ตลาดรับสร้างบ้าน ตจว.บูม

7 พ.ค. 2556

 
ส.ไทยรับสร้างบ้าน ชี้ตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัดเติบโต เผยการปล่อยสินเชื่อกู้สร้างบ้านจากธนาคารพาณิชย์เป็นปัจจัยช่วยดึงกำลังซื้อและขยายตลาดรวมรับสร้างบ้าน มองไกลปี 58 ดันมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านเพิ่มเป็น 15,000 ล้าน 
 
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่าในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาปริมาณและมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านของกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ สามารถแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาได้จากกลุ่มผู้รับเหมารายย่อยหรือตลาดบ้านสร้างเองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดบ้านสร้างเองในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งในแง่มูลค่าต่อหน่วยและปริมาณหน่วยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภครับรู้และพอใจการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแทนการว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยทั่วไปมากขึ้น รวมทั้งผู้บริโภคพร้อมจะลงทุนหรือใช้เงินเพื่อสร้างบ้านในราคาต่อหน่วยที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน 
 
จากข้อมูลของสมาชิกพบว่า ราคาบ้านเฉลี่ยที่ได้รับความนิยมสูงสุดอยู่ที่ยูนิตละ 3.5-5 ล้านบาท 
 
“ตลาดรับสร้างบ้านและกำลังซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มขยายตัวและกลายโอกาสเปิดกว้างสำหรับผู้ประกอบการรายเดิมที่มีความพร้อมและรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านในการที่จะขยายสาขาหรือเปิดดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยที่ไม่ต้องแข่งขันกระจุกตัวอยู่เฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเหมือนเช่นที่ผ่านมา ดังนั้น หากผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้สามารถให้บริการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมากที่สุดเท่าไร ก็ย่อมจะส่งผลให้ตลาดรวมรับสร้างบ้านมีโอกาสเติบโตได้ตามกัน ทั้งนี้ สมาคมฯ เองก็ได้วางเป้าหมายไว้ว่าจะผลักดันให้มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านจากปัจจุบันมีแชร์ส่วนแบ่งตลาดบ้านสร้างเองอยู่ที่ประมาณ 10,000 ล้านบาทเศษ เพิ่มขึ้นเป็น 15,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า” 
 
นายสิทธิพร ยังกล่าวต่ออีกว่าสถิติที่ผ่านมาผู้บริโภคที่เลือกใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้าน ส่วนใหญ่จะใช้เงินออมในการลงทุนสร้างบ้านหลังใหม่โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 80-90% แต่ในปัจจุบันพบว่าผู้บริโภคมีการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจากธนาคารพาณิชย์มากขึ้น โดยสัดส่วนการใช้เงินออมลดลงเหลือเพียง 55-60% เท่านั้น 
 
จากการสอบถามผู้บริโภคถึงเหตุผลที่เลือกกู้ยืมเงินธนาคาร มีทั้งที่ระบุว่า “ยังไม่มีเงินออม แต่มีรายได้ประจำมากพอและพร้อมจะผ่อนชำระเป็นรายเดือน” และอีกเหตุผลหนึ่งระบุ “มีเงินออม แต่ต้องการเก็บไว้ลงทุนด้านอื่น” ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคที่ใช้สินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์นั้นนับว่ามีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคมีโอกาสสร้างบ้านเป็นของตัวเองได้เร็วขึ้น และทำให้ขนาดตลาดรับสร้างบ้านขยายตัวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคในต่างจังหวัด ที่ในอดีตมีความยุ่งยากในการจะกู้ยืมเงินเพื่อสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ไม่ให้ความสำคัญเหมือนเช่นปัจจุบัน
 
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
 
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ
 
เขียนความเห็น