การสร้างบ้านด้วยการก่ออิฐถือปูนนั้นเป็นวิธีการที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากการสร้างบ้านด้วยไม้นั้นราคาสูงและเป็นวัสดุที่หายาก แม้กระทั่งโครงสร้างสำเร็จรูปอย่างพรีคาสท์ก็ผลิตจากคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยรวมแล้วข้อดีของบ้านปูนนั้นมีจุดเด่นตรงราคาที่ต่ำกว่า และเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงกว่า ที่สำคัญคือมีความคงทนกว่าไม้มาก แต่สิ่งที่ได้ยินกันบ่อยๆ เมื่อพูดถึงบ้านปูนก็คือบ้านปูนนั้นร้อน
บ้านปูนร้อนจริงหรือ?
ถ้าเปรียบเทียบกับบ้านไม้แล้ว บ้านปูนนั้นร้อนกว่าโดยที่คุณไม่ได้คิดไปเองอย่างแน่นอน เนื่องจากปูนเป็นวัสดุที่ดูดซึมความร้อนได้ดีกว่าไม้ และคายความร้อนได้แย่กว่าไม้ ในเวลากลางวันที่แดดจัดๆ ดาดฟ้าและผนังโดยเฉพาะบริเวณที่รับแดดโดยตรงจะซับความร้อนและอมความร้อนเก็บไว้แม้ว่าจะเข้าสู่ช่วงกลางคืน หากลองสัมผัสผนังดูจะรู้สึกร้อน พอดึกๆ ช่วงที่เราเข้านอนเมื่ออากาศเริ่มเย็นลงปูนก็จะเริ่มคายความร้อนออกมาช้าๆ ด้วยการแผ่ความร้อน และต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงจึงจะคลายความร้อนหมดและเย็นลง
จะลดความร้อนในบ้านปูนลงได้อย่างไร?
การลดความร้อนจากบ้านปูนนั้นทำได้หลายวิธี ด้วยหลักการลดการนำความร้อนจากภายนอกที่จะผ่านเข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน ด้วยการลดการสัมผัสกับแดดโดยตรงต่อส่วนต่างๆ ของบ้านที่เป็นปูน รวมไปถึงการลดปริมาณแสงแดดที่ส่องตรงเข้ามายังพื้นที่ภายในบ้าน
ชายคาบ้าน
ภาพ via vinylhouse.co.th
การออกแบบบ้านให้ชายคาบ้านที่ยื่นยาวออกมาตั้งแต่ 1.5 เมตรขึ้นไปจะสามารถช่วยป้องกันแดดช่วงบ่ายไม่ให้ส่องทแยงมาโดยผนังของเราโดยตรงได้ ทำให้ผนังของเราไม่ร้อนมากนัก
กันสาด ม่านและฟิล์มกรองแสง
ภาพ via loftdecor.com
การติดกันสาดบริเวณเหนือหน้าต่าง นอกจากจะช่วยกันฝนสาดเข้ามาที่หน้าต่างแล้ว ยังช่วยลดแสงแดดที่จะส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาที่ห้องของเราโดยตรงอีกด้วย ถ้าหากการติดกันสาดจะทำให้เสียความสวยงามไปการติดฟิล์มกรองแสงสามารถลดการส่งผ่านความร้อนได้ และควรเลือกใช้ม่านที่มีแผ่นยูวีสะท้อนแสงและปิดม่านเป็นประจำเมื่อมีแดดส่อง
ระแนงกันแดด
ภาพ via rumruay.com
เป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยพรางแสงไม่ให้ส่องกระทบผนังโดยตรง สามารถติดตั้งต่อเนื่องลงมาจากชายคาลงมาตลอดแนวผนัง หรือติดตั้งเพียงบางช่วงเพื่อทำหน้าที่กันแดดแทนกันสาด หรือทดแทนในกรณีที่ชายคาสั้นก็ได้
ผนังสองชั้น
เหมาะที่จะใช้กับคอนโดมิเนียมหรือบ้านที่มีข้อจำกัดเรื่องการเปลี่ยนแปลงผนังด้านนอก สามารถทำได้ด้วยการทำผนังเบาขึ้นมาอีกชั้น โดยเว้นช่องว่างระหว่างผนังเก่าและผนังที่ทำขึ้นใหม่ประมาณ 10 เซนติเมตร โดยใช้อากาศตรงกลางเป็นฉนวน หรือจะใส่ฉนวนกันความร้อนไว้ตรงกลางก็ได้ สามารถลดความร้อนที่จะทะลุผ่านเข้าสู่ตัวห้องได้ระดับหนึ่ง
ปลูกต้นไม้คลุมดาดฟ้า และสวนแนวตั้ง
ภาพ via touchgardensdesign.com
วิธีการนี้นอกจากจะสามรถลดความร้อนได้แล้ว ยังให้ความสวยงามอีกด้วย ต้นไม้ที่นิยมนำมาปลูกบนสวนแนวตั้ง ได้แก่ เฟิร์นต่างๆ สัปปะรดสี และไม้เลื้อยต่างๆ
วิธีการจัดเรียงให้จัดพื้นที่ที่ต้องการความชุ่มชื้นน้อยไว้ด้านบน และพื้นที่ต้องการความชื้นมาไว้ด้านล่าง เนื่องจากเวลารดน้ำ น้ำจะไหลลงไปสู่พืชที่ชอบน้ำมากด้านล่าง ก่อนติดตั้งสวนแนวตั้งต้องสำรวจให้แน่ใจว่าโครงสร้างของผนังมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักไหว
ส่วนบนดาดฟ้านั้นเหมาะแก่การปลูกต้นไม้คลุมดินทั่วไป จำพวกหญ้าหรือหนวดปลาดุกแคระ เน้นให้แผ่ปกคลุมทั่วพื้นดาดฟ้า ดาดฟ้าบ้านทั่วไปซึ่งไม่ได้ออกแบบมาล่วงหน้าให้ทำสวนปลูกต้นไม้ จึงควรหลีกเลี่ยงการนำกระถาง หรือก่อกระบะปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ หรือทำโครงสร้างที่มีน้ำหนักมาก
กรณีที่เป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์หลังริมอาจจะปลูกต้นไม้ที่เป็นพุ่มทรงสูงเอาไว้ข้างบ้านเพื่อกรองแสงได้อีกทางหนึ่ง ต้นไม้ที่เหมาะสมได้แก่ ต้นจั๋ง ต้นโมก ต้นแก้ว ต้นเฮลิโคเนีย เป็นต้น ควรเลือกต้นไม้ที่ไม่มีกิ่งก้านแผ่กว้าง ต้นสูงใหญ่และรากยาวไกลเพราะอาจจะรบกวนโครงสร้างบ้านได้
เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
วิธีการหนึ่งที่ทำได้เลยง่ายๆ คือการเปิดหน้าต่างเพื่อระบายความร้อน เมื่อกลับถึงบ้าน สามารถใช้พัดลมช่วยเร่งการระบายอากาศร้อนให้เร็วขึ้นได้ โดยเฉพาะห้องนอนชั้นบนที่เราปิดประตูหน้าต่างทั้งหมดเวลาไม่อยู่บ้านจะสะสมความร้อนเอาไว้ ถ้ามีการถ่ายเทอากาศออกไปก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศจะช่วยให้ห้องเย็นเร็วขึ้น และช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย
ภาพหลัก via Ohashi Design Studio
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
