ไม่ว่าคุณจะประกอบอาชีพอิสระ หรือเป็นฟรีแลนซ์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำงานเพื่อแลกเงินไปตลอดชีวิต เพราะคุณสามารถสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้ชีวิตในอนาคตได้ด้วยการออมผ่านกองทุนการออมแห่งชาติหรือ กอช. ที่นอกจากจะเป็นการสะสมเงินแล้ว กอช. ยังจ่ายผลตอบแทนให้อีกด้วย และเมื่ออายุครบ 60 ปี รัฐบาลจ่ายเงินสมทบให้ ประโยชน์ดีๆ แบบนี้ DDproperty มีรายละเอียดมาบอกกัน
กองทุนการออมแห่งชาติ กอช. คืออะไร และมีจุดประสงค์อย่างไร?
กองทุนการออมแห่งชาตินั้นมีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่ใช่ทั้งหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ แต่ก็มีสิทธิตามกฎหมายในลักษณะนิติบุคคล กองทุนการออมแห่งชาติหรือ กอช. นี้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 โดยจัดประสงค์ของกองทุนการออมแห่งชาติก็คือการส่งเสริมการออมทรัพย์และเป็นหลักประกันด้านรายได้ให้กับสมาชิกของกองทุนการออมแห่งชาติ สรุปง่ายๆ ก็คือต้องการให้ประชาชนหันมาออมเงินกันเพื่อให้ตัวเองนั้นยังคงมีรายได้สำหรับการดำรงชีพในอนาคตหลังจากที่ไม่มีรายได้จากการทำงานแล้ว
ประโยชน์จากการเข้าร่วมกองทุนการออมแห่งชาติ กอช.
สิ่งที่ผู้เข้าร่วมกองทุนการออมแห่งชาติ หรือสมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติจะได้รับนั้นก็คือผลตอบแทนจากการออม ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน คือ เงินสะสม เงินสมทบ และเงินผลประโยชน์ แต่ละส่วนคืออะไรกันบ้างไปทำความรู้จักกันครับ
1. เงินสะสม ก็คือเงินที่สมาชิกออมเข้าสู่กองทุน ซึ่งมีเงื่อนไขว่าการออมเงินเข้าสู่กองทุนแต่ละครั้งจะต้องไม่ต่ำกว่า 50 บาท และรวมแล้วทั้งปีจะออมเงินได้สูงสุดไม่เกิน 13,200 บาท ซึ่งจะแตกต่างจากการฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์ตรงที่สมาชิกไม่จำเป็นต้องฝากเงินเท่าๆ กันทุกครั้ง และไม่ต้องฝากเงินทุกๆ เดือน ทำให้การออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาตินั้นมีความยืดหยุ่นกว่าการฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเงินสะสมนี้กองทุนจะนำไปบริหารด้วยการลงทุน และจะเกิดผลประโยชน์จากการลงทุนที่เรียกว่าเงินผลประโยชน์ของเงินสะสม เงินสะสมตรงนี้จะได้รับคืนในกรณีที่สมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุ 60 หรือลาออกจากกองทุน แต่ถ้าเป็นกรณีอื่นๆ เช่น อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์จะจ่ายเป็นเงินบำนาญไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียชีวิต ซึ่งส่วนหนึ่งของเงินบำนาญจะมาจากเงินสะสม หรือกรณีที่สมาชิกเสียชีวิตก็จะได้รับเงินก้อนแก่ทายาทตามที่มีชื่อระบุไว้ก็จะมีเงินส่วนหนึ่งที่เป็นเงินสะสม
2. เงินสมทบ เงินส่วนนี้เป็นเงินที่รัฐบาลจ่ายสมทบให้ตามสัดส่วนของเงินสะสมในแต่ละงวด โดยจะจ่ายให้ในสิ้นเดือนถัดไป ซึ่งรัฐบาลจะสมทบให้ทุกเดือนที่มีการออมเงินเข้ากองทุน แต่ทั้งนี้ก็มีกำหนดเพดานการสมทบเงินในเอาไว้ตามเงื่อนไขอายุของสมาชิก ดังนี้ (มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละปี)
สมาชิกอายุ 15-29 ปี รัฐบาลสมทบ 50% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 600 บาท/ปี
สมาชิกอายุ 30-49 ปี รัฐบาลสมทบ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 960 บาท/ปี
