หมู่บ้านประหยัดพลังงานของแท้ของญี่ปุ่นได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว ถ้าไทยจะทำบ้านให้ดีมีคุณภาพการอยู่อาศัยขั้นสูง ต้องลงทุนสร้างบ้านคุณภาพและสาธารณูปโภคที่ยั่งยืนในระยะยาวโดยยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น
ในระหว่างวันที่ 16-21 มิถุนายน 2556 ผมได้พาคณะผู้สนใจด้านอสังหาริมทรัพย์ไปดูงานอสังหาริมทรัพย์ที่นครโอซากา โกเบ นาราและเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และได้มีโอกาสไปเยือนหมู่บ้านประหยัดพลังงาน SMA Eco Town Harumi-Dai ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท Daiwa House ที่เป็นบริษัทก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปและนักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของญี่ปุ่น
หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในนครซาไก (Sakai) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของนครโอซากา โดยถือเป็นหมู่บ้านที่ผลิตคาร์บอนต่ำ โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการอยู่อาศัยที่เข้ากับธรรมชาติ และสร้างบ้านแบบไร้การใช้พลังงานเพิ่ม (Net Zero Energy House) โดยพลังงานที่ใช้ในบ้านจะเน้นจากแผงพลังแสงอาทิตย์ที่กักเก็บไว้ใช้ในยามค่ำคืนด้วยแบตเตอรี่ Lithium Ion รวมทั้งยังมีระบบจัดการพลังงานภายในบ้าน (Home Energy Management System: HEMS) ซึ่งสามารถเห็นได้ว่าได้ใช้พลังงานไปเท่าไหร่ ยังเหลือพลังงานอีกมากน้อยเพียงใด เป็นต้น
ยิ่งกว่านั้นหมู่บ้านนี้ยังตั้งเป้าให้พลังงานที่ผลิตมีเหลือมากกว่าพลังงานที่ใช้ไปด้วยซ้ำไป เช่น นำพลังงานที่เหลือไปใช้เป็นไฟถนนส่องสว่างยามค่ำคืน หรือใช้เติมรถยนต์ไฟฟ้าของประชาชนในหมู่บ้าน เป็นต้น รวมทั้งยังอาจขายหรือช่วยเหลือไปยังหน่วยงานอื่นต่อไป หมู่บ้านนี้จึงเป็นหมู่บ้านประหยัดพลังงานอย่างแท้จริงแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทาง Daiwa House จะขยายตัวไปทำในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ และอาจนำมาขายในประเทศอื่นอีกด้วย
สำหรับในรายละเอียด หมู่บ้านนี้มีบ้านเดี่ยวอยู่ทั้งหมด 65 หลัง แบ่งขายเป็นระยะ ๆ ตั้งแต่ 20, 10, 10 และ 25 หลังสุดท้าย ขณะนี้เปิดขาย 30 หลังนับแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 มีผู้ซื้อไปแล้ว 22 หลัง และเริ่มมีผู้เข้าอยู่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน 14 หลังแล้ว คาดว่าจะขายได้หมดภายในปี พ.ศ.2556 นี้
บ้านหลังหนึ่งมีราคา 13 – 15 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 14 ล้านบาท เฉพาะตัวบ้านอย่างเดียวมีราคา 9 ล้านบาท ที่เหลืออีก 5 ล้านบาทเป็นค่าที่ดิน แสดงให้เห็นชัดว่าเทคโนโลยีและการก่อสร้างบ้านมีราคาสูงมากในญี่ปุ่น หากเป็นบ้านคล้ายกันในทำเลใกล้เคียงกัน แต่ไม่ใช่บ้านประหยัดพลังงาน จะมีราคาถูกกว่าประมาณ 16% หรืออีกนัยหนึ่งบ้านประหยัดพลังงานนี้มีราคาสูงกว่าบ้านทั่วไปประมาณ 19% นั่นเอง
บ้านแต่ละหลังมีขนาดอาคารราว 120 ตารางเมตร และขนาดที่ดิน 170 ตารางเมตร แสดงว่าหากเทียบกับพื้นที่ก่อสร้าง บ้านหลังหนึ่งที่มีราคา 14 ล้านบาท จะมีราคาตารางเมตรละ 117,000 บาท แต่หากเทียบกับค่าอาคารที่ 9 ล้านบาท ราคาตัวอาคารบ้านจะเป็นเงินประมาณ 75,000 บาทต่อตารางเมตร และสำหรับกรณีราคาที่ดินที่ 5 ล้านบาทต่อหลังสำหรับที่ดินขนาด 170 ตารางเมตร หรือ 42.5 ตารางวานั้น ราคาที่ดินจะตกตารางวาละ 118,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่สูงนัก เพราะตั้งอยู่นอกเมือง
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโครงการหมู่บ้านแห่งนี้ จะเป็นคนทำงานที่มีอายุประมาณ 35 ปีขึ้นไป มีรายได้ครอบครัวเฉลี่ยประมาณ 200,000 บาทต่อเดือน ประมาณว่าครึ่งหนึ่งของผู้ซื้อทำงานอยู่บริเวณใกล้เคียง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งทำงานอยู่ในนครโอซากา ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟ และรถใต้ดิน กินเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และใช้เงินค่าเดินทางเที่ยวละ 160 บาทต่อคน
โครงการหมู่บ้านแห่งนี้มีขนาดที่ดินประมาณ 11.5 ไร่ ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประถมศึกษามาก่อน แต่โดยที่นักเรียนมีน้อย ในขณะรัฐบาลท้องถิ่นมีนโยบายยุบรวมโรงเรียน จึงขายที่ดินแปลงนี้ให้กับบริษัท Daiwa House พัฒนาเป็นหมู่บ้านประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ นครซาไก เคยเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ เช่น Sharp, Sony และอื่น ๆ แต่ปัจจุบันโรงงานต่าง ๆ ไปขยายตัวในต่างประเทศ ทำให้จำนวนประชากรกลับลดลง ปัจจุบันจึงกลายเป็นเมืองอยู่อาศ้ย (Bed City) สำหรับคนทำงานในนครโอซากา
ในแง่ของสาธารณูปโภค โครงการนี้เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว ถนนในหมู่บ้านจะถูกยกให้กับเทศบาลหรือรัฐบาลท้องถิ่น มีค่าดูแลชุมชนเดือนละประมาณ 1,600 บาท เพื่อเป็นค่าจัดเก็บขยะและค่าดูแลอื่น ๆ แต่จะไม่มีป้อมยาม ไม่มียามรักษาความปลอดภัย เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของเทศบาลอยู่แล้ว ในโครงการไม่มีรั้วรอบขอบชิดสูง ๆ เช่นหมู่บ้านในประเทศไทย เป็นเพียงรั้วเตี้ย ๆ สูงไม่ถึง 1 เมตร เพื่อให้เป็นหมู่บ้านที่ดูเป็นมิตรและน่าอยู่
จะเห็นได้ว่าบ้านในญี่ปุ่นมีขนาดกระทัดรัด ซึ่งก็ทำให้น่าอยู่ ไม่แออัดได้ จึงเป็นโครงการที่ควรศึกษาเป็นแบบอย่าง
บทความข้างต้นเป็นความคิดเห็นของดร.โสภณ พรโชคชัย ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