ซีบีอาร์อีชี้ความจำเป็นของการมีมืออาชีพดูแลการตกแต่งหรือปรับปรุงภายในออฟฟิศ เผยช่วยลดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายโอเวอร์บัดเจท
การตกแต่งหรือการปรับปรุงภายในสำนักงานเป็นงานที่ใช้เวลาและมีความท้าทายมากที่สุดงานหนึ่ง หลายครั้งที่การดูแลงานดังกล่าวตกเป็นหน้าที่ของพนักงานที่ไม่มีประสบการณ์และความรู้ในทางเทคนิคมากพอที่จะรับมือและจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ เช่น ผู้ให้เช่า ผู้ออกแบบ ที่ปรึกษาด้านต่างๆ ผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ ปัจจุบันหลายบริษัทจึงตัดสินใจว่าจ้าง “ผู้บริหารการตกแต่งภายใน” ที่มาจากภายนอกให้มาดูแลการปรับปรุงหรือการตกแต่งภายในเป็นการเฉพาะ เพื่อให้พนักงานของบริษัทนั้นสามารถทำงานหลักของตนต่อไปได้อย่างเต็มที่
นางสาวภัทรา โชติกะพุกกณะ รองผู้อำนวยการ แผนกการบริหารการตกแต่งภายใน ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่าหน้าที่ของผู้บริหารการตกแต่งภายจะครอบคลุมตั้งแต่เปรียบเทียบราคาค่าก่อสร้าง รวมถึงราคาและคุณภาพของวัสดุก่อสร้างที่ผู้รับเหมารายต่างๆ เสนอเข้ามา โดยผ่านขั้นตอนที่โปร่งใสในการคัดเลือกผู้รับเหมา และอาศัยประสบการณ์และความรู้ด้านการก่อสร้างที่สั่งสมจากโครงการต่างๆ ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผู้บริหารการตกแต่งภายในยังจะต้องตรวจงานออกแบบ พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุงแบบและการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมเพื่อลดความสิ้นเปลืองและให้ได้งานที่มีราคาถูกลงในคุณภาพที่เทียบเท่าเดิม
“ผู้บริหารการตกแต่งภายในจะช่วยให้ความมั่นใจว่า กระบวนการจัดซื้อ-จัดจ้างผู้ออกแบบและผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเสร็จทันตามกำหนดเวลา เพราะเราเข้าใจบริษัทต่างๆ ดีถึงความต้องการคุณภาพงานก่อสร้างที่ต้องดีที่สุด ในราคาที่เหมาะสมที่สุด และส่งมอบงานตามกำหนดเวลา ซึ่งเป็นงานที่ต้องอาศัยผู้ที่มีความสามารถเฉพาะทางและมีประสบการณ์อย่างแท้จริง”
ปัจจุบัน ยังมีผู้เช่าอีกมากที่ลืมไปว่าในสัญญาเช่าพื้นที่ระบุไว้ว่า ผู้เช่าจะต้องรื้อถอนและปรับสภาพพื้นที่เช่าให้กลับเป็นสภาพเดิมเหมือนช่วงก่อนเช่าพื้นที่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือนตามแต่สภาพงานตกแต่งภายในพื้นที่นั้นๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด
โดยส่วนมากแล้ว ผู้ให้เช่าพื้นที่มักจะให้ระยะเวลาที่ยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าเช่ากับผู้เช่าพื้นที่รายใหม่ ซึ่งโดยหลักการแล้ว ผู้เช่าควรทำการตกแต่งพื้นที่ภายในให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ได้รับการยกเว้นค่าเช่านั้น และผู้เช่าควรย้ายเข้าพื้นที่ใหม่ 1 เดือนก่อนที่สัญญาเช่าพื้นที่เก่าจะหมดลง
“ผู้บริหารการตกแต่งภายในจะช่วยให้ผู้เช่าประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการส่งมอบงานภายในระยะเวลาที่กำหนด สร้างความพึงพอใจให้กับทั้งผู้ให้เช่าพื้นที่เก่าและพื้นที่ใหม่ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดหรือลดระยะเวลาที่ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเช่าพร้อมกันทั้งในพื้นที่เก่าและพื้นที่ใหม่ให้น้อยที่สุด” นางสาวภัทรา กล่าวเสริม
ความเสี่ยงที่เห็นได้ชัดจากการไม่มีผู้บริหารการตกแต่งภายใน ได้แก่ ความเสี่ยงที่ค่าใช้จ่ายจะเกินจากงบประมาณที่ตั้งไว้ ความล่าช้าของงานซึ่งส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการยืดระยะเวลาเช่าพื้นที่เดิม รวมทั้งปัญหาในด้านคุณภาพงานก่อสร้าง
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปีนี้ ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานเกรดเอโดยเฉลี่ยในย่านศูนย์กลางธุรกิจหรือซีบีดีอยู่ที่ 837 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน หรือคิดเป็น 28 บาทต่อตารางเมตรต่อวัน ซึ่งถ้าผู้เช่าไม่สามารถส่งมอบพื้นที่หรือย้ายออกจากพื้นที่เดิมได้ทันตามกำหนดที่ระบุในสัญญา ผู้ให้เช่าอาจยินยอมยืดระยะเวลาสัญญาให้กับผู้เช่า แต่ราคาค่าเช่านั้นอาจปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าของราคาค่าเช่าในตลาด
ทั้งนี้ ซีบีอาร์อีแนะนำว่าบริษัทผู้เช่าควรว่าจ้างผู้บริหารการตกแต่งภายในตั้งแต่เริ่มมองหาพื้นที่เช่าแห่งใหม่ โดยผู้บริหารการตกแต่งภายในจะช่วยประเมินตัวเลือกในการเช่าพื้นที่ในด้านต่างๆ ว่าทำเลใดดีที่สุด สามารถจุพนักงานได้มากที่สุดภายใต้พื้นที่ที่น้อยที่สุด เพื่อประหยัดค่าเช่าพื้นที่ส่วนเกินที่ไม่จำเป็น แต่ยังมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีและมีประสิทธิภาพ
สำหรับบริการด้านบริหารการตกแต่งภายในนั้นเป็นหนึ่งในบริการใหม่ของซีบีอาร์อีที่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มความต้องการด้านดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้าในเมืองไทย อย่างไรก็ดี บริการด้านนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในต่างประเทศ และบริษัทข้ามชาติส่วนใหญ่มักจะใช้บริการดังกล่าวเพื่อการใช้จ่ายสำหรับการย้ายสำนักงานใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com