นักวิเคราะห์มองภาคอสังหาฯ จะได้รับอานิสงส์จากส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตเต็มๆ โดยราคาบ้านในแนวรถไฟฟ้าอาจปรับตัวขึ้นถึง 45% ส่วนราคาที่ดินอาจแพงขึ้น 15%
จากบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน หรือ SCB EIC ระบุว่า การก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคตนั้น นอกจากจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางต่อผู้อยู่อาศัยในย่านที่รถไฟฟ้าพาดผ่านแล้ว ยังเพิ่มโอกาสให้ 2 ธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีก
ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้รับอนุมัติการก่อสร้างเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระหว่างรอการประมูลงานก่อสร้าง โดยเส้นทางนี้เป็นส่วนต่อจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มในปัจจุบันที่สิ้นสุดที่สถานีหมอชิต โดยจะต่อขยายเส้นทางจากสถานีหมอชิตไปทางทิศเหนือของกรุงเทพฯ ตามแนวถนนพหลโยธิน (เขตบางเขน-เขตสายไหม) ไปสิ้นสุดที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี รวมระยะทางทั้งสิ้นราว 18 กิโลเมตร โดยอีไอซีประเมินว่ารถไฟฟ้าเส้นดังกล่าวจะสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้ถึง 60,000-80,000 คนต่อวัน
เมื่อพิจารณาเจาะลงไปในทำเลที่จะมีการก่อสร้างส่วนต่อขยายดังกล่าว จะพบว่าเป็นย่านที่ยังมีความต้องการทั้งโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม เช่น ในย่านลำลูกกาและสายไหมจะเน้นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เพื่อตอบสนองลูกค้าที่มีครอบครัวและต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก โดยระหว่างปี 2554-2556 มีการเปิดตัวบ้านเดียวในช่วงราคา 3-5 ล้านบาทประมาณ 1,200 ยูนิต
ขณะที่การเปิดตัวบ้านโครงการที่อยู่อาศัยในย่านสะพานใหม่และรัชโยธิน เน้นคอนโดมิเนียมเพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มนักศึกษาและวัยเริ่มทำงาน เนื่องจากมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ถึง 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และมหาวิทยาลัยเกริก รวมถึงสถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย โดยระหว่างปี 2554-2556 ย่านสะพานใหม่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงราคา 0.5-2 ล้านบาทถึงราว 800 ยูนิต
ทั้งนี้ อีไอซีประเมินว่าการเติบโตด้านอสังหาริมทรัพย์ยังคงไม่เข้าสู่ภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งเห็นได้จากคอนโดมิเนียมช่วงรัชโยธิน ซอยเสนา 2 ถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว มีคนเข้าพักถึง 78% สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่ยังมีอยู่และไม่มีปัญหาการซื้อ-ขายและการโอน
อย่างไรก็ดี เป็นที่คาดว่าราคาของอสังหาฯ ในแนวรถไฟฟ้าสายนี้จะปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อการก่อสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ โดยคอนโดฯ เปิดใหม่จะมีราคาสูงขึ้นประมาณ 25-45% นับจากเมื่อโครงการรถไฟฟ้าเริ่มประมูลจนก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยช่วงการประมูลโครงการรถไฟฟ้า คอนโดฯ ที่ขึ้นใหม่คาดว่าจะมีราคา 55,000 บาทต่อตารางเมตร จากนั้นจะปรับขึ้นเป็น 60,000- 65,000 บาทต่อตารางเมตร ในช่วงก่อสร้างรถไฟฟ้าและ 70,000-80,000 บาทต่อตารางเมตร เมื่อโครงการโครงการรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับราคาที่ปรับขึ้นของส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ
ในขณะที่ที่ดินในทำเลดังกล่าวก็คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นราว 10-15% เมื่อรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ
ปัจจุบันกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีรถไฟฟ้าให้บริการจำนวน 4 สาย ได้แก่รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มเส้นทางหมอชิต-แบริ่ง, สายสีเขียวอ่อน เส้นทางสนามกีฬา-บางหว้า, โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เส้นทางหัวลำโพง-พระราม4-บางซื่อ และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Airport Rail Link) เส้นทางพญาไท-สนามบินสุวรรณภูมิ ครอบคลุมพื้นที่ 537 ตารางกิโลเมตร
โดยในอีก 10 ปีข้างหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 สาย ครอบคลุมพื้นที่ได้ราว 1,640 ตารางกิโลเมตร
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com