กัน ประมาณ 350 เมตร อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจาก แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานี มักกะสัน (450 เมตร) แต่ถ้าอยากขับรถ บริเวณนี้มีหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะใช้ถนนอโศกมนตรี, อโศก-ดินแดง, เพชรบุรี, จตุรทิศ และทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ซึ่งโครงการจะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนมาก (ห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตร) เพื่อมุ่งหน้าสู่โซนตะวันตกของกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวกสบาย

– รถไฟฟ้า MRT
เพียงมุ่งหน้ามาลงสถานีพระราม 9 แล้วแนะนำให้ใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ (30 บาท) ถึงหน้าโครงการ แต่ถ้าใครชอบเดิน หากลงที่สถานีพระราม 9 จะต้องใช้ทักษะการข้ามถนนตรงแยกพระราม 9 สักนิด แต่หากเลือกลงที่สถานีเพชรบุรีจะสามารถเดินไปยังโครงการได้สะดวกกว่า ระยะทางประมาณ 350 เมตรถึงโครงการ

– รถยนต์ส่วนตัว
หากมาจากฝั่งถนนอโศกมนตรี ให้ฝ่าการจราจรมานิดนึง ขับตรงมาเรื่อยๆ ถึงหน้าโครงการเลย แต่ถ้ามาจากเส้นเพชรบุรี แนะนำให้ใช้ถนนจตุรทิศกลับรถ ไม่ต้องไปยูเทิร์นไกลถึงดินแดง

ป้ายทางเข้าโครงการเอคิว อาเรีย อโศก ขนาดใหญ่ สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

AQ Aria Asoke

สภาพการจราจรของถนนอโศก – ดินแดง ถือว่ายังคล่องตัวอยู่ในช่วงสายๆ

AQ Aria Asoke

ถนนจตุรทิศข้างโครงการ สังเกตจะเห็นทางด่วนศรีรัชค่อนข้างใกล้กับตัวตึกพอสมควร

AQ Aria Asoke

สภาพของถนนอโศก – ดินแดง ที่จะมุ่งหน้าไปพระราม 9 หนาแน่นอยู่ไม่น้อยในช่วงสายๆ ของวัน

AQ Aria Asoke

สถานที่แนว Lifestyle
หากใครมีโอกาสแวะเวียนมาแถวถนนอโศก-ดินแดง เชื่อเถอะว่าทุกคนต้องขอเข้าไปช้อปปิ้งอุปกรณ์ไอทีใน ฟอร์จูนทาวน์แน่นอน เพราะมีให้เลือกหลากหลายแถมยังราคาถูก ไม่ต้องทนร้อน โหนรถเมล์ไปถึงคลองถมให้เมื่อย ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 เกิดขึ้นพร้อมๆ กับช่องทางการเดินทางที่สะดวกสบาย ทั้งจาก MRT หรือแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ จึงทำให้สถานที่ไลฟ์สไตล์ในย่านนี้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ล่าสุดเกิดตลาดนัดรถไฟ หลังเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ แหล่งรวมสินค้า-ของกินเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

อีกทั้งเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีแหล่งแฮงค์เอาท์ของเหล่าฮิปส์เตอร์ นามว่า Art Box Bangkok ตลาดนัดตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีจุดเด่นในเรื่องการจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ของกิน ของใช้ งานดีไซน์ และนิทรรศการศิลปะ จึงทำให้พื้นที่ย่านนี้คึกคักผิดหูผิดตาไปเลยทีเดียว

นอกจากนี้หากใครขับรถผ่านแยกพระราม 9 อาจผ่านหูผ่านตากับโครงการก่อสร้างโปรเจคยักษ์ของกลุ่มจีแลนด์ที่กำลังก่อสร้าง แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ที่จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในอาเซียนอย่าง “เดอะ ซุปเปอร์ทาวเวอร์” ที่มีทั้งอาคารสำนักงานระดับพรีเมี่ยม โรงแรมระดับ 6 ดาว และภัตตาคารลอยฟ้าที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 อีกทั้งยังมี The Shoppes Grand Rama 9 (อยู่ใกล้ๆ กับเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9) ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร ร้านนั่งชิลเพียบ

เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 (ห่างจากโครงการ 400 เมตร)

AQ Aria Asoke

ฟอร์จูนทาวน์ (ห่างจากโครงการ 400 เมตร)

AQ Aria Asoke
ภาพ via google.co.th

The Shoppes Grand Rama 9 (ห่างจากโครงการ 300 เมตร)

AQ Aria Asoke
ภาพ via grandcanalland.com

The Super Tower (ห่างจากโครงการ 300 เมตร)

AQ Aria Asoke
ภาพ via grandcanalland.com

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการเอคิว อาเรีย อโศก พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เน้นความโปร่งโล่ง ด้วยเพดานสูง 360 ซม. ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่การอยู่อาศัยโดยขยายพื้นที่แนวตั้ง มากกว่ากว้าง x ยาว ในสไตล์ Loft โดยมียูนิตให้เลือกเพียงประเภทเดียวคือ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ทั้งตึก ซึ่งภาพรวมค่อนข้างเป็นส่วนตัว และให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เนื่องจากมียูนิตไม่มากนัก แต่ขณะเดียวกันด้วยทำเลที่ตั้งใกล้กับทางด่วนศรีรัช ถนนจตุรทิศ และถนนอโศก-ดินแดง หน้าโครงการ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าย่านนี้รถค่อนข้างหนาแน่น จึงอาจทำให้ได้รับเสียงอึกทึกอยู่ไม่น้อย

โดยผู้อยู่อาศัย นิยมเลือกห้องหันไปทางทิศตะวันตก และตะวันออก เพื่อชมทัศนียภาพของวิวเมือง

AQ Aria Asoke

วิวทางด่วนศรีรัช ด้านทิศตะวันออก หากเป็นตอนกลางคืน น่าจะสวยอยู่ไม่น้อย

AQ Aria Asoke

ทิศเหนือ จะได้วิวทางฝั่งพระราม 9 และคอนโด The Rhythm 1 ความสูง 37 ชั้น

AQ Aria Asoke

ทิศเหนือ ผู้อยู่อาศัยอาจจะถูกบล็อกวิวจากยูนิต 2 ห้องนอนของโครงการ The Rhythm 1 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 20 เมตร

AQ Aria Asoke

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เติมเต็มความสบายให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยแนวคิด Higher Living Exclusive กับพื้นที่ Facilities 3 ชั้น 3 โซน แบ่งออกเป็นบริเวณชั้น1 ชั้น 7 และชั้น 29 โดยเน้นความเป็นส่วนตัว

แปลน Facility ชั้น 1

AQ Aria Asoke

ชั้น 1 – Welcome Hall มาตรฐานระดับโรงแรม

AQ Aria Asoke

แปลน Facility ชั้น 7 ที่มีจุดเด่นที่สระว่ายน้ำ

AQ Aria Asoke

ชั้น 7 – สระว่ายน้ำระบบโอโซนขนาดใหญ่ พร้อมสระเด็ก พร้อมชมบรรยากาศทิวทัศน์ฝั่งอโศก – ดินแดง

AQ Aria Asoke

ชั้น 7 – บริหารร่างกาย ท่ามกลางบรรยากาศวิวเมือง

AQ Aria Asoke

ชั้น 7 – ปรับเปลี่ยนมุมมองการทำงานใหม่ ใน Co-Working Lounge

AQ Aria Asoke

ชั้น 7 – มุมของเด็กๆ Kids Stadium

AQ Aria Asoke

แปลน Facility ชั้น 29 มีไฮไลท์อยู่ที่ Sunset Lounge

AQ Aria Asoke

ชั้น 29 – ชมวิวเมือง ยามพระอาทิตย์ตก กับ Sunset Lounge

AQ Aria Asoke

สิ่งที่ได้รับ
รายการเฟอร์นิเจอร์แพ็คเกจมูลค่า 400,000 บาท
เฟอร์นิเจอร์
1. โซฟา 1 ตัว
2. โต๊ะกลาง 1 ตัว
3. โต๊ะข้าง 1 ตัว
4. ตู้วางทีวี 1 ตัว
5. โต๊ะทำงาน 1 ตัว
6. เก้าอี้ทำงาน 1 ตัว
7. ชั้นวางของโต๊ะทำงาน 1 ตัว
8. ชั้นวางของติดผนังหลังโซฟา 1 ตัว
9. ตู้เสื้อผ้า 1 ตู้
10. โครงเตียงพร้อมบันได 1 ชุด
11. ตู้ครอบตู้เย็นพร้อมที่ใส่รองเท้า 1 ตู้

เครื่องใช้ไฟฟ้า
1. ตู้เย็นขนาด 7.1 คิว 1 เครื่อง ยี่ห้อ Mitsubishi หรือเทียบเท่า
2. ไมโครเวฟ 1 เครื่อง ยี่ห้อ Electrolux หรือเทียบเท่า
3. เครื่องซักผ้า 1 เครื่อง Electrolux หรือเทียบเท่า
4. ฝารองนั่ง Toto Washlet หรือเทียบเท่า
5. เครื่องทำน้ำร้อน ขนาด 500 วัตต์
6. โทรทัศน์ขนาด 40 นิ้ว ยี่ห้อ Samsung หรือเทียบเท่า 1 เครื่อง (เมื่อชำระเงินภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)

ของใช้และของตกแต่ง
1. ที่นอนขนาด 5 ฟุต หนา 6 นิ้ว 1 หลัง
2. หมอน 4 ใบ
3. ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอนและผ้านวม (สีขาว) 1 ชุด
4. ผ้าม่าน 1 ชุด ในห้องนั่งเล่น, ม่านม้วน Sunscreen 3 ชุด บริเวณโต๊ะทำงาน และที่นอน

หมายเหตุ: สำหรับรายการเฟอร์นิเจอร์ ทางโครงการขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงยี่ห้อ รุ่น และขนาด ได้ตามเหมาะสม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า อีกทั้งรายการเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดตามข้อ 2 จะส่งมอบภายใน 60 วัน นับจากโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ไม้เอนจิเนียร์วูด หน้ากว้าง 8 นิ้ว และกระเบื้องแกรนิตโต้หรือเทียบเท่า (เฉพาะห้องครัวและห้องน้ำ)
ความสูงพื้นจรดเพดาน: 360 ซม.
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 950 เซนติเมตร
ประตู: Digital Door Lock
โคมไฟ: LED Downlight
เต้าเสียบ USB: ห้องน้ำ 1 จุด และส่วนนอน 1 จุด
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Franke หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Toto หรือเทียบเท่า
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: Daikin Inverter ขนาดประมาณ 29,000 BTU หรือเทียบเท่า

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

สัดส่วนการแบ่งห้องเป็นมุมต่างๆ ดูจากแปลนแล้วค่อนข้างลงตัว ทั้งการกั้นห้องครัว ห้องน้ำ มุมทำงาน หรือส่วนของห้องนอน ซึ่งอยู่บนชั้นลอย

AQ Aria Asoke

ผลักประตูมา จะพบส่วนของมุมทำอาหาร โดยติดตั้งชุดครัวแบบ Hi gloss Built-in เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน จาก Franke หรือเทียบเท่า และเคลือบผนังด้วยไฟเบอร์กลอส ที่มีคุณสมบัติทนไฟ ง่ายต่อการทำความสะอาด โดยถัดจากส่วนนี้ ทางโครงการออกแบบตู้ครอบตู้เย็น พร้อมยกระดับให้สามารถเก็บรองเท้าได้

AQ Aria Asoke  AQ Aria Asoke

ส่วนของห้องน้ำ ประตูที่ได้เป็นแบบกระจกฝ้าเฟรมอลูมิเนียม เมื่อเปิดมาจะพบกับการแบ่งโซนแห้ง-เปียก อย่างชัดเจน

AQ Aria Asoke  AQ Aria Asoke

ฝารองนั่งเป็นแบบระบบ Washlet พร้อมติดตั้งปลั๊กเต้าเสียบด้านข้าง

AQ Aria Asoke

จุดเด่นของการดีไซน์ห้องน้ำ นอกจากจะมีตู้กระจกเก็บของใช้แล้ว ยังติดตั้งช่องเสียบ USB ไว้ให้ชาร์จแบต เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

AQ Aria Asoke

ก่อนจะเข้าสู่โซนนั่งเล่น มาดูของแถมแบบจัดเต็มถึง 16 รายการ ในห้องนี้กันก่อนดีกว่า

AQ Aria Asoke

ความกว้างของห้องนั่งเล่น ทำให้สามารถวางโซฟาแบบยาว และโต๊ะอเนกประสงค์ได้

AQ Aria Asoke

ชั้นหลังโซฟาและโต๊ะวางของแสนเก๋ไก๋ ดังรูป ไม่ใช่เป็นเพียงอุปกรณ์ตกแต่งเท่านั้น ทุกอย่างได้หมด

AQ Aria Asoke  AQ Aria Asoke

หลังโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น ถูกแบ่งให้เป็นโซนนั่งทำงานและแต่งตัว

AQ Aria Asoke

โต๊ะ เก้าอี้ทำงาน รวมถึงชั้นเก็บเอกสาร หนังสือ ได้หมด รวมถึงตู้เสื้อผ้า 2 บานด้วย

AQ Aria Asoke

ในมุมโต๊ะทำงาน จะมีหน้าต่างแบบบานเลื่อนให้พักสายตา พร้อมสูดอากาศภายนอกได้

AQ Aria Asoke

ชั้นวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้ตามรูป ยกเว้นโคมไฟ ของตกแต่ง โดยส่วนใต้บันได ยังมีพื้นที่ ให้สามารถวางของจุกจิกเพิ่มได้อีก

AQ Aria Asoke AQ Aria Asoke

ระเบียงของยูนิตนี้ค่อนข้างยาว โดยสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ถึงสองเครื่อง

AQ Aria Asoke

เครื่องซักผ้าที่ได้ไม่ธรรมดา มีทั้งแบบซักและอบ พร้อมรองรับการใช้งาน ทั้งปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบ ก๊อกน้ำ รวมถึงไฟระเบียง ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นแบบแขวน มีระแนงบัง เพื่อความสวยงาม เมื่อมองมาจากนอกอาคาร

AQ Aria Asoke  AQ Aria Asoke

จะก้าวขึ้นบันไดไปส่วนห้องนอน แวะดูของแถมให้ตื่นตาตื่นใจ อีกสักรอบ

AQ Aria Asoke

ขึ้นบันไดมาชั้นลอย ใครที่ตัวสูง อาจต้องก้มหัวลงหน่อย เพราะอาจชนเพดานได้ ที่นอนจะเป็นขนาด 5 ฟุต พร้อมหมอน ผ้าปู แบบไม่มีเตียง

AQ Aria Asoke

ปลายเตียงมีปลั๊กไฟ และที่เสียบสายอากาศโทรทัศน์

AQ Aria Asoke

ผนังฝั่งบันได ออกแบบให้สามารถวางกระเป๋าเดินทาง เก็บของอื่นๆ ได้

AQ Aria Asoke

แอร์เป็นแบบติดผนัง

AQ Aria Asoke

กระจกของยูนิตนี้ในส่วนของห้องนอนเป็นแบบบานกระทุ้ง และส่วนนั่งเล่นมีความสูงจรดเพดาน จึงทำให้ห้องดูโปร่ง สบาย

AQ Aria Asoke  AQ Aria Asoke

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
สืบเนื่องจากพื้นที่โดยรอบสี่แยกพระราม 9 ค่อนไปทางอโศก เป็นย่านที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอย่างมากในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการพัฒนาความเจริญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า MRT และ Airport Link จนทำให้บริเวณนี้มีความครบครันพอที่จะสามารถเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ส่งผลให้ราคาที่ดินในย่านนี้พุ่งทยานขึ้น ประกอบกับจำนวนคู่แข่งในการปล่อยเช่าค่อนข้างมาก โดยสามารถสรุปราคาลงทุนย่านถนนอโศก – ดินแดง และพระราม 9 ในยูนิต 1 ห้องนอน บนเนื้อที่ไม่เกิน 30 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 3.3 ล้านบาท หากปล่อยเช่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 13,000 – 15,000 บาท / เดือน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Rhythm Asoke I
คอนโดมิเนียม ของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน 86 ตาราวา เป็นอาคารสูง 37 ชั้น 385 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 21.5 – 41.5 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 158,000 บาท / ตร.ม. ddproperty.com

AQ Aria Asoke

ภาพ via apthai.com

Life Asoke
อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด บนที่ดิน 6 ไร่ 2 งาน 85 ตารางวา เป็นอาคารสูง 35 ชั้น 1,642 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1 – 2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 24 – 54 ตร.ม. ที่จอดรถ 41% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 125,000 – 145,000 บาท / ตร.ม.

AQ Aria Asoke

ภาพ via facebook.com/LifeAsokeCondo/

Condolette Midst
คอนโดมิเนียมของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บนที่ดิน 2 ไร่ 87 ตารางวา เป็นอาคารสูง 30 ชั้น 433 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1 – 3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 28 – 78.8 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 110,000 – 160,000 บาท / ตร.ม.

AQ Aria Asoke

ภาพ via condolette.pruksa.com

บทสรุป
โครงการนี้ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเป็นทำเลรอง แต่หากพิจารณาดีๆ พื้นที่ย่านนี้มีศักยภาพด้านคมนาคมค่อนข้างมาก เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้า MRT ทั้งสถานีพระราม 9 และ เพชรบุรี รวมถึงยังสะดวกต่อการใช้บริการแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีมักกะสัน ตอบโจทย์ในเรื่องการเดินทางสำหรับชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว ที่พักอาศัยในบริเวณนี้และต้องการไปสนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งยังรายล้อมด้วยทางด่วน และถนนที่สามารถทำให้ชีวิตการเดินทางง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยอภิมหาโปรเจคจากหลายโครงการ ซึ่งล่าสุดกลุ่มจีแลนด์ ทุ่มทุนสร้าง The Super Tower พร้อมห้างสรรพสินค้าบนพื้นที่แยกพระราม 9 ซึ่งทำให้ย่านนี้มีความครบครันสำหรับการอยู่อาศัยที่สะดวกสบายได้ไม่ยาก และความครบครันของทำเลนี่เองจึงสามารถดึงดูดนักลงทุนหลากหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะแถบ AEC เข้าสู่ประเทศไทย และเมื่อดีมานด์เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ราคาทั้งที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในทำเลมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน และที่อยู่อาศัยอันรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ โครงการนี้น่าจะตอบโจทย์ได้

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท (Whizdom Connect Sukhumvit)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/101751/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%258b%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a1-%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25ad www.ddproperty.com:news:101751 Thu, 16 Jul 2015 04:00:52 +0700

“ปิยรมย์ สปอร์ตคลับ” นับเป็นสปอร์ตคลับบนถนนสุขุมวิทตอนปลายที่มีชื่อเสียงมายาวนาน อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ตัดสินใจซื้อโครงการดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 43 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ภายใต้ชื่อ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” มูลค่าโครงการรวม 30,000 ล้านบาท

สำหรับโครงการ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 3 โครงการบนเนื้อที่ 17 ไร่ พื้นที่ 140,000 ตร.ม. อาคารสำนักงาน พื้นที่ 30,000 ตร.ม. คอมมูนิตี้มอลล์ 20,000 ตร.ม. และสปอร์ตคลับ 10,000 ตร.ม. เรียกว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันทั้งส่วนที่เป็นที่อยู่อาศัยและส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ต่างๆ

Whizdom Connect Sukhumvit sales office

Whizdom Connect Sukhumvit sales office

ในส่วนของคอนโดมิเนียมจะมีด้วยกัน 3 อาคาร โดยโครงการแรกที่เปิดขายโครงการแรกภายใต้ชื่อ “วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท” ความสูง 41 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 673 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท ส่วนอีก 2 อาคารจะทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง

Whizdom Connect Sukhumvit

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2558)
ชื่อโครงการ: วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท (Whizdom Connect Sukhumvit)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)
ทำเลที่ตั้ง: ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง (สุขุมวิท 101/1 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี)

Whizdom Connect Sukhumvit

รายละเอียดโครงการ
ที่ดินประมาณ 5-0-4 ไร่
อาคารความสูง 41 ชั้น 1 อาคาร
จำนวนห้องชุด 673 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต (20 ยูนิต/ชั้น)
ชั้น 1-4 ที่จอดรถ 299 คันคิดเป็น 44% รวมจอดซ้อนคันคิดเป็น 55%
ชั้นล็อบบี้: สวน ล็อบบี้ พร้อมสัญญาณ Wifi

Whizdom Connect Sukhumvit_lobby

Whizdom Connect Sukhumvit

ชั้นที่ 5: สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง, โซเชียล คอนเนคชั่น เล้านจ์, โซเชียล คอนเนคชั่น เทอเรซ, สระว่ายน้ำ (ขนาด 30×9 เมตร ทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่), ฟิตเนส, และที่พักอาศัย

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

ชั้นที่ 6-41 ที่พักอาศัย
ลิฟท์โดยสารจำนวน 4 ตัว
ลิฟท์บริการจำนวน 1 ตัว
ระบบคีย์การ์ด ล็อกชั้น
ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างประมาณเดือนตุลาคม 2558
กำหนดแล้วเสร็จ: มกราคม 2561
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ตร.ม./เดือน
ราคาเริ่มต้น: 3.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2558)
ราคาขายเฉลี่ย: 130,000-140,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2558)
สถานะการขาย: 60% ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน Type AC ซึ่งเป็นครัวปิด ขายดีสุด

รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 5 แบบ
1 ห้องนอน + 1 ห้องน้ำ [26.90-29.80 ตร.ม.]
Flexi room + 1 ห้องน้ำ [38.30-57.40 ตร.ม.]
Flexi room + 2 ห้องน้ำ [64.60 ตร.ม.]
2 ห้องนอน + 2 ห้องน้ำ [62.80-71.80 ตร.ม.]
3 ห้องนอน + 2 ห้องน้ำ [81.60 ตร.ม.]

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลปุณณวิถี (สุขุมวิท 101/1)
หลังจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่งเปิดให้บริการ ทำเลย่านปุณณวิถีถือว่ามีความโดดเด่นไม่แพ้อ่อนนุช แม้จะไกลกว่ากันเล็กน้อย แต่องค์ประกอบการในการอยู่อาศัยไม่ต่างกัน โดยเป็นทำเลที่ไกลฝั่งบางนา และสมุทรปราการ อีกทั้ง ยังเดินทางเข้าเมืองได้สะดวกมาก ทำให้ทำเลใกล้รถไฟฟ้าสถานีนี้ มีทั้งตลาดซื้ออยู่เอง และซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า

Punnawithi BTS station

เพราะการที่มีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการ เดินทางเข้าเมืองสะดวกไม่ต่างกัน แต่อัตราค่าเช่าถูกกว่าโครงการที่อยู่บริเวณสถานีใกล้เมือง ทำให้มีกลุ่มต่างชาติที่ทำงานในระดับปฏิบัติการในกรุงเทพฯ มานานจนมีความคุ้นเคยในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ เริ่มหันมาเลือกเช่าคอนโดมิเนียมบริเวณนี้มากขึ้น และการที่ MQDC เตรียมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน คอมมูนิตี้มอลล์ และสปอร์ตคลับจะยิ่งเพิ่มศักยภาพให้กับทำเลใกล้สถานีปุณณวิถี

วิเคราะห์ทำเลโครงการ
โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 101/1 ห่างจากรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาในการเดินจากตัวสถานี (ทางออก 5) ไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงตัวโครงการแล้ว โดยตัวโครงการอยู่ฝั่งเลขคี่ ฝั่งออกเมืองไปทางตะวันออกของกรุงเทพฯ บางนา สมุทรปราการ

Whizdom Connect Sukhumvit

แม้ว่าตัวโครงการอาจจะไม่ได้ติดกับตัวสถานีมากนัก แต่ก็สะดวกในการเดินทาง โดยในอนาคตจะมี Skywalk เชื่อมจากสถานีปุณณวิถีมาถึงตัวโครงการเลย หรือหากเป็นการเดินทางด้วยรถยนต์ก็สะดวก เพราะใกล้ทางด่วนบริเวณสุขุมวิท 62 หาทางกลับรถขึ้นทางด่วนได้ไม่ยาก หรือเมื่อลงจากทางด่วน ออกมาจากสุขุมวิท 62 เลี้ยวขวามาเล็กน้อย ก็ถึงตัวโครงการ แต่หากเป็นชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรจะค่อนข้างหนาแน่น

Piyarom Place

นอกจากนี้ ทำเลดังกล่าวยังอยู่ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ใกล้โรงพยาบาลและสถานศึกษา จึงเรียกได้ว่า มีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยครบ และอย่างที่กล่าวแล้วว่าการที่ MQDC จะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน จะยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับบริเวณนี้และตัวโครงการวิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท ด้วย

การเดินทาง
1. เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สะดวกมาก ลงสถานีปุณณวิถี ออกทางออกที่ 5 เดินตามทางรถวิ่งประมาณ 500 เมตรก็ถึงเลย (จะเห็นปิยรมย์เพลสอยู่ด้านหน้า) และในอนาคตจะสะดวกมากยิ่งขึ้นเมื่อมี Skywalk ที่เชื่อมจากสถานีปุณณวิถีมาถึงโครงการเลย
2. เดินทางด้วยรถยนต์ โครงการอยู่ติดริมถนนสุขุมวิท 101/1 ถ้ามาจากในเมือง ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสถานีปุณณวิถี ตรงมาอีกเล็กน้อย โครงการอยู่ซ้ายมือ หรือถ้ามาจากฝั่งบางนา ตรงมาจนเลยรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข ให้หาที่กลับรถมาทางฝั่งสุขุมวิท 101/1 หรือหากลงทางด่วนสุขุมวิท 62 เลี้ยวขวาเข้าถนนสุขุมวิท ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเจอโครงการ

สถานที่แนว Lifestyle ย่านปุณณวิถี

Whizdom101

1. วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน นอกจากจะมีอาคารสำนักงานแล้วยังมี คอมมูนิตี้มอลล์ และสปอร์ตคลับ ที่จะทำให้การอยู่อาศัยย่านนี้จะมีทั้งแหล่งกินดื่ม และออกกำลังกาย

2. คิสเคาน์สโตร์ เช่น เทสโก้ โลตัส อ่อนนุช, บิ๊กซี อ่อนนุช

The Emquartier
ภาพ via facebook.com/theemdistrict

3. กลุ่มโครงการ ดิ เอ็มดิสทริค ได้แก่ ดิ เอ็มโพเรี่ยม และดิ เอ็มควอเทียร์ ที่กำลังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ และในอนาคตจะมี ดิ เอ็มสเฟียร์เปิดให้บริการอีกหนึ่งแห่งในบริเวณใกล้เคียงกัน


Central bangna ภาพ via wikipedia.org

4. เซ็นทรัลบางนา ศูนย์การค้าแห่งนี้อยู่ห่างจากโครงการวิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท ประมาณ 4.9 กม. ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาทีเท่านั้น

Seacon Square Pattanakarn
ภาพ via facebook.com/SeaconSquareFanPage

5. ซีคอนสแควร์ ซอยสุขุมวิท 101/1 สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนศรีนครินทร์ได้ไม่ยาก ผู้อยู่อาศัยย่านนี้สามารถมาช้อปปิ้งที่ซีคอนสแควร์ได้สะดวก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีเท่านั้น

6. แบงค็อกมอลล์ เป็นอาณาจักรขนาดใหญ่บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ที่ประกอบด้วย ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงาน พื้นที่รวมกว่า 650,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บริเวณแยกบางนา (ตรงข้ามไบเทค บางนา) ของกลุ่มเดอะมอลล์ด้วยงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะบริการได้ในปี 2560 ซึ่งคนในแวดงอสังหาริมทรัพย์ต่างประเมินว่าแบงค็อกมอลล์ จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่พลิกโฉมสุขุมวิทตอนปลายให้เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลบวกถึงโครงการโดยรอบรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีด้วย


รีวิวภาพรวมโครงการ

โครงการนี้จะมีด้วยกัน 2 ทิศ คือ ทิศเหนือ และทิศใต้ ไม่มีส่วนที่ตรงกับฝั่งทิศตะวันตกและทิศตะวันออก โดยทิศเหนือของตัวอาคารจะเป็นวิวเมืองด้านในเมืองฝั่งสุขุมวิท ส่วนฝั่งทิศใต้ จะเป็นวิวฝั่งบางนา

รีวิวภายในห้องชุด
ประตู: Digital Door Lock
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted ห้องชุดครบชุด (ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า) ห้องน้ำครบชุด ห้องนอนมีบิลท์อินตู้เสื้อ
เพดาน: ความสูง 2.7 เมตร
เครื่องปรับอากาศ: ติดตั้งให้

บรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 1 ห้องนอน Type AB [29.30-29.80 ตร.ม.]

Whizdom Connect Sukhumvit

เริ่มด้วย :

• ประตู: ไม้ ระบบ Digital Door Lock และตัวจับแบบก้าน

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• พื้นที่อเนกประสงค์: ห้อง Type นี้มีพื้นที่ว่างเล็กๆ ไว้สำหรับวางตู้เก็บของหรือเก็บรองเท้า

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องครัว: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะเจอห้องครัว (อยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำ) โดยในส่วนของห้องครัวได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน (ตามภาพ) ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจานและก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (แต่ไม่ได้ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า)

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• มุมอเนกประสงค์: บริเวณติดกับห้องครัว และใกล้กับห้องนั่งเล่น ออกแบบให้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถทำเป็นที่นั่งรับประทานอาหารได้

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง วางระบบให้วางทีวี ติดระเบียง

Whizdom Connect Sukhumvit

• ระเบียง: ออกแบบให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้บริเวณนี้ และมีประตูแยกส่วนชัดเจน

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องน้ำ: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องน้ำ อยู่ตรงข้ามกับห้องครัวติดกับห้องนอน โดยห้องน้ำได้อุปกรณ์ครบชุด แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้งมีเคานเตอร์ล้างหน้า กระจก สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ และมุมอ่างล้างหน้า พื้นที่ส่วนเปียกมีที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องนอน: ห้องนี้จะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้ และออกแบบหน้าต่างบานกลางเป็นบานเคลียร์เพื่อชมวิว ส่วนตัวบานเปิดจะอยู่ด้านข้าง 2 ฝั่ง

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit


บรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 1 ห้องนอน Type AC [29.30-29.60 ตร.ม.] Type ที่ขายดีที่สุด เพราะเป็นครัวปิด

Whizdom Connect Sukhumvit

เริ่มด้วย :

• ประตู: ไม้ ระบบ Digital Door Lock และตัวจับแบบก้าน

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องนั่งเล่น: Type นี้ เปิดมาจะเจอห้องนั่งเล่น วางระบบให้วางทีวีจุดนี้ (ห้องจริง เป็นห้องโล่ง)

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องน้ำ: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องน้ำ อยู่ตรงข้ามกับห้องนั่งเล่น (ติดกับห้องนอน)โดยห้องน้ำได้อุปกรณ์ครบชุด แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้งมี เคานเตอร์ล้างหน้า กระจก สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ และมุมอ่างล้างหน้า พื้นที่ส่วนเปียกมีที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องครัว: Type นี้ ห้องครัวจะเป็นครัวปิด ติดกับระเบียง ได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครบชุด (ตามภาพ) ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจานและก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (แต่ไม่ได้ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า)

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ระเบียง: ออกแบบให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้บริเวณนี้ และมีประตูแยกส่วนชัดเจน

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องนอน: ห้องนี้จะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้ และออกแบบหน้าต่างบานกลางเป็นบานเคลียร์เพื่อชมวิว ส่วนตัวบานเปิดจะอยู่ด้านข้าง 2 ฝั่ง

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit


บรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 2 ห้องนอน Type BA [38.30-40.10 ตร.ม.]