สมาชิกอายุ 50 ปีขึ้นไป รัฐบาลสมทบ 100% ของเงินสะสม แต่ไม่เกิน 1,200 บาท/ปี
จะสังเกตว่าเมื่ออายุของสมาชิกมากขึ้นรัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้มากขึ้น เนื่องจากรัฐมุ่งหวังที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายจากสังคมผู้สูงอายุในระยะยาว เงินสมทบนี้สมาชิกกองทุนจะเป็นส่วนหนึ่งของเงินบำนาญที่จ่ายให้สมาชิกเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แต่หากสมาชิกเกิดทุพพลภาพก่อนอายุ 60 ก็จะยังไม่สามารถนำเงินสมทบออกมาใช้ได้ แต่จะจ่ายให้ในลักษณะเหมือนเงินบำนาญเช่นเดิมหลังจากอายุ 60 ปีบริบูรณ์แล้ว ส่วนการลาออกจากกองทุนก็จะตัดสินการได้รับเงินสมทบนี้ไป แต่กรณีที่สมาชิกเสียชีวิตทายาทตามที่ระบุชื่อก็จะได้รับเงินก้อน ซึ่งรวมเงินสมทบเอาไว้แล้วในส่วนนั้น
3. เงินผลประโยชน์ เป็นเงินส่วนเพิ่มจากการที่กองทุนนำเงินสะสมที่เราออมเข้ากองทุน และเงินสมทบที่รัฐบาลจ่าย โดยนำเงินสองส่วนนี้ไปลงทุนผ่านการมอบหมายให้สถาบันการเงินหรือนิติบุคคลซึ่งมีความเชี่ยวชาญดำเนินการแทน ภายใต้เงื่อนไขว่าจะต้องลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ซึ่งเมื่อลงทุนแล้วก็จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมาเรียกรวมๆ ว่าเงินผลประโยชน์ คล้ายๆ กับดอกเบี้ยหรือเงินปันผล แต่การออมกับกองทุนการออมแห่งชาตินี้รัฐบาลมีการรับประกันผลตอบแทนว่าจะไม่น้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือนโดยเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 5 แห่ง ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
หากสมาชิกอายุ 60 ปีบริบูรณ์ก็จะได้รับเงินบำนาญเรื่อยไปจนกระทั่งเสียชีวิต เงินบำนาญนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากเงินผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบ แต่ถ้าหากสมาชิกทุพพลภาพก่อนอายุ 60 ปี นอกจากจะได้รับเงินสะสมทั้งหมดครั้งเดียวแล้ว ก็ยังได้รับเงินผลประโยชน์จากเงินสะสมในช่วงเวลาที่ผ่านมาด้วย ส่วนเงินสมทบและเงินผลประโยชน์จากเงินสมทบจะทยอยจ่ายในลักษณะเงินบำนาญหลังจากที่สมาชิกอายุครบ 60 ปีแล้ว การลาออกจากกองทุนสมาชิกจะได้รับเงินสะสมและเงินผลประโยชน์จากเงินสะสม แต่ไม่ได้เงินสมทบและเงินผลประโยชน์จากเงินสมทบ และเมื่อเสียชีวิตทายาทที่มีชื่อตามที่สมาชิกระบุจะได้รับเงินก้อนซึ่งรวมเงินผลประโยชน์เอาไว้แล้ว
ผู้มีสิทธิเข้าร่วมกองทุนการออมแห่งชาติ กอช.
ผู้ที่มีสัญชาติไทยและมีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์เป็นต้นไป แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ และจะต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม ซึ่งส่งเงินเพื่อได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือสมาชิกกองทุนหรืออยู่ในระบบบำเหน็จบำนาญอื่นที่มีการจ่ายสมทบโดยรัฐบาลหรือนายจ้าง
ช่องทางการออมเงินกับกองทุนการออมแห่งชาติ กอช.
ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินสมทบได้ที่ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดต่อสอบถามกองทุนการออมแห่งชาติ กอช.
สำนักงานชั่วคราวกองทุนการออมแห่งชาติ 02-169-7127 ต่อ 182, 184 และ 186 http://www.nsf.or.th
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ Online Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com