การต้องหาบ้านเช่า-ห้องพักชั่วคราวมักจะเป็นเรื่องปวดหัวอยู่ไม่น้อย เพราะบางทีเรารู้ว่าเราต้องการเช่า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอพาร์ทเมนต์ คอนโดฯ หรือแม้แต่บ้านที่เราจะเช่านั้น โอเคหรือเปล่า บางคนไม่มีเวลามาดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจจะมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน วันนี้ DDproperty มีทิปส์ง่ายๆ ที่จะช่วยให้คนที่อยากจะเช่าไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโดฯ หรือ อาพาร์ทเมนต์ ได้พิจารณาก่อนจรดปากกาเซ็นสัญญาเช่า
- สอบถามจากคนรู้จัก
คุณอาจจะไม่รู้จักพื้นที่ที่คุณกำลังจะหรือเพิ่งย้ายไปอยู่ใหม่ แต่อย่ามองข้ามความรู้ของคนในเครือข่ายของคุณ ยิ่งถ้าเพื่อนของคุณมีความคุ้นเคยกับย่านที่คุณกำลังจะไปพัก ก็อาจจะแนะนำได้ว่าอยู่แถว A จะดีกว่าแถว B หรือ แถวนี้มีขโมยเยอะ ย่านนี้ของกินเยอะ เป็นต้น
- ศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ รีวิว และรูปภาพจากหลายๆ ที่เพื่อเปรียบเทียบ
อย่าไว้ใจรีวิวแค่อันเดียว ควรเปรียบเทียบ 2 หรือ 3 รีวิวด้วยกัน จะได้เห็นภาพของห้องและบ้านในหลายๆ มุม ลองอ่านสิ่งที่คนเข้ามาคอมเมนต์ วิธีนี้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ยังไม่เคยคิดถึงมาก่อน และรายละเอียดที่คุณอาจจะมองข้ามไป
- สัญญาณโทรศัพควรมี (และเต็ม) ทุกห้อง
เวลาไปดูสถานที่ ให้นำโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย เพื่อตรวจสอบสัญญาณโทรศัพภายในห้อง มันอาจจะดูลำบาก แต่ถ้าหากทำอย่างงี้แล้วคุณจะไม่เสียดายทีหลัง หากในกรณีคุณมีปัญหาฉุกเฉิน คุณคงไม่อยากวิ่งหาสัญญาณเพื่อโทรหาความช่วยเหลือ
- ลองเปิดน้ำและโถส้วมในทุกห้อง
คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่าน้ำรั่ว ซึม หรือไม่ก็น้ำอุ่นไม่ทำงาน หรือไม่ถ้าระบบประปาของห้องไม่ดีก็สามารถทำให้เหม็นได้เช่นกัน
- ลองไปสำรวจในช่วงเช้าและบ่าย
หากมีโอกาส หาเวลาแวะเข้าไปดูสถานที่จริงเพื่อจะดูว่าห้องที่เราจะเช่านั้น ได้รับแสงช่วงไหนของวัน หากเป็นแดดช่วงเช้าก็คงจะร้อนไม่มากเท่าแดดช่วงบ่าย ที่อาจจะทำให้ห้องของคุณเก็บความร้อนยาวไปจนถึงช่วงค่ำ ซึ่งอาจจะกินค่าไฟมากขึ้น หากต้องเปิดแอร์เพื่อไล่ความร้อนที่กักเก็บอยู่ในห้อง
- ลองไปตอนฝนตก
ไม่มีใครอยากออกไปตอนฝนตกหรอก แต่ผลดีของการสำรวจห้องช่วงฝนตกนั้นจะช่วยให้เราได้รู้ว่า ถ้าไม่มีรถส่วนตัวเราจะต้องเผชิญกับอะไรบ้างและจะรับมือกับสถานการณ์อย่างไร ตอนที่เข้าไปในห้องก็ควรตรวจเช็กเพดาน และหน้าต่าง ว่ามีการรั่วไหลบ้างหรือเปล่า
- ไปดูตอนมืด
ตอนกลางคืนนั้นจะเป็นช่วงที่คนอยู่เยอะที่สุด ลองไปดูคนที่พักอยู่ที่นั่นว่าพลุกพล่านแค่ไหน และมีที่จอดรถเพียงพอหรือไม่
- ตรวจสอบว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมทั้งกฏระเบียบต่างๆ รวมทั้งเรื่องสัตว์เลี้ยง
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบสัตว์เลี้ยง แต่การถามเรื่องนี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ แน่นอนถ้าคุณมีน้องหมาน้องแมวที่รักอยู่แล้ว ก็จะได้รู้ว่าต้องจ่ายเพิ่มไหม หรือมีกฏอะไรบ้าง แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบหรือแพ้ขนสัตว์ก็จะสามารถรู้ว่าคนข้างๆ ห้องนั้นมีสัตว์เลี้ยงหรือเปล่า
- ตรวจสอบภายในตู้ ตู้เสื้อผ้า และลิ้นชัก
อาจจะมีสิ่งของภายในตู้ที่ถูกลืมเอาออก สีถลอก เปียก มีกลิ่นอับหรือไม่ หากพบปัญหาให้รีบแจ้งกับทางเจ้าของหอพักหรือบ้านเช่า เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เราจะย้ายเข้า ไม่จำเป็นที่เราจะต้องรับผิดชอบหรือเสียค่าปรับเพิ่มเติมแต่อย่างใด
- รู้ประวัติความเป็นมาของสถานที่
การได้รู้ความเป็นมาของที่ๆ คุณกำลังจะเข้าไปอยู่ อาจจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องของความสบายใจ ลองถามเจ้าของเก่าว่าคนที่เช่าอยู่ก่อนหน้าย้ายออกเพราะอะไร หรือไม่ก็มีคนอยู่ที่นี้แล้วกี่คน เพราะถ้าเลือกได้คุณคงไม่อยากอยู่ในที่ที่มีคนเสียชีวิตอยู่ในนั้นหรอก แต่เรื่องแบบนี้ ปกติก็ไม่มีใครพูดความจริงกับคุณหรอกนะ โดยเฉพาะเจ้าของหอหรือบ้านเช่า
- ลองคำนวณค่าใช้จ่ายว่าเมื่อย้ายที่อยู่แล้วเพิ่มขึ้นหรือลดลง
ค่าครองชีพในแต่ละมุมเมืองย่อมแตกต่างกันไป อย่างเช่นแถวชานเมืองเมื่อเปรียบเทียบกับแถวสยาม ลองคิดดูว่าถ้าคุณจะต้องอยู่ในบริเวณที่อาหาร ค่าซักรีด ช้อปปิ้ง และการใช้จ่ายในการดำรงชีวิต สูงขึ้นคุณจะสามารถจ่ายมันได้ใหม
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเฟอร์นิเจอร์ที่คุณชื่นชอบจะพอดีกับห้อง
เฟอร์นิเจอร์บางอย่าง เช่น ที่นอน โซฟาที่คุณชื่นชอบหรือแม้กระทั่งเตียงที่มีอยู่แล้ว หากคิดจะยกมาใช้ในห้องใหม่ บางทีขนาดอาจจะไม่พอดี และสุดท้ายคุณอาจจะต้องจบลงด้วยการต้องซื้อโซฟาหรือเตียงใหม่ แทนที่จะประหยัด
สำหรับคนที่กำลังหาบ้านอยู่อย่าลืมติดตามชมตอนต่อไป