Whizdom Connect Sukhumvit

เริ่มด้วย :

• ประตู: ไม้ ระบบ Digital Door Lock และตัวจับแบบก้าน

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• พื้นที่อเนกประสงค์: Type ห้องนี้มีพื้นที่อเนกประสงค์ค่อนข้างกว้าง คั่นกลางระหว่างห้องน้ำกับห้องครัว ซึ่งห้องตัวอย่างออกแบบไว้เป็นพื้นที่รับประทานอาหาร

Whizdom Connect Sukhumvit

 

• ห้องครัว: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามา เจอพื้นที่อเนกประสงค์ตรงกลาง จะเจอห้องครัวอยู่ด้านข้าง (ตรงข้ามกับห้องน้ำ) และติดกับห้องนอนเล็กหรือห้อง Flexi Room โดยในส่วนของห้องครัวได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครบชุด (ตามภาพ) ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจานและก๊อก เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (แต่ไม่ได้ตู้เย็นและเครื่องซักผ้า)

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องน้ำ: Type นี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามา เจอพื้นที่อเนกประสงค์ตรงกลาง จะเจอห้องน้ำอยู่ด้านข้าง (ตรงข้ามกับห้องครัว) โดยห้องน้ำได้อุปกรณ์ครบชุด แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้งมีเคานเตอร์ล้างหน้า กระจก สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ และมุมอ่างล้างหน้า พื้นที่ส่วนเปียกมีที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง วางระบบให้วางทีวีจุดนี้ ติดระเบียง

Whizdom Connect Sukhumvit

• ระเบียง: ออกแบบให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้บริเวณนี้ และมีประตูแยกส่วนชัดเจน

• ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom): จะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้ และออกแบบหน้าต่างบานกลางเป็นบานเคลียร์เพื่อชมวิว ส่วนตัวบานเปิดจะอยู่ด้านข้าง 2 ฝั่ง

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

• ห้องนอนเล็กหรือ Flexi Room: ห้องนี้เป็นห้องนอนที่ 2 หรือจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์ มีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้ โดยไฮไลท์คือ การออกแบบหน้าต่างบานกลางเป็นบานเคลียร์เพื่อชมวิว ส่วนตัวบานเปิดจะอยู่ด้านข้าง 2 ฝั่ง

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

Whizdom Connect Sukhumvit

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
อัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมย่านปุณณวิถี ห้องชุด 1 ห้องนอน
• พื้นที่ใช้สอย 23-30 ตร.ม. = 8,500-12,000 บาท/เดือน
• พื้นที่ใช้สอย 40-45 ตร.ม. = 18,000-20,000 บาท/เดือน
ต้นทุนโครงการวิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท หากเป็นห้องชุด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 26.90 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น: 3.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2558) มีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนประมาณ 4.3% ต่อปี (คิดจากอัตราค่าเช่า 12,000 บาท/เดือน)

เปรียบเทียบกับโครงการอื่นๆ
ในย่านนี้มีโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถีอยู่ค่อนข้างเยอะ โดยโครงการติดริมถนนจะเป็นอาคาร High Rise ราคาค่อนข้างสูง และโครงการในซอยของทั้ง 2 ฝั่ง จะเป็นอาคารแบบ Low Rise ราคาไม่แพงมาก
• Le Crique สุขุมวิท 64/2 (อาคาร Low Rise)
• Hue Condo สุขุมวิท (อาคาร Low Rise)
• S&S สุขุมวิท 101/1 (อาคาร High Rise)
• Mayfair Place สุขุมวิท 64 (อาคาร Low Rise)
• Elio สุขุมวิท 64 (เฟส 1) (อาคาร Low Rise)
• B Republic สุขุมวิท 101/1 (อาคาร Low Rise)
• The Link สุขุมวิท 64 (อาคาร Low Rise)
• Regent Ordchid สุขุมวิท 101 (อาคาร High Rise)
• Whizdom @ ปุณณวิถี Station (อาคาร Low Rise)
• Whizdom The Exclusive สุขุมวิท 64 (อาคาร Low Rise)
• Sari สุขุมวิท 64 (อาคาร Low Rise)
• The Room สุขุมวิท 62 (อาคาร High Rise)

บทสรุป
จุดเด่นของโครงการนี้ คือ ทำเลที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถีมาก เดินทางสะดวก อีกทั้ง ในอนาคตจะมีโครงการมิกซ์ยูสวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน จะยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการได้ในอนาคต

แต่ทำเลย่านนี้ก็มีซัพพลายในตลาดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ในซอย ทำให้ตลาดเช่ามีทางเลือกที่หลากหลาย และอัตราค่าเช่าจะขยับได้ไม่มาก ผู้ลงทุนอาจจะมองที่ Capital Gain เป็นหลัก

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: เดอะสกาย สุขุมวิท (The Sky Sukhumvit)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/101333/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a2-%25e0%25b8%25aa www.ddproperty.com:news:101333 Tue, 14 Jul 2015 23:00:58 +0700

หลังจากที่รีเทลยักษ์ใหญ่อย่างเดอะมอลล์กรุ๊ปประกาศแผนการพัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่บนเนื้อที่ขนาดกว่า 100 ไร่ บริเวณแยกบางนาทำให้ทำเลดังกล่าวได้รับการจับตามองอย่างจริงจังอีกครั้ง ไม่เพียงแค่จากบรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น ในฝั่งผู้ซื้อ-นักลงทุนก็หันมาให้ความสนใจในย่านดังกล่าวที่กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะยกระดับศักยภาพพื้นที่จากที่เป็นเพียงแยกขนาดใหญ่และเป็นชุมทางรถประจำทางที่จะออกมุ่งหน้าไปสู่ภาคตะวันออกไปสู่การเป็นทำเลที่อยู่อาศัย-แหล่งงาน-การค้าครบวงจรภายในระยะเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยหนึ่งในบรรดาผู้ประกอบการรายใหญ่ที่โดดร่วมวงการพลิกโฉมทำเลดังกล่าวก็คือ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่นำแลนด์แบงค์ขนาดกว่า 9 ไร่ติดกับศูนย์การค้าแบงค็อก มอลล์มาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ในชื่อ “เดอะ สกาย สุขุมวิท” (The Sky Sukhumvit) ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการใน The Sky Line Collection

The Sky Sukhumvit

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2558)
• ชื่อโครงการ: เดอะสกาย สุขุมวิท (The Sky Sukhumvit)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: สุขุมวิท 103/4 ถนนสุขุมวิท แขวง บางนา เขต บางนา กทม.

The Sky Sukhumvit

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: โดยรวม 9 ไร่ 3 งาน 66 ตารางวา
รูปแบบ: อาคารแบ่งออกเป็น ตึก A ความสูง 26 ชั้น และตึก B, C, D, E ความสูง 22 ชั้น รวมห้องชุดทั้งหมด 898 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติ ที่กำลังมองหาบ้านหลังที่ 2 ในเมืองไทย
สถานะก่อสร้าง: กำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 2558
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card ตั้งแต่ทางเข้าโครงการ, Digital Door Lock, Video Call (เฉพาะห้องสแตนดาร์ด) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 1 – 26 ในตึก A และ ชั้น 1- 22 ในตึก B, C, D, E
ส่วนกลาง: ตั้งอยู่บนชั้น 10 – 11 ของอาคารจอดรถP1 และชั้น 9 -10 ของอาคารจอดรถP2
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: แบ่งออกเป็น อาคารจอดรถP1 ความสูง 11 ชั้นและอาคารจอดรถP2 ความสูง 9 ชั้น สามารถจอดได้ 434 คัน (คิดเป็น 50 % ไม่รวมซ้อนคัน)
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 35 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.89 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 125,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully Fitted โดยแต่ละชั้นคละแบบห้องกัน แต่สำหรับห้องดูเพล็กซ์ (Duplex) จะอยู่บริเวณชั้น 19 ขึ้นไป ส่วน MOFF Design จะมีเพียง 5 ยูนิตต่อชั้น และอยู่ตึก D และ E เท่านั้น
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  22.66 – 35 ตารางเมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  45 – 51      ตารางเมตร
MOFF Design 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ    41 – 64      ตารางเมตร
Duplex                    43 – 85      ตารางเมตร

The Sky Sukhumvit

The Sky Sukhumvit

The Sky Sukhumvit

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

The Sky Sukhumvit

พื้นที่แยกบางนาซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ หากย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน บริเวณนี้เปรียบเสมือนประตูสู่ภาคตะวันออก ผู้คนแถวนั้นและจากพื้นที่โดยรอบ ต่างมุ่งหน้ามารอรถโดยสารประจำทาง ทั้งแบบหวานเย็น กรุงเทพฯ – บางปะกง หรือรถทัวร์ บขส ที่มีให้เลือกทั้งป.1 (แบบไม่แวะรับผู้โดยสารระหว่างทาง มุ่งหน้าจุดมุ่งหมายอย่างเดียว) และ ป.2 (จอดแวะรับผู้โดยสารระหว่างทาง ก่อนถึงจุดม่งหมาย) นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งคิวรถตู้ เพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสารเข้า – ออกเมือง เนื่องจากบริเวณนั้น ใกล้กับด่านทางด่วน แต่เมื่อเวลาผ่านไป โครงการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช – สมุทรปราการ) ได้ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เริ่มโชว์ศักยภาพออกมา จนเข้าตาบรรดาผู้ประกอบการและนักลงทุน สังเกตได้จากการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมทั้งแบบ Low Rise และ High Rise ที่ต่างผุดขึ้นกันเป็นดอกเห็ด ไม่แพ้กับอาคารออฟฟิศ แหล่งงาน และห้างสรรพสินค้า ซึ่งน่าจะช่วงปี 2559 โครงการไฮไลท์ของเดอะมอลล์กรุ๊ป อย่าง Bangkok Mall จะถือกำเนิดขึ้น โดยว่ากันว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าสยามพารากอนถึง 3 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคยยังมีแผนที่จะขยายเฟส 2 พร้อมเปิดอาคารสำนักงานภิรัชบุรี แอทไบเทค ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2559 ด้วยแผนการพัฒนาในพื้นที่ที่ยกตัวอย่างมาให้เห็นเพียงบางส่วนนี้ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะส่งผลให้ราคาที่ดินของย่านนี้จะพุ่งทะยานขึ้นไปพร้อมๆ กับราคาคอนโดมิเนียมในโซนดังกล่าวถึง 16 %

The Sky Sukhumvit

ทำเลที่ตั้งบริเวณสี่แยกบางนา ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของการคมนาคมที่สะดวกสบายต่อการเดินทาง โดยตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุข ซึ่งในอนาคตจะมี Sky walk เชื่อมมาถึงหน้าโครงการ ประมาณ 300 เมตร แต่ถ้าอยากขับรถ บริเวณนี้มีหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะใช้ถนนสุขุมวิทขาเข้าเมือง หรือ ขาออกสู่ถนนบางนา – ตราด ศรีนครินทร์ สมุทรปราการ และทางพิเศษบูรพาวิถี (ห่างจากโครงการประมาณ 800 เมตร) เพื่อมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก ได้อย่างง่ายดาย

– รถไฟฟ้า BTS
สายสีเขียวอ่อนนุช – สมุทรปราการ ตอบโจทย์เรื่องความสะดวก เพียงมุ่งหน้ามาลงสถานีบีทีเอสอุดมสุข แล้วเดินต่อมา ประมาณ 300 เมตรถึงโครงการ แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มี Sky walk เชื่อมมาถึง การเดินทางอาจจะค่อนข้างร้อนนิดนึง แต่ถ้าไม่อยากเดินร้อน สามารถเลือกนั่งรถเมล์มาป้ายเดียว หรือ ใช้บริการวินมอเตอร์ไซด์สนนราคา 20 บาท ถึงโครงการเลย

– รถยนต์ส่วนตัว
หากมาจากฝั่งสุขุมวิทขาออก ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสุขุมวิท 101, 101/1 พอถึงอุดมสุข หรือ สุขุมวิท 103 ให้เตรียมชิดซ้าย และสังเกตป้ายซอย 103 / 4 เป็นอันรู้กันว่าถึงเดอะสกาย สุขุมวิทแล้ว

ป้ายซอยสุขุมวิท 103 / 4 อยู่ด้านหน้าทางเข้าโครงการเดอะ สกาย สุขุมวิท

The Sky Sukhumvit

สภาพการจราจรถนนสุขุมวิทขาเข้า ช่วงตอนเย็น ค่อนข้างชะลอตัว

The Sky Sukhumvit

ในขณะที่ถนนสุขุมวิทขาออก ช่วงตอนเย็น ค่อนข้างคล่องตัว

The Sky Sukhumvit

สถานที่แนว Lifestyle
เมื่อความเจริญเริ่มเข้าสู่ย่านบางนา นอกจากจะมีรถไฟฟ้า เดินทางสะดวกสบายแล้ว เรื่องสถานที่แนวไลฟ์สไตล์เก๋ๆ ใหม่ๆ จึงมีให้เลือกเยอะ เรียกว่าจัดเป็น One Day Trip คงเที่ยวไม่ครบแน่นอน เพราะแค่ห้างในโซนถนนบางนา – ตราดก็มีให้เลือกแวะช้อปมากกว่า 5 ที่เข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล บางนา, บิ๊กซี, โลตัส, เมกาบางนา, Chic Republic และโครงการในอนาคตอย่างแบงค็อก มอลล์ ส่วนแหล่งแฮงค์เอาท์หรือสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว ซึ่งบรรดาคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น วัยทำงาน หรือกลุ่มครอบครัว สามารถจัดสรรวันว่าง แล้วไปเช็คอินปักหมุดกันได้เลย

“Bangkok Mall” (ห่างจากโครงการ 100 เมตร)

The Sky Sukhumvit

ศูนย์การค้าที่ถือเป็นไฮไลท์ของเดอะมอลล์กรุ๊ป โดยพื้นที่กว่า 100 ไร่ จะถูกแปรสภาพเป็น ศูนย์การค้า และสำนักงาน ขนาดใหญ่ ภายใต้แนวคิด City within the City โดยคาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2559 หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

Rock Domain (ห่างจากโครงการ 1.2 กม.)

The Sky Sukhumvit
ภาพ via rockdomaingym.com

สำหรับคนรักสุขภาพ ที่ชื่นชอบกีฬาแนวเอ๊กซ์ตรีม Rock Domain น่าจะเป็นสถานที่โปรดของคุณได้ไม่ยาก แหล่งปีนหน้าผาจำลองแห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณบางนา-ตราด กม. 6 ค่าเข้าเริ่มต้น 400 บาทสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ส่วนต่ำกว่า 18 ปี ค่าเข้าอยู่ที่ 300 บาท

เซ็นทรัล บางนา (ห่างจากโครงการ 2.9 กม.)

The Sky Sukhumvit
ภาพ via facebook.com/CentralPlazaBangna

ถนนบางนา-ตราด ในอดีตไม่ค่อยมีห้างสรรพสินค้าเท่าไหร่นัก นอกจากเซ็นทรัล บางนา ด้วยเหตุนี้จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมของคนในย่านนี้จนถึงปัจจุบัน ด้วยการบริการต่างๆ ครบครัน โดยกลุ่มเซ็นทรัลมีแผนที่จะรีโนเวทศูนย์การค้าแห่งนี้ครั้งใหญ่  เพื่อให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น

Harbin Ice Wonderland (ห่างจากโครงการ 3 กม.)

The Sky Sukhumvit
ภาพ via harbin-icewonderland.com

สัมผัสความหนาวเย็นของเมืองหิมะกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้รถไฟฟ้าอย่าง Harbin Ice Wonderland ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีแบริ่ง เมืองหิมะแห่งนี้จำลองบรรยากาศเมืองน้ำแข็ง ในอุณหภูมิ -15 รวมถึงบาร์แฮงค์เอ้าท์แบบติดขั้วลบ สนนราคาค่าเข้าชม เด็ก 250 บาท ผู้ใหญ่ 350 บาท และชาวต่างชาติ 550 บาท

Chic Republic (ห่างจากโครงการ 7 กม.)

The Sky Sukhumvit
ภาพ via chicrepublicthai.com

ภายหลังจากประสบความสำเร็จ ในการให้บริการโฮมแฟชั่นสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย บริเวณเรียบทางด่วนรามอินทรา จึงทำให้ Chic Republic พยายามหาโลเคชั่นที่มีลักษณะใกล้เคียงกับทำเลเดิม ที่เป็นแหล่งรวมของโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม และมาลงตัวที่ถนนบางนา-ตราด กม. 4 เพื่อเอาใจกลุ่มครอบครัว คนรุ่นใหม่ ที่มีใจรักในการแต่งบ้าน ในสไตล์เป็นตัวเอง

Mega Bangna (ห่างจากโครงการ 8 กม.)

The Sky Sukhumvit

ตั้งแต่เมกาบางนาเปิดให้บริการในย่านถนนบางนา-ตราด ก็สร้างความสนใจแก่เหล่านักช้อป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างมาก ด้วยความที่เป็นศูนย์การค้าแนวราบขนาดใหญ่ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำ ทั้งร้านค้า ร้านอาหารนานาชาติ แหล่งแฮงค์เอาท์ยามค่ำคืน รวมแล้วกว่า 400 ร้าน และที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งของ Ikea ศูนย์รวมของแต่งบ้านยักษ์ใหญ่จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่รวบรวมไอเท็มแต่งบ้านตั้งแต่ของเล็กๆ อย่างจานรองแก้ว ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ๆ อย่างตู้ โต๊ะ เตียง ในสนนราคาที่จับต้องได้

นอกจากจะรายล้อมด้วยสถานที่แนวไลฟ์สไตล์แล้ว โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลไทยนครินทร์ (ห่างจากโครงการ 3 กม.) โรงพยาบาลบางนา 1 (ห่างจากโครงการ 1 กม.), สถานศึกษา อาทิ โรงเรียนนานาชาติ Berkeley (ห่างจากโครงการ 1 กม.) โรงเรียนลาซาล (ห่างจากโครงการ 5 กม.) โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา (ห่างจากโครงการ 5.3 กม.) และ โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา (ห่างจากโครงการ 7.5 กม.) อีกด้วย

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการเดอะสกาย สุขุมวิท ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับศูนย์การค้าแบงค็อก มอลล์ (Bangkok Mall) และอยู่ห่างจากถนนใหญ่ (สุขุมวิท) 300 เมตร จึงทำให้ภาพรวมของโครงการมีทั้งข้อดี ในเรื่องการรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย แต่ในทางกลับกันอาจจะคึกคักไปนิด สำหรับคนที่ต้องการความเงียบสงบ และต้องเดินออกกำลังสักหน่อยเพื่อใช้บริการ Sky walk หน้าโครงการ

จากตัวโมเดล จะเห็นห้างแบงค็อก มอลล์ อยู่ด้านข้าง และ Sky walk หน้าโครงการ

The Sky Sukhumvit

พื้นที่โดยรอบทั้งหมดของโครงการ ไม่ว่าจะด้านหน้า ด้านข้าง หรือแม้แต่ด้านหลัง เป็นส่วนของห้าง Bangkok Mall

The Sky Sukhumvit

ตึก C ทิศตะวันออก ตั้งแต่ชั้น 1 – 6 อาจจะโดนห้าง Bangkok Mall บังวิวเล็กน้อย ระยะห่างจากตัวโครงการประมาณ 100 เมตร

The Sky Sukhumvit

ทางเข้าโครงการ เป็นถนนแบบสองเลน และมีป้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้านหน้า เพื่อให้ลูกบ้านแตะคีย์การ์ดเข้า-ออก โดยตลอดระยะเส้นทางจะมีการติดตั้งกล้อง CCTV

The Sky Sukhumvit

บริเวณกำแพงปูนสีขาวในรูป เป็นการกั้นพื้นที่ ซึ่งทางโครงการขายให้กับทางผู้ประกอบการ Bangkok Mall

The Sky Sukhumvit

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการเดอะ สกาย สุขุมวิท ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Elite Class เน้นตอบโจทย์ความสะดวกสบายครบครัน อาทิสระว่ายน้ำระบบเกลือ สระเด็ก จากุชชี่ รวมถึง Sky Fitness และ Sky Garden แหล่งธรรมชาติที่ถูกปลูกขึ้นในรูปแบบของ Pocket แทรกอยู่ในตัวตึกโครงการ

พื้นที่สีเขียวในรูปแบบ Pocket ที่แทรกอยู่ในตัวตึก ทุก 3 ชั้น

The Sky Sukhumvit

ภาพบรรยาการศจำลองพื้นที่ส่วนกลาง บนชั้น 9 – 10 อาคารจอดรถ P2 กว้าง 16 เมตร ยาว 20 เมตร

The Sky Sukhumvit

ภาพบรรยาการศจำลอง สระว่ายน้ำ สระเด็ก จากุชชี่ บนชั้น 10 ในอาคารจอดรถ P1 กว้าง 12 เมตร ยาว 20 เมตร และฟิตเนสทันสมัย ชั้น 11

The Sky Sukhumvit

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม. (ห้อง Standard และ MOFF Design) และแกรนิตโต้ (ส่วนครัวของห้อง Standard )
ความสูงพื้นจรดเพดาน: MOFF Design ห้องนั่งเล่นมีความสูง 4.55 เมตร ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ 2.4 เมตร ส่วนชั้นบน 2 เมตร และ สำหรับความสูงในห้อง Standard เฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 1.65 เมตร
ประตู: Digital Door Lock จาก Samsung หรือเทียบเท่า และ Video Call (เฉพาะห้อง Standard)
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Starmark
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Cotto หรือเทียบเท่า
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: Mitsubishi

บรรยากาศห้องตัวอย่าง MOFF Design 41ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

ทันทีที่เปิดประตูมา จะพบกับความโปร่ง โล่ง จากความสูงของเพดานบริเวณห้องนั่งเล่นถึง 4.55 เมตร ซึ่งทางโครงการได้ Built-in วอลเปเปอร์สีครีมให้ทั้งห้อง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่เห็นในรูปนั้น เป็นเพียงไอเดียตกแต่งให้กับผู้อยู่อาศัย

The Sky SukhumvitThe Sky Sukhumvit

มุมของห้องนั่งเล่น จะมีระเบียงออกไปสูดอากาศข้างนอกได้ และยังสามารถแบ่งโซนวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งได้

The Sky Sukhumvit

ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ ( Master Bedroom) ซึ่งค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงขนาดคิงไซส์ และตู้เสื้อผ้าขนาดพอเหมาะได้

The Sky Sukhumvit

นอกจากนี้ในส่วนของห้องน้ำยังสามารถเข้าได้ทั้งจากฝั่งของห้องนอนและครัว ซึ่งทางโครงการได้ติดตั้งสุขภัณฑ์จาก Cotto หรือเทียบเท่า ให้ทั้งหมดดังรูป

The Sky Sukhumvit The Sky Sukhumvit

อีกทั้งบริเวณประตูห้องน้ำ ตรงข้ามบันไดขึ้นชั้นลอย จะเป็นส่วนของมุมทำอาหาร ชุดเครื่องครัวทั้งหมดที่เห็นในรูปจาก Starmark

The Sky Sukhumvit The Sky Sukhumvit

โครงการได้ Built-in พื้นที่เก็บของจุกจิกใต้บันได ให้เป็นไอเดียกับผู้พักอาศัย

The Sky Sukhumvit

ประตูของห้องนอนเล็ก จะเป็นแบบบานเลื่อน

The Sky Sukhumvit

ในส่วนของชั้นลอย จะเป็นห้องนอนเล็ก สามารถวางที่นอนขนาด 5 ฟุตได้ โดยมีความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2 เมตร

The Sky Sukhumvit

พื้นที่ของห้องนอนเล็ก ค่อนข้างสะดวกต่อการใช้สอย และให้ความรู้สึกโปร่ง จากการติดตั้งกระจกบานเลื่อนโดยรอบ อีกทั้งยังสามารถวางโต๊ะทำงานขนาดพอเหมาะในห้องนี้ได้

The Sky Sukhumvit

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 45 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

สัดส่วนของ 2 ห้องนอน ค่อนข้างแบ่งพื้นที่มุมต่างๆ อย่างชัดเจน

The Sky Sukhumvit

เปิดประตูมา จะพบกับส่วนของมุมนั่งเล่น ซึ่งค่อนข้างกว้าง โดยสามารถวางโซฟา และโต๊ะกินข้าวสำหรับ 4 ที่นั่งได้

The Sky Sukhumvit

โต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งสามารถวางหน้าห้องครัวได้ตามรูป ที่ทางโครงการได้ออกแบบการตกแต่งให้เป็นไอเดีย

The Sky Sukhumvit

ในส่วนของห้องครัว จะมีประตูบานเลื่อนกั้นอย่างเป็นสัดส่วน โดยขนาดของชุดเครื่องครัวขึ้นอยู่กับจำนวนตารางเมตร แต่ละยูนิต

The Sky Sukhumvit

ในส่วนของห้องนอนเล็ก สามารถวางตู้เก็บของ และตู้เสื้อผ้าขนาดพอเหมาะได้ อย่างไม่อึดอัด

The Sky Sukhumvit

นอกจากนี้ในห้องนอนเล็ก ยังติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อน เพื่อช่วยในการถ่ายเทอากาศ

The Sky Sukhumvit

และถัดจากเตียง ยังติดตั้งกระจกให้สามารถมองเห็นมุมนั่งเล่นได้

The Sky Sukhumvit The Sky Sukhumvit

ห้องนอน Master มีพื้นที่กว้างพอสมควร สามารถวางเตียงคิงไซส์ โต๊ะเครื่องแป้งได้ดังรูป อีกทั้งทางโครงการยังไม่ลืมเพิ่มหน้าต่างให้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายของโครงการนี้

The Sky Sukhumvit

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 35 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

ยูนิต 1 ห้องนอน ยังคงคอนเซ็ปต์ เรื่องการแบ่งสัดส่วนต่างๆ อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย

The Sky Sukhumvit

ทุกยูนิตของโครงการนี้ จะติดตั้ง Digital Door Lock จาก Samsung หรือเทียบเท่า

The Sky Sukhumvit

และในส่วนของยูนิตสำหรับห้อง Master ทั้งหมด จะมี Video Call เพิ่มเข้ามา

The Sky Sukhumvit

พื้นที่ของยูนิตนี้ สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งได้ ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงขนาดความกว้างของห้อง

The Sky Sukhumvit

มุมนั่งเล่นในส่วนของยูนิตนี้ ไม่มีระเบียง แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ หน้าต่างโดยรอบไว้อยู่ เพื่อให้ห้องดู โปร่ง โล่ง สบาย

The Sky Sukhumvit

ถัดมาจากมุมนั่งเล่น จะเป็นห้องนอน ซึ่งสามารถนำเตียงขนาดใหญ่ โคมไฟ หรือ อุปกรณ์ตกแต่งอื่นๆ มาวางได้ตามใจชอบเลย

The Sky Sukhumvit

ปลายเตียง ค่อนข้างมีพื้นที่เหลือเยอะสามารถนำโต๊ะวางทีวี มาวางได้ รวมถึงตู้เสื้อผ้าเข้ามุมขนาดพอเหมาะด้วย

The Sky Sukhumvit The Sky Sukhumvit

ห้องน้ำของยูนิตนี้ยังคงเป็นสุขภัณฑ์จาก Cotto และทางโครงการได้แบ่งส่วนเปียก ส่วนแห้ง ให้

The Sky Sukhumvit

ห้องครัวจะมีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ แต่เป็นในแนวยาว สังเกตจากรูป จะสามารถวางเครื่องซักผ้า และตู้เย็นขนาดใหญ่ได้

The Sky Sukhumvit

พื้นที่ระเบียงบริเวณครัว ความยาวประมาณ 1.45 เมตร จะถูกกั้นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน

The Sky Sukhumvit

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 25 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

แม้พื้นที่ของยูนิตนี้ จะมีขนาดเพียง 25 ตารางเมตร แต่เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว กลับไม่รู้สึกแคบอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะการจัดวางและติดตั้งหน้าต่างบานเลื่อนโดยรอบ

The Sky Sukhumvit

ในส่วนของมุมนั่งเล่นมีพื้นที่ขนาดพอเหมาะกับการใช้สอย จากรูปจะเห็นว่า นอกจากจะสามารถวางโต๊ะวางทีวี ตู้ โซฟา ได้แล้ว ยังเพิ่มโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งได้อีกด้วย

The Sky Sukhumvit

จากรูปเป็นการใช้พื้นที่ให้มีประโยชน์ โดยการวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งของมุมห้อง แต่อาจจะทำให้รู้สึกอึกอัดไปนิด

The Sky Sukhumvit

ส่วนของมุมนั่งเล่น กับเตียงนอน ไม่มีประตูบานเลื่อนกั้น แต่สามารถวางที่นอนขนาดใหญ่ได้

The Sky Sukhumvit

หน้าต่างในยูนิตนี้ ยังคงเป็นแบบบานเลื่อนอยู่

The Sky Sukhumvit

บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดพอเหมาะ

The Sky Sukhumvit

ความพิเศษของห้องนี้มีจุดขายอยู่ที่การติดตั้ง Shower Box ซึ่งทำจาก Tempered Glass มีคุณสมบัติพิเศษคือความแข็งแกร่ง ทนทาน ต่ออุณหภูมิสูง – ต่ำ

The Sky SukhumvitThe Sky Sukhumvit

มุมของห้องครัว ยูนิตนี้ ยังคงเป็นแบบสัดส่วนอยู่ โดยมีประตูบานเลื่อนกั้น และระเบียงถ่ายเทอากาศ

The Sky Sukhumvit

ความยาวของระเบียงยูนิตนี้ อยู่ที่ 1.80 เมตร

The Sky Sukhumvit

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
– อัตราค่าเช่าห้อง เปรียบเทียบกับย่านบางนา อยู่ที่ 500 บาท/ ตารางเมตร / เดือน
– ขนาดห้อง 1 ห้องนอน อัตราค่าเช่าอยู่ที่ประมาณ 12,500 บาท / เดือน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Wisdom Connect Sukhumvit
หนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมในอาณาจักรวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน ของกลุ่ม MQDC โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนที่ดิน 5 ไร่ 4 ตารางวา เป็นอาคารสูง 41 ชั้น 673 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน และ Flexi Room พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 26.90 – 81.60 ตร.ม. ที่จอดรถ 55 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 120,000 บาท / ตร.ม.

The Sky Sukhumvit
ภาพ via mqdc.com

Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate
คอนโดมิเนียม ของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ 18 ตารางวา เป็นอาคารสูง 30 ชั้น 849 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต รูปแบบห้อง สตูดิโอ และ 1 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 21.5 – 31.5 ตร.ม. ที่จอดรถ 47 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 109,000 บาท / ตร.ม.

The Sky Sukhumvit
ภาพ via ananda.co.th

The Coast Bangkok
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท บีเคเค แกรนด์ เอสเตท จำกัด บนที่ดิน 8 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A 39 ชั้น 412 ยูนิต อาคาร B 35 ชั้น 408 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน และ Duplex พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 30 – 212.35ตร.ม. ที่จอดรถ 70 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 110,000 บาท / ตร.ม.

The Sky Sukhumvit
ภาพ via facebook.com/CoastBangkok

บทสรุป
จุดขายหลักของโครงการเดอะสกาย สุขุมวิท นอกจากจะชูจุดเด่นในเรื่องของทำเลที่ตั้งที่เดินทางสะดวกสบายแล้ว โดยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS อุดมสุข อีกทั้งยังสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท บางนา-ตราด ศรีนครินทร์ สมุทรปราการ หรือจะมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออก ก็สะดวกสบายเพราะใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี ยังเป็นคอนโดฯ เจ้าแรกในพื้นที่นี้ที่รายล้อมด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่จะมีส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าอีกด้วย (ยังไม่นับรวมการเปิดเฟส 2 ของศูนย์ประชุมไบเทค บางนาและตึกออฟฟิศ ภิรัชบุรี แอทไบเทค) นั่นหมายความว่าหากจะซื้อห้องชุดในโครงการนี้ไว้เพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้กับผู้ที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ก็มีดีมานด์รองรับ ส่วนการซื้อเพื่ออยู่อาศัยก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตค่อนข้างครบ

แต่สำหรับผู้ที่อยากอยู่อาศัยในโครงการที่มีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว หากเลือกที่จะอยู่โครงการนี้ อาจจะต้องเลือกชั้นที่สูงขึ้นไป (ชั้น 8 ขึ้นไป) เพราะนอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องความอึกทึกคึกคักแล้ว ยังได้ในเรื่องของวิวด้วย

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ไอดีโอ สุขุมวิท 115(Ideo Sukhumvit 115)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/100602/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b5%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%25ad-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2582 www.ddproperty.com:news:100602 Fri, 03 Jul 2015 20:05:29 +0700

เมื่อพูดถึงคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้า อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ถือเป็นผู้ประกอบการอันดับต้นๆ ที่มีโครงการกระจายอยู่ในรัศมีไม่เกิน 600 เมตร ซึ่งศักยภาพของเรื่องทำเลนี้ นับเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ไม่เพียงผู้ประกอบการเท่านั้นที่ให้ความสำคัญ เพราะในฝั่งของผู้ซื้อก็ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพและตอบโจทย์การใช้ชีวิตเช่นกัน หลังจากที่เปิดศักราช 2558 ด้วยโครงการคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า 2 แห่ง คือ แอชตัน เรสซิเดนท์ 41 ที่สามารถปิดการขาย 100% อย่างรวดเร็ว และโครงการ แอชตัน จุฬา-สีลม ที่มียอดขายกว่า 80% ล่าสุด อนันดาฯ ประเดิมครึ่งหลังของปี กับอีกหนึ่งโครงการคอนโด ฯ ไฮไรส์แห่งแรกในทำเลสุขุมวิท 115 กับโครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 15 (Ideo Sukhumvit 115) ติดกับ BTS ส่วนต่อขยายสายสีเขียวสถานีปู่เจ้าสมิงพราย โดยยังคงคอนเซ็ปต์ติดรถไฟฟ้า ขนาบข้างด้วยรีเทลและรายล้อมด้วยร้านสะดวกซื้อและความสะดวกสบายต่างๆ ดังเช่นที่เคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้ที่ไอดีโอ มิกซ์ สุขุมวิท 103

ideo sukhumvit 115

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2558)
ชื่อโครงการ: ไอดีโอ สุขุมวิท 115 (Ideo Sukhumvit 115)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ซอยสุขุมวิท 115 ถนนสุขุมวิท ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง สมุทรปราการ

ideo sukhumvit 115

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 4 ไร่ 1 งาน 48.1 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมความสูง 35 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 988 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ครอบครัว ที่ต้องการหลีกหนีชีวิตวุ่นวาย แต่ยังคงต้องการความสะดวกสบายอยู่
สถานะก่อสร้าง: กำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2561
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 7 – 35
ส่วนกลาง: ตั้งอยู่บริเวณ Lobby ด้านล่าง และชั้น 7
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 -6 (คิดเป็น 30 % รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: เปิด Pre-sale วันที่ 18-19 กรกฎาคม 2558
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 450 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 45 บาท/ ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: 1.79 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 70,000 บาท / ตร.ม.
รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully-furnished โดยแต่ละชั้นมี 35 ยูนิต คละแบบห้องกัน แต่สำหรับ 2 ห้องนอน จะอยู่บริเวณหัวและท้ายของอาคาร
สตูดิโอ 27.50 และ 29.50 ตร.ม.
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 34 ตร.ม.
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 62 ตร.ม.

