ตลาดที่อยู่อาศัยภูเก็ตซึมจัด ครึ่งปีแรกมีโครงการเปิดตัวใหม่เพียง 700 ยูนิต คอนโดฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านได้รับความนิยมสูงสุด จากผลสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตโดย AREA
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA เปิดเผยว่าจากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2537 ล่าสุดพบมีโครงการที่ขายอยู่ในท้องตลาดทั้งหมด 153 โครงการ จำนวน 29,776 ยูนิต รวมมูลค่า 95,608 ล้านบาท โดยราคาขายเฉลี่ยอยู่ในอัตราที่สูงกว่าราคาขายในกรุงเทพฯ โดยอยู่ที่ยูนิตละ 3.21 ล้านบาท
สินค้าที่มีการพัฒนาออกมาขายมากสุด ได้แก่ อาคารชุดพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียม ซึ่งมีอยู่ถึง 16,107 ยูนิตคิดเป็น 54% ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่สำรวจ รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 15% และตามมาด้วยบ้านเดี่ยว 14% โดยสินค้าที่น่าจับตามอง ได้แก่ บ้านแฝดซึ่งมีการพัฒนาออกมาถึง 13% เนื่องจากบ้านแฝดมีลักษณะคล้ายบ้านเดี่ยวเพียงแต่พื้นที่เล็กกว่าและราคาถูกกว่าบ้านเดี่ยวจึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากกว่า
ตัวเลข ณ กลางปี 2557 ปรากฎว่าตลาดยังมีที่อยู่อาศัยรอการขายอยู่ทั้งหมด 7,124 ยูนิต แบ่งเป็นในตัวอำเภอเมือง 2,929 ยูนิต อำเภอกะทู้ 873 ยูนิต และอำเภอถลาง 2,513 ยูนิต
สินค้าที่เหลือขายมากสุดได้แก่ คอนโดมิเนียม ซึ่งมีเหลืออยู่ประมาณ 3,463 ยูนิต คิดเป็น 49% รองลงมาคือบ้านเดี่ยว 20% ทาวน์เฮ้าส์ 16% บ้านแฝด 12% จะสังเกตได้ว่า แม้โครงการอาคารชุดจะเปิดตัวมากกว่าสินค้าอื่นในสัดส่วนถึง 54% แต่สัดส่วนที่เหลือมีเพียง 49% แม้บ้านเดี่ยวจะมีการเปิดตัวน้อยกว่าทาวน์เฮาส์แต่กลับเหลือมากกว่าทาวน์เฮาส์ เพราะขายช้ากว่านั่นเอง ส่วนบ้านแฝดเหลือน้อยกว่ากลุ่มอื่น ๆ ยกเว้นอาคารพาณิชย์และที่ดินจัดสรรที่มีอยู่ไม่มากนักในตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดภูเก็ต
นอกจากนี้ ในช่วง 1 ปีล่าสุด AREA ยังพบอีกว่ามีการซื้อขายรวม 4,408 ยูนิต โดย 36% เป็นการขายสินค้าในราคา 2-3 ล้านบาท อีก 35% เป็นการขายสินค้าในระดับราคา 1-2 ล้านบาท อีก 17% ขายในราคา 3-5ล้านบาท โดยคอนโดฯ ขายได้มากที่สุด 68%
ในด้านของการเปิดตัวนั้น ช่วงครึ่งแรกของปีนี้มีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 700 ยูนิตเท่านั้น รวมมูลค่า 2,700 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าภาวะตลาดของการขายค่อนข้างตึงเครียดจึงแทบไม่มีการเปิดตัวมากนัก สินค้าที่เปิดตัวมากที่สุดยังคงเป็นคอนโดฯ ที่คิดเป็นสัดส่วนถึง 96% โดยเป็นห้องชุดในระดับราคา 2-3 ล้านบาท และ 3-5 ล้านบาท
“ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตกำลังชะลอตัวลง ดังนั้นการลงทุนโครงการใหม่ๆ จึงต้องทำการศึกษาควาามเป็นไปได้ทางการตลาดและทางการเงินอย่างชัดเจนก่อนการลงทุน รวมทั้งการศึกษาข้อกฎหมายที่เป็นข้อจำกัดอย่างมากมายบนเกาะภูเก็ตนี้” ดร.โสภณ กล่าว
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
