ร่วมอิสสระทุ่ม 1,500 ล้านบาทผุดบ้านทิวทะเล เฟส 3 ภายใต้ชื่อ “บลู” (Blu) มั่นใจความเชื่อมั่นฟื้น กำลังซื้อคึกคักจะดันยอดขายแตะ 30% ภายใน 1 เดือน
นายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด และบริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒนพิบูล เปิดเผยว่าหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการบ้านทิวทะเล เฟส 1 และเฟส 2 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฟสแรกสามารถปิดการขายไปได้กว่า 90% และจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปีนี้ ส่วนเฟส 2 ปัจจุบันขายไปได้กว่า 60% แล้ว ล่าสุด บริษัทมีความพร้อมในการพัฒนาโครงการในเฟส 3 ภายใต้ชื่อ “บลู” (Blu) โดยมีมูลค่าการลงทุนราว 1,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการบลู ชะอำ-หัวหิน จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ความสูง 21 ชั้น จำนวน 491 ยูนิต บนพื้นที่ขนาด 7 ไร่ใกล้กับโครงการใน 2 เฟสแรก บริเวณถนนเพชรเกษม กม. 196 อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ประกอบด้วยห้องชุดขนาด 1 และ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 30-60 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.1 ล้านบาท หรือราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 70,000-95,000 บาท
“ที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินผืนใหญ่ขนาดประมาณ 90 ไร่ แต่ใช้พัฒนาโครงการไป 3 เฟสรวมแล้วเพียง 30 ไร่กว่าๆ เท่านั้น ซึ่งเรามีแผนที่จะค่อยๆ พัฒนาที่ดินส่วนที่เหลือต่อไป โดยมีแผนที่จะพัฒนาเป็นโรงแรม บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอมมูนิตี้มอลล์ต่อไปในอนาคต เพราะเราต้องการที่จะสร้างที่ดินในบริเวณนี้ให้เป็นชุมชนและแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับแผนการพัฒนาในเฟส 4 นั้น คาดว่าจะนำที่ดินอีก 15 ไร่ออกมาพัฒนาเป็นโรงแรมและคอนโดฯ โลว์ไรส์ แต่ยังคงอยู่ในช่วงของการศึกษาอยู่” นายดิฐวัฒน์กล่าว
ขณะนี้ บริษัทได้เปิดตัวโครงการและเปิดพรีเซลอยู่ที่บริเวณชั้น 1 โซน D ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว ไปจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2557 ซึ่งราคาพิเศษช่วงพรีเซลจะเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท โดยมีคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเป็นที่ปรึกษาและดูแลการขาย
สำหรับกลุ่มลูกค้าของโครงการดังกล่าวจะเป็นกลุ่ม B+ ขึ้นไปและเป็นลูกค้าจากกรุงเทพฯ ที่ต้องการมองหาบ้านพักตากอากาศที่มีวิวทะเล ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ราว 30% ภายใน 1 เดือนหลังการเปิดตัว
ในส่วนของการก่อสร้างนั้นคาดว่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงต้นปีหน้าและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2559
ด้านนายไทรมั่น ลัญจน์ดี ประธานกรรมการบริหาร คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาแนวโน้มความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นมาก ดูได้จากจำนวนคนที่เข้ามาชมโครงการต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดชะอำ-หัวหินยังคงเป็นตลาดของผู้ซื้อชาวไทยเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจในตลาดนี้ยังไม่มากเท่าที่ควรเนื่องจากการเดินทางเชื่อมต่อจากสนามบินมายังชะอำและหัวหินยังไม่สะดวกเมื่อเทียบกับพัทยา ดังนั้น ลูกค้าชาวต่างชาติที่มาซื้อที่โซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยอยู่แล้วนั่นเอง โดยคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 10%
สำหรับแผนในการเปิดโครงการอื่นๆ ภายในปีนี้นั้น นายดิฐวัฒน์ เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาส 4 ชาญอิสสระจะมีการเปิดโครงการใหม่ “อิสสระ คอลเลคชั่น” บริเวณนางลิ้นจี่ ซอย 4 ซึ่งจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ความสูง 8 ชั้น โดยจะมีเพียง 33 ยูนิต ห้องเริ่มต้นที่ขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้นตั้งแต่ 100 ตารางเมตรเป็นต้นไป ส่วนโครงการดิ อิสสระ ที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นประเมินด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) รอบที่ 2 อยู่ คาดว่าจะเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า แต่ปัจจุบันก็เปิดพรีเซลแล้ว โดยมียอดจองอยู่ที่กว่า 10%
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com