ช.การช่างมั่นใจ ปี 58 ดึงงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐได้ 20-25% พร้อมจับมือ TTW สร้างโรงงานผลิตน้ำประปาในสมุทรสาคร-รังสิตเพิ่ม และเตรียมบุกเมียนมาร์ต้นปี 58
นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาออกแบบและก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา ของกลุ่มบริษัท ทีทีดับเบิ้ลยู จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เพื่อขยายกำลังผลิตน้ำประปาในพื้นที่สมุทรสาคร-นครปฐม มูลค่า 3,106 ล้านบาท และพื้นที่ปทุมธานี-รังสิต มูลค่า 392 ล้านบาท มูลค่ารวม 3,498 ล้านบาท โดยงานทั้งหมดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาและเตรียมการที่จะดำเนินการก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปาในประเทศพม่าร่วมกับ TTW โดยจะเริ่มที่เมืองเมาะลำใยเป็นแห่งแรก คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงต้นปี 2558 นี้
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือปีนี้รวมกว่า 10,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าบางปะอิน เฟส 2 มูลค่ากว่า 4,611 ล้านบาท งานก่อสร้างเพิ่มเติมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีเขียว มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และงานก่อสร้างโรงผลิตน้ำประปา มูลค่า 3,498 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลงนามงานก่อสร้างระบบสายไฟฟ้าใต้ดินให้แก่การไฟฟ้านครหลวง อีกกว่า 1,100 ล้านบาท
“ปี 2557 นี้แม้ว่าในประเทศจะมีปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจจะชะลอตัว รวมทั้งมีผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก งานก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐเป็นไปด้วยความล่าช้า แต่โดยรวมถือว่าไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เพราะปัจจุบันเรามีงานรอรับรู้รายได้ในมือรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ส่วนงานในมือที่ดำเนินการอยู่ก็มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงสนามไชย – ท่าพระ มีความก้าวหน้ากว่า 60% แล้ว โดยขณะนี้อุโมงค์รถไฟฟ้าอุโมงค์แรกได้ขุดเจาะลอดแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วเสร็จ และกำลังจะเริ่มขุดเจาะอุโมงค์ที่สอง โดยคาดว่างานจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2559″
“นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดซื้อระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ –บางซื่อ บริษัทได้เริ่มผลิตขบวนรถไฟฟ้าแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น โดยให้บริษัท J-TREC (Japan Transport Engineering Company) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าความเร็วสูง Bullet Train ในประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้ดำเนินการ โดยคาดว่ารถไฟฟ้าขบวนแรกจะส่งมาถึงประเทศไทยในปลายปี 2558 ก่อนจะเริ่มทดสอบระบบ โดยคาดว่ารถไฟฟ้ากรุงเทพฯ (BMCL) จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้กลางปี 2559 และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือนสิงหาคม 2559 ส่วนโครงการสำคัญอื่นๆ เช่น โครงการไซยะบุรี มีความก้าวหน้ากว่า 45% โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ มีความก้าวหน้ากว่า 50%” นายปลิวกล่าว
สำหรับแผนการลงทุนและดำเนินธุรกิจในปี 2558 นั้น บริษัทจะเข้าร่วมแข่งขันในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐอย่างเต็มที่ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู โครงการรถไฟทางคู่ โครงการมอร์เตอร์เวย์ โดยมั่นใจว่าจะได้ส่วนแบ่งงานก่อสร้างกว่า 20-25% ของงานทั้งหมด และพร้อมที่จะเข้าร่วมลงทุนดำเนินการในโครงการของภาครัฐแบบ PPP (การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน) ทั้งโครงการทางด่วน รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้า น้ำประปา โดยมีบริษัทในกลุ่ม BECL (ทางด่วนกรุงเทพ), BMCL (รถไฟฟ้ากรุงเทพ), TTW (ทีทีดับบลิว) และ CKP (ซีเค พาวเวอร์) เป็นผู้ร่วมดำเนินการ
นอกจากนี้ ในต้นปี 2558 คาดว่างานสัมปทานเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย จะได้ข้อสรุปอย่างแน่นอน
ภาพ: โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ สัญญาที่ 2: งานออกแบบควบคู่การก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน ช่วงสนามไชย – ท่าพระ
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