Ideo sukhumvit 115

Ideo sukhumvit 115

Ideo sukhumvit 115

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลสมุทรปราการ

ideo  sukhumvit 115

ภาพ via mrta-greenline.net

ปัจจุบันย่านสมุทรปราการนั้น แตกต่างจากเมื่อก่อนมาก นับตั้งแต่มีรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท (สีเขียว) วิ่งผ่าน และมีโครงการส่วนต่อขยายแบริ่ง – สมุทรปราการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2561 จึงทำให้ย่านดังกล่าวได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น สังเกตได้จาก การผุดขึ้นของโครงการที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ ทั้งอพาร์ทเมนต์ ทาวน์เฮาส์ บ้าน คอนโดฯ รวมถึงแหล่งงานทั้งหลาย เริ่มมาปักหมุดใกล้กับ BTS สถานีต่างๆ นับตั้งแต่แบริ่งและขยายไปยังสถานีใหม่ๆ ที่กำลังจะก่อสร้างแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ อย่างสถานีสำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย เอราวัณ และสมุทรปราการ ซึ่งหากเปิดใช้บริการเมื่อไหร่ คนที่พักอาศัยอยู่ทางปากน้ำ บางปู บางพลี หรือมีภูมิลำเนาทางโซนภาคตะวันออกจะหลั่งไหลเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และเลือกที่พักอาศัยใกล้บีทีเอสเป็นหลัก ด้วยเหตุผลสะดวกต่อการเดินทาง และไม่ต้องเผชิญกับการจราจรที่ติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็นของถนนสุขุมวิท

ความน่าสนใจอีกประการของพื้นที่สมุทรปราการ คือ การเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นแหล่งรวมของโรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น อย่างค่ายโตโยต้า และฮอนด้า นั่นหมายถึงย่านนี้จะมีดีมานด์จากพนักงานจากโรงงานต่างๆ ในพื้นที่ ในขณะที่บรรดาสมาคมผู้ประกอบการในย่านนี้เริ่มออกนโยบายสนับสนุนให้พนักงานในองค์กรเลือกพักอาศัยใกล้ที่ทำงาน จึงทำให้อสังหาฯ ใกล้ BTS จึงกลายเป็นบทสรุปแรกของการเลือกที่อยู่อาศัยไปแล้ว

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ

ideo sukhumvit 115

ภาพ via audiochet.com

โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ถือว่ามีศักยภาพ เพราะติดกับถนนหลักอย่างสายสุขุมวิท ไม่ต้องเข้าซอยให้ยุ่งยาก แถมยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง อาทิ ปู่เจ้าสมิงพราย เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ ปากน้ำ บางปู หรือแม้กระทั่งจะเข้าเมือง ก็สะดวกสบายกว่าที่คิด เนื่องจากอยู่ใกล้วงแหวนพระราม 3 – ดาวคะนอง ซึ่งเส้นทางนี้จะมุ่งหน้าเข้าถนนพระราม 4 สุขสวัสดิ์ หรือจะออกไปเส้นสมุทรสาคร ก็ทำได้

ideo sukhumvit 115

ภาพ via thaidphoto.com

และเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับทางพิเศษสายพระราม 3 ดาวคะนองและวงแหวนอุตสากรรม ซึ่งจะข้ามสะพานภูมิพล หรือสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม อันเป็นที่รู้กันว่าทัศนียภาพบริเวณนี้สวย ดังนั้นหากใครเลือกอยู่ยูนิตชั้นบนๆ ของโครงการ ก็จะได้กำไรในเรื่องของวิว แต่สำหรับคนที่พลาด ไม่ต้องเสียใจไป เพราะจุดเด่นอีกประการของทำเลนี้คือ รายล้อมด้วยร้านสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่อย่าง บิ๊กซี จัมโบ้ ทำให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ และความต้องการในด้านความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

ideo sukhumvit 115

ภาพ via wikimapia.org/

การเดินทาง

รถยนต์

ideo sukhumvit 115

ทางเลือกที่ 1: ขับรถมาจากเส้นสุขุมวิท ให้มุ่งหน้ามาทางปากน้ำ โดยใช้ถนนสุขุมวิทเป็นหลัก ซึ่งจะผ่านสี่แยกบางนา ลาซาล แบริ่ง สำโรง สุดท้ายคือ ปู่เจ้าสมิงพราย เมื่อถึงจุดนี้ให้เตรียมชิดซ้าย และสังเกตป้ายบิ๊กซี จัมโบ้ บริเวณปากซอยสุขุมวิท 115 เพื่อเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าสำนักงานขายไอดีโอ สุขุมวิท 115 (ถนนสุขุมวิท ปกติการจราจรมักหนาแน่น ในช่วงเช้า และเย็น ส่วนกลางวันค่อนข้างคล่องตัว แต่จะไปติดบริเวณตลาดสำโรงอีกที เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน และมีห้างอิมพีเรียล)

ideo sukhumvit 115

ทางเลือกที่ 2: สำหรับคนที่เริ่มต้นเส้นทางจากศรีนครินทร์ ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่สมุทรปราการ เมื่อถึงศาลากลางจังหวัดให้เลี้ยวขวา ผ่านโรงเรียนนายเรือ ช้างสามเศียร พอถึงปั๊มปตท. ให้เตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถไปสำนักงานขายไอดีโอ สุขุมวิท 115 ซึ่งอยู่ข้างบิ๊กซี จัมโบ้

ideo sukhumvit 115

ทางเลือกที่ 3: เหมาะกับผู้ที่มาจากถนนสุขสวัสดิ์ หรือพระราม 4 โดยให้ใช้ทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก เสียค่าทางด่วน 20 บาท ถึงสำนักงานขายไอดีโอ สุขุมวิท 115 เลย

หมายเหตุ: ในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวจากอ่อนนุช – สมุทรปราการแล้วเสร็จ สถานี BTS ที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ได้แก่ สถานีปู่เจ้าสมิงพราย โดยอยู่ห่างประมาณ 300 เมตร

สถานที่แนว Lifestyle

Ideo Sukhumvit115

ภาพ via www.imperialplaza.co.th

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน สถานที่ฮิปๆ ย่านสำโรง คงหนีไม่พ้นอิมพีเรียล สำโรง แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุด ณ ขณะนั้น มีทั้งโรงภาพยนตร์ ร้านอาหาร แถมด้วยตลาดนัด ตลาดสดสำโรง ด้านหน้า เรียกว่าเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นสมุทรปราการเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไลฟ์สไตล์ของคนย่านนี้ผันแปรตามความเจริญของเมือง เมื่อเด็กหนุ่มสาว ต่างมุ่งหน้าออกไปสถานที่แหล่งความบันเทิงใจกลางเมือง เพราะสะดวกต่อการเดินทาง เมื่อมี BTS ส่วนต่อขยาย

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ เพียงนั่งรถไฟฟ้าไป 3 สถานีก็จะถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ของค่ายเดอะมอลล์ อย่าง Bangkok Mall ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมกันทั้ง BTS และโครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 ในปี 2561

ideo sukhumvit 115

ภาพ via ancientcitygroup.net

นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณอันศักดิ์สิทธิ ที่โดดเด่นสะดุดตาด้วยสถาปัตกรรมรูปช้างขนาดใหญ่ อีกทั้งยังรายล้อมด้วยสวนป่าหิมพานต์ชวนให้แวะเข้าเยี่ยมชม และหาความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เพียง 1 กิโลเมตรจากโครงการ

รีวิวภาพรวมโครงการ
อีกหนึ่งความโดดเด่นของโครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 คือการเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ตึกเดียวในย่านนี้ที่ถูกออกแบบให้เป็นเส้นสาย Energetic Line ที่แสดงออกถึงความเรียบง่าย ทันสมัย ในแบบฉบับของกลุ่มลูกค้าแบรนด์ไอดีโอ

– ทิศใต้ บริเวณด้านหน้าโครงการ ความพิเศษ คือ ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ชั้น 20 ขึ้นไปจะได้กำไรจากวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา

ideo sukhumvit 115

– ทิศเหนือ คือส่วนของด้านหลังโครงการ จะหันออกไปทางวิวเมืองย่านศรีนครินทร์

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ ไอดีโอ สุขุมวิท 115 ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมในแต่ละวัน ไม่อุดอู้อยู่แต่ในห้อง และให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน พร้อมรายล้อมด้วยความสะดวกสบาย

พื้นที่สวนสีเขียวภายในโครงการมีขนาดใหญ่ใน 2 จุดด้วยกัน คือบริเวณชั้นดาดฟ้า Sky Garden และบริเวณด้านหน้าโครงการ โดยเพิ่มจุดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายด้วยร้านสะดวกซื้อ ซึ่งคาดว่าจะเป็น Max Value

ideo sukhumvit 115

ideo sukhumvit 115

ภาพ via facebook.com

สิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณชั้น 7 ประกอบไปด้วย ห้องสมุด ฟิตเนส และสระว่ายน้ำ (ยื่นออกมา บนโพเดี่ยมของชั้นจอดรถ) ซึ่งถูกเชื่อมด้วยพื้นที่ Social Club เพื่อรองรับกิจกรรมพักผ่อนของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น

ideo sukhumvit 115

 

ideo sukhumvit 115

ภาพ via facebook.com

สะดวกสบายด้วยที่จอดรถ 6 ชั้น

ideo sukhumvit 115

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนต
ความสูงพื้นจรดเพดาน: ห้องนอน 2.6 เมตร ห้องน้ำ 2.4 เมตร และส่วนระเบียง 2.85 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความกว้างประมาณ 1.5 เมตร
ประตู: ติดตั้ง Digital Door Lock
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Mex หรือเทียบเท่า
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ : American Standard
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: Samsung หรือเทียบเท่า

บรรยากาศห้องตัวอย่าง สตูดิโอ 27.5 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished
ความลงตัวของการออกแบบห้องขนาดสตูดิโอ ที่สามารถแบ่งสัดสวนพื้นที่ใช้สอย ได้อย่างสะดวกสบาย

ideo sukhumvit 115

ภาพรวมของตัวห้องสตูดิโอ ที่ดูค่อนข้างโปร่ง ไม่อึดอัด

ideo sukhumvit 115

สิ่งแรกที่พบ เมื่อเปิดประตูห้องมา จะเจอส่วนของมุมนั่งเล่น โซฟาขนาดพอเหมาะอยู่ทางด้านซ้ายมือ

ideo sukhumvit 115

ในส่วนของมุมนั่งเล่น จะได้โซฟา แต่สำหรับโต๊ะวางของเป็นเพียงไอเดียในการตกแต่ง

ideo sukhumvit 115

นอกจากนี้มุมนั่งเล่น ยังมีส่วนของที่วางทีวี Built-in ให้ และโต๊ะกินข้าวแบบพับเก็บได้ขนาด 2 ที่นั่ง

ideo sukhumvit 115

ถัดมาจากที่วางทีวี จะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ให้ ตามขนาดของห้อง

ideo sukhumvit 115

ตรงข้ามตู้เสื้อผ้า จะเป็นเตียง Built-in ขนาด 5 ฟุต

ideo sukhumvit 115

พื้นที่บริเวณหัวเตียงเป็นไอเดียให้สามารถติดกระจก ทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือดีไซน์ผนังห้องให้กลายเป็นชั้นวางนิตยสารได้

ideo sukhumvit 115ideo sukhumvit 115

ส่วนของห้องน้ำ ทางโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์ American Standard ให้

ideo sukhumvit 115

และมีการติดตั้ง Bathroom Ventilation System ระบบถ่ายเทอากาศให้ด้วย

ideo sukhumvit 115

แม้ว่าจะเป็นห้องสตูดิโอ แต่ทางโครงการได้ดีไซน์ Functional Kitchen แบบครัวปิด ให้เพลิดเพลินกับการทำอาหาร แบบไม่ต้องกลัวกลิ่นเหม็น เพราะมีประตูบานเลื่อน สามารถเปิดระบายอากาศได้

ideo sukhumvit 115ideo sukhumvit 115

ในส่วนของเตา ทางโครงการ Built-in ให้ 2 หัว

ideo sukhumvit 115

มีซิงค์ล้างจานให้จากแบรนด์ Mex หรือเทียบเท่า

ideo sukhumvit 115

สตูดิโอจะได้เครื่องปรับอากาศจาก Samsung หรือเทียบเท่า 1 เครื่อง พร้อมมีระแนงบังคอมแพรสเซอร์แอร์ ให้ดูเรียบร้อย เมื่อมองจากด้านนอกตึก

ideo sukhumvit 115

ในส่วนของระเบียงจะได้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ โดยทางโครงการได้ติดตั้งปลั๊กเสียบไว้ให้

ideo sukhumvit 115

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 34 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

เปิดประตูมาจะเป็นส่วนของมุมนั่งเล่น

ideo sukhumvit 115

โดยทางโครงการจะให้โซฟา และ Built-in ที่เก็บของให้ ซึ่งมีหน้าตา ลักษณะคล้ายกับในรูป

ideo sukhumvit 115

จากที่เห็นในรูป ส่วนของที่แขวนทีวี จะเป็นผนังฉาบปูนเรียบ ซึ่งทางโครงการได้ Built-in ตู้เก็บของจิปาถะและรองเท้าให้

ideo sukhumvit 115

ข้างโซฟา มีโต๊ะกินข้าวแบบพับได้ ในขนาด 2 ที่นั่ง

ideo sukhumvit 115

ในส่วนของครัวปิด มีหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง เพื่อถ่ายเทอากาศเวลาทำอาหาร

ideo sukhumvit 115

มุมทำอาหาร ทางโครงการได้ Built-in เครื่องครัวจาก Meg หรือเทียบเท่า

ideo sukhumvit 115

ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ได้ตามขนาดห้อง

ideo sukhumvit 115

เตียงในห้องนอนที่ได้ จะเป็นขนาด 5 ฟุต

ideo sukhumvit 115

ในห้องนอนสามารถแขวนทีวีที่ผนังได้

ideo sukhumvit 115

ข้างหัวเตียงมีพื้นที่ว่าง เป็นไอเดีย สามารถวางโต๊ะทำงานได้ และสามารถออกไปพักสายตาตรงระเบียงได้

ideo sukhumvit 115

ไอเดียในการดีไซน์ผนังห้อง เป็นชั้นวางหนังสือ

ideo sukhumvit 115

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 62 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Furnished

ด้วยตำแหน่งของยูนิต 2 ห้องนอน ที่อยู่ส่วนของมุมตึกในทิศเหนือและใต้ จึงทำให้มีพื้นที่ส่วนของมุมนั่งเล่นเพิ่มขึ้น

ideo sukhumvit 115

ห้องนอนถูกแบ่งออกเป็นซ้าย-ขวา

ideo sukhumvit 115

ห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ โดยทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ตามขนาดห้อง ส่วนที่เก็บของบริเวณทีวีนั้น เป็นเพียงไอเดียในการตกแต่ง

ideo sukhumvit 115

นอกจากนี้ภายในห้องนอนเล็ก ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้

ideo sukhumvit 115

ถัดมาเป็นห้องนอนมาสเตอร์ ทางโครงการได้ Built-in เตียงขนาด 6 ฟุตให้

ideo sukhumvit 115

ตู้เสื้อผ้าได้ตามขนาดห้อง และมีหน้าต่างบานกระทุ้ง บริเวณด้านข้างของห้องนอน

ideo sukhumvit 115ideo sukhumvit 115

ปลายเตียงสามารแขวนทีวี หรือทำเป็นที่เก็บของได้

ideo sukhumvit 115

ระเบียงของยูนิตนี้ค่อนข้างกว้างมากทีเดียว โดยสามารถวางโต๊ะและเก้าอี้ขนาดใหญ่ได้

ideo sukhumvit 115

ครัวของยูนิตนี้ยังยึดคอนเซปต์แบบ Functional Kitchen อยู่

ideo sukhumvit 115

ห้องครัวมีหน้าต่างบานกระทุ้งถ่ายเทอากาศให้ 2 บาน

ideo sukhumvit 115

 

ideo sukhumvit 115

ทางโครงการ Built-in เครื่องครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันให้จาก Mex หรือเทียบเท่า ตามขนาดของห้อง

ideo sukhumvit 115

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
โครงการในย่านแบริ่ง – สมุทรปราการส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมกับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ดังนั้นราคาขายต่อยูนิตจึงไม่สูงมากนัก โดยอยู่ที่ประมาณ ล้านต้นๆ สำหรับขนาดห้อง 30 ตารางเมตร และหากปล่อยเช่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 8,000 บาท/ เดือน สำหรับห้องสตูดิโอ

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
เนื่องจาก ณ เวลานี้ โครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์เพียงโครงการเดียวในย่านสถานีปู่เจ้าสมิงพราย โครงการที่จะนำมาเปรียบเทียบจึงเป็นโครงการที่เปิดขายในระดับราคาและทำเลใกล้เคียงกัน

Pause Sukhumvit 115
คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 1 งาน 83 ตารางวา เป็นอาคาร 8 ชั้น 310 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 20.8 – 35.6 ตร.ม. ที่จอดรถ 30 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 69,500 บาท / ตร.ม. หรือ 1.39 ล้านบาท

Ideo sukhumvit 115

ภาพ via facebook.com

Excellence Sukhumvit
คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ของบริษัท ทรอปิคอล เฮอร์ริเทจ จำกัด บนที่ดิน 5 ไร่ 3 งาน 89.2 ตารางวา เป็นอาคาร 12 ชั้น 572 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 35 – 50 ตร.ม. ที่จอดรถ 30 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 58,000 – 62,000 บาท / ตร.ม. หรือ 2 ล้านบาท

ideo sukhumvit 115

ภาพ via condoexcellence.com

บทสรุป
จุดขายหลักของโครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 นอกจากจะเป็นเรื่องศักยภาพของทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับ BTS สถานีปู่เจ้าสมิงพรายแล้ว ยังสามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ทั้งเส้นศรีนครินทร์ ทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง–วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก อีกทั้งการเป็นคอนโดฯ ตึกสูงเจ้าแรกในพื้นที่ ความได้เปรียบอีกหนึ่งอย่างของโครงการนี้ก็คือกำไรในเรื่องของทัศนียภาพทั้งวิวแม่น้ำและวิวเมือง ขณะเดียวกันการมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งส่วนกลาง ร้านค้า และใกล้ซุปเปอร์มารเก็ต ถือเป็นการตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ลงตัว สำหรับผู้ที่สนใจซื้อเพื่อการลงทุน แน่นอนว่า โครงการที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า แม้จะเป็นสายที่ยังไม่เปิดให้บริการในปัจจุบัน แต่ก็นับเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เนื่องจากมูลค่าของคอนโดฯ มีแต่จะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรถไฟฟ้าเปิดให้บริการจริงๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ย่านนี้ยังเป็นย่างที่มีดีมานด์รออยู่แน่นอนด้วยความที่อยู่ใกล้กับโซนนิคมอุตสาหกรรม แหล่งงาน ดังนั้นโอกาสในการหาผู้เช่าจึงไม่ใช่เรื่องยาก

พบกับ4 โครงการพร้อมอยู่ 5 โครงการคุณภาพจากอนันดาฯ และ IDEO S115 ที่ งาน Think of Living Gallery 2015 มหกรรมคอนโดใจกลางเมือง วันนี้- 5 กรกฎาคม 2558 ชั้น M, The EmQuartier สถานี BTS พร้อมพงษ์ พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/ideocondo หรือ www.ananda.co.th/amc

รีวิวโครงการอื่นๆจาก อนันดา

รีวิวโครงการ ไอดีโอ โมบิ พญาไท
รีวิวโครงการ ไอดีโอ โอทู

รีวิวโครงการ ไอดีโอ โมบิ พญาไท

รีวิวโครงการ ไอดีโอ โอทู

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี (Noble BE33)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/100290/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a5-%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b5-%25e0%25b9%2580 www.ddproperty.com:news:100290 Wed, 01 Jul 2015 22:00:21 +0700

หลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จกับโครงการในทำเลใจกลางสุขุมวิทมาแล้ว กับโนเบิล รีโคล สุขุมวิท 19 ที่สามารถปิดการขายได้ภายใน 2 ชั่วโมง ในปีนี้ โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์กลับมาอีกครั้ง กับโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรกของปี 2558 อย่าง “Noble BE33” (โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี) โดยขยับเข้ามาทำเลตอนกลางของสุขุมวิทมากยิ่งขึ้น

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2558)
ชื่อโครงการ: Noble BE33
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ถ.สุขุมวิท 33 (เพียง 320 เมตร จาก Sky Walk และ BTS พร้อมพงษ์)

Noble Be 33

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: ประมาณ 2-0-5.91 ไร่
รูปแบบ: อาคารความสูง 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนพื้นทื่ความเป็นส่วนตัว 277 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน รวมถึงชาวต่างชาติ
สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้าง ปี 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จ ปี 2562
ระบบความปลอดภัย: กล้อง CCTV รอบโครงการ เทคโนโลยี Key Card Access และประตู Electric Door Lock ทุกห้อง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มต้นชั้น 2 ส่วนชั้น 30-31 เป็นห้องแบบเพนท์เฮ้าส์ 2 ยูนิต
ส่วนกลาง: แบ่งออกเป็น ชั้น G Semi-Outdoor Lobby ล้อมรอบด้วยกระจกเงาสะท้อนความร่มรื่นของสวนธรรมชาติขนาด 1,000 ตารางเมตร และชั้น 29 ส่วนของห้องประชุม ห้องสตีมแยกชาย-หญิง Sky Garden Sky Fitness และสระว่ายน้ำ Sky Infinity Edge Pool ความยาวกว่า 25 เมตร
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น B1-B5 และบริเวณชั้น G บางส่วน (คิดเป็น 67 % หรือ 187 คัน) แบบไม่ Fix คัน
สถานะการขาย: ประมาณ 60% (ข้อมูล ณ วันที่ 21 มิ.ย. 58)
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 700 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 70 บาท/ ตร.ม./เดือน
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 7 ล้านบาท/ ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 230,000 บาท/ ตร.ม.

Noble Be 33

รูปแบบห้องพัก: ตกแต่งแบบ Fully Fitted โดยแต่ละชั้นคละแบบห้องกัน แต่สำหรับเพนท์เฮ้าส์ จะมีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น และอยู่บริเวณชั้น 30 – 31
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ    ประมาณ 34 – 43    ตารางเมตร
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ    ประมาณ 51 – 69    ตารางเมตร
3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ    ประมาณ 76            ตารางเมตร
เพนท์เฮ้าส์                   ประมาณ 109 – 139 ตารางเมตร

Noble Be 33

Noble Be 33

Noble Be 33

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

Noble Be 33

ที่ตั้งของโครงการ Noble BE33 อยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ห่างจากสกายวอล์ค (ที่จะมีการก่อสร้างจากสถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์ในอนาคต) 320 เมตร จากปากซอยสามารถเดินได้ หากไม่รีบนัก หรือจะเลือกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ตรงปากซอยก็ได้ แม้การจราจรบนถนนสุขุมวิทเส้นหลักจะค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่ซอยสุขุมวิท 33 ก็มีทางลัดมุ่งหน้าสู่อโศก ในทิศตะวันตก เอกมัย-ทิศตะวันออก และทิศเหนือ-เพชรบุรี โดยย่านนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนกรุงและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น เพราะอยู่ใกล้กับ Japanese Town ซึ่งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 33/1

Noble Be 33

อีกทั้งย่านนี้ยังอยู่ไม่ไกลจาก ดิ เอ็ม ดิสทริค ของเดอะมอลล์กรุ๊ปที่เพิ่งเปิด ดิ เอ็มควอเทียร์ หรือเอ็มโพเรียม 2 และกำลังเดินหน้าสร้างศูนย์การค้าอีกแห่งบริเวณตรงข้ามซอยสุขุมวิท 33 ในชื่อ ดิเอ็มสเฟียร์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการไม่เกินปี 2560 นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากศูนย์การค้าอื่นๆ อย่างเทอร์มินอล 21 หรือ K Village และหากพูดถึงพร้อมพงษ์ หลายคนนอกจากจะนึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่นแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ โรงเรียน หรือแม้แต่พื้นที่สีเขียวใจกลางเมืองอย่างสวนสาธารณะเบญจสิริ
– สวนเบญจสิริ (ห่างจากโครงการ 400 เมตร)
– มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ห่างจากโครงการ 1 กม.)
– โรงพยาบาลสมิติเวช (ห่างจากโครงการ 1.5 กม.)
– K Village (ห่างจากโครงการ 2 กม.)

การเดินทาง

Noble Be 33

สำหรับคนที่ชอบเดินทางโดยการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการนี้มากที่สุดคือสถานีพร้อมพงษ์ ซึ่งในอนาคตจะมีการสร้าง Skywalk ต่อมาจนถึงหน้าปากซอย สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ ถึงแม้ซอยสุขุมวิท 33 จะเป็นทางลัดไปยังซอยอื่นๆ ได้ แต่อาจจะต้องทำใจกับการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนกันสักนิด เพราะจะค่อนข้างหนาแน่นอยู่ไม่น้อย

Noble Be 33

Noble Be 33

– ทางเลือก 1: สะดวกกับเดินทางด้วย BTS มุ่งหน้าสู่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดิน Sky Walk มายังทางออกประตูทื่ 5 พร้อมสังเกตตึก UBC บริเวณปากซอยสุขุมวิท 33 เข้าซอยมาประมาณ 100 เมตร จะพบสำนักงานขาย Noble BE 33 ที่อยู่ด้านซ้ายมือ ติดกับอพาร์ทเมนต์มาเป็งเส็ง 6 ชั้น
– ทางเลือก 2: จากซอยทองหล่อ ขับรถมุ่งหน้าเข้าซอยทองหล่อ 13 ตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง สังเกตเห็น 3 แยกให้เลี้ยวขวาหน้าโรงพยาบาลสมิติเวช จากนั้นยังคงตรงไปตามทางถึงสี่แยกแรกเลี้ยวซ้าย ขับตรงขึ้นไปจะพบปั๊มบางจากอยู่ขวามือให้เลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายอีกที เพื่อเข้าซอยพร้อมจิต จากนั้นสังเกตเห็นป้ายร้านนวด Rakuten เตรียมชิดซ้ายเข้าท้ายซอยสุขุมวิท 33 มุ่งหน้าต่อไปจะเจอโครงการ Noble BE 33 ด้านขวามือ
– ทางเลือก 3: เหมาะกับการขับรถหรือนั่งแท๊กซี่ ที่มุ่งหน้ามาจากถนนเพชรบุรี สังเกตเห็นซอยเพชรบุรี 38/1 หรือตึกอิตัลไทย (Ital Thai Tower) บริเวณหัวมุมให้เลี้ยวเข้าซอย เจอสามแยก เลี้ยวซ้ายและเลี้ยวขวาตามทางบังคับ หลังจากนั้นให้พยายามชิดเลนขวา เพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยพร้อมจิตตรงสามแยก และสังเกตป้ายร้าน Rakuten ทื่อยู่ด้านซ้ายมือ เตรียมตัวเลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท 33 ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอโครงการ Noble BE 33 อยู่ด้านขวามือ

สถานที่แนว Lifestyle ย่านพร้อมพงษ์
Weekday Surprise
เปลี่ยนความจำเจ น่าเบื่อ ของวันธรรมดา กับกิจกรรมฟิตยามเช้า ณ สวนสาธารณะเบญจสิริ หน้าบ้าน Noble BE 33 เพียงแค่ใช้บริการ Sky Walk เดินข้ามไป ก็สามารถ Jogging เรียกพลังพร้อมสูดอากาศบริสุทธ์ได้แล้ว แต่หากอยากได้คำแนะนำการออกกำลังกายจากเทรนเนอร์ชื่อดัง ที่ตั้งของโครงการนี้ ต่างรายล้อมด้วย ฟิตเนส มีชื่อเสียง อย่าง The Lab (ตึก RSU สุขุมวิท 31), Virgin Active (ดิ เอ็มควอเทียร์) และ Energy Fitness Studio (Nuam Complex สุขุมวิท 33) เป็นต้น พร้อมเติมพลังก่อนไปทำงานด้วยกาแฟหอมๆ ยามเช้า ซึ่งอยู่ในซอยเดียวกัน เริ่มต้นด้วยร้าน Jaiyen Coffee (ใจเย็นกาแฟ) อยู่สุดซอยสุขุมวิท 33 หรือจะเดินออกมายัง Japanese Town สุขุมวิท 33/1 ระหว่างทางจะพบร้านไล-บรา-ลี่ ที่เป็นลักษณะ Conner แต่ถ้าไม่จุใจ ลองเดินเข้าไปในซอยจะมีร้าน Ceresia Coffee Roasters ตรงข้าม UFM Fuji Super คอยให้บริการเสิร์ฟกาแฟสัญชาติบราซิลอยู่

Noble Be 33

ภาพ via pixpros.net

The Best Weekend
เมื่อมีโอกาสได้หยุดพักผ่อน ช่วงวันสุดสัปดาห์สักที แต่ไม่อยากไปไกล ลองหากิจกรรมบริเวณโดยรอบ โครงการ เริ่มตั้งแต่อาณาจักร ดิ เอ็ม ดิสทริค ทั้งดิ เอ็มโพเรียม และดิ เอ็มควอเทียร์ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม รวมถึงโรงภาพยนตร์ชั้นนำ M Quartier Cine Art ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็วๆ นี้ แต่หากรู้สึกเบื่อกับการเดินห้าง ลองหันมาไปเที่ยวญี่ปุนแบบเช้าไป เย็นกลับ ตีตั๋วเที่ยวเดียว ณ ซอยสุขุมวิท 33/1 Japanese Town ที่เต็มไปด้วยความเป็นญี่ปุ่น ทั้งร้านอาหารนิชิมูระ รังสรรค์วัตถุดิบจากต้นตำรับ ร้านหนังสือ Keys Book Japanese Use Book ร้าน NEO จำหน่ายอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน สงวนราคา 60 บาทขึ้นไป หรือจะมาช้อป UFM Fuji Super แต่ถ้ายังรู้สึกว่ามีเวลาเหลือ ก็สามารถเข้าไปเรียนภาษาญี่ปุ่น หาความรู้เพิ่มเติมได้

Noble Be 33

ภาพ via theemdistrict.com

Noble Be 33

ภาพ via painaidii.com

รีวิวภาพรวมโครงการ
โครงการนี้อยู่ในทำเลที่รายล้อมไปด้วยความสะดวกสบายในสไตล์การใช้ชีวิตในเมือง แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่ทิ้งองค์ประกอบของความเป็นธรรมชาติด้วยการปันพื้นที่สีเขียวภายในโครงการรวม 1,000 ตารางเมตร ส่วนการออกแบบตัวอาคารก็เน้นให้สามารถรับชมวิวเมือง
– ทิศตะวันตก มุมมองวิวทิวทัศน์ของถนนอโศก
– ทิศตะวันออก วิวไลฟ์สไตล์ของย่านทองหล่อ ในฝั่งนี้ ใครที่กังวลว่าจะโดนอาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการบังวิว ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะระหว่างถนนจนถึงตัวอาคารห่างถึง 50 เมตร และแม้จะอยู่ชั้นล่างๆ อย่างชั้น 2 – 7 แต่สามารถสัมผัสธรรมชาติจากวิวสวนจากด้านล่างได้อยู่
– ทิศเหนือและใต้ มุมระเบียงเล็กของห้อง อาจติดขัดด้วยวิวตึก Beverly 33
บริเวณที่ตั้งของโครการ ด้านหน้ามีอาคารพาณิชย์อยู่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างติดกับตึก Beverly 33

Noble Be 33

บริเวณที่ตั้งของโครการ ด้านหน้ามีอาคารพาณิชย์อยู่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างติดกับตึก Beverly 33

Noble Be 33

ทิศตะวันออกของตัวโครงการ ในชั้น 30-31 ถูกออกแบบไว้สำหรับเพนท์เฮ้าส์ 2 ยูนิต สามารถรับชมวิวย่านสุขุมวิท ทางฝั่งทองหล่อได้

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

บรรยากาศโดยรอบของโครงการ ต่างรายล้อมด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ กว่า 1,000 ตารางเมตร

Noble Be 33

ชั้น G – Reflective Lobby ทางโครงการติดตั้งกระจก เงา เพื่อสะท้อนพื้นที่สีเขียวจากด้านนอก

Noble Be 33

ชั้น G – Semi-Outdoor Lobby ความสูงประมาณ 4.50 เมตร ถูกดีไซน์ให้ยื่นออกไปในสวน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึก เหมือนมีสวนหน้าบ้านเป็นของตัวเอง

Noble Be 33

ชั้น 29 – Sky Infinity Edge Pool ยาว 25 เมตร และสามารถชมวิวได้ถึง 180 องศา

Noble Be 33

ชั้น 29 – Sky Fitness ที่ชูไฮไลท์วิวเมือง

Noble Be 33

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 10 มม. กว้าง 24 เซนติเมตร นำเข้าจากประเทศเยอรมัน ซึ่งมีความทนทาน ผิวสัมผัสหน้าไม้เหมือนจริง
พื้นจรดเพดาน: สูง 2.75 เมตร ส่วนกระจกระเบียงมีความสูง 2.95 เมตร
ระเบียง : เริ่มต้นความกว้างประมาณ 55 เซนติเมตร
ประตู : Electric Door Lock
ชุดครัว : Built-in ชุดเครื่องครัวจาก Starmark พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน ตู้เย็น และไมโครเวฟ จาก Smeg
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ : TOTO
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: ระบบซ่อนฝ้า

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 1 Bathroom 43.72 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Noble Be 33

ประตูไม้ และตัวจับแบบก้าน พร้อมเทคโนโลยี Electric Door Lock ที่ใช้ Key Card Access ในการเปิด – ปิด

Noble Be 33

เมื่อเปิดประตูมา จะพบกับมุมของห้องครัว สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 4 ที่นั่ง

Noble Be 33

โต๊ะกินข้าว วอลเปเปอร์ และของตกแต่งทั้งหมด เป็นเพียงไอเดียในการตกแต่ง

Noble Be 33

ในมุมทำอาหาร ทางโครงการ Built-in ให้ทั้งหมด แม้กระทั่งตู้เย็น ยกเว้นเครื่องซักผ้า และของตกแต่ง

Noble Be 33

โปรดสังเกตสติ๊กเกอร์วงกลมสีน้ำเงิน หากติดตรงไหน แสดงว่าทางโครงการได้ Built-in ให้ เหมือนอย่างซิ้งค์ล้างจานจาก Smeg ที่เห็นในรูป

Noble Be 33

เตา 2 หัว จาก Smeg ที่เห็นในรูป ก็ได้ด้วยเช่นกัน

Noble Be 33

สิ่งที่ให้รวมไปถึงที่ใส่ช้อน ส้อม ของจิปาถะ

Noble Be 33

ถัดจากมุมครัว จะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น มีระเบียงด้านหน้า เริ่มต้นความกว้างที่ 55 เซนติเมตร แล้วแต่ขนาดห้อง โดยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งที่เห็นในรูปเป็นเพียงไอเดียในการตกแต่งให้ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น

Noble Be 33

ส่วนของห้องนอน ค่อนข้างกว้าง มีระเบียงด้านหน้า และสามารถวางเตียงขนาด คิงไซส์ และเก้าอี้ตัวใหญ่ได้

Noble Be 33

นอกจากห้องนอนจะมีระเบียงอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านข้างยังมีระเบียงเล็กๆ ไว้ให้ออกมาสูดอากาศ แถมส่วนของกระจกยังมีความสูงถึง 2.95 เมตร จึงทำให้ห้องดูโปร่ง

Noble Be 33 Noble Be 33

ตู้เสื้อผ้า Built-in ให้ เป็นกระจกใส ตามขนาดห้อง

Noble Be 33

ส่วนของห้องน้ำ บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินอ่อน

Noble Be 33

ชักโครกเป็นแบบระบบไฟฟ้า พร้อมติดตั้ง Rain Shower ระบบน้ำร้อน น้ำเย็น และปลั๊กไฟแบบมีฝาครอบ ให้ทุกห้อง

Noble Be 33 Noble Be 33

อ่างอาบน้ำในห้องน้ำใหญ่

Noble Be 33

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 3 Bedroom 3 Bathroom 76.82 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

Noble Be 33

เปิดประตูมา จะเป็นทางเดิน ซึ่งทางโครงการได้ออกแบบ Built-in ตู้เก็บของให้เป็นไอเดียในการตกแต่ง

Noble Be 33

เมื่อเดินเข้ามาข้างในห้อง สิ่งแรกที่พบ คือ โต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าห้องค่อนข้างมีเนื้อที่กว้าง (ของจริงไม่ได้ให้ เป็นเพียงการตกแต่งห้องตัวอย่างเท่านั้น) โดยแบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ฝั่ง ซ้าย – ขวา

Noble Be 33

ส่วนครัวที่ได้ของห้องประเภทนี้ จะเป็นแบบเข้ามุม ตามขนาดความกว้างของห้อง

Noble Be 33

ยูนิตนี้ออกแบบให้มีห้องที่ผู้อยู่อาศัยสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือ ตามที่ต้องการได้ โดยทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ และมีระเบียงเล็กๆ ด้านข้าง

Noble Be 33

ห้องน้ำ ส่วนที่แยกออกมาจากห้องนอน จะไม่มีอ่างอาบน้ำ และเป็นชักโครกแบบธรรมดา

Noble Be 33 Noble Be 33

มุมของห้องนั่งเล่นพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะวางทีวี โซฟาและเก้าอี้ตัวใหญ่ได้

Noble Be 33

ห้องนอนมาสเตอร์ สามารถวางเตียงคิงไซส์ได้ และมีพื้นที่ระเบียง

Noble Be 33

ความพิเศษของห้องนอนมาสเตอร์มีตู้เสื้อผ้า Built-in โดยแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ซ้าย – ขวา ส่วนตรงกลาง จะออกแบบเป็นประตูเข้าไปยังห้องน้ำ

Noble Be 33

ห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้ตามขนาดพื้นที่ ซึ่งห้องนี้มีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศเช่นกัน

Noble Be 33

ระบบไฟ และแอร์เป็นแบบ ซ่อนฝ้า

Noble Be 33

บริเวณระเบียง ทำเป็นไม้ระแนงซ่อนคอมแพสเซอร์แอร์ ให้ดูเรียบร้อย เมื่อมองจากด้านนอกตึก

Noble Be 33

รอบตึก ออกแบบให้มี Facade บริเวณระเบียง เพื่อช่วยต้านลม และให้โครงสร้างตึกแข็งแรง

Noble Be 33

วิเคราะห์ศักยภาพการลงทุน
อัตราค่าเช่า (ต่อเดือน) คอนโดมิเนียม บริเวณสุขุมวิท 33 พร้อมพงษ์ โดยรอบ สามารถคาดการณ์ได้ดังนี้
Location: Sukhumvit/ BTS
ประเภท                                ค่าเช่า(บาท/ เดือน)
สตูดิโอ                                 15,000
1 ห้องนอน                            20,000-22,000
2 ห้องนอน                            35,000
3 ห้องนอน                            45,000

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Park 24

ภาพจาก park24.co.th

Park 24 ของบริษัทของพราวด์ เรสซิเดนซ์ในเครือพราว เรียลเอสเตท ในซอยสุขุมวิท 24 ซึ่งมีการเปิดขายเฟส 2 ไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยโครงการในเฟส 2 จะประกอบด้วยตึก 4 ความสูง 29 ชั้น, ตึก 5 ความสูง 49 ชั้น และตึก 6 ความสูง 37 ชั้น รวม 1,126 ยูนิต โดยในแต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องชุดจำกัดเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น ส่วนรูปแบบของห้องชุด ประกอบด้วย ห้องขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 25 – 41 ตารางเมตร, ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 51 – 68 ตารางเมตร และดูเพล็กซ์ พื้นที่ 84 – 118 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 4.9 ล้านบาท

Hyde11

ภาพจาก hydesukhumvit.com

Hyde Sukhumvit 11 ของบริษัท Grande Asset Hotels and Property จำกัด ที่ดินโครงการ 2-1-76.5 ไร่ อาคารสูง 40 ชั้น 454 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 ห้องนอน (31-76 ตร.ม.) 2 ห้องนอน (72-116 ตร.ม.) 2 ห้องนอน Duplex (155.37-218.14 ตร.ม.) 3 ห้องนอน (97-183 ตร.ม.) 3 ห้องนอน Duplex (240.07-256.05 ตร.ม.) และ Penthouse (436.55-497 ตร.ม.) ราคาขายปัจจุบัน (4 มิ.ย.58) ประมาณ 185,000 บาท/ ตร.ม.

