ผลสำรวจพบคนกรุงเทพฯ แห่เที่ยวในประเทศปลายปี ส่งอานิสงส์ต่อธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเม็ดเงินสะพัด 18,000 ล้านบาท
จากการสำรวจโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2558 โดยทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนกรุงเทพฯหรือคนต่างจังหวัดที่เข้ามาศึกษาหรือทำงานในกรุงเทพฯ 400 คน ครอบคลุมอาชีพหลัก อายุ และรายได้ ระหว่างวันที่ 15 กันยายน – 2 ตุลาคม 2558 เพื่อสะท้อนพฤติกรรมการท่องเที่ยว และเป็นแนวทางสำหรับผู้ประกอบการกลุ่มบริการที่พักและร้านอาหารในการปรับกลยุทธ์ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2558 นี้ พบว่าคนกรุงเทพฯ เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่จะสร้างความคึกคักให้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศ และก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดยังธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารรวมกันราว 18,000 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ในอัตราร้อยละ 7
โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ รูปแบบการท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ร้อยละ 95 เป็นการท่องเที่ยวแบบค้างคืน ในจำนวนนี้เป็นการท่องเที่ยวแบบค้างคืนนาน 2-4 วันถึงร้อยละ 92 ทำให้เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจบริการที่พักอย่างคึกคัก โดยกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีแผนท่องเที่ยวภาคใต้และภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดเชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่
จำนวนที่พักที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ธุรกิจบริการที่พักมีแนวโน้มแข่งขันกันอย่างรุนแรง ในขณะที่เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจบริการที่พักส่วนใหญ่จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เว็บไซต์ของผู้ประกอบการ เว็บไชต์ที่เป็นตัวกลาง และแอพพลิเคชั่นการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่วางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้า
ประเภทของที่พักที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเมืองกรุง ได้แก่ รีสอร์ท โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 65 เลือกใช้บริการรีสอร์ท เนื่องจากมองว่าเป็นที่พักที่มีความเป็นส่วนตัว และมีกิจกรรมหลากหลายเป็นหลัก โดยฟรี Wi-Fi เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในที่พักที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญสูงสุด สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา รวมถึงนิยมแชร์ข้อมูลและรูปภาพระหว่างท่องเที่ยวสู่สังคมออนไลน์
อีกหนึ่งธุรกิจที่จะได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวในประเทศที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหารในท้องถิ่น โดยคนกรุงเทพฯ ถึงร้อยละ 59 ให้ความสำคัญกับการสัมผัสบรรยากาศท้องถิ่นด้วยการใช้บริการร้านอาหารในพื้นที่ระหว่างการท่องเที่ยว
แม้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่จะเพิ่มงบประมาณใช้บริการที่พักและรับประทานอาหาร แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสูง ส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างที่ท่องเที่ยวพร้อมกับครอบครัวบางส่วนปรับพฤติกรรม โดยระมัดระวังการใช้จ่ายและลดงบประมาณใช้บริการที่พักและรับประทานอาหารสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีลง
ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างที่ท่องเที่ยวพร้อมกับครอบครัวบางส่วนมีรูปแบบการเดินทางกลับภูมิลำเนา เยี่ยมญาติหรือเพื่อน และท่องเที่ยวในทริปเดียวกัน จึงเลือกพักบ้านญาติหรือบ้านเพื่อนแทนการใช้บริการที่พักประเภทโรงแรมและรีสอร์ท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นความท้าทายของธุรกิจบริการที่พักและธุรกิจร้านอาหารที่ต้องปรับกลยุทธ์การแข่งขันอย่างเข้มข้นเพื่อคว้าโอกาสในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว
“คนกรุงเทพฯเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ จึงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่จะสร้างความคึกคักให้ตลาดไทยเที่ยวไทย และก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดยังธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารรวมกัน 18,000 ล้านบาท เติบโตจากในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2557 ร้อยละ 7 โดยแบ่งเป็นเม็ดเงินธุรกิจโรงแรม 9,600 ล้านบาท เติบโตจากในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2557 ร้อยละ 7 และเม็ดเงินธุรกิจร้านอาหาร 8,400 ล้านบาท เติบโตจากในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2557 ร้อยละ 8”
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่