7 โรคที่น่าจับตาเมื่อฤดูหนาวมาเยือน

Pisittachat Liengnak18 พ.ย. 2558

7 โรคที่น่าจับตาเมื่อฤดูหนาวมาเยือน
สิ้นปีเริ่มใกล้เข้ามาทุกที และคนส่วนใหญ่ก็จะเริ่มวางแผนไปเที่ยวไม่ต่างจังหวัดก็บินลัดฟ้าไปต่างประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือเพื่อสัมผัสกับอากาศเย็นๆ ที่มักไม่พบบ่อยๆ ในกรุงเทพๆ แต่รู้ใหมว่าโรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยในหน้าหนาวสามารถทำให้เด็กๆ หรือคนที่มีภูมิคุ้นกันต่ำ รวมทั้งตัวคุณเองเที่ยวไม่สนุกเอาเลยทีเดียว โรคหน้าหนาวนั้นส่วนใหญ่จะพบอยู่ไม่กี่อย่างและป้องกันง่ายกว่าที่คิด และในวันนี้ DDproperty ได้รวบรวมโรคที่พบบ่อยในฤดูนี้และวิธีการป้องกันมาให้ได้อ่านกัน

1. โรคไข้หวัดใหญ่ (influenza virus) และ โรคไข้หวัด (common cold)
เมื่ออากาศหนาวจิตใจของเราอาจจะรู้สึกสบายๆ แต่ร่างกายของเรานั้นอาจจะปรับตัวยังไม่ทัน จนทำให้โรคต่างๆ เข้ามาได้ โดยส่วนมากจะเป็นเด็กและผู้สูงอายุที่ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง อาการของคนที่เป็นไข้หวัดใหญ่คือ มีไข้สูง ปวดหัว ปวดเมื่อยตามตัว อาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน คัดจมูก และเจ็บคอ โรคนี้เริ่มมาจาก Influenza Virus ที่เกิดจากการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ อย่างเช่น การแพร่กระจายผ่านการจามและสั่งน้ำมูก ดังนั้น สถานที่เสี่ยงจึงเป็นบริเวณที่มีคนเยอะๆ เพราะ influenza virus เป็นไวรัสที่มีการแลกเปลี่ยนพันธุกรรมเลยสามารถเปลี่ยนแปลงลักษณะของโปรตีนที่เป็นเป้าหมายของภูมิคุ้มกันของเราได้ ทำให้เราจำเป็นต้องฉีดยาคุ้มกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทุกปี โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ

เมื่อเป็นแล้วเราควร ดื่มน้ำให้มากๆ รับประทานยา ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น พักผ่อนมากๆ ประมาณ 7 วัน และใช้หน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่ของเชื้อ

ทั้งนี้ อย่าสับสนโรคไข้หวัดกับโรคไข้หวัดใหญ่ เพราะไข้หวัดธรรมดานั้นมักจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ไอจาม คันคอ แต่จะไม่ค่อยมีอาการไข้และปวดกล้ามเนื้อ ไข้หวัดใหญ่จะรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาเพราะอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ อย่างเช่น ปอดบวม ควรไปพบแพทย์เพื่อแยกอาการจะช่วยให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงลดลง

วิธีการรักษา โดยพื้นฐานของทั้งสองโรค ผู้ป่วยจะต้องพักผ่อนให้มากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ

Tip: พยายามเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้า ให้ใช้กระดาษทิชชู่ในการสั่งน้ำมูก ไอ จาม จะได้ทิ้งหลังไช้เสร็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้ออย่างต่อเนื่องด้วยมือของคุณ

2. โรคปอดบวม (Pneumonia)
โรคปอดบวมนั้นมักจะเกิดจากการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ซึ่งในสภาวะที่ผิดปกติของปอดที่อาจจะเกิดขึ้นจากเชื้อรา พยาธิ สาเหตุมักจะอยู่ในน้ำลายและเสมหะของผู้ป่วย ที่สามารถแพร่กระจายออกมมาในเวลาไอหรือจาม โรคนี้อันตรายมากโดยฉพาะคนชราและเด็ก เพราะเมื่อปอดบวมจะมีหนองและสารน้ำอย่างอื่นในถุงลม ทำให้เป็นอัปสรรคในการรับออกซิเจนไม่ได้ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต โรคนี้จะพบได้บ่อยที่สุดในช่วงที่อากาศชื้นๆ และฤดูหนาว

อาการของปอดบวมนั้นโดยเฉพาะในเด็ก จะมีอาการซึมลง ไม่กินน้ำ ไข้สูง ไอ หายใจหอบเร็ว หายใจมีเสียง หรือไม่ก็หายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม

วิธีการป้องกันคือ การทำให้ร่างกายอบอุ่น ดื่มน้ำอุ่น อยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงควันและอยู่ในที่แออัด

Tip: ส่วนใหญ่อาการจะเกิดตามหลังโรคหวัดประมาณ 2-3 วัน และถ้าเกิดขึ้นกับเด็กเล็กหรือคนแก่ ควรพาไปหาหมอทันที เพื่อรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ

3. โรคหัด (Measles)
เป็นโรคที่เกิดจาก Rubeola Virus ติดกันง่ายมากโดยเฉพาะเด็กๆ เพียงเพราะแค่ไอจามรดกันก็สามารถติดได้แล้ว เนื่องจากเด็กๆ จะหายใจเอาละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วยเข้าไป เมื่อเป็นเล้วอาการที่จะเกิดขึ้นก็คือจะมีไข้ น้ำมูกไหล ตาแดง ที่จะรุนแรงมากขึ้นจนปวดเมื่อยตัว ถ่ายเหลว และประมาณวันที่ 4 ไข้ก็จะลดแต่ผื่นจะกระจายไปทั่วตัว ระว่างนี้ควรระวังโรคแทรกซ้อน อย่างเช่น ปอดบวม อุจจาระร่วง สมองอักเสบ และขาดวิตามินเอ เพราะอาจจะทำให้เสียชีวิตได้