บทสรุป
จุดเด่นของโครงการคือการตั้งอยู่ในทำเลใจกลางสุขุมวิทที่อยู่ใกล้กับความสะดวกสบายต่างๆ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองได้เป็นอย่างดี และใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นทางเลือกของการเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเมือง แม้การจราจรในย่านสุขุมวิทจะขึ้นชื่อในเรื่องของความหนาแน่น โดยเฉพาะในวันทำงานและชั่วโมงเร่งด่วน แต่ทำเลสุขุมวิท 39 ยังมี option ที่เป็นทางลัดเพื่อมุ่งหน้าสู่ถนนเส้นสุขุมวิทสายใน ทองหล่อหรือแม้กระทั่งเพชรบุรี สำหรับผู้ที่เล็งโครงการนี้ไว้สำหรับการลงทุน การที่โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าในระยะที่สามารถเดินได้ รวมทั้งการที่มีตึกสำนักงานหลายแห่งอยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการนักก็ถือว่ายังเป็นสินค้าที่อยู่ในความต้องการของผู้เช่า แต่เนื่องจากในย่านสุขุมวิทมีโครงการให้เป็นตัวเลือกอยู่ค่อนข้างมาก อาจจะต้องทำใจกับการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง เจ้าของห้องจึงควรต้องทำการศึกษาความต้องการของลูกค้าหรือผู้เช่าให้ดีเพื่อจะได้ปรับห้องให้ตรงกับความต้องการนั่นเอง

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ไบร์ท วงเวียนใหญ่(Bright Wongwianyai)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/7/99885/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%258c%25e0%25b8%2597-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%2587%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25a7 www.ddproperty.com:news:99885 Wed, 01 Jul 2015 01:36:22 +0700

ทำเลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า BTS สถานีวงเวียนใหญ่เป็นหนึ่งในทำเลที่ได้รับความสนใจจากนักพัฒนาคอนโดมิเนียมเป็นอันดับต้นๆ เพราะนอกจากปัจจัยเรื่องรถไฟฟ้าแล้ว ทำเลนี้ยังใกล้ใจกลางธุรกิจอย่างสีลม-สาทรมาก ไม่ว่าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ประมาณ 5 สถานีก็ถึงสีลม หรือประมาณ 7 สถานีถึงสยาม หรือเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเข้าเมืองก็สะดวกมาก

อีกทั้ง ต้นทุนที่ดินบริเวณนี้ยังถูกกว่าทำเลในเมืองพอสมควร ทำให้สามารถพัฒนาคอนโดมิเนียมใกล้เมืองได้ ในระดับราคาที่คนระดับกลางจับต้องได้ ราคาขายเริ่มต้นไม่เกิน 120,000 บาท/ ตร.ม. ซึ่งหากนั่งรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางฝั่งพระนคร โซนสุรศักดิ์เป็นต้นไป ปัจจุบันราคาขายคอนโดมิเนียมใหม่ๆ เริ่มต้นแตะ 200,000 บาท/ตร.ม.แล้ว

ปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ทำเลส่วนต่อขยายอย่าง BTS กรุงธนบุรีก็ดี หรือ BTS วงเวียนใหญ่ก็ดี เป็นทางเลือกของคนอยากมีที่อยู่อาศัยใกล้เมืองมากๆ ในราคาที่จับต้องได้

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 6 เมษายน 2558)
ชื่อโครงการ: ไบร์ท วงเวียนใหญ่ (Bright Wongwianyai)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท อัลไบร์ท โฮลดิ้งส์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอย 8 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ห่างจาก BTS วงเวียนใหญ่ 500 เมตร และห่างจากสกายวอล์ควงเวียนใหญ่ประมาณ 100 เมตร และห่างจาก BTS โพธิ์นิมิตร 400 เมตร

Bright Wongwianyai

รายละเอียดโครงการ:
พื้นที่โครงการรวมประมาณ3 ไร่ 1 งาน 76 ตร.ว. ไร่
อาคารความสูง 46 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวมห้องชุดทั้งหมด 475 ยูนิต
ชั้นพักอาศัย เริ่มชั้นที่ 9-46 (ห้องชุดต่อชั้น 6-14 ยูนิต/ชั้น)
ที่จอดรถชั้น 2-8 ที่ว่าง 299 คัน (คิดเป็น 63%) หรือแบบจอดซ้อนคัน 355 คัน (75%) มีระบบจอดรถนำทางอัจฉริยะ (Parking Guidance)
ชั้น 1 ล็อบบี้ พื้นที่ส่วนกลางกว่า 1 ไร่ เป็นคลับเฮ้าส์ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำและจากุซซี่ ระบบน้ำเกลือ (ขนาด 8×25 เมตร ลึก 1.2 เมตร) พร้อมด้วยฟิตเนส, สตีม, ซาวน่า, ห้องอเนกประสงค์, ห้องสมุด และลานแอโรบิค
ชั้น 9 สวนลอยฟ้า และศาลาพักผ่อน
ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว และลิฟท์โดยสารอีก 1 ตัว
มีคีย์การ์ดเข้าออกโดยรอบโครงการและล็อคชั้นเฉพาะ
ระบบกล้อง CCTV โดยรอบโครงการ
บริการ Shuttle Bus Service ไปสถานีรถไฟฟ้า

รูปแบบห้องชุด
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ [34.84, 36.28, 38.49, 41.0, 42.04 ตร.ม.] เป็นระเบียงกระจก 2 ชั้น (Semi Outdoor) เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องให้กว้างขึ้น โดยระเบียงทั้ง 2 ชั้นเป็นกระจก Full-Height สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร เพื่อให้มองวิวได้โดยรอบ
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ [59.13, 64.49, 71.24, 71.71, 77.94, 78.95, 82.55 ตร.ม.]
3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ [117.14 ตร.ม.] (ชั้น 43-46)
• ดูเพล็กซ์ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ [118 ตร.ม.]
ห้องที่ขายดีที่สุด คือ 1 ห้องนอน Type A1 และ A4-1

• สถานะการก่อสร้าง: อยู่ระหว่างก่อสร้าง
• กำหนดแล้วเสร็จ: ประมาณไตรมาส 1/2561
• เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ ตร.ม. / เดือน
• ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้น: 4.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2558)
• ราคาขาย: 124,000-150,000 บาท/ตร.ม. (ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย. 2558)
• ปัจจุบันเหลือขายประมาณ 70% มีให้เลือกครบทุก Type ห้องชุด (ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย. 2558)

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลรอบ BTS วงเวียนใหญ่
หากเป็นภาพรวมทำเล BTS วงเวียนใหญ่ ถือเป็นสถานีส่วนต่อขยายที่ใกล้เมืองที่สุด นั่งรถไฟฟ้าไม่กี่สถานีก็เข้าสู่ใจกลางเมืองได้แล้ว โดยในช่วงที่เพิ่งเริ่มมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นทาง 2 สถานีแรก คือ สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ คอนโดมิเนียมที่ใกล้ 2 สถานีนี้ล้วนเป็นคอนโดมิเนียมระดับกลาง-บน ด้วยปัจจัยที่ใกล้ใจกลางเมืองมาก

ปัจจุบันบริเวณรอบ BTS กรุงธนบุรีหาที่ดินในการพัฒนาโครงการได้ยากแล้ว ทำให้การพัฒนาเริ่มขยับมาทางบริเวณใกล้ BTS วงเวียนใหญ่ เพราะยังมีที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงให้พัฒนาได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ดินที่ติดตัวสถานีจริงๆ ถูกนำไปพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมจนเกือบหมดแล้วเช่นกัน หาที่ดินติดถนนกรุงธนบุรี (ถนนตามแนวสถานีรถไฟฟ้า) ได้ยากขึ้น ทำให้โครงการใหม่ๆ จึงต้องขยับไปยังทำเลรองทางฝั่งถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการไบร์ท วงเวียนใหญ่

Bright Wongwianyai Map

ทำเลที่ตั้งโครงการไบร์ท วงเวียนใหญ่ อยู่ติดถนนใกล้ซอย 8 ของถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน อยู่ฝั่งที่อาจเรียกได้ว่าทั้งฝั่งขาเข้าเมืองและขาออกเมือง เพราะอยู่ฝั่งที่สามารถตรงไปวงเวียนใหญ่ก็ได้ หรือเลี้ยวขวาไปทาง BTS วงเวียนใหญ่ มุ่งหน้าสู่สาทรก็ได้ หรือจะออกเมืองด้วยการเลี้ยวซ้ายไปทาง BTS โพธิ์นิมิตร เพื่อมุ่งหน้าไปทางถนนรัชดา-ท่าพระ ไปเพชรเกษม-บางแค หรือจะไปราชพฤกษ์ เชื่อมต่อไปยังถนนบรมราชชนนีก็ได้

หากวิเคราะห์ถึงตัวทำเลของโครงการ ดังที่กล่าวมาแล้วว่าอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเดินทางทั้งเข้าเมืองและออกเมืองได้สะดวก มีเส้นทางให้เลือกหลากหลาย เดินทางได้หลายรูปแบบ อีกทั้ง ยังอยู่ในโซนที่เป็นชุมชนเก่า จะว่าไปแล้วถือว่ามีองค์ประกอบการในการอยู่อาศัย หาอาหารการกินได้ง่ายกว่าคอนโดมิเนียมฝั่งถนนกรุงธนบุรี (ถนนตามแนวรถไฟฟ้า ที่นิยมเรียกกันว่า สาทร-ตากสิน) มีรถเมล์ผ่าน มีทางเลือกของรถสาธารณะที่มากกว่า

แต่จุดอ่อนของที่ตั้งโครงการนี้ คือการที่อยู่ขยับเข้ามาทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ทำให้การเดินถึงรถไฟฟ้าค่อนข้างไกลจากรถไฟฟ้าเล็กน้อย แต่ยังมีส่วนดีที่ใกล้สกายวอล์ค จึงสามารถเดินขึ้นสกายวอล์คแล้วเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ได้ (คล้ายกับเดินจากสถานีสยามมาเซ็นทรัลเวิลด์) ไม่ได้ลำบากมาก ส่วนการนั่งมอเตอร์ไซค์ หรือรถสาธารณะไป BTS วงเวียนใหญ่ ขาไป ถือว่าสะดวก เลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็ถึงเลย แต่ขากลับ ถ้านั่งมอเตอร์ไซค์ จะต้องกลับรถ ถ้านั่งรถสาธารณะต้องลงฝั่งตรงข้าม และข้ามสะพานลอยมา

การเดินทาง

Wongwianyai location
ภาพวิวบริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือจุดที่เรียกว่าเป็นใจกลางวงเวียนใหญ่

1. เดินทางด้วยรถยนต์ ค่อนข้างหลากหลายมาก จะมาจากวงเวียนใหญ่ ก็ตรงมาทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แล้วหาที่กลับรถมาอีกฝั่ง ชิดซ้ายเล็กน้อย ก็ถึงตัวโครงการเลย
2. ถ้ามาจากสาทร เดินทางด้วยรถยนต์ เมื่อข้ามสะพานสาทรมาแล้ว เจอ BTS กรุงธนบุรี เตรียมเข้าซ้าย (จุดนี้ต้องระวังเลย ถ้าเลย แล้วข้ามสะพานข้ามแยกไปแล้ว ต้องไปกลับรถใกล้แยกรัชดา-ท่าพระ ตรง BRT) เมื่อเข้าซ้ายเจอสี่แยก เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน หาที่กลับรถ ชิดซ้ายเล็กน้อย ก็ถึงตัวโครงการเลย
3. ถ้ามาจากฝั่งถนนราชพฤกษ์-บรมราชชนนี จากสะพานลอยฟ้าลงมาใกล้ๆ BTS โพธิ์นิมิตร ตรงไปเล็กน้อย จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน หาที่กลับรถมาอีกฝั่ง ชิดซ้ายเล็กน้อย ก็ถึงตัวโครงการเลย
4. ถ้ามาจากแยกมไหสวรรค์ ค่อนข้างง่าย ตรงมาเรื่อยๆ จนเกือบจะถึงสี่แยกที่มุ่งหน้าไปวงเวียนใหญ่ เตรียมชิดซ้าย ก็จะเจอโครงการเลย

สถานที่แนว Lifestyle ย่านวงเวียนใหญ่
เดอะมอลล์ ท่าพระ ศูนย์การค้าเก่าแก่ของฝั่งธนบุรี โดยตัวโครงการไบร์ท วงเวียนใหญ่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเดอะมอลล์ ท่าพระมากนัก ถ้ามาจากโครงการ เลี้ยวซ้ายจากสี่แยก เข้าสู่ถนนสาทร-ตากสิน ตรงมาเรื่อยๆ ข้ามคลองเล็กๆ เลี้ยวซ้ายอีกรอบก็ถึงเดอะมอลล์ ท่าพระแล้ว ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่ม สถาบันการเงิน ร้านแฟชั่นแบรนด์เนมชั้นนำ ที่ให้คนฝั่งธนบุรีสามารถเลือกช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องเข้าไปในเมือง

คลองสาน แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่มจำนวนมาก และร้านขายสินค้าแฟชั่นต่างๆ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์เกี่ยวกับมือถือ ฯลฯ

Sena Fest Mall
ภาพ via facebook.com/SENAfestMall

เสนา เฟสท์ (อยู่ฝั่งถนนเจริญนคร) เป็นศูนย์การค้าแบบเปิด 4 ชั้น และลานจอดรถใต้ดิน 2 ชั้น มีการตกแต่งภูมิทัศน์สวยงาม พร้อมร้านค้าทั่วไป ประมาณ 120 ร้านค้า โดยชั้น G เป็นโซนซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้าแฟชั่น, ชั้น 1-2 เป็นพื้นที่ร้านอาหาร มือถือ สินค้าไอที และธนาคาร, ชั้น 3 เป็นพื้นที่ศูนย์การศึกษาสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ และศูนย์ความงาม

Asiatique The Riverfront
ภาพ via facebook.com/Asiatique.Thailand

เอเชียทีค ริเวอร์ฟร้อนท์ คอมมูนิตี้มอลล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนเนื้อที่รวมกว่า 70 ไร่ ปัจจุบันเฟสแรกพัฒนาเป็นย่านการค้า มีร้านค้า 1,500 ร้าน และร้านอาหารในรูปแบบแฟรนไชส์อีกประมาณ 40 ร้าน ซึ่งเป็นสถานที่กินดื่มริมแม่น้ำเจ้าพระยายอดนิยมอันดับต้นๆ ของทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยในอนาคตเอเชียทีคมีแผนจะขยายเฟส 2 อยู่ฝั่งลานจอดรถติดกับเอเชียทีค 1 เป็นค้าปลีก อาคารจอดรถ คอนเวนชั่น และโรงแรม และเฟส 3 จะเป็นค้าปลีกและโรงแรม 2 อาคาร

Magnolias Waterfront Residences ICONSIAM - perspective
ไอคอนสยาม (โครงการในอนาคต) อภิมหาโปรเจคย่านเจริญนคร ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการและทยอยเปิดตัวพันธมิตรภายในโครงการ ซึ่งความชัดเจนล่าสุด คือ การดึงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น “ทาคาชิมาย่า” เข้ามาปักธงในพื้นที่โครงการไอคอนสยาม ที่จะช่วยยกระดับให้โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยากลายเป็นทำเลที่มีความเป็นลักซ์ชัวรี่มากขึ้น

รีวิวภาพรวมโครงการ

วิวของทิศต่างๆ (ภาพจากชั้นที่ 15 ของอาคาร)

Bright Wongwianyai_East view
ทิศตะวันออก – ฝั่งตะวันออกของตัวอาคาร คือด้านหน้าโครงการฝั่งถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เป็นมุมที่มองเห็นสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ และอาคารทางฝั่งดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันยังมีตึกสูงในระยะใกล้กับอาคารนี้ไม่มากนัก

Bright Wongwianyai_North view
ทิศเหนือ – ฝั่งเหนือของตัวอาคาร จะอยู่ทางฝั่งถนนกรุงธนบุรี (ถนนตามแนวรถไฟฟ้า BTS) จะมองเห็นแนวรถไฟฟ้า แต่เสียงจากรถไฟฟ้าจะไม่ดังมาก เพราะอยู่ถนนที่ถัดเข้ามา ปัจจุบันวิวด้านนี้ยังเคลียร์ เพราะยังไม่ได้มีตึกสูงในระยะใกล้กับตัวอาคารไบร์ท วงเวียนใหญ่เกิดขึ้นมากนัก

Bright Wongwianyai_West view
ทิศตะวันตก – ฝั่งตะวันตกของตัวอาคาร จะหันไปทางสถานีรถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร ซึ่งปัจจุบันวิวด้านนี้ยังเคลียร์เช่นกัน เพราะยังไม่ได้มีตึกสูงในระยะใกล้กับตัวโครงการ อาคารสูงส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่รอบ BTS โพธิ์นิมิตร และ BTS ตลาดพลู

Bright Wongwianyai_South view
ทิศใต้ – ฝั่งใต้ของตัวอาคาร จะหันไปทางถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน คนละฝั่งกับทิศตะวันออก เพราะฝั่งนี้จะไม่ได้มองเห็นวิวรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ วิวซึ่งฝั่งนี้เคลียร์ชัดเจน เพราะยังไม่มีตึกสูงในระยะใกล้เคียงกับตัวอาคาร

สิ่งอำนวยความสะดวก

Bright Wongwianyai
ลานวงกลมก่อนเข้าสู่หน้าล็อบบี้ ชั้น 1

Bright Wongwianyai
บริเวณล็อบบี้ ชั้น 1

Bright Wongwianyai
บริเวณล็อบบี้ ชั้น 1

Bright Wongwianyai
บริเวณโถงลิฟท์โดยสาร ชั้น 1

Bright Wongwianyai
ชั้น 1 ห้องฟิตเนส

Bright Wongwianyai
ชั้น 1 สระว่ายน้ำและจากุชชี่ ระบบน้ำเกลือ (ขนาด 8×25 เมตร ลึก 1.2 เมตร)

Bright Wongwianyai
ชั้น 9 สวนลอยฟ้า และศาลาพักผ่อน

วัสดุ-อุปกรณ์ภายในห้องชุด
• เฟอร์นิเจอร์ Fully-Furnished (รวมตู้เย็น เครื่องซักผ้า และผ้าม่าน 2 ชั้น)
• ประตูทางเข้าห้องชุดเป็น Digital Door Lock
• พื้นไม้ Engineering European Oak Wood หน้ากว้าง 6 นิ้วให้ความรู้สึกถึงพื้นผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง
• ชุดครัว Built- in ยี่ห้อ RCD พื้นผิวเป็น Hi-Gloss ลิ้นชักและตู้เป็นระบบปิดแบบ Soft close และ Top Counter เป็นหินสีขาวสังเคราะห์ ซึ่งทนความร้อนและทำความสะอาดได้ง่าย
• ชุดเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล่างมือ ยี่ห้อ Franke หรือเทียบเท่า
• ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งชุด ยี่ห้อ Kohler หรือเทียบเท่า
• เครื่องปรับอากาศยี่ห้อ Fujitsu ระบบ Inverter ซึ่งช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน และลดค่าไฟฟ้าลงได้มากกว่า 40%
• ชุดเฟอร์นิเจอร์ Built- in ของ Modernform
• ตู้เสื้อผ้า Built- in ของ Modernform พร้อมระบบปิดลิ้นชักแบบ Soft close
• เพดานสูง 2.7 เมตร

บรรยากาศห้องตัวอย่างของโครงการ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type A1 พื้นที่ใช้สอย 34.84 ตร.ม. (หนึ่งใน Type ที่ขายดีที่สุด)

Bright Wongwianyai
แปลนห้อง Type A1 พื้นที่ใช้สอย 34.84 ตร.ม.

Bright Wongwianyai
• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน พร้อมระบบ Digital Door lock และฝั่งประตูด้านใน

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• มุมครัว: Type นี้เปิดประตูห้องชุดมา จะเจอมุมครัว ได้อุปกรณ์ครบชุดตามภาพ ได้แก่ เคาน์เตอร์ล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน (รวมตู้เย็นด้วย) โดยออกแบบให้เคาน์เตอร์ล้างจานหันหน้าเข้าฝั่งห้องนั่งเล่น ก็จะมองเห็นวิวจากระเบียงไปด้วย พร้อมกับออกแบบให้มีมุมรับประทานอาหารด้วย

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• พื้นห้อง: สำหรับพื้นห้อง จะแบ่งเป็น 3 แบบ คือ พื้นมุมครัว จะเป็นพื้นกระเบื้อง เพื่อให้ทำความสะอาดง่าย พื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน จะเป็นไม้ Engineering European Oak Wood ส่วนพื้นห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องที่เหมาะกับการใช้งานในห้องน้ำ

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai

• ห้องน้ำ : แยกส่วนแห้ง และส่วนเปียกด้วยตู้กระจกอาบน้ำ พร้อมมีอุปกรณ์ให้ครบ เริ่มด้วยส่วนแห้ง ได้แก่ ตู้กระจก และอ่างล้างหน้า โดยตู้กระจก จะมีที่เก็บของอยู่ด้านใน อ่างล้างหน้า ด้านล่างจะเป็นตู้เอนกประสงค์ สำหรับส่วนเปียก มีชุดฝักบัว และเรน ชาวเวอร์ มีราวแขวนผ้าอยู่ด้านนอกส่วนเปียก

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องนั่งเล่น : บริเวณนี้วางระบบสัญญาณทีวีไว้ให้ พร้อมด้วยโซฟา และโต๊ะวางทีวี ติดกับระเบียง

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai

• มุมระเบียง: ติดกับห้องนั่งเล่น ระเบียงกว้าง กั้นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางระบบให้วางเครื่องซักผ้า (แถมเครื่องซักผ้าให้ด้วย)

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องนอน: กั้นห้องนอนด้วยบานสไลด์กระจก ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด เตียงนอน พร้อมตู้เสื้อผ้า Built- in

บรรยากาศห้องตัวอย่างของโครงการ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type A4-1 พื้นที่ใช้สอย 41 ตร.ม. (หนึ่งใน Type ที่ขายดีที่สุด)

Bright Wongwianyai
แปลนห้อง Type A1 พื้นที่ใช้สอย 41 ตร.ม.

• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน พร้อมระบบ Digital Door lock

Bright Wongwianyai
• ตู้อเนกประสงค์: Type นี้ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา จะเจอ Built- in ตู้เก็บของอเนกประสงค์

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องน้ำ : แยกส่วนแห้ง และส่วนเปียกด้วยตู้กระจกอาบน้ำ พร้อมมีอุปกรณ์ให้ครบ เริ่มด้วยส่วนแห้ง ได้แก่ ตู้กระจก และอ่างล้างหน้า โดยตู้กระจก จะมีที่เก็บของอยู่ด้านใน อ่างล้างหน้า ด้านล่างจะเป็นตู้เอนกประสงค์ สำหรับส่วนเปียก มีชุดฝักบัว และเรน ชาวเวอร์ มีราวแขวนผ้าอยู่ด้านนอกส่วนเปียก

Bright Wongwianyai
• มุมครัว: Type นี้มุมครัวทั้งหมดจะชิดผนังเพียงด้านเดียว ได้อุปกรณ์ครบชุดตามภาพ ได้แก่ เคาน์เตอร์ล้างจาน เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน (รวมตู้เย็นด้วย)

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• มุมรับประทานอาหาร: นอกจากจะใกล้มุมครัวแล้ว ยังติดกับมุมนั่งเล่น โดยมีตู้เอนกประสงค์เล็กๆ กั้น

Bright Wongwianyai
• ห้องนั่งเล่น : บริเวณนี้วางระบบสัญญาณทีวีไว้ให้ พร้อมด้วยโซฟา และโต๊ะวางทีวี ติดกับระเบียง

• มุมระเบียง: ติดกับห้องนั่งเล่น ระเบียงกว้าง กั้นพื้นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ และวางระบบให้วางเครื่องซักผ้า (แถมเครื่องซักผ้าให้ด้วย)

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องนอน: กั้นห้องนอนด้วยบานสไลด์กระจก ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด เตียงนอน พร้อมตู้เสื้อผ้า Built- in

บรรยากาศห้องตัวอย่างของโครงการ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ Type B3 พื้นที่ใช้สอย 71.71 ตร.ม.

Bright Wongwianyai
แปลนห้อง Type A1 พื้นที่ใช้สอย 34.84 ตร.ม.

• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน พร้อมระบบ Digital Door lock

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• มุมครัว: Type นี้เปิดประตูห้องชุดมา จะเจอมุมครัว ได้อุปกรณ์ครบชุดตามภาพ ได้แก่ เคาน์เตอร์ล้างจาน เตาไฟฟ้า 4 หัว และเครื่องดูดควัน (รวมตู้เย็นด้วย) โดยออกแบบให้ชุดครัวเป็นรูปตัวแอล มีพื้นที่ให้สามารถจัดทำเป็นมุมรับประทานอาหารด้วย

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องนั่งเล่น : บริเวณนี้วางระบบสัญญาณทีวีไว้ให้ พร้อมด้วยโซฟา และโต๊ะวางทีวี ติดฝั่งระเบียง

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องนอนใหญ่ หรือห้องนอนมาสเตอร์เบดรูม: ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด เตียงนอน พร้อมตู้เสื้อผ้า Built- in ขนาดใหญ่ ออกแบบระบบสัญญาณทีวี พร้อมห้องน้ำใหญ่ในตัว

Bright Wongwianyai
• ห้องน้ำใหญ่ในห้องมาสเตอร์เบดรูม : แยกส่วนแห้ง และส่วนเปียกด้วยตู้กระจกอาบน้ำ พร้อมมีอุปกรณ์ให้ครบ เริ่มด้วยส่วนแห้ง ได้แก่ ตู้กระจก และอ่างล้างหน้า โดยตู้กระจก จะมีที่เก็บของอยู่ด้านใน อ่างล้างหน้า ด้านล่างจะเป็นตู้เอนกประสงค์ โดยห้องน้ำใหญ่ของ Type นี้จะมีอ่างอาบน้ำด้วย สำหรับส่วนเปียก มีชุดฝักบัว และเรน ชาวเวอร์ มีราวแขวนผ้าอยู่ด้านนอกส่วนเปียก

Bright Wongwianyai
• ตู้เอนกประสงค์: เมื่อออกจากห้องมาสเตอร์เบดรูม จะมีห้องน้ำด้านนอกอีก 1 ห้อง แต่บริเวณหน้าห้องน้ำ จะมีตู้เอนกประสงค์ ที่ออกแบบให้วางเครื่องซักผ้า (ได้เครื่องซักผ้าด้วย)

Bright Wongwianyai
• ห้องน้ำเล็ก : แยกส่วนแห้ง และส่วนเปียกด้วยตู้กระจกอาบน้ำ พร้อมมีอุปกรณ์ให้ครบ เริ่มด้วยส่วนแห้ง ได้แก่ ตู้กระจก และอ่างล้างหน้า โดยตู้กระจก จะมีที่เก็บของอยู่ด้านใน อ่างล้างหน้า ด้านล่างจะเป็นตู้เอนกประสงค์ (ห้องน้ำเล็กไม่มีอ่างอาบน้ำ) สำหรับส่วนเปียก มีชุดฝักบัว และเรน ชาวเวอร์ มีราวแขวนผ้าอยู่ด้านนอกส่วนเปียก

Bright Wongwianyai

Bright Wongwianyai
• ห้องนอนเล็ก: ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด เตียงนอน พร้อมตู้เสื้อผ้า Built- in ขนาดใหญ่ ออกแบบระบบสัญญาณทีวี

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
อัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมติด BTS วงเวียนใหญ่
• 1 ห้องนอน [28 ตร.ม.] =13,000 บาท/เดือน
• 1 ห้องนอน [34-35 ตร.ม.] =14,000-19,000 บาท/เดือน
• 1 ห้องนอน [45 ตร.ม.] =22,000 บาท/เดือน
• 2 ห้องนอน [54-89 ตร.ม.] =29,000-60,000 บาท/เดือน
ต้นทุนห้องชุด เริ่มต้น 4.3 ล้านบาท [34.84 ตร.ม.] หากได้อัตราค่าเช่าใกล้เคียงกันในช่วงที่ตึกก่อสร้างเสร็จ จะมีโอกาสได้อัตราผลตอบแทนประมาณ 3.91-5.30 % ต่อปี

เปรียบเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่

Nye by Sansiri
นายน์ บาย แสนสิริ (Nye by Sansiri) ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) คอนโดมิเนียมที่ดินประมาณ 3-2-62 ไร่ โดยเป็นอาคารสูงตึกคู่ 30 ชั้น จำนวน 636 ยูนิต ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ 52% รูปแบบห้องชุด 1-2 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ 2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 30-43.5 ตร.ม. / 59.5-68 ตร.ม. / 63-64 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 1– 1.3 แสนบาท/ตร.ม. โดยเป็น Fully Fitted (ให้เฟอร์นิเจอร์บางส่วน) ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้าง และยังมียูนิตของโครงการเหลือขาย

The Room Wongwianyai

เดอะ รูม บีทีเอส วงเวียนใหญ่ (The Room BTS Wongwianyai) ของบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บนที่ดินประมาณ 2-0-42.8 ไร่ (2 ไร่ กับ 42.8 ตารางวา) เป็นคอนโดมิเนียมอาคารสูง 29 ชั้น จำนวน 201 ยูนิต ที่จอดรถในช่องจอดประมาณ 84% รูปแบบห้องชุด 1-2 ห้องนอน (พื้นที่ใช้สอย 43.5 – 57.5 ตรม และ 73 – 92.5 ตร.ม.) โครงการเพิ่งก่อสร้างเสร็จประมาณปลายปีที่แล้ว ปัจจุบันยูนิตของโครงการขายหมดแล้ว ราคารีเซลในตลาดอยู่ที่ประมาณ 5.5 – 14 ล้านบาท หรือ 1.2 – 1.6 แสนบาท/ตร.ม.

