กลุ่มอพอลโล่ฯ โดดร่วมวงคอนโดฯ แนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย แตกแบรนด์ใหม่ “โว้คเพลส” ประเดิมทำเลย่านแบริ่ง แย้มเตรียมงัดแลนด์แบงค์ออกมาพัฒนาโครงการใหม่ในอีก 3-4 ปี รวมถึงเปิดเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์-โรงแรมเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ประจำให้บริษัท
นายวรเทพ ศรีคุรุวาฬ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อพอลโล่ แอสเส็ท จำกัด เปิดเผยว่าหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองภายใต้แบรนด์ “โว้ค เรสซิเดนเชียล คอนโดมิเนียม” มาแล้ว 2 โครงการในซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งปิดการขายไปเรียบร้อยแล้วและในซอยสุขุมวิท 31 ซึ่งปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 95% บริษัทยังคงมองหาทำเลศักยภาพในเมืองเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทได้คว้าที่ดินทำเลในซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งมาพัฒนาเป็นคอนโดฯ โลว์ไรส์แบรนด์ใหม่ “โว้ค เพลส” (Voque Place) ภายใต้บริษัทย่อย “โว้ค พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
สำหรับโครงการ โว้ค เพลส คอนโดมิเนียม สุขุมวิท107 (แบริ่ง 2) เป็นคอนโดฯ ความสูง 8 ชั้นจำนวน 1 อาคาร บนเนื้อที่ 1 ไร่ 2 งาน จำนวน 168 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 460 ล้านบาท ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพพื้นที่ 33 – 40.50 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ 47.5 – 48 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.03 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 60,000 บาทต่อตารางเมตร
โดยหลังจากที่เปิดขายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สามารถปิดการขายไปได้แล้วกว่า 50% โดย 10% เป็นกลุ่มลูกค้าเก่าที่เคยซื้อห้องชุดใน 2 โครงการก่อนหน้า
“ปัจจุบันแนวโน้มของตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ เริ่มเปลี่ยนไปคล้ายๆ กับสิงคโปร์ตรงที่ทำเลที่ดินใกล้กับสถานศึกษาจะมีมูลค่าสูง เนื่องจากอยู่ในความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นครอบครัวหรือต้องการจะสร้างครอบครัว โดยเราได้แนวคิดมาจากการพัฒนาโครงการก่อนหน้านี้อย่าง โว้ค เรสซิเดนเชียล สุขุมวิท 31 ที่มีกลุ่มลูกค้าที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในสถานศึกษาใกล้ๆ กันมาซื้อคิดเป็นสัดส่วนถึง 30-40%” นายวรเทพกล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงการดังกล่าว บริษัทได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารเกียรตินาคิน โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการคัดเลือกผู้รับเหมาเสาเข็ม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงกลางเดือนกันยายนและจะเริ่มก่อสร้างทันที คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1 ปี 2559
ทั้งนี้ นายวรเทพยังคงยืนยันแผนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทว่าจะเปิดโครงการคอนโดฯ ใหม่ปีละ 1-2 โครงการโดยจะยังคงโฟกัสในคอนโดฯ แบบโลว์ไรส์เพราะเป็นโปรดักส์ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ แต่โอกาสในการที่จะลองพัฒนาคอนโดฯ แบบไฮไรส์นั้นก็เป็นไปได้ เมื่อมีความพร้อมเพียงพอ โดยในขณะนี้มีที่ดินอยู่ในมือที่สามารถจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการแนวสูงได้ แต่ขอเก็บไว้ศึกษาเพิ่มเติมก่อน
นายวรเทพกล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วง 3-4 ปีจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำที่ดินที่มีอยู่ในมืองออกมาพัฒนาโครงการใหม่ๆ รวมถึงโครงการที่สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัทอย่างเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์และโรงแรม โดยในปีนี้ บริษัทเตรียมเริ่มก่อสร้างเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ในซอยสุขุมวิท 51 ค่าเช่าประมาณ 30,000-40,000 บาทต่อเดือน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้าชาวญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะใช้เวลาสร้างเสร็จภายใน 15-20 เดือน และสร้างโรงแรมสไตล์บูติกขนาด 40 ห้องบนที่ดินในย่านสุรวงศ์ คาดว่าจะเปิดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี
“ในอีก 2 ปี เรามีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าไปพัฒนาทาวน์โฮมในย่านเพชรเกษมบนที่ดินขนาด 4 ไร่ นอกจากนี้ เรายังมีที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 60 ไร่ในย่านอ่อนนุชที่อาจจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการที่มีทั้งคอนโดฯ และทาวน์โฮม ส่วนการขยายตลาดไปพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดนั้น คงต้องรออีกสัก 2-3 ปี เมื่อเรามีทีมงานที่ใหญ่และพร้อมกว่านี้” นายวรเทพกล่าวทิ้งท้าย
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com