วิธีป้องกัน ควรพาเด็กไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเพียงครั้งเดียวตอนอายุ 9-12 เดือน

Tip: ควรล้างมือบ่อยๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลังจากจาม ไอหรือไม่ก็สั่งน้ำมูก เมื่อเด็กกลับมาจากโรงเรียนควรอาบน้ำ ทำอย่างนี้จะป้องกันไม่ให้เด็กเอามือที่อาจจะมีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าปาก ซึ่งเป็นการพาเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง

4. โรคหัดเยอรมัน (Rubella)
โรคนี้คล้ายกับหัดแต่เกิดจากเชื้อไวรัสคนละตัว คือ Rubella Virus โรคนี้สามารถติดได้จากการจาม ไอ หรือหายใจรดกัน ผู้ป่วยมักจะมีไข้ และผื่นแดงๆ เล็กๆ กระจายทั่วตัว และตาแดง ที่สำคัญโรคนี้สามารถสังเกตได้เพราะจะมีต่อมน้ำเหลืองโต ตรงหลังคอ ท้ายทอย และคอทั้ง 2 ข้าง และถ้ามีอาการแทรกซ้อนอาจทำให้ข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า และสมอง อักเสบได้

Tip: ผู้ป่วยควรเลี่ยงการเข้าใกล้หญิงตั้งครรภ์เด็ดขาด เพราะสามารถทำให้เด็กทารกในครรภ์พิการ เช่น น้ำหนักน้อยกว่าปกติ ตับอักเสบ สมองอักเสบ และปัญญาอ่อน

5. โรคสุกใส (chicken pox)
คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับโรคนี้เป็นอย่างดี เพราะเกิดขึ้นจาก Varicella Virus ที่ติดต่อด้วยการสัมผัสโดยตรงของตุ่มน้ำของคนที่เป็นหรือไม่ก็สูดหายใจเอาละอองของตุ่มน้ำเข้าไป ส่วนมากแล้วมักจะเกิดกับเด็ก โดยอาการจะเริ่มจากไข้ต่ำๆ เหมือนไข้หวัด แล้วมีผื่นแดงๆ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นตุ่มพองใสในวันที่ 2-3 นับแต่เริ่มมีไข้ หลังจากนั้นก็จะเป็นหนองและตกสะเก็ดและหลุดออกภายใน 5-20 วัน ถ้าเกิดขึ้นกับเด็กควรหยุดเรียนประมาณ 1 อาทิตย์ และตัดเล็บให้สั้นจะได้ป้องกันการอักเสบจากการเกา

Tip: โรคนี้ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนก็จะหายเองภายใน 1 อาทิตย์ ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค

6. โรคอุจจาระร่วง (Diarrhea)
สามารถเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิดและสามารถเกิดขึ้นได้จากการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่มีเชื้อโรคปะปน บางครั้งการติดไม่ได้มาจากอาหารสกปรกธรรมาดาแต่มาจากรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นได้เหมือนกัน อาการของคนที่เป็นนั้นจะถ่ายเหลวบ่อยครั้งจนสามารถขาดน้ำรุนแรงได้ บางรายอาจมีไข้ และอาเจียน ผู้ป่วยควรดื่มน้ำเยอะๆ และเปลี่ยนอาหารโดยเน้นแป้งและโปรตีน ถ้ารู้สึกอาการแย่ลงนั้นควรรีบปรึกษาแพทย์

Tip: การป้องกันเบื้องต้นควรรับประทานอาหารที่สุก ร้อน และสะอาด ล้างมือให้สะอาด จะช่วยไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย

7. โรคผิวแห้ง (Dried Skin)
เมื่อผิวมาสัมผัสอากาศเย็น ก็จะขาดน้ำและทำให้ผิวแห้งหยาบ เป็นขุย แตก ทำให้คัน และหากดูแลไม่ดีสามารถติดเชื้ออักเสบจนเลือดออกได้ ควรเลือกเลื้อหนาวที่สะอาด เพื่อจะได้ไม่ระคายผิวหนัง และอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวหลังอาบน้ำ และใช้น้ำมันมะกอกเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้นาน หากคันหรืออักเสบแบบรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์

Tip: เปลี่ยนรูปเบบการอาบน้ำโดยลดอุณหภูมิของน้ำลง ไม่ควรอาบน้ำร้อนเกิน 34 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้ ทิปส์ในการดูแลร่างกายโดยทั่วไป ให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อสุขภาพ เริ่มจากดูแลความสะอาดบ้านหรือคอนโดฯ ของคุณ สำหรับกลุ่มที่ต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กและผู้สูงอายุเนื่องจากมีภูมิต้านทานต่ำอยู่แล้ว ดังนั้น ต้องคอยดูแลรักษาร่างกายให้อบอุ่น รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และล้างมือบ่อยๆ เพื่อรักษาความสะอาดให้คุณห่างไกลจากโรคภัยตลอดช่วงหน้าหนาวและสนุกกับการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ต่อไป

I_Love_Local-final-600x367

ภาพ via http://bangordailynews.com/

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย รวิกันยา ประภาสะวัต content writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ravikanya@ddproperty.com 

เขียนความเห็น