บทสรุป
หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งในเชิงทำเลใกล้รถไฟฟ้า ทำเลที่ตั้งอาจจะดร็อปกว่าคู่แข่งโครงการในบริเวณใกล้เคียงเล็กน้อย โดยหากประเมินสถานการณ์บนทำเลถนนตามแนวรถไฟฟ้าตั้งแต่ BTS กรุงธนบุรี จนถึง BTS ตลาดพลู มีโครงการใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นโอกาสที่คนอยากมีที่อยู่อาศัยย่านนี้ได้เลือกมากขึ้น แต่ถ้าพูดถึงในเชิงการใช้รถยนต์ ก็ไม่ขี้เหร่ และอาจจะได้เปรียบกว่าหลายโครงการบนถนนตามแนวรถไฟฟ้า

ขณะที่หากพูดถึงตัวโปรดักส์แล้ว ภาพรวมของโครงการ รูปแบบห้องชุด และแพ็คเกจ Fully Furnished ที่ได้ถือว่าค่อนข้างครบและคุ้ม จึงขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อว่า ซื้ออยู่เอง หรือซื้อลงทุน ถ้าซื้อเพื่อลงทุน ควรเลือกที่ติดตัวสถานีจะปล่อยได้ดีกว่า หรือถ้าซื้ออยู่เอง เน้นการใช้รถไฟฟ้า หรือรถยนต์ ถ้าเน้นใช้รถยนต์ โครงการนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

แต่ถ้าเน้นใช้รถไฟฟ้า ต้องถามต่อว่า ต้องการโครงการที่ติดตัวสถานีหรือไม่ โดยหากต้องการโครงการที่ติดตัวสถานี อาจต้องมองหายูนิตรีเซลในตลาด ถ้าเป็นโครงการใหม่แกะกล่อง จะต้องเป็นสถานีอื่นในบริเวณใกล้ๆ เช่น BTS โพธิ์นิมิตร หรือ BTS ตลาดพลู ซึ่งโครงการล็อตใหม่ ทำเลดีกว่า ราคาใกล้เคียงกัน แต่โปรดักส์ดร็อปกว่า

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:ศาลาแดง วัน(Saladaeng One)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/6/99825/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25a8%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%25b2%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%2587-%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b1%25e0%25b8%2599 www.ddproperty.com:news:99825 Mon, 29 Jun 2015 21:00:47 +0700

ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีทองของคอนโดมิเนียมกลุ่มซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นที่ดินทำเลทองที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ซื้อเก็บไว้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยโครงการคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซัวรี่ที่เปิดตัวล่าสุดในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ คือ ศาลาแดง วัน (Saladaeng One) ของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยหากนับเฉพาะย่านศาลาแดงจริงๆ มีโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดน้อยมาก โครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ถูกจับตามองมากทีเดียว

เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 พฤษภาคม 2558)
ชื่อโครงการ: ศาลาแดง วัน (Saladaeng One)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ทำเลที่ตั้ง: ศาลาแดงซอย 1 ถนนพระรามที่ 4 เขตบางรัก กรุงเทพฯ
รายละเอียดโครงการ:
พื้นที่โครงการรวม 1-3-95.5 ไร่
อาคารความสูง 33 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดินอีก 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และ Pool Villa อีก 1 อาคาร
จำนวนห้องชุด 187 ยูนิต (ยังไม่รวมจำนวนที่พักอาศัยโซน Pool Villa)
ที่จอดรถ 192 คันคิดเป็น 102% ไม่รวมจอดซ้อนคัน โดยที่จอดรถในอาคารมีทั้งหมด 7 ชั้น แบ่งเป็นชั้นบนดินชั้นที่ 1-4 และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น
สิ่งอำนวยความสะดวก ชั้น 30-31 โดยชั้น 30 มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ ส่วนชั้น 31 มีห้องสมุด ห้องประชุม
ชั้นที่พักอาศัย ชั้น 5-33
ลิฟท์โดยสารจำนวน 3 ตัว
ลิฟท์บริการจำนวน 1 ตัว
ระบบคีย์การ์ด ล็อกชั้น
ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มกรกฎาคม 2558
กำหนดแล้วเสร็จ: มิถุนายน 2561
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 900 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 90 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น: 13 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 270,000 บาท/ ตร.ม.


Saladaeng One model

รูปแบบห้องชุด มีด้วยกัน 5 แบบ
1 ห้องนอน [50-57 ตร.ม.]
2 ห้องนอน [106-122 ตร.ม.]
2 ห้องนอน Duplex [106-122 ตร.ม.]
3 ห้องนอน [216 ตร.ม.]
เพนท์เฮ้าส์ 4 ห้องนอน [400 ตร.ม.ขึ้นไป]
Pool Villa (อยู่ระหว่างออกแบบ เบื้องต้นจะเป็นสร้างเสร็จก่อนขาย)
หมายเหตุ: ห้องชุดที่ขายดีที่สุด คือ รูปแบบ 1 ห้องนอน ฝั่งทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเห็นวิวสวนลุมพินีเต็มๆ

Saladaeng One - sale office
บรรยากาศภายในสำนักงานขายโครงการศาลาแดง วัน

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
ทำเลศาลาแดง หรือย่านสีลม ถือเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจเก่าแก่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ซึ่งเจริญเติบโตมาก่อนย่านสุขุมวิท จนการพัฒนาในย่านสีลมค่อนข้างแน่นมากแล้ว การพัฒนาอาคารสำนักงานใหม่ๆ จึงขยับไปฝั่งถนนสุขุมวิทมากขึ้น แต่ย่านสีลมก็ยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในการอาศัยทำการค้า

ปัจจัยดังกล่าวทำให้โครงการคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ย่านนี้มีน้อยมาก เพราะที่ดินพร้อมพัฒนาหายากขึ้น ในช่วงหลายปีมานี้จึงมีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบการที่สนใจพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆ ย่านนี้จะต้องใช้วิธีเจรจาซื้อตึกเก่าหรือบ้านเก่าเพื่อรื้อทิ้ง แล้วจึงนำที่ดินมาพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งโครงการใหม่ที่เปิดขาย แม้จะเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ที่ราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยังได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่นิยมชื่นชอบย่านนี้

ขณะที่การเดินทางในย่านศาลาแดง สีลม ก็มีความสะดวก ทั้งการเดินทางภายในเมือง เช่น พระราม 4 สุขุมวิท หรือจะเดินทางออกเมืองไปยังฝั่งเหนือ-ใต้-ตะวันออก-ตะวันตกของกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ต่างๆ ของเมืองจะเดินทางเข้ามาฝั่งศาลาแดง สีลมก็สะดวก แต่ก็ต้องยอมรับว่า เป็นหนึ่งในย่านที่การจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงชั่วโมงเร่งด่วน

วิเคราะห์ทำเลโครงการ
ทำเลที่ตั้งของโครงการ อยู่บริเวณศาลาแดงซอย 1 ห่างจากถนนพระราม 4 ประมาณ 80 เมตร เข้า-ออกได้หลายเส้นทางทั้งถนนพระราม 4 สาทรและสีลม ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี 400 เมตร และห่างจากรถไฟฟ้า MRT สีลม กับรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง 600 เมตร โดยหากวิเคราะห์จากทำเลที่ตั้งแล้ว โครงการนี้สะดวกในการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ แต่ก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกเช่นกัน

Saladaeng One map

นอกจากนี้ โครงการศาลาแดง วันยังอยู่ห่างจากสวนลุมพินี ประมาณ 120 เมตร สามารถมองเห็นวิวของสวนลุมพินีได้ชัดเจน เรียกว่าเป็นหนึ่งในจุดขายของโครงการเลยก็ว่าได้ โดยในปัจจุบันเทรนด์การอยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง ทำให้คอนโดมิเนียมที่เป็น Park View ได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งหากดูจากในหลายประเทศทั่วโลก โครงการที่อยู่ใกล้สวนขนาดใหญ่ของรัฐ หรือใกล้ริมแม่น้ำ จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่มีมูลค่าเพิ่มไปในตัวด้วย

การเดินทาง
1. ถ้าวิ่งมาจากถนนพระราม 4 (ทางคลองเตย) เลยแยกถนนสาทร-วิทยุ ตรงมาอีกล็อคหนึ่งก่อนถึงอาคารอื้อจื่อเหลียง (ฝั่งตรงข้ามสวนลุมพินี) จะเป็นซอยศาลาแดง 1 เลี้ยวซ้ายมาเล็กน้อย โครงการจะอยู่ซ้ายมือ
2. ถ้ามาจากสามย่าน สีลม ตรงมาเรื่อยๆ พอเห็นอาคารอื้อจื่อเหลียงอยู่ฝั่งขวามือให้หาที่กลับรถ ให้มาอยู่ฝั่งเดียวกับอาคารอื้อจื่อเหลียง แต่พอก่อนถึงอาคารอื้อจื่อเหลียงให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยศาลาแดง 1 โครงการอยู่ซ้ายมือ
3. ถ้ามารถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หรือ MRT สีลม ให้มาขึ้นมอเตอร์ไซค์ตรงซอยศาลาแดงเพื่อไปยังโครงการ หรือจะเดินไปตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกที่มีตึกทิสโก้ และเขียนว่า ศาลาแดง 1 เดินตรงไปเรื่อยจนเกือบทะลุถนนพระราม 4 จะเจอโครงการอยู่ฝั่งขวามือ (ถ้าจะนั่งมอเตอร์ไซด์จากตรงแยกตึกทิสโก้ ก็ประมาณ 10 บาท)

Soi Saladaeng

4. ถ้ามาจากรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี ให้ออกทางตึกคิวเฮ้าส์ก็ได้ และเดินมาทางถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาทางอาคารอื้อจื่อเหลียง เดินตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยศาลาแดง 1 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาเล็กน้อย ก็จะเจอกับโครงการ

Soi Saladaeng

Soi Saladaeng

Soi Saladaeng

สถานที่แนว Lifestyle ย่านศาลาแดง
• ในซอยศาลาแดงจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่เล็กๆ ให้เลือกนั่งอยู่หลายร้านด้วยกัน เช่น ร้าน Bitterman ในซอยศาลาแดง 1 ที่มีนักร้องชื่อดัง นท เดอะสตาร์เป็นหุ้นส่วน และอีกหนึ่งร้านนั่งชิลอย่าง Treecreeper ในซอยศาลาแดง 1 เช่นกัน โดยร้านให้บริการทั้งอาหารคาว-หวานและเครื่องดื่มนานาชนิด

Bitterman Restaurant
Bitterman Restaurant ในซอยศาลาแดง 1 ภาพ via facebook.com/bitterman.bkk

Treecreeper Saladaeng
ร้าน Treecreeper ศาลาแดง ภาพ via facebook.com/treecreeper.bangkok

• สีลม คอมเพล็กซ์: แหล่งรวมร้านกิน-ดื่ม-ช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นฐาน รวมไปถึงบริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ

Silom Complex
ภาพ via facebook.com/SilomComplex

• สยาม ชิดลม: ถ้าต้องการขยับเข้าโซนศูนย์กลางแหล่งช้อปปิ้งย่านสยาม ทั้งสยามสแควร์, SQ-1 (สยามสแควร์วัน), สยามดิสคัฟเวอรี่, สยามเซ็นเตอร์, สยามพารากอน, เซ็นทรัล ชิดลม, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ก็เดินทางมาได้ไม่ยากทั้งด้วยเส้นทางรถยนต์หรือรถไฟฟ้า

Central Embassy
เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่


รีวิวภาพรวมโครงการ

ก่อนจะกล่าวถึงภาพรวมด้านในโครงการศาลาแดง วัน คงจะต้องพูดถึงความโดดเด่นเรื่องงานสถาปัตยกรรมภายนอกอาคารเล็กน้อย โดยอาคารศาลาแดง วัน ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่กำลังเป็นเทรนด์ของโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรียุคใหม่ในกรุงเทพฯ ที่ใช้โทนสีขาวคล้ายสีของหินอ่อนภายนอกตัวอาคาร เพื่อให้มีความความแตกต่างเรียบหรูในแบบโมเดิร์น โดยใช้เส้นแนวนอนเป็นหลักในงานออกแบบภายนอกอาคาร พร้อมกับการเลือกใช้วัสดุชั้นดีลายหินอ่อนสีขาวเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง Facade ตึก นอกจากนี้โครงการเลือกใช้หน้าบานกระจกขนาดใหญ่พิเศษ ติดตั้งในองศาที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดแสงสีสะท้อนที่แตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลา

Saladaeng One

จุดเด่นของห้องพัก คือการออกแบบพื้นที่ให้เป็นห้องขนาดหน้ากว้างพิเศษ เพื่อเปิดรับวิวแบบ Panorama ของสวนลุมพินีได้แบบเต็มๆ โดยห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 55 ตารางเมตร จะมีหน้ากว้าง 8.10 เมตร โดยเป็นส่วนที่เปิดรับวิวในห้องนั่งเล่นกว้างถึง 4.5 เมตร ในขณะที่ห้องมาตรฐานของโครงการทั่วไป อยู่ที่ 3.0-3.5 เมตร ส่วนห้องขนาด 2 ห้องนอน จะมีหน้ากว้าง 16 เมตร เพื่อเปิดรับวิวเต็มที่

วิวของแต่ละทิศของโครงการศาลาแดง วัน
• ทิศตะวันออก : ทิศนี้ถือว่ายังเห็นวิวสวนลุมพินี โดยเฉพาะฝั่งซ้ายมือ แต่ฝั่งขวามือจะติดตึกของโรงแรม Sofitel So Bangkok และอาคารสำนักงาน LH Bank เล็กน้อย ถือว่าวิวเกือบเคลียร์ (ถ้าเทียบกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเคลียร์กว่า)

Saladaeng One_East view

• ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ: ทิศนี้ถือว่าเคลียร์ที่สุดสำหรับโครงการศาลาแดง วัน โดยเป็นทิศที่จะเห็นวิวสวนลุมพินีแบบเต็มๆ แทบไม่มีตึกสูงมาบดบังสายตาเลย

Saladaeng One_NorthEast view

• ทิศเหนือ : ทิศนี้ วิวไม่เคลียร์เท่าไร จะเห็นวิวสวนลุมพินีทางฝั่งขวามือเป็นหลัก แต่ถ้ามุมมองด้านตรงจะติดอาคารสูงบางอาคาร

Saladaeng One_North view

• ทิศใต้: นอกจากจะลมดีแล้ว ก็ถือว่าวิวเคลียร์ในระดับหนึ่ง (น้อยกว่าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ก็ดีกว่าทิศเหนือและทิศตะวันออก) อย่างน้อยมุมมองด้านตรงก็ถือว่าเคลียร์

Saladaeng One_South view

• ทิศตะวันตก: ทิศนี้อาจจะร้อนในช่วงกลางวัน (แต่แก้ได้ด้วยการติดฟิล์มกระจกและผ้าม่าน) และได้เป็นวิวเมือง (City View) ไม่ได้เห็นวิวสวนลุมพินีมากนัก ซึ่งหากมองในแง่บวก ก็ถือว่าได้มองความเป็นไปของเมือง และอาคารสูงที่เห็นไม่ได้อยู่ในระดับที่ประชิดกับตัวอาคารศาลาแดง วันมากนัก จึงไม่อึดอัด

Saladaeng One_West view

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ชั้น 30 มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สตีมมิ่ง (Sauna & Steam)
ชั้น 31 มีห้องสมุด ห้องประชุม (Business Lounge) และ Sky Terrace

รีวิวภายในห้องชุด
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted เช่น ตู้ใส่รองเท้า ตู้เก็บของ อุปกรณ์ในห้องครัว ห้องน้ำ และตู้เสื้อผ้าในห้องนอน
ความสูงจากพื้นถึงเพดาน: 3 เมตร
เครื่องปรับอากาศ: ติดตั้งแอร์ระบบฝัง
ผนัง: ฉาบเรียบทาสีขาว

สำหรับบรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 1 ห้องนอน Type 1A-1 [55.49 ตร.ม.]

เริ่มด้วย :

• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน

Saladaeng_1bed

 

• พื้นตรงประตูและพื้นห้อง: พื้นบริเวณประตูด้านใน จะเป็นหินสีดำ มีสเต็ปลงเข้าสู่ตัวห้อง ซึ่งพื้นภายในห้องจะเป็นลามิเนต ส่วนพื้นครัวจะเป็นพื้นหินอ่อนสีขาว

Saladaeng_1bed

Saladaeng One_1bed

• ระบบควบคุมไฟ: แผงควบคุมไฟภายในห้องชุด

Saladaeng_1bed

• ห้องครัว: Type นี้ เข้าห้องชุด จะเจอห้องครัวรูปตัวแอล (อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น) โดยในส่วนของห้องครัวได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครบชุด (ตามภาพ) ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจานและก๊อก (มุมนี้จะหันหน้าไปทางห้องนั่งเล่น) เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (ได้ตู้เย็นบิวท์อินด้วย แต่ไม่ได้เครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้า แต่วางระบบไว้ให้เรียบร้อย)

Saladaeng_1bed

Saladaeng_1bed

• ตู้เก็บของอเนกประสงค์หรือตู้รองเท้า: ด้านข้างประตูของ Type นี้ (ฝั่งตรงข้ามห้องครัว) จะเป็นตู้เก็บของอเนกประสงค์หรือตู้รองเท้า

Saladaeng_1bed

• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง วางระบบให้วางทีวีจุดนี้ ซึ่งไฮไลท์ของห้องนั่งเล่น คือ กระจกบานเต็ม ตรงกลางของกระจกจะไม่มีรอยประตูกั้น เพื่อให้ชมวิวได้เต็มที่ โดยด้านข้างของกระจกจะเป็นที่เปิดออกไปสู่ระเบียง

Saladaeng_1bed

Saladaeng_1bed

• ระเบียง: ออกแบบให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้บริเวณนี้ แต่มีประตูแยกส่วนชัดเจน จะมีพื้นที่ระเบียงแนวยาวให้ใช้พื้นที่ Outdoor ได้บางส่วน

Saladaeng_1bed

Saladaeng_1bed

Saladaeng One_1bed

• มุมอเนกประสงค์: ก่อนเข้าสู่ตัวห้องนอน จะมีมุมอเนกประสงค์ให้สามารถจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหารหรือพื้นที่สำหรับกิจกรรมต่างๆได้

• ห้องนอน: ห้องนี้จะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินให้ และมีหน้าต่างบานใหญ่ให้ชมวิวนอกอาคาร โดยในห้องนี้จะมีห้องน้ำในตัวด้วย

Saladaeng One_1bed

• ห้องน้ำในห้องนอน: ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง เคาน์เตอร์ล้างหน้า กระจก สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ และมุมอ่างล้างหน้า พื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

Saladaeng One_1bed

Saladaeng One_1bed

สำหรับบรรยากาศจำลองห้องชุดในสำนักงานขาย 2 ห้องนอน Type 2 A-1 [116.55 ตร.ม.]

เริ่มด้วย :

• ประตู: ไม้ และตัวจับแบบก้าน

• ตู้เก็บของอเนกประสงค์หรือตู้รองเท้า: ด้านข้างประตูของ Type นี้ (ฝั่งตรงข้ามห้องครัว) จะเป็นตู้เก็บของอเนกประสงค์หรือตู้รองเท้า

• ระบบควบคุมไฟ: แผงควบคุมไฟภายในห้องชุด

• ห้องนั่งเล่น: ห้องจริง เป็นห้องโล่ง วางระบบให้วางทีวีจุดนี้ โดยห้องนั่งเล่นของ 2 ห้องนอนจะค่อนข้างใหญ่ มีมุมอเนกประสงค์ให้วางชุดรับประทานอาหารด้วย และเช่นกัน ไฮไลท์ของห้องนั่งเล่น คือ กระจกบานเต็ม ตรงกลางของกระจกจะไม่มีรอยประตูกั้น เพื่อให้ชมวิวได้เต็มที่ โดยด้านข้างของกระจกจะเป็นที่เปิดออกไปสู่ระเบียง

• ระเบียง: ออกแบบให้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้บริเวณนี้ แต่มีประตูแยกส่วนชัดเจน จะมีพื้นที่ระเบียงแนวยาวให้ใช้พื้นที่ Outdoor ได้บางส่วน

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

• ห้องครัว: ได้เฟอร์นิเจอร์พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันครบชุด (ตามภาพ) ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ลอย, อ่างล้างจานและก๊อก (มุมนี้จะหันหน้าไปทางห้องนั่งเล่น) เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (ได้ตู้เย็นบิลท์อินด้วย) หมายเหตุ Type นี้ ไม่ได้วางระบบเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้า ไว้บริเวณนี้)

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed_dining

• ห้องน้ำเล็ก (นอกห้องนอน): ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง เคานเตอร์ล้างหน้า กระจก สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ (ไม่มีมุมอ่างล้างหน้า) พื้นที่ส่วนเปียกกั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

Saladaeng One_2bed

• มุมซัก-อบแห้ง: Type นี้ ออกแบบให้มุมเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าอยู่ติดกับห้องน้ำเล็ก ข้อเสีย คือเหมือนมีมุมซัก-อบแห้งอยู่ส่วนกลางของห้อง และเมื่อเปิดประตูตู้นี้ออกมา พื้นที่บริเวณนี้จะแคบลงทันที

Saladaeng One_2bed

• ห้องนอนเล็ก: ห้องนี้จะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน โดยไฮไลท์ของห้องนี้ คือ มุมหน้าต่างที่จะเป็นแนวเฉียงๆ ให้ห้องดูกว้าง และสามารถนั่งเล่นมุมเฉียงๆ ข้างหน้าต่างได้

Saladaeng One_2bed

• ห้องนอนใหญ่ หรือมาสเตอร์เบดรูม: Type นี้ ห้องนอนใหญ่กับห้องนอนเล็กจะอยู่ตรงข้ามกัน โดยห้องนี้จะมีตู้เสื้อผ้าบิลท์อินขนาดใหญ่ มีมุมหน้าต่างจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ให้ดูวิว มีห้องน้ำในตัวด้วย

Saladaeng One_2bed_masterbed

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

• ห้องน้ำในห้องนอน: ได้อุปกรณ์ครบชุด แยกส่วนแห้งกับส่วนเปียก โดยพื้นที่ส่วนแห้ง เคาน์เตอร์ล้างหน้า กระจก สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ และมุมอ่างล้างหน้า พื้นที่ส่วนเปียก ที่กั้นด้วยตู้กระจกอาบน้ำนิรภัย มีอุปกรณ์ครบชุดเช่นกัน เช่น ชุดฝักบัวแบบเรน ชาวเวอร์

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

Saladaeng One_2bed

วิเคราะห์การลงทุน
อัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ย่านสีลม ศาลาแดง อยู่ที่ 800-1,000 บาท/ตร.ม. ถ้าต้นทุนห้องชุดอยู่ที่ 270,000 บาท/ตร.ม. โอกาสได้อัตราผลตอบแทน 3.56-4.44% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจากค่าเช่าต่อปีจะไม่สูงมาก แต่ Capital Gain ในอนาคตมีโอกาสขยับสูงขึ้น เพราะแนวโน้มราคาคอนโดมิเนียมย่านนี้ที่ปรับสูงขึ้นตามราคาที่ดิน และซัพพลายคอนโดมิเนียมย่านนี้ที่มีไม่มาก

หากวิเคราะห์ Capital Gain คอนโดมิเนียมย่านสวนลุมพินี จากข้อมูลของซีบีอาร์อี ประเทศไทย ระบุว่า เมื่อปี 2547 คอนโดมิเนียมย่านนี้เสนอขายประมาณ 100,000 บาทต้นๆ /ตร.ม. แต่ปัจจุบันปี 2558 เสนอขาย 270,000 บาท /ตร.ม. สรุปได้ว่าคอนโดมิเนียมย่านนี้ Capital Gain ปรับขึ้น 170% ในรอบ 10 ปี เฉลี่ยขยับขึ้นปีละ 17%

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
โครงการที่ถือว่าใกล้กับศาลาแดง วัน มากๆ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นคู่แข่งที่ใกล้เคียงกันในเรื่องเซ็กเมนต์และทำเล คงต้องเป็น “The Ritz-Carlton Residences Bangkok” (เดอะริทซ์-คาร์ตัน เรสซิเดนเซส แบงค็อก) ในโครงการมหานครของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

The Ritz-Carlton Bangkok

The Ritz-Carlton Residences Bangkok ตั้งอยู่บนถนนสาทร ใกล้กับ BTS ช่องนนทรี บนที่ดินประมาณ 9-1-49.67 ไร่ เป็นอาคารความสูง 77 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 200 ยูนิต โดยห้องชุดพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 23 – 73 ที่จอดรถ Fix 2 คันขึ้นไป และ Valet Parking รูปแบบห้องชุด 2-5 ห้องนอน เพ้นท์เฮ้าส์ และดูเพล็กซ์ [พื้นที่ใช้สอย 120 – 850 ตร.ม.] ราคาเริ่มต้นปัจจุบันประมาณ 32 ล้านบาท หรือราคา 300,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป โดยโครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียมแบบฟรีโฮลด์ (เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นลีสโฮลด์ 99 ปี) อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2558

ขณะที่โครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ล็อตใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงปี 2557-2558 มีดังนี้

โซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ระหว่างขายและก่อสร้างในปัจจุบันมีด้วยกัน 5 โครงการ ได้แก่
1. แม่น้ำ เรสซิเดนท์ (ย่านเจริญกรุง) ความสูง 54 ชั้น จำนวน 294 ยูนิต ราคาขาย 200,000-250,000 บาท/ตร.ม.
2. คณาพญา เรสซิเดนซ์ (ย่านพระราม 3) ความสูง 57 ชั้น จำนวน 188 ยูนิต ราคาขาย 200,000-250,000 บาท/ตร.ม.
3. แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ในโครงการดิไอคอนสยาม (ย่านเจริญนคร) ความสูง 70 ชั้น จำนวน 379 ยูนิต ราคาขาย 200,000-300,000 บาท/ ตร.ม.

Magnolias Waterfront Residences_1BR

4. เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล ในโครงการดิไอคอนสยาม (ย่านเจริญนคร) ความสูง 52 ชั้น จำนวน 146 ยูนิต (ยังไม่เปิดขาย แต่มีกระแสข่าวว่าจะเริ่มต้น 400,000 บาท/ตร.ม.)
5. โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ ในโครงการเจ้าพระยาเอสเตท ความสูง 73 ชั้น จำนวน 355 ยูนิต ราคาขาย 250,000-350,000 บาท/ ตร.ม.

Four Seasons Residences Bangkok_4br

โซนใจกลางเมือง ที่อยู่ระหว่างขายและก่อสร้างมีด้วยกัน 8 โครงการ ได้แก่
1. นิมิต หลังสวน ความสูง 53 ชั้น จำนวน 187 ยูนิต ราคาขาย 320,000-450,000 บาท/ตร.ม.
2. เดอะดิโพลแมท 39 (สุขุมวิท 39) ความสูง 31 ชั้น จำนวน 156 ยูนิต ราคาขาย 280,000-400,000 บาท/ตร.ม.
3. มาร์ค สุขุมวิท (สุขุมวิท 39) ความสูง 50 ชั้น จำนวน 149 ยูนิต ราคาขาย 320,000-400,000 บาท/ ตร.ม.
4. เดอะ แบงค็อค สาทร (สุรศักดิ์) ความสูง 50 ชั้น จำนวน 468 ยูนิต ราคาขาย 200,000-310,000 บาท/ตร.ม.
5. แมกโนเลีย ราชดำริ บูเลอวาร์ด ความสูง 60 ชั้น จำนวน 316 ยูนิต ราคาขาย 200,000-390,000 บาท/ตร.ม.
6. แกลอรี่ ฮรู เดอร์ 39 ความสูง 28 ชั้น จำนวน 88 ยูนิต ราคาขาย 300,000-410,000 บาท/ตร.ม.

บทสรุป
วิเคราะห์ในเชิงทำเล ถือว่าเป็นโครงการที่มีทำเลอยู่ใจกลางเมืองที่มีการเดินทางสะดวก ใกล้สวนลุมพินี มีหลายมุมที่เป็น Park View ซัพพลายไม่มาก มีโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นในอนาคต โดยหากจะซื้อเพื่อการลงทุน ควรซื้อฝั่งที่เป็น Park View จะดีกว่าฝั่ง City View และควรเป็นการลงทุนระยะยาว ถือไว้รอ Capital Gain ในอนาคต จะคุ้มกว่าลงทุนระยะสั้น ส่วนการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า อาจจะได้อัตราผลตอบแทนต่อปีไม่มาก เพราะต้นทุนค่อนข้างสูง

ขณะที่หากวิเคราะห์ในเชิงโปรดักส์ถือว่าทั้งด้านการออกแบบและวัสดุที่ให้ เหมาะสมกับความเป็นคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต (The Line Jatujak - Mochit)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/6/99716/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25b0-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25a5%25e0%25b8%2599%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%2588 www.ddproperty.com:news:99716 Sun, 28 Jun 2015 22:00:25 +0700

หลังจากที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการการอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วยการประกาศร่วมทุนเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าระหว่าง บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เจ้าแห่งการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งกรุงเทพฯ และ แสนสิริ ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นนำ ในที่สุด โครงการปฐมฤกษ์ระหว่างการร่วมมือดังกล่าวก็ได้ถือกำเนิดขึ้นกับคอนโดมิเนียมไฮไรส์หรู มูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท นามว่า “เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต” ภายใต้แนวคิด
Location is Everything บททำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต และ MRT สถานีจัตุจักร เพียง 350 เมตร พร้อมสร้าง Skywalk เชื่อมเข้าสู่ Convenience Store และโครงการที่รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวของสวนสาธารณะขนาดกว่า 700 ไร่

เจาะลึกโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2558)
– ชื่อโครงการ: เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต (The Line Jatujak-Mochit)
– ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง วัน จำกัด
– ทำเลที่ตั้ง: ถนนพหลโยธิน (ตรงข้ามสวนจตุจักร) แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

the line
สำนักงานขายโครงการ

พื้นที่โครงการ: ประมาณ 4 ไร่ 3 งาน
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมดีไซน์รูปตัว L ความสูง 43 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 841 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: เน้นรองรับความต้องการของกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการความคล่องตัว รวมถึงชาวต่างชาติ
สถานะก่อสร้าง: กำลังก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน กุมภาพันธ์ 2561
ระบบความปลอดภัย: Access Key Card, Digital Door Lock เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 7 – 43
ส่วนกลาง: ตั้งอยู่บริเวณ Lobby ด้านล่าง, ชั้น 7 และชั้น 40
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 5 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 -6 และบริเวณด้านล่างโดยรอบโครงการ (คิดเป็น 63 % ไม่รวมซ้อนคัน) ซึ่งผู้พักอาศัย 1-2 ห้องนอน ได้สิทธิ์จอดรถ 1 คัน ส่วน 3 ห้องนอนได้ 2 คัน แบบไม่ Fix
สถานะการขาย: หลังเปิดพรีเซลทั้งในกรุงเทพฯ ฮ่องกง และสิงค์โปร์ เมื่อวันที่ 30-31 พ.ค. 58 ที่ผ่านมาหมด 100% แล้ว โดยเปิดให้ลูกค้าคนไทยได้จองห้องชุดในชั้น 7-28 และ 33 ส่วนลูกค้าต่างชาติเริ่มต้นที่ชั้น 29 เป็นต้นไป ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 70% นิยมซื้อเพื่อการลงทุน โดยเฉพาะชาวสิงคโปร์
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 500 บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ ตร.ม. / เดือน
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 4 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 150,000 บาท / ตร.ม.

the line
ภาพ via facebook.com/sansiri.theline

รูปแบบห้อง: ตกแต่งแบบ Fully-fitted โดยแต่ละชั้นคละแบบห้องกัน แต่ห้อง Duplex จะมีเพียง 5 ยูนิต และจะอยู่บริเวณชั้น 42 – 43 เท่านั้น
1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ                 25.25 – 47.00   ตารางเมตร (คิดเป็น 79% ของยูนิตทั้งหมด)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ                 53.50 – 66.00   ตารางเมตร (คิดเป็น 16% ของยูนิตทั้งหมด)
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ                 77.75 – 85.25   ตารางเมตร (คิดเป็น 2% ของยูนิตทั้งหมด)
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ดูเพล็กซ์) 84.50 – 103.75 ตารางเมตร (4 ยูนิต)
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ดูเพล็กซ์) 105.75              ตารางเมตร (1 ยูนิต)

the line

The Line

The Line

The Line

The Line

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

The Line
ภาพ via mrta.co.th

ทำเลจตุจักร หมอชิต ถือเป็นย่านที่มีความคึกคัก เนื่องจากเป็นศูนย์รวมความสะดวกสบายทั้งการใช้ชีวิต ทำงานและการเดินทาง ประกอบกับแผนการพัฒนาโครงสร้างคมนาคมของรัฐ อย่างการเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ คูคต ที่ใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกวัน ทำให้ศักยภาพของย่านนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ต่างๆ อาทิ ธนาคารทหารไทย และปตท. รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว และยูเนียน มอลล์ ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยนั้น ทำเลนี้ก็ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือแสนสิริที่จับมือกับบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าขึ้นมาเพื่อปลุกดีมานด์ของทำเลนี้ ด้วยโครงการนำร่องความร่วมมืออย่าง “เดอะไลน์ จตุจักร-หมอชิต) โดยชูจุดขายความสะดวกสบายของการเดินทางด้วยการทำทาง Skywalk เชื่อมกับสถานี BTS หมอชิตระยะทาง 400 เมตรเข้าสู่โครงการ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินดอนเมืองจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้โครงการนี้ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ-นักลงทุนชาวต่างชาติ

อีกหนึ่งไฮไลท์ของโครงการที่อยู่ในย่านนี้ก็คืออยู่ใกล้กับพื้นที่ที่เปรียบเสมือนปอดของกรุงเทพฯ แห่งหนึ่งอย่างสวนจตุจักรซึ่งมีพื้นที่กว่า 700 ไร่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติ ในขณะที่บรรดาขาช้อปทั้งหลายอาจจะชอบใจกับการที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดอ.ต.ก. JJ Mall, JJ Market และ JJ Green ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ลงตัวระดับหนึ่ง

การเดินทาง

The Line

– รถไฟฟ้า BTS
BTS มุ่งหน้ามายังสถานีหมอชิตใช้ทางออกที่ 4 เดินขึ้นมาทางธนาคารทหารไทย สำนักงานใหญ่ โครงการจะอยู่ในซอยก่อนถึงธนาคารทหารไทย ในอนาคตจะมีการสร้าง Skywalk จากสถานี BTS มาถึงโครงการ ซึ่งทางเชื่อมนี้จะแล้วเสร็จก่อนโครงการ
– รถไฟใต้ดิน MRT
ตีตั๋วมายังสถานีจตุจักร แล้วเลือกทางออกที่ 3 เดินต่อมาอีกนิดหรือจะนั่งวินมอเตอร์ไซค์ เพียง 350 เมตร ถึงที่หมาย
– รถยนต์ส่วนตัว
สำหรับผู้ที่ขับรถส่วนตัว และมาจากฝั่งสุขุมวิท ให้ใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และถนนหมายเลข 31 ไปทางคู่ขนานวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปทางจตุจักร เข้าถนนพหลโยธิน ตรงมาเรื่อยๆ โครงการอยู่ซ้ายมือ ข้างตึกสำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย

The line
สภาพการจราจรตอนบ่ายบนถนนพหลโยธิน โล่งใช้ได้เลยทีเดียว ตรงกันข้ามกับช่วงเช้าและเย็นเลย

สถานที่แนว Lifestyle
ไม่ว่ากี่ยุคสมัย บรรดาวัยรุ่นขาโจ๋ หรือ เด็กแนว ต่างไม่พลาดไปเดินช้อปของเก๋ มีสไตล์ ณ ตลาดนัดสวนจตุจักร แลนด์มาร์คย่านหมอชิต ซึ่งปัจจุบันได้ขยายอาณาจักรออกเป็น JJ Mall และ JJ Green เพื่อตอบสนองความต้องการของฮิปส์เตอร์ สมัยนี้ อีกทั้งด้วยกระแสเทรนด์รักสุขภาพ กำลังเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศ ทุกวัย สวนสาธารณะใจกลางเมือง พื้นที่สีเขียวของกรุงเทพฯ อย่าง สวนรถไฟ สวนจตุจักร สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย และยิ่งไปกว่านั้นหากเมื่อมาย่านนี้แล้ว ทั้งบรรดาหนุ่มสาว หรือกลุ่มครอบครัว มักนิยมแวะเพลินเพลินกับอาหาร ของอร่อยขึ้นชื่อ ณตลาด อ.ต.ก.

