อากาศที่หนาวเย็นปกคลุมจากตอนเหนือลงมาถึงภาคกลางรวมไปถึงกรุงเทพฯ ทำให้พวกเรานึกถึงทริปเชียงใหม่ครั้งล่าสุดซึ่งก็ผ่านไปนานมากแล้ว และเหมือนว่าเพื่อนร่วมก๊วนจะใจตรงกันต่างลงความเห็นว่าหน้าหนาวนี้ได้เวลากลับไปเยือนเชียงใหม่อีกสักครั้ง นอกจากจะถือโอกาสรวมตัวเพื่อนๆ ที่แยกย้ายไปให้กลับมาเจอกันแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาระลึกความหลัง แต่จะให้ไปเที่ยวย้อนรอยเดิมทุกอย่างก็คงไม่สนุก พวกเราจึงค้นหาแหล่งท่องเที่ยวระหว่างทางเพื่อสร้างความแปลกใหม่ จนกลายเป็นที่มาของ 5 จุดแวะพักชมดอกนางพญาเสือโคร่งแรกแย้มที่เชียงใหม่ ซึ่งเราภูมิใจนำเสนอในครั้งนี้
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของดอกนางพญาเสือโคร่งกันมาบ้างแล้ว แต่ถ้าหากนึกไม่ออกให้ลองนึกถึงภาพของดอกซากุระที่ญี่ปุ่นซึ่งบานสะพรั่งไปทั่วในฤดูร้อน เปลี่ยนต้นไม้ทั้งต้นให้กลายเป็นสีชมพู นอกจากนั้น ดอกสีชมพูที่ร่วงหล่นยังกระจายไปทั่วบริเวณราวกับพรมสีชมพู แม้ว่าจะจัดเป็นต้นไม้ที่อยู่ในตระกูลเดียวกับซากุระ แต่ดอกนางพญาเสือโคร่งจะบานในช่วงหน้าหนาวระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
ดอกนางพญาเสือโคร่งนี้เมื่อผลิดอกแล้วจะบานอยู่ราว 10 วันเท่านั้นก่อนจะโรยไป ดังนั้นจึงควรติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด สำหรับพวกเราติดตามข่าวจากทางอินเตอร์เน็ตอยู่ล่วงหน้าหลายอาทิตย์ เพราะไม่อยากพลาดการเดินชมดอกไม้สวยๆ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย แบบที่วาดฝันไว้
จุดแวะเที่ยวที่ 1 ขุนช่างเคี่ยน เส้นทางไปพระธาตุดอยสุเทพ และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
ภาพ via toptenthailand.com
เรากำลังอยู่บนถนนซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปวัดพระธาตุดอยสุเทพ และพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเราในวันนี้ แต่ลึกๆ ในใจของทุกคนแล้วกลับจดจ่อที่จะไปถึงจุดแวะพักซึ่งเลยจากจุดชมวิวดอยปุยขึ้นไปอีกไม่ไกล ถ้านับระยะทางจากอนุเสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่เชิงดอยสุเทพแล้ว ขุนช่างเคี่ยนจะตั้งอยู่ห่างออกมาประมาณ 25 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่มากที่สุด และมีการเดินทางมาได้สะดวกสบายโดยสามารถเหมารถสองแถวที่ขึ้นดอยสุเทพเพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในบริเวณดอยสุเทพได้ ความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยนนี้คือภาพของต้นพญาเสือโคร่งที่ออกดอกเต็มต้นโน้มลำต้นเข้าประสานกันจนกลายเป็นอุโมงค์สีชมพูครอบถนนเส้นเล็กๆ เอาไว้ ถือเป็นฉากประทับใจที่ทุกคนต้องบันทึกภาพเอาไว้ สอบถามข้อมูลได้ที่ สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน โทร 053-944-053
จุดแวะเที่ยวที่ 2 ดอยอ่างขาง สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
ภาพ via chillpainai.com
สถานีเกษตรหลวงอ่างขางนั้นเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เพราะที่นี่เป็นแหล่งเพาะปลูกดอกไม้และพืชผักเมืองหนาวหลายชนิด ที่นี่ยังเป็นสถานีวิจัยทางการเกษตรแห่งแรกของโครงการหลวงด้วยนะ พืชผักนานาชนิดของโครงการหลวงจึงผ่านการทดลองปลูกที่นี่ก่อนจะกระจายไปให้ชาวเขาเพราะปลูกตามแหล่งต่างๆ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์โครงการหลวงที่วางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ แต่ลืมภาพเขียวขจีของแปลงเพาะปลูกไปก่อนเพราะวันนี้ดอยอ่างขางเป็นอีกจุดหนึ่งที่ถูกแต้มไปด้วยสีชมพูสดใสของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ผลิบานไปทุกหนทุกแห่งของอ่างกะทะแห่งนี้ ถึงแม้ว่าจะเคยมาดอยอ่างขางแล้วแต่ภาพที่เห็นในวันนี้ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่า และที่ทำให้เราตื่นตะลึงมากกว่าเดิมก็คือการได้รู้ว่า ในบรรดาดอกนางพญาเสือโคร่งที่เราเห็นนั้นก็มีดอกซากุระญี่ปุ่นแท้ๆ ปนอยู่ด้วยที่สวนที่ 80 วิธีสังเกตคือดอกซากุระจะมีสีชมพูอ่อนกว่าดอกนางพญาเสือโคร่ง
