กลุ่มอสังหาฯตระกูลลิปตพัลลภผุดบิ๊กโปรเจคย่านสุขุมวิท

31 ต.ค. 2556

พราว เรียลเอสเตทขยายพอร์ตสู่เซกเมนต์ที่อยู่อาศัยเต็มตัว แตกบริษัทลูก “พราวด์ เรสซิเดนซ์” ดึงอดีตหัวเรือใหญ่โนเบิลอย่าง “ธงชัย บุศราพันธ์” นั่งแท่นซีอีโอ ประเดิมโครงการแรกบนที่ดินผืนยักษ์ 12.5 ไร่มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท
 
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากที่บริษัทได้เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยการพัฒนาโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท รวมไปถึงการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาทในการพัฒนาศูนย์การค้าบลูพอร์ท หัวหิน รีสอร์ท มอลล์บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่และล่าสุดกับการเปิดสวนน้ำวานา นาวาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเป็นสวนน้ำคอนเซ็ปต์วอเตอร์ จังเกิ้ลแห่งแรกของเอเชียและแห่งแรกของประเทศไทยที่มีเครื่องเล่นของบริษัท White Water West ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องเล่นสวนน้ำยักษ์ใหญ่ของโลกแล้ว ก้าวต่อไปของบริษัทคือการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ด้วยการลงทุนในโครงการที่พักอาศัยอย่างเต็มตัว โดยเน้นการพัฒนาโครงการในระดับไฮเอนด์ ในทำเลใจกลางเมืองสำคัญๆ ของประเทศ
 
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่เพื่อดำเนินการพัฒนาธุรกิจที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในชื่อ “บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด” โดยได้ผู้บริหารหนุ่มฝีมือดี “ธงชัย บุศราพันธ์” อดีตเอ็มดีค่ายอสังหาฯ ชื่อดังอย่างโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มานั่งแท่นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยบริษัทดังกล่าวครอบครัวลิปตพัลลภเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 70% ในขณะที่นายธงชัยถือหุ้นอยู่ 30% โดยมีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท
 
สำหรับโครงการแรกของพราวด์ เรสซิเดนซ์นั้น ได้แก่ โครงการพาร์ค 24 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมมูลค่าโครงการรวม 15,000 ล้านบาทตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 12.5 ไร่ใจกลางซอยสุขุมวิท 24 โดยมีจุดเด่นที่มีพื้นที่สีเขียวในโครงการมากถึง 80%
 
โดยโครงการจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส โดยในเฟสแรกประกอบด้วย 3 อาคาร แบ่งเป็นอาคารชุดเพื่อการพาณิชย์สูง 2 ชั้น 1 อาคารจำนวน 4 ยูนิต และอาคารคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัย 2 อาคาร ความสูง 51 ชั้น และ 29 ชั้นรวม 837 ยูนิตและในเฟส 2 ซึ่งจะเปิดขายในปี 2557 มีทั้งหมด 3 อาคาร เป็นอาคารคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัยความสูง 50 ชั้น, 40 ชั้น และ 30 ชั้น ตามลำดับ รวมกว่า 1,300 ยูนิต โดยในแต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องชุดจำกัดเพียง 12 ยูนิตเท่านั้น
 
สำหรับขนาดของห้องชุดภายในโครงการดังกล่าวแบ่งเป็นขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 27-28 ตารางเมตร 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 52-54 ตารางเมตร ห้องดูเพล็กซ์พื้นที่ประมาณ 80-106 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 150,000 บาทต่อตารางเมตร ค่าส่วนกลางตารางเมตรละ 65 บาท โดยจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2561
 
สำหรับราคาขายโครงการในเฟส 2 นั้นจะมีการปรับขึ้น 10-15% หรือเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 165,000-170,000 บาท
 
“ความโดดเด่นของโครงการนี้คือเป็นคอนโดมิเนียมที่มีมูลค่าขายสูงที่สุดในย่านในกลางกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินที่มีราคาขายปัจจุบันสูงเป็นสถิติคือตารางวาละ 2 ล้านบาท ” นายธงชัยกล่าว
 
ทั้งนี้ โครงการจะเปิดลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิในการจองตั้งแต่วันนี้ – 15 พฤศจิกายน 2556 ที่สำนักงานขาย ณ ที่ตั้งโครงการ เพื่อให้ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนไว้ได้จองในงานเปิดตัวในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
 
สำหรับแผนในการพัฒนาโครงการของบริษัทในอนาคตนั้น นายธงชัยกล่าวว่าจะมีการเปิดโครงการต่อเนื่องปีละ 1-2 โครงการ โดยตั้งงบสำหรับการซื้อที่ดินไว้ที่ประมาณปีละ 2,000-4,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีที่ดินที่มองๆ ไว้อยู่หลายแปลง แต่ยังอยู่ในช่วงของการศึกษา ซึ่งทำเลที่ตั้งนั้นหากไม่อยู่ใจกลางเมือง ก็ต้องเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการที่จะพัฒนาเป็น destination ใหม่
 
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com        
 
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่  
 
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ 
เขียนความเห็น