สวมมงกุฏให้บ้านด้วยหลังคาสวย

Kanchana Paha30 ก.ย. 2557

นางงามจะสวยเด่นเป็นสง่าก็เพราะมงกุฏที่ประดับอยู่บนศีรษะ ไม่ต่างอะไรจากบ้านที่มีหลังคาสวยๆ ได้รับการออกแบบอย่างดี มีสไตล์ และสะท้อนรสนิยมของเจ้าบ้าน หากจะเปรียบเทียบหลังคาประดุจมงกุฏของบ้านก็คงไม่เป็นการกล่าวเกินจริง เพราะหลายครั้งหลายหนที่เราเดินทางไปหาคนรู้จัก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นบ้านหลังไหน เรามักจะนึกออกได้ทันทีที่เห็นหลังคาบ้านที่สูงเด่นเป็นเอกลักษณ์มาแต่ไกล ความสวยงามจึงเป็นคุณสมบัติอันดับต้นๆ ในการเลือกหลังคาให้กับบ้าน แต่เพื่อการอยู่อาศัยที่สุขสบายหลังคาต้องทำหน้าที่ได้อย่างดีด้วย ทั้งกันแดด กันฝน และลมพายุ DDproperty มีหลังคาทรงต่างๆ พร้อมจุดเด่นของหลังคาแต่ละแบบมาช่วยคุณตัดสินใจ

หลังคาเพิงหมาแหงน (Shed Roof)

Shed-Roof
ภาพ via lawrencearchitecture.com

เป็นหลังคาที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ ตามเทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยแบบโมเดิร์นที่ดูเรียบง่าย หลังคาแบบนี้จะมีลักษณะลาดเอียดไปทางทิศใดทิศหนึ่งเพียงทิศเดียว โดยทั่วไปนิยมสร้างยกด้านหน้าให้สูงแล้วเทลาดเอียงไปด้านหลังบ้าน โดยมีเชิงชายรอบตัวบ้าน ด้านหน้ายื่นมากกว่าด้านอื่นๆ เพื่อบังแดดและฝนที่สาดเข้าด้านหน้าบ้าน ระดับความเอียงของหลังคาบ้านแบบนี้จะไม่มากจึงต้องระวังเรื่องการระบายน้ำ การรั่วซึม วัสดุที่เลือกใช้คือเมทัลชีทซึ่งมีรอยต่อระหว่างแผ่นน้อยจึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาน้ำระบายช้าแล้วไหลย้อนกลับใต้แผ่นกระเบื้อง นอกจากนี้หลังคาแบบนี้จะมีระยะห่างระหว่างแผ่นหลังคากับฝ้าเพดานน้อย จึงมีโอกาสที่ห้องชั้นบนจะร้อนในเวลากลางวัน แต่การตีเกร็ดระบายอากาศด้านหน้าและด้านหลังจะช่วยให้อากาศหมุนเวียนลดความร้อนได้บ้าง และอีกปัญหาที่อาจจะเกิดคือเสียงดังในขณะฝนตก เนื่องจากเมทัลชีทนั้นจะมีเสียงดังเมื่อฝนตกกระทบจึงควรเลือกใช้เมทัลชีทที่มีฉนวนติดมาในตัว รวมไปถึงการใส่ฉนวนกันความร้อนใต้ฝ้าเพด้านอีกชั้นจะช่วยลดเสียงดังเวลาฝนตกได้บ้าง อีกจุดที่ต้องคำนึงถึงคือการที่หลังคาเทไปด้านเดียวทำให้น้ำฝนจะไหลไปตกที่ด้านนั้นมาก จึงควรติดตั้งรางน้ำที่มีขนาดใหญ่เพียงพอและดูแลให้มีการระบายน้ำได้ดีอยู่เสมอ

หลังคาจั่ว (Gable Roof)

gabled-roof
ภาพ via trendir.com

เป็นหลังคาที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นหลังคาที่ค่อนข้างเหมาะสมกับสภาพอากาศของบ้านเรา ซึ่งมีภูมิอากาศแบบร้อนชื้น สลับกับฝนตก ลักษณะเด่นของหลังคานี้คือสันหลังคาเป็นแนวยาวและมีหลังคาลาดลงสองฟาก ความสวยงามคือความสมมาตรของหลังคาสองฝั่ง แต่ปัจจุบันมีการทำหลังคาหน้าจั่วแบบไม่สมมาตรขึ้น นิยมใช้ในทาวน์เฮ้าส์เป็นส่วนใหญ่ อากาศร้อนจะลอยสูงขึ้นไปที่สันหลังคา จากนั้นจะไหลเวียนออกไปจากช่องลมที่ติดอยู่ที่หน้าจั่วของหลังคาทั้งสองฝั่ง ทำให้หลังคาแบบนี้ระบายอากาศได้ดี ตอนกลางวันอยู่ชั้นบนก็ไม่รู้สึกร้อนมากนัก อีกทั้งชายคาที่ยื่นยาวออกไปสองข้างจะช่วยกันแดดกันฝนได้ จึงควรให้ชายคาอยู่ด้านทิศตะวันตกและตะวันออกเพื่อกันแดดเช้าและบ่าย และหันหน้าจั่วไปทางทิศเหนือใต้เพื่อรับลม หลังคานี้มีจุดอ่อนอยู่ที่ด้านที่เป็นจั่วซึ่งไม่สามารถกันแดดและฝนสาดเข้ามาได้ ส่วนเรื่องน้ำรั่วซึมนั้นไม่ต้องกังวลเพราะหลังคาแบบนี้สามารถออกแบบให้ลาดชันเพื่อการระบายน้ำได้รวดเร็ว