สำหรับการเดินทางมาที่ดอยอ่างขางนั้น ถ้ามาจากเชียงใหม่ให้ใช้เส้นทาง 107 เชียงใหม่-ฝาง ซึ่งจะผ่านแม่ริม แม่แตง และเชียงดาว ก่อนจะแยกเข้าดอยอ่างขาง 2 เส้นทาง แต่เส้นทางที่แนะนำจะแยกไปทางซ้ายที่กิโลเมตรที่ 79 แยกจากทางหลวงสาย 107 เป็นเส้นทางที่ตัดใหม่และไม่ชันมาก มุ่งหน้าไปตามทางประมาณ 50 กิโลเมตรก็จะถึงดอยอ่างขาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีวิจัยเกษตรหลวงอ่างขาง โทร 053-450-107-9 ต่อ 114
จุดแวะเที่ยวที่ 3 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง
ภาพ via amazingthaitour.com
ถ้าจะพูดถึงขุนวางนั้นชื่ออาจไม่คุ้นหูสักเท่าไร แต่ถ้าบอกเพิ่มเติมว่าพื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จุดสูงสุดแดนสยามที่ทุกคนรู้จักดี ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงซึ่งมีความสำคัญมากอีกแห่งหนึ่งคือสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์
การเดินทางมาที่นี่นั้นสะดวกสบายพอๆ กับการมาดอยอินทนนท์นั่นแหละ อาศัยทางหลวงหมายเลข 1009 ประมาณกิโลเมตรที่ 31 ก็จะถึงศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง ดอกนางพญาเสือโคร่งที่นี่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น แม้ว่าจะมีไม่มากเท่าสองที่ก่อนหน้าที่เราแวะ แต่ไฮไลท์สำคัญของที่นี่ก็คือดอกนางพญาเสือโคร่งสีขาวซึ่งหาชมได้ยาก อีกทั้งภายในพื้นที่ของสวนยังมีการจัดประดับดอกไม้และประติมากรรมอย่างสวยงามใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปจึงไม่ควรพลาด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงขุนวาง โทร 053-114-133
จุดแวะเที่ยวที่ 4 ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ดอยอินทนนท์
ภาพ via amazingthaitour.com
เรายังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เหมือนเดิม แนะนำว่าควรเผื่อเวลาให้มากสักหน่อยเพราะที่นี่มีจุดแวะเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกหลายจุด รับรองว่าคุณจะได้รู้จักดอยอินทนนท์ในแง่มุมที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
อย่างที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อการวิจัยและเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในภาวะใกล้จะสูญพันธุ์ การมาที่นี่ นอกจากจะได้ชมโรงเรือนกล้วยไม้รองเท้านารีแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้บันทึกภาพประทับใจกับดอกนางพญาเสือโคร่งที่ขึ้นอยู่ริมฝั่งทะเลสาปบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี โทร 053-286-728
จุดแวะเที่ยวที่ 5 สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน
ภาพโดยคุณอรัฐพล พูลสวัสดิ์
จุดแวะเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งของพวกเราแห่งสุดท้ายตรึงตาตรึงใจพวกเรามากที่สุดเพราะภาพที่เราถ่ายออกมานั้นได้ความสวยงามถึงสองอย่างในรูปเดียว อย่างแรกคือความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ปล่อยกิ่งก้านห้อยยาวระย้าลงมา และอีกความสวยงามที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็ว่าได้คือภาพของดอยหลวงเชียงดาวที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังอยู่ในรูป
สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ ดอยแม่ตะมาน ตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว สามารถเดินมาที่นี่ด้วยถนนหมายเลข 107 เชียงใหม่ แม่ริม เมื่อถึงบ้านแม่นะจะพบทางแยกซ้ายมือมีป้ายบอกทางไปหน่วยจัดการต้นน้ำแม่ตะมาน ขับไปตามทางอีกประมาณ 21 กิโลเมตร จะพบทางแยกให้เลี้ยวขวา ส่วนสภาพทางเป็นลูกรังจะค่อนข้างชัน ผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญในเส้นทางและใช้รถยนต์ที่มีกำลังสูง ขับเคลื่อนสี่ล้อจึงจะปลอดภัย แนะนำว่าควรจะจอดรถไว้ที่ลานจอดแล้วเหมารถกระบะจากด้านล่างขึ้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถานีเกษตรที่สูงสันป่าเกี๊ยะ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร 053-222-014
พวกเราขอจบทริปเชียงใหม่รำลึกครั้งนี้ที่แสนสนุก มีความสุข และโปรยปรายไปด้วยสีชมพูของดอกไม้ ไปด้วยภาพประทับใจของดอกนางพญาเสือโคร่ง แล้วพบกันใหม่เมื่อลมหนาวหวนกลับมาเยือนอีกครั้ง
ภาพหลัก via frynn.com
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