สวนสาธารณะ

The Line
ภาพ via facebook.com/H.M.QueenSirikitPark

– สวนจตุจักร (ห่างจากโครงการ 70 เมตร)
– สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– สวนรถไฟ (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)

แหล่งช้อปปิ้ง

The line
ภาพ via facebook.com/jjgreen59

– JJ Mall (ห่างจากโครงการ 450 เมตร)
– JJ Green (ห่างจากโครงการ 800 เมตร)
– JJ Market (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– ตลาด อ.ต.ก. (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– ยูเนียน มอลล์ (ห่างจากโครงการ 800 เมตร)

โรงพยาบาล
– โรงพยาบาลเปาโล (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)
– โรงพยาบาลวิภาวดี (ห่างจากโครงการ 6 กิโลเมตร)

โรงเรียน
– โรงเรียนเซนต์จอห์น (ห่างจากโครงการ 750 เมตร)
– โรงเรียนหอวัง (ห่างจากโครงการ 1.5 กิโลเมตร)
– มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน (ห่างจากโครงการ 7 กิโลเมตร)

สนามบินดอนเมือง (ห่างจากโครงการ 8 กิโลเมตร)
ขนส่งหมอชิต 2 (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)

รีวิวภาพรวมโครงการ
จากการเริ่มต้นแนวคิดของโครงการด้วยการร่วมมือกับ BTS สร้าง Skywalk เชื่อมเข้าสู่โครงการ และ Convenience Store ที่เปิด – ปิด ตามเวลาของ BTS ทำให้ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างมาก โดยทิศที่นิยมมีดังนี้
อันดับ 1 ทิศเหนือ ชมวิวทิวทัศน์ของสวนจตุจักร และบีทีเอส
อันดับ 2 ทิศตะวันตก เพลิดเพลินกับถนนพหลโยธิน และสวนจตุจักร
อันดับ 3 ทิศตะวันออก เปิดหน้าต่างเจอที่จอดรถของสำนักงานใหญ่ธนาคาร TMB ซึ่งปัจจุบันเช่าพื้นที่บีทีเอส
อยู่ และในอนาคตคาดว่าจะมีโครงการมาสร้างในพื้นที่นี้แทน
อันดับ 4 ทิศใต้ มุมนี้ได้ราคาถูกลงกว่าทิศอื่น เนื่องจากมีตึกสำนักงานของบีทีเอสประมาณ 14 ชั้น บังวิว แต่ไม่ได้ติดกับโครงการมากนัก

The line
บีทีเอส สายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ในอนาคตอยู่หน้าโครงการ พร้อมมี Skywalk เชื่อมเข้าสู่ ชั้น 6 ของ Convenience Store และโครงการ

The Line
ทิศใต้ของโครงการ ที่ถูกบดบังวิวจากตึกสำนักงานใหญ่บีทีเอส 14 ชั้น แต่ไม่ถึงกับติดมากนัก

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ The Line ถูกออกแบบในสไตล์ New York Loft โทนสีน้ำตาลทอง พร้อมชูจุดเด่นของโครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Game Room, ห้องสมุด, Business Lounge, ห้องออกกำลังกาย, ห้องเด็กเล่น, สระว่ายน้ำ และ Aqua Lounge

The Line

นอกจากโครงการจะรายล้อมด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่แล้ว ภายในโครงการเองก็มีการสร้างพื้นที่สีเขียว โดยคัดเลือกพันธุ์ต้นไม้ ให้เลียนแบบธรรมชาติตามรูปแบบของภูมิประเทศ อาทิ โซนริมน้ำ ที่ราบลุ่ม ที่ราบสูง และป่าภูเขา

The line
ชั้น G – Lobby สไตล์ New York Loft รายล้อมด้วยสวนหย่อมของต้นไม้ นานาพันธุ์

The line (20)
ชั้น G – เต็มความรู้ภายในห้องสมุดที่จะมีหนังสือสลับ ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนไม่ให้จำเจ และมีบริการ Wifi ฟรีไว้ให้ลูกบ้านท่องโลกออนไลน์ได้อีกด้วย

The line
ชั้น 7 – บรรยากาศของ Game Room มุมผ่อนคลายสไตล์หนุ่มสาว

The line
ชั้น 7 – มุม Kids Room สนุกสนานกับอุปกรณ์เครื่องเล่น หนังสือนิทาน หรือแม้กระทั่งบ้านบอลภายในโครงการ

The line
ชั้น 7 – สระว่ายน้ำ พร้อมสระเด็ก ระบบเกลือ ยาว 40 เมตร พร้อมชมทัศนียภาพของสวนรถไฟ

The line
ชั้น 41 – Aqua Lounge ออกแบบเป็น Sunken พร้อมจากุชชี่ ให้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ผืนน้ำ และวิวเมือง

The line
ชั้น 41 – ส่วนของห้องออกกำลังกายให้ฟิตร่างกาย ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ 180 องศา

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 12 มม.
พื้นจรดเพดาน: ห้องนอนและห้องนั่งเล่นมีความสูงจากพื้น 2.7 เมตร ส่วนหัวครัว ห้องน้ำ 2.4 เมตร
ระเบียง : เริ่มต้นความกว้าง 2.4 เมตร (เฉพาะห้อง 2 ห้องนอน ขึ้นไป)
ประตู : บานประตู HDF ติดตั้ง Digital Door Lock
ชุดครัว : Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน จาก Mex
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ : Cotto
เฟอร์นิเจอร์: Fully Fitted
เครื่องปรับอากาศ: ห้องนั่งเล่น ติดฝาพนัง และห้องนอน เป็นแบบแขวน จาก Daikin

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (1 A – 1) 25.75 – 26.50 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

ภายในห้องนั่งเล่น โซฟา และอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมด เป็นไอเดียสำหรับให้ผู้อยู่อาศัยเท่านั้น สิ่งที่ได้สำหรับมุมนี้คือ ระบบไฟ พื้น
ลามิเนตหนาถึง 12 มม. สีตามรูป และเครื่องปรับอากาศยี้ห้อไดกิ้น ติดผนัง
the line

มุมมองการแบ่งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว
the line

ส่วนของห้องครัวกับห้องนั่งเล่น ไม่มีประตูบานเลื่อนกั้น แต่สำหรับห้องนอนจะมีประตูแบ่งเป็นสัดส่วน
the line

ส่วนของห้องครัว Built-in เครื่องครัวยี่ห้อ Mex ให้ พร้อมจัดวางโต๊ะกินข้าว เพื่อเป็นไอเดียให้กับผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังสามารถเลื่อนประตู ที่ทางโครงการเลือกใช้สีชา เพื่อลดความร้อนและแสงเข้าห้อง ระเบียงด้านนอกมีการทำระแนงบังคอมเพรสเซอร์แอร์ให้
the line

สิ่งที่ได้จากการ Built-in เครื่องครัวยี่ห้อ Mex คือ เตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควัน ตู้วางเก็บของ และซิ้งค์ล้างจาน
the line

ห้องนอน Built-in ตู้เสื้อผ้าตามขนาดห้อง โดยมีที่วางกระเป๋าเดินทางให้ด้านบน พร้อมติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง ให้รับลมธรรมชาติด้านนอก แต่ส่วนที่วางของบนหัวเตียง ของจริงเป็นผนังธรรมดา
the line (25)

โครงการติดตั้งปลั๊ก แบบมีฝาครอบ ให้บริเวณระเบียง เพื่อไว้เสียบเครื่องซักผ้า แต่ส่วนด้านในห้อง ปลั๊กและระบบไฟเป็นในลักษณะติดฝาผนัง ไม่ได้ซ่อนกับพื้นให้
the line

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (1 B – 1) 34.25 – 34.75 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

ห้อง 1 ห้องนอน เพิ่มพื้นที่มากขึ้น การแบ่งสัดส่วนห้องยิ่งเห็นชัดเจน
the line

เปิดประตูมาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ภาพที่เห็นนั้น เป็นเพียงแค่ไอเดียการตกแต่งเท่านั้น
the line

ห้องนี้จะมีความเป็นสัดส่วนขึ้นเมื่อส่วนของห้องครัว กั้นด้วยประตูสีชาบานเลื่อน พร้อม Built-in เครื่องครัวเหมือนห้องแรก แต่ขนาดจะเพิ่มขึ้นตามห้อง
the line

ส่วนของห้องนอน มีพื้นที่มากขึ้น สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต
the line

และเมื่อมีพื้นที่มากขึ้น จึงทำให้สามารถวางโต๊ะทำงานได้เพิ่มภายในห้องนอน
the line

ส่วนของห้องนอนยูนิตนี้ มีพื้นที่ของระเบียงตามเส้นสายของสถาปัตยกรรมตึก แต่ไม่สามารถออกไปได้ มีเพียงไว้ให้สัมผัสธรรมชาติที่รายล้อมด้านนอกเท่านั้น
the line

ห้องน้ำของยูนิตนี้จะเหมือนกับห้องแรก สิ่งที่ได้คือ สุขภัณฑ์จาก Cotto มีตู้ ลิ้นชักเก็บของ Rain Shower และ ชักโครก รุ่นทูนิโอ้ มีไฟ LED เวลาเดินผ่านมีเซนเซอร์ ตัวฝาเปิดอัตโนมัติ แถมประหยัดน้ำ 4.8 ลิตร
the line

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 Bedroom ( 2 D) 82.25 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted

เป็นเรื่องปกติของยูนิต 2 ห้องนอน ในโครงการแสนสิริ ที่มักออกแบบให้มีห้องนั่งเล่น ห้องครัวอยู่ตรงกลาง และแบ่งห้องนอนMaster กับห้องนอนเล็ก ไว้ซ้าย – ขวา
the line

ห้องครัวของยูนิตนี้ มีสัดส่วนใหญ่ตามขนาดห้อง สิ่งที่ได้เพิ่มมากว่าห้องอื่น คือ ตู้วางของที่เยอะขึ้น
the line

ห้องนอนเล็ก อยู่บริเวณ ขวามือของห้อง สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต และมีหน้าต่างบานกระทุ้งเหมือนห้องอื่น
the line

ห้องนอน Master สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต มีหน้าต่างบานกระทุ้งเช่นกัน the line

ห้องน้ำของยูนิตนี้ ความพิเศษของชักโครกตัวท๊อปนั้นจะอยู่ที่ห้องนอน Master เท่านั้น
the line

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่ได้รับ
– อัตราค่าเช่าห้องชุด เปรียบเทียบกับย่านสะพานควาย อยู่ที่ 500 – 600 / ตารางเมตร/ เดือน
– ส่วนห้อง 1 ห้องนอน อัตราค่าเช่าอยู่ที่ 15,000 บาท/ เดือน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
M Jatujak
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A สูง 32 ชั้น และอาคาร B สูง 34 ชั้น 864 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 28-115 ตร.ม. ที่จอดรถ 50 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 135,500 บาท / ตร.ม. หรือสามารถดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/4/91466/รีวิวโครงการเอ็ม-จตุจักร-m-jatujak

M-Jatujak

Equinox
อีกหนึ่งโครงการของค่าย เมเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ บนที่ดิน 3 ไร่ 92 ตารางวา เป็น อาคารสูง 42 ชั้น 490 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน และ Duplex Penthouse พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 40-290 ตร.ม. ที่จอดรถ 90% ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 120,000 บาท / ตร.ม.

Equinox

The Saint Residences
คอนโดมิเนียมของบริษัท ซาแลน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดินประมาณ 7 ไร่ 3 อาคาร สูง 21 ชั้น แบ่งเป็น อาคาร A 409 ยูนิต อาคาร B 407 ยูนิต และอาคาร C 721 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดโครงการ 30 – 134 ตร.ม. ที่จอดรถ 48 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 126,000 บาท / ตร.ม.

The Saint

บทสรุป
จุดขายหลักของโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร – หมอชิต นอกจากจะชูศักยภาพทำเลใกล้รถไฟฟ้า เพียง 350 เมตรแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ความสะดวกสบายที่ถือเป็น add-on สำหรับผู้ที่ซื้อโครงการนี้ก็คือ Skywalk และการสร้างร้านสะดวกซื้อไว้หน้าโครงการ ด้วยความที่เป็นโครงการที่อยู่ใกล้แหล่งงาน สถานศึกษา ราคาขายต่อตารางเมตรที่ไม่ถือว่าแรงมาก (เมื่อเทียบกับคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าในปัจจุบัน) จึงทำให้ดีมานด์ที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับการเป็นโครงการแนวรถไฟฟ้าในระยะที่เดินได้ แนวโน้มราคาของโครงการนี้คาดว่าจะมีแต่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเป็นรูปเป็นร่างในอนาคตอันใกล้

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:เฮ้าส์ 35 แจ้งวัฒนะ(Haus 35 Chaengwattana)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/6/99479/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%25ae%25e0%25b9%2589%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25aa%25e0%25b9%258c-35-%25e0%25b9%2581%25e0%25b8%2588%25e0%25b9%2589 www.ddproperty.com:news:99479 Thu, 25 Jun 2015 01:00:53 +0700

แม้วันนี้โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ยังไม่ถึงกำหนดคลอด หากแต่ทำเลถนนแจ้งวัฒนะ (ถนนช่วงสั้นๆ แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงท่าเรือปากเกร็ด-แยกปากเกร็ด ช่วงทางแยกปากเกร็ด-คลองประปา และช่วงอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ (วงเวียนหลักสี่) -คลองประปา) ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะพาดผ่านตามกำหนดในปี 2560 นั้นกลับเป็นทำเลที่ติดลมบนเรื่องของการสร้างที่อยู่อาศัยทุกประเภทอยู่ในขณะนี้

ด้วยเพราะปัจจัยบวกจากกำลังซื้อของหน่วยงานในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ รวมถึงกระทรวงกลาโหม (ในเมืองทองธานี), บริษัท TOT, บริษัทไปรษณีย์ไทย, และหน่วยงานทหาร อาทิ กองพล ปตอ.ที่ 6, กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 1 กองพันทหารราบที่ 2 ที่เตรียมหาที่อยู่อาศัยใหม่เมื่อใกล้เกษียณในย่านที่ทำงานเดิมหรือลูกหลานที่เริ่มมีครอบครัวใหม่ต้องการขยับขยายบ้าน เพราะบ้านพักราชการไม่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยนั่นเอง นอกจากนี้หน่วยงานเอกชนในอาคารสำนักงานของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ, อาคารจัสมิน และอาคารอื่นๆ ในย่านนี้มีความต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน ซึ่งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน

ทั้งนี้หากดูระดับราคาขายของโครงการประเภทบ้านเดี่ยวก็มีตั้งแต่ 3 ล้านบาทเศษ- 15 ล้านบาท เช่น โครงการโกลเด้น อเวนิว แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคาเริ่มต้นที่ 3.85 ล้านบาท เป็นต้น

ส่วนทาวน์โฮมมีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาทเศษ – 8 ล้านบาท เช่น เดอะแพลนท์ ซิตี้ แจ้งวัฒนะ

ทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท, พรีโน่ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ ทาวน์โฮม 2 ชั้น ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาทและโมทาวน์บริโอ แจ้งวัฒนะ-ประชาชื่น โฮมออฟฟิศ ราคาเริ่มต้นที่ 3.89 ล้านบาทเป็นต้น

เหล่านี้จึงทำให้ย่านนี้เติบโตเปลี่ยนจากพื้นที่ว่างเปล่า มาเป็นความคึกคักในช่วงเวลาไม่ถึง 5 ปี รวมถึงเป็นโอกาสของทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, บมจ. แสนสิริ, บมจ.พฤกษา, บมจ. แอล.พี.เอ็น. และ บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์

ไปจนถึงรายกลางถึงรายเล็กอย่างกลุ่มบริษัทโอทู กับประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากว่า 30 ปีในการพัฒนาทาวน์โฮมในย่านแจ้งวัฒนะ-เกษตร โดยมี 5 แบรนด์ที่ใช้ในการพัฒนาทาวน์โฮม ได้แก่ บ้านนวนิช, The Roof 1-2, The Attic 1-2, Vertico และ ล่าสุด Haus

โดยก่อนหน้านี้ในย่านแจ้งวัฒนะ บริษัทได้เปิดตัวโครงการแอททิค ไลท์ ทาวน์โฮม 3.5 ชั้นขนาด 20 ตารางวา จำนวน 82 ยูนิต ปัจจุบันขายหมดแล้ว ตั้งอยู่หลังศูนย์การค้าเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 และโครงการ Vertico ทาวน์โฮม จำนวน 42 ยูนิต มีลักษณะเป็นคลัสเตอร์ ในสังคมที่เป็นส่วนตัว เมื่อเดือนกันยายนในปีเดียวกัน

และล่าสุดได้ผุดโครงการใหม่ระดับพรีเมียม เฮ้าส์ 35 แจ้งวัฒนะ (Haus 35 Chaengwattana) ทาวน์โฮม 3 ชั้น ขนาดเริ่มต้น 16 ตารางวาขึ้นภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท พีซ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (ในเครือโอทู)

เจาะลึกโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2558)
ชื่อโครงการ: เฮ้าส์ 35 แจ้งวัฒนะ (Haus 35 Chaengwattana)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พีซ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 35 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

Haus 35 Chaengwattana

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 18-0-66.3 (ไร่-งาน- ตารางวา)
รูปแบบ: ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 255 ยูนิต แบ่งเป็น 3 เฟส (ปัจจุบันเปิดขายเฟสสุดท้าย)
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้านหลังแรก อายุเฉลี่ย 25 ปีขึ้นไป
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2557 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2559 ปัจจุบันสร้างเฟส 1 และ 2 ส่วนกลางปี 2559 จะสร้างอีก 2 เฟสที่เหลือ
สถานะการขาย: ยอดขาย 50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด
ค่าส่วนกลาง: 30 บาท/ ตารางวา
ระบบคีย์การ์ด: Key Card Controlled Access
ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV
ส่วนกลาง: ฟิตเนส, สวนส่วนกลาง
ราคาเริ่มต้น: 3.79 – 6.99 ล้านบาท /ยูนิต
เว็บไซต์: www.haus.co.th
โทร: 0-2907-5544

หมายเหตุ: ที่ดินแปลงหัวมุม/ติดสวน คิดค่าทำเลพิเศษเพิ่มเริ่มต้น 100,000 บาท ที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 79,000 บาท

รูปแบบบ้าน มี 3 แบบ คือ
1. Magical ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร เนื้อที่ 16 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน
2. Miracle ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร เนื้อที่ 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
3. Majestic ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 8 เมตร เนื้อที่ 32 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 270 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน

Chaengwattana Road
ถนนแจ้งวัฒนะ

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
อย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นว่าความเจริญที่เกิดขึ้น ทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยที่มีอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อรับรองศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ตลอดจนศูนย์การค้า และสถานที่สำคัญหลายแห่งนั้นส่งผลให้ทำเลแจ้งวัฒนะเปลี่ยนไปมากเมื่อเทียบกับ 4-5 ปีก่อนหน้า และทำให้ถนนเส้นนี้ติดอันดับถนนที่มีการจราจรหนาแน่นแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน

กระนั้นทางภาครัฐก็มีแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ซึ่งมีแนวเส้นทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) โดยมีเส้นทางผ่านถนนติวานนท์ ไปห้าแยกปากเกร็ด เลี้ยวขวาเข้าถนนแจ้งวัฒนะไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงที่บริเวณหลักสี่ และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่บริเวณวงเวียนหลักสี่ ก่อนจะต่อเนื่องไปยังถนนรามอินทราสิ้นสุดที่มีนบุรี โดยจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรลงได้

ปัจจุบันย่านนี้มีโครงการทั้งที่เป็นบ้านเดี่ยว (โครงการส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ต่อเนื่องไปยังสะพานพระราม 4 และถนนชัยพฤกษ์) และทาวน์โฮมเกิดขึ้นมากบริเวณใกล้กับห้างเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ขณะที่คอนโดมิเนียมก็มีอยู่ตามแนวถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งทุกหย่อมหญ้าเจริญทัดเทียมกันเลยก็ว่าได้

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

Chaengwattana Road

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
ทั้งนี้โครงการมีข้อได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่ห่างจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนขั้นที่ 2 เพียง 400 เมตร อยู่ฝั่งเดียวกับเมืองทองธานี ซึ่งถือว่าเดินทางสะดวกสบายมาก โดยสามารถใช้ทางด่วนเข้า-ออกเมืองได้ง่ายคือ ถ้าลงทางด่วนแจ้งวัฒนะให้สังเกตซ้ายมือเป็นไทวัสดุให้เลี้ยวซ้ายมาตามทางกลับรถใต้สะพาน เจอถนนข้ามแยกเลี้ยวขวาก็จะถึงปากซอยพอดี หรือหากมาจากถนนแจ้งวัฒนะก็วิ่งยาวมาจนเจอแม็คโครอยู่ซ้ายมือให้ขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆ จนเจอทางกลับรถใต้สะพานก็ให้ขับมาทางเดียวกับมาจากทางด่วนเช่นกัน

ขณะเดียวกันย่านนี้ก็มีบริการขนส่งสาธารณะทั้งรถโดยสารประจำทาง, รถตู้, รถสองแถว ตลอดจนท่าเรือโดยสารที่ท่าน้ำปากเกร็ดด้วย

Soi Chaengwattana 35

Soi Chaengwattana 35

หากพูดถึงภาพรวมในซอยนี้ก็ถือว่าไม่พลุกพล่าน เพื่อนบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนของประชาชนแต่เดิม เป็นบ้านเดี่ยว มีความเงียบสงบ และร่มรื่นดี หน้าปากซอยก็ดูไม่เปลี่ยวและสว่าง 24 ชม. เพราะมีร้านสะดวกซื้อยึดหัวหาดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Haus 35 map
แผนที่

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว: เดินทางสะดวก ห่างจากจุดขึ้นลงทางด่วนขั้นที่ 2 เพียง 400 เมตร เชื่อมต่อกับสะพานพระราม 4ต่อเนื่องไปยังถนนชัยพฤกษ์และถนนราชพฤกษ์ โดยถ้าใช้ถนนชัยพฤกษ์-ถนน 345 ก็สามารถทะลุไปยังพื้นที่ตอนบนของจังหวัดปทุมธานี หรือถนนวงแหวนรอบนอก ด้านตะวันตกไปยังบางบัวทอง-ตลิ่งชันและสุพรรณบุรี
หากมาจากถนนชัยพฤกษ์ ถนนราชพฤกษ์ ก็สามารถเชื่อมต่อกับถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนนครอินทร์ ถนนกัลปพฤกษ์ ไปยังปิ่นเกล้า, พุทธมณฑลหรือเข้าสู่ถนนสาทร-สีลมได้

นอกจากนี้ยังมีถนนสายรองอื่นๆ อาทิ ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด, ถนนติวานนท์, ถนนเลียบคลองประปา, ถนนประชาชื่น, ถนนศรีสมาน, ถนนสรงประภา, ถนนโลคัลโร้ด ซึ่งสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดเลาะไปยังพื้นที่ต่างๆได้

2. มอเตอร์ไซด์รับจ้าง: หน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ 35

3.รถสองแถว: แจ้งวัฒนะ – เมืองทองฯ และติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ (ไม่เข้าไปในซอย)

4.รถเมล์: สาย 356 , 52 ,166 วิ่งผ่านถนนแจ้งวัฒนะ

5.รถตู้: จากปากซอย ไปสีลมและสะพานตากสิน

6.เรือ: ท่าเรือโดยสารที่ท่าน้ำปากเกร็ด

Central Chaengwattana
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ ภาพ via facebook.com/CentralPlazaChaengwattanaFanpage

Impact muang thong thani
อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ภาพ via  impact.co.th

สถานที่แนว Lifestyle
แน่นอนว่าในย่านนี้แหล่งช้อปปิ้ง นั่งกินอาหารอร่อยพร้อมแอร์เย็นๆ คงหนีไม่พ้น เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ รวมไปถึงแหล่งจับจ่ายใช้สอยอื่นๆ อย่าง Makro, Big C, โฮมโปร, IT Square และเทสโก้ โลตัส รวมถึงบ่อยครั้งที่เข้าไปดูงานแสดงสินค้าต่างๆ และชมคอนเสิร์ตที่ อิมแพคอารีน่าเมืองทองธานี นอกจากนี้ก็ใกล้กับสถานที่สำคัญอื่นๆ อย่างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ,โรงเรียนนานาชาติ ISB ,โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะและ ม.สุโขทัยฯ อีกด้วย และอีกไม่ช้าแว่วว่าจะมีห้างของผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างกลุ่มเดอะมอลล์มาปักหลักอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะอีกด้วย

Yes Indeed Chaengwattana
Yes Indeed Chaengwattana ร้านอาหารและบาร์ริมถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้า ก่อนถึงเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ภาพ via facebook.com/YesIndeedChaengwattana

Waft Me Pakkret
ร้าน Waft Me Pakkret ใกล้ๆ กับ Health Land แจ้งวัฒนะ เยื้องกับเซ็นทรัล เเจ้งวัฒนะ ภาพ via facebook.com/waftme

รีวิวภาพรวมโครงการ

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
บริเวณด้านหน้าโครงการ

Haus 35 Chaengwattana
ด้านหลังกำลังก่อสร้างบ้าน

โดยภาพรวมภายในโครงการมีความเป็นส่วนตัวมาก เพราะจากถนนทางเข้าโครงการด้านหน้าจะเป็นคลับเฮ้าส์ ตัวบ้านจะอยู่ด้านใน ถนนเข้าโครงการกว้าง 12 เมตร ถนนในโครงการกว้าง 9 เมตร และ 8 เมตร

Haus 35 Chaengwattana
แปลนบ้านแบบ Magical หน้ากว้าง 4 เมตร

Haus 35 Chaengwattana
แปลนบ้านแบบ Miracle หน้ากว้าง 5 เมตร

Layout:
โครงการนี้ได้บริษัท สถาปนิกตะวันออก จำกัดมาเป็นผู้ออกแบบโครงการให้ ในสถาปัตยกรรมสไตล์ Mordern Cultural Loft ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยบันไดวน เชื่อมต่อกับใต้หลังคา โปร่งโล่งด้วย Triple Volume Space โถงโล่งต่อเนื่องขนาดใหญ่บนชั้น 3 ที่มีความสูงของพื้นถึงเพดาน 5.5 เมตร เป็นบ้านประหยัดพลังงานด้วย ฝ้าสูง วงกบขนาด 2.40 เมตร และ Skylight พร้อมห้องน้ำสไตล์รีสอร์ท แบบ Semi Outdoor ที่สำคัญใช้การก่อสร้างแบบก่ออิฐมวลเบาและอิฐมอญทั้งหลัง

สิ่งที่จะได้รับ:
พื้น: ชั้นล่างกระเบื้องแกรนิตโต้ 60X60 ชั้น 2 ,3และชั้นลอยเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม.
ผนัง: ทาสี
พื้นจรดเพดาน: ชั้น 1,2 สูง 2.4 เมตร High ceiling ตั้งแต่ชั้น 3 ถึงชั้นลอยสูง 5.5 ม.
เฟอร์นิเจอร์ : ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละช่วง
สุขภัณฑ์ : ยี่ห้อ American Standard หรือเทียบเท่า
ชุดครัว : ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละช่วง
บันไดและราวบันได : พื้นไม้คอนวูด ราวเหล็ก

หมายเหตุ:: แปลงขายทุกยูนิตเป็นบ้านเปล่า พร้อมรายละเอียดข้างต้น โครงการจัดโปรโมชั่น ณ วันนี้คือ ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์, จองพร้อมทำสัญญารับทองคำหนัก 1 บาท, แถมเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง (ห้องนอน) และฟรีค่าส่วนกลางล่วงหน้า 2 ปี, ผ้าม่านทั้งหลัง, ชุดครัว Starmark, ฟรีค่าส่วนกลาง (โปรโมชั่นสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม 2558 นี้)

Haus 35 Chaengwattana
คลับเฮ้าส์ด้านหน้าโครงการ พร้อมใช้งานแล้ว

Haus 35 Chaengwattana
สวนสาธารณะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: คลับเฮ้าส์, สวนสาธารณะ, ฟิตเนสและจ๊อกกิ้งแทร็ค พร้อมฟรี WiFi ในคลับเฮ้าส์

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ตัวอย่างด้านหน้าบ้านและหลังบ้าน

Haus 35 Chaengwattana
วิวทิศใต้เห็นทางด่วน

การวางทิศทางบ้าน: วางผังบ้านตามทิศเหนือและทิศใต้ แต่เน้นทิศใต้มากกว่าเพื่อการรับลมที่ดีกว่า โดย
ทิศใต้: ได้วิวทางด่วน ไม่มีตึกสูงบังตา
ทิศเหนือ : เป็นบ้านเรือนประชาชน ไม่มีตึกสูงบังตาเช่นกัน

รีวิวภายในบ้าน
สำหรับบรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง มี 2 แบบ โดยทั้งสองแบบต่างกันที่ขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอย และการวางแปลนบ้าน การวางบันได เนื้อที่ 16 ตารางวา บันไดจะอยู่ด้านหลัง ส่วน 20 ตารางวาจะอยู่ด้านข้าง แต่ทั้งสองแบบจะมีพื้นที่สวนด้านหลังบ้าน รวมถึงมีบันไดวนขึ้นชั้นลอยพร้อมระเบียงกว้าง

เริ่มที่:
1. Miracle ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ลึก 16 เมตร เนื้อที่ 20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 200 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน

Haus 35 Chaengwattana
ทางเข้าบ้าน

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ชั้นล่าง ตกแต่งเปิดโล่งด้วยส่วนรับประทานอาหารและครัวแพนทรีเชื่อมต่อไปยังสวนหลังบ้าน

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ไอเดียการตกแต่งสวนหลังบ้าน ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 2.80 เมตร

Haus 35 Chaengwattana
ใต้บันไดสามารถวางเครื่องซักผ้าหรือจะทำเป็นที่เก็บของก็ได้

Haus 35 Chaengwattana
บันไดได้ตามภาพ

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ห้องน้ำชั้นล่างได้สุขภัณฑ์ตามภาพ

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

ห้องนอนตัวอย่างชั้น 2 มีสองห้องออกแบบให้ทะลุถึงกันได้ ใช้ห้องน้ำร่วมกัน

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

ห้องนอนชั้น 3 สามรถตกแต่งเป็นที่นั่งพักผ่อน ชมสวนแนวตั้งได้

Haus 35 Chaengwattana
ห้องน้ำชั้น 3 ได้สุขภัณฑ์ตามภาพ

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ชั้น 3 กับชั้นลอยเชื่อมต่อด้วยบันไดวน (ได้บันไดตามภาพ)

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ห้องใต้หลังคาเปิดโล่ง สามารถทำเป็นห้องนอนได้อีก 1 ห้อง

Haus 35 Chaengwattana
ระเบียงด้านนอกกว้าง 5 เมตร

Haus 35 Chaengwattana
พื้นที่ว่างด้านข้าง ทำเป็นสวนแนวตั้งได้ มองทะลุถึงชั้น 2

2. Magical ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร ลึก 16 เมตร เนื้อที่ 16 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 160 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 1 คัน

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ชั้นล่าง แต่งผนังปูนเปลือยให้อารมณ์แบบดิบๆ (บ้านจริงเป็นผนังปูนทาสีธรรมดา) แต่งที่ว่างใต้บันไดเป็นที่เก็บของใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ห้องน้ำชั้นล่าง มีที่ระบายอากาศด้านบน

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
พื้นที่ว่างด้านหลังบ้าน สามารถทำเป็นสวนและครัวไทยไว้ปาร์ตี้ได้ รวมถึงมีที่เก็บของด้านข้าง

Haus 35 Chaengwattana
บันไดทางขึ้นชั้น 2 แต่งด้วยช่องว่างข้างบันได ปลูกต้นไม้ในร่มได้

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ห้องนอนชั้น2 ออกแบบให้เป็นห้องนอนใหญ่ เพียง1ห้อง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่กว้างในห้องนอนมากๆ

Haus 35 Chaengwattana
ห้องน้ำชั้น 2 กว้างกว่าห้องน้ำชั้นอื่นๆได้สุขภัณฑ์ตามภาพ

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
ห้องนอนชั้น 3 พิเศษตรงที่ระเบียงห้องด้านข้าง สามารถเปิดทะลุไปหาห้องน้ำได้ สามารถทำเป็นที่อาบน้ำแบบ Outdoor ได้

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana

Haus 35 Chaengwattana
บริเวณชั้นลอยเชื่อมต่อด้วยบันไดวนเช่นเดียวกับแบบแรก สามารถทำเป็นห้องนอนได้อีกเช่นกัน รวมถึงมีระเบียงด้านนอกเช่นกัน

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
อัตราค่าเช่ารายเดือน : 25,000 – 30,000 บาท/ ยูนิต/เดือน
ปัจจุบันที่ดินเปล่าติดถนนใหญ่มีราคาขายเฉลี่ย 100,000 – 120,000 บาท/ ตารางวาขึ้นไป ส่วนในซอยราคาขายเฉลี่ย 88,000 บาท/ ตารางวา ในอนาคตคาดว่าหากรถไฟฟ้าสายสีชมพูเริ่มตอกเสาเข็ม ราคาที่ดินจะปรับขึ้นแน่นอน