หลังคาปั้นหยา (Hip Roof)

Hip-Roof
ภาพ via lda-architects.com

เป็นหลังคาที่ยังคงเป็นที่นิยมในโครงการจัดสรรต่างๆ เนื่องจากมีความสวยงามจากสันหลังคาที่บรรจบกันขึ้นไปพบกันตรงกลางที่ยอดหลังคาและทิ้งลาดลงมาเป็นชายคาทั้งสี่ด้าน ทำให้หลังคาแบบนี้กันฝนสาดได้ดีที่สุด แต่มีข้อเสียเรื่องการระบายความร้อน แม้ว่าทรงของหลังคาที่สูงขึ้นไปจะทำให้มีช่องว่างใต้หลังคามาก เปิดโอกาสให้อากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้นไปได้ แต่หลังคาปั้นหยานั้นไม่มีช่องระบายอากาศที่ด้านบนหลังคาเลยต่างจากหลังคาจั่ว อากาศร้อนที่ลอยขึ้นไปจึงสะสมอยู่ที่ตอนบนของหลังคาไม่สามารถระบายไปไหนได้ และแม้ว่าจะมีการติดระแนงระบายอากาศที่รอบๆ ชายคาทั้งสี่ด้านก็ไม่ช่วยให้เกิดการถ่ายเทอากาศเท่าไรนัก เพราะอากาศร้อนจะลอยตัวอยู่ด้านบนไม่พัดออกไปทางช่องด้านล่าง ดังนั้นการเลือกใช้หลังคาปั้นหยาจึงมีความเสี่ยงที่ห้องชั้นบนจะร้อน แต่ก็สามารถเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนและแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคาช่วยลดความร้อนได้บ้าง นอกจากนี้หลังคาปั้นหยามีความซับซ้อนมากที่สุดในบรรดาหลังคาแบบอื่นๆ จึงมีราคาค่าก่อสร้างที่สูงกว่า และมีโอกาสรั่วมากกว่าเพราะมีรอยต่อค่อนข้างมาก

หลังคาปั้นหยาผสมจั่ว (Gable-Hip Roof)

Gable Hip
ภาพ via scg-trading.com

จากความสามารถในการระบายความร้อนได้ดีของหลังคาจั่ว และความสามารถในการกันฝนได้ดีของหลังคาปั้นหยา จึงมีการนำลักษณะของหลังคาจั่วมาใส่ไว้ในหลังคาปั้นหยา เกิดเป็นหลังคาปั้นหยาผสมจั่ว หลังคาแบบนี้จะมีชายคาทั้งสี่ด้านแบบเดียวกับหลังคาปั้นหยา แต่ก็มีการยกจั่วขึ้นสองด้านเพื่อการระบายอากาศ จะพบหลังคาเช่นนี้มากในเรือนไทยล้านนา หลังคาแบบนี้เหมาะสำหรับบ้านสไตล์ไทยประยุกต์ที่ให้ความรู้สึกร่วมสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพราะความซับซ้อนของหลังคาที่มากขึ้นกว่าหลังคาปั้นหยา หลังคาแบบนี้จึงมีราคาสูงขึ้นไปอีก และก็มีรอยต่อและช่องลมที่มากขึ้น จึงควรระมัดระวังเรื่องการรั่วซึมตามจุดต่างๆ และฝนที่อาจจะสาดเข้ามาทางช่องลมตรงหน้าจั่วได้

หลังคาเรียบ(Flat Roof)

flat-Roof
ภาพ via blazemakoid-architecture.com

ถ้าคุณให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์ของพื้นที่บนหลังคา หลังคาแบบเรียบเป็นหลังคาเพียงชนิดเดียวที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เพราะเป็นหลังคาเพียงแบบเดียวที่สามารถขึ้นไปเดินข้างบนได้โดยไม่ต้องกลัวจะตกลงมา และเป็นพื้นที่มีความแข็งแรง สามารถใช้เป็นที่ตั้งแทงค์น้ำ ตากผ้า ทำสวนหย่อม หรือจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นก็ได้เช่นกัน หลังคาแบบนี้ไม่ได้ใช้แผ่นกระเบื้องหลังคาปู แต่เป็นการเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเช่นเดียวกับพื้นบ้านชั้นบน ข้อเสียของหลังคาประเภทนี้คือความเรียบของหลังคาทำให้การระบายน้ำช้า และคอนกรีตเป็นวัสดุที่ดูดซึมน้ำ จึงมักจะพบปัญหาน้ำรั่วซึมได้ ถ้าหากจะทำหลังคาประเภทนี้จึงต้องใส่สารป้องกันการรั่วซึมระหว่างการเทพื้น และทาทับอีกครั้งหลังจากคอนกรีตแห้งแล้ว อีกปัญหาของหลังคาแบบนี้คือความร้อนที่สะสมในคอนกรีตตอนกลางวันจะทำให้ห้องด้านล่างนั้นร้อน และร้อนมากในตอนกลางคืนที่คอนกรีตคายความร้อนออกมา สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกหญ้าด้านบน ใส่ฉนวนกันความร้อน หรือการติดตั้งสแลปหรือแผ่นซีเมนต์กันความร้อนที่มีช่องว่างเป็นฉนวนอากาศตรงกลางซึ่งช่วยลดความร้อนที่ผ่านลงสู่ห้องด้านล่างได้มาก

ภาพหลัก via stoeckerandnorthway.com

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