เจแอลแอลออกโรงหนุนรัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ

Kanchana Paha13 ต.ค. 2558

Suphin Mechuchep JLL Thailand

หลังจากที่ก่อนหน้านี้เริ่มมีคนในแวดวงอสังหาฯ ไทยออกโรงเร่งให้รัฐพิจารณามาตรการกระตุ้นธุรกิจ ล่าสุ บ.ที่ปรึกษา เจแอลแอลออกโรงหนุนอีกแรง ชี้มาตรการดังกล่าวจะช่วยปลุกตลาดที่อยู่อาศัยไทยให้ฟื้นขึ้นแน่นอน แม้จะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้นก็ตาม

จากการที่มีนักสังเกตการณ์และนักวิเคราะห์จำนวนมากที่มองว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยยังมีทิศทางที่ไม่สดใสในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า รัฐบาลจึงมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆ ด้าน หนึ่งในนั้นคือการกระตุ้นภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย ซึ่งมีการเสนอให้มีการออกประกาศลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ของราคาประเมิน และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% ของมูลค่าสินเชื่อ ให้เหลือ 0.01% สำหรับค่าธรรมเนียมทั้งสองรายการเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งแม้มาตรการดังกล่าวจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น แต่จากการวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) มองว่าเป็นข่าวดีสำหรับตลาดบ้านและคอนโดมิเนียมของไทย

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล กล่าวว่า “แม้มาตรการระยะสั้นที่ได้รับการเสนอดังกล่าว อาจไม่ช่วยกระตุ้นให้เกิดดีมานด์หรือความต้องการใหม่เพิ่มขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัย แต่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการเร่งการซื้อและโอนบ้าน-คอนโดฯให้เร็วขึ้น”

โดยข้อเสนอมาตรการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์สำหรับโครงการบ้านและคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จแล้วและมียูนิตเหลือขาย รวมถึงโครงการที่จะสร้างเสร็จพร้อมให้โอนได้ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

สำหรับโครงการบ้านและคอนโดฯ ที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จพร้อมให้โอนในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ ในขณะที่การลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง ที่มีสัดส่วนคิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในการทำธุรกรรม ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับมูลค่าของบ้านหรือคอนโดฯ ที่ซื้อ ก็อาจไม่ได้มีผลมากถึงกับสามารถจูงใจให้ผู้ที่ยังไม่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในขณะนี้ให้เปลี่ยนมาตัดสินใจซื้อได้

“คาดว่าผู้ที่กำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ในโครงการเหล่านี้อยู่แล้ว จะเร่งตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นเพื่อให้ได้ประโยชน์จากการลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการซื้อ” นางสุพินท์กล่าว

“มาตรการที่เสนอนับเป็นแนวทางหนึ่งที่ดีเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยในช่วงที่การซื้อขายชะลอตัว การกระตุ้นให้มีการซื้อและการโอนเร็วขึ้น จะช่วยเสริมความเข้มแข็งทางการเงินให้กับผู้พัฒนาโครงการให้สามารถลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆ ต่อไปได้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการลงทุนโดยภาคเอกชนที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจมหภาคของประเทศต่อไป”

“อย่างไรก็ดี ภาครัฐควรมีการเร่งพิจารณาโดยเร็ว เนื่องจากเมื่อมีข่าวการเสนอมาตรการกระตุ้นเผยแพร่ต่อสาธารณะแล้ว ทำให้ผู้ซื้อชะลอการตัดสินใจซื้อไว้ก่อน เพื่อรอการประกาศมาตรการกระตุ้นของภาครัฐฯ” นางสุพินท์กล่าว

 

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