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
1.โครงการเดอะแพลนท์ ซิตี้ แจ้งวัฒนะ ( Plant Citi Chaengwatthana) ทาวน์โฮม 3 ชั้น ที่ตั้งอยู่ติดจุดขึ้น-ลงทางด่วน ตรงข้าม เลคเมืองทอง ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 155 ตร.ม.จำนวน 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน สำหรับ ราคาเริ่มต้น 4.19 ล้านบาท

The Plant Citi Chaengwattana

2.โครงการ Pleno ติวานนท์ – แจ้งวัฒนะ ซอยพระแม่การุณย์ ถนนติวานนท์ ของบริษัท เอพี(ไทยแลนด์)จำกัด(มหาชน) เนื้อที่ 22-3-63.2 ไร่ จำนวนยูนิต 214 ยูนิต ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม.พื้นที่ใช้สอย 109 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท

Pleno Tiwanon-Chaengwattana

บทสรุป
โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวกสบายอยู่ใกล้กับจุดขึ้น – ลงทางด่วนขั้นที่ 2 มาก ทำให้สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองโดยใช้ทางด่วนนี้ได้อย่างสะดวก และยังเดินทางด้วยวิธีอื่นรวมแล้วกว่า 6 วิธี (ดูได้จากหัวข้อ: การเดินทาง) และหากมองในแง่ของการลงทุนถือว่าราคานี้ไม่สูงมาก เนื่องจากทำเลแจ้งวัฒนะนับเป็นศูนย์รวมความเจริญที่ครบครันและมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะหากรถไฟฟ้าสายสีชมพูเริ่มตอกเสาเข็มราคาจะขยับพุ่งขึ้นอีกแน่นอน อีกเหตุผลหนึ่งคือ ทำเลนี้ใกล้กับแหล่งความเจริญหลายด้านด้วย สำหรับคนที่กังวลถึงการจราจรที่หนาแน่นของถนนแจ้งวัฒนะในชั่วโมงเร่งด่วน อาจต้องมองแบบยาวๆ เมื่อมีรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งโครงการดังกล่าวใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นทุกขณะ

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ดิ ไอริส บางใหญ่ (The Iris Bangyai)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/6/98700/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b8%2594%25e0%25b8%25b4-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25aa-%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b2 www.ddproperty.com:news:98700 Fri, 19 Jun 2015 00:00:28 +0700

หากคิดจะลงทุนเก็งกำไรหรือจะซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หาคอนโดมิเนียมราคาล้านต้นๆ มีรถไฟฟ้าผ่าน ใกล้ห้าง เดินทางสะดวกสบายแล้วนั้น คอนโดฯ ทำเลรัตนาธิเบศร์ – บางใหญ่ถือว่าไม่ขี้เหร่ แถมยังมาแรงแซงทางโค้งหลายทำเลอยู่ในขณะนี้ เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ -บางใหญ่) เริ่มตอกเสาเข็ม ที่ดินแบนราบหลายแปลงก็กลายเป็นแท่งสูงสี่เหลี่ยมในชั่วพริบตา

บิ๊กอสังหาฯ หลายค่ายต่างกวาดยึดทำเลริมถนนใหญ่เกาะแนวรถไฟฟ้าสร้างตึกสูง หนาแน่น กระจุกตัวเป็นพิเศษตั้งแต่แยกแครายไปจนถึงช่วงก่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพราะไม่ไกลจากศูนย์การค้าชื่อดังอย่างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ไม่เพียงแต่คอนโดฯไฮไรส์เท่านั้น หากแต่โลว์ไรส์ 8 ชั้น ที่อยู่ในซอยก็มีให้เลือกอีกมากพอสมควร ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 60,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงของถนนติวานนท์ใกล้แยกแคราย

ทั้งนี้ หลังข้ามแยกแม่น้ำเจ้าพระยามาจะค่อยๆ ซาลง แล้วจะมาหนาแน่นอีกครั้งบริเวณสามแยกบางใหญ่ ซึ่งโซนนี้มีค่ายใหญ่ๆ อย่างพฤกษาฯ ที่เปิดขายโครงการพลัมคอนโด บางใหญ่ สเตชั่น และพลัมคอนโด เซ็นทรัล สเตชั่น ส่วนคิวเฮ้าส์ก็เปิดตัวโครงการ คาซ่า คอนโด บางใหญ่ และปลายปีนี้ก็แว่วมาว่าจะเพิ่มอีกหนึ่งโครงการแถวสถานีคลองบางไผ่ภายใต้แบรนด์ คาซ่า คอนโด เช่นกัน

เช่นเดียวกับไอริส กรุ๊ป ที่โดดร่วมวงชิงส่วนแบ่งตลาดในย่านนี้กับโครงการ “ดิ ไอริส บางใหญ่” ซึ่งเป็นคอนโดฯ หนึ่งเดียวของบริษัทที่มาเปิดศึกในย่านนี้ด้วยเช่นกัน

The Iris Bangyai
ภาพตัวอย่างโครงการ

เจาะลึกโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2558)
ชื่อโครงการ: ดิ ไอริส บางใหญ่ (The Iris Bangyai)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ซอยจันทร์ทองเอี่ยม ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
เว็บไซต์: iriscondo.com

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 9 ไร่ 2 งาน 73.54 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 5 อาคาร จำนวน 900 ยูนิต อาคารละ 180 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มสร้างครอบครัว อายุประมาณ 25-35 ปี รายได้ต่อคนเฉลี่ยที่ 15,000 – 35,000 บาทต่อเดือน เป็นกลุ่มคนที่อัพเกรดจากการอยู่หอพักหรือพาร์ทเมนต์
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือน มิถุนายน 2558 (สร้างอาคารที่1,5,4,3,2 ตามลำดับ) คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดพร้อมกันประมาณ เดือนธันวาคม 2559
ระบบคีย์การ์ด: คีย์การ์ด เข้าออกได้เฉพาะในอาคารของตนเองทุกชั้น
ลิฟท์บริการ: จำนวน 2 ตัว/ 1 อาคาร
สถานะการขาย: ยอดขาย 30% ปัจจุบันเปิดขาย 2 อาคาร คือ อาคาร 1 – 2 และเริ่มเปิดขายอาคารที่ 5 เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2558
เงินกองทุนสะสม: 250 บาท/ตารางเมตร (จ่ายครั้งเดียว)
ค่าส่วนกลาง: 40 บาท / ตารางเมตร (จ่ายล่วงหน้า 1 ปีคือค่า รปภ. สระว่ายน้ำ และฟิตเนส)
ราคาเริ่มต้น: 1.23 ล้านบาท / ยูนิต
ราคาเฉลี่ย: 50,000 บาทต่อตารางเมตร

รูปแบบห้อง
1. Type A ขนาดพื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ชั้น 1 และขนาด 24.85 ตารางเมตรชั้น 2-8
2. Type B ขนาดพื้นที่ 32.18 ตารางเมตร ชั้น 1 และขนาด 38.66 ตารางเมตร ชั้น 2-8
3. Type C ขนาดพื้นที่ 35.38 ตารางเมตร ชั้น 1 และขนาด 41.90 ตารางเมตร ชั้น 2-8

The Iris Bangyai_ Type A

The Iris Bangyai_ Type B

The Iris Bangyai_ Type C

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล

Kanchanapisek Road

Kanchanapisek Road
ถนนกาญจนาภิเษก

ทำเลในโซนนี้มีการเจริญเติบโตต่อเนื่องและคาดว่าจะเป็นฮับของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกในอนาคต เหตุผลหลักคือมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงตัดผ่าน มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ “เซ็นทรัลเวสต์เกต” ที่กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาให้เทียบเท่าเซ็นทรัลเวิลด์ ในย่านราชประสงค์ และจะเปิดให้บริการในวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 นี้ รวมถึงแผนการเปิดตัวเมกะโปรเจคที่บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ร่วมกับบริษัทใหญ่จากสวีเดน เปิด “อีเกีย” สโตร์เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่จะตามมา รวมทั้งมีโครงการขยายระบบขนส่งทางถนนเชื่อมกับประเทศเมียนมาร์ ก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี เชื่อมต่อท่าเรือทวายอีกด้วย

แม้จะอยู่ในทำเลชานเมืองที่สิ่งอำนวยความสะดวกอาจไม่เทียบเท่าใจกลางเมือง แต่หากมองไปอีก 2 ปีข้างหน้าเป็นที่คาดว่าย่านนี้จะเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด และหากพิจารณาเรื่องของราคาแล้ว ปัจจุบันยังขยับขึ้นไม่มาก ซึ่งเป็นข้อดีของผู้ซื้อที่จะคว้าไว้ เพราะหากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เชื่อแน่ว่าคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า ราคาล้านต้นๆ อาจเป็นแค่เรื่องในอดีตก็เป็นได้

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai

วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งโครงการ
ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยจันทร์ทองเอี่ยมที่แม้จะเป็นถนนรอง แต่เดินทางได้สะดวก เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง อยู่ห่างจากถนนหลักกาญจนาภิเษกเพียง 100 เมตร และห่างจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีคลองบางไผ่ 300 เมตร หรือจะเข้ามาจากทางบางบัวทองก็ได้เช่นกัน แต่จะลึกกว่ามาทางถนนกาญจนาภิเษก

ทั้งนี้ตลอดเส้นทางเป็นร้านค้า บ้านเรือนและสวนของชาวบ้านแต่ดั้งเดิม รวมถึงมีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ ทั้งบ้านและคอนโดฯ เริ่มก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น ทำให้ซอยนี้มีความคึกคัก ไม่เปลี่ยว รวมถึงมีร้านสะดวกซื้อมาปักหมุดอยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการยิ่งการันตีว่าทำเลนี้คึกคักตลอด 24 ชั่วโมงแน่นอน

The Iris Bangyai
แผนที่

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว: เข้าออกได้หลายเส้นทางคือ

Rattanathibet Road

แยกบางพูล

Soi The Iris Bangyai

-จากถนนรัตนาธิเบศร์วิ่งตรงเลี้ยวขวาแยกบางพูล เข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย เข้าซอยจันทร์ทองเอี่ยม (ก่อนถึงปั๊มบางจาก)
-จากถนนรัตนาธิเบศร์ วิ่งตรงเข้าถนนกาญจนาภิเษก เข้าซอยจันทร์ทองเอี่ยมประมาณ 100 เมตร

Soi The Iris Bangyai

Soi The Iris Bangyai

Soi The Iris Bangyai

Soi The Iris Bangyai
ภายในซอยจันทร์ทองเอี่ยม เข้าจากทางบางบัวทอง

-จากถนนบางบัวทอง ผ่านตลาดบางบัวทอง ขับมาเรื่อยๆ สังเกตฝั่งตรงข้ามเป็นปั้มเอสโซ่ กับปั้มบางจาก ฝั่งซ้ายจะเป็นโรงงานปูนนกอินทรีย์ ให้ชิดขวาและหาที่กลับรถ เข้าซอยจันทร์ทองเอี่ยม (ก่อนถึงปั๊มบางจาก)

2. รถไฟฟ้า: สายสีม่วง (บางซื่อ –บางใหญ่) สถานีคลองบางไผ่ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 300 เมตร
3.มอเตอร์ไซด์รับจ้าง: (นับจากโครงการออกไปเส้นถนนกาญจนาภิเษก ขวามืออยู่ตรงใต้สะพานลอย ซ้ายมืออยู่ตรงหน้าการไฟฟ้านครหลวง )

สถานที่แนว Lifestyle
ทำเลย่านนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลักๆ อย่างบิ๊กซี บางใหญ่และเทสโก้ โลตัสบางใหญ่ และศูนย์รวมเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน อุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านที่อินเด็กซ์และโฮมโปรบางใหญ่, ตลาดBB Market ( บางใหญ่ ไนท์บาซาร์) และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลบางใหญ่, โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า ถนนพระราม 5 และห้างยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลเวสท์เกต และหากขยับไปทางถนนราชพฤกษ์ ถนนพระราม 5 ก็มีร้านอาหารให้นั่งชิลได้อีกเพียบ

Houng Decor Bangyai

นอกจากนี้ใครอยากช้อปของแต่งบ้านก็มีร้านหงส์เดคอร์ www.houngdecor.com ร้านรับผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ หลุยส์ จากไม้จริง แกะสลักมือ ทำสีพ่นอุตสาหกรรมให้ได้เลือกช้อปกัน โดยตั้งอยู่ใน การ์เด้นท์เซ็นเตอร์ ตลาดขายส่งไม้ดอกไม้ประดับ ถ.ตลิ่งชัน-บางใหญ่

The Iris Bangyai
ด้านหน้าโครงการ

The Iris Bangyai
ด้านข้างฝั่งทิศใต้

The Iris Bangyai
บริเวณที่จอดรถตามภาพ จะกลายเป็นอารีน่า

The Iris Bangyai
บริเวณส่วนก่อสร้างอาคารทั้ง 5 อาคาร เริ่มก่อสร้างแล้ว

รีวิวภาพรวมโครงการ
ณ วันที่ทำการรีวิว มีเพียงสำนักงานขายและห้องตัวอย่างอยู่ด้านหน้า ส่วนอาคารจริงกำลังเริ่มก่อสร้างอยู่ด้านหลัง โดยรอบโครงการส่วนใหญ่มีสิ่งปลูกสร้างแนวราบ จะมีก็แต่ฝั่งทิศใต้ที่เป็นอพาร์ทเมนต์ แต่ก็ไม่ได้อยู่ติดกับโครงการมากและไม่สูงบังตา มีข้อดีคือ บริเวณใกล้กันนี้มีทุ่งนาหลงเหลือให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ด้วย

The Iris Bangyai

Layout: ผังอาคาร 8 ชั้น มี 5 อาคาร แต่ละอาคาร มี 180 ยูนิต แต่ละชั้นมี 22 ยูนิต ฝั่งละ 11 ยูนิต และมีห้องเก็บขยะของแต่ละชั้นอยู่หลังลิฟท์ ติดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ทั้งนี้ ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 6 เมตร ถนนด้านในกว้าง 3.5 เมตร ถมที่ยกสูงจากถนน 50 ซม. ถ้าเป็นชั้น 1 ของอาคารก็จะสูงจากพื้นถนนประมาณ 1.30 เมตร โครงสร้างอาคารทั้ง 5 อาคาร เป็นแบบอิฐมวลเบา โดยบริษัทคอนสตรัคชั่นไลน์ ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลัก

สิ่งที่จะได้รับ:
พื้น: ไวนิลลายไม้
ผนัง: อิฐมวลเบา ไม่มีวอลล์เปเปอร์
พื้นจรดเพดาน: 2.50 เมตร
ระเบียง : ขนาดระเบียงที่ใหญ่สุด 2.5 x 1 เมตร
เฟอร์นิเจอร์ : SB (ตามโปรโมชั่นด้านล่าง ตรงหมายเหตุ)
สุขภัณฑ์ : ห้องน้ำได้ตามภาพ แต่ไม่มีประตูตรงส่วนอาบน้ำ พื้นเป็นแกรนิตโต้
ประตูห้อง: มีระบบความปลอดภัยแบบ 13 ล็อค และช่องตาแมว พร้อมด้วยธรณีประตูกันเสียงและฝุ่น
หน้าต่าง: ขนาด 1.8 x 2.05 เมตร ตามมาตรฐานของโครงการ

หมายเหตุ: โปรโมชั่นมี 2 แบบ คือ
1. ผ่อนดาวน์ล่วงหน้า 24 งวด คิดเป็น 10% ของราคาที่ซื้อ เงินจอง 5,000 บาท +สัญญา 20,000 บาท ( ห่างกัน 7 วัน) ผ่อนดาวน์ทุกวันที่ 5 ของเดือน จะได้รับ ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินพร้อมบานตู้และราวแขวนผ้า แต่ไม่ได้บุผนังตู้ ทาสีให้อย่างเดียว, ซิงค์ล้างจาน 1 หลุม พร้อมตู้ใส่ของด้านบน และรับเครื่องปรับอากาศ 9,0000 BTU 1 เครื่องในห้องนอน

2. เงินจอง 5,000 บาท +สัญญา 20,000 บาท ผ่อนดาวน์ 5 งวด (แต่ละห้องมีเรทราคาต่างกัน) ทั้งหมดจ่ายพร้อมกันภายในวันที่มาจอง จะได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุด เหมือนข้อ 1 รวมถึงเตียงขนาด 5 ฟุต,โซฟา, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี ,โต๊ะรับประทานอาหาร (รูปแบบเฟอร์ฯ ขึ้นอยู่กับ Gift Voucher ที่ทาง SB จะจัดให้ ณ ช่วงเวลาที่โอน ทุกอย่างจะได้รับหลังจากการโอนห้อง ประมาณ 30 วัน)

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
วิวทิศเหนือ

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
วิวทิศใต้

การวางทิศทางห้อง: มี 2 ทิศคือ
1.ทิศเหนือ: วิวรถไฟฟ้าสถานีคลองบางไผ่ ซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายและเป็นจุดโรงซ่อมรถไฟฟ้าพอดี รวมถึงวิวของสระว่ายน้ำ
2.ทิศใต้: วิวห้างเซ็นทรัลเวสท์เกตและทุ่งนา (ซึ่งในอนาคตไม่ฟันธงว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างหรือไม่)

The Iris Bangyai
ภาพจำลองอารีน่า

The Iris Bangyai
ภาพจำลองสระว่ายน้ำ บริเวณอาคารที่ 4 และ5

The Iris Bangyai
ภาพจำลองสนามฟุตซอล

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ: แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ดังนี้
1. IRIS Arena พื้นที่รวม 500 ตารางเมตร
– สนามฟุตซอลพื้นที่ 250 ตารางเมตร ( คิดเป็นรายชั่วโมงจ่ายแยกต่างหากไม่รวมในค่าส่วนกลาง ยังไม่ระบุราคาที่แน่ชัด ปีแรกให้สิทธิ์เฉพาะสมาชิกลูกบ้านในโครงการเท่านั้น)
– ฟิตเนสพื้นที่ 90 ตารางเมตร
2.สระว่ายน้ำยาวกว่า 120 เมตร
– สระผู้ใหญ่ลึก และสระเด็ก ( มีสระเด็ก 2 ส่วน ลึก 0.55 เมตรและสระผู้ใหญ่ 1 ส่วน ลึก 1.30 เมตร บริเวณอาคาร 4 และ 5 )
3.Vertical Garden (สวนพักผ่อน)

ที่จอดรถ: ประมาณ 30% คิดเป็น 148 คัน (ไม่ได้ล็อคที่จอดไว้ให้ห้องใดห้องหนึ่ง) จอดรถรอบอาคาร

The Iris Bangyai
ภาพจำลองห้องตัวอย่าง

รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
สำหรับบรรยากาศภายในห้องตัวอย่าง มี 2 แบบ เริ่มด้วย :

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
เข้าประตูมาเป็นส่วนรับแขก

ห้องตัวอย่างแบบที่ 1 Type A ขนาดพื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ชั้น 1 (รวมพื้นที่สวนหย่อมแล้ว) และขนาด 24.85 ตารางเมตร ชั้น 2-8

The Iris Bangyai
ตัวอย่างการจัดวางโต๊ะรับประทานอาหาร และครัวแบบิวท์อินชิดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่

The Iris Bangyai
ซิงค์ล้างจานได้ตามภาพ แต่ไม่มีเตาไฟฟ้าให้

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
แบ่งพื้นที่ในห้องได้เป็นสัดส่วน

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
หน้าต่างห้องนอน ขนาด 1.8 x 2.05 เมตร ตามมาตรฐานของโครงการ

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน ได้หน้าบาน ราวแขวน แต่ไม่บุผนังให้ (ตู้ขนาดกระทัดรัดเหมาะกับคนของไม่เยอะ)

The Iris Bangyai
แอร์ 9000 BTU 1 เครื่อง ในห้องนอน (ได้ตามภาพตามเงื่อนไขโปรโมชั่น)

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
สุขภัณฑ์ห้องน้ำได้ตามภาพ แต่ไม่ได้ประตู

The Iris Bangyai
เจาะช่องสูงถึงเพดาน สำหรับติดชั้นวางของและวางถังขยะ

The Iris Bangyai
จัดวางคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ที่ระเบียง ตามมาตรฐานของโครงการ

ห้องตัวอย่างแบบที่ 2 Type B ขนาดพื้นที่ 32.18 ตารางเมตร ชั้น 1 (รวมพื้นที่สวนหย่อมแล้ว) และขนาด 38.66 ตร.ม. ชั้น 2-8

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
ผนังด้านหน้าทางเข้าประตู ใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด ทำเป็นชั้นวางของได้ (ไอเดียตกแต่งเท่านั้น)

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
ส่วนครัวและโต๊ะรับประทานอาหาร รวมถึงโซฟานั่งเล่นข้างระเบียง ได้ตามภาพ ตามเงื่อนไขโปรโมชั่น

The Iris Bangyai
เตียงนอน 5 ฟุต ได้ตามภาพตามเงื่อนไขโปรโมชั่น

The Iris Bangyai
ตู้เสื้อผ้าได้ตามภาพแต่ไม่บุผนังให้

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
ห้องน้ำได้สุขภัณฑ์ตามภาพ แยกส่วนแห้งและเปียกไว้แต่ไม่มีประตู เจาะช่องสูงจากพื้นถึงเพดานเช่นกัน

The Iris Bangyai

The Iris Bangyai
ตำแหน่งคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ที่ระเบียงเช่นกัน ระเบียงมีก๊อกให้เรียบร้อยแล้ว สามารถซักล้างได้ วางเครื่องซักผ้าไว้ตรงนี้ได้

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
อัตราค่าเช่ารายเดือน
1ห้องนอน ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 25-41 ตารางเมตร ราคา 5,500 – 6,500 บาท/ยูนิต/ เดือน
หมายเหตุ : ราคานี้เป็นราคาเฉลี่ยของทำเลย่านนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการและระยะทางที่ตั้งโครงการ

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Plum Condo Bangyai Station

1.โครงการพลัมคอนโด บางใหญ่ สเตชั่น ซอยจันทร์ทองเอี่ยม ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีคลองบางไผ่ประมาณ 400 ตารางเมตร ดำเนินงานโดย บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) พื้นที่โครงการ16-0-71 ไร่ คอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น 7 อาคาร แบ่งเป็น 2 เฟส เฟส 1 มี 4 อาคาร จำนวน 1,163 ยูนิต เฟส 2 มี 3 อาคาร จำนวน 707 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอนเริ่มต้น 22.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 849,000 บาท

Casa Condo Bangyai

2.โครงการคาซ่า คอนโด บางใหญ่ ติดถนนรัตนาธิเบศร์ ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีสามแยกบางใหญ่ 30 เมตร ดำเนินการโดย บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) คอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น จำนวน 1 อาคาร พื้นที่โครงการ 3 ไร่เศษ ขนาดห้องสตูดิโอเริ่มต้น 21– 34 ตารางเมตร จำนวน 847 ยูนิต ที่จอดรถ 280 คัน ราคาเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท

บทสรุป
ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในย่านนี้ที่โดดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งโครงการ เหมาะแก่การซื้อเพื่อเก็งกำไรและอยู่อาศัยจริง เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีคลองบางไผ่ และห่างจากถนนหลักกาญจนาภิเษกเพียง 100 เมตร และด้วยความที่โครงการอยู่ไม่ไกลจากถนนหลัก ทำให้ใกล้กับแหล่งความเจริญหลายแห่งทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียนและโรงพยาบาล

ทั้งนี้มีจุดขายตรงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เน้นให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ มีกิจกรรมทำในยามว่าง คือ มีอารีน่าให้ได้ออกกำลังกาย มีสระว่ายน้ำ และสนามฟุตซอล ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาล้านต้นๆ แล้วถือว่าราคาน่าคบหาทีเดียว ปล่อยเช่าก็ง่ายเพราะใกล้แนวรถไฟฟ้าอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น

อย่างไรก็ดี วิวทิศเหนือมีสายไฟบดบังทัศนียภาพ หากปรับแก้ไขได้จะทำให้โล่งตาขึ้น มีที่จอดรถไม่มากนัก เพียง 148 คัน และไม่ได้จำกัดจำนวนรถต่อห้อง ใครมาก่อนได้จอดก่อน แต่ทั้งนี้โครงการเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นหลักอยู่แล้ว จึงไม่ได้เน้นในเรื่องนี้เท่าใดนัก

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ: ไฮด์ สุขุมวิท 11 (Hyde Sukhumvit 11)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/6/98402/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3-%25e0%25b9%2584%25e0%25b8%25ae%25e0%25b8%2594%25e0%25b9%258c-%25e0%25b8%25aa%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%2582%25e0%25b8%25b8%25e0%25b8%25a1 www.ddproperty.com:news:98402 Tue, 16 Jun 2015 23:00:36 +0700

หลังจากที่พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค (PF) ประกาศเทคโอเวอร์ ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (TPROP) ไปเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาส่งผลให้บริษัทมีอำนาจเต็มในการควบคุมบริษัทลูกของ TPROP อย่าง แกรนด์ แอสเสท โฮเทล แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) ที่มีโครงการโรงแรมและคอนโดมิเนียมอยู่ในมือหลายแห่ง อาทิ เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท, เชอราตัน หัวหิน รีสอร์ทแอนด์ สปา, เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า และคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์แบรนด์ “ไฮด์” (Hyde) ซึ่งโครงการล่าสุด สร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์มาตั้งแต่ช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา และในปีนี้ ภายใต้ปีกของดีเวลลอปเปอร์เบอร์ใหญ่อย่าง PF ที่ยังคงให้ GRAND ได้โฟกัสในโครงการที่อยู่อาศัยระดับตลาดบนตามที่ถนัด จึงได้เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด Hyde Sukhumvit 11 พร้อมไฮไลท์ที่จอดรถอัตโนมัติ ( Automatic Parking) ออกมาเรียกความสนใจผู้ซื้อที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใจกลางย่านสุขุมวิท

Hyde Sukhumvit11

สำนักงานขายโครงการ

เจาะลึกโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2558)
• ชื่อโครงการ: ไฮด์ สุขุมวิท 11 (Hyde Sukhumvit 11)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทล แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ทำเลที่ตั้ง: 155/1 สุขุมวิท 11/1 (เยื้องโรงแรม President Palace ) แขวง คลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กทม

Hyde Sukhumvit11

    • รายละเอียดโครงการ

พื้นที่โครงการ: โดยรวม 2 ไร่ 1 งาน 58 ตารางวา
อาคารแบ่งออกเป็น ตึก A ความสูง 39 ชั้น และตึก B 9 ชั้น รวมห้องชุดทั้งหมด 478 ยูนิต
ที่จอดรถ 276 คัน (คิดเป็น 57 %)
ตึก A ชั้น 1-3 ที่จอดรถหลัก (Normal Parking) ชั้น 4-36 เป็นที่พักอาศัย
และมีลิฟท์โดยสาร 5 ตัว ลิฟท์บริการ  1 ตัว
ตึก B  ชั้น 2-7 เป็นที่จอดรถหลัก ส่วนชั้น 8-9 เป็นที่พักอาศัยและที่จอดรถบางส่วน (Automatic Parking)
และมีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 2 ตัว
Access card, Digital Door Lock และ Video Call ทุกห้อง
ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมกล้อง CCTV
รั้วรอบโครงการ

  • สถานะก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างแล้ว แล้วเสร็จต้นปี 2561
  • สถานะการขาย: ตึก A ณ ขณะนี้ (15 มิถุนายน 2558) ได้ทำการเปิด Soft Opening ไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ขายไปแล้ว 40% ของยูนิตทั้งหมด และหากยูนิตของตึกนี้หมด ก็จะทำการขายตึก B ต่อไป ซึ่งจะมีห้องให้เลือกคือ Studio และ 1 Bedroom บริเวณชั้น 8 และ 9 เท่านั้น
  • เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 600 บาท/ ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ ตร.ม. / เดือน
  • ราคาขายเฉลี่ยทั้งหมดของโครงการ (ตอนเปิด Soft Opening): 185,000 บาท/ ตร.ม.

Hyde Sukhumvit11

  • รูปแบบห้องชุด: ตกแต่งแบบ Fully Furnished โดยแต่ละชั้นจะคละแบบห้องกัน แต่ห้องพื้นที่ 53 ตารางเมตรขึ้นไป จะเริ่มต้นที่ชั้น 31 และชั้นที่พักอาศัยเริ่มต้นที่ 4-36
    Studio                    27-28 ตารางเมตร
    1 Bedroom            33-34.5 ตารางเมตร
    2 Bedroom            53-63 ตารางเมตร
    3 Bedroom            85-88 ตารางเมตร
    Duplex                   60 ตารางเมตร
    Penthouse            132-160 ตารางเมตร

 

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ถือว่าเป็นใจกลางของโซนสุขุมวิท ที่เต็มไปด้วยความสะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคนเมือง โดยเฉพาะตลอดทั้งซอยสุขุมวิท 11 (โครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 11/1) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารหลากหลาย ผับ บาร์ จึงทำให้ซอยนี้มีชีวิตชีวาและค่อนข้างจะคับคั่งในช่วงเย็นๆ เป็นต้นไป นอกจากนี้ ซอยนี้ยังสามารถเป็นทางลัดทะลุออกไปยังย่านอโศก เพลินจิต และถนนเพชรบุรี ได้  และด้วยความที่เป็นซอยที่มีทางเชื่อมต่อกับถนนหลากหลายเส้น จึงมีคนใช้ถนนในซอยนี้เป็นทางลัด เพื่อเลี่ยงการจราจรบนถนนหลักอย่างเส้นสุขุมวิท

อีกทั้งยังสามารถเป็นทางลัดไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงเรียนวัฒนา, มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ,  วิลล่า มาร์เก็ต, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเทอร์มินัล 21 ได้ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางโดยใช้รถไฟฟ้า โครงการนี้อยู่ห่างจากสถานี BTS นานาประมาณ 500 เมตร สำหรับคนที่ชอบเดินถือว่ายังอยู่ในระยะที่ไม่เหนื่อยนัก แต่สำหรับคนที่เร่งรีบ สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซด์ได้

นอกจากนี้ สุขุมวิท 11 ถือเป็นซอยที่อยู่ใกล้ทั้งย่านนานา ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของย่านบันเทิงและย่านการค้าของชาวอินเดีย ที่มีร้านตัดสูทคุณภาพดี ราคาถูกจำนวนมาก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับย่านอโศกซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศบริษัทชั้นนำหลายแห่ง  ดังนั้นจึงถือเป็นโซนที่มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจอยู่ไม่น้อย

การเดินทาง
Hyde Sukhumvit11

1. รถไฟฟ้า BTS
เส้นสุขุมวิท การเดินทางที่ดีที่สุด คงหนีไม่พ้น BTS ซึ่งอยู่ใกล้ทั้งสถานีนานา (500 เมตร) และสถานีอโศก
(1 กิโล) ถึงโครงการ
2. รถไฟใต้ดิน MRT
สามารถมาลงสถานีสุขุมวิท (อโศก) แล้วเดิน หรือนั่งรถต่อเข้ามา
3. รถยนต์ส่วนตัว
สำหรับผู้ชอบขับรถ หากต้องการเลี่ยงการจราจรที่คับคั่งของเส้นนานา ให้เริ่มต้นใช้ถนนเพชรบุรี เลี้ยวเข้าเส้นนานาเหนือ แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยไชยยศ หรือสุขุมวิท 11 และขับตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอทางแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 11 ขับมาประมาณ 200 เมตร โครงการอยู่ด้านขวามือ

Hyde Sukhumvit11

Hyde Sukhumvit11

สภาพการจราจรในช่วงประมาณ 10 โมงเช้า หน้าโครงการ ค่อนข้างหนาแน่น แต่สามารถไปได้เรื่อยๆ

สถานที่แนวLifestyle
เมื่อพูดถึงสุขุมวิทเลขต้นๆ  สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ผับ บาร์ สถานบันเทิงตลอดทาง และยังหมายรวมแหล่งแฮงค์เอาท์ ออฟฟิศ สถานศึกษา สวนสาธารณะ โรงแรม และโรงพยาบาล อีกด้วย อาทิ

  • Shopping Plaza

Asoke Intersection

– Terminal 21 (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– Central Embassy (ห่างจากโครงการ 1.50 กิโลเมตร)
– Central Chidlom (ห่างจากโครงการ 1.80 กิโลเมตร)
– Gaysorn Plaza (ห่างจากโครงการ 2.20 กิโลเมตร)
– Central World (ห่างจากโครงการ 2.50 กิโลเมตร)
– Siam Paragon (ห่างจากโครงการ 2.90 กิโลเมตร)
– Siam Square (ห่างจากโครงการ 2.90 กิโลเมตร)

    • Offices

office

– Pacific Place (ห่างจากโครงการ 900 เมตร)
– Interchange Tower (ห่างจากโครงการ 1.15 กิโลเมตร)
– Exchange Tower (ห่างจากโครงการ 1.20 กิโลเมตร)
– Wave Place (ห่างจากโครงการ 1.48 กิโลเมตร)
– GMM Tower (ห่างจากโครงการ 1.90 กิโลเมตร)
– All Seasons Place (ห่างจากโครงการ 1.90 กิโลเมตร)

      • Educational Institutes

Hyde Sukhumvit11
ภาพ via nist.ac.th

– NIST International School (ห่างจากโครงการ 700 เมตร)
– โรงเรียนวัฒนา (ห่างจากโครงการ 1 กิโลเมตร)
– มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)
– โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร (ห่างจากโครงการ 2.2 กิโลเมตร)

      • Parks

Hyde Sukhumvit11

ภาพ via gysegem.com

– Chuvit Garden (ห่างจากโครงการ 600 เมตร)
– สวนเบญจกิติ (ห่างจากโครงการ 1.90 กิโลเมตร)
– สวนเบญจสิริ (ห่างจากโครงการ 2 กิโลเมตร)

      • Hotels

Hyde Sukhumvit11
ภาพ via ambassador-hotel-bangkok.hotel4stay.com

– โรงแรม Ambassador (ห่างจากโครงการ 100 เมตร)
– โรงแรม Hyatt Regency Bangkok (ห่างจากโครงการ 600 เมตร)
– โรงแรม Westin Grande Sukhumvit (ห่างจากโครงการ 800 เมตร)

      • Hospitals

– โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (ห่างจากโครงการ 700 เมตร)
– โรงพยาบาลสมิติเวช (ห่างจากโครงการ 4 กิโลเมตร)

