กรุงเทพฯ ติดท็อป 10 ทำเลยอดนิยมในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคที่ผู้ประกอบการเลือกมาเปิดร้านค้าปลีกมากที่สุด จากรายงาน “Retail Hotspots in Asia Pacific 2014” โดยบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ซีบีอาร์อี
รายงานดังกล่าวระบุว่าในปีที่ผ่านมากรุงเทพฯ มีแบรนด์ระดับโลกมาเปิดสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 19 แบรนด์ด้วยกัน โดยเมืองในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มผู้ค้าปลีกได้แก่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีร้านค้าปลีกแบรนด์ใหม่เปิดมากที่สุดในปีที่ผ่านมารวม 63 แบรนด์ ตามมาด้วยสิงคโปร์ (58 แบรนด์) กรุงไทเป (49 แบรนด์) ฮ่องกง (45 แบรนด์) และกรุงปักกิ่ง ของจีน (34 แบรนด์)
ในขณะที่ในปีที่ผ่านมามีร้านค้าปลีกใหม่เข้ามาเปิดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคมากถึง 464 แบรนด์ เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ถึง 23% ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มสินค้าหรูมีการเปิดร้านค้าปลีกแบรนด์ใหม่ในสัดส่วนที่มากที่สุดที่ 22.6% ส่วนกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟและร้านอาหารเป็นกลุ่มที่มีอัตราเพิ่มจำนวนแบรนด์ที่สูงที่สุดที่ 22.4% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่เติบโต 14.8%
สำหรับสัญชาติของร้านค้าปลีกที่เข้ามาเปิดสาขาในเอเชียแปซิฟิคมากที่สุดได้แก่ จากสหรัฐอเมริกาคิดเป็นสัดส่วน 24% ตามมาด้วยร้านค้าปลีกจากอิตาลีและอังกฤษที่สัดส่วน 11% จากฝรั่งเศส 10.5% ในขณะที่ญี่ปุ่นซึ่งอยู่ในอันดับที่ 5 ที่สัดส่วน 6.9% เป็นแหล่งที่มาของร้านค้าปลีกที่มากที่สุดในเอเชียแปซิฟิค
นายเจมส์ พิทชอน หัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาโครงการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ได้ให้ความเห็นว่า กรุงเทพฯเป็นหนึ่งในทำเลทองของการพัฒนาโครงการค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2558 นี้จะมีพื้นที่ค้าปลีกใหม่เพิ่มเข้าสู่ตลาดอีกราว 1 ล้านตารางเมตร จากการเปิดให้บริการของห้างค้าปลีกแห่งใหม่ในปีนี้ อาทิเช่น เอ็มควอเทียร์ เซ็นทรัล เวสต์เกต และเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสท์ วิลล์ รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมายังกรุงเทพฯที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศจีน ทำให้ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าจะมีร้านค้าปลีกแบรนด์ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2557 โดยกลุ่มธุรกิจร้านกาแฟและร้านอาหารคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่มีแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนมากที่สุด ในขณะที่แบรนด์แฟชั่นระดับกลางยังคงขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายโจนาธาน ซู หัวหน้าแผนกวิจัยตลาดผู้เช่า ซีบีอาร์อี เอเชีย กล่าวว่าร้านค้าปลีกข้ามชาติต้องการที่จะเข้ามาในตลาดเอเชียแปซิฟิคนานแล้ว โดยเริ่มจากตลาดที่มีมาอย่างยาวนานอย่างญี่ปุ่นหรือฮ่องกงก่อน เพื่อเป็นฐานในการขยายไปสู่ตลาดอื่นในภูมิภาค ในปีที่ผ่านมา โตเกียวเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิคสำหรับร้านค้าปลีกข้ามชาติที่เริ่มเข้ามาเปิดตลาด เพราะการบริโภคภายในประเทศมีการเติบโตมากขึ้นอันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การคาดการณ์ถึงการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคของกรุงโตเกียวปี 2563 และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ความต้องการในกรุงโตเกียวกระจุกตัวอยู่แต่ในย่านการค้าหลักๆ
“สิงคโปร์และฮ่องกงในฐานะที่เป็นตลาดซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากร้านค้าปลีกข้ามชาติและยังคงได้รับความสนใจจากร้านค้าปลีกใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ร้านค้าปลีกในฮ่องกงจำเป็นต้องปรับตัวรับกับความต้องการสินค้าหรูที่ชะลอตัวลงจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่ร้านค้าปลีกยังคงต้องเผชิญกับปัญหาด้านแรงงานหากต้องการขยายสาขาไปยังสิงคโปร์” นายซูกล่าวทิ้งท้าย
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่