ใครที่มีบ้านไม้อาจจะรู้สึกกังวลใจกับสายฝนที่ตกกระหน่ำอยู่ด้านนอก ยิ่งเวลาที่มีพายุแรงๆ ทั้งฝาบ้าน ประตู หน้าต่าง จะเปียกโชกไปหมด นอกจากจะทำให้ไม้ชื้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการผุผัง รวมไปถึงการบิดตัว ยืดหดตัวของไม้จากอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วชนิด สายแดด บ่ายฝน แต่ถ้าเรามีเคล็ดลับดีๆ ที่จะดูแลบ้านไม้ ฝนจะแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว
ฝาบ้าน ประตู หน้าต่าง และโครงสร้างไม้ภายนอก
เราสามารถปกป้องผิวไม้จากความชื้นที่มาจากฝนหรือการรดน้ำต้นไม้ประจำวันของเราได้ด้วยการทาสีน้ำมันหรือสีน้ำพลาสติกเพื่องานไม้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เรามองไม่เห็นลายไม้สวยๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าหากต้องการโชว์ลายไม้ล่ะก็แนะนำให้ใช้สีย้อมไม้จะเหมาะสมกว่าเพราะตัวสีจะซึมเข้าสู่เนื้อไม้และมีคุณสมบัติโปร่งใสทำให้มองทะลุเห็นลายไม้ ซึ่งสามารถทาลงบนพื้นผิวไม้ที่สะอาดและแห้งสนิทได้เลยไม่ยุ่งยาก แต่ก่อนจะทาสีควรจะเคลือบผิวไม้ด้วยน้ำยาป้องกันปลวกและแมลงเสียก่อน

ภาพ via flooring.in.th
เฉลียง ระเบียง และโครงสร้างไม้กลางแจ้ง
แม้แต่วัสดุไม้ที่นำไปใช้ในพื้นที่ซึ่งเปียกน้ำโดยตรงอย่างพื้นเฉลียง ระเบียง หรือไม้ระแนงพรางแดด ซึ่งเป็นส่วนที่ตากแดดตากฝนอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้กลางแจ้งอย่างชุดโต๊ะเก้าอี้สนาม เราก็สามารถดูแลได้ เริ่มจากการเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง หรือไม้แดง ในส่วนเหล่านี้ เพราะเป็นไม้ที่มีเนื้อแข็งแรง ปลวกและแมลงไม่กัดกิน จากนั้นจึงดูแลด้วยการทาสีย้อมไม้เพื่อลดการดูดซึมความชื้นเข้าสู่เนื้อไม้ ซึ่งเป็นเหตุของการผุพัง นอกจากนี้ในส่วนของพื้นระเบียงการติดตั้งต้องเว้นระยะห่างเพื่อให้การระบายน้ำเร็ว และไม่เกิดน้ำขังบนพื้นไม้ โครงสร้างไม้กลางแจ้งหรือเฟอร์นิเจอร์สามารถทาสีน้ำมันได้เพื่อสีสันที่สวยงาม แต่ไม่ควรทาสีน้ำมันบนพื้นไม้เพราะจะลื่นมากเวลาเปียกน้ำ และการทาสีซ้ำต้องขัดวัสดุเคลือบเดิมออกก่อนเพื่อให้น้ำยาใหม่เกาะตัวกับผิวไม้ได้ดี ควรเคลือบผิวไม้อย่างสม่ำเสมอทุกๆ 3 ปี

ภาพ via thedoublefloor.com
พื้นไม้ และโครงสร้างไม้ในบ้าน
แม้จะไม่โดนแดด โดนฝนโดยตรงแต่ไม้ภายในบ้านก็ต้องการการดูแลเช่นกัน เพราะมักจะเป็นรอยขีดข่วนจากการใช้งาน เราสามารถทำให้พื้นกลับคืนความสวยและเงางามได้ ด้วยการขัดผิวและเคลือบทับด้วยวัสดุเคลือบเงาอย่างโพลียูรีเทนซึ่งจะไม่เหลืองขุ่นเหมือนแลคเกอร์จึงให้ความสวยงามที่คงทนกว่า

ภาพ via freesharing.org
เฟอร์นิเจอร์ไม้
การดูแลไม่ต่างจากพื้นไม้และโครงสร้างไม้ในบ้านสามารถเคลือบด้วยโพลียูรีเทนหรือจะลงแลคเกอร์ก็ได้ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบความมันวาวมากจากการเคลือบด้วยวิธีดังกล่าวก็ยังมีทางเลือกด้วยการชะโลมด้วย Teak oil หรือ Oil stain ซึ่งดูเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่วีธีการนี้จะต้องทาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 3 เดือน
ภาพหลัก via associerge.com
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้
ที่นี่เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
ดอกไม้งาม ยามหน้าฝน
แต่งบ้านสวยด้วยปลายนิ้วกับแอพฯ Room Arranger
วัสดุบ้านๆ ไม่กลัวน้ำ