รีวิวภาพรวมโครงการ
จากศักยภาพของการทำเลใจกลางเมือง บนพื้นที่เก่าของโรงแรม จึงทำให้ทางดีเวลลอปเปอร์คำนึงถึงการออกแบบตัวตึกอย่างมาก โดยได้ทีมออกแบบชื่อดังอย่าง A49 มาเป็นผู้ออกแบบโครงการนี้ให้มีรูปแบบที่โดดเด่น ลักษณะผลึกเพชร สูง 39 ชั้น ณ ใจกลางสุขุมวิท ซึ่งทิศทางของโครงการดูแบ่งออกเป็น 4 ทิศดังนี้
– เหนือ เป็นทิศที่อาจมีอุปสรรคเรื่องตึกบังนิดนึงสำหรับคนเลือก Studio และ 1 Bedroom แต่สำหรับ 2 Bedroom ไร้กังวลกับปัญหานี้ เนื่องจากระเบียงหันไปทางทิศตะวันตก จะได้ชมวิวเมือง
– ตะวันออก เหมาะสำหรับคนชอบเรื่องฮวงจุ้ย เพราะตอนเช้าจะมีแสงแดดสอดส่องเข้ามาในห้อง ตามความเชื่อที่ว่าส่งเสริมสุขภาพของเจ้าของบ้าน
– ตะวันตกและใต้ ทิศยอดนิยมในกลุ่มผู้ซื้อโครงการนี้ เพราะต่างไม่ได้ซีเรียสเรื่องความร้อนของพระอาทิตย์ แต่ให้ความสำคัญกับวิวที่ทอดยาวจนสามารถเห็น Shopping Mall อย่างพารากอน และเซ็นทรัลเวิล์ด ยิ่งช่วงเทศกาลด้วยแล้ว เต็มอิ่มกับการชมพลุไปเลย

Hyde Sukhumvit11

จำนวนยูนิตห้องที่ถูกจองไปแล้ว ในแต่ละทิศ

Hyde Sukhumvit11

วิวทิวทัศน์แต่ละทิศ ของโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ Hyde 11 ถูกออกแบบในโทนสี ขาว-ทอง สไตล์โรงแรม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พื้นที่แห่งความสงบบนความวุ่นวาย” มีที่จอดรถ Automatic Parking

Hyde Sukhumvit11

บริเวณตึก B ที่ตั้งของ Automatic Parking 9 ชั้น

Hyde Sukhumvit11

พื้นที่สวนสีเขียว ที่แทรกตัวอยู่ระหว่างตึก A และตึก B

Hyde Sukhumvit11

The Perfect Facilities ถูกออกแบบให้อยู่บนชั้น 37-39 เพื่อชมวิวทิวทัศน์ใจกลางเมือง

Hyde Sukhumvit11

ว่ายน้ำไป ชมวิวเมืองไป ฟินสุดๆ

Hyde Sukhumvit11

พื้นที่สวนสีเขียวและม่านน้ำตก อยู่ตรงกลางระหว่างตึก A และตึก B

Hyde Sukhumvit11 อรรถรสของการอ่านหนังสือ ณ ห้องสมุดบนชั้น 37

Hyde Sukhumvit11 (43) Healthy Life กับ Fitness Room ชั้น 39

Hyde Sukhumvit11

Private Drive Golf บนชั้น 37

Hyde Sukhumvit11

โรงหนังส่วนตัวบนพื้นที่ชั้น 37

Hyde Sukhumvit11

เปลี่ยนอารมณ์ให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่นั่งพักผ่อนเป็นแอ่งลงไป เพื่อสามารถมองเห็นพื้นน้ำด้านนอก ในบริเวณ Lobby ที่มีความสูง 8 เมตร

รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: กระเบื้องแกรนิต (Homogeneous Tie) คุณสมบัติเด่นคือ เวลาแตก ตัวเคลือบจะเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมดจึงทำให้ยังสวยอยู่
พื้นจรดเพดาน: มีความสูงจากพื้น 2.7 เมตร แต่ Floor to Floor 3.3 เมตร
ระเบียง : เริ่มต้นความกว้าง 1 เมตร หรือ 1.50 เมตร (เฉพาะห้อง 2 ห้องนอน ขึ้นไป)
ประตู : Digital Door Lock
ชุดครัว : Built-in เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันจาก Electrolux
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ : Kohler
เฟอร์นิเจอร์: Seasons แบบ Fully Furnish และ Fully Fitted สำหรับ 2 Bedroom ขึ้นไป

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 1 Bedroom (1C) 34 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully furnished
Hyde Sukhumvit11

      • ระบบ Video Call ทุกห้อง

Hyde Sukhumvit11

      • ด้านซ้ายมือของประตู ออกแบบให้เป็นตู้ Built-in ไว้สำหรับเก็บรองเท้า หรือของจิปาถะ

 Hyde Sukhumvit11

Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนเพดาน บริเวณด้านหน้าประตู มีช่องแอร์ ถ่ายทอดความเย็นอยู่

Hyde Sukhumvit11

      • ขวามือ ฝั่งตรงข้ามตู้เก็บของเป็นส่วนของห้องน้ำ สุขภัณฑ์ Kohler โทนสีขาว-ทอง ทุกอย่างให้ตามรูป ยกเว้น Props

 Hyde Sukhumvit11 Hyde Sukhumvit11

      • เดินเข้ามาในห้องส่วนด้านซ้ายเป็นมุมครัวมีตู้ Built-in ที่เก็บของเยอะ เหมาะสำหรับแม่ครัว พ่อครัว ทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ แถมยังให้เตา เครื่องดูดควัน ของ Electrolux (แต่เครื่องซักผ้าที่เห็นในรูปไม่ให้)

Hyde Sukhumvit11 Hyde Sukhumvit11

      • ตู้ส่วนเก็บของมีถึง 3 ช่องเลยทีเดียว ส่วนเตาไฟฟ้า มีให้ 2 เตา

Hyde Sukhumvit11

Hyde Sukhumvit11

      • ลิ้นชักถัดลงมาจากเตาไฟฟ้า ออกแบบให้ใส่ช้อน ส้อม อุปกรณ์ทำครัว แบบเป็นสัดเป็นส่วน

Hyde Sukhumvit11

      • มุม Living Corner สบายๆ ชิลๆ กับเฟอร์นิเจอร์ของ Seasons (ทีวีที่เห็นในรูปไม่ให้)

Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนของเตียงนอน 5 ฟุต ได้ตามภาพไปเลย ยกเว้น Props

Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนของห้องนอน 1 Bedroom ไม่มีระเบียงให้ มีแต่หน้าต่าง (เปิดไม่ได้) ให้ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติด้านนอก

Hyde Sukhumvit11

      • บริเวณส่วนของหน้าต่างด้านนอก มี Air Compressor แขวนอยู่ด้านบน โดยมีระแนงบังไว้ให้เรียบร้อย

Hyde Sukhumvit11

      • มุมพักผ่อน รายล้อมด้วยกระจก

Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนของห้องนอนกับ Living Room มีประตูกระจกบานสไลด์กั้นเป็นสัดส่วน

Hyde Sukhumvit11

บรรยากาศห้องตัวอย่าง 2 Bedroom (2C) 63 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted
Hyde Sukhumvit11

      • ห้อง 2 Bedroom เปิดประตูเข้าไปจะพบส่วนของมุมครัวตรงส่วนนี้ด้วยความเป็น Fully Fitted จึง Built-in แค่ส่วน Cook อาหาร และตู้เก็บของ ที่สามารถเอาเครื่องซักผ้าเก็บไว้ในนี้ได้

Hyde Sukhumvit11 Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนนี้เป็นไอเดียในการวางโต๊ะกินข้าว ซึ่งจะมี Mirror Wall กั้น ระหว่างโต๊ะอาหารกับส่วนของ Living Corner

Hyde Sukhumvit11

      • Built-in ครัว มีขนาดกว้างขึ้น ตามพื้นที่ของห้อง

Hyde Sukhumvit11 Hyde Sukhumvit11

      • การแบ่งพื้นที่ส่วน Living ไว้ โดยมีให้ไอเดียพื้นที่ในการวางโต๊ะทำงาน

Hyde Sukhumvit11

      • จากรูปจะเห็นว่า พื้นที่ระเบียงด้านนอกจะเริ่มต้นความกว้างเริ่มต้นที่ 1 เมตร โดยขึ้นอยู่กับขนาดห้อง

Hyde Sukhumvit11

      • บริเวณทางเดินจากส่วน Kitchen Corner และ Living ที่ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิต (Homogeneous Tie) แต่จากรูปจะสังเกตว่าในส่วนของห้องนอนจะเป็นพื้นไม้ Engineered Wood ซึ่งเวลาเดินจะไม่มีเสียง เหมือนลามิเนต

Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนของห้องนอนเล็ก สามารถวางเตียงเดี่ยวได้

Hyde Sukhumvit11

      • ส่วนของห้องนอน Master  สามารถวางเตียงได้ถึง 6 ฟุต และเดินไปห้องน้ำได้สะดวก เพราะอยู่ตรงข้ามห้อง

Hyde Sukhumvit11

      • ห้องน้ำของ 2 ห้องนอน จะมีห้องเดียว แต่เพิ่มความพิเศษของอ่างอาบน้ำเข้าไป แต่ยังคงมี Rain Shower อยู่ พร้อมมีหน้าต่างระบายอากาศ

Hyde Sukhumvit11 Hyde Sukhumvit11 Hyde Sukhumvit11

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
หากสนใจซื้อเพื่อการลงทุน ด้วยทำเลของที่ตั้งโครงการ คาดว่าจะได้การตอบรับจากชาวต่างชาติพอสมควร โดยเฉพาะแถบเอเซีย ซึ่งตอนนี้จากการสอบถามจากโครงการพบว่าลูกค้าชาวต่างชาติอันดับ 1 ได้แก่ ชาวไต้หวัน รองลงมาเป็นชาวตะวันออกกลาง
– อัตราค่าเช่าคอนโดมิเนียมย่านนี้ ทั่วไปจะอยู่ที่ 800-1000 บาท / ตารางเมตร
– ส่วน 1 Bedroom อัตราค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่ 34,000 บาท

เปรียบเทียบกับโครงการที่เปิดขายอยู่ในระดับราคาและทำเลใกล้เคียงกัน
• Circle Sukhumvit 11
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท เฟรเกรนท์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา เป็นอาคารสูง 34 ชั้น 219 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-3 ห้องนอน, Duplex Penthouse and Villa และแบบ Circle President Suite มีที่จอดรถอัตโนมัติ บนพื้นที่ส่วนตัวบริเวณระเบียง  พื้นที่ห้องชุดในโครงการ  46.20 – 406.50 ตร.ม. ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 149,000 บาท / ตร.ม.

Hyde Sukhumvit11

• Noble Recole
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน 28 ตารางวา เป็นอาคารสูง 28 ชั้น 288 ยูนิต รูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 34-69 ตร.ม. ที่จอดรถ 60 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 150,000 บาท / ตร.ม.

Hyde Sukhumvit11

• The Trendy 
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทล แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 6 ไร่ 65 ตารางวา มี 3 อาคาร แบ่งเป็นที่พักอาศัยสูง 18 ชั้น สำนักงาน 31 ชั้น พลาซ่า 7 ชั้น 444 ยูนิต ในส่วนของห้องชุดพักอาศัยประกอบด้วยรูปแบบห้อง 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 70-85 ตร.ม. ที่จอดรถ 600 คัน ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ103,000 บาท / ตร.ม.

Hyde Sukhumvit11

บทสรุป
จุดขายหลักของโครงการ Hyde11 นอกจากจะเป็นเรื่องของระบบการจอดรถ Automatic Parking แล้ว ยังเป็นทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองโซนสุขุมวิทตอนต้น และอยู่ใกล้กับ BTS ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก ก็จัดให้อยู่ในระดับที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างดี จากการที่ดีเวลลอปเปอร์เจ้านี้มีประสบการณ์ในการพัฒนาโรงแรมระดับ 4-5 ดาวเรื่องของบริการจึงไม่เป็นรองใคร  สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าเพื่อการลงทุนนั้น โครงการนี้ตั้งอยู่ในโซนที่เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและต่างชาติ โอกาสในการหาผู้เช่าจึงไม่ใช่เรื่องยาก เรทราคาเช่ามีแนวโน้มดี

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>
<![CDATA[รีวิวโครงการ:บียอนด์ ศรีนครินทร์ (Beyond Srinakarin)]]> https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2015/6/97645/%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b4%25e0%25b8%25a7%25e0%25b9%2582%25e0%25b8%2584%25e0%25b8%25a3%25e0%25b8%2587%25e0%25b8%2581%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%25a3%25e0%25b9%2580%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25ad%25e0%25b8%25a7%25e0%25b8%25b2%25e0%25b8%2599%25e0%25b8%25b2-%25e0%25b8%259a%25e0%25b8%25b5%25e0%25b8%25a2 www.ddproperty.com:news:97645 Mon, 15 Jun 2015 04:00:19 +0700

บ้านเดี่ยวระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ยังคงเป็นประเภทของที่อยู่อาศัยเฉพาะกลุ่มที่มีดีมานด์อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยย่านถนนศรีนครินทร์ เมื่อเทียบจากแต่ก่อนฐานลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อบ้านเดี่ยวจะเป็นกลุ่มระดับกลาง แต่ด้วยอานิสงส์การเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการเรื่อยมากระทั่งมีการปรับผังเมืองใหม่ปี2556 – 2560 ทำให้ธุรกิจอื่นๆ สามารถขยายการก่อสร้างเชิงพาณิชย์ได้มากขึ้น อาทิ โรงแรม ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ราคาที่ดิน ราคาบ้าน และฐานลูกค้าของย่านนี้ขยับตัวขึ้นมาทุกปี

ทั้งนี้หากเจาะลึกลงมาถึงถนนรอง อาทิ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ด้วยแล้ว ราคาบ้านเดี่ยวในย่านนี้อยู่ในระดับ5-10 ล้านบาทขึ้นไป จากเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีเพียงรายใหญ่อย่างแลนด์แอนด์เฮ้าส์ที่กล้ามาปักธง แต่ปัจจุบันมีรายอื่นมาอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติของทำเลใกล้สวนหลวง ร.9 กันมากขึ้น อย่าง แอล.พี.เอ็น. เคแลนด์ รวมถึง เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่สร้างบ้านระดับไฮเอนด์อยู่แล้วนั้นก็เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนย่านนี้ด้วยการปักหมุดโครงการ “บียอนด์ ศรีนครินทร์” (แบรนด์ “บียอนด์” แห่งที่ 5 ของบริษัท) เปิดเฟสแรกด้วยบ้านเดี่ยวราคาสิบกว่าล้าน เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักธรรมชาติด้วยเช่นกัน

เจาะลึกโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2558)
ชื่อโครงการ: บียอนด์ ศรีนครินทร์ (Beyond Srinakarin)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ทำเลที่ตั้ง: ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (อยู่ระหว่างซอย 26 กับ 28 ) แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.

Nirvana Beyond Srinakarin

รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: รวมประมาณ 12 ไร่ 2 งาน 69 ตารางวา
รูปแบบ: บ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 58 ยูนิต
กลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีบ้านหลังแรก อายุเฉลี่ย 30 ปีขึ้นไป รายได้เฉลี่ย 250,000-300,000 บาท /เดือน
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2557 คาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วน ปี 2559
สถานะการขาย: เฟสแรกเฉพาะแบบบ้าน KEEN เป็นบ้านสั่งสร้าง จำนวนทั้งหมด 10 ยูนิต ขายไปแล้ว 2 ยูนิต เหลือ 8 ยูนิต เปิดขายจากแปลงด้านหน้าก่อน ซึ่งลูกค้าสามารถโอนที่ดินก่อนได้ หรือซื้อแล้วผ่อนดาวน์ก่อนก็ได้เช่นกัน (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2558)
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท / ตารางวา (จ่ายล่วงหน้า 2 ปี)
ราคาเริ่มต้น: 16.5 ล้านบาท / ยูนิต (ราคา ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2558)
ติดต่อ:
เว็บไซต์ www.nirvana-group.com, www.nirvanabeyond.com
โทร. 1787
อีเมล: contact@nirvana-group.com

Beyond Srinakarin
บ้านตัวอย่างแบบบ้าน KEEN

รูปแบบบ้าน มี 3 แบบ คือ
1. KEEN ขนาดที่ดินเริ่มต้น 53 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 310 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
2. LIVE ขนาดที่ดินเริ่มต้น 62 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 357 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
3. XL ขนาดที่ดินเริ่มต้น 67 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 418 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 1 ห้องเอนกประสงค์ 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ

หมายเหตุ: สำหรับรีวิวนี้จะขอแนะนำเฉพาะแบบ KEEN ซึ่งเปิดขายอยู่เท่านั้น ในหัวข้อรีวิวโครงการ

Srinakarin Road

 Srinakarin Road
ถนนศรีนครินทร์

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลศรีนครินทร์
ปัจจุบันทำเลศรีนครินทร์ ถือว่ามีถนนหนทางสะดวกสบายขึ้นมาก (แต่ชั่วโมงเร่งด่วนก็ติดขัดตามสภาพการณ์) เพราะก่อนหน้านี้ถือว่าการจราจรติดขัดแบบมาราธอน เนื่องจากมีการรื้อถนนเพื่อปรับปรุงก่อสร้างใหม่ เช่น จากช่วงแยกพัฒนาการ – ถนนสุขุมวิท 103 และอุโมงค์ทางลอดแยกศรีอุดมตรงหน้าห้างซีคอนสแควร์และพาราไดซ์ พาร์ค รวมถึงสะพานข้ามแยกอ่อนนุช เป็นต้น

อย่างไรก็ตามทำเลนี้ถือเป็น 1 ใน 10 ของทำเลเด่น ตามเกณฑ์ผังเมืองใหม่ที่ประกาศใช้ปี 2556 -2560 สืบเนื่องจากการขยายศักยภาพพื้นที่ควบคุมการสร้างที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยให้เปลี่ยนมาเป็นหนาแน่นกลาง โดยเพิ่มศักยภาพการก่อสร้างจาก 2,000 ตารางเมตร เป็นไม่เกิน 10,000 ตารางเมตร ถนนต้องกว้าง 30 เมตร และให้สิทธิ์พัฒนาเพิ่มในรัศมี 500 เมตรจากแนวรถไฟฟ้าด้วยนั้น จึงทำให้ทำเลนี้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

 Chalermprakiat Road
ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9

วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ถือว่ามีศักยภาพ อยู่กับติดกับถนนเฉลิมพระเกียรติไม่ต้องเข้าซอยอีก แม้ไม่ใช่ถนนเส้นหลักแต่เชื่อมกับถนนหลักได้หลายเส้นทาง อาทิ ถนนสุขุมวิท 103, ถนนศรีนครินทร์ รวมถึงเชื่อมต่อกับทางด่วนบางนา บางปะอินได้สะดวกสบาย

เดิมทำเลสวนหลวง ร.9 เป็นย่านชุมชนเก่าของคนที่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง ส่วนใหญ่มีสวนผัก ผลไม้ของตนเอง ถือเป็นย่านคนมีเงินที่มีความสงบ ถนนหนทางไม่พลุกพล่าน และเนื่องด้วยมีสวนหลวง ร.9 ตั้งอยู่ใกล้ทำให้ทำเลนี้เป็นเขตการดูแลพิเศษ ถนนเส้นนี้จะห้ามไม่ให้รถเมล์วิ่งผ่าน แต่มีรถสองแถววิ่งแทน ทั้งนี้บ้านเรือนส่วนใหญ่ไม่ได้ดูโมเดิร์น จะเรียบง่ายเป็นเรือนไม้แบบวิถีไทยดั้งเดิม

Suan Luang Park
สวนหลวง ร.9  ภาพ via sukhumvitlife.com

ปัจจุบันแม้ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จะไม่ใช่ถนนหลัก แต่ด้วยเสน่ห์ข้างต้นบวกกับผังเมืองใหม่ที่มีการอนุญาตให้สร้างที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น แต่สูงไม่เกิน 15 เมตรนั้น ก็ทำให้เกิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้น มีสไตล์โมเดิร์นมากขึ้น เพื่อสอดรับกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ รุ่นลูกรุ่นหลานที่กลายจากชาวสวนมาเป็นนักธุรกิจ และต้องการซื้อบ้านที่มีพื้นที่เล็กลงแต่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นและมีสไตล์เฉพาะเป็นของตนเอง โดยยังคงความสงบ ไม่พลุกพล่าน ไม่จอแจ ถนนสี่เลนก็ยังสัญจรได้สะดวกสบาย

Beyond Srinakarin map
แผนที่

การเดินทาง
1.รถยนต์ส่วนตัว เข้าออกได้หลายเส้นทาง คือ ถนนศรีนครินทร์ เข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ, ถนนพัฒนาการ เข้าถนนอ่อนนุช (ซอยสุขุมวิท 77) เข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ, ถนนลาดกระบัง เลี้ยวซ้ายเข้าแยกประเวศ เข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับทางด่วน บางนา และบางปะอินได้ด้วย

Srinakarin Road

ทั้งนี้หากใช้เส้นทางถนนศรีนครินทร์ก็วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนเจอห้างพาราไดซ์ พาร์คและจะเจอสี่แยกใหญ่ให้วิ่งเลนซ้าย (ไม่ต้องลอดอุโมงค์ ) เลี้ยวซ้ายเข้าแยกอุดมสุขตรงไปเรื่อยๆ เข้าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 โครงการจะอยู่ทางขวามือ ระหว่างซอย 26-28 โครงการอยู่ติดถนนเลย

 Udomsuk Road

 Udomsuk Road

 Udomsuk Road
ถนนอุดมสุข

แต่กรณีมาจากทางด่วนบางนา พอลงทางด่วนให้เข้าทางที่ป้ายบอกทางให้เข้าพระโขนง วิ่งเลี้ยวขวาไปเส้นสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ตรงมาเรื่อยๆ เจอสะพานข้ามแยกศรีอุดม เข้าถนนเฉลิมพระเกียรติก็จะเจอโครงการเช่นเดียวกันกับทางที่วิ่งจากศรีนครินทร์ข้างต้น

2.รถโดยสารประจำทาง (รถสองแถว)

3.โครงการถไฟฟ้าในอนาคต คือ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจากอ่อนนุช – บางนา ต่อเนื่องไปสำโรง เมืองสมุทรปราการ และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว- สำโรง) โดยสถานีใกล้โครงการจะอยู่ตรงพาราไดซ์ พาร์ค ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 3 กม.

Rodfai market Srinakarin
ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์  ภาพ via facebook.com/taradrodfi

สถานที่แนว Lifestyle
ย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ใครอยากเดินห้างย่านศรีนครินทร์ก็มีห้างใหญ่ใจกลางทำเลที่รู้จักกันดีคือ ซีคอนสแควร์, เซ็นทรัลบางนา ร้านอาหารที่ตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มีไม่มากนัก

แต่ปัจจุบันด้วยไลฟ์สไตล์ของคนย่านนี้ที่มีความเป็นครอบครัวมากขึ้น เลือกกิจกรรมที่ทำได้ร่วมกันกับทุกคนในครอบครัว จับจ่ายใช้สอยสินค้าเกี่ยวกับบ้านและซื้อสินค้าเพื่อลูกเล็กๆ ฉะนั้นจึงมีศูนย์การค้าเปิดตัวใหม่มากขึ้น อาทิ พาราไดซ์ พาร์ค , HaHa Market และห้างธัญญะ ช้อปปิ้ง พาร์ค รวมถึงสถานที่ที่ทำให้ถนนศรีนครินทร์คึกคักขึ้นอย่างผิดหูผิดตา คือ ตลาดนัดรถไฟ ที่ย้ายอาณาจักรจากย่านจตุจักรมาไว้ที่นี่บริเวณหลังห้างซีคอนสแควร์ ขยับไปทางเส้นบางนา-ตราดก็มีเมกะบางนา และล่าสุดกลุ่มเดอะมอลล์ก็ปักธงจะเปิดห้างใหญ่ตรงหัวมุมถนนตรงข้ามไบเทคบางนาอีกด้วย

Paradise Park
ภาพ via facebook.com/paradiseparkfanpage

นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลไทยนครินทร์, โรงเรียนนานาชาติ อาทิ บางกอกพัฒนา, โรงเรียนนานาชาติคอนคอร์เดียน, โรงเรียนนานาชาติ ชาร์เตอร์, โรงเรียนอัสสัมชัญ สำโรงและโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา เป็นต้น

รีวิวภาพรวมโครงการ
ทางเข้าโครงการออกแบบได้โมเดิร์นดูแปลกตาดี ถนนทางเข้ากว้าง 10 เมตร ถนนในโครงการกว้าง 9 เมตร มีรั้วกั้นแบ่งทางเข้า-ออกได้เป็นสัดส่วน ภายในโครงการโดยรวมมีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ เนื่องด้วยจำนวนยูนิตที่ไม่มากนัก มีการปลูกต้นไม้เพื่อให้ความร่มรื่นในโครงการ ช่วงเย็นจะร่มรื่น สบายตาเพราะมีสระว่ายน้ำและคลับเฮ้าส์อยู่ด้านหน้าโครงการ (ขณะนี้ทำเป็นสำนักงานขายชั่วคราว) ทั้งนี้กั้นแบ่งส่วนงานก่อสร้างด้านในไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยดี

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin
แปลนบ้านทั้ง 3 ชั้น

บ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า 3 ชั้น กว้าง 9.8 เมตร ลึก 9.9 เมตร ออกแบบให้มีพื้นที่ที่เน้นความโปร่งโล่ง ด้วย Double Volume บริเวณห้องรับแขกและห้องนอนที่มีฝ้าเพดานสูง รวมถึงเน้นให้มีช่องรับลมและแสงสว่างจากธรรมชาติรอบด้าน และออกแบบให้มี Court สวนหย่อมที่สามารถพักผ่อนหรือปาร์ตี้เล็กๆ ได้นอกบ้านอีกด้วย

สิ่งที่จะได้รับ:
อุปกรณ์มาตรฐานภายในบ้าน (โปรโมชั่น)
1. เครื่องปรับอากาศ 6 เครื่อง
2. ระบบเครื่องเสียงยี่ห้อ Bose จำนวน 4 จุด
3. Sonos wireless digital music system (ระบบการเก็บไฟล์เพลงของทุกคนในบ้านมารวมไว้ด้วยกัน โดยสั่งการผ่านสมาร์ทโฟน จำนวน 3 จุด)
4. Paradox security magnetic system ( ระบบรักษาความปลอดภัย จำนวน 2 จุดภายในบ้าน ชั้น 1 และ 2)

หมายเหตุ: ส่วนลดพิเศษ เงินสด ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ จำนวน 2 ล้านบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและแบบบ้าน และบ้านสั่งสร้างกับบ้านสร้างเสร็จก็จะได้ส่วนลดต่างกันไป (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2558)

วัสดุและสิ่งอื่นๆ ที่จะได้รับ
พื้น: ชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้, ชั้นบนเป็นปาร์เก้ไม้สัก
ผนัง: อิฐมวลเบา พร้อมวอลล์เปเปอร์ทั้งหลัง (สีเทาหรือสีครีม)
พื้นจรดเพดาน: ห้องรับแขกสูง 5 เมตร ห้องอื่นๆเฉลี่ยสูง 3 เมตร
ระเบียง: ชั้น 2 พื้นที่กว้าง 1 เมตร ยาว 2.5 เมตร , ชั้น 3 พื้นที่กว้าง 5.7เมตร ยาว 1.5 เมตร
ประตู: รีโมทไฟฟ้า
ชุดครัว: StarMark
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Kohler
อุปกรณ์เก็บน้ำ: แท้งก์น้ำ และปั๊มน้ำ
การวางทิศทางบ้าน: วางตำแหน่งบ้านตามทิศทางเหนือ-ใต้ มีลมโกรกดี อากาศถ่ายเทสะดวก โดยรอบโครงการไม่มีตึกสูงบังตา

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin
สระว่ายน้ำและคลับเฮ้าส์ (พื้นที่คลับเฮ้าส์เป็นสำนักงานขายชั่วคราว)

Beyond Srinakarin_Playground
มุมสนามเด็กเล่น

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
คลับเฮ้าส์ (Clubhouse) ออกแบบสไตล์รีสอร์ท มีฟังก์ชั่นทั้งสระว่ายน้ำ (ขนาดกว้าง 7.5 ยาว 21 เมตร ลึก 1.20 เมตร), ฟิตเนสและคิดส์คลับ

Nirvana Beyond Srinakarin

Beyond Srinakarin_Exterior

Nirvana Beyond Srinakarin


รีวิวภายในบ้าน

บรรยากาศภายในบ้านตัวอย่าง (แบบ KEEN)

Beyond Srinakarin_Livingroom   Beyond Srinakarin_Dinning

Nirvana Beyond Srinakarin

ชั้นแรกมีการเล่นระดับที่ต่างกัน แบ่งเป็นห้องรับแขกที่ยกขึ้นหนึ่งระดับและออกแบบให้มีเพดานสูง ช่วยให้ห้องดูโปร่ง โอ่โถงดี

Nirvana Beyond Srinakarin Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin
เชื่อมกันนั้นก็ลดหลั่นระดับลงมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งทำพื้นที่ให้เชื่อมต่อเนื่องกับครัว รวมถึงห้องอเนกประสงค์ที่จะใช้รับแขกหรือทำเป็นห้องทำงานก็ได้

Beyond Srinakarin_Kitchen
ห้องครัว ได้ชุดครัวตามภาพ (ยี่ห้อ Starmark)

Nirvana Beyond Srinakarin
ห้องอเนกประสงค์ ติดกับห้องครัว

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin

Beyond Srinakarin_Exterior

ด้านนอกบ้าน เป็นสวนแบบ Outdoor สามารถจัดปาร์ตี้หรือนั่งพักผ่อนได้สบาย (พื้นที่ให้คือ ปูหญ้าจริง ไม่มีกระเบื้อง)

Nirvana Beyond Srinakarin

Beyond Srinakarin_Master Bedroom

Nirvana Beyond Srinakarin
ชั้น 2 เป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ออกแบบเป็น 2 ส่วนคือ ขึ้นบันไดมาด้านซ้ายเป็นห้องนอน

Beyond Srinakarin_walkin closet

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin
ด้านขวาชั้น 2 ตกแต่งไว้เป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ สามารถแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งาน เก็บเสื้อผ้า ของใช้ชาย-หญิง ได้เป็นจำนวนมาก

Beyond Srinakarin_Master Bedroom

Nirvana Beyond Srinakarin
ห้องแต่งตัวเชื่อมต่อกับห้องน้ำใหญ่ พร้อมอ่างจากุซซี่ (ได้จริงตามภาพ)

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin
ห้องน้ำชั้น 2 จุดเด่น คือเน้นให้มีช่องเปิด หลายจุด ทำให้โปร่งโล่ง ระบายอากาศได้ดี รวมถึงได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ กลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็ยังสว่าง (ได้ทุกอย่างตามภาพ สุขภัณฑ์จาก Kohler)

Beyond Srinakarin_Bedroom 2

Nirvana Beyond Srinakarin

Beyond Srinakarin_Bedroom 3

p59_Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin

Nirvana Beyond Srinakarin

บรรยากาศชั้น 3 แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งมีข้อดีคือ มีระเบียงกว้างขนาดใหญ่ (พื้นที่กว้าง 5.7 เมตร ยาว 1.5 เมตร) ไว้เป็นมุมกิจกรรมของครอบครัว ห้องนอน2 ห้องนี้ สามารถเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงนี้ หรือหากไม่อยากให้มีระเบียงก็กั้นเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ในภายหลัง

Nirvana Beyond Srinakarin
ห้องนอนทั้ง 2 ของชั้น 3 จะโปร่งโล่ง เพราะทำฝ้าเพดานให้สูงลาดเอียงรับกับองศาของหลังคา

Nirvana Beyond Srinakarin
หน้าต่างบริเวณทางขึ้นชั้น 3 มองเห็นระเบียงด้านนอกได้สบายตา

วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
ปัจจุบันราคาที่ดินติดถนนหลักในย่านนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ 80,000-101,000 บาทต่อ ตารางวา ส่วนในซอยราคาเฉลี่ยที่ 30,000-60,000 ตารางวา ซึ่งคาดว่า อีก 2 – 3 ปีข้างหน้า ราคาที่ดินในย่านนี้จะปรับขึ้น ไม่ต่ำกว่า 20%-30%
สำหรับโครงการนี้ คาดว่าราคาจะปรับขึ้นตามราคาที่ดินในย่านนี้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาราคาปรับเพิ่มขึ้น 15%-20% ทั้งนี้อัตราค่าเช่ารายเดือนไม่ได้ระบุไว้

เปรียบเทียบกับโครงการอื่น

Baan Lumpini Suan Luang Rama 9

โครงการบ้านลุมพินี สวนหลวง ร.9 โดยบริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (เครือ LPN) ตั้งอยู่ในซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 40/1 พื้นที่โครงการประมาณ 26-0-3 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 104 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 10-15 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นประมาณ 300 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องพักผ่อน ห้องอเนกประสงค์ ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำส่วนตัว ที่จอดรถ 2 คัน มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ คลับเฮาส์พร้อมฟิตเนส และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ สวนส่วนกลาง เป็นต้น

The Grand Udomsuk

โครงการ เดอะ แกรนด์ อุดมสุข โดยบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด ตั้งอยู่ที่วงแหวนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) เขตประเวศ กทม. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่โครงการ 66 ไร่ ราคา 11-18 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 205-289 ตารางเมตร สิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ สวนสาธารณะ -ระบบการรักษาความปลอดภัย 3 ชั้น Triple Security , มีระบบกันขโมยติดตั้งทุกหลัง กล้อง CCTV ทุกจุดสำคัญ เป็นต้น

บทสรุป
โครงการนี้อยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง และในอนาคตจะมีโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) ผ่าน แม้จะไม่ผ่านบนถนนเฉลิมพระเกียรติโดยตรง แต่ทำให้ราคาที่ดินในทำเลนี้ขยับขึ้นได้อีกหลายเท่าตัว ซึ่งปัจจุบันราคาที่ดินติดถนนหลักเฉลี่ยที่ 80,000-101,000 บาทต่อตารางวา ส่วนในซอยราคา เฉลี่ยที่ 30,000-60,000 ตารางวา ซึ่งคาดว่า อีก 2 – 3 ปีข้างหน้า ราคาที่ดินในย่านนี้จะปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 20%-30% อีกทั้งเป็นโซนที่เป็นเขตพิเศษ เพราะใกล้สวนหลวง ร.9 ทำให้สงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน รวมถึงเป็นโครงการระดับไฮเอนด์ที่ยังมีคู่แข่งน้อย แต่ด้านราคาอาจจะสูงเมื่อเทียบกับโครงการที่อยู่ในระดับไฮเอนด์ด้วยกัน อย่างไรก็ตามโครงการอยู่ในทำเลที่ติดถนน ไม่ต้องเข้าซอยลึก จึงสะดวกกับการเดินทางสัญจรเป็นอย่างมาก

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

]]>